จริๆ คำนี้อาจจะแปลได้สองความหมายครับ หนึ่งคือความเป็นเมืองเก่าแก่แห่งล้านนา กับความหมายเชิงปฏิเสธที่ว่า “เชียงใหม่ไม่เคยเก่าเลย”
เชียงใหม่ทริปสั้นๆ และรวมเรื่องราวกับทริปก่อนหน้าโพสต์นี้กานต์เลยจะพาไปเที่ยววัด เดินเล่นย่านเมืองเก่า จิบกาแฟและกินอาหารอร่อยๆ จากร้าน local ที่ผมชอบ บางร้านกินมาตั้งแต่เด็ก ผูกปิ่นโตเป็นขาประจำมาจนถึงตอนนี้
ทริปนี้เราพักกันที่โรงแรม The Chiang Mai Old Town ห่างจากสนามบินประมาณ 10 นาทีไม่เกินนี้งานดีไซน์ได้แรงบันดาลใจมาจากวิถีชีวิตของคนเชียงใหม่ เป็น Luxury Boutique เล็กๆที่แทรกตัวอยู่ย่านเมืองเก่า … วางกระเป๋าแล้วออกเที่ยวรอบเวียง เดินคูเมือง ได้เลยครั
ทริปนี้จะพาไปเดินเที่ยว
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร
วัดพันเตา
วัดอุโมงค์ สวนพุทธธรรม
ร้านกาแฟอาข่า อาม่า
(อดีต) โรงแรมศรีประกาศ https://bit.ly/3PKGW6K
ขจี คาเฟ่ https://bit.ly/3zEH4Po
ร้าน GRAPH Contemporary
สุกี้ช้างเผือก
ข้าวซอยอิสลาม
ขนมจีนสันปาข่อย
ข้าวต้มย้ง
เชียงใหม่ทริปนี้เที่ยวกันสบายๆ ผมจะเดินไปเล่าไปถึงเรื่องราวเก่าใหม่ ผ่านรูปภาพที่ถ่ายมาฝากกัน เผื่อเป็นไอเดียในช่วงหน้าหนาว ถ้าใครมองหาสถานที่เก่าๆ เรียบง่ายในความทรงจำ ก็ตามรอยกันมาได้ครับ
เชียงใหม่ มีสายน้ำปิงเป็นเส้นเลือดหลัก หล่อเลี้ยงนพบุรีศรีนครพิงค์จากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน เป็นอดีตราชธานีแห่งอาณาจักรล้านนาที่เต็มไปด้วยเรื่องราวความเป็นมาหลายศตวรรษ
ขัวเหล็ก รถเครื่อง เมืองเก่า เป็น 3 เรื่องราวที่ผมนึกถึงเสมอเมื่อมาเชียงใหม่ ฉากที่ดากานดาซ้อนรถเครื่องวิ่งผ่านสะพานนวรัฐยังคงเป็นภาพแห่งความทรงจำเสมอ นึกถึงตอนเด็กๆ แว้นมอเตอร์ไซค์จากลำปางมาเชียงใหม่ พักแล้วขี่ขึ้นไปดอยสุเทพกัน ปัจจุบันก็ยังคงมีภาพแบบนี้อยู่ ท่ามกลางความเป็นเมืองที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
เชียงใหม่รถราเยอะขึ้น ช่วงเช้า-ช่วงเย็นคือติดหนึบไม่แพ้กัน
ทริปนี้อยากพาย้อนเรื่องราวไปกับความทรงจำเก่าๆ ของกานต์กับเมืองที่ไม่เคยเก่า เพราะเชียง-ใหม่ ตลอดเวลา
พาเที่ยวทั้งวัดวาอาราม ชิมอาหารอร่อย จิบกาแฟร้านโปรดของผม จดไว้เผื่อมาเที่ยวเชียงใหม่ตอนหน้าหนาว
ทริปนี้ตั้งต้นจากย่านเมืองเก่า หรือว่า Old Town ครับ ถ้าพักแถวนี้ก็มีจุดเด่นคืออยู่ไม่ไกลสนามบิน ใช้เวลาเดินทางไม่นาน สามารถเดินเที่ยวหรือยืมจักรยานปั่นเที่ยวได้โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม
“If Thailand is one of the best countries to eat in, in Chiang Mai, it’s a particularly good city to find yourself hungry.”
– Anthony Bourdain
ลงเครื่องจากสนามบินใช้เวลาประมาณ 10 นาที (จริงไม่ถึงด้วยซ้ำ) ก็มาถึงที่โรงแรม The Chiang Mai Old Town เป็น Luxury Boutique เล็กๆ ที่แทรกตัวอยู่ในย่านเมืองเก่า เข้าซอยมาเล็กน้อยจากคูเมืองด้านหน้า สัมผัสแรกคือโรงแรมมาพร้อมกับความเป็นเรือนไม้สไตล์ล้านนาและนำเสนอวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น
เช็คอินที่ Lobby ซึ่งเป็นเล้าจน์ให้มานั่งพักผ่อนด้วยครับ ตกแต่งด้วยถ้วยโถโอชามเครื่องสังคโลกและเครื่องปั้นดินเผา จัดเรียงอยู่ในตู้ไฟอย่างสวยงาม
ติดกับอาคารต้อนรับส่วนหน้าจะเป็นสระว่ายน้ำขนาดไม่ใหญ่ เน้นความสดชื่นสบายตาของไม้ดอกไม้ประดับสีเขียวตัดสลับกับสีฟ้าของน้ำในสระ ช่วงเวลาเช้าๆ กับเย็นๆ จะนั่งสบายมาก
อาคารที่พักมี 2 ตึกแยกกัน ผมพักที่ห้อง Suite จะอยู่ The Heritage House เป็นบ้านแยกออกมา เป็นลักษณะของบ้านไม้โบราณล้านนา หรือที่เราเรียกติดปากว่า “บ้านบ่ะเก่า” ให้ความรู้สึกคลาสสิค
ด้านล่างมีตุ่มดินเผา ทำหน้าที่รองรับน้ำฝนที่ไหลลงมาจากราง เป็นภูมิปัญญาของการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในสมัยโบราณ ปัจจุบันไม่นิยมแล้วเพราะน้ำฝนไม่ค่อยสะอาดแล้วครับ แต่เราจะยังเห็นภาพแบบนี้ในบ้านเรือนโบราณ
ฝาบ้านไม้ใช้เทคนิคแบบโบราณ คือการขึ้นโครงด้านใน แล้วนำไม้ฝามาเรียงไม้ในแนวตั้ง ข้อดีก็คือสวยงาม กันน้ำกันลมได้ดี มีความมิดชิด แต่จะต้องใช้จำนวนไม้มากกว่าการปะฝาบ้านแนวนอน แต่ความเก๋ก็คือเป็นงานดีไซน์แบบโบราณที่แท้ทรู เพราะตั้งใจไม้ฝาบ้านมีขนาดไม่เท่ากันเพื่อให้เกิด texture ที่สวยงาม
ชั้น 2 จะมีห้องสวีทอยู่ 2 ห้องครับ มีขนาดใหญ่พอๆ กันแต่วางเลย์เอ้าท์ไม่เหมือนกัน ห้องที่ผมพักจะมุมนั่งเล่นอยู่ในห้องนอน สำหรับพักผ่อน ดูทีวี
ติดกันเป็นเตียงนอนขนาดใหญ่ หนานุ่มดีมาก เตียงเป็นโครง 4 เสาแบบโบราณ แต่ไม่มีมุ้งมาทำให้รำคาญใจ
ปลายเตียงมีโต๊ะทำงานขนาดไม่ใหญ่ พอให้นั่งอ่านหนังสือหรือว่าพิมพ์งาน เซ็นเอกสารได้ ด้านข้างเป็นประตูกระจกเปิดช่องแสงขนาดใหญ่ในตอนกลางวัน
ด้านนอกจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง มินิบาร์ และมีห้องน้ำอยู่ถัดเข้าไปด้านใน โทนสีที่ใช้ทั้งหมดเน้นสีขาว ดำ ทองเป็นหลัก ดูเรียบหรูดี
ที่เห็นเป็นเลเยอร์คือนาขั้นบันไดแต่เพิ่งปักกล้าไปเลยยังไม่เขียวสวยเต็มที่ ส่วนอีกอาคารที่เห็นก็เป็นห้องพักเช่นกัน และเป็นที่ตั้งของสปา ฟิตเนสเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ
สปาเป็นสไตล์ล้านนา มีทั้งห้องนวดไทยวางฟูกกับพื้นนวดกันสบายๆ ส่วนเราเลือกเป็นนวดน้ำมัน จะใช้ห้องทรีตเมนต์ด้านใน
นวดเสร็จมามานั่งเล่นต่อที่สระว่ายน้ำได้ครับ ขนาดไม่ได้ใหญ่มาก เอาไว้นั่งพักผ่อนชิลๆ หลังกลับจากเดินเที่ยว
สั่งเครื่องดื่มจากบาร์มาได้นะครับ ช่วงเย็นๆ จะร่มรื่นดีมาก
ตอนหัวค่ำก็สวยดีครับ มองเห็นเป็นบ้านเรือนโบราณอาคารขนาดย่อมอยู่ท่ามกลางชุมชนกลมกลืนดี
มื้อค่ำทานที่ห้องอาหารอิตาเลี่ยน The Vorra Bistro ภายในร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์นล้านนา
มี Long Table สำหรับแขกที่จองมาเป็นกลุ่มหรือต้องการความเป็นส่วนตัวด้วยครับ จัดโต๊ะไว้หรูหราดีมาก
อาหารที่เสิร์ฟจะเน้นอิตาเลี่ยนเป็นหลักนะครับ อาจจะมีเอเชี่ยนทวิสต์บ้าง ตกแต่งจานสวยเชียว
อาหารเช้าก็ทานที่ห้องอาหาร The Vorra Bistro เช่นกัน เลือกได้เลยว่าอยากจะนั่งด้านในหรือรับแดดอ่อนๆ ตอนเช้าที่ด้านนอก อาหารจะเป็นเซ็ทเมนูมาให้เลือกมีอยู่ 5-6 เซ็ท เลือกเป็นอาหารเหนือ 1 และเซ็ทไข่ดาว 1 ถือว่าค่อนข้างน้อยครับ ทานไม่อิ่มเลย
แต่ไม่เป็นไร เราตั้งใจจะไปเดินเล่นหาอะไรกินต่อในย่านนี้อยู่แล้วครับ ทานข้าวเช้าเสร็จก็ออกเดินกันเลย เข้าถนนราชมัคคา เดินไปเรื่อยๆ สบายๆ เจออะไรน่ารักๆ ก็ถ่ายรูปเก็บไว้
เดินมาเรื่อยๆ เราจะถึงวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เป็นวัดที่ประดิษฐาน พระสิงห์ หรือพระพุทธสิหิงค์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนามานานครับ สามารถเดินเข้าไปกราบสักการะด้านในได้
มีภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณสวยงามมาก ถ่ายรูปบันทึกภาพไว้ได้ แต่งดใช้แฟลชเพื่อป้องกันความเสียหายนะครับ
เดินมาอีกนิด ผมเจอเข้ากับร้านกาแฟ อาข่าอาม่า สาขาพระสิงห์ ร้านกาแฟที่มีชื่อเสียงดังไปถึงญี่ปุ่น เป็นสาขาที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ ตกแต่งด้วยอิฐให้อารมณ์เหมือนกำแพงคูเมืองเก่า
ภายในร้านกว้างขวางราคาไม่แพงมาก แต่กาแฟดี เกิดจากการที่คุณลี “อายุ จือปา” ต้องการพัฒนาเมล็ดกาแฟจากต้นน้ำจนถึงปลายน้ำให้มีคุณภาพ และได้ราคาที่เป็นธรรมต่อเกษตรกร ผมสั่งเป็นอเมริกาโน่มาชิมกาแฟฟรุตตี้นิดๆ อร่อยดีครับ
เดินต่อมาจะถึงวัดพันเตาครับ วัดมีขนาดไม่ใหญ่ เข้าไปไหว้พระด้านในกันก่อน เรามักจะชอบมาขอพรกันที่นี่เพราะชื่อวัดคือพันเตา (ปันเต้า) พ้องเสียงแปลว่าพรจะทวีคูณเป็นพันๆ เท่า
แต่จริงๆ แล้วในอดีตวัดนี้เป็นวัดที่สร้างเตาหล่อพระนับร้อยนับพันเตาครับ
ใกล้ๆ กับวัดพันเตาจะเป็นวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ผมมากราบพระอาจารย์ที่วัดนี้บ่อยมาก เป็นวัดที่อยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ โดดเด่นด้วยเจดีย์ที่เคยได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว ต่อมาได้มีการบูรณะ พร้อมกับนำบันไดนาคปรกมาไว้ตรงทางขึ้นและประดับด้วยรูปปั้นช้าง แนะนำให้มาชมความเก่าแก่และสวยงามของโบราณสถานแห่งนี้ได้ครับ
ต้นยางนาที่วัดเจดีย์หลวง จริงๆ แล้วเราจะเรียกว่า ไม้หมายเมืองครับ ซึ่งก็มีความหมายถึงการเป็นหมุดหมายของเมือง ในอดีตถ้าจะมองหาเมืองเชียงใหม่ ให้มองหาต้นยางนาต้นนี้ ซึ่งอยู่หลังเสาอินทขิล
ต่อมาต้องนั่งรถไปไกลหน่อยครับแถวๆ มช. ไปวัดอุโมงค์ สวนพุทธธรรมกันครับ เป็นวัดที่สวยงามและเงียบสงบมาก ขึ้นบันไดไปด้านบนก่อนเลยครับ เพื่อจะไปชมความงามของพระเจดีย์ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้ามังราย
อุโมงนี้สร้างขึ้นในสมัยสมัยพระเจ้ากือนาธรรมิกราช มีทางเข้าออก 4 ช่อง เชื่อมต่อกัน ข้างฝาผนังด้านในอุโมงค์เจาะช่องเล็กๆ สำหรับจุดประทีปให้เกิดความสว่างแก่พระสงฆ์ที่เดินจงกรมเป็นระยะ งดงามมากครับ
จากนั้น ไปศรีประกาศ อดีตโรงแรมชั้นนำอันดับแรกๆ ของเมืองเชียงใหม่ ด้านในคลาสสิคมากครับ เป็นอาคารที่ผสมผสานความเป็นล้านนาโบราณที่มีกลิ่นอาย Colonial Style เล็กน้อย
แวะมาพักกินขนมอร่อยๆ ที่ร้านขจี มีคอนเซปต์คือใช้ยีสต์สดธรรมชาติในการอบขนม ร้านตกแต่งน่ารักดี มีสไตล์ที่มินิมอล เรียบง่าย
ใครเอารถมาสามารถจอดรถได้ที่อาคารศรีประกาศแล้วเดินมาทานกาแฟได้เลย
ขจีเป็นร้านขนมที่ผมชอบที่สุดในเชียงใหม่เลยครับ
เดินตรงออกจากขจีจะเป็นสี่แยกเลยขัวเหล็กมาเล็กน้อยจะเจอกับร้านกาแฟร้านโปรดของผม GRAPH contemporary เป็นร้านมีกลิ่นอาย Art Gallery สไตล์วินเทจที่น่าสนใจ ตีโจทย์ใหม่ให้กับวัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่ไม่ใช่แค่ Third Palce แต่ต้องเป็นสถานที่สร้างแรงบันดาลใจ ไอเดียใหม่ๆ จุดประกายความคิด เป็นคอมมิวนิตี้ที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ระหว่าง ร้าน ลูกค้า และกาแฟ
ทางเข้าดูจากภายนอกเหมือนไม่ใหญ่ แต่เข้าไปด้านในคือว้าวและใหญ่มาก ออกแนววินเทจเฟรนซ์โคโลเนียล ลอฟ์ท 555 หลายสไตล์จัง เหมือนหลุดเข้าไปในหนังยุค 1920
ร้านออกแบบได้ดูดิบเท่ห์ แต่มีสไตล์ ร้านขนาดใหญ่ 2 ชั้น เรียกได้ว่าถ่ายรูปได้ทุกมุมจริงๆ คล้ายกับแกลอรี่ มีการจัดแสดงภาพเขียนของสะสมมากมาย
ร้านสวยยอมใจ ใครไปเชียงใหม่ควรแวะ
สุกี้ช้างเผือก เป็นร้านที่คนเยอะ รอคิวไม่นานมาก เพราะโต๊ะเยอะและทำเสร็จไว (บางครั้งไปก็ได้ผักกาดขาวแบบยังไม่ทันจะสุกกรอบนอกนุ่มใน) แต่ถ้าอยากกินสุกี้ทีไรก็มากินช้างเผือกตลอดเลย
ร้านนี้ชอบมาก จอดรถยากหน่อย แต่อร่อยที่สุด เข้าซอยเจริญประเทศ 1 มาเล็กน้อย
เป็นสูตรที่ขายกันมา 100 ปีทายาทรุ่น 3 แล้วครับ สั่งเป็นข้าวซอยรวมมา น้ำซุปหอมกะทิและเครื่องเทศ กลิ่นเนื้อคือดีย์ ที่สำคัญผักดองอร่อยมาก
ตามรอยมิชลิน มากินขนมจีนสันป่าข่อย จริงๆ เรากินร้านนี้มานานมากแล้วครับ รสชาติอร่อย ราคาไม่แพง
ขนมจีนแกงเผ็ดเนื้อคือเทพมาก มาดึกไม่ได้นะ เดี๋ยวหมดก่อน ขนมจีนน้ำเงี้ยวก็ดี ปกติจะสั่ง 2 น้ำนี้ประจำ
“ย้ง” ร้านข้าวต้มที่ต้องมากินก่อนขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพทุกครั้ง ดังตั้งแต่ยังไม่ได้มิชลิน ตอนนี้ยิ่งรอคิวนาน แต่ก็ไม่หวั่นครับ
จริงๆ แนะนำไม่ถูกเลยว่าควรสั่งเมนูไหนดี เพราะอร่อยทุกอย่าง แต่ที่ผมสั่งประจำเป็นเมนเลยก็คือหมูกรอบ กับเลือดพะโล้ ยอม!!