#หนาวนี้ผมจะย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่
มองทางไหนก็ดูจะเขียวไปซะหมด
นี่แหละบ้านหลังที่ 2 ของเรา
_
“Home away from Home” ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ครับ เมื่อได้กลับมาพักผ่อนที่ Veranda High Residence เชียงใหม่ ในบรรยากาศของลมหนาว ป่าเขา เงาไม้และสายหมอก
แม้ไม่ต้องบอกก็คงพอรับรู้ได้ว่า #เชียงใหม่ เป็นเมืองตากอากาศที่หลายคนคิดถึงและอยากมา ยิ่งช่วงหน้าหนาวเช่นนี้ เชียงใหม่มักจะเป็นตัวเลือกที่ดีเสมอในการมองหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจกับเพื่อนหรือครอบครัว
Veranda High Residence จึงเป็นคำตอบที่น่าสนใจ สำหรับใครต้องการมาพักผ่อนด้วยฟีลลิ่งของ “บ้านหลังที่ 2” เพราะนอกจากตอบโจทย์เรื่องบรรยากาศอันน่าหลงใหล เดินทางง่ายเพราะห่างจากสนามบินเชียงใหม่ประมาณ 25 นาที ยังมีความสะดวกสบายจากการใช้ Hospitality Service เดียวกับ Veranda High Resort เพราะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำที่วิวสวยที่สุดในเชียงใหม่ ใช้บริการฟิตเนส สปาหรือว่าห้องอาหาร พร้อมกับรับส่วนลดพิเศษสำหรับลูกบ้าน Residence ด้วยครับ
แต่ที่มากไปกว่านั้นคือความรู้สึกว่ามันคือ #บ้านที่เราเป็นเจ้าของเองครับ เหมือนกับกานต์ที่เลือก Veranda High Residence เป็นที่พักอาศัยประจำเมื่อยามขึ้นเหนือมาติดต่อธุรกิจเชียงใหม่ หรือวันไหนเบื่อกรุงเทพฯ ก็เก็บกระเป๋าบินเข้ามานอนเล่นได้ทันที ไม่ต้องหาจองที่พักให้มันวุ่นวาย แถมยังอุ่นใจเพราะได้มาตรฐานการบริการเดียวกับวีรันดาแบรนด์รีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาว แต่ว่าเราสามารถเป็นเจ้าของ Residence ได้ ตื่นแต่เช้ามาใส่บาตร เล่นกับหมา ว่ายน้ำ วิ่งออกกำลังกาย Feel like home มว๊ากกกกกก
อีกเหตุผลที่ผมเลือก Veranda High Residence เพราะมองว่าเป็นเรื่องของการลงทุนครับ โดยวีรันดาจะการันตี Yield 6% นาน 2 ปี ซึ่งในยุคที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นทุกปีแบบนี้ ผมคิดว่าเราควรขยายขากระจายการลงทุนไปยังอสังหาริมทรัพย์บ้างก็เป็นไอเดียที่ดี แถมยังได้มีบ้านอีกหลังที่เชียงใหม่ เอาไว้บินมานั่งดริปกาแฟท่ามกลางไอหมอกบนดอยที่ลอยมาทักทายเราในทุกเช้าด้วยนะครับ ในราคาเริ่มต้นที่สมเหตุสมผลที่สุดในเวลานี้คือ 81,xxx บาท/ตร.ม. เท่านั้น
ไปชมภาพฟีลพักผ่อนวันสบายๆ ของกานต์ที่ Veranda High Residence เชียงใหม่ในคอลเลคชั่นนี้กันครับ รับรองว่าคุณจะต้องตกหลุมรักที่นี่เหมือนผมอย่างแน่นอนครับ
—
“Home away from Home”
– กรุงเทพหนาวไหม เชียงใหม่หนาวมาก … ดูจากรูปก็รู้
