Soneva Kiri (โซเนว่า คีรี) เป็นชื่อของรีสอร์ตหรูระดับ 6 ดาว บนเกาะกูด จังหวัดตราด ครับ หนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดในประเทศไทยภายใต้ธรรมชาติที่สมบูรณ์ ด้วยความบริสุทธิ์ของต้นไม้ ความใสของน้ำทะเล ความขาวสะอาดของทรายและชายหาด เกาะกูด ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย จึงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก กลายเป็น Destination ที่ใครต่างก็ใฝ่ฝันอยากจะมาเข้าพักที่นี่
Soneva Kiri เป็นรีสอร์ตที่กานต์ตั้งใจจะต้องมาพักที่นี่ให้ได้สักครั้งในชีวิต และคิดว่าหลายคนก็คงเหมือนกัน ด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมานานนับสิบปี การันตีด้วยรางวัลต่างๆ ที่ได้รับมาแล้วมากมาย ในแต่ละปีมีเซเลป คนดัง นักเดินทาง จากทั่วโลก ต่างบินตรงมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วนั่งเครื่องบินส่วนตัวของทางรีสอร์ตเพื่อมาเข้าพักที่นี่ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Soneva ไปโดยปริยาย กลายเป็นแรงบันดาลใจให้อยากมาสัมผัสการใช้ชีวิตแบบ “Intelligent Luxury” ดูสักครั้ง ซึ่งมั่นใจว่า Soneva Kiri ไม่ทำให้เราผิดหวังอย่างแน่นอนครับ
Soneva Kiri เกาะกูด ตั้งอยู่บริเวณแหลมโป่งหลักอวน ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งของเกาะกูดที่มีความสวยงาม ด้วยความที่ภูมิศาสตร์อยู่บนพื้นที่โค้ง ส่งผลให้ Soneva Kiri มีวิวทิวทัศน์ให้ชมค่อนข้างหลากหลาย โดยเฉพาะการจัดให้มีมุมชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติกเป็นการเฉพาะที่ The View แต่หากจะเล่นน้ำทะเลหรือทำกิจกรรมทางชายหาด ทางรีสอร์ตได้เพิ่มบริการสุด Exclusive ด้วยหาดส่วนตัว คือ North Beach ซึ่งต้องนั่งสปีดโบ๊ทออกไปราว 10 นาที
Soneva Kiri เกาะกูด มีฐานความคิดมาจาก “Intelligent Luxury” เป็นการมอบประสบการณ์อันเลอค่าให้กับผู้เข้าพัก เพราะธุรกิจโรงแรมรีสอร์ตคือพื้นฐานของการให้บริการ เป็นนามธรรมที่อธิบายเป็นตัวอักษรได้ยากกว่ารูปธรรม ดังนั้น ความยากของงานที่เป็นนามธรรมเช่นนี้ คือการลงมือทำให้เห็นผลดีที่สุดนั่นเอง
ภาพมุมสูงที่เห็นเป็นเซ็นเตอร์ของ Soneva Kiri เกาะกูดครับ กิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนใหญ่จะรวมไว้ที่นี่ โดยเฉพาะร้านอาหารที่มีให้เลือกหลากหลาย เพื่อเสริมทัพรับความต้องการของผู้เข้าพักที่มาจากทั่วโลก แขกบางท่านก็พักยาวเป็น Long stay ดังนั้น ทาง Soneva Kiri จึงมีตัวเลือกอาหารที่วาไรตี้ นำเสนอด้วยความลักชัวรี่ ที่มุ่งเน้นคุณภาพของมื้ออาหารนั้นๆให้เป็นมื้อสำคัญ และยังสร้างประสบการณ์ให้เราประทับใจในแต่ละมื้ออาหารอีกด้วย
Soneva Kiri เกาะกูด มีปรัชญาในการดำเนินธุรกิจ คือ “เป็นมิตรและรักษาสิ่งแวดล้อม” ในรีสอร์ตขนาดใหญ่กว่า 400 ไร่แห่งนี้ จึงแทบไม่มีการตัดต้นไม้ ที่สำคัญยังปลูกต้นไม้ใหญ่เข้าไปเพิ่ม ทำสวน ปลูกผัก ผลไม้ ไว้รับประทานภายในรีสอร์ต จัดการระบบน้ำเสีย การนำพลังงานไบโอดีเซลกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การจัดการระบบนิเวศน์ภายในรีสอร์ตมีครบทั้ง Reduce-Reuse-Recycle จนกลายมาเป็น “Eco Centro” เพื่อการอยู่อาศัยร่วมกับธรรมชาติแวดล้อมอย่างยั่งยืน จนได้รับรางวัล World Travel and Tourism Council’s ‘Tourism for Tomorrow Award มาแล้ว