ช่วงวันหยุดสั้นๆ ชวนกันเที่ยวศรีราชา
เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น “ญี่ปุ่นสาขา 2”
แช่ออนเซ็นริมทะเล นั่งคาเฟ่ ถ่ายรูปเก๋ๆ ได้
______________________________
あいたい เป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “คิดถึงนะ”
ซึ่งถ้าใครตามเพจกานต์ก็จะรู้ว่า ผมชอบไปเที่ยวญี่ปุ่นมาก!!
คิดถึงบรรยากาศสบายๆ ตอนเดินเล่นแถวโอโมเตะซันโดะ
คิดถึงตอนไปพักเรียวกังที่ทาคารากาวะ
แช่ออนเซ็นริมทะเลชมวิวฟูจิที่ชิซุโอกะ
จิบกาแฟในคาเฟ่แต่งเก๋ๆ ที่โตเกียวซึ่งมีเยอะมว๊ากกกกก
ได้กินซูชิคำโต ปลาดิบสดๆ จิ้มโชยุที่มีวาซาบิแปะอยู่
ดูจะเป็นอะไรที่ฟินเฟ่อร์!!
คิดถึงช่วงเวลาที่ได้ขับรถเที่ยวจากฮอกไกโดยันคิวชู
ไปนั่งอยู่ริมทะเลช่วงซัมเมอร์
เอาจริง ทะเลญี่ปุ่นไม่ค่อยสวยหรอก แต่ฟีลมันได้ …
ว่าแล้วก็อยากไปอีก แต่ติดตรงโควิดนี่แหละ
ช่วงวันหยุดเลยขับรถไปแถวศรีราชา
เมืองที่มีฉายาว่า Little Japanese
ติดกลิ่นญี่ปุ่นเบาเบา มีความทะเลนิดๆ ปลาดิบหน่อยๆ
ขับรถจากกรุงเทพไปถึงศรีราชาบ่ายๆ
แวะร้านกาแฟชื่อดังอย่าง The Baristro at Sriracha
ถ่ายรูป เช็คอินคู่กับรถแวนที่เป็นแลนด์มาร์ก
กาแฟคั่วดี อ่อ!! อย่าลืมสั่งเค้กเมล่อนชื่อดัง มาลองทาน
ของมันอร่อยจริงอ่ะ!!
เย็นๆ ไปทานอาหารญี่ปุ่นที่ร้าน Bakkai japanese restaurant
มีเบียร์เย็นชื่นใจแกล้มด้วยวิวพระอาทิตย์ตกแบบพาโนราม่า
สวย … สวยไม่หยุด สวยแบบไม่มีอะไรกั้น!!
ช่วงค่ำๆ ไปเดินเล่นที่ศรีราชานคร
แถวนี้จะมีซอยร้านอิซากายะ หรือร้านกินดื่มของคนญี่ปุ่นทั้งแถบ
ส่วนอีกซอยจะเป็นแคนดี้บาร์ ไว้บริการ Salary Man ทั้งหลาย
ผมไปเดินเล่นถ่ายบรรยากาศได้ฟีลญี่ปุ่นมาพอสมควร
แก้คิดถึงไปได้เปลาะนึง
ที่ศรีราชามีโรงแรมฟีลญี่ปุ่นให้เลือกมากมายเลยครับ
แนะนำว่า นอนพักที่นี่สักคืน
โรงแรมที่ศรีราชามักจะมีอาหารญี่ปุ่นเสิร์ฟตอนเช้าด้วยเสมอ
สายๆ แวะไปแช่ออนเซ็นฟีลญี่ปุ่นแท้ๅ ให้สบายตัวที่ Yu Yu Land & Spa
อาจจะต้องถอดผ้าหมดตามแบบฉบับคนญี่ปุ่นแท้ๆ
ใครขี้อายก็ให้ไปไวหน่อยจะได้ไม่ค่อยมีคน ^ ^