จำนวน 3 อาคารเรียงรายกันไป ตั้งอยู่ที่บ้านปง อำเภอหางดง เชียงใหม่ ผมใช้เวลานั่งรถจากสนามบินประมาณ 25 นาทีก็ถึงครับ หรือจะกลับเข้าไปช้อปปิ้งซื้อของเดินเล่นในตัวเมืองก็สะดวกมาก
ช่วงหน้าหนาวปลายปีแบบนี้ ขอหนีขึ้นเหนือ หอบงานมาทำต่อที่เชียงใหม่ พักผ่อนใน Residence แบบส่วนตัว อยู่กันไปยาวๆ เท่าที่ใจต้องการ ฟีลลิ่งเหมือนบ้านหลังที่ 2 เลยครับ
เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่า อยู่เชียงใหม่นานๆ อาการมันเป็นยังไง แต่ที่แน่ๆ ตอนเช้าเรามีกาแฟดริปกันท่ามกลางหมอกขาวๆ และลมหนาวที่พัดมาทักทาย
อนุญาติให้อิจฉาได้แปบนึง
นี่คือ Veranda High Residence ที่ผมมาอยู่ครับ ถ้ามองจากภาพมุมสูงคือ Landscape ที่สวยงามมาก เพราะอาคารจะลดหลั่นไล่ระดับกันลงไปตามแนวทิวเขา เราสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้โดยรอบ Residence เลยครับ เชื่อมต่อกับส่วนของ Veranda High Resort เพราะอยู่ในพื้นที่เดียวกันแต่ละคนฝั่ง ถ้าเทียบว่าสระว่ายน้ำของรีสอร์ตคือเซ็นเตอร์ จะแยก 2 โซนออกจากกันได้เป็นสัดส่วนดี
งาน Exterior Design จะเน้นใช้สีเอิร์ธโทนอย่างเทา น้ำตาลอ่อนเป็นหลัก ผมว่ามันตัดกับสีฟ้าได้ดีนะ แซมด้วยสีเขียวจากต้นไม้ที่อยู่รายรอบ ภายนอกออกแบบให้ดูเบาด้วยการใช้โครงสร้างเหล็กและกระจกเข้ามาช่วย เสริมด้วย Facade เป็นไม้ซี่ที่จะคอยพรางตาและเพิ่มความเป็นส่วนตัวของการอยู่อาศัย
ด้วยความที่ Residence มีเพียง 30 ยูนิตเท่านั้น ทำให้ค่อนข้างเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน ผมนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องจะได้ยินเสียงนกร้อง สลับไก่ป่า ขันแข่งกันราวกับเวทีแบทเทิลเดอะวอยซ์ แต่ผมว่านี่เป็นเสียงจากธรรมชาติที่ไพเราะและบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าที่นี่ได้ดีมากครับ
Veranda High Residence เชียงใหม่ มีด้วยกัน 30 ยูนิตแบ่งเป็น 2 Roomtype คือ 1 ห้องนอนขนาด 82.76 ตร.ม. และ 2 ห้องนอนขนาด 115.73-132.64 ตร.ม. เป็นโครงการสร้างเสร็จแล้วพร้อมอยู่เลยครับ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวแบบนี้ ที่นี่ถือเป็น Rare Item Asset มาก ช่วงที่ผมไปกลางเดือนพฤศจิกายน อากาศเริ่มเย็นสบายไม่เกิน 20 องศา เพราะว่าบริเวณโดยรอบคือป่าไม้ทำให้อากาศเย็นสบายกว่าในตัวเมือง ไม่อยากจะคิดต่อเลยว่าช่วงธันวา-มกรา คงหนาวเย็นน่าดู นึกแล้วก็ฟิน นี่ว่าจะเก็บกระเป๋าบินไปนอนเล่นช่วงสิ้นปีอีกสักรอบถ้าเคลียร์งานเสร็จ
