Varanasi, India

“พาราณสี” เมืองแห่งวิถีชีวิต

ขออนุญาตตั้งชื่อแบบนี้ครับ

.

เพราะประสบการณ์จากการเดินทางไปอินเดียเป็นเวลากว่า 10 ปี พบว่า พาราณสี เป็นเมืองที่ให้บทเรียนชีวิตได้ดีที่สุด

และเป็นเมืองที่ผมชอบที่สุด

.

พาราณสี เป็นฉากสะท้อนวิถีชีวิตของอินเดียยุคโบราณที่งดงาม ตามลีลาแขก มีความเข้มแข็งทางวัฒนธรรมโดยที่ไม่มีใครสามารถแทรกแซงหรือเปลี่ยนแปลงได้

.

แม้ครั้งที่อังกฤษเข้ามาปกครองและเปลี่ยนชื่อเป็น “เบนารัส” (Benarus) แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาใช้ “พาราณสี” (Varanasi) เช่นเดิม

.

ผมว่าผมตื่นเช้าแล้ว แต่คนอินเดียตื่นเช้ากว่า ตื่นก่อนที่พระอาทิตย์จะโผล่พ้นขอบฟ้าเสียอีก ทุกคนมุ่งหน้าสู่ “ท่าทศอัศวเมธ” 1 ใน 5 ท่าน้ำใหญ่จากทั้งหมด 84 ท่าริมฝั่งแม่น้ำคงคา ที่ไหลผ่านเมืองพาราณสี

.

“พาราณสี” เป็นต้นกำเนิดของสายน้ำแห่งชีวิต “พระแม่คงคา” มหานที ก็เริ่มที่นี่

อาบน้ำบูชาสุริยเทพยามเช้า ยามเย็น เพื่อเป็นการชำระล้างบาป ทำลายความชั่วในจิตใจ เป็นภาพที่มีให้เห็นกันเจนตา

.

ถือว่ามีสีสันจัดจ้านที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติ ไม่ว่าจะเป็นมหารานี เศรษฐี ยาจก วณิพก ขอทาน วัวเดินเพ่นพ่าน รถราบีบแตรเสียงดัง … แต่ก็ยังอยู่กันได้

.

เมื่อตายไป ก็ต้องพยายามนำร่างที่ไร้วิญญาณมาเผาที่นี่ เป็นเวลากว่า 4 พันปีแล้วที่กองไฟไม่เคยดับมอด ก่อนจะเผาและกวาดเถ้ากระดูกลงสู่แม่น้ำคงคา

.

พาราณสี จึงเป็นเมืองที่เกี่ยวพันกับชีวิตคนอินเดียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

.

ผมเก็บภาพมาฝากกัน สำหรับการเดินทางไปอินเดียหลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนปีนี้ต้นเดือนธันวาคม ก็ว่าจะไปพาราณสีและเมืองอื่นๆ ของอินเดียอีก

.

ใครอยากเรียนรู้ความหมายของชีวิต ก็เชิญติดรถไปด้วยกัน 5-12 ธันวาคมนี้ ครับ

ไม่ว่าจะเดินทางมาอินเดียกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ผมก็ยังพบว่า “พาราณสี” มีความเป็นอมตะเสมอ ไม่เคยเปลี่ยน

เช้าๆ เราจะเจอโยคี ฤาษี เต็มท่าน้ำไปหมดครับ มาร่ายรำทำพิธีกรรมตามความศรัทธาของแต่ละคน

กลางแม่น้ำคงคา มีเรือนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมานั่งเรือเพื่อพิสูจน์ศรัทธา เพื่อมาชมสายัณห์สวัสดิ์ และวิถีชีวิตของบรรดาชาวฮินดูทั้งหลายริมฝั่งแม่น้ำคงคา

ส่วนทีมไทยพุทธ ก็มีพิธีบูชาพระแม่คงคาตามความศรัทธาเช่นกัน

ภาพประทีปกลางน้ำเช่นนี้สวยงามมากครับ

ตี 4 ตี 5 แม้จะเป็นเวลานอนของใครหลายคน แต่สำหรับที่ พาราณสี ทุกคนตื่นมาใช้ชีวิตกันหมดแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า เศรษฐี โยคี ยาจก ตื่นกันหมดแล้ว

ส่วนนักท่องเที่ยวอย่างเราก็ตื่นเช้าไม่แพ้กัน ปักหลักตั้งขากล้อง เก็บภาพเพื่อมาร้อยเรียงเรื่องราวมีชีวิตเหล่านี้ออกสู่สาธารณชน

เอาจริง พาราณสี เป็นเมืองที่คนชอบถ่ายภาพ life ควรมา เพราะว่า real มากๆ ครับ

นอกจากภาพวิถีชีวิตแล้ว ยังมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามที่บ่งบอกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ได้อย่างน่าสนใจ

Golden Light & Golden Life

สีสันจากหลอดไฟที่สะท้อนความกว้างใหญ่ของแม่น้ำคงคารูปนี้ ผมว่าสวยดีครับ

ตีห้า คนเริ่มมามากขึ้น บนฝั่งเริ่มวุ่นวาย เป็นภาพที่คนอินเดียทั่วไปเจนตา แต่ว่าในมุมของนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ นั้น ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจมากครับ

ในขณะที่ย่านท่าน้ำ มีผู้คนมากมาย แต่ถัดไปไม่ไกล เป็นย่านที่อยู่อาศัย กลับเงียบสงบ

ท่าน้ำหลักที่พาราณสี คือ ท่าทศอัศวเมธ (DashAshwamedh ) มีที่มาจากการทำพิธีบูชายัญด้วยม้าในสมัยโบราณ เป็นท่าที่มีชาวฮินดูมาประกอบพิธี สุริยเทพในตอนเช้า และมีการประกอบพิธีคงคาอราตี การสวดมนต์บูชาของศาสนาฮินดูในตอนค่ำ

ผมชอบรูปนี้ ดูหน้าครุ่นคิด แต่จิตกลับสงบนิ่ง

มาเที่ยวเมืองพาราณาสี นอกจากจะได้ชมเมืองทางบกแล้ว เรายังสามารถล่องเรือกลางแม่น้ำคงคา เพื่อชม สถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตของผู้คนริมฝั่งแม่น้ำได้อีกด้วย ทั้งฝั่งมนุษย์และฝั่งสวรรค์

ใครอยากเที่ยวอินเดียพร้อมสัมผัสวิถีชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำและความเชื่อของศาสนาฮินดู ผมว่าพาราณสีเป็นเมืองที่เหมาะที่สุดครับ

เราจึงได้เห็นนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก พากันเดินทางมาที่นี่ครับ

ริมฝั่งก็จะคึกคักหน่อย มีเรือมาจอดคอยบริการนักท่องเที่ยวเต็มไปหมด

ได้เวลาล่องเรือกันแล้ว ใครที่สนใจมาล่องเรือแม่น้ำคงตาก็ติดต่อได้ที่ท่าเรือเลยครับ ต่อรองราคากันให้เต็มที่ ได้คือได้ ไม่ได้ก็ไม่ต้องเอาครับ หาเจ้าอื่นต่อไป

ส่วนใหญ่จะเจอคณะทัวร์พุทธ ที่มาจาริกแสวงบุญ ปกติผมก็มีกรุ๊ปพามาแสวงบุญตลอดเหมือนกันครับ ปีนี้ผมเดินทาง 5-12 ธันวาคมครับ

สนใจติดต่อที่คุณแหม่มได้เลยครับ โทร 092-201-9991

ลอยประทีปขอขมาพระแม่คงคา

ประทีปก็หาซื้อได้จากเรือที่พายมาขายเทียบเรือเราเลยครับ ราคา 10-20 รูปี ประมาณนี้

อาหารนกก็มีขาย ให้อาหารนกกันกลางแม่น้ำคงคา

.

ริมฝั่งก็มีคนมาอาบน้ำกันเต็มไปหมด ซึ่งเป็นการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่พิธีอาบน้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอินเดีย คือ “มหากุมภะ เมลา” (Maha Kumbh Mela) มีผู้คนชาวฮินดูนับร้อยล้านคนมาร่วมพิธีอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่เชื่อกันว่าจะเป็นการช่วยชำระล้างบาป และเสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ชีวิต

ช่วงสายๆ หลายชีวิตเริ่มเคลื่อนไหว ภาพที่เราจะพบเห็นกันได้ทุกวันที่นี่ คือจะมีผู้คนมากมายจากทั่วทุกสารทิศเพื่อมาทำความเคารพ บูชา อาบน้ำ ซักผ้า เผาศพหรือแม้แต่ดื่มกินน้ำในแม่น้ำ!!

ตัดภาพกลับมาที่นักท่องเที่ยว ก็ยังคงพายเรือชมวนไป

ท่าน้ำริมฝั่งแม่น้ำคงคามีทั้งหมด 84 ท่า แต่จะมีท่าน้ำหลักอยู่ 2 ท่า ที่ใช้ประกอบพิธีเผาศพของชาวฮินดู คือ ท่ามณีกรรณิการ์ ที่มีการเผาศพตลอด 24 ชั่วโมงมานานกว่า 4 พันปีแล้ว ส่วนอีกท่าน้ำคือ ท่าหฤทธิ์จันทรา ที่มีขนาดเล็กกว่า และกำหนดช่วงเวลาในการทำพิธีในแต่ละวัน

ถ้าเป็นศพผู้ชายมักจะห่อด้วยผ้าสีขาว ส่วนผู้หญิงจะห่อด้วยผ้าสีอื่น พิธีการคือนำศพมาไว้ริมท่าน้ำวางบนแคร่ไม้ ซึ่งต้องไม่เกิน 24 ชั่วโมงจากเวลาที่เสียชีวิต จากนั้น ญาติก็จะซื้อฟืนที่มีขายแถวนั้น เพื่อเตรียมทำพิธี

ก่อนเผาก็จะมีการนำเอาศพที่ห่อผ้าแล้วไปจุ่มแม่น้ำคงคา ใช่แล้วครับ แม่น้ำสายเดียวกันกับที่มีคนอาบน้ำและดื่มกินนี่แหละ

จะมีการจุ่มศพลงแม่น้ำ 3 ครั้ง เพื่อเป็นการชำระล้างบาปครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะส่งดวงวิญญาณให้ไปสู่ความสุขสงบ ณ ดินแดนอันไกลโพ้น จากนั้นก็จะนำศพมาขึ้นวางบนกองฟืน

ส่วนบรรดาเศรษฐีคนมีเงิน นิยมมามาปลูกบ้านทิ่งไว้ริมฝั่งแม่น้ำคงคา เมื่อป่วยหนักแล้วคิดว่าใกล้จะเสียชีวิต ก็จะย้ายร่างตัวเองมาอยู่ที่นี่ หรือบางครอบครัวก็นิยมมาเช่าโรงแรมรอความตาย ซึ่งอยู่ใกล้ท่าน้ำ เพื่อที่ตายก็จะได้สะดวกในการเผาที่ริมแม่น้ำและกวาดเถ้ากระดูกลงแม่น้ำคงคาต่อไป

ตามความเชื่อของผู้ที่นับถือศาสนาฮินดูแล้ว มักจะไม่ยี่ระกับเรื่องความเป็นความตายมากนัก เพราะชาวฮินดูเชื่อว่า การตายก็คือการได้กลับปสู่อ้อมกอดของพระเจ้า ส่วนการเผาก็คือการการชำระบาปครั้งสุดท้าย เป็นการเผาความชั่วร้าย เผากิเลสทั้งปวงออกเสียก่อนที่จะไปพบพระเจ้า

ซึ่งตามความเชื่อของชาวฮินดูนั้น จะมีคนเพียง 5 ประเภทที่จะไม่ถูกเผา ได้แก่ เด็กแรกเกิด สาวพรหมจรรย์ นักบวช คนถูกงูกัด และคนถูกฟ้าผ่า แต่จะใช้วิธีผูกศพกับหินเพื่อเอาไปถ่วงทิ้งน้ำแทน เพราะชาวฮินดูเชื่อว่าคนเหล่านี้ได้ถูกชำระล้างบาปแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้ไฟเพื่อเผาไหม้ร่างอีก

สำหรับใครที่อยากเจริญมรณานุสติหลักสูตรเร่งรัด แนะนำให้มาที่พาราณสี เพราะที่นี่มีแบบเรียนเรื่องความเป็นความตายและความหมายของชีวิตแบบครบวงจรเลยล่ะครับ

ฤษี โยคี เหล่านี้ ขอถ่ายรูปได้นะครับ น่าจะกลายเป็นอาชีพหนึ่งไปแล้ว

ขึ้นฝั่งไปชมเมืองพาราณสีทางบกกันบ้างครับ

คนอินเดียนี่นัยย์ตาสวยดี ว่าไหมครับ

ชอบภาพนี้ ดูคอนทราสดี ในขณะที่คนทั่วไปกำลังทำมาหากินเลี้ยงปากท้องตัวเอง ก็ยังมีคนอีกหลายคนที่สนใจปัญหาสังคม ผ่านสื่อ

แววตาที่ดูลุ้น ว่า อีนี่ช่างจะตัดผมช้าน ออกมาเป็นทรงอะไรว้า

ผมชอบภาพนี้ ตั้งชื่อว่า อินเดีย ฮิปสเตอร์

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน