V VILLAS HUA HIN – MGallery
นิยามของ “วันพักผ่อนอย่างมีระดับ” ที่แท้ทรู
_____________________________________________
วันเวลาที่เปลี่ยนไป
นิยามคำว่า “ท่องเที่ยวพักผ่อน” ของผมก็เช่นกัน
จะว่าไปในระยะหลัง ผมแทบจะไม่ได้ออกไปเที่ยวในลักษณะ
“สร้างแลนด์มาร์ก” ไปเรื่อยๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
อาจจะมีบ้างสัก 1-2 ที่ หากปรารถนาจะไปจริงๆ
ที่เหลือคือการพักผ่อน อยู่กับตัวเอง อยู่กับคนรอบข้าง
ท่ามกลางสถานที่สวยงาม นัยว่าเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศชีวิต
ให้รู้สึกได้ถึงความผิดแผกแตกต่างจากวิถีทั่วไปในแต่ละวันบ้าง
.
ผมเลือก “V Villas Hua Hin, MGallery”
เพราะคิดว่าตอบโจทย์วิถีชีวิตคนกรุงแบบเรามากๆ ครับ
.
“I don’t think many people have a very good understanding of leisure and the importance it plays in our lives. People today are too competitive about leisure, as if it needs to have some other value in order to be able to fit into our puritanical view of the world.”
.
-Jack Nicholson- เคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Esquire ซึ่งพอจะทำให้เราเข้าใจความหมายของการพักผ่อนที่แท้จริงว่า “คืออะไร”
.
เลือกมาหัวหินเพราะความเป็นเมืองตากอากาศที่ใกล้
ใช้เวลาขับรถไม่นานนักจากกรุงเทพฯ
เพื่อมาสัมผัสกับทะเล หาดทราย ท้องฟ้า และเข้าพักที่วิลล่าดีๆ สักหลัง
ให้รางวัลในวันพักผ่อน หลังจากที่ทำงานหนักมานาน
วีวิลล่า หัวหิน จึงเป็นที่ที่เราสามารถนั่งฟังเสียงคลื่น เคล้าเสียงลม
ดอมดมกลิ่นไวน์และชีสต์ แกล้มหนังสือดีๆ สักเล่ม ที่ติดรถมา
มีไอเดียอะไรที่ผุดออกมาก็หากระดาษ ปากกามาเตรียมจดไว้
.
อยากได้อะไรเพิ่มเติมเรียก “สาจ๋า” ได้เลยครับ
สาเป็นบัตเลอร์ที่คอยดูแลวิลล่าที่กานต์พัก
เรียกบ่อย มาไว ใช้งานได้ดี จนบางทีก็อดคิดไม่ได้ว่า
ชีวิตแบบ วทานิกา มันดีงามแบบดีนี่เอง
.
ความพิเศษของ V Villas Hua Hin นอกจากมีบัตเลอร์ส่วนตัวดูแลตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว วิลล่าแต่ละหลังยังออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจให้เป็น ที่พักตากอากาศสไตล์พาลาซโซ่ เน้นความเป็นส่วนตัวเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริงครับ (รั้วกั้นแต่ละวิลล่าสูงมาก)
.
เอาล่ะ!!
ถ้าไม่อยากเล่นน้ำทะเล
และบางเวลาเราต้องการความเป็นส่วนตัว
เราไปนั่งเล่นกันในวิลล่า สั่ง Afternoon Tea มาทานกันริมสระ
ที่วีวิลล่าเป็นสระว่ายน้ำแบบ Pool Villa ยาวกว่า 10 เมตร
จิบ Earl Gray ยามบ่าย ทานคู่ขนมจากฝรั่งเศส
เพิ่มความเข้ากันด้วยเพลงบอสซ่าเบาๆ จากเครื่องเสียง BOSE
ตกค่ำ ที่วิลล่ามี V Villas Seafood BBQ Buffet
ย่างล็อปสเตอร์ ซีฟู๊ดริมหาด ทานกันสดๆ เอาให้พุงกาง
.
