VANA Ratchapruek – Westville

Life a Well-Balance Life คือคอนเซปต์ของ VANA Ratchapruek – Westville โครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้นรูปแบบใหม่บนทำเลใจกลางราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ในซอยมหาสวัสดิ์ บนเนื้อที่ 17 ไร่กว่า ออกแบบที่อยู่อาศัยที่สร้างความสมดุลของชีวิตทั้ง 3 ด้าน จนทำให้ความเป็นอยู่ของลูกค้าสมบูรณ์แบบขึ้น คือ

Work : ที่ทำงาน ด้วยการอยู่ในทำเลที่ใกล้เมือง เดินทางสะดวก ภายในเวลาไม่นาน (Urbanized)

Lifestyle : เน้นทำเลสะดวกสบายเข้ากับไลฟ์สไตล์ ด้วยความที่อยู่ติดห้าง 2 ห้าง ใกล้ห้าง 4 ห้างในโซน ที่มีแหล่งเรียนพิเศษลูกและร้านอาหาร โรงพยาบาล โรงเรียนนานาชาติ ฯลฯ ให้ใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์ 

Nature : แน่นอนว่าด้วยความเป็น “วนา” บวกกับทำเลราชพฤกษ์มีพื้นที่สีเขียวไม่เยอะ ที่นี่จึงใส่ความเป็นเมืองเขียวขจี เติมเต็มในทำเลที่ขาดไป

🌿 “𝑰 𝒃𝒆𝒍𝒊𝒆𝒗𝒆 𝒕𝒉𝒂𝒕 𝒕𝒉𝒆 𝒘𝒂𝒚 𝒑𝒆𝒐𝒑𝒍𝒆 𝒍𝒊𝒗𝒆 𝒄𝒂𝒏 𝒃𝒆 𝒅𝒊𝒓𝒆𝒄𝒕𝒆𝒅 𝒂 𝒍𝒊𝒕𝒕𝒍𝒆 𝒃𝒚 𝒂𝒓𝒄𝒉𝒊𝒕𝒆𝒄𝒕𝒖𝒓𝒆.” – Tadao Ando ปรมาจารย์ด้านสถาปัตยกรรมชาวญี่ปุ่นพูดเอาไว้ทำให้กานต์ประทับใจมากครับ เพราะเชื่อในพลังการเปลี่ยนแปลงของสถาปัตยกรรมที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมและวิถีชีวิตของคนเรา

.

เรารู้กันดีว่า สถาปัตยกรรมสามารถยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีได้ ผ่านการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความสะดวกสบาย ผ่อนคลาย ความรู้สึกปลอดภัย ด้วยแสงธรรมชาติ การไหลเวียนของอากาศและลม ผสมผสานองค์ประกอบทางธรรมชาติสามารถช่วยให้สุขภาพกายและจิตดีขึ้นได้

.

การได้อยู่ในบ้านดีไซน์สวยท่ามกลางต้นไม้สีเขียวน้อยใหญ่ ได้ใช้ชีวิตในไลฟ์สไตล์แบบ Urbanized จึงเป็นสุดยอดแห่งความปรารถนาราวกับได้เปิดกล่องของขวัญชิ้นใหญ่ที่ผูกโบว์ด้วยใบไม้สีเขียว

.

วนา ราชพฤกษ์ – เวสต์วิลล์ (VANA Ratchapruek – Westville) คือโครงการที่กานต์จะพามาเยี่ยมชมกันในพาร์ทนี้ครับ

.

VANA Ratchapruek – Westville ออกแบบมาพร้อมกับแนวคิด Enchanted Forest เพื่อให้ผู้ที่อยู่อาศัยได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของบรรยากาศที่ใกล้ชิดธรรมชาติสมกับชื่อของโครงการ “วนา” ที่แปลว่า “ป่า” นั่นเอง

.

ทันทีที่ขับรถเข้าไปภายในโครงการ เราจะได้สัมผัสถึงความเงียบสงบ ด้วยการออกแบบให้มีแนวต้นไม้น้อยใหญ่คอยทำหน้าที่เป็นบัฟเฟอร์กั้นเสียงรบกวนจากภายนอก ราวกับได้พักผ่อนอย่างเงียบสงบอยู่ในรีสอร์ตหรูท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติ ออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวมากกว่า 1 ไร่ บรรยากาศผ่อนคลาย ร่มรื่นมาก

.

ที่น่าสนใจก็คือ โครงการที่อยู่ห่างจากถนนหลักอย่างถนนราชพฤกษ์เพียง 600 เมตรเท่านั้น แต่เรากลับไม่รู้สึกถึงความจอแจหรือเสียงรถราที่วิ่งอยู่ด้านนอกถนนใหญ่แต่อย่างใด อีกทั้งยังสะดวกด้วยการเชื่อมต่อกับพื้นที่ห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่อย่าง Central Westville และ The Crystal เพราะจากถนนซอยสามารถขับทะลุเข้าหลังห้างได้เลยครับ ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที นับว่าเป็นทำเลที่ยอดเยี่ยมมาก

.

VANA Ratchapruek – Westville เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ดีไซน์ Modern Classic เน้นความเป็นบ้านหน้ากว้างไซส์ใหญ่ สร้างเกือบเต็มพื้นที่ ในราคาเริ่มต้นที่ 30 ล้านบาทขึ้นไป ออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเยอะมากและปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามใจ ส่วนงานดีไซน์ยังคงเน้นความเรียบหรูตามแบบฉบับของ Asset Five (A5) ซึ่งสั่งสมประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการบ้านหรูมานานหลายปี

.

ที่กานต์ชอบมากในงานออกแบบบ้านของ VANA Residence ก็คือ Facade ที่เป็นระแนงบังสายตาครับ ถือว่าเป็น Signature ของบ้าน VANA เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากช่วยบังแดด บังฝนแล้ว ยังคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวสำหรับคนที่อยู่ภายในบ้านได้อีกด้วยครับ

.

กานต์พาไปชมบ้านตัวอย่างหลังใหญ่ Type L บ้านเดี่ยว 3 ชั้นดีไซน์โมเดิร์น พร้อมกับพาเดินสำรวจ Clubhose ที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากถ้ำ ป่าและน้ำ มีพื้นที่ส่วนกลางสีเขียวขนาดใหญ่ให้เราได้ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติตลอดเวลา สามารถติดตามต่อจากรีวิวด้านในได้เลยครับ

.

