The Valor Ramintra

🍃เคยสงสัยไหมครับว่า #ทำไมคนเราถึงโหยหาการอยู่ร่วมกับธรรมชาติในเวลาที่ต้องการฮีลใจ

Siman Bell อาจารย์จาก Estonian University อธิบายว่า เหตุที่เรารู้สึกสบายใจเวลาได้อยู่กับธรรมชาติ นั่นเป็นเพราะธรรมชาติไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเราเลย ตรงกันข้ามเรากลับถูกบังคับให้ต้องปฏิสัมพันธ์กับความเป็นเมืองตลอดเวลา ต้องใช้ความพยายามและพลังงานที่เยอะมาก ในที่สุดก็ Burn Out จนเราอยากกลับไปหาธรรมชาติอีกครั้ง

จะดีแค่ไหน … ถ้าเราได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติในทุกวัน🏡🌳

𝐄𝐯𝐞𝐫𝐲 𝐬𝐭𝐞𝐩 … 𝐛𝐫𝐢𝐧𝐠𝐬 𝐲𝐨𝐮 𝐜𝐥𝐨𝐬𝐞𝐫 𝐭𝐨 𝐧𝐚𝐭𝐮𝐫𝐞. เป็นความรู้สึกจริงที่เกิดขึ้นเมื่อกานต์ได้เข้ามาสัมผัสกับ The Valor รามอินทรา โครงการบ้านหรูที่นำเราเดินทางกลับเข้าสู่ธรรมชาติ เป็น “บ้านบรรยากาศรีสอร์ท” ท่ามกลางบริบทของสังคมเมืองที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยสะดวกสบายครบครัน ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม Fashion Island ทำเลนี้ถือเป็นพื้นที่ Prime Area บนถนนรามอินทรา

จริงๆ แล้วรามอินทราถือว่าเป็นโลเคชั่นที่น่าสนใจ เพราะอยู่ใกล้เมืองเดินทางเข้าสู่ CBD ได้อย่่างรวดเร็ว หรือจะใช้ถนนกาญจนาภิเษกเชื่อมต่อมอเตอร์เวย์ก็สะดวกเลยครับ จึงเหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหาโครงการระดับ Super Luxury Class บ้านที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสีเขียวรายล้อม พร้อมทั้งความเป็นส่วนตัวแบบสูงสุดเพราะมีเพียง 23 ยูนิตเท่านั้น ผมอยากแนะนำ The Valor รามอินทรา เลยครับ

ไฮไลท์อีกอย่างของโครงการที่นอกเหนือไปจากความเป็น Living in Nature ก็คืองานดีไซน์ที่เรียบหรูโก้

งาน Exterior คือสวยมากจริงๆ ออกแบบ Facade ได้หรูหรา มาพร้อมกับงานสถาปัตยกรรมสไตล์ Modern Luxury ที่โดดเด่นด้วยประตูโค้งทรง Arch และถ้าใครสังเกตให้ดีโครงการนี้เน้นผนังกระจกใสเยอะมาก ดูแตกต่างจากโครงการทั่วไป ทำให้ได้เราสัมผัสกับบริบทของธรรมชาติแวดล้อมได้อย่างเต็มที่

ภายในบ้าน มีโถงห้องนั่งเล่นที่สูงจากพื้นจรดเพดานแบบ Double Volume พร้อมห้องเอนกประสงค์ สามารถปรับฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัว จะทำเป็นโฮมออฟฟิศ ห้องทำงาน ห้องดูหนังฟังเพลง หรือจะเป็นห้องนอนชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุก็ได้ ในกรณีที่บ้านไหนมีสมาชิกอยู่ร่วมกันหลาย Generation

ถ้าพร้อมแล้วไปชมภาพในคอลเลคชั่น The Valor รามอินทราที่กานต์นำมาฝากกันพร้อมกับอ่านเรื่องราวต่อด้านในดีกว่าครับ

โครงการ The Valor รามอินทรา สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง แต่ที่อยากจะแนะนำคือ เข้ามาทางถนนรามอินทรา 62 จะสะดวกมากครับ ใกล้ทางพิเศษฉลองรัชสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก หรือออกไปทางวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษกได้ทันที

นอกจากนี้ ยังเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ สนามบินสุวรรณภูมิ แต่สำหรับใครที่ต้องการใช้รถไฟฟ้า โครงการถือว่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีรามอินทรา 83 เพียง 1 กม. เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีส้ม เพียง 6 สถานี และเชื่อมต่อสายสีเขียว เพียง 8 สถานี เท่านั้น

ทำเลที่ตั้งของโครงการรายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งโรงพยาบาลโรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา, โรงพยาบาล อินทรารัตน์, โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ และโรงพยาบาล นพรัตนราชธานี มีโรงเรียนนานาชาติอย่าง Wellington College International School Bangkok และ Brighton College Bangkok

ใกล้กับโครงการมีห้างสรรพสินค้า Fashion Island, The Promenade, Central East Ville, CDC ฯลฯ ถือว่าเป็นทำเลยอดเยี่ยมมาก

คอนเซ็ปต์หลักของ The Valor รามอินทรา คือ Every step … brings you closer to nature. ได้ว่ายน้ำท่ามกลางสวนสีเขียวสวยๆ ดูสดชื่นผ่อนคลายดีมากลยครับ

Clubhouse ของโครงการในช่วงพระอาทิตย์เริ่มทอแสงดูสวยงามสบายตา น่ามาพักผ่อนมากๆ เลยครับ

กานต์ขับรถมาตามถนนรามอินทรา เข้าซอยมาประมาณ 750 เมตรก็ถึงด้านหน้าโครงการ บรรยากาศแวดล้อมเป็น Residential มีความสงบเงียบดีมากครับ

ด้านหน้าเป็นป้อมรปภ. ทางเข้าออกจะเป็นประตูเลื่อนอัตโนมัติ 3 ตอน โครงการใช้ระบบ Card Access Control พร้อมทั้งติดตั้ง CCTV และมีพนักงานรักษาความปลอดภัยเพื่อดูแลให้ลูกบ้านอุ่นใจ บ้านทุกหลังได้รับการติดตั้งระบบ Smart Home สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic Sensor, Alarm กล้อง CCTV

รูปแบบโครงการเป็น บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Modern Luxury ที่ดินโครงการขนาด 7-3-33 ไร่

แบบบ้านที่เรามาชมกันในครั้งนี้เป็นบ้านหลังใหญ่ VANTAGE – L ขนาดที่ดินเริ่มต้น 85 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอย 282 ตารางเมตร ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน พร้อมห้องแม่บ้าน

ผมชอบงานออกแบบภายนอกบ้านมากเลยครับ ดูแตกต่างไปจากโครงการอื่นในบ้านระดับ Super Luxury Class เน้นความเรียบง่ายใช้สีเบจ ครีม เทา ดำ สีภายนอกบ้านใช้ของ Nippon เป็นเทคโนโลยีนำเข้าจากญี่ปุ่น โดยรวมแล้วทำให้บ้านดูมีความ Modern Luxury

Exterior มีความโดดเด่นด้วย Facade ด้านหน้าบ้าน ออกแบบมาได้สวย เน้นผนังกระจกบานใหญ่ ทำให้ตัวบ้านดูโปร่งไม่ทึบ ทางเข้าด้านหน้าทั้ง 3 จุด เป็นประตูกระจกบานใหญ่ทรงสูง มีเสาคู่ประตูหน้าบ้านสูงจากชั้น 1 ถึงชั้น 2 ดีไซน์ด้านบนเป็นประตูโค้งทาง Arch ดูหรูหราทว่ายังคงความโมเดิร์นเอาไว้ โดยลดทอนรายละเอียดบางส่วนออกไป ส่วนหลังคาบ้านใช้ของ SCG รุ่น NeuStile Modern

โครงสร้างบ้านของโครงการนี้ ผนังก่อด้วยอิฐมวลเบา มีความแข็งแรง กันความร้อนได้ดี รองรับการตกแต่งต่อเติมในอนาคต โดยจะไม่กระทบโครงสร้างบ้าน ส่วนประตูและหน้าต่างได้กระจกลามิเนตหนา 8 มม. กรอบเป็นอะลูมิเนียมสีเทาเข้มดูเรียบหรูโก้

สำหรับบ้าน type นี้สามารถจอดรถได้ 3 คัน พร้อมประตูทางเข้าบ้านจากที่จอดรถได้ ทำให้สะดวกมากหากเราไปช้อปปิ้งซื้อของเข้าบ้านก็สามารถเปิดประตูเล็กเข้าสู่ห้องครัวได้เลยทันที ประตูเล็กสำหรับเข้าบ้านเป็นบานไม้สักแท้ ทางโครงการได้ติดตั้ง Digital Door Lock ของ igloohome มาให้แล้ว

พื้นลานจอดเป็นแบบ Slab On Beam คือพื้นวางบนคานเดียวกับตัวบ้าน นอกจากนี้ ทางโครงการได้ติดตั้ง Wall Box เพื่อรองรับ EV Charger เอาไว้ให้ที่โรงจอดรถเรียบร้อยแล้วครับ

ลานจอดรถบริเวณผนังที่ชิดกับตัวบ้านออกแบบให้มีห้องเก็บของแบบเลื่อนเปิด-ปิด สามารถใส่จักรยานเก็บไว้ด้านในได้ หรือจะเป็นอุปกรณ์ทำสวน กล่องเครื่องมือช่างก็ได้

ส่วนรอบๆ บ้านจะมีที่ดินเหลือไว้ให้จัดตกแต่งสวนได้อีก เพื่อรังสรรค์ให้เรากับธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน 

ความเก๋ของงานดีไซน์ในแบบบ้าน Vantage คือออกแบบให้มีประตูทางเข้าบ้านได้ถึง 3 บาน เรียงรายกันไป ขึ้นอยู่กับเราว่าจะเลือกให้ประตูบานไหนเป็นทางเข้าหลัก ซึ่งเราเลือกเข้าบ้านผ่านประตูด้านริมสุดติดสวนด้านข้าง

เพราะเมื่อเปิดประตูบานนี้เข้ามาภายในบ้าน เราจะได้พบความโดดเด่นที่เป็นไฮไลท์ คือผนังกระจกทั้งหน้าบ้านและกระจกเข้ามุม เพื่อเปิดมุมมองสวนสวยภายนอกได้กว้างกว่า รู้สึกได้ถึงการอยู่ร่วมกับธรรมชาติแวดล้อม

ภายในบ้านมีโถงกลางที่ดูสูง โปร่ง ดูอยู่สบายไม่อึดอัดด้วยเพดานสูงแบบ Double Volume 6.35 ม. เชื่อมต่อกับ Family Area ชั้นบน ติดตั้ง Chandelier ไว้อย่างสวยหรู พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่ โครงการติดวอลล์เปเปอร์ให้ทั้งหลัง

เมื่อมองจากองค์รวมของงาน Interior จะพบว่าพื้นที่ภายในบ้านออกแบบ Open plan ให้เชื่อมต่อกันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น Common Area ที่มีพื้นที่นั่งเล่น เป็นมุมรับแขกและดูทีวีไปในตัว

ผมชอบผนังด้านในติดตั้งด้วยหินอ่อนแผ่นใหญ่ดูสวยงามอลังการมาก ห้องนั่งเล่นออกแบบมาให้รองรับการใช้งานได้เต็มที่ เพราะมีที่นั่งจัดวางไว้หลากหลายดีไซน์สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามใจ

ติดกันเป็นห้องนอนชั้นล่าง หรืออีกนัยหนึ่งคือห้องเอนกประสงค์ (Multi-purpose Room) ซึ่งผมว่าเป็นไฮไลท์ที่น่าสนใจของบ้านนี้เลยครับ เพราะเราสามารถปรับฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลากหลายตรงตามความต้องการและไลฟ์สไตล์

หากบ้านไหนมีผู้สูงอายุพักอาศัย ผมว่าห้องนี้ลงตัวมากในการปรับเป็นห้องนอน เพราะมีห้องน้ำในตัวรองรับอยู่แล้ว และยังได้วิวสวนด้านข้างบ้านเติมความสดชื่นยามเช้าอีกด้วยครับ

แต่ถ้าเป็นบ้านผมอาจจะปรับให้ห้องทำงานท่านประธาน หรือโฮมออฟฟิศ เป็นสตูดิโอสำหรับไลฟ์ก็ได้เลยนะ เพราะมีพื้นที่กว้าง สามารถจัดรายการทอล์ค สัมภาษณ์พูดคุยได้เลย

ถัดกันเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร เปิดฟังก์ชั่นการใช้งานครบครันไม่รู้สึกว่าภายในบ้านอัดแน่นจนเกินไป จัดแบ่งพื้นที่การใช้สอยภายในได้อย่างเป็นสัดเป็นส่วน และมีความเป็นส่วนตัว

ด้านในจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 8-10 ที่นั่งได้อย่างลงตัว บ้านตัวอย่างจัดแต่งมุมนี้ได้เรียบหรูดี

จริงๆ เราสามารถจัดเป็น Long Table ได้เลยครับ เพราะมีพื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างกว้างขวาง สามารถวางโต๊ะยาวมาจนถึงประตูหน้าบ้านได้เลยทีเดียว

ถ้าเป็นบ้านผม มีไอเดียในการตกแต่งอยากให้มุมนี้เปิดเป็น Foyer โดยจัดเป็นทางเข้าบ้านหลัก ผ่านซุ้มประตูโค้งแล้วตรงขึ้นชั้นบนได้ทันที ทั้งนี้สามารถแยกพื้นที่ด้านซ้ายออกเป็นห้องรับแขกที่ให้ความเป็นส่วนตัวเป็นสัดเป็นส่วนได้มากขึ้น ซึ่งก็แล้วแต่การจินตนาการบ้านในฝันของแต่ละคนเลยครับ

บ้านตัวอย่างจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารไว้ให้เชื่อมต่อกับครัวซึ่งอยู่ห้องถัดไปและกลายเป็นห้องโปรดของผมในที่สุด

ในส่วนของครัวยุโรปจัดวางเคาน์เตอร์พร้อม Hop & Hood บ้านตัวอย่างออกแบบให้มีตู่้เก็บของด้านบนทำเป็นกระจกลอนพอให้มองเห็นของด้านในแต่ได้ฟีลยุโรปแบบวินเทจมากๆ

ด้านในเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room สุขภัณฑ์ติดตั้งแบรนด์ Roca จากสเปน เป็นสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ แต่ผมกลับชอบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของงานออกแบบที่สอดแทรกมาให้ คือการเปิดช่องแสงเล็กๆ จากหน้าบ้านเพื่อให้ห้องน้ำดูสว่างและสามารถเปิดบานกระทุ้งออกเพื่อระบายอากาศ ไล่ความชื้นได้

ตรงกลางเป็น Pantry จัดให้มีสตูลทรงสูงไว้นั่งจิบเบาๆ เหมือนบาร์ในบ้าน

ส่วนตัวผมชอบห้องนี้มาก เพราะสัมผัสได้ทันทีถึงความใส่ใจในรายละเอียดของการออกแบบและแก้ปัญหา ที่เรามักจะพบเจอกันมากในโครงการบ้านไม่ว่าจะระดับไหนก็ตาม

นั่นคือการที่ลูกบ้านแต่ละหลังไปต่อเติมครัวไทยด้านนอกกันเอง ทำให้เกิดภาพที่ไม่สวยงาม แต่สำหรับโครงการนี้ออกแบบไว้ให้เป็น Double Kitchen แล้วเรียบร้อย มีทั้งครัวยุโรปด้านในและห้องครัวไทยด้านนอก ทั้งยังสะดวกในการใช้งานเมื่อเราซื้อของมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือตลาดก็สามารถเปิดประตูเล็ก แล้วเดินเข้ามาวางของเก็บของไว้ในครัวได้ทันทีเลยครับ

ครัวไทยที่แยกออกไปเป็นอีกหนึ่งห้องด่้านหลังบ้าน ดูเป็นสัดส่วนดีครับ ทางโครงการทำเคาน์เตอร์แบบลอยตัวเป็นหินแกรนิตสีดำดูแข็งแรงดี มาพร้อมกับอ่างล้างจาน

บริเวณโดยรอบเป็นพื้นที่เปิดโล่งสามารถติดตั้งเครื่องดูดควันและเปิดหน้าตาเพื่อระบายกลิ่นได้ และอีกหนึ่งรายละเอียดของงานออกแบบคือ ห้องครัวไทยจะเชื่อมต่อกับ Maid Plaza เป็นโซนทำงานของแม่บ้านพร้อมห้องนอนด้านหลัง ทำให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของแม่บ้านเวลาทำครัวและทำงานบ้าน

ใต้บันไดถือว่ามีขนาดกว้างขวาง เราสามารถเดินเข้าไปได้โดยไม่ต้องก้มศีรษะ ออกแบบให้เป็นห้อง Service ระบบไฟและสามารถเก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้งานบ่อยๆ ไว้ในห้องนี้ได้

ขึ้นไปดูชั้นบนกะันบ้างครับ ที่ผมชอบคือการดีไซน์ฟีังก์ชั่นบันไดภายในบ้านให้มีลักษณะคล้ายบันไดวน ดูเรียบหรูดี มีชานพัก ด้วยกัน 2 จุด ตรงกลางด้านหน้าห้องเก็บของเป็นโถงโล่งๆ สามารถจัดชั้นวางเพื่อประดับตกแต่งบริเวณนี้เพิ่มเติมได้

บริเวณโถงบันไดเปิดช่องแสงจากภายนอกเป็นกระจกใสบานสูงจรดฝ้าเพดานชั้นบน ทำให้บ้านดูโปร่งโล่งและมีแสงสว่างในตอนกลางวัน จนไม่จำเป็นต้องเปิดไฟในจุดนี้ อย่างไรก็ดีแนะนำให้ติดตั้งผ้าม่านเพิ่มครับหากต้องการปรับแสงและเพิ่มความเป็นส่วนตัว

หากใครต้องการเพิ่มความสวยหรูให้กับโถงบันได ผมแนะนำให้ติด Chandelier เป็นคริสตัลพวงยาวรูปแบบเกลียวเหมือนบ้านตัวอย่าง พอผมเห็นแล้วรู้สึกได้ทันทีคือความเรียบหรูโก้ที่ช่วยเพิ่ม Charisma ให้กับบ้านได้

บันไดติดตั้งราวจับเป็นไม้และโครงเหล็กกรุด้วยกระจกนิรภัยหนา 6 มม. ช่วยให้บ้านดูโปร่ง เข้ากันดีกับ Chandelier โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กมีลูกตั้งลูกนอนวัสดุเป็นไม้ยางพาราประสาน ให้สัมผัสเหมือนไม้จริงครับ

ขึ้นมาชั้นบนจะพบกับ Family Area อยู่บริเวณกึ่งกลางบ้าน เชื่อมต่อกับ Living Area ที่ชั้นล่าง เป็นพื้นที่เปิดโล่งตรงโถงกลางแบบ Double Volume เชื่อมกับช่อง Void มีราวกันตกเป็นกระจกนิรภัย

กอปรกับผนังรอบบ้านโดยมากเป็นกระจกใสแบบ Full Height ช่วยทำให้เปิดรับแสงสว่างเข้ามาภายในบ้านได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่ชั้นล่างมาจนถึงชั้นบน อีกด้านก็เป็นพื้นที่เปิดโล่งที่เชื่อมต่อกับโถงบันไดมองเห็น Chandelier คริสตัลพวงระย้า ดูหรูหราดีมาก พื้นชั้นบนให้เป็น Engineering wood

มุมนี้จะมีประตูเลื่อนสามารถเปิดออกไปสู่ระเบียงได้ ซึ่งเป๋็นมุมที่สวยมากหากมองจากด้านนอกเข้ามาภายในบ้าน เพราะจะเป็นซุ้มประตูโค้งทรง Arch พอดี มีราวกันตกเป็นกระจกใสดูเก๋ดี ผมถือว่าเป็นเสน่ห์ที่น่าสนใจของแบบบ้าน Vantage หลังนี้ครับ

ระเบียงมีขนาดใหญ่ สามารถจัดวางชุดที่นั่งแบบ Outdoor สำหรับพักผ่อนในบรรยากาศสบายๆ แบบสา่วนตัวภายในบ้านได้

บริเวณนี้ถือว่าจัดให้เป็นพื้นที่ส่วนตัว สงวนไว้สำหรับสมาชิกในครอบครัวเท่านั้น เพราะชั้นบนมีด้วยกันถึง 3 ห้องนอน จึงสามารถใช้เป็นมุมนั่งพักผ่อน ดูทีวี ทำกิจกรรมร่วมกัน หรือจะจัดให้เป็นมุมทำการบ้านสำหรับเด็กๆ ก็ได้ครับ

บ้านตัวอย่างจัดวางชุดโซฟาที่นั่งขนาดใหญ่พร้อมทีวีแบบแขวนทำให้บ้านดูโมเดิร์นขึ้น อย่างไรก็ตามก็ยังมีความเชื่อมต่อกับสมาชิกคนอื่นที่อยู่ชั้นล่างได้อยู่

ชั้นบนมีด้วยกัน 3 ห้องนอน ห้องแรกจะอยู่บริเวณโถงบันไดเชื่อมต่อกับ Family Area ครับ ห้องนี้จะได้แสงสว่างจากฝั่งด้านหลังบ้าน ทำให้มีความเงียบสงบดีมาก พร้อมกับเปิดรับช่องแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านมาจากผนังด้านข้าง

บ้านตัวอย่างตกแต่งห้องนี้ในสไตล์หญิงสาวที่มีความโมเดิร์น ดูชิคแต่ยังคงความเรียบหรูโก้เอาไว้ ส่วนพักผ่อนจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ไว้ค่อนไปชิดหน้าต่าง แต่ยังมีพื้นที่โดยรอบเตียงสามารถเดินได้สบายเลยครับ หัวเตียงมีโต๊ะเตี้ยสำหรับวางโคมไฟส่องสว่างตอนก่อนนอน หัวนอนประดับด้วยงานศิลปะดูเก๋ดี

ปลายเตียงเป็นตู้คาร์บิเนตพร้อมทีวีแบบแขวนเพื่อประหยัดพื้นที่ และยังทำให้ห้องนี้ดูโมเดิร์น มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ส่วนมุมห้องออกแบบให้เปฺ็นที่นั่งพักผ่อน ชิดกับหน้าต่างกระจกที่สามารถมองเห็น Living Area บริเวณชั้นล่างได้ และยังส่งต่อแสงสว่างจากฝั่งหน้าบ้านเข้ามาในห้องนอนได้อีกด้วย

งานดีเทลของดีไซน์จะมีความกลมมนดูเข้ากันดี โดยเฉพาะมุมกระจกที่โต๊ะเครื่องแป้งที่จีัดไว้ใกล่้กับตู้เสื้อผ้าส่วนห้องน้ำภายในห้องนอนจะอยู่บริเวณด้านหน้าประตูห้องนอน ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งเอาไว้ให้เรียบร้อย มีอ่างล้างหน้าและสุขภัณฑ์แบรนด์ Roca พร้อมกับติดตั้งระบบระบายอากาศในห้องน้ำ ทั้งพัดลมดูดอากาศและมีหน้าต่างเป็นบานกระทุ้ง สามารถเปิดรับแสงได้และยังช่วยให้อากาศไหลเวียนได้ดี

เดินย้อนกลับมาที่ Family Area เดินไปทางซ้ายจะเป็นห้องนอนรอง 2 และด้านในสุดเป็น Master Bedroom เราจะไปชมกันต่อครับ

ห้องนอนรอง 2 จะอยู่โซนหน้าบ้าน มีขนาดเล็กกว่าห้องนอนรอง 1 ห้องนี้ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำเงินเหมาะสำหรับเด็กชายวัยสดใส ฟังก์ชั่นการใช่้สอยภายในห้องครบครัน

จัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ เอาไว้ค่อนไปทางผนังฝั่งหน้าบ้านโดยมีหน้าต่างเป็นบานกระทุ้งสามารถเปิดออกได้ เพื่อระบายอากาศและเปิดรับแสงสว่างจากธรรรมชาติภายนอกเข้ามา บรีิเวณโดยรอบเตียงสามารถเดินได้สบายเลย หัวเตียงด้านในติดตั้งโคมไฟแขวนผนังดูเท่ดีครับ ส่วนอีกฝั่งจัดเป็นโต๊ะทำการบ้าน อ่านหนังสือ ที่มาพร้อมกับกระจกทรงกลมบานไม่ใหญ่ ทำให้ใช่้งานได้หลากหลายประเภท

บ้านตัวอย่างติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เต็มผนัง คั่นกลางด้วยประตูทางเข้าห้อง ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำส่วนตัวภายในห้องนอน ซึ่งติดตั้งอ่างล้างหน้าหินแกรนิตสีดำก่อแบบลอยตัวไม่มีตู้เก็บของด้านล่าง ผนังด้านหลังทำเป็น Low wall ยาวตลอดแนวสำหรับเอาไว้วางของได้

ติดกันเป็นส่วนของสุขภัณฑ์และ Shower Box ด้านในมี Rain Shower & Hand Shower เตรียมเอาไว้ให้และได้แยกส่วนเปียกแห้งเอาไว้ให้เรียบร้อย ห้องน้ำในห้องนอนรองทุกห้องจะทำระบบ Junction Box เพื่อรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยแล้วครับ

จากห้องนอนรอง 2 เดินต่อเข้าไปด้านในสุดของบ้าน บริเวณปีกซ้ายจะเป็น Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่ ภายในค่อนข้างกว้างและดูโปร่ง ไม่อึดอัดเวลาพักผ่อน พร้อมทั้งไฮไลท์เลยคือการเปิดช่องแสงภายในห้องและวัสดุส่วนหนึ่งของบ้านที่เป็นกระจกใสทำให้ห้องดูโล่งสบาย

ด้านขวาจะเป็นส่วนพักผ่อน บ้านตัวอย่างจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ไว้กลางห้อง ภายในมีพื้นที่กว้างขวางสามารถเดินได้โดยรอบ ประดับส่วนหัวเตียงด้วยโคมไฟแบบแขวนลงมาจากเพดาน

อีกด้านเป็นโคมไฟตั้งโต๊ะ โดยหัวเตียงด้านหนึ่งจะมีช่องแสงเป็นกระจกทรงสูงแบ่งครึ่งหนึ่งเป็นบานกระทุ้งสำหรับเปิดออกได้เพื่อระบายอากาศ สามารถติดตั้งผ้าม่านเพื่อปิดให้ห้องทึบแสงได้ในตอนกลางคืน และยังมีช่องแสงขนาดใหญ่ที่ส่องผ่านประตูระเบียงอีกทางหนึ่งด้วย

ส่วนปลายเตียงเป็นตู้สำหรับวางทีวีและเก็บของได้พร้อมกับมีที่นั่งจัดวางไว้

Seek home for rest, for home is best.

-Thomas Tusser

ด้านข้างจะเป็นระเบียงที่มีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอในการจัดวางบีนแบคหรือชุดที่นั่งกลางแจ้งสำหรับจิบกาแฟยามเช้าหรือ นั่งพักผ่อนยามเย็น ชมวิวสวนสวยๆ จากสโมสร หรืออาจจะหาไม้กระถางมาวางประดับเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้าน

ด้านซ้ายเป็นซุ้มประตูโค้งทรง Arch สำหรับไปห้องแต่งตัวแบบ Walk-in closet

ประตูเข้าห้องนอนหลักจะอยู่ตรงกลาง แบ่งฟังก์ชั่นการใช้สอยภายในห้องออกมาอย่างเป็นสัดส่วนดีครับ

ด้านซ้ายของห้องนอนจะเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in closet ที่มีขนาดใหญ่มาก ประตูทางเข้าเป็นแบบ Arch ดูสวยหรูดีครับ รับกับงาน Exterior ด้านนอก

ภายในติดตั้งตู้เสื้อผ้าสูงจากพื้นจรดเพดาน 4 จุด พร้อมจัดวางโต๊ะเครื่องแป้งไว้ริมหน้าต่างจะได้รับแสงธรรมชาติยามเสริมสวย

เข้ามาจนสุดของห้องแต่งตัวจะเป็น Master Bahtroom ซึ่งมีขนาดใหญ่เช่นกัน ด้านหน้าเป็นอ่างล้างมือแบบ His & Her ทำจากหินอ่อนสีขาวพร้อมกระจกเงายาวขนานกันไป ด้านใต้อ่างได้ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนขนาด 6,000 w. มาให้เรียบร้อยแล้ว ตรงข้ามเป็นอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ให้เป็น แบรนด์ Roca จากสเปน เชื่อมต่อกับ Shower Box พร้อมพร้อมก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นเชื่อมต่อกับเครื่องทำน้ำร้อน มุมห้องมีช่องแสงสำหรับระบายและไล่ความชื้นอากาศ มีสุขภัณฑ์อัตโนมัติอยู่ด้านในสุด