ทุกเช้าผมจะตื่นไปใส่บาตรริมหาดหัวหินออกกำลังกาย เดินแกว่งแขนเบาๆ ริมทะเล รับอากาศบริสุทธิ์
.
ส่วนอาหารเช้าทานกันที่ห้องอาหารวิลลาซโซ่ ซึ่งเป็นสุดยอดห้องอาหารที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมายเพิ่มความพิเศษด้วย “Champagne Breakfast” เริ่มต้นเช้าวันใหม่ให้อารมณ์พริ้วไหว มีความสุขมากครับ
.
ผมว่าเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับวันพักผ่อนอย่างมีระดับ
เป็น Leisure Day ที่แท้ทรู
.
อ่านรีวิวฉบับเต็ม คลิ๊กที่นี่ >> https://bit.ly/2jZITCA
.
/ the journalist /
LEISURE TRAVEL x HOTEL LIFESTYLE
fanpage : https://www.facebook.com/kantjournal
website : https://www.kantjournal.com
twitter : https://twitter.com/kantjournal
instagram : https://www.instagram.com/kantjournal
soundcloud : https://www.soundcloud.com/kantjournal
podbean : https://www.podbean.com/kantjournal
#KANT#KΔNT#leisuretravel#hotellifestyle
#journalisttravel#luxurytravel
#VVillasHuaHin#PrivatePoolVilla#VVillasMoment
—
V Villas Hua Hin – MGallery ☆☆☆☆☆
63/39 Petchkasem Road, Hua Hin
77110 Prachuap Khiri Khan, Thailand
Tel: +66 3261 6039
Fax: +66 3251 2043
Email: reservation@vvillashuahin.com
วิลล่าที่จองไว้ ขนาด 260 ตารางเมตร เป็น One Bed Pool Villa ถือว่ามีขนาดใหญ่มาก ส่วนของสระน้ำและพื้นที่นอกบ้านก็มีขนาดเกือบครึ่ง กว้างขวางโอ่โถงดีครับ
ความตั้งใจแรก ของรูปนี้คือ อยากให้มันรกๆ กิจกรรมทุกอย่างเกิดขึ้นบนเตียงนอนหนานุ่มแห่งนี้ อยากมีโมเมนต์ กินๆ นอนๆ พักผ่อนเพลินๆ หยิบแมกกาซีนมาอ่าน หยิบ iPad มาสไลด์ หาหนังในเนตฟลิกซ์ดูไปเรื่อยๆ ทีวีจอใหญ่ดีครับ
วีวิลล่า หัวหิน ขับรถจากกรุงเทพฯ มาใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมงครึ่งก็ถึง ป้ายภายนอกดูเรียบง่าย ระวังขับเลยนะครับ ดูซอย หัวหิน 83 ไว้ให้ดี เลยมานิดนึงก่อนถึงทางแยกกลับรถครับ
ที่ “วี วิลล่า” จะเป็นรีสอร์ทที่เน้นความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าพักเป็นอย่างมาก มีบริการที่จอดรถชั้นใต้ดิน มีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด ให้สมกับที่ทางรีสอร์ทวางตัวเองไว้เป็นระดับ 6 ดาว
ดรอปกระเป๋าลงเสร็จแล้วก็ สำรวจล็อบบี้ก่อนเลยครับ ผมชอบการตกแต่งบริเวณล็อบบี้ ฟาซาดใช้ไม้ตีเป็นระแนง บังสายตาจากภายนอกที่มองเข้ามา จึงดูโปร่งโล่งดี แต่มีความเป็นส่วนตัวสูงครับ
เสริมบรรยากาศด้วยของประดับตกแต่งและดอกไม้สด เพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวา
ผมคิดว่าใช้คำว่า “โมเดิร์นไทย” น่าจะเข้ากับสไตล์การตกแต่งของที่นี่ครับ การตกแต่งภายในก็จะเป็นสถาปนิกทีมเดียวกับ Vie Hotel Bangkok (J+H Boiffils)
มาลัยพวงเล็ก พร้อมผ้าเย็น หอมกลิ่นสมุนไพรไทย เป็นการต้อนรับสไตล์ไทย ความประทับใจแรกเมื่อมาถึง
เมื่อCheck in เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาไปชื่นชมความสวยงามของห้องพักกันบ้างครับ ระหว่างเดินก็จะมีบัทเลอร์มาแนะนำตัวว่า จะเป็นผู้ดูแลเราตลอดการเข้าพัก สามารถเรียกใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
บัทเลอร์ของผมชื่อ “นิสา” ตลอดเวลาจึงเรียกหา “สาจ๋าาาาา” ประหนึ่งเป็นวทานิกา ก็มิปาน
ทางเดินจากล็อบบี้ไปสู่ห้องพักถูกจัดแต่งไว้อย่างสวยงามลงตัว ทางรีสอร์ทเลือกใช้อิฐบล็อกสีเทาดำปูเป็นทางยาว ตลอดสองข้างทางมีไม้พุ่มต้นไทรสูงใหญ่สีเขียวสดใสที่ตัดแต่งกิ่งไว้อย่างสวยงาม ราวกับเดินอยู่ในสวนสไตล์อังกฤษ โดยทางเดินนี้จะเชื่อมต่อระหว่างวิลล่าและทอดยาวไปถึงบริเวณสระว่ายน้ำและริมชายหาดได้ จึงกลายจุดเด่นสำคัญของวี วิลล่า ที่เราสามารถสังเกตได้อย่างชัดเจนคือการออกแบบพื้นที่โดยรอบให้มีเสน่ห์เฉพาะตัว
เราพักกันที่โซนใหม่ครับ เป็นโซนที่เพิ่งสร้างวิลล่า 1 ห้องนอนเป็นส่วนใหญ่
ที่นี่มีทั้งหมด 28 วิลล่า ผมพัก V24 เป็น One Bedroom Pool Villa (ขนาด 260 ตารางเมตร) ซึ่งห้องนี้ถ้าลัดมาทางร้านคาเฟ่ลาวี่จะเดินใกล้กว่าครับ
พูล วิลล่าแบบ 1 ห้องนอน ออกแบบมาเพื่อรองรับสำหรับคู่รักที่อยากได้ความโรแมนติก ห้องนอนขนาดใหญ่พร้อมเตียงขนาดคิงไซส์และห้องน้ำในตัว
โถงด้านนอกมีเก้าอี้ไว้นั่งพักผ่อนพูดคุยกัน ลานค่อนข้างกว้าง ถ้ามากับแฟน ตอนเย็นน่าจะชวนกันทำบาร์บีคิวทานกันก็คงจะสนุกดี
บริเวณโซนด้านนอกวิลล่าจะมีตู้เก็บของซึ่งเป็นของคุณสาจ๋าเค้า พวกเทียนหอม ไม้กันยุง มีตู้เก็บรองเท้าแตะสำหรับใส่ไปเดินชายหาด
ส่วนห้องเล็กๆ ด้านในเป็ยคล้ายๆ กับครัว มีอ่างล้างจาน ตู้เย็นขนาดใหญ่และไมโครเวฟ เป็นพื้นที่ทำงานของ “สาจ๋า” แต่ว่าไม่ได้พักที่นี่นะครับ
เดย์เบดขนาดใหญ่ นอนอาบแดดได้ พร้อมกัน 2 เลยครับ “สาจ๋า” เตรียมผ้าเช็ดตัวไว้ให้ตั้งแต่ตอนมาถึง เผื่อว่า คุณกานต์จะเล่นน้ำได้เลย
เดี๋ยวว ช้าก่อน
สระน้ำในวิลล่า ค่อนข้างใหญ่ ยาวเกือบ 10 เมตรได้ จากห้องนั่งเล่นยาวไปจนถึงห้องนอน ประตูกระจกจากทั้งสองห้องสามารถเปิดได้ แช่น้ำได้จากภายในตัวบ้านทันที
มีโซนพักนั่งสำหรับแช่จากุซชี่ด้วยครับ นวดแรงดี ผมชอบ
เข้าบ้านกันดีกว่า ภาพแรกที่เปิดประตูเข้าบ้านมาคือมุมนี้ครับ เป็นลักษณะเหมือนโถงด้านนอก สำหรับเก็บกระเป๋าเดินทาง ราวแขวนเสื้อยาวจรดปลายโถง พร้อมชุดคลุมอาบน้ำและชุดนอน ใส่สบายมากครับ มีป้ายแขวนไว้เล็กๆ บอกว่า หากสนใจชุดนอนมีขายชุดละ 1,500 บาท แต่ยอมรับเลยว่า ชุดนอนใส่สบายจริงๆ ครับ
ทางวิลล่าจัดเตรียมตู้นิรภัยไว้ให้ด้วย วางไว้บนตู้เก็บของอีกที ซึ่งทำให้อดคิดไม่ได้ว่า พื้นที่ใช้สอยเยอะมาก เหมาะแก่การอยู่ long stay มากๆ
ด้านในเป็นโซนเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ มีบานเลื่อนกั้นเปิดปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวเวลาทำธุระครับ
ลิฟวิ่งรูม มีความโปร่ง โอ่โถง มากครับ โซฟาเบดคือใหญ่ นั่งหลายคนได้ สามารถใช้แทนเตียงนอนได้เลย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทีวี เครื่องเสียงจาก Bose นิตยสารหัวนอก ที่นี่มีบริการฟรีไวไฟ แต่ไม่ต้องใส่รหัสให้ยุ่งยาก อันนี้ดีมากๆ แถมยังมีบริการ iPad ด้วยครับ
ด้านซ้ายของลิฟวิ่งรูม จะเป็นเค้าท์เตอร์ชา-กาแฟ เติมทุกวันครับ “สาจ๋า” เตรียมคุ๊กกี้ธัญพืชไว้ให้ด้วย
ส่วนในตู้ปิดจะเป็นที่เก็บถ้วย เก็บแก้ว มี สแนค ด้านล่างเป็นตู้เย็นแช่เครื่องดื่ม และตู้แช่ไวน์ครับ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะครับ)
เดินจาก living room มาห้องนอนบ้าง ตกแต่งได้เรียบหรูโก้ดีครับให้ความรู้สึกพอดีไม่มากหรือน้อยจนเกินไป มีหมอนให้เลือกหลากหลาย อย่างผมเป็นคนชอบหมอนแข็งหน่อย “สาจ๋า” ก็เอามาเปลี่ยนให้
ส่วนประตูกระจกมองเห็นสระว่ายน้ำภายนอก สามารถเปิดประตูกระจกออกไปเชื่อมต่อกันได้ครับ
“สาจ๋า” วางน้องหมีคู่รักไว้บนเตียง เป็นการทักทาย แต่น่าเสียดาย ทางวิลล่าน่าจะมอบให้กับแขกเป็นที่ระลึก น้องหมีน่ารักมาก
ในห้องนอน มองเข้าไปด้านในจะเป็นโต๊ะทำงาน พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เพื่อให้การติดต่อสื่อสารทำงาน ทำธุรกิจไม่สะดุดหยุดนิ่งครับ
ผมชอบกลิ่นอโรม่าที่เตรียมไว้ภายในวิลล่า ผมว่าได้กลิ่นหอมแล้วชวนผ่อนคลายดีครับ รู้สึกสมองโล่งดี เวลาได้อยู่ในสถานที่สัปปายะเช่นนี้
โต๊ะทำงานแสดงส่วนเชื่อมต่อระหว่างประตูด้านซ้ายคือโซนห้องน้ำ และประตูด้านขวาคือโถงกลาง จริงๆ แล้วขวาสุดจะมีประตูเชื่อมต่อไปยังห้องนั่งเล่นอีกบานครับ
อ่างล้างหน้า ด้านนึงเอาไว้ใช้ อีกด้านเอาไว้ทำอะไรก็ได้ เพราะมาคนเดียว 555 ทางโรงแรมเตรียม Amenity ไว้ให้ครบครัน
ที่ชอบอีกอย่างในการบริการของบัทเลอร์อย่าง “สาจ๋า” คือตั้งแต่มาวันแรก ผมเริ่มมีอาการเจ็บคอ กระหายน้ำตลอดเวลา จากนั้น สาจ๋าก็วางน้ำดื่มกระจายไว้ทุกจุดในวิลล่าเตรียมพร้อมให้เลยครับ น่ารักมาก เป็นการใส่ใจในรายละเอียดที่ดีเยี่ยมมากๆ ครับ
ห้องอาบน้ำแยกเป็น โซนเรน ชาวเวอร์ และ จากุซซี่แบบคู่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกของ Hermès
เสริมความมีระดับมากยิ่งขึ้นด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ Hermès แบรนด์หรูระดับโลก ทำให้ผมรู้สึกได้ถึงการใส่ใจในทุกรายละเอียด แม้กระทั่งเครื่องใช้ภายในห้องน้ำ ซึ่งกลิ่นที่ได้มีเอกลักษณ์เฉพาะมากๆ ครับ
กลับมาแล้วก็ยังคิดถึงกลิ่นนี้และบรรยากาศดีๆ ที่วิลล่าครับ
ทางวิลล่าเตรียมน้องเป็ดไว้ให้ด้วย ดูเข้ากันกับความน่ารักสดใสของผมใช้ได้
ว่าไหมครับ
สาจ๊ะ … เอาไปเปลี่ยนด่วนเลยจ่ะ!!
สั่ง Floating Afternoon Tea มาทานในวิลล่า ที่นี่จะมีชื่อเรียกว่า “วี วิลล่า In-Villa High Tea” เครื่องดื่มมีให้เลือกหลากหลาย ผมให้สาเตรียมให้ทั้งชา กาแฟ หรือจะเป็นแชมเปญ! ก็มีให้บริการ จากนั้นก็เติมเต็มด้วยขนมแสนอร่อยสไตล์ฝรั่งเศส ทั้งชีสเค้ก ชูส์ ทาร์ต มาการอง ช็อคโกแลต
ราคา
1,500++ บาท (รวม ชา กาแฟ หรือน้ำผลไม้)
4,000++ บาท (รวม ฮาล์ฟ แชมเปญฝรั่งเศส Moët & Chandon)
วิวจากสระว่ายน้ำ ที่มีทะเลและท้องฟ้าโอบกอดเอาไว้ พร้อมร่มสีดำ 4 คัน คอยทำหน้าที่ผู้ให้ความสบายใจ กลายเป็น Signature Shot ที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปที่นี่ครับ
ภาพมุมสูงบริเวณสระว่ายน้ำ และหน้าหาด โซนนี้ผมว่าทรายขาวสะอาดดีครับ คนก็ไม่ค่อยพลุกพล่าน
ทางวิลล่ากำลังจัดเตรียม V Villas Seafood BBQ Buffet ตอนเย็น ที่เห็นเป็นหลังคาสีเทาด้านขวา คือโต๊ะพิเศษที่แนะนำว่าต้องจอง หากใครต้องการมุมส่วนตัวครับ เพราะมีลักษณะเป็นหลุมลงไปในสระน้ำอีกที ให้ความรู้สึกโอบล้อมไปด้วย น้ำ ฟ้า และความรัก
ทางวิลล่ามีบริการเสิร์ฟซันเซ็ทคอคเทลทุกเย็นวันศุกร์-เสาร์ด้วยครับ ดื่มเบาๆ ก่อนดินเนอร์
บรรยากาศริมชายหาดกับการทานซีฟู้ดบาร์บีคิว ผมว่าเป็นอะไรที่ลงตัวสุดครับ อาจจะต้องจองโต๊ะไว้ก่อน แจ้งที่บัตเลอร์ได้ครับ
ผมชอบไอเดียการจุดเทียนเป็นโลโก้ของทางรีสอร์ท ถ้าตอนพลบค่ำ มืดกว่านี้ก็จะสวยกว่านี้ครับ
วี วิลล่า ซีฟู้ด บาร์บีคิว ทุกคืนวันศุกร์-เสาร์
เชฟคัดเอาวัตถุดิบสดใหม่นานาชนิด มีทั้งล็อปสเตอร์ กุ้งลายเสือตัวใหญ่ ปูม้าสดๆ แซลมอนนอเวย์ เนื้อวากิวออสเตรเลีย ปลา ปลาหมึก เนื้อ แกะ หมูและอื่นๆ อีกมากมาย
ขีดเส้นใต้คือ น้ำจิ้มสุดพิเศษ เด็ดจริงๆ อยากได้อะไรแจ้งเชฟได้เลยครับ ย่างกันสดๆ
ไม่อยากจะบอกเลยว่า เปิดเตามาที่เห็นทั้งหมดนี้คือของคุณกานต์เอง แหะๆ
วี วิลล่า ซีฟู้ด บาร์บีคิว ราคา 2,500++ บาท ต่อท่าน
ส่วนตัวชอบสเตชั่นส้มตำมากๆ ครับ รสชาติจัดจ้านดี เป็นตำไทยกุ้งสด แต่ถ้าเผ็ดก็มีไอติมหลอดคอยแก้ให้ครับ
ที่นั่งส่วนตัวกับครอบครัวและคนพิเศษ แนะนำว่าแจ้งบัทเลอร์จองให้ตั้งแต่เนิ่นๆ ครับ
ทานกันเพลินจนมืดเลยครับ บัฟเฟต์จบที่ 4 ทุ่ม บรรยากาศยังชิลล์มากๆ เลย คืนนี้ดื่มไปหลายแก้วหน่อย ค่อยหลับสบาย
เครื่องประทินผิวของเราก่อนนอนคืนนี้
แต่ที่ผมชอบในความใส่ใจอีกอย่างของทางวิลล่า คือมีการเตรียม ยาทาเล็บไว้ให้ ยี่ห้อ O-P-I แม้จะดูว่าเอามาให้ทดลองใช้ก็เถอะ แต่ก็ดูเป็นกิจกรรมที่คุณผู้หญิงน่าจะชอบ
เข้าห้องนอนมา สาจ๋า เข้ามาเทิร์นดาวน์เตียงเรียบร้อยแล้ว พร้อมเตรียมช็อคโกแล็ต น้ำเปล่า มีผ้าปิดตา เอียปลั๊ก และมีมาร์กหน้าด้วยจ้าาาาาาา
ตามคอนเซปต์ วัดก็เข้า เหล้าก็กิน
ดื่มจนดึก (ก็ไม่ดึกมากเท่าไร) แต่ก็ต้องตื่นตอนเช้าให้ได้ มาเดินออกกำลังกายสูดอากาศบริสุทธิ์ โถงทางเดินนี้จะนำ พาไปสู่ชายทะเลครับ
ผมเคยได้อ่านไอเดียการออกแบบโดยการใช้แนวพุ่มไม้สีเขียวชะอุ่มนำทาง ซึ่งที่นี่จะออกแบบให้มีลักษณะคล้ายนาขั้นบันไดที่อยู่ระหว่างหุบเขา ค่อยๆ ก้าวเดินช้าๆ ตามเส้นทางที่เล่นระดับกันไป จนจะนำเราไปสู่สระว่ายน้ำของรีสอร์ทและจบที่ความสวยงามของทะเลอ่าวไทย
ความสบายใจแรกยามเช้าของแขกที่นี่คือได้ใส่บาตรพระภิกษุที่เดินบิณฑบาตรอยู่ริมชายหาด ซึ่งเป็นภาพที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก
ซึ่งหากเราแจ้งกับบัทเลอร์ หรือแจ้งทางรีสอร์ทตอนเช็คอิน เจ้าหน้าที่ก็จะจัดเตรียมชุดใส่บาตรไว้ให้ในตอนเช้า
ส่วนตัวชอบมากครับ เนื่องจากมองว่าเป็นการส่งเสริมประเพณีไทย และช่วยกันอนุรักษ์กิจกรรมทางพุทธศาสนา โดยการใส่บาตรริมชายหาดซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมืองหัวหินอีกทางหนึ่งด้วย
จากนั้นก็เป็นบรรยากาศของอาหารเช้าที่นี่ครับ อาหารเช้าเราทานกันที่ห้องอาหารวิลลาซโซ่ ซึ่งเป็นสุดยอดห้องอาหารที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย
ผมเลือกนั่งโซนด้านนอกดีกว่า เพราะเช้านี้อากาศไม่ร้อนจนเกินไป มีลมพัดเอื่อยๆ เบาสบายๆ มีแสงแดดสีทองของพระอาทิตย์ทักทายพอปลุกให้ตื่น
อาหารเช้าที่นี่เป็นแบบ “Champagne Breakfast” ซึ่งโดยมากจะเจอในมื้ออาหารบรันช์ นัยว่าจัดหนักกันทั้งคาว หวานและเครื่องดื่ม แต่สำหรับที่นี่ ทุกเช้าคือ Champagne Breakfast ที่จัดหนักตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมี น้ำแร่ Sparkling Water และน้ำผลไม้สดให้บริการ
ผมชอบเอาแชมเปญมาผสมกับน้ำส้มนิดหน่อยให้กลายเป็น Buck Fizz เพิ่มความสดชื่นยามเช้ากระปรี้กระเปร่าดีมากๆ ครับ
หรือหากใครชอบดื่มประเภทน้ำผลไม้สดแยกกากที่นี่ก็มีให้บริการครับ สามารถเบลนด์เองได้เลยว่าอยากได้รสชาติของผลไม้อะไร โดยมากสูตรของผมจะเน้นสัก 3 ชนิดคือ รสเปรี้ยว รสหวานและไม่มีรส ผสมกันในหนึ่งแก้ว
ไลน์อาหารบัฟเฟต์ยามเช้าของที่นี่เป็นแบบผสมผสานทั้ง Continental และ American Breakfast แถมยังมี Asian ด้วยครับ เพื่อรองรับความต้องการของแขกผู้เข้าพักได้อย่างหลากหลาย
ชุดปลาดิบก็ยังมีเลยคิดดูสิครับ แต่ที่เด็ดต้องยกให้ Eggs Benedict Signature Dish ของที่นี่
ส่วนซุปเห็ดไข่ออนเซ็นก็อร่อยมากครับ หอมมันจนต้องขอเพิ่มอีกชาม อย่าลืมสั่งกันนะครับ
V Villas Hua Hin จึงถือได้ว่าเป็นวิลล่ารีสอร์ทระดับเวิล์ดคลาส ริมชายหาดหัวหิน ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาพักที่นี่ให้ได้ สำหรับที่ชอบการท่องเที่ยวพักผ่อนแบบกานต์นะครับ เชื่อมั่นได้เลยว่า หากคุณได้รับการพักผ่อนอย่างสุขสบายภายในบ้านพักส่วนตัวที่วี วิลล่า สักครั้งหนึ่งในชีวิต แน่นอนว่ามันจะเป็นประสบการณ์ที่แสนวิเศษและยอดเยี่ยมแน่นอน
และชวนให้คิดถึงอยากกลับมาที่นี่อยู่บ่อยๆ เหมือนผมยังไงล่ะครับ