สนใจโครงการ VANA Ratchapruek – Westville

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.061-887-5862

หรือ https://vanaresidence.com/

อีกหนึ่งจุดเด่นคือเรื่องของงานดีไซน์บ้านที่สวยหรูดูโมเดิร์น บนทำเลที่ยอดเยี่ยมมากครับ เพราะอยู่ติดห้างสรรพสินค้าชื่อดังถึง 2 ห้างคือ Central Westville และ The Crystal ราชพฤกษ์ โดยใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 1 นาที รายล้อมด้วยสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันภายในโครงการ ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่ใกล้ชิดธรรมชาติ มองไปทางไหนเราก็จะเห็นแต่ต้นไม้สีเขียวน้อยใหญ่เต็มพื้นที่ ด้วยแนวคิด Enchanted Forest เพื่อให้สมกับชื่อโครงการ “วนา” ที่แปลว่า “ป่า” มาพร้อมกับความสงบเงียบและให้ความเป็นส่วนตัวสูง เอกสิทธิ์เพียง 43 ครอบครัว เท่านั้น 
VANA Ratchapruek – Westville เป็นโครงการที่ 2 ของแบรนด์ VANA พัฒนาโครงการจาก Asset Five ซึ่งแสดงให้เห็นถึงฝีไม้ลายมือและการประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวโครงการแรกไปแล้วในโซนกรุงเทพกรีฑา ซึ่งเมื่อขยับมาพัฒนาโครงการกรุงเทพฝั่งตะวันตก ก็ยังคงนำพาคอนเซปต์ของป่าและงานดีไซน์สไตล์โมเดิร์นที่กลายเป็น Signature ของแบรนด์ มาปรับใช้ในการออกแบบและพัฒนาโครงการ
นอกจากนั้น ยังให้น้ำหนักกับเรื่องของโลเคชั่นเป็นสำคัญ เพราะต้องยอมรับว่าที่ดินผืนใหญ่ทำเลใจกลางราชพฤกษ์เช่นนี้ ไม่สามารถที่จะหากันมาได้ง่ายๆ ที่สำคัญและเราหยิบยกมา mention กันบ่อยครั้งคือทำเลที่อยู่ติดกับห้างสรรพสินค้าชื่อดัง 2 แห่ง เชื่อมต่อการเดินทางได้หลากหลายสาย อาทิ ถนนราชพฤกษ์ ถนนนครอินทร์ ถนนบรมราชชนนี ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ทางด่วนพิเศษศรีรัช ด่านบ้านฉิมพลี สถานีรถไฟฟ้าตลิ่งชัน เป็นต้น

อีกทั้งยังรายล้อมด้วยสถานศึกษาชื่อดัง อาทิ โรงเรียนเด่นหล้า, โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี, โรงเรียนานานาชาติเคนซิงตัน, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี เป็นต้น ตลอดจนสถานพยาบาล อาทิ โรงพยาบาลศรีสวรรค์ ราชพฤกษ์, โรงพยาบาลเจ้าพระยา, โรงพยาบาลวิชัยเวช, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์, โรงพยาบาลพญาไท 3 เป็นต้น
ระหว่างทางที่ขับรถมา กานต์สังเกตเห็นบรรยากาศตลอดเส้นทางค่อนข้างคึกคัก ด้วยความที่โดยรอบโครงการเป็นย่านพื้นที่พักอาศัยทำให้มีความเป็นชุมชนสูงและอยู่ติดกับห้างสรรพสินค้า ทว่าเมื่อเข้ามาด้านในซอยมหาสวัสดิ์ กลับสัมผัสถึงความเงียบสงบ 

ด้านหน้าเป็น Main Gate ทางเข้าโครงการที่โดดเด่นด้วยรูปทรงแบบฟรีฟอร์มขนาดใหญ่เลือกใช้สีครีมเพื่อให้ดูคลาสสิค ออกแบบให้มีกลิ่นอาย Concept ความเป็นภูเขา หรือผาหิน เรียงขึ้นไปเป็นชั้นๆ ที่แข็งแกร่ง ทนทาน พร้อมรายล้อมด้วยต้นไม้ เล็กใหญ่ เสมือนเป็นกำแพงภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ ที่ซ่อนความเป็นส่วนตัวด้านใน เสริมความโดดเด่นด้วยแนวไฟยาวเซาะร่องเป็นเส้นสาย ทำให้โครงการดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ประตูหน้าเป็นรั้วรางเลื่อนแยกฝั่งเข้า-ออกชัดเจน การออกแบบทางเข้าด้านหน้าเป็น Facade สี Copper สะท้อนถึงภาพลักษณ์หรูหราของ Asset Five ในฐานะผู้พัฒนาโครงการที่มาแรงที่สุดในเวลานี้ เสริมความปลอดภัยและอุ่นใจให้กับลูกบ้านด้วยการดูแลจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง รั้วมาตรฐานโครงการสูง 3 เมตรและต่อระแนงเพิ่มอีก 3 เมตร ตลอดจนติดตั้งกล้อง CCTV รอบโครงการ 
จาก Main Gate มายัง Clubhouse ด้านหน้า ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ข้อดีก็คือเราสามารถนัดหมายแขกเพื่อพบปะพูดคุยธุระได้ที่ Clubhouse โดยไม่จำเป็นต้องเชิญเข้าไปในบ้าน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวและคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักครับ 

งานดีไซน์ทางเข้า Clubhouse เป็นทรงโค้งคล้ายปากถ้ำ เลือกใช้โทนสีออกน้ำตาล และการตกแต่งออกสไตล์ Loft ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากถ้ำใหญ่ กลางป่า และใกล้แหล่งน้ำที่แสนสงบ เสมือนเป็นที่พักกายและพักใจ แสนสงบของสิ่งมีชีวิตในป่า “วนา” อีกทั้ง ด้านตรงข้ามมีรูปปั้นกวางเป็นตัวแทนของสิ่งมีชีวิตในป่าที่แฝงไปกับงานดีไซน์ Modern ให้ได้ Concept Enchanted Forest จริงๆ ตลอดจนการเลือกใช้กระจกใสกรอบอลูมิเนียมสีดำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานตกแต่ง ทำให้ได้ฟีลลิ่งของความโมเดิร์นที่ดูโปร่งสบายด้วยผนังกระจกใส อีกทั้งยังทำให้เชื่อมต่อมุมมองของธรรมชาติจากภายนอกสู่ภายในอาคารเชื่อมโยงกับต้นไม้และสระว่ายน้ำด้านนอก ทำให้ดูมีความร่วมสมัยอย่างเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เป็น Clubhouse ที่เข้ามาใช้บริการแล้วรู้สึกสบายใจดีมากครับ
อาคาร Clubhouse มีลักษณะ 2 ชั้นพร้อมพื้นที่จอดรถสำหรับลูกบ้านและแขกอยู่ด้านข้าง ออกแบบในสไตล์โมเดิร์นที่เน้นความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ได้แรงบันดาลใจมาจากถ้ำและแหล่งน้ำที่อยู่กลางป่า ตรงตามชื่อวนาเลยครับ เห็นได้จากการปลูกต้นไม้ไว้โดยรอบ มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง
Clubhouse ด้านหน้าเป็นสระว่ายน้ำดีไซน์ Freeform ขนาดใหญ่ความยาวราวๆ 25 เมตร แบ่งเป็นสระผู้ใหญ่ลึก 1.20 เมตร และสระเด็กลึก 0.60 เมตร พร้อมโซน Jacuzzi รอบสระจัดให้มี Sun Bed วางไว้ให้ลูกบ้านได้ผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติและลมเย็นๆ ที่พัดไอน้ำมากระทบผิวกายในวันหยุดสบายๆ ติดกันมีโถงขนาดใหญ่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ ออกแบบให้เป็นมุมนั่งเล่นแบบ Semi – Outdoor มองไปด้านหน้าได้วิวสระว่ายน้ำสีฟ้าและสวนสีเขียวดูร่มรื่น เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่มานั่งรอเด็กๆ เรียนว่ายน้ำหรือทำกิจกรรม ออกกำลังกายในสระ นอกจากนี้ ยังออกแบบให้มีโซนล้างตัวเป็นชาวเวอร์ให้อาบน้ำทำความสะอาด อยู่ด้านหน้าก่อนลงสระและมีห้องน้ำแยกสำหรับชาย-หญิง พร้อมห้องอาบน้ำและ Locker เก็บของด้านใน
ในส่วนของ Clubhouse เมื่อมองจากหน้าโครงการจะเห็นได้ทันทีถึงความหรูหรา ความอลังการของอาคารขนาดใหญ่ที่มีสระว่ายน้ำดีไซน์ฟรีฟอร์มเป็นแนวขวางขนานไปกับด้านหน้าอาคาร ท่ามกลางวิวของสนามหญ้าสีเขียวและไม้ดอกสีสันสดใส ทำให้บรรยากาศดูอบอวลไปด้วยรอยยิ้ม ความสุข เมื่อเราได้เห็นธรรมชาติกำลังเริงระบำอยู่ ท่ามกลางสายน้ำขนาดใหญ่ทำให้เรารู้สึกสดชื่นสบายใจ เมื่อได้มาพักผ่อน ที่ Clubhouse
Lobby Lounge ดีไซน์ให้มีบรรยากาศของคาเฟ่เก๋ๆ จัดวางเคาน์เตอร์สำหรับนั่งจิบเครื่องดื่ม อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยการออกแบบฟอร์มทรงโค้งของเพดานและผนังกระจกเพื่อให้รับกับภาพรวมของ Clubhouse ภายในตกแต่งด้วยโทนสี Dark Green ดูเรียบหรู ดูมีชีวิตชีวา ภายในจัดวางชุดโซฟาดีไซน์หลากหลายเพื่อให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ ระหว่างนั่งพัก จัดให้มีมุมแบบส่วนตัวที่กระจายออกไปทั่วบริเวณ
บรรยากาศค่อนข้างโปร่งด้วยผนังกระจกสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน กรุผนังด้วยไม้ให้ความรู้สึกสดชื่นเหมือนอยู่กลางป่า Lobby Lounge ออกแบบสำหรับเป็นพื้นที่นัดพบพูดคุยทางธุรกิจสำคัญกับแขก โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปในบ้าน สามารถนัดให้มารอพบได้ที่สโมสรส่วนกลางได้เลยครับ อีกทั้งใช้เป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนของลูกบ้านใช้งานร่วมกัน เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกของแต่ละครอบครัวภายในโครงการ 
ชั้นบนจะเป็น Fitness พื้นที่ออกกำลังกายสำหรับใครที่เป็นสายรักสุขภาพ ภายในมีพื้นที่กว้างขวาง ปลอดโปร่งเมื่อใช้งานจริง เน้นเอาใจคนรักสุขภาพสายแอคทีฟ จัดวางอุปกรณ์ในการออกกำลังกายทั้งแบบ Cardio และ Weight Training Machine โครงการติดตั้งให้เป็นของ TehnoGym แบรนด์อุปกรณ์ออกกำลังกายชื่อดังระดับโลก ที่จะมอบประสบการณ์เหนือระดับกับการออกกำลังกายในบรรยากาศของธรรมชาติและพื้นที่สีเขียวให้กับเรา 

แต่ที่กานต์ชอบคือการจัดวางลู่วิ่งและจักรยานสำหรับคาร์ดิโอไว้ริมผนังกระจกใส High Ceilings ห้องจึงดูโปร่งและโล่งกว้าง หายใจสบายๆ ไม่รู้สึกอึดอัด ทั้งยังออกแบบมาให้เราได้ออกกำลังกายไปพร้อมกับการชมวิวสวนไปพลาง ทำให้ระหว่างออกกำลังกายเราจะได้รู้สึกสดชื่นไปกับพื้นที่สีเขียว ช่วยให้คลายเหนื่อยลงไปได้บ้าง 

โดยรวมแล้วเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบได้สวยงามมาก ใช้งานได้จริงในทุกจุดและใส่ใจในทุกดีเทล จนทำให้กานต์ประทับใจในการส่งมอบประสบการณ์แห่งการใช้ชีวิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรสนิยมที่เหนือระดับจาก Asset Five
จาก Main Gate และ Clubhouse ด้านหน้าโครงการ เราจะต้องขับรถข้ามสะพานเข้ามาถึงจะเป็น Residential Area ทำให้มีระยะ Set-Back จากถนนหลักของโครงการเข้ามาพอสมควร เปิดพื้นที่สีเขียวตลอดเส้นทางและยังเป็นบัฟเฟอร์ป้องกันเสียงเพื่อให้เกิดบรรยากาศของการพักอาศัยที่เงียบสงบได้เป็นอย่างดี บรรยากาศภายในจึงให้ความรู้สึกหรูหราอลังการ เป็นเสมือนวิมานอยู่กลางป่า เพราะว่าทุกตารางนิ้วถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างประณีต ทัศนียภาพภายในโครงการดูเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงาม เนื่องจากดำเนินการร้อยสายไฟลงดินให้แล้วทั้งโครงการครับ
แบบบ้านที่กานต์พามาชมกันในวันนี้คือ Type L บ้านเดี่ยว 3 ชั้นไซส์ใหญ่สุด ที่ดินเริ่มต้น 88 – 143 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 556 ตร.ม. ฟังก์ชันบ้านขนาด 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ หน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 4 คัน 1 ห้องแม่บ้าน ไฮไลท์ของบ้านคืองานดีไซน์ที่เน้นความเป็นส่วนด้วน Facade ด้านหน้าและโถงทางเข้าประตูที่ดูสูงใหญ่แบบ Double Volume ซึ่งจะแตกต่างกับแบบบ้านอื่นๆ จึงให้ความรู้สึกโปร่งโล่งและโอ่อ่า ราคาเริ่มต้นที่ 45 ล้านบาท*

โครงการออกแบบ Exterior Design เป็นสไตล์ Modern Classic เลือกใช้โทนสีน้ำตาลและสีเทาไล่เฉดทำให้บ้านดูเรียบหรูโก้ จุดที่กานต์ชอบเลยก็คือเป็นบ้านที่มีขนาดที่ดินผืนใหญ่ ออกแบบให้ใช้สอยได้เต็มพื้นที่เพราะหัวใจหลักของโครงการคือเป็นบ้านหลังใหญ่ที่ออกแบบสวยสไตล์โมเดิร์น เน้น Space + Function การอยู่อาศัยที่สบาย มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ เปิดรับวิวสีเขียวโดยรอบบ้านผ่านผนังกระจกใส หน้าบ้านโดดเด่นด้วย Facade เพื่อให้ความเป็นส่วนตัวโดยระแนงได้วัสดุเป็น Aluminium Composite ที่มีความแข็งแรง ทนทาน มีน้ำหนักเบาจึงเปิด – ปิด ได้ง่าย ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งและเป็นส่วนตัวให้กับคนที่อยู่ในบ้าน นี่จึงทำให้ VANA ดูแตกต่างจากโครงการทั่วไป เพราะทำให้ได้เราสัมผัสกับบริบทของธรรมชาติแวดล้อมขณะพักอาศัยได้อย่างเต็มที่
สำหรับบ้านมาตรฐาน โครงการได้ติดตั้งประตูรั้วเลื่อนระแนงเหล็ก 2 ตอน ติดตั้งระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเอาไว้แล้วสำหรับรั้วอัตโนมัติ ลานจอดรถสำหรับ 4 คัน พื้นลานจอดรถในบ้านมาตรฐานเป็นแบบ Stamped Concrete โครงสร้างพื้นลงเสาเข็มลึก 22 เมตรมาให้แล้ว ทำให้หมดกังวลเรื่องการทรุดตัว ในส่วนของผนังได้ติดตั้ง EV Charger เป็นระบบไฟฟ้า 3 เฟส เอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วเช่นกันครับ ด้านหลังลานจอดมีตู้เก็บของสำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ถุงกอล์ฟ จักรยาน อุปกรณ์ทำสวน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังออกแบบให้มีประตูเล็กเชื่อมต่อเข้าบ้านฝั่งครัวไทย จึงนับว่าสะดวกมากหากเราแวะซื้อของจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเข้าบ้าน ไม่ต้องเดินผ่าน Living Area ส่วนรอบๆ บ้านจะมีที่ดินเหลือไว้สำหรับจัดตกแต่งสวนได้อีก เพื่อให้เราได้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติให้ได้มากที่สุด
ด้านหน้าทางเข้าเป็นออกแบบให้เป็นโถงสูงดูอลังการกว่าบ้านแบบอื่นในโครงการ ส่วนประตูหลักด้านหน้าบ้านเป็นลักษณะบานเปิดแบบ Over Size หน้าบานไม้สักเซาะร่องสวยงาม ส่วนประตูทางเข้ารองจากที่จอดรถ ทางโครงการได้ติดตั้ง Digital Door Lock มาให้แล้วเป็นของยี่ห้อ HAFELE จากเยอรมั
เมื่อเปิดประตูเข้าบ้านมาจะพบกับ Foyer ที่ให้ความโอ่อ่าและความเป็นส่วนตัว โถงทางเดินออกแบบเป็นแนวยาวเชื่อมต่อกับฟังก์ชันการใช้งานชั้นล่างเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Living Area ซึ่งเป็นพื้นที่พักผ่อนและรับแขกไปในตัว โดดเด่นด้วยเพดานสูงแบบ Double Volume ขนาด 6.6 เมตร ประดับด้วย Chanderlier ขนาดใหญ่ ทำให้บ้านดูแกรนด์มากยิ่งขึ้น
อีกทั้งมุมนี้ยังมีบรรยากาศค่อนข้างโล่ง โปร่งสบายด้วยหน้าต่างทรงสูงโดยรอบ เปิดรับแสงธรรมชาติจากภายนอกเข้ามาและสามารถเชื่อมต่อบรรยากาศของการพักผ่อนด้วยการมองดูวิวสีเขียวโดยรอบบ้านได้ จัดวางโซฟาที่นั่งสีเหลืองมัสตาร์ดขนาด 6 ที่นีั่งเป็นรูปตัวแอล พร้อมเก้าอี้นั่งแบบฟรีฟอร์มเอาไว้ให้เกิดความรู้สึกสบายๆ เป็นกันเอง กอปรกับหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับวิวสวนสีเขียวรอบบ้านดูสดชื่นดีมาก กานต์ชอบเวลาที่มีแสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาภายใน กระทบกับเฟอร์นิเจอร์และ Chandelier ที่แวววาว ดูงดงามราวกับเป็นภาพจิตรกรรมที่มีชีวิต ติดตั้งผ้าม่าน 2 ชั้นสูงจากพื้นจรดเพดาน ส่งผลทำให้มุมนี้ดูกว้างขวางและโปร่งสบาย 
ติดกับ Living Area ถัดเข้ามาด้านใน บ้านมาตรฐานจะได้ฟังก์ชันเป็นห้องนอนผู้สูงอายุที่มาพร้อมห้องน้ำในตัว จุดเด่นก็คือสามารถเปิดประตูออกไปสู่พื้นที่สวนและสระว่ายน้ำด้านข้างบ้านได้ 

ทว่า ด้วยความที่โครงการออกแบบโครงสร้างมาเพื่อรองรับการปรับฟังก์ชันแต่ละห้องได้อย่างสะดวกง่ายดาย เราอาจจะยุบห้องนี้ไปรวมกับมุมนั่งเล่นถ้าไม่จำเป็นต้องใช้ห้องนอนล่าง ก็จะทำให้บ้านดูกว้างขึ้น จะทำเป็น Entertainment Room หรือ Home Fitness ก็ได้เช่นกัน ส่วนบ้านตัวอย่างที่กานต์พาชม ปรับห้องนี้ให้เป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนเชื่อมต่อกับ Living Area สามารถใช้เป็นพื้นที่สำหรับนั่งจิบไวน์ พูดคุยธุระสำคัญ
ด้านข้างที่เป็นผนังทึบก็สามารถทุบออกเพื่อปรับเปลี่ยนเป็นประตูบานเฟี้ยมกระจก เพื่อให้สามารถออกไปใช้งานเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำข้างบ้านได้ ซึ่งเป็นไอเดียที่ทางโครงการออกแบบมาให้ดูสำหรับการปรับใช้พื้นที่ข้างบ้าน เราสามารถออกแบบให้เป็นสวนเล็กๆ มีเฉลียงสำหรับนั่งอ่านหนังสือหรือจิบกาแฟยามเช้า หรือจะทำเป็นสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้านก็ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ มุมนี้ยังใช้เป็นพื้นที่สำหรับรับรองแขก สำหรับนั่งจิบเบาๆ พูดคุยกันในบรรยากาศสบายๆ เป็นพรีดินเนอร์ก่อนเริ่มมื้ออาหารจริงเนื่องจากอยู่ติดกับ Dining Area ได้อีกด้วยครับ
“𝐈𝐭’𝐬 𝐚𝐦𝐚𝐳𝐢𝐧𝐠 𝐡𝐨𝐰 𝐭𝐡𝐞 𝐰𝐨𝐫𝐥𝐝 𝐛𝐞𝐠𝐢𝐧𝐬 𝐭𝐨 𝐜𝐡𝐚𝐧𝐠𝐞 𝐭𝐡𝐫𝐨𝐮𝐠𝐡 𝐭𝐡𝐞 𝐞𝐲𝐞𝐬 𝐨𝐟 𝐚 𝐜𝐮𝐩 𝐨𝐟 𝐜𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞.”
ถัดเข้าไปด้านในเป็น Dining Area ที่บ้านตัวอย่างจะเป็นโถงยาวเชื่อมต่อกับ Island ของครัวยุโรปและครัวไทยด้านใน มุมโต๊ะรับประทานอาหารซึ่งจัดไว้ 8 ที่นั่ง แต่กานต์มองว่าเรามีขนาดพื้นที่มากเพียงพอที่จะติดตั้งโต๊ะขนาดใหญ่ได้ถึง 12-14 ที่นั่งกันเลยทีเดียวครับ
ส่วนตัวกานต์ชอบมุมนี้มาก ดูสวยงามคลาสสิค ได้นั่งรับประทานอาหารในบรรยากาศที่โปร่ง โล่ง มีแสงแดดอ่อนๆ ลอดเข้ามา มองออกไปเห็นวิวสวน ต้นไม้สีเขียวด้านนอก ดูสดชื่นสบายตา ถ้าใครสังเกตให้ดีโครงการนี้เน้นผนังกระจกใสเยอะมาก ทำให้เราได้สัมผัสกับบริบทของธรรมชาติแวดล้อมได้อย่างเต็มที่ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของบ้าน เนื่องจากออกแบบให้มีระยะถอยร่นเพื่อเปิดพื้นที่สวนสีเขียวรอบบ้าน ทำให้บรรยากาศดูสดชื่นสบายตา สบายใจ ช่วยเติมอรรถรสให้กับมื้ออาหารได้เป็นอย่างดี
ติดกับ Dining Area ออกแบบให้มี Island ที่ปรับเป็นเคาน์เตอร์มินิบาร์สำหรับจัดเตรียมเครื่องดื่มและอาหาร เอาไว้ให้เด็กๆ นั่งทาน Breakfast ก่อนไปโรงเรียนได้สบายเลยครับ พร้อมอ่างล้างจานจาก BLANCO ติดตั้งมาให้

ส่วนด้านในจะมีเคาน์เตอร์จาก จาก KOHLER ท็อปเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์จาก GEOLUXE ติดตั้งมาให้ข้อดีก็คือทนทานต่อรอยขีดข่วน ทนความร้อน และเป็นผิวแบบ Food Grade สามารถใช้เป็นพื้นที่ประกอบอาหารได้เลยครับ มาพร้อม Hob, Hoob และเตาอบให้เป็นยี่ห้อ GORENJE พร้อมเปิดพื้นที่ด้านข้างสำหรับติดตั้งตู้เย็นขนาดใหญ่และตู้ Soft-Close สำหรับเก็บของเปิดปิดทั้งบนและล่าง
ที่น่าสนใจคือเราสามารถเชิญ Celebrity Chef มาเปิด Chef Table ทำอาหารให้กินแบบส่วนตัวได้ในบรรยากาศสบายๆ ของเพื่อนฝูงหรือคนในครอบครัว
บ้านตัวอย่างของโครงการได้ติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวไทยเป็นรูปตัวแอล (L-Shape) มาให้ดูเป็นไอเดีย ส่วนบ้านมาตรฐานจะเป็นการเปิดพื้นที่ไว้ให้เราได้ติดตั้งชุดครัวด้วยตัวเอง ครัวไทยมีขนาดใหญ่พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้าง สามารถแยกฟังก์ชันการทำงานของแม่บ้านในเวลาเดียวกัน เช่น ทำกับข้าวไว้บนเตาและใช้งานบริเวณอ่างล้างจานได้โดยที่ไม่กระทบซึ่งกันและกัน ออกแบบให้มีตู้เก็บของบน-ล่างเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งยังเชื่อมต่อกับ Maid Plaza เพื่อให้แม่บ้านทำงานได้สะดวกและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของบ้านอีกทางหนึ่งด้วย
บริเวณนี้จะมีห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับแขกและสมาชิกในบ้านใช้งานร่วมกัน เป็นห้องน้ำแบบไม่มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำแต่ได้ติดตั้งทั้งสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือเอาไว้ให้แล้ว

ส่วนโซนปีกซ้ายของบ้านจะเชื่อมต่อกับส่วนการทำงานของแม่บ้านทั้งในส่วนของครัวไทยและ Laundry ที่ Maid Plaza ด้านหลัง โซนนี้มีประตูรองที่เชื่อมต่อกับลานจอดรถ ทั้งยังออกแบบให้มีประตูฝั่งครัวเพื่อกั้นเป็นโซน Back of House คือให้เป็นทางเข้าออกของแม่บ้าน โดยห้องนอนและห้องน้ำของแม่บ้านจะอยู่ฝั่งด้านขวาของบ้าน ซึ่งแม่บ้านจะไม่สามารถเปิดเข้าหน้าบ้านได้โดยตรงต้องเดินอ้อมไปเข้าทางประตูเล็กฝั่งห้องครัวครับ การออกแบบลักษณะนี้ทำให้เราสามารถแยกฟังก์ชันได้ชัดเจนดีและเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวระหว่างเจ้าของบ้านกับแม่บ้าน
โครงการออกแบบให้มี Private Lift ลิฟต์ส่วนตัวในบ้านทุกหลัง สามารถรองรับลูกบ้านได้ประมาณ 3-4 คน โดยสารขึ้น-ลง 1 ถึง 3 ชั้น สามารถรองรับ Wheelchair และออกแบบให้มีมือจับด้านในติดตั้งมาให้ด้วย ส่วนด้านข้างเป็นบันไดให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินขึ้น-ลง มีห้องใต้บันไดสำหรับเก็บของได้ โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กปิดผิวด้วยไม้ยางพาราประสาน ติดตั้งมาให้พร้อมราวจับซี่เหล็กโปร่ง เพื่อเพิ่มความโมเดิร์นให้กับบ้าน โถงบันไดเปิดรับช่องแสงจากภายนอกจากบานหน้าต่างด้านข้างของแต่ละชั้น ทำให้มุมบันไดของบ้านดูสว่างมากยิ่งขึ้นครับ
บนชั้น 2 เมื่อบานประตูลิฟต์เปิดออก เราจะพบพื้นที่ Common Area ที่เชื่อมต่อกับทุกห้อง สามารถรับรองการทำกิจกรรมร่วมกันสำหรับทุกเจนเนอเรชั่นในครอบครัว
ชั้นนี้ถือเป็นพื้นที่ศูนย์กลางของบ้าน โครงการจึงให้ความสำคัญกับการออกแบบ Connecting Space ฟังก์ชันสำคัญที่เชื่อมต่อการใช้งานของห้องหับต่างๆ ภายใน ตลอดจนการเปิดพื้นที่เชื่อมต่อกับภายนอกบ้านได้อย่างกลมกลืนผ่านกระจกใส มองเห็นต้นไม้ใบหญ้า ท้องฟ้าและนกบินผ่าน งดงามราวกับภาพวาดประดับฝาผนังที่มีชีวิต
กานต์สังเกตว่าที่ VANA Ratchapruek – Westville จะออกแบบจะลงดีเทลให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ด้วยการจัดให้มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทำกิจกรรมของตัวเอง ตรงนี้ถือเป็นหลักการออกแบบที่ดีมาก
อันที่จริงแล้วเป็นการปรับแบบมาจากบ้านมาตรฐาน ซึ่งออกแบบให้ห้องนี้เป็นห้องนอนรอง แต่ได้ทุบผนังออกเพื่อเปิดพื้นที่เป็น Common Area สำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว
หากจะมีสมาชิกบางคนต้องการปลีกตัวไปใช้พื้นที่ในการอ่านหนังสือ หรือดีดกีต้าร​์ ดูหนัง ฟังเพลง ก็สามารถทำได้อย่างสบายใจโดยที่ยังคงเชื่อมต่อกับสมาชิกคนอื่นๆ ภายในบ้านได้อยู่
กานต์มองว่าหัวใจหลักของโครงการคือเป็นบ้านออกแบบสวย เน้น Space + Function และการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัว เห็นได้จากการเลือกโครงสร้างแบบ Conventional และการออกแบบที่ค่อนข้างยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ บ้านจึงได้รับการออกแบบมาอย่างถูกใจผู้อยู่อาศัย ทำให้มุมนี้กลายเป็นพื้นที่โปรดของสมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
ถัดมาด้านในติดกับระเบียงด้านข้างจะเป็นพื้นที่ของ Family Area มีพื้นที่กว้างขวาง จัดวางชุดโซฟาที่นั่งขนาดใหญ่เอาไว้หลายที่นั่ง พร้อมกับสมาร์ททีวีขนาดใหญ่ติดผนังเพื่อให้ดูโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น มุมนี้ค่อนข้างโปร่งด้วยกระจกใสเปิดช่องแสงในหลายด้าน เราสามารถเปิดประตูกระจกเพื่อออกมานั่งพักผ่อนหย่อนใจที่ด้านนอก เป็นการออกแบบที่ใส่ใจเรื่องการมองเห็นและสัมผัสพื้นที่ธรรมชาติภายนอก ด้วยการดีไซน์แบบ Inside out – Outside in 

มองออกไปจะเห็นไฮไลท์ของบ้านและโครงการไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้าน และสวนสาธารณะส่วนกลางซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านของเราไปโดยปริยาย
กานต์มองว่า หัวใจหลักของการออกแบบโครงการ VANA Ratchapruek – Westville จะให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวในทุกจุดรับสายตา โดยเฉพาะใครที่ซื้อบ้านโซนหน้าสวนส่วนกลางยิ่งได้เปรียบเลยครับ เพราะนั่นหมายความว่า เมื่อเรามองหรือกวาดสายตาไปทางไหน เราจะเห็นสีเขียวของต้นไม้เต็มไปหมด
กานต์มองว่า หัวใจหลักของการออกแบบโครงการ VANA Ratchapruek – Westville จะให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวในทุกจุดรับสายตา โดยเฉพาะใครที่ซื้อบ้านโซนหน้าสวนส่วนกลางยิ่งได้เปรียบเลยครับ เพราะนั่นหมายความว่า เมื่อเรามองหรือกวาดสายตาไปทางไหน เราจะเห็นสีเขียวของต้นไม้เต็มไปหมด 

ดังนั้น สถาปนิกจึงออกแบบให้มีระเบียงขนาดใหญ่เพื่อการพักผ่อนรับลมชมสวนสีเขียวฝั่งด้านข้างบ้าน มองออกไปเห็นสวนส่วนกลาง ทั้งยังช่วยในการเปิดรับแสงจากภายนอกทำให้บ้านดูสว่าง ไม่ต้องเปิดไฟ สามารถประหยัดพลังงานในช่วงเวลากลางวันได้

ที่สำคัญคือนอกจากจะให้ร่มเงาและความร่มรื่นแล้ว ยังช่วยเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ ดักจับอนุภาคมลพิษ และช่วยลดอุณหภูมิรอบบ้านลงได้อีกด้วย เมื่อเข้ามาภายในโครงการ เราจึงรู้สึกได้ถึงความเงียบสงบและเย็นสบาย เป็นการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติแบบเรียบง่ายที่น่าประทับใจมาก
ที่สำคัญนอกจากฟังก์ชันการใช้สอยภายในบ้านแล้ว เรื่องงานดีไซน์ก็ยังต้องให้น้ำหนัก คือบ้านมีความสวยดูดี ดูหรูหรา สมฐานะ โดยต้องไม่ลืมคำนึงถึงหลักการออกแบบที่เติมเต็มสุนทรียะในการพักผ่อนเข้ามาประกอบราวกับได้ใช้ชีวิตอยู่ในรีสอร์ตหรู
บนชั้น 2 จะมีเพียงห้องนอนรองห้องเดียวแต่ก็ถือว่ามีขนาดกว้างมาก กินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของตัวบ้านปีกซ้าย แบ่งฟังก์ชันการใช้สอยภายในห้องได้หลากหลายและลงตัวดีครับ การออกแบบจะเน้นความโปร่งสบาย เนื่องด้วยขนาดพื้นที่ใหญ่อย่างที่บอกไป ภายในห้องเปิดช่องแสงจากธรรมชาติภายนอกโดยรอบ มาพร้อมกับประตูเปิดออกไปสู่ระเบียงขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่เอนกประสงค์ฝั่งด้านหน้าบ้าน ตอนนอนอาจจะต้องติดตั้งม่านทึบแสงหลายจุดหน่อยแต่ก็ถือว่าดี เพราะได้เปิดให้แสงส่องสว่างเข้าตลอดทั้งวันโดยแทบไม่ต้องเปิดไฟ บ้านตัวอย่างตกแต่งในโทนสีน้ำตาล สีขาว สีเทา ดูคลาสสิคมากเลยครับ
ภายในห้องแบ่งฟังก์ชันออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ประตูห้องจะไม่ตรงกับเตียงนอนเสียทีเดียว เป็นการออกแบบที่คำนึงถึงความเป็นส่วน ดังนั้น เตียงนอนจะอยู่ด้านในสุดเชื่อมต่อกับฝั่งหน้าบ้านจะเป็นส่วนพักผ่อน บ้านตัวอย่างจัดวางเตียงนอนสีขาวขนาดใหญ่คิงส์ไซส์ได้เลยครับ รับกับผนังหัวเตียงลอนไม้สีน้ำตาลเข้มเพื่อให้ดูมีความคลาสสิค จัดวางโคมไฟส่องสว่างสำหรับอ่านหนังสือก่อนนอนไว้ทั้ง 2 ด้าน และมีกีต้าร์ไฟฟ้าเพื่อบ่งบอกกิจกรรมความชอบของเจ้าของห้อง ส่วนปลายเตียงจัดให้มีที่นั่งสำหรับชมทีวี หรือใช้จะเป็นพื้นที่สำหรับเอกเขนกได้ตามใจ มีประตูเปิดไปสู่พื้นที่เอนกประสงค์ด้านนอกได้ด้วย
ด้านในเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดานเอาไว้รอบห้อง ดูหรูหราด้วยแสงไฟส่องสว่างสี Warm โต๊ะเครื่องแป้งอยู่ติดผนังตรงกลาง
ด้านในสุดเป็นห้องน้ำมาพร้อมกับอ่างล้างหน้าสุขภัณฑ์จาก KOHLER และพื้นที่อาบน้ำแบบ Shower Box ติดตั้งมาให้พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered บนผนังมีการทำช่องไว้สำหรับใส่อุปกรณ์อาบน้ำมาด้วย แยกส่วนการใช้งานแบบเปียกแห้งมาให้เรียบร้อยแล้ว ด้วยความที่ออกแบบให้ห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet อยู่ติดกับห้องน้ำใช้พื้นที่ต่อเนื่องกัน ทำให้สะดวกเวลาออกจากห้องน้ำมาก็สามารถแต่งตัวต่อได้เลย จบในจุดเดียว
มาดูห้องนอนรองชั้น 3 กันบ้างซึ่งอยู่ปีกซ้ายของบ้านโซนเดียวกับห้องนอนรองชั้น 2 ทว่าตกแต่งภายในได้เปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟัน เอาใจเด็กสาววัยรุ่นที่ชื่นชอบแฟชั่นและงานออกแบบสุดเก๋ ร้อนแรงด้วยการเลือกใช้สีแดงอมส้ม การออกแบบจัดวางฟังก์ชันคล้ายๆ กัน คือเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะไม่ปะทะกับเตียงนอนโดยตรงเพราะถูกขยับให้เข้าไปอยู่ด้านในฝั่งหน้าบ้านแทนเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว
บ้านตัวอย่างจัดวางเตียงนอนสีขาวขนาดใหญ่เอาไว้ด้านในสุดสำหรับมุมพักผ่อน มาพร้อมกับเก้าอี้นั่งอ่านหนังสืออยู่โซนหัวเตียงและโคมไฟด้านข้าง รอบเตียงเปิดให้มีพื้นที่เดินได้โดยรอบ ห้องนี้จะมีการเปิดรับช่องแสงรอบด้านทั้งจากหน้าต่างฝั่งหน้าบ้านบริเวณระเบียง
จากนั้นก็แยกสัดส่วนของพื้นที่ส่วนตัว มุมเสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet ที่กระตุ้นให้อยากสนุกไปกับแฟชั่น มีโต๊ะเครื่องแป้งวางอยู่ตรงกลางเชื่อมต่อระหว่างมุมแต่งตัวกับห้องน้ำ ส่วนตัวประทับใจการเลือกใช้สีที่สะท้อนคาแรกเตอร์ของผู้อยู่อาศัยได้ชัดเจนดีครับ และการเลือกเติมบรรยากาศด้วยไฟเซาะร่องก็ช่วยทำให้ห้องนอนดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
มุมด้านในสุดค่อนไปทางหลังบ้านติดกับห้องแต่งตัวจะเป็นห้องน้ำในตัว ชอบตรงที่ห้องนอนทุกห้องภายในบ้านจะเป็นแบบ En Suite คือมีห้องน้ำส่วนตัวทุกห้อง แบ่งสัดส่วนการใช้งานชัดเจน แยกส่วนการใช้งานแบบเปียกแห้งมาให้เรียบร้อยแล้ว และติดตั้งอุปกรณ์ครบครัน
เมื่อขึ้นบันไดหรือขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 3 จะเจอกับพื้นที่ Semi-Outdoor ที่ให้ช่องแสงขนาดใหญ่กลางชั้น 3 และเป็นพื้นที่ติดกับห้องนอนรอง ออกแบบให้เป็น Inner Courtyard ซึ่งออกแบบเป็นสวนที่เพิ่มพื้นที่สีเขียวและเปิดช่องแสงให้กับตัวบ้านภายใน สามารถปลูกไม้กระถางขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านได้ เราสามารถใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนภายนอก นั่งชิงช้าสบายๆ หรือว่าจัดเป็นชุดโซฟาที่นั่งกลางแจ้งก็ได้ครับ เหมาะสำหรับมานั่งอ่านหนังสือหรือจิบชายามบ่าย มองเห็นผู้คนผ่านไปมาและสัมผัสกับบรรยากาศของธรรมชาติสีเขียวรอบบ้าน ซึ่งกานต์มองว่าเป็นไอเดียในการออกแบบที่ดีมาก สมาชิกทุกคนในบ้านจะได้มีพื้นที่ส่วนตัวและยังคงมีพื้นที่ส่วนรวมสำหรับทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว
Master Bedroom กินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของตัวบ้านบนชั้น 3 ภายในห้องแบ่งสรรปันส่วนพื้นที่ได้ชัดเจน โดยที่เมื่อเราเปิดประตูเข้าห้องไปจะยังไม่เจอเตียงนอนและส่วนพักผ่อนในทันทีเป็นการออกแบบที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวเช่นเคย

ดังนั้น บ้านตัวอย่างจึงจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ไว้เกือบชิดผนังฝั่งด้านข้าง เปิดรับแสงแดดอ่อนๆ ตอนเช้าและเปิดรับแสงจากสองด้านคือฝั่งหน้าบ้านและด้านข้างทำให้ได้วิวสวนส่วนกลาง รู้สึกสดชื่นทันทีที่ตื่นนอน มองลงไปเห็นสระว่ายน้ำส่วนตัวภายบ้าน มีพื้นที่รอบเตียงให้เดินได้สบายเลยครับ ส่วนปลายเตียงเป็นชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ให้เรานอนชมซีรีย์เรื่องโปรดจากบนเตียงได้เลยเช่นกัน อีกหนึ่งไฮไลท์ของห้องนี้คือจุดเด่นคือสามารถออกไปใช้งานระเบียงเปิดรับวิวได้ถึง 2 ฝั่ง
ด้านข้างเตียงเป็นพื้นที่นั่งเล่นภายในห้องนอน จัดวางโซฟานั่งพักผ่อนสบายๆ แบบเข้ามุม ด้วยความที่พื้นที่ภายในห้องค่อนข้างกว้าง สามารถจัดวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางสำหรับนั่งจิบกาแฟพักผ่อน
หรืออยากจะให้แม่บ้านเสิร์ฟอาหารเช้าภายในห้องนอนก็สามารถทำได้เลยครับ บรรยากาศจึงคล้ายกับได้พักผ่อนอยู่ในรีสอร์ตหรูที่มีบรรยากาศของธรรมชาติสีเขียว ให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ภายในห้องได้สบายเลยครับ
ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องแต่งตัว Master Walk-in Closet ขนาดใหญ่ ทางโครงการจัดให้เป็น Build-in Wardrobe ติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ขนานไปกับผนังเว้นที่วางตรงริมผนังด้านในสำหรับจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้งมาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่
หน้าต่างด้านข้างสำหรับเปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้สะดวกมากขึ้นในการแต่งหน้าและสามารถเปิดออกเพื่อระบายอากาศได้ เมื่อเปิดไฟสี Warm ทำให้บรรยากาศภายในห้องแต่งตัวดูหรูหรามาก สามารถนำเอาไอเดียไปปรับใช้ในการตกแต่งบ้านตัวเองได้นะครับ
ถัดเข้าไปเป็น Master Bathroom ห้องน้ำค่อนข้างกว้างขวาง ทำให้จัดแบ่งฟังก์ชันการใช้งานภายในได้ชัดเจน ห้องน้ำแยกส่วนเปียกแห้งมาให้เรียบร้อยแล้ว เมื่อเดินเข้าไปเราจะพบกับเคาน์เตอร์อ่างล้างมือสีขาวขนาดใหญ่แบบ His&Her พร้อมตู้บานปิดด้านล่างสำหรับเก็บของได้ และมีกระจกเงาบานใหญ่ช่วยทำให้ห้องกว้างยิ่งขึ้นไปอีก ด้านในเป็นห้องสุขาและห้องอาบน้ำ อุปกรณ์ทั้งหมดเป็นของแบรนด์ KOHLER แต่อีกหนึ่งความพิเศษของห้องนี้คือมีอ่างอาบน้ำติดตั้งมาให้บริเวณกลางห้องเลยครับ สามารถเปิดหน้าต่างเพื่อรับแสงธรรมชาติเข้าไปภายใน เผื่อให้เราได้ผ่อนคลายในบรรยากาศแบบส่วนตัว แนะนำว่าระหว่างแช่ฟองโฟมนุ่มเบาๆ ให้เราจุดเทียนหอมจาก Jo Malone London ไปด้วยนะครับ จะช่วยทำให้ผ่อนคลายสามารถใช้เวลาส่วนตัวอยู่ภายในห้องน้ำได้อย่างเต็มที่เลยครับ 
เนื่องจากโครงการเริ่มเปิดขายบ้านเฟสใหม่โซนหน้าสวน กานต์เลยอยากพามาชม Main Park ส่วนกลางอีกหนึ่งจุดที่อยู่ด้านใน ซึ่งอยากกระซิบว่าใครที่ซื้อบ้านในช่วงนี้จะได้เปรียบมากครับเพราะเท่ากับว่าเราได้พื้นที่สีเขียวและวิวสวนขนาดใหญ่ที่มองเห็นได้จากในบ้านเลย ช่วยเติมเต็ม Green Living เพิ่มเข้าไปอีก
สังเกตว่างานภูมิสถาปัตย์ของสวนจะเน้นฟอร์มของทรงกลมเพื่อสอดรับกับการออกแบบโครงสร้างหลักของ Clubhouse ด้านหน้าเช่นกัน ทำให้ได้สัมผัสถึงความเงียบสงบ ความร่มรื่นด้วยพื้นที่สีเขียวและต้นไม้น้อยใหญ่ ด้วยความที่เราได้อยู่ที่นี่กันตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงหัวค่ำ เราจึงชอบบรรยากาศตอนเย็นของสวนมาก
สวน เป็นเหมือนศูนย์รวมกิจกรรมสันทนาการนอกบ้านให้กับสมาชิกของโครงการ สามารถชวนเด็กๆ มาปูผ้านั่งเล่นบนสนามหญ้า หรือว่าเล่นสนุกที่ Playground ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบให้เป็นพื้นยางเพื่อรองรับแรงกระแทกและป้องกันอันตราย แต่หากใครไม่อยากออกกำลังกายในฟิตเนส หรือไม่อยากให้เด็กๆ อยู่แต่ในบ้าน อยากให้มาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ก็สามารถมาใช้พื้นที่ส่วนกลางด้านในได้ หากบ้านไหนมีผู้สูงอายุก็อยากให้ชวนกันมาเดินแกว่งแขวนเบาๆ ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพยามเช้า หรือวิ่งจ๊อกกิ้งหลังเลิกงานตอนเย็นก็ได้เช่นกัน
Vincent van Gogh ศิลปินชื่อก้องโลกเคยบอกว่า “𝐈𝐧 𝐧𝐚𝐭𝐮𝐫𝐞, 𝐭𝐡𝐞𝐫𝐞 𝐢𝐬 𝐧𝐨 𝐜𝐨𝐥𝐨𝐫 𝐭𝐡𝐚𝐭 𝐢𝐬 𝐧𝐨𝐭 𝐛𝐞𝐚𝐮𝐭𝐢𝐟𝐮𝐥.” – ในธรรมชาติไม่มีสีใดที่ไม่สวยงาม พื้นที่โดยรอบ Main Park จึงปลูกต้นไม้ไว้หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งไม้ดอก ไม้พุ่ม ไม้ยืนต้นฟอร์มเด่นสลับกันไปเพื่อให้เกิดร่มเงาและร่มรื่น ประดับด้วย Pavillion ทรงโค้งตรงกลางสวน เป็นการนำเอาศิลปะจากธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานสถาปัตยกรรม
#โดยสรุป VANA Ratchapruek – Westville เป็นอีกหนึ่งโครงการบนถนนราชพฤกษ์ ที่กานต์มองว่ามีความน่าสนใจด้วยทำเลที่ตั้งซึ่งเป็น Rare Item ในตอนนี้เพราะอยู่ติดกับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ถึง 2 แห่ง ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับชีวิตเราได้ดีมาก โดยใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 1 นาที ทั้งยังเชื่อมต่อกับถนนสายหลักสามารถสัญจรได้หลากหลาย สะดวกและรวดเร็ว

โครงการยังออกแบบเน้นให้มีความเป็นส่วนตัวสูงเหมาะสำหรับการพักผ่อน ด้วยพื้นที่ 17 ไร่กว่า ทว่ามีบ้านเพียง 43 ยูนิตเท่านั้น พร้อมกับจัดสรรให้มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ 1 ไร่กว่า รวมถึงมีบรรยากาศที่ผ่อนคลายและใกล้ชิดกับธรรมชาติตามแนวคิด Live a Well-Balanced Life อย่างแท้จริง

สนใจโครงการ VANA Ratchapruek – Westville สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.061-887-5862 หรือ https://vanaresidence.com/ ดูน้อยลง
KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน