นี่คือบ้านเก่าๆ หลังหนึ่ง
ที่ซึ่งเด็กสถาปัตย์ทั่วโลกต้องอยากมาดู
/
จั่วหัวแบบว่าเรียกแขกมากๆ แต่ก็เป็นบ้านที่ทำให้กานต์ยอมนั่งเครื่องมาปารีสเลยนะ
.
ที่นี่คือ Villa Savoye แต่นี่ไม่ใช่แค่บ้านธรรมดาๆ ทว่าเป็นอัญมณีแห่งวงการสถาปัตยกรรมสมัยใหม่เลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ในเมือง Poissy ห่างจากปารีสไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 30 กิโล ใช้วิธีนั่งรถไฟมาจากนั้นก็มาต่อรถเมล์หรือแท๊กซี่อีก 10 นาทีก็ถึง
.
ทางเข้าเป็นเหมือนป่ามีต้นไม้ครึ้มๆ จากนั้นภาพจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นบ้านสีขาว 3 ชั้น ตัดกับสีเขียวกลางสวนขนาดใหญ่ สถาปนิกคือ Le Corbusier นักออกแบบระดับตำนานชาวสวิส-ฝรั่งเศส
.
Villa Savoye ท้าทายความเข้าใจดั้งเดิมเกี่ยวกับบ้าน Le Corbusier มองบ้านเป็น “เครื่องจักรสำหรับการอยู่อาศัย” (The house is a machine for living) สะท้อนถึงยุคอุตสาหกรรมที่กำลังเฟื่องฟู การออกแบบทุกส่วนมุ่งเน้นประโยชน์ใช้สอยและประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่ละเลยความงาม
.
ที่น่าทึ่งคือ Villa Savoye นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของทฤษฎี “Five Points of a New Architecture” ของ Le Corbusier
1. Pilotis หรือเสาค้ำยัน: บ้านถูกยกขึ้นด้วยเสาคอนกรีต ทำให้ดูเหมือนลอยอยู่เหนือพื้น
2. Free ground plan หรือผังพื้นอิสระ: ไม่มีผนังรับน้ำหนัก ทำให้จัดวางห้องได้อย่างอิสระ
3. Free façade หรือผนังอิสระ: หน้าต่างสามารถออกแบบได้อย่างอิสระ ไม่ต้องคำนึงถึงโครงสร้าง
4. Horizontal windows หรือหน้าต่างแนวนอน: ช่วยให้แสงเข้าถึงทุกซอกทุกมุมของบ้าน
5. Roof garden หรือสวนบนดาดฟ้า: พื้นที่สีเขียวบนหลังคาแบน ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและฉนวนกันความร้อน
.
ต้องบอกก่อนเลยว่า วัสดุหลักที่ใช้คือคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งถือเป็นของใหม่มากในยุคนั้น แต่มันกลับสามารถสร้างรูปทรงเรขาคณิตที่สะอาดตาและเรียบง่าย โทนสีขาวสะอาดตาเป็นเอกลักษณ์ของ International Style ที่กำลังเฟื่องฟูในยุคนั้น สะท้อนถึงปรัชญา “น้อยแต่มาก” (less is more) ซึ่งกลายเป็นหัวใจสำคัญของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ในเวลาต่อมา
.
ภายในบ้านเป็นบันไดวนขึ้นและมีทางลาดวนขึ้นไปชั้นบน แสงธรรมชาติสาดส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่ ห้องต่างๆ ถูกออกแบบให้ไหลต่อเนื่องกัน ไม่มีการแบ่งแยกอย่างชัดเจน
.
Villa Savoye ไม่เพียงแต่แหกกฎการออกแบบบ้านแบบเดิมๆ แต่ยังท้าทายวิธีคิดเกี่ยวกับการอยู่อาศัย มันเสนอวิธีใหม่ในการมองความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับที่อยู่อาศัย ด้วยหน้าต่างบานใหญ่และสวนดาดฟ้า Villa Savoye ลบเส้นแบ่งระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอก สร้างความต่อเนื่องระหว่างธรรมชาติและสถาปัตยกรรม ซึ่งเป็นแนวคิดที่ล้ำสมัยมากในยุคนั้น
.
น่าเสียดายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 บ้านถูกทิ้งร้างและเกือบโดนทุบทิ้ง! โชคดีที่นักวิชาการและสถาปนิกช่วยกันคัดค้านจนในที่สุดรัฐบาลฝรั่งเศสซื้อมันไว้ในปี 1958 ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกให้เป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของศตวรรษที่ 20 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม
.
Villa Savoye จึงไม่ใช่แค่บ้านสวยๆ หลังนึง แต่เป็นอนุสรณ์แห่งการปฏิวัติวงการสถาปัตยกรรม เป็นแรงบันดาลใจให้กับสถาปนิกรุ่นหลังมากมาย
.
ถ้าใครได้ไปเยือนปารีส อย่าลืมแวะไปดู Villa Savoye นะ! มันจะทำให้เราเข้าใจว่าทำไมบ้านหลังนี้ถึงได้กลายเป็นตำนานในวงการสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ และทำไม Le Corbusier ถึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสถาปนิกที่ทรงอิทธิพลที่สุดในศตวรรษที่ 20