ที่นี่มีจากุซชี่และเตียงนวดริมทะเลไว้ดูวิวด้วย
ผมชอบมากเลยครับ ฟีลมันได้
ก่อนกลับค่อยแวะไป นั่งจิบดับเบิ้ลมัจฉะให้สบายใจ
ที่ Prave Cafe ร้านอยู่ริมทะเลวิวคือสุโก้ยยยยมากๆ
จบละ ทริปศรีราชาเหมือนมาเที่ยวญี่ปุ่นเว่อร์ชั่น Shortcut
ใช้เวลาสั้นๆ 2 วัน 1 คืน กำลังดี
ตามรอยกันได้เลยครับ
じゃ、またね – แล้วเจอกันใหม่น๊า
—
เลือกภาพนี้มาเป็นภาพเปิดเพราะชอบในอารมณ์ของภาพให้ความรู้สึกเบาสบาย
มองไปทางซ้ายก็ทะเล ขวาก็ทะเลเป็นฟิวแบบพาโนราม่ากับร้านอาหารญี่ปุ่นลึกแต่ไม่ลับอยู่ในซอยโรงพยาบาลสมิติเวช เข้าซอยไปประมาณ 200 เมตร มองด้านซ้ายมือชื่อว่าบักไค Baikai
ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบโฮมเมด เหมือนเราไปกินเวลาที่เราไป Road Trip ญี่ปุ่น หิวก็จอดรถแวะทานร้านดังแบบไม่ตั้งใจเจอ
Instagram Shot ที่จะกลายเป็น Signature เพราะอีกไม่นานคนจะต้องแห่กันมาถ่ายรูปที่นี่
กับบันไดทางลงชั้นล่างของร้านกาแฟ Prave Cafeให้ความฟิวแบบมินิมอลเน้นสีขาวดำทำให้รู้สึกเบาสบายนั่งมองวิวทะเลไปจากในร้านได้เลย
ที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็นออนเซ็นที่ Yu Yu Land & Spaเพราะว่าถอดแบบมาจากออนเซ็นของญี่ปุ่นได้แบบชัดเจนล้านเปอร์เซ็นต์
ดีเทลเป๊ะทุกกระบียดนิ้ว เห็นได้จากการออกแบบโซนอาบน้ำแบบนั่งอาบแล้วมีขันและอ่างวางไว้ พร้อมกับแชมพู ครีมนวด ครีมอาบน้ำ ส่วนกลางที่ใช้กันสามสีสามขวดเรียงรายกันไป
ให้ความรู้สึกเหมือนตอนไปเข้าออนเซ็นที่ญี่ปุ่นแท้ๆ แก้คิดถึงได้พอสมควร
บรรยากาศก็จะสบายๆ อย่างที่เห็น มีภูเขาไฟฟูจิด้วย อิอิ
Van Cafe น่าจะเป็นชื่อเล่นของร้านกาแฟ The Baristro สาขาศรีราชา
ผมว่าร้านนี้แต่งน่ารักดี มีมุมถ่ายรูปเยอะอัพไอจีได้ประมาณอาทิตย์นึง
ที่สำคัญคือกาแฟคั่วดีมีความเข้มข้นและหอมนวล
The Baristro at Sriracha ร้านสาขาที่มาจากเชียงใหม่ เป็นร้านกาแฟสไตล์มินิมอลที่ตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ ออกแนวเท่ห์ๆ คูลๆ มีเมนูเครื่องดื่มที่หลากหลาย ส่วนขนมก็ใช่ย่อยมีให้เลือกมากมาย
แต่ที่เยอะกว่าใครก็มุมถ่ายรูปนี่แหละ!!
ดีไซน์การออกแบบและตกแต่งร้านของ The Baristro สาขาศรีราชา จะคล้ายๆ สาขาริมปิงที่เชียงใหม่ เน้นความเป็นธรรมชาติและธรรมดาของการออกแบบในสไตล์ลอฟท์ โชว์สัจจะวัสดุเป็นหลัก คุมโทนสีได้ดีคือยังคงมีความขาวดำ น้ำตาลจากไม้ และเทาอมเขียว
นั่งมาประมาณชั่วโมงกว่า มีคนแวะเข้ามาสั่งกาแฟและถ่ายรูปเยอะอยู่ครับ
เป็นร้านกาแฟที่ตกแต่งเท่ห์มาก เหมาะแก่การหยิบ macbook สักตัวแล้วไปนั่งทำงานเท่ห์ๆ ชิลๆ ด้านหลังติดกันเป็นร้านอาหารครับ เน้นเพื่อสุขภาพนิดๆ แต่เมนูทั่วไปก็มี สามารถนั่งสลับไปมาสองร้านได้ทั้งวัน
เค้กเมล่อน เป็น Signature Menu ของร้านนี้ ถ้ามาแล้วไม่สั่ง ระวังพลาดครับ หอมเมล่อนมากกก
จริงๆ มีหลายเมนูที่น่าสนใจนะครับ ถ้านั่งนานแบบผม ก็จะสั่งเยอะหน่อย อย่างรูปแรกเป็น Triple Espresso กาแฟช็อตใส่นม (ซึ่งหอมมันมาก) และใส่ช็อคโกแล็ตลงไปด้วย อร่อยดี เจ้มจ้น
อีกแก้วเป็น Black Coconut Coffee ก็คือกาแฟใส่น้ำมะพร้าว ส่วนตัวชอบความหอม แต่น่าจะเพิ่มความมันอีกนิดคิดว่าน่าจะลงตัวกว่านี้
แก้วสุดท้ายชื่อ Pink Panter เห็นสาวๆ สั่งกันเยอะเลยลองมั่ง กลิ่นหอมหวาน ทั้งลูกแพร์ สตอเบอรี่ หอมกลิ่นกุหลาบด้วย และมีไซรับแตงโม กลมกล่อมดีครับ
บราวน์นี่ก็ดีนะ เนื้อแน่นหนึบ กิน 2 ชิ้นพอ อิ่มมากกกก
ทะเลที่ศรีราชา ตอนน้ำลง ช่วงบ่ายจะมีคนมาหาหอยเต็มไปหมด
ผมชอบภาพนี้เพราะดูเป็นทะเลสีดำคล้ายกับที่เคยไปที่เมือง Ito แปลกตาดีครับ
ตอนเย็น แวะไปนั่งเล่นริมทะเล พอน้ำขึ้นแล้วสวยเชียว ที่นี่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแนว Izakaya ที่คนศรีราชาคุ้นเคยครับ ออกแบบมาเป็นกระท่อมหลังน้อยลอยในทะเล ชื่อว่าร้าน Bakkai ให้ฟีลแบบไม่บอกไม่รู้ว่านี่คือศรีราชา
มีให้เลือกนั่งทั้งในห้องปรับอากาศ ห้องพัดลม และด้านนอกริมระเบียงแบบชิดติดทะเลเลยครับ
โต๊ะนี้ก็มุมสวยดี ได้เห็นวิวพระอาทิตย์ตกเต็มๆ
ผมสั่งเป็นเซ็ตที่ทางร้านมีโปรโมชั่นพอดี เซ็ตนี้จะมีซาชิมิรวม ใส่มาบนเรือสวยงามตามแบบฉบับร้านอาหารญี่ปุ่น
Sasimi Mori Set นอกจากจะมีซาชิมิแล้วยังมี สลัดแซลม่อนและราเมงเทมปุระให้อีก 2 ชาม ดังนั้น 1 Set จึงเหมาะกับการรับประทาน 2 คน อิ่มกำลังดี ถามให้แล้วโปรนี้จะหมดเขตสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ครับ
กลัวทานไม่หมดเลยชวนเฮียกอล์ฟ ผู้ย้ายมาตั้งรกรากที่ศรีราชา มาทานด้วยกัน เฮียนี่เองเป็นคนเล่าเรื่องบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นที่ศรีราชา เลยจุดประกายผมว่าคนรักแดนปลาดิบต้องมาแก้ขัดที่นี่
วิวเมื่อมองออกไปนอกร้าน บรรยากาศคือดีย์
ทะเลกำลังสวยครับ ภาพนี้ถ่ายจากระเบียงในร้านออกไป
ตอนเดินกลับจากร้าน Bakkai เห็นมีร้านกาแฟ ริมทะเลกระจกใส น่านั่งกำลังปิดร้าน บรรยากาศดี๊ดี เลยคิดว่าพรุ่งนี้ต้องแวะ
ตอนค่ำหลังจากทานอาหารเสร็จ ไปเดินเล่นที่ถนนศรีราชานคร ย่านที่คนญี่ปุ่นที่ทำงานศรีราชา นิยมมากินดื่มกันแถวนี้ มีทั้งร้านอิซากายะ ร้านข้าวแกงกะหรี่ ร้านราเมง อุด้ง
มาถ่ายรูปเล่นได้ ให้ฟีลญี่ปุ่นดีครับ
ร้านเนื้อย่าง ร้านนี้เล็งไว้ละน่าจะเด็ด ครั้งหน้าจะมาลอง
บรรยากาศที่ศรีราชายามเช้าๆ ให้ความรู้สึกเหมือนนอนอยู่เรียวกังริมทะเลที่ญี่ปุ่น ตื่นมาก็ได้วิวประมาณนี้
คุ้มค่าที่ยอมตื่นเช้า วิวนี้สวยมาก เหมือนเราไปพักที่ต่างจังหวัดของญี่ปุ่น ตอนผมไปนอนที่อิเนะก็เจอบรรยากาศประมาณนี้
ตรงนี้เป็นท่าน้ำของโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา
ทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จ สายๆ ก็ว่าจะไปนวดแล้วก็แช่ออนเซ็นสักหน่อย
แต่ขอเติมคาเฟอีนก่อน เมื่อวานตอนเย็นเล็งร้านนี้ไว้ชื่อ Prave Cafe
ร้านอยู่ริมทะเล ซอยโรงพยาบาลสมิติเวชนี่แหละ แต่งร้านน่ารักดี มีความมินิมอล เรียบๆ ง่ายๆ ใช้สีดำ ขาว เทา น้ำตาลไม้เป็นหลัก
สั่งดับเบิลมัจฉะมาลองทาน ชาเขียวชงแบบญี่ปุ่นแท้ ใส่นมสูตรพิเศษของทางร้าน หอมหวานมันมาก
ชั้นลอยเป็นกระจกเปิดโล่งมองออกไปเห็นวิวทะเล จิบชาเขียวไปด้วย ได้อารมณ์ญี่ปุ่นดีครับ
กาแฟส้มยูซึ ผมชอบจังหอมส้มดี ส่วนกาแฟไม่ต้องพูดถึงคั่วดี หอมเข้มกำลังดี
จากนั้นแวะไปนวดให้สบายตัวก่อนกลับกรุงฯ ที่ร้าน Yu Yu Land & Spa ร้านแต่งสไตล์ญี่ปุ่นแบบเรียบง่าย ชอบผนังสีเหลืองเป็นลอนคลื่นไม้ ผมว่าเท่ห์ดี
มีนวดให้เลือกหลายแบบ แล้วก็มีออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ให้แช่ด้วย
ที่นี่ออกแบบได้ลงดีเทลมากครับ ทั้งบรรยากาศ การตกแต่ง อุปกรณ์ที่ใช้ ขันเอง กาละมังเอย แม้แต่แชมพู ครีมนวด ครีมอาบน้ำยังมี 3 ขวด วางไว้เหมือนเป๊ะ
ส่วนการอาบน้ำก็ใช้วิธีนั่งอาบและขัดขี้ไคลทำความสะอาดตัวให้เรียบร้อยก่อนไปแช่ออนเซ็นครับ
ออนเซ็นที่นี่ก็เหมือนที่ญี่ปุ่นนะครับ เป็นบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่ บ่อรวมแยกชายหญิง ไม่อนุญาตให้สวมเสื้อผ้า หรือนุ่งผ้าเช็ดตัวลง ให้พกไปได้แค่ผ้าขนหนูผืนเล็กเอาไว้โพกหัว เช็ดหน้าเท่านั้นครับ
จากนั้น ก็เป็นส่วนของห้องนวด สตรีมและมีจากุซชี่วิวทะเลให้แช่ตัวหลังนวดครับ เพื่อผ่อนคลาย
ใกล้ๆ เป็นร้าน Bakkai ที่เราเพิ่งไปทานมาเมื่อวาน
#โดยสรุป ศรีราชาเป็นเมืองที่ให้ฟีลของความเป็นญี่ปุ่นได้ดีพอสมควรครับ เหมาะสำหรับการมาเปลี่ยนบรรยากาศ เดินทางง่าย เพราะอยู่ไม่ไกลกรุงเทพ
คิดถึงญี่ปุ่นเมื่อไร ก็มาศรีราชาได้ครับ “ญี่ปุ่นสาขา2”