พูดถึงเรื่องงาน ผมว่า Veranda High Residence เชียงใหม่ ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่นักลงทุนไม่ควรพลาด เพราะเราจะมี Passive Income จาก Property นี้อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยๆ ตามที่วีรันดาการันตีเอาไว้ก็คือ 6% เป็นเวลา 2 ปี แต่เท่าที่ผมดู Growth แล้ว ระยะยาวน่าจะไปได้ดี เพราะฟีลลิ่งของที่นี่จะไม่เหมือนที่อื่น เนื่องจากมี Hospitality Service ระดับ World Luxury Resort เข้ามาพ่วงด้วย ช่วยให้การพักผ่อนที่ Veranda High Residence เป็นอะไรที่สะดวกสบายขึ้นมากครับ
Residence ของผมเป็นแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พร้อมตกแต่งแบบ Fully Furnished เรียกได้ว่าวางเงินแล้วหิ้วกระเป๋าใบเดียวก็เข้าอยู่ได้ทันที
เมื่อเปิดประตูเข้ามา จะสัมผัสได้ถึงวลีที่ผมเกริ่นไว้ตั้งแต่ตอนแรก คือ Home away from Home ผมรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ เหมือนอยู่บ้านตัวเองที่กรุงเทพฯ โถงทางเดินเข้าห้องจะกว้างเป็นพิเศษ (พื้นที่ใช้สอยภายในห้องเยอะแหละ ดูออก) ห้องมีเพดานสูง 2.8 เมตร ถือว่าสูงมากกว่ามาตรฐานคอนโดทั่วไป ภายในห้องดรอปฝ้าเอาไว้ให้แล้วจะได้ซ่อนรางม่านไว้เพื่อเป็นระเบียบเรียบร้อย และเตรียมพร้อมสำหรับการติดตั้งไฟราวเพิ่มเพื่อความสวยงาม ด้วยความที่ห้องเป็นแบบ Fully Furnished เราจึงแทบไม่ต้องตกแต่งอะไรเพิ่มเลยครับ
งาน Interior ภายในจะเลือกใช้โทนสีสว่างอย่างขาว-เบจ โดดเด่นด้วยหมอนอิงสีเหลืองลวดลายแตกต่างกันไปให้ฟีลลิ่งที่สนุกสนาน ขี้เล่น อบอุ่นและเป็นกันเอง แต่ยังคงความหรูหราด้วยสไตล์ Modern Luxury ผมสังเกตว่างานออกแบบจะเน้นให้เปิดรับแสงธรรมชาติให้มากเท่าที่จะทำได้ในทุกๆ ห้องเลยครับ เน้นอารมณ์การพักผ่อนท่ามกลางความเป็นธรรมชาติ อย่างพื้นจะเป็นไม้สักเต็มแผ่น ไม่ได้เป็น Laminate หรือ Engineering wood เหมือนโครงการทั่วไป ได้ผิวสัมผัสของไม้จริง ฟีลลิ่งดีกว่าเยอะมาก เชื่อมต่อความรู้สึกเข้ากับวิวทิวทัศน์ของป่าเขาน้อยใหญ่
เช้าๆ เราออกไปดริปกาแฟกันที่ระเบียง แดดอ่อนๆ กับวิวสวยๆ ช่วยให้กาแฟแก้วนี้รสชาติดีมากยิ่งขึ้นครับ
ผมว่า Living Room และมุมระเบียงของห้องนี้คือ My Favorite เลยนะครับ ชอบที่ได้มาดริปกาแฟอยู่กลางแดดอุ่นๆ แล้วนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ติดตามข่าวสาร หรือบางวันก็นอนดูซีรีย์อะไรไปเรื่อยเปื่อยในวันพักผ่อนสบายๆ ด้วยความที่ห้องมีขนาดกว้างขวางจึงไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด ชุดโซฟาที่ทางโครงการจัดให้จะได้แบบนี้เลยครับ นี่ผมกำลังคิดว่าจะไปหาซื้อเก้าอี้โยกมาเพิ่ม เอามาตั้งไว้ริมระเบียงจะได้นั่งชมวิวธรรมชาติได้อย่างสบายใจ ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย ไม่ต้องเปิดแอร์เลยครับ
เมื่อเรานั่งอยูใน Living Room แล้วมองออกไปยังนอกระเบียง ห้องนี้จะเห็นวิวของโลหะปราสาทบ้านปง ซึ่งเป็นโลหะปราสาทรูปทรงล้านนาหลังแรกของโลกอีกด้วยครับ งดงามมาก น่าจะเป็น Unseen เชียงใหม่ ที่หลายคนต้องอยากมาชม และสุดท้ายต้องเลือกพักที่วีรันดา
Living Room จะเชื่อมต่อกับ Master Bedroom ครับ ประตูห้องนอนหลักคือใหญ่มาก เป็นแบบ 2 บานเปิดประกบกันให้ความรู้สึกอลังการเหมือนเป็นอัครพิมานสถาน ถ้าเลือกตกแต่งห้องนอนเป็นแบบมุ้งสี่เสาแล้วล่ะก็ … ใช่เลย!! แต่จะว่าไปก็ทำได้นะเพราะจะได้ความรู้สึกแบบ Modern Lanna ที่คลาสสิคไปอีกแบบ
บริเวณริมหน้าต่างจะเป็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ซึ่งผมกำลังคิดว่าจะขยับไปติดหน้าต่างแทนจะได้นั่งทำงานภายในห้องพร้อมกับชมวิวไปด้วย อารมณ์ Work from Residence ของจริง
ห้องนอนหลักจัดวางเตียงขนาดใหญ่เอาไว้ให้แล้ว พื้นที่รอบเตียงไม่ต้องพูดถึงเพราะภายในห้องกว้างขวางมาก การจัดวางเฟอร์นิเจอร์จะเน้นพื้นที่ติดผนัง ทั้งเตียง โต๊ะหัวเตียง ส่วนปลายเตียงจัดที่นั่งแนวยาวเอาไว้ เนื่องจากเป็นห้องแบบ Fully Furnished ถ้าซื้อแล้วเราก็จะได้แบบนี้เลยครับ
ถัดมาด้านในจะเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง เชื่อมต่อกับห้องน้ำที่แยกส่วนเปียกแห้งเอาไว้ให้เรียบร้อย
ภายในแบ่งออกเป็นโซนสุขภัณฑ์ให้แบรนด์ American Standard มีอ่างอาบน้ำอยู่ตรงกลางห้อง อีกด้านเป็น Shower และอ่างล้างหน้า ซึ่งทางรีสอร์ตจะจัดเตรียม Toilet Amenity เอาไว้ให้สำหรับห้องพักที่วีรันดาบริหารให้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและเป็นมาตรฐานเดียวกับการเข้าพักในรีสอร์ตเลยครับ
“Things don’t make a place feel like home. People do.”
– Renee Carlino
ส่วนห้องนอนสองจะอยู่บริเวณโถงด้านหน้าทางเข้า แต่ให้เราเลี้ยวขวาเข้าไปก่อนครับ จะเป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ไม่แพ้ห้องนอนหลัก มองเห็นต้นไม้ป่าเขาเช่นกันในมุมมองที่กว้างกว่าเพราะว่ามีการเปิดรับช่องแสง 2 ด้าน ฝั่งที่ม่านปิดอยู่จะเป็นหน้าต่างครับ ส่วนอีกฝั่งที่เชื่อมต่อกับปลายเตียงจะเป็นประตูกระจกบานใหญ่ เราสามารถเปิดออกไปชมวิวด้านนอกได้ ซึ่งห้องนี้จะเป็นทิศตะวันออก ถ้าเปิดม่านเอาไว้ตอนก่อนนอน พอตอนเช้าแสงแดดจะมาปลุกเราให้ตื่นพร้อมกับเสียงนกที่ร้องเบาๆ ฟีลลิ่งคือเอาไปเลย 10 เต็ม 10 ไม่หัก เรียกได้ว่า Veranda High Residence วิวสวยบรรยากาศดีทุกห้องเลยครับ
ห้องนี้ตกแต่งแบบเรียบง่ายสไตล์ Modern ผมชอบดีเทลการออกแบบผ้าคลุมเตียง ไปจนถึงหมอนอิงที่เล่นสีและลวดลายให้ล้อไปกับหัวเตียงและเก้าอี้ที่นั่งทำงานภายในห้องนอน ซึ่งจะเป็นแบบเข้ามุมครับ มาพร้อมกับชั้นวางของที่ออกแบบให้เป็นโต๊ะทำงานไปในตัวดูครีเอทดี ทำให้ห้องมีสเปซเหลือพอที่จะจัดมุมนั่งเล่นภายในห้องเพิ่มได้ ตู้เสื้อผ้าจะ Build-in ไว้ด้านหน้าประตูทางเข้า แต่ว่าห้องนี้จะไม่มีห้องน้ำในตัวครับ
ห้องน้ำจะอยู่ด้านหน้าห้อง ใช้ร่วมกันหากมีแขกมาหา (ซึ่งผมว่าไม่น่าจะมี อุตส่าห์หนีมาพักผ่อนขนาดนี้ 555) ทำให้ห้องนอนนี้มีห้องน้ำราวกับเป็นห้องน้ำในตัวเช่นกัน ภายในห้องน้ำจะเป็นแนวลึกเข้าไป ช่วงด้านในสุดจะมีหน้าต่างบานเลื่อนแบบทึบแสงที่สามารถเปิดออกได้เพื่อให้ระบายอากาศ แต่ถ้าเป็นห้องชั้นบนๆ ผมว่าจะเปิดเอาไว้ก็ได้นะ เพราะว่าฝั่งตรงข้ามเป็นป่าทึบ จะได้ทำธุระไปด้วยชมวิวไปด้วยสวยดีออก
ภายในห้องน้ำติดตั้งระบบ Shower เอาไว้ให้แต่ไม่มีอ่างอาบน้ำนะครับ ถ้าใครอยากแช่อ่างชมวิว อาจจะต้องให้ช่างภายนอกมาติดตั้งเพิ่มให้ ถัดมาเป็นสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้า ซึ่งจัดวาง Toilet Amenity ครบครันตามมาตรฐานของวีรันดา เอาไว้ให้แล้วเช่นกันครับ
จาก Foyer ด้านหน้าประตูทางเข้า เราจะเห็นห้องนอนสองอยู่ทางด้านซ้ายที่มีห้องน้ำอยู่ด้านหน้า ตรงเข้ามาด้านในจะเป็นครัวที่ติดตั้งเคาน์เตอร์เป็นแนวยาวเต็มผนัง พร้อมเจาะช่องให้เราวางตู้เย็นเครื่องซักผ้าได้ เชื่อมต่อไปกับโต๊ะรับประทานอาหารทรงกลมที่ช่วยลดทอนความเป็นเหลี่ยมมุมของห้องได้ดี งานดีไซน์ของ Veranda Residence ในทุกทำเลจะประมาณนี้หมดเลยครับ ด้วยความที่เป็นกึ่งๆ บ้านพักตากอากาศ การวางผังห้องจึงต้องมีลูกเล่นนิดนึงเพื่อไม่ให้รู้สึกว่าเป็นห้องสี่เหลี่ยมทื่อๆ เหมือนคอนโดในเมืองทั่วไป ทำให้เราได้เดินเลี้ยวซ้ายออกไปขวา ฟีลลิ่งในการอยู่จะรู้สึกเหมือนบ้านมากกว่า อย่างห้องนี้ก็เช่น จากครัวแล้วเลี้ยวมาทางซ้ายจะเป็นในส่วนของ Living Area จากนั้นเลี้ยวซ้ายอีกครั้งถึงจะเข้าไปยัง Master Bedroom ครับ
ห้องนอนทั้ง 2 จะถูกเชื่อมด้วย Common Area ซึ่งมีครัว มุมรับประทานอาหารและมุมนั่งเล่นเป็นพื้นที่ส่วนกลางภายใน เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวได้ใช้เวลาพักผ่อนร่วมกันที่นี่ครับ
ด้วยความที่เป็น Residence ขนาดใหญ่จึงเน้นพื้นที่ครัวให้กว้างตามไปด้วย แบ่งพื้นที่การใช้สอยแบบหลวมๆ คือเคาน์เตอร์ครัวจะอยู่ต่อจากโถงทางเข้าเป็นแนวยาวติดผนังไปจนสุดห้อง ทางวีรันดาได้ Build-in ตู้เก็บของบนล่างเอาไว้ให้แล้วเรียบร้อยครับ พร้อมกับติดตั้งระบบท่อน้ำดีน้ำทิ้งเอาไว้ให้ด้วย ตรงกลางของเคาน์เตอร์เป็นอ่างล้างจาน ด้านซ้ายออกแบบให้วางเตาไมโครเวฟได้ เพื่อสะดวกในการใช้งาน ส่วนอีกด้านจะเป็นเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน
ผมนึกภาพไปถึงคืนส่งท้ายปีที่สมาชิกในครอบครัวจะมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ช่วยกันเตรียมอาหารทำกับข้าว รับประทานกันในบรรยากาศของ New Year Eve Party ที่มีลมเย็นๆ พัดเข้ามาตลอดเวลา เพราะบริเวณครัวและโต๊ะทานข้าวจะเปิดช่องแสงเอาไว้ให้รับแดดรับลมสบายๆ ทั้งวัน บรรยากาศจะโฟลว์มากครับ เหมาะแก่การพักผ่อน เพราะเราสามารถเข้าพักได้มากถึง 45 คืน/ปี ส่วนคืนอื่นที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของวีรันดาในการหาคนเข้าพักให้กับเราครับ ผมว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพราะได้มาถึง 2 เด้ง
ที่ Veranda High Residence จะมีสระว่ายน้ำของตัวเองให้บริการลูกบ้านครับ จากการไปพักมาประมาณ 1 สัปดาห์ แทบจะไม่เห็นใครมาว่ายน้ำเล่นเลย มีแต่ผมนี่แหละ
อย่างที่ผมเคยบอกไปว่าที่นี่ยูนิตไม่มาก ดังนั้น คนจึงไม่เยอะ ไม่วุ่นวาย เหมาะที่จะมาปลีกวิเวกให้สบายใจ กินกาแฟ ว่ายน้ำ อ่านหนังสือ หาขนมอร่อยๆ ทาน เป็นการได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง อย่างผมก็ชอบมานั่งเล่น นอนคิดงานเสนอลูกค้า ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ว่ายน้ำเล่นชิลๆ
แต่ก็มีบางวันที่ผมเบื่อๆ ไม่อยากจะว่ายน้ำเล่นคนเดียว ก็ขึ้นไปว่ายน้ำที่ชั้น 4 ของ Veranda High Resort ได้ ประหนึ่งว่าเป็นแขกที่มาพักรีสอร์ต เพราะวิวที่สระว่ายน้ำสวยมาก หรือจะไปเล่นฟิตเนสที่ชั้น 3 ก็ได้เช่นกัน เพราะเอาจริงทั้ง 2 พาร์ตนี้ล้วนแต่บริหารโดยวีรันดาทั้งคู่ราวกับเป็น Sister กัน ฟีลลิ่งจึงเหมือนเราอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างขวาง สามารถใช้ Facility ร่วมกันได้สบายๆ ครับ
เช้าๆ บางวันผมยังออกไปวิ่งรอบๆ พื้นที่ทั้ง Residence และ Resort เลยครับ ซึ่งผมเพิ่งเคยเห็นบรรยากาศแบบนี้ก็ที่วีรันดาเชียงใหม่นี่แหละ ที่แขกพร้อมใจกันตื่นแต่เช้า สวมรองเท้าออกกำลังกาย วิ่งบ้าง ปั่นจักรยานบ้าง เดินออกกำลังบ้างสูดอากาศบริสุทธิ์กลางป่า เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง เรียกได้ว่านอกจากจะลงทุนความมั่งคั่งทางด้านการเงินแล้ว ยังเป็นการลงทุนเพื่อความมั่งคงทางสุขภาพอีกทางหนึ่งด้วยครับ
เช้านี้ วันพิเศษของผม ทางรีสอร์ตจึงช่วยนิมนต์พระจากวัดบ้านปงมารับบาตร ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นประจำสำหรับแขกครับ สามารถติดต่อที่พนักงานได้เลย
จากที่เคยพักใน Veranda High Resort พอรู้สึกว่าชอบ อยากได้แบบนี้บ้าง Residence จึงเป็นคำตอบที่ดีมากสำหรับผม เอาจริงผมรู้สึกเลยนะว่า ฟีลลิ่งไม่ได้ต่างจากการมาเป็นแขกที่เข้าพักใน Resort เลย ผมว่าโมเดลนี้วีรันดาทำได้ดีมาก เพราะเบลนด์ความเป็น Resort กับ Residence เข้าด้วยกันได้ดี
ถ้าหิว ผมก็สามารถฝากท้องไว้กับห้องอาหารของ Veranda High Resort ได้ทุกมื้อ ซึ่งจะมีส่วนลดให้ด้วยนะ แนะนำให้สั่งออร์เดิร์ฟเมืองมาทาน น้ำพริกหนุ่มคืออร่อยมากอยากให้ลองชิม
มื้อค่ำ แนะนำให้ไปนั่งชิลๆ รับลมหนาวในบรรยากาศของหลองข้าวแบบล้านนาที่ห้องอาหารระเบียงชาของทางรีสอร์ตครับ
เมนูที่ผมสั่งประจำคือยำส้มโอข้าวตังหมูย่าง อร่อยมากอยากให้ลองทานกัน
ใครสายหวานจะไปทาน Afternoon Tea ก็มีขนมอร่อยๆ ให้ทานยามบ่ายก็ได้เช่นกัน หรือจะสั่งเครื่องดื่มอาหารไปทานใน Residence แบบส่วนตัวก็สะดวกดี วีรันดามีบริการทุกอย่างครับ
ถ้ารู้สึกเหนื่อยเมื่อยล้า อยากผ่อนคลาย ผมก็จะเดินมาใช้บริการของวีรันดา สปา บอกแล้วว่าสบายยิ่งกว่าอยู่บ้าน
Veranda High Residence เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากครับสำหรับผม เพราะเดินทางมาทำธุระที่เชียงใหม่ค่อนข้างบ่อย การลงทุนซื้อที่พักเป็นของตัวเองจึงเป็นคำตอบที่ดีมาก เพราะสามารถเข้าพักได้ถึง 45 คืน/ปี แถมยังมีรายได้คืนจากการลงทุนจากการเปิดให้แขกคนนอกเข้ามาพัก โดยที่วีรันดาจะการันตีให้เราถึง 6% ใน 2 ปีแรก ก่อนจะปล่อยลอยตัว ซึ่งผมสังเกตจากการเข้าพักพบว่าที่รีสอร์ตมีนักท่องเที่ยวเต็มตลอดเลยครับ โดยเฉพาะไฮซีซั่นช่วงหน้าหนาวอัตราการเข้าพักของ Veranda High Resort สูงเกือบจะ 100% ทำให้ฝั่ง Residence ได้รับอานิสงค์จากตรงนี้
ส่วนสาเหตุที่ผมชอบ type แบบ 2 ห้องนอน อันนี้เป็นเทคนิคส่วนตัวเลยนะ ไม่อยากบอกเลย แต่อ๊ะ!! บอกให้ก็ได้จะได้มาเป็นเพื่อนบ้านกัน คือผมมองว่าห้องพักหลักของรีสอร์ตจะเป็นแบบสตูดิโอ ที่มี 1 ห้องนอนเป็นหลัก ดังนั้นกลุ่มที่มากันเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนซึ่งล้วนเป็นฐานใหญ่ของรีสอร์ตสไตล์นี้ น่าจะมีดีมานด์อยู่พอสมควร ถ้าอยากจะพักด้วยกันอาจจะต้องเลือกเหมาเป็น Pavilion 2 ชั้นคือด้านล่างเป็น Plunge Pool และชั้นบนเป็น Scenery ที่มีจากุซชี่อยู่ตรงระเบียง แต่หากจะจอยปาร์ตี้กันอันนี้จะยากละ ดังนั้น Residence จะเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับลูกค้าที่เน้นมาพักผ่อนกัน เราก็จะให้วีรันดาบริหารตรงส่วนนี้ให้แล้วรอรับ Passive Income อยู่ที่บ้านอย่างสบายใจ
“It was hard to be away from home, but I am glad that I am home now.”
-Miriam Makeba
หลายคนทราบดีว่า ผมเป็นสไตล์ Leisure มากกว่า Travel ทุกครั้งที่ว่างจากการทำงาน ผมมักจะฝังตัวอยู่แต่ในรีสอร์ตไม่ค่อยออกไปไหน
ผมชอบที่จะเดินเล่น อ่านหนังสือแถวไร่ชา บางเวลาก็ถือกล้องเดินสแนปภาพไปเรื่อยเปื่อย บางทีก็เล่นกับน้อลลลล จนเราสนิทกันเหมือนจรัญสนิทวงศ์ ผมว่าบรรยากาศที่ Veranda High Residence มันชวนให้เป็นแบบนี้จริงๆ ครับ อารมณ์เหมือนเราได้อยู่บ้านตัวเอง ทำตัวชิลๆ สบายๆ ไม่ต้องรีบร้อนไปไหน ให้ธรรมชาติโอบล้อมเราด้วยความรัก สักพักก็กลับไปทำงานต่อที่กรุงเทพฯ บ้านอีกหลัง แต่เชื่อเถอะอยู่ไปสักพัก ไม่นาน เชียงใหม่ก็จะ Calling เราอีกครั้ง วนแบบนี้เรื่อยไป
เมื่อก่อน Veranda High Resort เป็นที่พักประจำของผมเวลาที่มาเชียงใหม่ครับ อาจจะมีปันใจไปลองพักที่อื่นดูบ้าง แต่สุดท้ายที่พักหาที่ได้มาตรฐานตรงกับความต้องการของผมในเชียงใหม่ก็ไม่ได้มีให้เลือกมากนัก มาจบที่วีรันดาทุกที ผมค่อนข้างชอบที่นี่เพราะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขา แต่ไม่ไกลความเป็นเมืองเท่าไร เดินทางง่าย จะไปติดต่อลูกค้าหรือว่าหาร้านอร่อยๆ ทานในเมืองก็สะดวกดี
ด้วยชื่อเสียงที่ดีของรีสอร์ตทั้งด้านความสวยงามและมาตรฐานการบริการ ทำให้ Veranda เป็นแบรนด์ธุรกิจพัฒนาและบริหารจัดการรีสอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับสากล ด้วยความเป็นบริษัทมหาชน จึงมีความน่าเชื่อถือค่อนข้างสูง ไว้ใจได้ในเรื่องการบริหารจัดการให้ได้รับผลตอบแทนที่ดี มีอัตราการเจริญเติบโตสูง ประกอบกับพาร์ตเนอร์ที่บริหารรีสอร์ตคือ Accor ที่เลือกใช้แบรนด์ MGallery เข้ามา
อ่อ! ลืมบอกผมเป็น Big Fan ของ MGallery ที่มักจะเลือกพักแบรนด์นี้ก่อนเสมอเวลาเดินทางไปเที่ยวทั่วโลก ชื่อเสียงของวีรันดาที่มาพร้อมกับความเป็น MGallery จึงทำให้ผมค่อนข้างมั่นใจการดูแลผลประโยชน์ให้กับเราในอนาคตหากลงทุนร่วมกันครับ
แต่สำหรับใครที่อยากจะซื้อไว้อยู่เอง ไม่อยากจะให้ใครเช่า อยากจะพักผ่อนยาวๆ 365 วัน ก็สามารถทำได้เช่นกัน ไม่จำเป็นว่าซื้อแล้วต้องเซ็นสัญญาให้วีรันดานำไปบริหารให้แต่อย่างใด เงินของเรา เราเลือกได้ครับ
ผมอำลาเชียงใหม่ทริปนี้ด้วยการให้รถของรีสอร์ตไปส่งที่สนามบิน (ติดต่อที่รีเซฟชั่นได้เลยครับ มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
ขณะที่นั่งรถก็กดมือถือดูตั๋วเครื่องบินไปด้วย กำลังวางแพลนว่าจะมาเชียงใหม่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของธันวา อยากจะมาส่งท้ายปี 2564 โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าห้องพักโรงแรมจะแพง รีสอร์ตจะเต็มหรือยัง ถ้าอยากจะมาพักก็แค่จองตั๋วเครื่องบินแล้วมาได้เลยทันที เพราะเรามีที่พักส่วนตัวแล้วที่ Veranda High Residence
เห็นมั้ย ง่ายชะมัด!!
ใครสนใจ เป็นเจ้าของ Veranda High Residence ในราคาโปรโมชั่นเริ่มต้น 81,xxx บาท/ตร.ม. พร้อม Yield Guaranteed 6% นาน 2 ปี
สามารถดูรายละเอียดและลงทะเบียนได้ที่นี่ >> https://bit.ly/3rLVZE7