ช่วงนี้กานต์กำลังวุ่นๆ กับการหาออฟฟิศใหม่ พูดง่ายๆ จะขยายงานนั่นแหละครับ
ที่เห็น On Stage อยู่นี้ ไม่ได้จะไปแข่งขันรายการ Reality ที่ไหน แต่กานต์กำลังซ้อม ขึ้น Town Hall เผื่อบริษัทเราไปได้ดี มีพนักงานประมาณร้อยคนขึ้น
เอ้า ตื่นก๊อนนนนนนน
ซีเรียสเลยนะ … ผมตั้งใจจะพัฒนาบริษัทให้เป็นธุรกิจบริหารสื่อออนไลน์แบบครบวงจร ก็เลยต้องมองหาสถานที่ที่ต้องรายล้อมไปด้วยขุนพลเทคฯ อารมณ์เหมือนเรามีเพื่อนบ้านดีๆ คุยภาษาเดียวกัน
คุณเลขาฯ ของผมเลยแนะนำให้มาดูที่ True Digital Park ผมชอบเลยนะ ปัจจัยหลักเลยต้องเดินทางง่าย ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี ด้านในดีไซน์สวย ไม่ต้องเหมือนออฟฟิศสี่เหลี่ยมมากนัก
ผมว่าที่นี่ตอบโจทย์ดี มีความเป็น Community สายเทค สตาร์ทอัพ เทคโนโลยี ดีไซน์ อารมณ์เหมือน “ซิลิคอนวัลเลย์เมืองไทย” เพราะมีทั้งบริษัทขนาดใหญ่ กลาง และบริษัทเล็กๆ แบบผมก็มีเยอะอยู่เหมือนกัน ดังนั้น True Digital Park จึงมีออฟฟิศให้เลือกหลายขนาด 2 คนก็เช่าได้ อย่างผมต้องการไซส์กลางประมาณ 6 คน
ก็เพิ่งเริ่มตั้งไข่อ่ะเนอะ … เอาใจช่วยผมด้วยนะครับ
จากนั้น ก็มองดูสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม มีทั้งร้านกาแฟ ให้น้องๆ นั่งเล่นชิวๆ แก้เครียด เผื่อโดนผมดุ 555 ชั้นล่างมีร้านอาหาร ร้านยา ซุปเปอร์มาร์เก็ต ครบเลยครับหายห่วง
ส่วนตัวผมมองว่า True Digital Park ออกแบบมาได้ครบวงจรมากครับ เป็น Work-life Harmony ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนทำงานในยุคนี้ที่ไม่ใช่ Nine to Five อีกต่อไป เราสามารถผสานการทำงานให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว เช่น ตอนบ่ายหลังประชุมเครียดๆ อาจจะลงไปออกกำลังกาย หรือเดินเล่นซุปเปอร์ให้ผ่อนคลายแล้วกลับมาทำงานต่อก็ได้ หรือจะไปหากาแฟช่วงบ่ายจิบเต็มพลังกันสักหน่อยก็ดี
ส่วนในออฟฟิศจะมีโซนที่เป็น Shared Facilities เอาไว้ตรงกลาง ให้พนักงานจากหลายๆ บริษัทมานั่งพักผ่อน ชงกาแฟ ทานข้าว ล้างจาน คุยกันไปมาจะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น เผื่อปิ๊งไอเดียใหม่ๆ หรือถ้าใครเบื่อก็จะสามารถหนีลงไปนั่งเล่นที่ Play Zone ได้ มีโต๊ะพูล เกมส์ตู้ ให้บริการด้วยนะ
ตรงชั้นนี้ก็จะเปิดให้เป็น Co-working Space ให้คนทั่วไปสามารถมานั่งทำงานได้ นั่งคุยงาน ประชุม นัดเจอลูกค้าแต่คนที่เช่าออฟฟิศสามารถเข้ามาใช้บริการได้ฟรี ผมว่าแบบนี้ก็สะดวกดีเหมือนกัน สำหรับใครที่ยังไม่ได้อยากตั้งบริษัทจริงจังขึ้นมา
ถ้าอยากจะประชุมออนไลน์แนะนำให้จองห้องไปเลยครับ มีให้เลือกหลายขนาดเหมือนกัน ผมไปลอง Zoom Meeting มาละ สะดวกดี ไวไฟแรงได้ใจ อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือครบ ต่อขึ้นจอโปรเจคเตอร์ได้ปั๊บ เริ่มคุยงานได้ทันที
ไปดูภาพบรรยากาศที่ True Digital Park ที่กานต์เพิ่งไป visited มากันดีกว่าครับ เผื่อใครกำลังมองหาที่ตั้งออฟฟิศใหม่จะได้มาเป็นเพื่อนบ้านกัน
ช่วงนี้มีโปรเช่าฟรี 1 เดือนด้วยนะครับ
ลงทะเบียนรับสิทธิ์ >>https://bit.ly/TDPKKant
*เมื่อเช่าออฟฟิศสัญญา 1 ปีขึ้นไป
True Digital Park คือ พื้นที่การทำงานที่ตอบโจทย์ “Work-Life Harmony”
ผมมองว่าถ้าเช่าที่นี่เราจะ Work, Live, Play ได้ในที่เดียวครบ เหมือนผสานทุกมิติของการใช้ชีวิตไว้ด้วยกัน
มีทั้งโซนที่เป็นออฟฟิศให้เช่าและ Co-Working Space รายวัน
กานต์พามาเกาะติดปฎิบัติการตามล่าหาออฟฟิศใหม่ให้ตัวเอง ที่ True Digital Park ครับ เผื่อใครสนใจจะมาเป็นเพื่อนบ้าน ทำงานใกล้ๆกัน
โดยจะเริ่มจากโซนที่เป็น Open Space สามารถแลกบัตรขึ้นมาใช้บริการได้ฟรี
มีร้านกาแฟ True Coffee ไว้บริการ
แต่ถ้าต้องการใช้บริการ Co-Working Space เป็นพื้นที่นั่งทำงาน โซนพักผ่อน ก็สามารถใช้บริการแบบสมัครสมาชิกเช่นกันครับ ซึ่งจะสะดวกกว่ามาก
มีมุมส่วนตัวให้เลือกนั่งได้หลากหลาย ทั้งแบบนั่งเดี่ยว นั่งคู่ หรือใครมากันเป็นกลุ่มเป็นหมู่คณะ ก็สามารถนะครับ
ทุกโต๊ะมีปลั๊กไฟบริการทุกจุด ไวไฟแรงจัดชัดเจน ทำงานได้ลื่นไหล
นอกจากจะมีที่นั่งเยอะหลายมุมให้เลือกแล้ว ผมยังชอบตรงที่มีการลงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ดูจะเข้าใจมนุษย์ออฟฟิศสายรักอิสระแบบเรา คือเค้าจะมีล็อคเกอร์ไว้ให้บริการด้วยครับ เผื่อของเยอะหรือจะต้องออกไปข้างนอกสักแปบ ก็สะดวกดี
และยังมีบริการน้ำดื่ม infused กับรสชาติผลไม้สดใหม่ ดูเฮลท์ตี้ดี กาแฟก็มีให้แบบไม่อั้น ดื่มได้ทั้งวัน ก็สายครีเอทีฟอ่ะเนอะ ขาดกาแฟไม่ได้
Co-Working Space มีโต๊ะเก้าอี้จัดไว้ให้นั่งเยอะมาก แต่ที่ชอบที่สุดคือ มีเก้าอี้เพื่อสุขภาพอย่าง Herman Miller ยี่ห้อที่ผมใช้นั่งทำงานประจำ มันดีมากเลยนะเพราะว่ามีระบบ Ergonomic เค้าออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระของผู้นั่ง ช่วยแก้ปัญหาโรคฮิตออฟฟิศซินโดรมได้ ไม่ค่อยปวดหลังเลย แต่ถ้าซื้อเองจะปวดใจเพราะตัวนึงคือหลายตังค์มาก
ที่สำคัญ มีห้องประชุมไว้ให้ใช้บริการด้วยครับ เป็นแบบห้องจริงจังเลยนะ มีหลายขนาดให้เลือกใช้ S-M-L และ Boardroom ส่วนระบบจองห้องประชุมและพื้นที่ฟังก์ชั่นแบบออนไลน์สามารถจองผ่านทรู ดิจิทัล พาร์ค แอปพลิเคชั่น ได้เลยครับ
วันที่ไปชมพื้นที่ ช่วงบ่ายผมมีประชุมออนไลน์พอดีเลยให้คุณเลขาฯ จัดการจองห้องประชุม ขอลองใช้บริการเสียเลยครับ ก็นับว่าสะดวกดีมาก หอบโน็ตบุ๊คหรือไอแพดมาเครื่องนึงก็ใช้งานได้เลย มีอุปกรณ์เชื่อมต่อรองรับเอาไว้ให้พร้อมสรรพเลยครับ อันนี้ผมชอบไม่ต้องพกสายต่ออะไรให้มันวุ่นวายดี
ด้านใน Co-Working Space จะประดับตกแต่งด้วยต้นไม้และพื้นที่สีเขียวแซมอยู่ทั่ว การดีไซน์ที่นั่งให้มีหลากสี หรือแม้กระทั่งภาพงานศิลปะประดับฝาผนัง ผมว่าเหล่านี้ก็ช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้ดี ดูแล้วเป็นบรรยากาศชิคๆ ที่ไม่ซ้ำซากจำเจเหมือนนั่งในออฟฟิศทั่วไป
ด้านในจะมีมุมโซฟาให้นั่งพักผ่อน ตกแต่งสวยดูอบอุ่น สบายๆ ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านเลยครับ
ใกล้กันก็จะเป็น Play Zone มุมคลายเครียด มีทั้งเกมส์ตู้ โต๊ะพูล โต๊ะปิงปอง เผื่อน้องๆ คนไหนเบื่อๆ ก็มาสนุกที่นี่ได้
ดูผมสิครับ เล่นเกมส์ต่อสู้เพลิน จนเกือบลืมเวลานัด!!
การออกแบบภายในเน้นความครีเอทีฟและโชว์เคสนวัตกรรมใหม่ๆ มีองค์กร บริษัท หน่วยงานเข้ามาเป็นพันธมิตรมากมาย
True Digital Park โซนออฟฟิศและ Co-working Space ออกแบบให้เชื่อมต่อถึงกันด้วยบันไดแก้วทรงกระบอก เป็นกระจกใส Laminated Tempered Glass ที่มีความแข็งแรงสูง ขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางพื้นที่ ช่วยให้คนในคอมมูนิตี้เชื่อมต่อถึงกัน แลกเปลี่ยนความคิดและไอเดียธุรกิจกันได้อย่างไม่รู้จบ
เราจะไปดูชั้น 5 กันครับ จะเป็นโซนออฟฟิศที่ผมว่าจะมาเช่า
ความยืดหยุ่น ผมว่าเป็นเรื่องใหญ่ครับ คิดดูสิว่า ถ้าเราเพิ่งจะเริ่มตั้งไข่บริษัท แต่กลับต้องมาเจอสัญญาที่ผูกมัด จะเช่าออฟฟิศเล็กๆ ก็ไม่ได้ ต้องโดนบังคับให้เหมา floor กันไป แบกค่าเช่าไม่ไหว ไหนจะค่าน้ำค่าไฟมหาโหด แล้วบริษัทในฝันของเรามันจะไปต่อได้ยังไง
พอมาฟังคอนเซปต์และเงื่อนไขของ True Digital Park ผมว่า เค้าออกแบบมาได้เข้าใจสตาร์ทอัพมือใหม่ดีนะ มีแค่ 2 คนก็เช่าออฟฟิศได้
อย่างบริษัทผมตอนนี้ก็มีแค่ 2 คนกับเลขา เราก็เลยกะว่าจะเช่าห้องขนาดสัก 6 คน เผื่อรับน้องๆ สายกราฟฟิคกับไอทีเข้ามาเสริมทีม ผมเลือกไซส์ M กำลังดี ตกแต่งแบบ Fully Furnished มีโต๊ะจัดวางไว้ให้ 2 ฝั่งพร้อมลิ้นชักส่วนตัว มีเก้าอี้เพื่อสุขภาพ ช่วยแก้ปัญหาโรคฮิตออฟฟิศซินโดรมได้
อีกจุดที่น่าสนใจคือระบบเข้า-ออก ออฟฟิศด้วยระบบ Face Recognition เพื่อยืนยันตัวและบันทึกการเข้า-เลิกงานของพนักงาน เพิ่มความปลอดภัยของบริษัทได้ดี
จองห้องนี้แล้วนะครับ 530 ถือโอกาสนี้ลองนั่งส่งงานให้ลูกค้าจริงๆ ซะเลย Wi-Fi ไวดีแฮะ
ส่วนเพื่อนบ้านก็เริ่มย้ายเข้ามาอยู่บ้างแล้วครับ เดินผ่านก็ดูบรรยากาศการทำงานดูสนุกสนานดี เป็นสไตล์ออฟฟิศสมัยใหม่ เน้น Creativity แต่ก็ยังมีพื้นที่ส่วนตัวเช่นห้องคุยโทรศัพท์ผมว่าไอเดียนี้ดี บางทีเราก็อยากคุยเรื่องสำคัญส่วนตัวก็ต้องไปใช้บริการที่ Phone Booth แทน
ตรงกลางของออฟฟิศจะมี Shared Facilities สามารถเดินมากดน้ำ นั่งทานข้าว เอาของกินใส่ตู้เย็นฝากไว้ได้ มีอ่างล้างจานเตรียมไว้ให้ด้วยครับ มีมุมที่นั่งหลากหลาย พนักงานทุกบริษัทสามารถมาใช้พื้นที่ตรงนี้ได้
ข้อดีก็คือมันจะเกิดเป็น Community ได้เจอเพื่อนต่างออฟฟิศใหม่ๆ แลกเปลี่ยนไอเดียกัน กลายเป็นชุมชนสร้างสรรค์ที่รวมเอาผู้ประกอบการที่สนใจเรื่องเดียวกัน มาอยู่ที่นี่ หรือสาวๆ อยากจะปาร์ตี้ส้มตำมื้อกลางวันก็ได้นะ
ที่ชั้น 6,7 จะมี Townhall และ Auditorium สำหรับจัดงานเล็กงานใหญ่ จะประชุมพนักงาน หรือจัดกิจกรรมเปิดตัวผลิตภัณฑ์บริการของบริษัทเราก็ได้เลยนะ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกรองรับไว้แล้ว ที่สำคัญคือจุคนได้เยอะมากครับ
ห้อง Auditorium ขนาดเป็นจัดแบบ Social Distancing ก็จุได้มากถึง 200 คนเลยทีเดียว
ตอนนี้ผมก็เริ่มซ้อมพูดเอาไว้ละ ไว้จะเรียนเชิญมาร่วมนะครับ
ผมค่อนข้างโอเคเลยครับกับ True Digital Park ชอบตรงที่สัญญาไม่จุกจิก และไม่ต้องจ่ายหนักแบบยกชั้น บริษัทมีกันแค่ 2 คนก็เช่าได้ ใกล้รถไฟฟ้า จัดสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้เยอะดี ทั้งไอทีและเอนเตอร์เทน มี Co-Working Space บริการ
ตอนเย็นก่อนเลิกงานกลับบ้าน ก็แวะมาหาข้าวทานได้ที่ห้างชั้นล่างและมีซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วย เหมาะสำหรับใครที่มองหาออฟฟิศที่ตอบโจทย์ทุกมุมของชีวิต สำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีฝันอยากสร้างธุรกิจ
ลองแวะมาชมสถานที่จริงก่อนได้ ช่วงนี้มีโปรเช่าฟรี 1 เดือนด้วยครับ
ลงทะเบียนรับสิทธิ์ เช่าออฟฟิศ ฟรี 1 เดือน* >> https://bit.ly/TDPKKant
*เมื่อเช่าออฟฟิศสัญญา 1 ปีขึ้นไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/TrueDigitalPark