“𝐏𝐞𝐭𝐬 𝐚𝐫𝐞 𝐩𝐚𝐫𝐭 𝐨𝐟 𝐭𝐡𝐞 𝐟𝐚𝐦𝐢𝐥𝐲, 𝐬𝐨 𝐢𝐭’𝐬 𝐨𝐧𝐥𝐲 𝐧𝐚𝐭𝐮𝐫𝐚𝐥 𝐭𝐡𝐚𝐭 𝐡𝐨𝐦𝐞 𝐝𝐞𝐬𝐢𝐠𝐧 𝐬𝐡𝐨𝐮𝐥𝐝 𝐚𝐜𝐜𝐨𝐦𝐦𝐨𝐝𝐚𝐭𝐞 𝐭𝐡𝐞𝐢𝐫 𝐧𝐞𝐞𝐝𝐬 𝐭𝐨𝐨. 𝐀 𝐡𝐨𝐦𝐞 𝐰𝐡𝐞𝐫𝐞 𝐞𝐯𝐞𝐫𝐲𝐨𝐧𝐞 𝐟𝐞𝐞𝐥𝐬 𝐜𝐨𝐦𝐟𝐨𝐫𝐭𝐚𝐛𝐥𝐞 𝐢𝐬 𝐚 𝐡𝐚𝐩𝐩𝐲 𝐡𝐨𝐦𝐞.”
.
— Selena Gomez นักร้องชื่อดัง พูดเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจ ทำให้กานต์ชอบวลีนี้มาก “บ้านที่ทุกคนรู้สึกสบายคือบ้านที่มีความสุข”
.
.
แต่หากช่วงไหนที่เราไม่ได้อยู่บ้านติดต่อกันหลายวันและไม่สามารถพาน้องไปด้วยได้ สามารถนำไปฝากเลี้ยงได้ที่ Pet Day Care อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมาอีกนิดหน่อย แต่เราว่าช่วยให้เราสะดวกสบายในการดูแล ที่สำคัญเป็นบริการที่จะช่วยทำให้เราหมดห่วงสัตว์เลี้ยงได้
.
ส่วนการออกแบบภายในห้องก็คำนึงถึงน้องๆ ที่เป็นสัตว์เลี้ยงเป็นสำคัญ ออกแบบให้มีพื้นที่ภายในและภายนอกห้องของสัตว์เลี้ยง น้องสามารถเข้าออกผ่านประตู Wicket Door ออกไปเดินเล่นสูดอากาศด้านนอกเองได้ ใครที่เลี้ยงน้องแบบเราจะเข้าใจดีว่านี่คือเรื่องสำคัญ Whizdom The Forestias อาคาร Petopia จึงเรียกได้ว่าเป็นคอนโดมิเนียมที่เป็น Pets Friendly ที่แท้จริง
.
นอกจากจะเป็นโครงการที่ออกแบบมาเพื่อคนทุกเพศ ทุกวัย และทุกความสัมพันธ์ ไม่เพียงแต่กับมนุษย์ด้วยกัน แต่ยังรวมไปถึงความสัมพันธ์และการอยู่อาศัยร่วมกันของสัตว์และธรรมชาติ ตลอดจนการมุ่งมั่นสร้างคุณภาพที่ดีในการอยู่อาศัยแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจในทุกโครงการจาก MQDC รวมถึง Whizdom The Forestias Petopia ที่กานต์ประทับใจคือ MQDC 30-YEAR WARRANTY* เป็นการรับประกันนานถึง 30 ปี ช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับเราในอยู่อาศัย สะท้อนไปถึงมาตรฐานการก่อสร้างโครงการที่อยู่ในระดับสูงถึงกล้าการันตีเช่นนี้
.
เป็นการย้อนกลับไปใช้ชีวิตที่คืนสู่ธรรมชาติที่แท้ทรู แต่ยังคงความหรูหรามีระดับเอาไว้ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่ส่วนกลางและบริการต่างๆ มากมาย ให้เราและสัตว์เลี้ยงที่แสนน่ารักได้ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ ตามคอนเซ็ปต์ “𝗣𝗘𝗧𝗦 𝗟𝗜𝗩𝗘 𝗛𝗘𝗥𝗘” นิยามความสุขที่ออกแบบเพื่อสัตว์เลี้ยง ที่อยู่อาศัยที่จะมาเติมเต็มคำว่าบ้านให้เราและสัตว์เลี้ยง
.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 1265
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
โครงการ Whizdom The Forestias เป็นคอนโด High Rise 3 อาคารบนที่ดิน 8 ไร่ รวมห้องพักอาศัยทั้งหมด 1,119 ยูนิต แบ่งออกเป็น 2 อาคารคือ Destinia & Mytopia และอีกอาคาร Petopia ที่แยกออกมาสำหรับลูกบ้านที่ต้องการเลี้ยงสัตว์เป็น Pets Friendly ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ เพราะออกแบบมาให้คนกับสัตว์เลี้ยงอยู่อาศัยร่วมกันได้จริง รวมถึงการคำนึงถึงสุขอนามัยโดยรวม ดังนั้นการออกแบบและก่อสร้างอาคาร พื้นที่ส่วนกลางและดีเทลต่างๆ ภายในห้องพักอาศัย ไม่ได้ออกแบบสำหรับคนเราเท่านั้น แต่ยังคิดถึงการใช้ชีวิตของน้องๆ สัตว์เลี้ยงอีกด้วย Whizdom The Forestias Petopia มีความสูง 43 ชั้น จำนวน 294 ยูนิต เป็นอาคารที่แยกตัวออกไปไม่ได้ใช้ทางเข้า-ออกร่วมกันกับอาคาร Destinia & Mytopia ตลอดจนแยกพื้นที่ส่วนกลางออกจากกัน รวมไปถึงนิติบุคคลและค่าส่วนกลางที่จัดเก็บด้วยครับ อาคารอยู่ติดสวนป่า 30 ไร่ของ The Forestias ถือเป็นจุดเด่นที่เติมเต็มคุณภาพชีวิตของคนเมืองแบบเราให้สมบูรณ์แบบด้วยการได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียว มีต้นไม้น้อยใหญ่และระบบนิเวศน์วิทยาดีมาก อยากตื่นขึ้นมาในทุกเช้าแล้วเราได้ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ ของป่าใจกลางเมืองจากระเบียงห้องนอนที่คอนโดในทุกวัน Whizdom The Forestias Petopia มีนโยบายอนุญาตให้ผู้อยู่อาศัยเลี้ยงสัตว์ได้ยูนิตละ 2-4 ตัว ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้อย่างรัดกุม เพื่อความปลอดภัยและความสงบสุขของทุกคนในอาคารครับ สัตว์เลี้ยงที่อนุญาตต้องได้รับการครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีนิสัยไม่ก้าวร้าวต่อคนและสัตว์อื่น ไม่ส่งเสียงรบกวนโดยไม่จำเป็น นอกจากนี้ สัตว์เลี้ยงต้องมีสุขภาพดี ไม่เป็นพาหะนำโรค และมีน้ำหนักตัวเมื่อโตเต็มวัยไม่เกิน 25 กิโลกรัม ทางอาคารยังกำหนดให้สัตว์เลี้ยงทุกตัวต้องได้รับวัคซีนตามมาตรฐานสัตวแพทย์ โดยสุนัขและแมวต้องได้รับการฝังไมโครชิปพร้อมหลักฐานรับรอง สำหรับสุนัขโดยเฉพาะจะต้องผ่านการทดสอบว่าไม่ทำร้ายคน สัตว์ และทรัพย์สิน สามารถเดินด้วยสายจูงนอกห้องพักได้และไม่ตื่นตระหนกเ Whizdom The Forestias Petopia เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ The Forestias by MQDC โครงการเมืองแห่งความสุขบนที่พักอาศัยท่ามกลางผืนป่าบนเนื้อที่ 398 ไร่ โครงการที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางชีวภาพ หรือ Biodiversity มีแนวทางการพัฒนาโครงการด้วยการนำความมหัศจรรย์ของธรรมชาติกับมนุษย์มาอยู่ร่วมกัน ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพ เอื้อประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตที่ดี ผสานกับเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและนวัตกรรมเพื่อความสุขที่ยั่งยืนในการอยู่อาศัย โครงการตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม.7 ซึ่งเป็นทำเลที่ความเป็นเมืองเริ่มขยายตัวออกมา มี Mega Project เกิดขึ้นมากมาย The Forestias ก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่สำคัญคือการเดินทางที่สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะแผนพัฒนาเรื่องระบบการขนส่งในอนาคตอันใกล้ที่จะทำให้ทำเลบางนามีความน่าสนใจและเติบโตมากยิ่งขึ้น เมื่อมาถึงโครงการด้านหน้าอาคารจะเป็นจุด Drop-off อำนวยความสะดวกสำหรับให้ผู้พักอาศัยได้ลงจากรถ จากนั้นก็จะต้องวนรถไปจอดที่บนอาคารซึ่งโครงการ Whizdom The Forestias Petopia ให้ที่จอดรถ 100% (Conventional & Automatic Parking) ถือเป็นไม่กี่โครงการให้จัดเต็มให้มากขนาดนี้ โครงการยังได้จัดให้มีจุดบริการ EV Charging Station รองรับสำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าด้วย ถัดเข้าไปด้านในมี Waiting lounge ห้องพักคอยสำหรับนั่งรอรถยนต์ของเราที่กำลังลงมาพร้อมจอบอกสถานะ ด้านในเป็น Main Lobby ดีไซน์ให้เป็น Double Gate ป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงวิ่งหลุดออกมาบริเวณ Drop-off ซึ่งอาจเกิดอันตรายที่คาดไม่ถึงได้เพราะมีรถยนต์สัญจรไปมา ไอเดียนี้ลงดีเทลได้ดีเราชอบมากครับ เมื่อเข้ามาใน Main Lobby ก็สัมผัสได้ทันทีถึงความสดชื่น สบายใจไม่รู้สึกอึดอัด เพราะการออกแบบให้ดูเปิดโล่งด้วยหน้าต่างกระจกทรงสูง Lobby มีความสูงถึง 6 เมตร ทำให้บรรยากาศค่อนข้างสบาย ชุดโซฟาจัดเอาไว้ให้นั่งกระจายกันออกไปเพื่อความเป็นส่วนตัว และยังมีโต๊ะยาวเพื่อใช้เป็น Co-working Space สำหรับนั่งทำงาน อ่านหนังสือหรือพักผ่อนในวันสบายๆ ท่ามกลางบรรยากาศของสวนสีเขียวเบื้องหน้า ถัดเข้าไปด้านในออกแบบให้เป็น Breakfast Lounge ติดกันเป็นห้องที่ให้บริการ “Pet Day Care” ถืออีกหนึ่งไฮไลท์ของโครงการ Whizdom The Forestias Petopia เลยครับ จะเรียกได้ว่านี่เป็นหนึ่งในการออกแบบบริการที่คอนโดมิเนียมแบบ Pets-friendly ต้องมีและเป็นสิ่งที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องการมากที่สุด เพราะบางทีเราต้องไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศหลายวัน ด้วยบริการจากผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลี้ยงจะช่วยดูแลในช่วงเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน ต้องการคนดูแลน้อง นี่จะเป็นบริการที่ช่วยสร้างความอุ่นใจ ไร้กังวลให้กับลูกบ้านได้เป็นอย่างดีครับ โครงการ Whizdom The Forestias Petopia ได้สร้างสรรค์พื้นที่สีเขียวและสวนที่เป็นธรรมชาติอย่างสวยงาม เพื่อให้เราได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ด้านนอกออกแบบให้เป็นพื้นที่สวนส่วนกลางที่อยู่กลางแจ้ง เป็นสวนสีเขียวขนาดใหญ่ที่ให้ความร่มรื่นและเติมเต็มบริบทแห่งการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติของคนเมือง บรรยากาศโดยรอบรู้สึกสดชื่นสบายใจด้วยพื้นที่สีเขียวของต้นไม้น้อยใหญ่และสนามหญ้ากว้างเพื่อให้น้องๆ สัตว์เลี้ยงได้วิ่งเล่นซุกซน อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยพื้นที่ส่วนกลางของผืนป่า The Forestias ขนาด 30 ไร่ ที่ใช้ชีวิตได้ทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง อยากชวนให้จินตนาการตามถึงภาพแห่งความสวยงามในระหว่างการพักอาศัย ช่วงสายๆ วันอาทิตย์แดดกำลังดี เราจะได้เห็นเด็กๆ ที่กำลังวิ่งไล่จับแมลงปอในสวนที่ร่มรื่น แสดงให้เห็นถึงความสนุกสนานและการเรียนรู้ผ่านการเล่นของเด็กๆ ช่วยพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหว การสังเกต และความคล่องแคล่วว่องไว นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับแมลงและระบบนิเวศในธรรมชาติอย่างใกล้ชิดในพื้นที่ธรรมชาติของ Whizdom The Forestias Petopia อีกทั้งยังส่งเสริมการใช้เวลาร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว บางบ้านอาจจะชวนกันรับบทเป็นนักสำรวจ เพื่อศึกษาธรรมชาติสีเขียวของโครงการ มีดอกไม้และพืชพรรณต่างๆ ในสวนที่มีดอกไม้สีชมพูบานสะพรั่งรอทักทาย หรือจะไปนั่งปิคนิกบนสนามหญ้าท่ามกลางพื้นที่ป่าสีเขียวก็ได้ เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าโครงการได้ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้เป็นมากกว่าสวนสวยๆ แต่เป็นพื้นที่ที่เอื้อให้เด็กๆ และทุกคนในครอบครัวได้สัมผัสและเรียนรู้ธรรมชาติอย่างแท้จริง ส่วนใครที่อยากพาน้องไปวิ่งเล่นออกกำลังกายก็จะจัดพื้นที่ให้เป็น Pet Playground และพื้นที่จัดการธุระส่วนตัวสำหรับสัตว์เลี้ยงที่จัดให้ไว้โดยเฉพาะอีกด้วย มีจุด Pet Wash สำหรับล้างขา ล้างตัวสัตว์เลี้ยง เรียกได้ว่าออกแบบมาให้คนกับสัตว์เลี้ยงอยู่อาศัยร่วมกันได้จริง รวมถึงการคำนึงถึงสุขอนามัยโดยรวม ขึ้นมาชมชั้น 2 กันบ้างครับ จะประกอบไปด้วย Co-Living Room, Meeting Room และ Forest lounge ซึ่งตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มองออกไปเห็นป่า และอยู่ในระดับที่มองออกไปเห็นต้นไม้เช่นกันบรรยากาศจึงดูโปร่งสบาย เหมาะแก่การพักผ่อนอยู่ในคอนโด ห้องแรกทางด้านซ้ายมือนี้เป็นพื้นที่ของ Co-Living Room เป็นห้องที่จัดไว้สำหรับน้องแมวโดยเฉพาะ บรรยากาศโปร่งโล่งด้วยความสูง 6 เมตร หน้าต่างเป็นกระจกใสสามารถชมวิวป่าของ The Forestias ได้ พื้นที่แบ่งออกเป็นสองฝั่งจัดวางที่นั่งเอาไว้โดยรอบให้เราได้ทำงานอ่านหนังสือและดูน้องแมวไปด้วย เพราะตรงกลางออกแบบให้เป็นบ้านแมวขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน รับประกันเลยว่าน้องๆ เหมียวจะสนุกและเล่นซนทั้งวันจนแทบไม่อยากกลับห้อง โดยเราสามารถปล่อยน้องแมวปีนป่ายเล่น ในขณะที่เรานั่งทำงานหรืออ่านหนังสือได้เลย จะว่าไปพอได้นั่งดูน้องแมวเล่นสนุก ความน่ารักสดใสก็ทำให้เรารู้สึกเพลินใจดีเหมือนกันนะครับ ถัดมาเป็น Meeting Room ห้องประชุมขนาดใหญ่ มีโต๊ะประชุมขนาด 10 ที่นั่งจัดวางเอาไว้ตรงกลาง พร้อมติดตั้งอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกระหว่างการประชุมคุยงาน บรรยากาศโปร่งสบายไอเดียบรรเจิดแน่นอนครับเพราะเป็นห้องกระจกสูง 3.5 เมตร ที่หันหน้าเข้าหาป่าถึง 3 ด้าน รอบๆ ห้องออกแบบให้มีที่นั่งเช่นกัน เพื่อการประชุมและพักผ่อนไปในตัว ห้องนี้ เหมาะสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ ที่ต้อง Work from Home จะได้มีพื้นที่สำหรับนั่งประชุมหรือทำงาน ท่ามกลางบรรยากาศของวิวป่าสีเขียวโดยรอบ โครงการติดตั้งม่านไฟฟ้าเพื่อช่วยลดแสงสว่างเอาไว้ อำนวยความสะดวกหากต้องการนำเสนองานพรีเซนต์เทชั่น ห้องนี้ยังอนุญาตให้น้องหมาน้องแมวเข้ามาให้กำลังใจป๊ะป๋าที่กำลังจะคุยงานได้ด้วยครับ ห้องด้านในสุดจะเดินขึ้นบันไปมาเล็กน้อย ออกแบบให้เป็น Forest Lounge เป็นอีกหนึ่งห้องของพื้นที่ส่วนกลางที่เราชอบมาก เพราะวิวสวยมากมองออกไปจะเห็นป่าของ The Forestias ไกลสุดลูกหูลูกตา การตกแต่งเรียบง่ายทว่าสวยงามท่ามกลางธรรมชาติ ด้วยการเลือกใช้วัสดุอย่างเบาะผ้า โทนสีเขียวอ่อน ชมพู น้ำตาลอ่อน ดูสบายตา จัดวางที่นั่งกระจายตัวกันไปรอบๆ ห้องแบบหลวมๆ มีเคาน์เตอร์บาร์สำหรับนั่งจิบเครื่องดื่มแก้วโปรด ด้วยความที่ห้องนี้ออกแบบให้มีความสูงถึง 5 เมตร ทำให้ภายในค่อนข้างโปร่งโล่งสบาย เหมาะกับการมานั่งเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ชมวิวป่าไม้สีเขียวๆ ให้สบายใจได้ที่ห้องนี้ครับ Whizdom The Forestias Petopia เป็นอีกหนึ่งคอนโดมิเนียมที่เรามองว่าให้พื้นที่ส่วนกลางมาแบบจัดเต็มมากๆ สามารถใช้งานได้หลากหลายและเพียงพอ รองรับได้ทุกความต้องการ กดลิฟต์ขึ้นมาที่ชั้น 8 กันบ้าง จะเป็น Main Facility ของอาคารอีกชั้นที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนไปพร้อมกับสมาชิกในครอบครัวและสัตว์เลี้ยงแสนรักของเรา ชั้นนี้จะมีไฮไลท์คือ Relaxation Room ออกแบบให้เป็นห้องที่อนุญาตให้น้องหมาสามารถเข้ามาพักผ่อนด้วยได้ เป็นห้องกระจกใสขนาดใหญ่จัดวางเฟอร์นิเจอร์เอาไว้ให้นั่งเล่นสบายๆ ประตูกระจกขนาดใหญ่สามารถเปิดออกไปเพื่อให้น้องหมาได้วิ่งเล่นที่ Pet Playground เราว่าน้องต้องวิ่งเล่นเพลินแน่ๆ เลยครับ เพราะมีทั้งเนิน ทั้งอุโมงค์ บรรยากาศก็ดีเพราะอยู่บนอาคารชั้นสูง ทำให้น้องหมาสามารถได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ได้มองเห็นท้องฟ้าและพระอาทิตย์ตกดินได้ในระยะที่ใกล้ขึ้น เด็กๆ เองก็สามารถมาวิ่งเล่นสนุกสนานไปพร้อมกันกับน้องหมาได้ครับ สระว่ายน้ำของอาคารเป็นแบบ Semi-Outdoor สามารถว่ายน้ำและพักผ่อนรับลมเย็นๆ ได้ตลอดทั้งวัน สระหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ทำให้แดดร่มในช่วงบ่ายถึงเย็น สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือขนาด 5×29 เมตร สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้แบบจริงจังเลยนะครับ นอกจากนี้ยังออกแบบให้มีสระว่ายน้ำสำหรับเด็กอยู่ข้างกันขนาด 5×4.5 เมตร และมีจากุชชี่ให้ใช้งานด้วยครับ ฟิตเนสที่นี่นำเสนอประสบการณ์การออกกำลังกายที่ไม่เหมือนใคร ไฮไลท์คือการผสมผสานความเป็นเมืองเข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ทำให้การออกกำลังกายเป็นช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลายและเติมพลังให้กับร่างกายและจิตใจ วิวป่าสีเขียวช่วยลดความเครียดและความเหนื่อยล้าจากการทำงานในเมือง ฟิตเนสดีไซน์ให้ดูสูงโปร่งด้วยหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่จากพื้นถึงเพดาน เปิดรับแสงธรรมชาติและทัศนียภาพอันน่าทึ่ง เบื้องหน้าคือวิวของผืนป่าสีเขียวขจี สร้างความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติแม้จะอยู่ในใจกลางเมือง ห้องตัวอย่างที่เราพามาชมเป็น Room Type 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำขนาด 58 ตร.ม.ของโครงการ Whizdom The Forestias Petopia นำเสนอแนวคิดการออกแบบที่ครอบคลุมทุกความต้องการของการอยู่อาศัยร่วมกับสัตว์เลี้ยง ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุ การจัดสรรพื้นที่ไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะทาง สร้างพื้นที่อยู่อาศัยที่สวยงาม ปลอดภัยและเอื้อต่อการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข เหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่รักสัตว์เลี้ยงและต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีในใจกลางเมือง ด้วยสไตล์การออกแบบที่ทันสมัย เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องพัก เราสัมผัสทันทีได้ถึงบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง ด้วยโทนสีที่เลือกใช้อย่างพิถีพิถัน ผสมผสานระหว่างสีขาว ครีมและสีพาสเทลอ่อนๆ ช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายและสบายตา ภายในห้องนั่งเล่นโครงการได้ติดตั้งเครื่อง ERV (Energy Recovery Ventilator) มาให้แล้ว ช่วยในการหมุนเวียนอากาศภายในกับภายนอกเพื่อปรับสมดุลอากาศให้เหมาะสม รวมถึงมีฟิลเตอร์ช่วยกรองฝุ่น PM2.5 ติดตั้งไว้ให้และยังมีระบบ Home Automation เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านด้วยครับ ส่วนของห้องนอนหลักได้รับการออกแบบให้เป็นพื้นที่พักผ่อนที่แท้จริงอยู่ด้านหน้าบริเวณทางเข้า เชื่อมต่อกับ Common Area ที่ได้รับออกแบบให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ประกอบด้วยส่วนนั่งเล่น รับประทานอาหาร พักผ่อนและมุมทำงาน เราสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความต้องการ ห้องตัวอย่างจัดวางโซฟานุ่มสบายสีชมพูอ่อนวางตัวเด่นเป็นจุดสนใจ พร้อมโต๊ะกลางทรงกลมสีขาวที่ดูทันสมัย ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลให้กับห้อง ตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีแบบแขวนผนังเพื่อทำให้ห้องดูโมเดิร์นมากขึ้น เราสามารถใช้เป็นพื้นที่เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันของคนในครอบครัว ไฮไลท์สำหรับสัตว์เลี้ยงคือการออกแบบ Pet Balcony ที่มี Wicket Door หรือประตูขนาดเล็กสำหรับสัตว์เลี้ยง ทำให้สุนัขหรือแมวสามารถออกไปสัมผัสอากาศบริสุทธิ์และชมวิวได้อย่างอิสระที่บริเวณระเบียง ขณะที่เจ้าของสามารถพักผ่อนบนโซฟานุ่มๆ ที่จัดวางไว้อย่างลงตัวใน Living Area ห้องน้ำออกแบบให้มีฝักบัว Pet Shower ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการอาบน้ำสัตว์เลี้ยง มีระยะความสูงของฝักบัวที่เหมาะสมและโซนอาบน้ำ พื้นห้องน้ำใช้วัสดุกันลื่นเพื่อความปลอดภัยของทั้งคนและสัตว์เลี้ยง ห้องครัวถูกออกแบบในสไตล์เปิดโล่ง เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น แต่สามารถปิดแยกส่วนได้ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อป้องกันกลิ่นและเสียงรบกวน ภายในครัวติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวแอล (L-Shape) พร้อมตู้ปิดบนล่าง พื้นผิวเคาน์เตอร์ทำจากวัสดุคุณภาพสูงที่ทำความสะอาดง่าย เหมาะสำหรับครัวเรือนที่มีสัตว์เลี้ยง ห้องนอนที่สองถูกออกแบบให้ยืดหยุ่นสำหรับครอบครัวคนเมืองยุคใหม่ เพราะสามารถปรับให้เป็นห้องนอนสำหรับเด็กๆ ห้องนอนสำหรับแขกเพื่อนฝูง เป็นห้องทำงาน หรือห้องให้เป็นหนึ่งห้องสำหรับสัตว์เลี้ยงไปเลยก็ได้ ห้องตัวอย่างออกแบบให้มีโต๊ะทำงานขนาดกำลังดีวางชิดหน้าต่างทั้ง 2 ฝั่ง ให้ความรู้สึกโปร่งสบายขณะทำงาน พร้อมชั้นวางหนังสือที่สามารถใช้จัดแสดงของสะสมหรืออุปกรณ์ จากห้องตัวอย่าง กานต์ขอพาไปชมพื้นที่ส่วนกลางใน The Forestias กันบ้างครับ ที่นี่ได้นำแนวคิดการปลูกป่ามิยาวากิ (Miyawaki’ forests) โดย ศ.ดร.อาคิระ มิยาวากิ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นนักพฤษศาสตร์ที่คิดวิธีปลูกป่าโดยเฉพาะการสร้างป่าในเมือง (Urban Forests) แนวคิดการปลูกป่ามิยาวากิ ถูกนำมาใช้ในการปลูกป่าภายในโครงการ เพื่อให้ได้ป่าธรรมชาติโดยใช้ระยะเวลาอันสั้น มีความสมบูรณ์ของต้นไม้ที่ไล่ระดับสูงต่ำและสัมพันธ์เกื้อกูลกัน และยังได้นำ “พันธ์ุไม้ท้องถิ่น” จากธรรมชาติของพื้นที่มาร่วมสร้างระบบนิเวศที่สมดุลอีกด้วย ความหนาแน่นของต้นไม้จะอยู่ที่ 4 ต้นต่อ 1 ตารางเมตร โดยจะใช้แนวคิดการปลูกป่ามิยาวากิ เป็นป่าที่มนุษย์สร้างขึ้นเลียนแบบโครงสร้างของป่าธรรมชาติ เพื่อให้ได้ป่าภายในระยะเวลาอันสั้น ในพื้นที่ 1 ตร.ม. จะประกอบด้วยพรรณไม้ 4 ชั้นเรือนยอดคือพันธุ์ไม้ชั้นเรือนยอดสูงสุด (Tree1) พันธุ์ไม้ชั้นรอง (Tree2) ไม้พุ่ม (Shrub) และไม้คลุมดิน (Herb) ซึ่งเป็นลำดับชั้นตามโครงสร้างป่าธรรมชาติ เพื่อให้ต้นไม้สามารถพึ่งพาอาศัยอยู่ด้วยกันได้ กระบวนการนี้เป็นการสร้างความสมบูรณ์ของต้นไม้ที่ไม่เป็นระเบียบแบบแผน ดูแล้วไม่เป็นแถวเป็นแนวแต่กลับให้ความร่มรื่นร่มเย็นในแบบที่ป่าจะมอบกลับคืนมาให้เรา ตลอดจนเกิดเป็นความสัมพันธ์ของคนและสัตว์ เพื่อเติมเต็มวิถีชีวิตของกันและกันให้มีความสมบูรณ์ #โดยสรุป Whizdom The Forestias Petopia เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่นำเสนอวิสัยทัศน์แห่งการอยู่อาศัยที่ล้ำสมัย ผสานความเป็นเมืองเข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ด้วยแนวคิด “Pets Lives Here” นิยามความสุขที่ออกแบบเพื่อสัตว์เลี้ยง ที่อยู่อาศัยที่จะมาเติมเต็มคำว่าบ้านให้เราและสัตว์เลี้ยง มอบประสบการณ์การใช้ชีวิตท่ามกลางผืนป่าขนาด 30 ไร่ใจกลางเมือง ตอบโจทย์ทุกมิติของการใช้ชีวิตสมัยใหม่ได้ดีมากครับ ทุกรายละเอียดของโครงการได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่ออำนวยประโยชน์ต่อผู้พักอาศัย ตลอดจนสัตว์เลี้ยงแสนรักที่พักร่วมกันกับเราใน Whizdom The Forestias Petopia นอกจากนี้ โครงการได้สร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์แบบ ด้วยผืนป่าขนาดใหญ่ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติในทุกย่างก้าว
