The Standard, Bangkok Mahanakhon

เปิดภาพแรกให้ชมแบบครบทุกห้อง‼️

The Standard, Bangkok Mahanakhon

โรงแรมสุดฮิปอิมพอร์ตจากอเมริกาที่กานต์รอมานาน

_

เพิ่งจะแถลงข่าวเปิดตัวสาขาใหม่ที่สิงคโปร์ไปเมื่อเดือนก่อน ตอนนี้ของจริงมาแล้วครับ ได้เวลาเผยโฉม The Standard Bangkok, Mahanakhon กันเสียทีซึ่งเป็น 1 ใน 2 โรงแรมใหม่ของ The Standard ในไทย (อีกแห่งคือที่หัวหิน)

เล่าก่อนเผื่อใครยังไม่รู้จัก The Standard เป็น Lifestyle Hotel ที่ดังมากครับ ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวในเรื่องของความครีเอท ทันสมัย คิดอะไรไม่เหมือนใคร (ดูจากโลโก้กลับหัวก็พอจะรู้ได้ว่ากวน … เบอร์ไหน) ถ่ายทอดโรงแรมผ่านศิลปะ แฟชั่น ดนตรีและไลฟ์สไตล์ มีกิจกรรมแปลกใหม่ๆ มานำเสนอแขกตลอด เป็นการสร้างวัฒนธรรมการท่องเที่ยวในวันหยุด แขกจะได้ไม่ใช้เวลาอยู่แต่ในห้องพักเพียงอย่างเดียว ตลอดจนมีความเชื่อมโยงกับชุมชนที่โรงแรมตั้งอยู่เพื่อให้เกิดความร่วมมือใหม่ๆ

ในส่วนของงานดีไซน์ กานต์จะไม่แตะถึงของเดิมที่เคยออกแบบไว้ ก่อนที่จะกลายร่างมาเป็นโรงแรมเชนใหม่จากจากสหรัฐอเมริกา มาตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพ ฝีมือการออกแบบของ Jaime Hayon (ไฮเม่ ฮายอน) ดีไซเนอร์ชาวสเปน ซึ่งมีความโดดเด่นในงานคือความสนุกสนานน่ารัก (งานล่าสุดคือแปลงโฉมบ้านเก่าอายุกว่า 70 ปี ย่านชิดลม เป็นโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ House of Fritz Hansen Bangkok-ใครชอบตามไปดูได้ที่ในซอยสมคิด)

งานนี้ Jaime Hayon ได้ร่วมกับทีมออกแบบภายในมือรางวัลของ The Standard ซึ่งต้องบอกว่าภาพเรนเดอร์ที่ออกมามัน Hype และ Hi (Class) มาก ตาม DNA ของแบรนด์ ซึ่งดีไซน์ให้เป็นโรงแรมฮิปสเตอร์ เห็นได้จาก The Standard, London ตรงถนน Argyle ย่าน Kings Cross ที่ตอนนี้ร้านอาหาร Decimo กลายเป็นจุดเช็คอินแฮงค์เอาท์แห่งใหม่ในลอนดอนไปเสียแล้ว

นอกจากความเป็น Flagship Hotel ในเอเชียแล้ว แน่นอนว่า The Standard Bangkok, Mahanakhon ก็ตั้งใจให้ The Parlor เป็นแหล่งแฮงค์เอาท์ คอมมูนิตี้สำหรับคนสุดครีเอทีฟ ชอบสังสรรค์ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มาเอนจอยและใช้ชีวิตได้ทั้งวัน ในบรรยากาศรีแลกซ์ ซึ่งดูจากการออกแบบแล้วก็สดชื่นและสดใสดีครับ ส่วน Tea Room ก็สวยมาก ตกแต่งโทนขาวดำเหมาะสำหรับช่วงเวลา High-Tea ผมว่าไม่ควรพลาด

อีกจุดที่เป็นไฮไลท์คือ The Standard Gym ขนอุปกรณ์ออกกำลังแบรนด์ดัง ทันสมัยมากมาย เครื่องปั่นจักรยานสุดฮิต Peloton มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น ส่วนด้านนอกเป็นสระว่ายน้ำวิวกรุงเทพที่สร้างบรรยากาศให้สดชื่นด้วยต้นไม้ พอใส่ต้นมะพร้าวเข้ามาก็อ๊าวววว … นึกว่านั่งอยู่ สระว่ายน้ำริมทะเล … ต๊าชชชชมาก

ในส่วนของห้องพักมีทั้งหมด 155 ห้อง หลาย room type มาก เน้นกระจกบานใหญ่เอาไว้ชมวิวกรุงเทพมุมสูง ไล่ตั้งแต่ Standard Prince ห้อง Suite Spot ไล่ไปจนถึง Bigger Penthouse มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ขนแบรนด์ดังมาใส่เพียบเลย เครื่องเสียงบลูทูธใช้ Bang & Olufsen เครื่องชงกาแฟ Nespresso ชุดคลุมอาบน้ำดีไซน์เก๋ ชุดครัวใน Penthouse เป็นของ Gaggenau จากเยอรมนี มีโต๊ะทานข้าว 8 ที่นั่งจัดไว้ให้ด้วย ไม่ธรรมดาจริงๆ ครับ

The Standard จะเปิดตัวที่หัวหินก่อนในปลายปีนี้ครับ ขณะที่มหานคร จะเป็นต้นปีหน้า นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดตัว The Standard, Ibiza โรงแรมแห่งที่ 2 ในยุโรป ในปีหน้า และประเทศและเมืองสำคัญๆ อาทิ สิงคโปร์, เมลเบิร์นและลิสบอน ในปี 2566 ส่วนดับลิน, บรัสเซลส์ และลาสเวกัส จะเปิดในปี 2568

ส่วน The Standard ที่หาดในทอน ภูเก็ต, หาดแม่น้ำที่สมุยและย่านพัทยากลาง ที่ว่าจะเปิดตัวตอนนี้ยังเงียบ … ผมยังไม่ได้ข่าว

The Standard ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2542 และเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการสร้างสรรค์รสนิยมล้ำสมัย ดีไซน์แปลกใหม่ และมาตรฐานที่ไม่เหมือนใคร โดยปัจจุบันได้สร้างสรรค์โรงแรมที่ฉีกกรอบรูปแบบเดิมๆ มาแล้ว 6 แห่งในนิวยอร์ค ลอสแองเจลิส ไมอามี ลอนดอน มัลดีฟส์ และ The Standard, Hua Hin ที่กำลังจะเปิดให้บริการ 1 ธันวาคมนี้ รวมไปถึงแฟลกชิปในเอเชีย The Standard, Bangkok Mahanakhon ที่มีกำหนดเปิดในปีหน้า

กานต์ชอบห้องนี้ Tea room เชื่อว่าน่าจะมาเขย่าวงการคนรักชาให้สั่นสะเทือนตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้สัมผัส ออกแบบสวยมาก ตกแต่งในโทนขาวดำให้อารมณ์แปลกใหม่

ตึกมหานคร ตึกระฟ้าอันโดดเด่นใจกลางเมือง

โรงแรมไลฟ์สไตล์ 155 ห้อง ตกแต่งสวยมาก ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นจุดสนใจจากทุกสายตาไปโดยปริยาย มาพร้อมห้องพักตั้งแต่ขนาด 29 ตารางเมตรจนถึงห้องเพนท์เฮาส์อันโอ่โถงขนาด 144 ตารางเมตร ล้อมรอบไปด้วยวิวเมืองกรุงเทพฯ ชวนหลงใหลในยามค่ำคืน

ห้อง Suite Spot มีขนาด 83 ตารางเมตร รองรับผู้ใหญ่ 2 คน และเด็ก 2 คน หรือผู้ใหญ่ 3 คน และเด็ก 1 คน

มีเตียงคิงไซส์และเครื่องนอนสุดแฟนซี ห้องนั่งเล่นนอนชิลล์แยกออกมาอีกหนึ่งห้อง มีห้องแต่งตัวแยกไปอีก ในห้องมีมุมทานอาหาร

ภายในห้องมีเครื่องเสียงบลูทูธ Bang & Olufsen และมินิบาร์

ภายในห้องน้ำมีโซนอาบน้ำ และอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่เอาไว้ให้เรานอนแช่พร้อมชมวิวเมืองอันไร้ขอบเขตของกรุงเทพมหานครได้เป็นอย่างดี

Penthouse มี 1 ห้อง ต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดา! โดดเด่นด้วยพื้นที่ขนาด 105 ตารางเมตร เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเน้นสเปซ และวิวเมืองแบบไม่มีอะไรมากั้น

ภายในห้องพักประกอบด้วย ครัว ที่มาพร้อมของอร่อยและเครื่องดื่มมากมาย โต๊ะทานอาหารที่รองรับได้ถึง 8 คน เครื่องเสียงบลูทูธ Bang & Olufsen และห้องนั่งเล่นส่วนตัวขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อไปยังห้องแต่งตัว

ภายในห้องพักมาสเตอร์มีเตียงคิงไซส์และเครื่องนอนสุดชิค และแน่นอนตู้เสื้อผ้าในฝัน โต๊ะทำงาน รวมไปถึงห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำสุดอลังการ และเรน ชาวเวอร์

ยังไม่หมดเท่านี้…ถ้าเรามีเพื่อนหรือครอบครัวมาจอยเพิ่ม Penthouse สามารถเชื่อมต่อไปยังห้องพัก Standard King ได้อี๊กกกก

Balcony Suite มีขนาดตั้งแต่ 64 – 85 ตารางเมตร มีห้องแยกใหญ่ถึงสองห้องด้วยกัน พร้อมระเบียงส่วนตัวขนาด 4.7 ตารางเมตร เอาใจคนที่มีไลฟ์สไตล์ชาวเมืองแบบเต็มๆ

ห้องนี้จะรองรับผู้ใหญ่ 2 คน และเด็ก 2 คน หรือผู้ใหญ่ 3 คน และเด็ก 1 คนก็ได้ ประกอบด้วยเตียงนอนคิงไซส์และเครื่องนอนสุดแฟนซี เชื่อมต่อไปยังห้องนั่งเล่น มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันอย่าง โซฟา โต๊ะทานอาหาร และมินิบาร์

ภายในห้องน้ำมีทั้งเรน ชาวเวอร์ และอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ท่ามกลางบรรยากาศวิวเมืองสุดลูกหูลูกตา

แต่ความเก๋คือ เราสามารถดื่มด่ำกับวิถีชีวิตชิคๆ ที่ระเบียงส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นการจิบกาแฟยามเช้า ทานอาหารภายในห้องพักเพียงแต่เปลี่ยนบรรยากาศกินลมชมวิว จิบค็อกเทลยามเย็น หรืออะไรก็ได้ที่เราต้องการ

Bigger Penthouse มี 1 ห้องถ้วนเท่านั้น เพนท์เฮาส์สุดหรูใจกลางเมือง! ด้วยพื้นที่ขนาด 144 ตารางเมตร การันตีความลักซ์ชัวรีให้ไลฟ์สไตล์ราวกับอยู่ในอพาร์ทเมนต์อันหรูหรากลางเมืองยังไงยังงั้น

ภายในห้องโดดเด่นด้วยอุปกรณ์เครื่องครัวที่นักชิมและนักดื่มจะต้องถูกใจกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Gaggenau ซึ่งประกอบด้วย ตู้แช่ไวน์ เครื่องล้างจาน เตาไฟฟ้า ตู้เย็น และเครื่องไมโครเวฟ อีกทั้งยังอัดแน่นไปด้วยของอร่อยและเครื่องดื่มอีกมากมาย โต๊ะทานอาหารที่รองรับได้ถึง 8 คน

นี่ยังไม่นับห้องนั่งเล่นอันใหญ่โตที่เชื่อมต่อไปยังห้องแต่งตัว

ภายในห้องพักมาสเตอร์มีเตียงคิงไซส์และเครื่องนอนสุดชิค และแน่นอนตู้เสื้อผ้าในฝัน โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะทำงาน

รวมไปถึงห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำสุดอลังการ และเรน ชาวเวอร์ เป็นอันว่าห้องนี้มีครบจบแบบท็อป ๆ ทั้งมินิบาร์ก็แน่น วิวเมืองอันตื่นตาก็เลิศ

The Parlor แหล่งแฮงค์เอาท์ศูนย์กลางของโรงแรม คอมมูนิตี้สำหรับคนสุดครีเอทีฟ ท่ามกลางบรรยากาศสดชื่น ปลอดโปร่ง รีแลกซ์ และเป็นกันเอง

ดูก็รู้ว่าตั้งใจปั้นให้ The Parlor เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่รวมพลคนรักการสังสรรค์ พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น มาเอนจอยและใช้ชีวิต อย่างระหว่างวันเราสามารถมานั่งทำงานเพื่อหาไอเดียใหม่ๆ หรือจะมาดื่มด่ำจิบกาแฟยามเช้าหลังออกกำลังกาย ตามด้วยนั่งอ่านหนังสือเพลินๆ ก็ไม่ติด

หรือช่วงเย็นให้ The Parlor ได้ปลดปล่อยความคูลชวนให้หายเครียดกับโปรแกรมมากมายที่มาในคอนเซ็ปต์ไม่ซ้ำใคร ไม่ว่าจะเป็น เปิดโลกไปกับทอล์คโชว์ ปาร์ตี้ค็อกเทล และดีเจจากซาวด์สตูดิโอของสแตนดาร์ดเองที่จะมาเพิ่มสีสันค่ำคืนให้ไม่เหมือนเดิม

นอกจากโปรแกรมชวนน่าค้นหาทั้งหลาย อาหารและเครื่องดื่มที่ The Parlor เองก็ไม่เป็นรองใครกับสารพัดเมนูอาหารไทยและอินเตอร์เนชั่นแนลที่พร้อมเสิร์ฟตลอดทั้งวันและคืน

บรรยากาศ All Day Dining

เหมือนยกนิวยอร์กมาไว้ที่กรุงเทพฯ กับ The Standard Grill ร้านสเต็กเฮาส์สไตล์อเมริกันแท้ๆ ที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพในบรรยากาศสุดฮิปปนคลาสสิกชวนนึกถึงมหานครนิวยอร์ก แน่นอนมีชื่อเสียงในเรื่องสเต็ก โดยวัตถุดิบทั้งหมดถูกคัดเลือกมาอย่างดีทั้งพรีเมียม และสดใหม่

นอกจากนี้ The Standard Grill ยังมีในส่วนของคาเฟ่ที่พร้อมให้เราจะได้มานั่งชิลล์ทั้งวันตั้งแต่เช้ายันค่ำ สั่งเบอร์เกอร์ฉ่ำๆ สักชิ้น พร้อมมาตินี่แก้วโปรดในมือ เพียงเท่านี้วันใหม่ดีๆ ก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

Meeting Room

Mott 32 ร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นกวางตุ้งที่ตั้งชื่อตามถนน Mott 32 ในนิวยอร์ก อันเป็นที่ตั้งของร้านสะดวกซื้อจีนแห่งแรกของนิวยอร์ก โดยเปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1851

ร้าน Mott 32 มีความโดดเด่นด้วยการนำเสนอวัตถุดิบสดใหม่คุณภาพพรีเมียมจากทั่วโลก ซึ่งเชฟจะนำเทคนิคใหม่ๆ ผสานกับความโมเดิร์นมานำเสนอและปรุงแต่งให้ออกมาเป็นมื้อที่ดีที่สุด

สไตล์ของเมนูที่ Mott 32 นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากทางฝั่งกรุงปักกิ่ง และเสฉวน บวกกับสูตรลับเฉพาะที่ถูกส่งผ่านนับตั้งแต่รุ่นสู่รุ่นจึงทำให้ Mott 32 แตกต่างจากห้องอาหารจีนที่อื่นโดยสิ้นเชิง

เมนูขึ้นชื่อจะเป็นอะไรไม่ได้นอกจากเป็ดปักกิ่งรมควันด้วยไม้แอปเปิ้ล เมนูติ่มซำสไตล์กวางตุ้งและเสฉวน หมูแดงบาร์บีคิวไอเบอริโก้ (Iberico) หมักด้วยน้ำผึ้งและปรุงรสตามสูตรลับ และอีกมากมาย ที่พร้อมเสิร์ฟเป็นที่แรกในกรุงเทพฯ

The Standard Gym ฟิตแอนด์เฟิร์มได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยบรรดาอุปกรณ์ออกกำลังกายสุดทันสมัยจากแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Technogym กิจกรรมปีนหน้าผา และเครื่องปั่นจักรยานสุดฮิต Peloton ที่มีแค่ที่นี่ตลอดจนการให้คำแนะนำจากเทรนเนอร์มืออาชีพ พร้อมวิวเมืองที่ช่วยขับกล่อมจิตใจ และแสงแดดจากธรรมชาติ

The Pool สระว่ายน้ำที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ และวิวทิวทัศน์ท่ามกลางเมืองกรุงเทพฯ ที่ไม่เคยหลับใหล เรียงรายไปด้วยเมนูของอร่อยหลากหลายที่ไม่ซ้ำใครตั้งแต่เมนูทานเล่น ไปจนถึง เครื่องดื่มค็อกเทลดับกระหายที่แค่มีถือไว้ในมือระหว่างนอนอาบแดดก็ชิคมากแล้ว หรือสายรักสุขภาพไม่ต้องห่วงเพราะที่นี่มีเมนูมังสวิรัติให้เอนจอยมากมาย ตลอดจนสมูทตี้ น้ำผลไม้คั้นสด บอกเลยว่าทั้งสดชื่นทั้งมีพลังบวกพร้อมรับวันใหม่แน่นอน

Sky Bar ร้านอาหารกึ่งบาร์ที่ตั้งอยู่บนชั้น 76 ของ The Standard, Bangkok Mahanakhon โดดเด่นด้วยวิวเมืองสุดตระการตาทั้งในยามพระอาทิตย์ตกดิน หรือยามค่ำคืนพร้อมแสงไฟระยิบระยับที่ดึงดูดให้ทุกคนต้องมนต์สะกด ขึ้นชื่อว่าเป็นห้องอาหารและบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้เรายังสามารถดื่มด่ำจุดสูงสุดของกรุงเทพฯ ด้วยการขึ้นไปชมบรรยากาศพร้อมรับลมชิลล์ๆ ที่ observatory deck บนชั้น 78 ได้อีกด้วย

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน