ขั้นกว่าของการนอนดูดาวในโรงแรมหรู
คือไปนอนโรงแรมที่อยู่นอกโลกแล้วมองกลับมา
ใครที่เป็นแฟนหนัง Sci-Fi เรื่อง Interstellar หรือว่า 2001: a space odyssey คงมีความคิดแบบเดียวกันกับกานต์คืออยากพาตัวเองไปนอนนอกโลกบ้าง
มันคงจะดีนะ ถ้าเราได้นั่งจิบไวน์ นอนชมวิวโลกลงมาจากอวกาศได้ ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินฝันอีกต่อไป เมื่อ The Orbital Assembly Corporation (OAC) สตาร์ทอัปที่รวมทีมอเวนเจอร์ระดับอัจฉริยะชั้นแนวหน้าของ NASA มาร่วมโปรเจกต์สร้างโรงแรมอวกาศเป็นครั้งแรกของโลก ชื่อว่า Voyager Space Station (VSS)
ตัวโรงแรมมีลักษณะเหมือนสถานีอวกาศที่เป็นรูปทรงวงล้อขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลางราว 200 เมตร ประกอบด้วยส่วนของที่พักจำนวน 24 โมดูล (ห้อง) ขนาด 3 ชั้น แต่ละโมดูลจะเป็นทรงกระบอกยาว 20 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 12 เมตร มีให้เลือกทั้ง Luxury Villas ขนาด 500 ตารางเมตร พักได้ 16 คน Hotel Suites ห้องมาตรฐาน 30 ตารางเมตร พักได้ 2 คน ภายในโมดูล
ดูจากภาพเรนเดอร์แล้วก็จะเห็นว่า มีทุกอย่างครบเหมือนโรงแรมหรูทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นห้องพักที่ตกแต่งอย่างดี มีห้องน้ำในตัว ฝักบัว ชักโครกก็มี มาพร้อม facility จัดเต็มทั้ง ห้องสันทนาการ ภัตตาคาร สปา โรงภาพยนตร์ ฟิตเนส ห้องสมุด สถานที่จัดคอนเสิร์ต และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่แพ้บนโลก นอกจากนี้ ยังมี Sky Bar สำหรับการนั่งดื่ม พร้อมชมวิวทิวทัศน์ของโลกจากมุมสูงด้วย โดยตัวโรงแรมจะหมุนเคลื่อนที่ทุกๆ 90 นาที และโคจรไปรอบโลก เพื่อให้แขกสามารถมองเห็นวิวอันน่าตื่นตะลึงนี้ได้ตลอดเวลา
VSS มีความเสี่ยงที่จะโดนเศษซากอวกาศเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยอยู่สูงจากพื้นโลก 500 – 550 กิโลเมตร ความเอียง 97 องศา ในวงโคจรเชิงขั้วแบบซิงโครนัสของดวงอาทิตย์ คือหมุนรอบตัวเอง คล้ายกับดวงจันทร์โคจรรอบโลกตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยลดความร้อน และผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ได้ตลอดเวลา โดยวงแหวนรอบนอกจะทำหน้าที่เป็นเหมือนกระดูกสันหลังและโครงสร้างหลักของสถานี และเป็นที่ตั้งของแผงพลังงานโซลาร์เซลล์ ระบบหม้อน้ำ ระบบขนส่งแบบรางที่เรียกว่า Access Tube ที่จะคอยเคลื่อนย้ายแขกไปส่วนต่างๆ ของโรงแรม และด้วยการหมุนวงล้อด้วยความเร็วที่มากพอใกล้เคียงกับแรงโน้มถ่วงบนดวงจันทร์จึงทำให้เกิดแรงโน้มถ่วงที่จะช่วยให้แขกสะดวกสบายต่อการเข้าพักมากยิ่งขึ้น รู้สึกสบายเหมือนนอนอยู่ในโรงแรมบนโลก เพราะเอาเข้าจริงหากไม่มีแรงโน้มถ่วงเลยเราก็ไม่สามารถอยู่ในสถานีอวกาศเป็นเวลานานได้
ส่วนอากาศที่ใช้หายใจของเรานั้น จะมีการฟอกคาร์บอนไดออกไซด์ ให้เป็นออกซิเจนด้วยเครื่องตรวจและกรออากาศ ก่อนที่จะกระจายอากาศให้เราหายใจไปตามโมดูลที่เข้าพักและพื้นที่ส่วนกลาง อาหารที่กินจะเป็นอาหารแห้งแบบแช่แข็งที่ส่งตรงมาจากพื้นโลกทุก 2 สัปดาห์ ส่วนของน้ำกินน้ำใช้จะลำเลียงผ่านท่อส่งไปตามโมดูลโดยน้ำที่ใช้แล้วส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในชักโครก และอีกส่วนจะถูกกรองเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ นอกจากนี้ยังมียานกู้ชีพคอยแสตนด์บายตลอดเวลาหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจะทำการบินระบบอัตโนมัติ ควบคุมการบินและลงจอดด้วยตัวเอง … เจ๋งไปอีก
John Blincow ผู้ก่อตั้งบริษัท Gateway Foundation เจ้าของไอเดียอลังการดาวมากกว่าล้านดวงนี้ กล่าวว่า “โปรเจกต์นี้จะเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมขั้นต่อ เรากำลังพยายามทำให้สาธารณชนตระหนักว่ายุคทองของการเดินทางในอวกาศอยู่ใกล้แค่เอื้อม มันกำลังมา มันกำลังมาอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าจะสามารถรองรับคนได้ถึง 316-440 คน หากเราทำสำเร็จ ก็จะยกระดับการพักผ่อนไปอีกขั้น”
OAC วางแผนไว้ว่าจะสร้าง Voyager Space Station ในปี 2025 โดยใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี เพื่อให้เหล่านักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักได้เข้าไปใช้บริการ โดยคาดการณ์ว่า ราคาค่าใช้บริการน่าจะไม่ต่ำว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 154 ล้านบาท) ต่อคน เพื่อประสบการณ์ในแบบครั้งหนึ่งในชีวิตแบบนี้
ใครสนใจเข้าจองได้ที่ https://voyagerstation.com/