ผมชอบรูปหน้าบ้านมุมนี้ เป็นภาพที่ดูแกรนด์ ดูแพงมากสำหรับบ้าน The Valor ด้วยผนังกระจกรายรอบบ้าน ดูสูงโปร่ง โล่งสบายไม่อึดอัด มองออกมาจะเห็นพื้นที่สีเขียวจากไม้ดอกไม้ประดับปลูกไว้โดยรอบ ทำให้รู้สึกสดชื่นสบายตา ตอบโจทย์แนวคิด Every step … brings you closer to nature ให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติในทุกๆวัน บนสังคมส่วนตัว ตอบโจทย์ทุก Generation นั่นเองครับ

พามาชม Clubhouse กันบ้างครับ สำหรับโครงการ The Valor รามอินทรา มาพร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางที่มีฟังก์ชั่นตอบโจทย์การใช้งานของลูกบ้านที่มีความชอบและไลฟ์สไตล์ที่เหมือนหรือต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น Co-Working Space สำหรับพักผ่อน ทำงาน อ่านหนังสือ หรือเปลี่ยนบรรยากาศจากการอยู่บ้านมานั่งเล่นที่สโมสร ซึ่งปัจจุบันเป็นสำนักงานขายอยู่ครับ

ด้านข้างสระว่ายน้ำจะมีทางลาดเป็น Universal Design รองรับผู้ใช้งานรถเข็น พร้อมแนวกำแพงเป็นซุ้มโค้งดูสวยดี งานดีไซน์สวยรับกันดีกับสระว่ายน้ำ มีขนาด 16 x 5 ม. ลึก 1.2 ม. เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ พร้อมแบ่งโซนสระว่ายน้ำสำหรับเด็กเอาไว้ ใกล้ๆ จะมี Daybed จัดวางสำหรับนั่งพักผ่อนหรือให้ผู้ปกครองมานั่งรอเด็กๆ ว่ายน้ำ

ขอบสระว่ายน้ำจะมองเห็นพื้นที่สวนสาธารณะส่วนกลาง มีทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้ดอก ไม้ประดับ ปลูกสลับกันไปเพิ่มความสดชื่นมีพื้นที่สีเขียวครอบคลุมทั้งโครงการ มีสนามหญ้าให้เด็กๆ มานั่งเล่นพักผ่อนใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ส่วนด้านในสุดเป็น Garden Pavilion ศาลาสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ อ่านหนังสือหรือจิบชากาแฟยามบ่าย ด้านในศาลาจัดวางชุดที่นั่งเอาไว้ให้แล้ว

อาคารด้านหลังสุดจะเป็น Gym สำหรับออกกำลังกาย จัดวางอุปกรณ์ออกกำลังกายไว้หลากหลายรูปแบบทั้งฟรีเวทและแมชชีนใช้เครื่องออกกำลังกายของ Technogym แบรนด์นำเข้าระดับ High-End เป็นการคาดิโอท่ามกลางวิวสวนสีเขียว ผ่านผนังกระจกที่เปิดรับวิวธรรมชาติจากภายนอก

#โดยสรุป The Valor รามอินทรา เป็นโครงการบ้านหรูระดับ Super Luxury ที่ตอบโจทย์คนชอบบ้านที่มีงานดีไซน์สวยเรียบหรู เน้นความโปร่งโล่งผ่านผนังกระจกบานสูงใหญ่ ให้เราได้ใช้ชีวิตท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติสีเขียวที่อยู่รายล้อม ในทำเล Prime Zone บนถนนรามอินทราที่เชื่อมต่อกับเมืองได้อย่างรวดเร็ว ทั้งใกล้ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ออกมอเตอร์เวย์ได้สะดวก ใกล้ทางด่วนสามารถเข้าสู่ CBD ได้ทันที มีสถานีรถไฟฟ้าอยู่ไม่ไกล สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่กานต์อยากแนะนำครับ

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CALL CENTER : 1298 หรือที่ https://www.the-valor.com

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน