Lord Jim’s (ลอร์ด จิมส์) ที่แมนดาริน โอเรียนเต็ล กานต์มองว่าเป็นเหมือนตำนานของร้านอาหารหรูในโรงแรมไทยเลยครับ เพราะตลอดระยะเวลา 48 ปี ที่นี่กลายเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ของนักเดินทาง นักธุรกิจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จนได้รับสมญานามว่าเป็น “ห้องนั่งเล่นของกรุงเทพฯ” ไปเสียแล้ว
.
Lord Jim’s เป็นชื่อของกะลาสีเรือ ตัวละครซึ่งมาจากปลายปากกาของนักเขียนชื่อดังชาวอังกฤษ Joseph Conrad ซึ่งเคยมาพักที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล เมื่อปี พ.ศ. 2431
.
เมื่อเข้ามาด้านใน เราได้พบการตกแต่งภายในที่ให้ความรู้สึกหรูหราเหมือนมาทานอาหารในเรือสำราญสไตล์อาร์ตเดโค โดดเด่นด้วยวัสดุสีทองเหลืองและหินอ่อน ตัดกับสีน้ำเงิน โถงทางเข้าประดับด้วยไม้สักให้สัมผัสถึงธรรมชาติ ถ้าใครนั่งโต๊ะริมกระจกจะมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้ฟีลมากยิ่งขึ้นครับ
.
ช่วงเย็นห้องอาหารจะเสิร์ฟเป็นเมนู a la carte นำโดยทีมเชฟมากประสบการณ์ของลอร์ด จิมสที่ได้บรรจงคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศ ปรุงด้วยกรรมวิธีและสูตรลับตามแบบฉบับของ Lord Jim’s เสิร์ฟมาให้เราได้ลิ้มลองกัน และยังมีให้เลือกทั้งแบบ 3 คอร์สและ 4 คอร์ส เพื่อให้เราได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์การเดินทางไปพร้อมกับกะลาสีเรือ JIM เจ้าของชื่อห้องอาหาร Lord Jim’s ซึ่งมีตั้งแต่อาหารทะเลสดและเนื้อย่างไปจนถึงอาหารนานาชาติและฟัวกราส์ทอด pan-fried อันเป็นเอกลักษณ์ของ Lord Jim’s
.
ห้องอาหาร Lord Jim’s เปิดบริการมื้อค่ำ ทุกวัน เวลา 18.30 – 22.30 น.
.
สำหรับใครที่ถือบัตรเครดิต ttb reserve จะได้รับส่วนลดพิเศษ 20% สำหรับค่าอาหารในเมนู a la carte มื้อค่ำ
.
สำรองที่นั่งล่วงหน้าผ่าน Mandarin Oriental, Bangkok โทร.02-659-9000 �หรือ ttb reserve line 02-010-1428 ตั้งแต่วันนี้-30 มิ.ย. 67
.
สมัครบัตรเครดิต ttb >> https://www.ttbbank.com/cc-dine2pay1/kant-4
.
ดูรายละเอียดของโปรโมชันเพิ่มเติมได้ที่ >> https://www.ttbbank.com/…/reserve-mandarin-oriental-apr24
.
*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 7% – 16% ต่อปี เงื่อนไขตามที่ธนาคารกำหนด
ห้องอาหาร Lord Jim’s ตกแต่งโดยเน้นสีเหลืองทองให้ฟีลเหมือนทานอาหารอยู่ในเรือสำราญหรู และเลือกใช้สีน้ำเงินที่สื่อถึงน้ำทะเล แต่ยังมีที่นั่งในบางมุมที่เพิ่มความน่าสนใจด้วยเบาะผ้าไหมสีแดงอมส้ม เมื่อสะท้อนกับแสงแดดในช่วงเวลาเย็นๆ จะเป็นสีสันที่ทำให้ห้องอาหารดูโดดเด่นและน่าสนใจมาก สำหรับผู้ที่ถือบัตรเครดิต ttb reserve เมื่อมารับประทานอาหารที่ห้องอาหาร Lord Jim’s จะได้รับส่วนลดพิเศษ 20% ในเมนู a la carte มื้อค่ำครับ *ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 7% – 16% ต่อปี เงื่อนไขตามที่ธนาคารกำหนด ห้องอาหาร Lord Jim’s ขึ้นชื่อเรื่องเสต๊กเนื้อชั้นเลิศและซีฟู๊ดที่สดจากแหล่งวัตถุดิบ ดังนั้นอยากแนะนำให้สั่ง Seafood Tower มาลองทานกันก่อนเลยครับ Jeffrey Wilkes เป็นดีไซน์เนอร์ที่ออกแบบตกแต่งอาคารริเวอร์ วิงและห้องอาหาร Lord Jim’s โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเรือสำราญสไตล์อาร์ตเดโค ที่มีความโค้งมนของไม้และทองเหลือง Lord Jim’s ยังได้ปรับโฉมโลโก้เสียใหม่ ดีไซน์คล้ายกับแผงสวิชตช์ในห้องคอนโทรลเรือ โดยตัวอักษรด้วย L ออกแบบให้มีลักษณะใบของเรือ ส่วนตัวอักษร J จะพริ้วไหวคล้ายการเคลื่อนตัวของท้องเรือ ที่โอบอุ้มทุกอย่างเอาไว้ นำพาเราล่องลอยและเพลิดเพลินไปกับอาหารทุกจานภายใต้การดูแลของเชฟ Steen Nagel Nielsen ชาวเดนมาร์ก เราเดินเข้าไปภายในห้องอาหาร ด้านในสุดเป็นชุดที่นั่งสีน้ำเงินตัดกับสีน้ำตาลจากไม้ ผนังเป็นกระจกใสบานใหญ่แบบพาโนรามิคให้เราได้ดื่มด่ำไปกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ที่มีเรือล่องนาวาผ่านไปมาจริงๆ และ Lord Jim’s ก็เปรียบเสมือนเรืออีกหนึ่งลำที่กำลังล่องอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ อยากแนะนำให้สั่ง Seafood Tower มาเรียกน้ำย่อยกันก่อนครับ มีให้เลือกทั้งแบบ 2 ท่านและ 4 ท่าน ซึ่งในเซ็ทจะมีทั้ง กุ้งเครย์ฟิช กุ้งลายเสือ กุ้งแม่น้ำ เนื้อปู หอยนางรม หอยแมลงภู่นำเข้าและหอยเชลล์ เรายังสามารถสั่ง Boston Lobster มาเพิ่มในทาวเวอร์ได้อีกด้วยครับ Pan Seared Foie Gras (ฟัวร์กราส) เป็นอาหารจานแรกที่อยากแนะนำ สำหรับที่มาทานห้องอาหาร Lord Jim’s ต้องสั่งเลยครับ ตับห่านหั่นมาชิ้นความหนากำลังพอดีไม่บางจนย่างแล้วดูแห้งเกินไป มีกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ ทานกับซอสองุ่นสูตรพิเศษของห้องอาหารเข้ากันได้ดีมาก อาหารเรียกน้ำย่อยจานต่อมา เราสั่งเป็น Grilled Cod Fish เชฟนำปลาคอดไปย่างไฟอ่อน จากนั้นราดด้วยซอสครีมหอมหัวใหญ่ รสชาติหวานกำลังดี มีปลาโอแห้งของญี่ปุ่นโรยมาให้ด้วย ท๊อปด้วยผักเคลหรือคะน้าใบหยิกที่เชฟนำไปย่างให้หอมและกรอบ อาหารจานหลักเราสั่งเป็นเสต๊กเนื้อครับ กริลล์มาได้เพอร์เฟคมากสมกับความเป็นต้นตำรับของอาหารจานเนื้อที่นักเดินทางทั้่วโลกต่างอยากมาลิ้มลองสักครั้ง บริกรบรรจงราดซอสอย่างตั้งใจซึ่งก็มีให้เลือกหลายตัวมาก จะสั่งเป็นซอสตัวหลักหรือจะทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วแบบไทยๆ ก็มีให้เลือกเช่นกัน สามารถสั่งเครื่องดื่มเพิ่มเติมได้ครับ เมื่ออาหารจานหลักเราเป็นเนื้อ แน่นอนว่าเราควรต้องสั่งไวน์แดงมาจิบคู่กัน ที่ Lord Jim’s เองก็มีไวน์นำเข้าหลายฉลากจากผู้ผลิตไวน์ชั้นนำทั่วโลก บอกเลยว่า Sommelier ของที่นี่เลือกไวน์ได้เนี๊ยบมาก สามารถแนะนำไวน์ให้เราเอาไว้กินกับอาหารแต่ละตัวได้เข้าและเสริมรสทุกจานเลยครับ เมนูของหวานเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าของหวานจาก แมนดาริน โอเรียนเต็ล อร่อยและไม่เคยทำให้ผิดหวัง เมนูของหวานในคอร์สจะเป็น Strawberry & Champagne สีสันหวานละมุนน่าทานดีมากครับ เชฟแนะนำของหวานอีกจานให้ลองทานเป็นไอศกรีมทานคู่กับสตอเบอรี่สด ที่นำไปเกลสกับน้ำตาล ก่อนตักจะต้องราดด้วยซอสสตอเบอรี่สีสดลงไป จานนี้ให้รสชาติหวานซ่อนเปรี้ยว ช่วยปิดท้ายมื้ออาหารได้ดีมากครับ จบคอร์สแล้วเชฟยังเสิร์ฟ Petits Fours เป็นการส่งท้าย เราสามารถสั่งชาหรือกาแฟ มาทานคู่กันได้ด้วยครับ ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยความพิเศษเอกสิทธิ์สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต ttb reserve ได้รับส่วนลดพิเศษ 20% สำหรับค่าอาหารในเมนู a la carte มื้อค่ำ สำรองที่นั่งล่วงหน้าผ่าน Mandarin Oriental, Bangkok โทร. 02-659-9000 �หรือ ttb reserve line 02-010-1428 ตั้งแต่วันนี้-30 มิ.ย. 67 ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 7% – 16% ต่อปี เงื่อนไขตามที่ธนาคารกำหนด