“𝐓𝐡𝐞 𝐠𝐫𝐞𝐚𝐭𝐞𝐬𝐭 𝐥𝐞𝐠𝐚𝐜𝐲 𝐨𝐧𝐞 𝐜𝐚𝐧 𝐩𝐚𝐬𝐬 𝐨𝐧 𝐭𝐨 𝐨𝐧𝐞’𝐬 𝐜𝐡𝐢𝐥𝐝𝐫𝐞𝐧 𝐢𝐬 𝐧𝐨𝐭 𝐦𝐨𝐧𝐞𝐲 𝐨𝐫 𝐩𝐫𝐨𝐩𝐞𝐫𝐭𝐲, 𝐛𝐮𝐭 𝐭𝐡𝐞 𝐢𝐧𝐬𝐩𝐢𝐫𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧 𝐭𝐨 𝐭𝐫𝐲 𝐭𝐡𝐞𝐢𝐫 𝐛𝐞𝐬𝐭 𝐭𝐨 𝐫𝐞𝐚𝐜𝐡 𝐭𝐡𝐞 𝐬𝐭𝐚𝐫𝐬.” – Brad Henry, นักเขียนชาวอเมริกันกล่าวไว้ใน “The Long Run”
.
คำพูดของ Brad Henry ชี้ให้เห็นว่ามรดกที่มีค่าที่สุดไม่ใช่ความมั่งคั่งทางวัตถุ แต่เป็นการส่งมอบแรงบันดาลใจในการมุ่งมั่นเพื่อความยิ่งใหญ่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการปลูกฝังจุดมุ่งหมายให้กับทุกคน ซึ่งเกินกว่ามรดกทางการเงินหรือทางกายภาพใดๆ เป็นการส่งมอบมรดกผ่านแรงบันดาลใจ ซึ่งเป็นนิยามใหม่ของมรดกในปัจจุบันว่าเป็นผลที่จับต้องไม่ได้แต่ยั่งยืนซึ่งเราทิ้งไว้ให้ผู้อื่นรุ่นต่อไป เช่นเดียวกับการส่งต่อแนวคิดในการใช้ชีวิตเพื่อการบรรลุเป้าหมายของแต่ละคน เพราะแท้จริงแล้วบ้านและครอบครัวต่างเป็นพื้นที่ที่ส่งเสริมแรงบันดาลใจ เกิดเป็นมรดกที่สร้างขึ้นจากคุณค่าที่เหนือกว่าวัตถุอื่นใด
.
“𝐓𝐡𝐞 𝐭𝐫𝐮𝐞 𝐥𝐞𝐠𝐚𝐜𝐲 𝐢𝐬 𝐧𝐨𝐭 𝐭𝐡𝐞 𝐭𝐡𝐢𝐧𝐠𝐬 𝐲𝐨𝐮 𝐥𝐞𝐚𝐯𝐞 𝐛𝐞𝐡𝐢𝐧𝐝, 𝐛𝐮𝐭 𝐢𝐭 𝐢𝐬 𝐡𝐨𝐰 𝐭𝐡𝐞𝐲 𝐫𝐞𝐦𝐞𝐦𝐛𝐞𝐫 𝐲𝐨𝐮.” เป็นประโยคที่กานต์เคยได้ยินครั้งแรกเมื่อตอนเข้าไปชมโครงการ SIRANINN Residences โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury เป็น Private Residences สุดหรูหราบนทำเลพัฒนาการ
.
จุดเด่นของ SIRANINN Residences มีทั้งเรื่องโลเคชั่นที่เชื่อมต่อย่านไลฟ์สไตล์อย่างเอกมัย-ทองหล่อได้ง่าย สัญจรได้หลายสาย ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ตัวบ้านหน้ากว้างบนผืนที่ดินขนาดใหญ่ ฟังก์ชันการใช้งานตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ ให้ความเป็นส่วนตัวสูงด้วยจำนวนเพียง 28 ยูนิตเท่านั้น ส่วนเรื่องงานดีไซน์เป็นบ้านแบบ Modernism Tropical Architecture ซึ่งเป็นแนวคิดหลักของสิงห์ เอสเตทที่สืบต่อมาจากแบรนด์ Santiburi เป็นบ้านที่ให้อารมณ์ Modren Resort ที่สะท้อนถึงรสนิยมในการใช้ชีวิต มีคุณภาพและงานฝีมือแบบสากล เหมือนกับวลีที่ว่า Inherriting the Craftsmanship ซึ่งกานต์ชอบมากและอยากนำมาเล่าต่อให้ได้อ่านกัน
.
Hubert de Givenchy ดีไซเนอร์ชื่อดังเคยบอกว่า “ความหรูหราอยู่ในรายละเอียดแต่ละอย่าง” ดังที่เราได้เห็นจากบ้านในโครงการ SIRANINN กานต์ว่ามันคือความ Beyond ไปกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นงานดีไซน์ที่เน้นเชื่อมต่อฟังก์ชันและโอบกอดทุกความสัมพันธ์ของสมาชิกในบ้าน การออกแบบให้บ้านโปร่งจากแสงธรรมชาติ เกิดการไหลเวียนของอากาศบริสุทธิ์ภายใน ที่สำคัญคือการให้น้ำหนักเรื่องการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศของที่พักอาศัย เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวน้อยใหญ่ เหล่านี้สะท้อนถึงการให้ความสำคัญในรายละเอียดจนกลายเป็นตัวกำหนดแนวทางการใช้ชีวิตของเราอย่างแท้จริง
.
ติดตามอ่านเรื่องราวและภาพถ่ายจากบ้าน SIRANINN Residences จากสิงห์ เอสเตทกันต่อด้านในครับ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://residential.singhaestate.co.th/…/pattanakarn
SIRANINN Residences ตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 32 ซึ่งทำเลนี้เราพาไปชมมาเกือบครบทุกโครงการแล้วครับ ทำเลนี้ถือเป็น Prime Location มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัยถือเป็นจุดเด่นของโลเคชั่นนี้ที่รวมเอาโครงการบ้านหรูไว้มากมาย เป็นทำเลที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ด้วยความที่โครงการได้ออกแบบให้มีระยะถอยร่นจากถนนหลักมากพอสมควร โดยจัดทำเป็น Clubhouse และสวนด้านหน้า โดยมีแนวต้นไม้ใหญ่คอยเป็น Buffer ช่วยป้องกันเสียงได้ดีทีเดียวครับ เมื่อนั่งอยู่ด้านในโครงการ เราจึงแทบจะไม่ได้ยินเสียงรถราที่วิ่งอยู่ข้างนอกเลยครับ ราวกับเป็นโอเอซิสใจกลางกรุง โครงการ SIRANINN Residences นำเสนอบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ที่เชื่อมโยงรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัย สามารถสะท้อนตัวตนออกมาได้อย่างเหนือระดับ ด้วยความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดของการออกแบบ ดำเนินการโดยสิงห์ เอสเตท โครงการตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการ 32 มีขนาดที่ดินอยู่ประมาณ 23 ไร่ ทว่ามีจำนวนน้อยเพียง 28 ยูนิตเท่านั้น บ้านทุกหลังจึงนำเสนอจุดเด่นเรื่องบ้านหน้ากว้าง ที่ดินขนาดใหญ่ ให้ความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยได้เป็นอย่างดีท่ามกลางสังคมแห่งการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพครับ Main Gate ตกแต่งด้วยวัสดุลายไม้ให้ความรู้สึก Tropical เลือกใช้หินสีเทาเข้มเข้ามาเพื่อสื่อถึงความยิ่งใหญ่ หนักแน่น ประตูทางเข้า-ออกแยกจากกันอย่างชัดเจน มีป้อมยามอยู่ตรงกลางพร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยอำนวยความสะดวก สำหรับลูกบ้านใช้ระบบอ่านป้ายทะเบียนรถ (Car License Plate Entry) ทำให้สะดวกรวดเร็วดีครับ ส่วนด้านขวาชิดกับรั้วด้านในจะเป็นประตูเล็กสำหรับคนเดินเท้าเข้า-ออก แยกไว้ให้ชัดเจนและปลอดภัยด้วยระบบ Face Scan ที่หน้าประตูครับ เมื่อเข้ามาในโครงการเราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่สวยงาม โดดเด่นตั้งแต่ Main Gate ขนาดใหญ่ พร้อมป้ายชื่อโครงการด้านหน้าเห็นได้ชัดเจน ประดับประดาโดยรอบด้วยสวนหย่อมและน้ำพุเพิ่มความสดชื่นสบายตา รู้สึกถึงความผ่อนคลายได้ในทันทีที่กลับมาถึงบ้าน เมื่อเข้ามาด้านใน ขวามือจะเป็น Clubhouse ซึ่งจะอยู่ก่อนที่จะข้ามสะพานเข้าไป Residencial Area ด้านใน ทำให้สะดวกปลอดภัยและได้ความเป็นส่วนตัว ในการนัดหมายแขกมาพบปะพูดคุยธุระกันที่ Clubhouse ด้านหน้าแทนที่จะพาเข้าไปที่บ้าน ออกแบบให้มีลานจอดรถรองรับได้ 8-10 คัน พร้อมจุด Drop-off สามารถให้คนขับรถวนเข้ามาจอดเพื่อรับ-ส่งเราก่อนได้ครับ พื้นที่โดยรอบบริเวณนี้รู้สึกสดชื่นทันทีที่ก้าวลงจากรถ เพราะด้านหน้า Clubhouse เป็นพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ มองเข้าไปเห็นสนามหญ้าสีเขียว ตัดกับสระว่ายน้ำสีฟ้า โดยมีวัสดุธรรมชาติอย่างไม้และหินเข้ามาประดับ ทำเป็นคอร์ทและโถงทางเดินเพื่อนำเราเข้าไปสู่ด้านใน Clubhouse สระว่ายน้ำส่วนกลางของโครงการเป็นสระระบบเกลือ ขนาด 6×23 เมตร สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายแบบจริงจังกันได้เลย ครับ พร้อมกับออกแบบให้มีโซนสระเด็กและจากุชชี่เพื่อที่เราจะได้แช่น้ำพักผ่อนแบบสบายๆ มี Sundeck สำหรับนอนอาบแดดในวันหยุด หรือใช้เป็นพื้นที่ให้คุณแม่นั่งพักคอยรอเด็กๆ ที่กำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน เราสามารถเทควิวสระว่ายน้ำและสวนบริเวณตรงกลางนี้ได้จากแทบทุกจุดภายใน Clubhouse เลยครับ บรรยากาศหรูหราราวกับมาพักผ่อนอยู่ที่รีสอร์ตหรูที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้น้อยใหญ่ หรือจะว่ายน้ำพักผ่อนออกกำลังกายก็ทำได้สบายเลยครับ ส่วนพื้นที่รับรองมีีทั้งที่นั่งบริเวณกลางแจ้งด้านนอก ทำเป็น Sunken Seating อยู่ใต้ต้นจามจุรีขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกสบายๆ ในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ ใช้เป็นพื้นที่นั่งอ่านหนังสือหรือจิบชา Earl Grey หอมๆ ให้ลมเย็นพัดเบาๆ เท่านี้ก็มีความสุขแล้วครับ ส่วนด้านใน Clubhouse จะเริ่มจาก Reception & Lounge ด้านหน้าสำหรับเป็นพื้นที่รับรองแขกเพื่อพบปะพูดคุยธุระ หากเราไม่ต้องการให้แขกเข้าไปภายในบ้านก็สามารถนัดหมายที่นี่ได้เลยครับ ออกแบบให้มีชุดที่นั่งโซฟาจุดละ 2-4 ที่นั่ง กระจายกันไป ผมชอบการตกแต่งภายในมุมนี้มาก ดูสดใสด้วยสีสัน ขณะเดียวกันก็ยังล้อไปกับภาพรวมงานออกแบบที่เน้นความเป็น Modern Tropical จากธรรมชาติ เช่นการใช้วัสดุอย่างไม้และหินอ่อนเป็นหลัก บริเวณนี้ค่อนข้างกว้างและโปร่งด้วยฝ้าเพดานสูงและการนำกระจกเข้ามาช่วยในการออกแบบ เมื่อนั่งแล้วทำให้รู้สึกสบายๆ มองออกไปเห็นสวนสีเขียวด้านนอก ติดกันเป็นห้องจัดเลี้ยงแบบ Private สามารถเชิญ Celebrity Chef ที่มีชื่อเสียงมาทำอาหารให้เราได้ทานถึงบ้านพร้อมกับสมาชิกในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนได้เลยครับ ทำให้ไม่จำเป็นต้องออกไปทานอาหารนอกบ้าน แต่ก็ยังได้บรรยากาศของความหรูหราและให้ความเป็นส่วนตัวได้เช่นกัน สามารถเลื่อน Partition กั้นปิดพื้นที่ได้เลยครับ โครงการออกแบบให้มีเคาน์เตอร์ครัว อุปกรณ์ในการทำอาหารและอำนวยความสะดวกสำหรับเชฟเอาไว้ให้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดูดควัน เครื่องชงกาแฟ ไมโครเวฟ และเตาอบ มีเก้าอี้สตูลทรงสูงจัดวางไว้ที่ Pantry สามารถจิบเครืื่องดื่มเบาๆ ไปพลางคุยกับเชฟขณะ Cooking ไปด้วยเพลินๆ ดีเหมือนกันครับ มุมที่ผมชอบจะเดินเข้าไปด้านในเป็นพื้นที่ที่ให้ความเป็นส่วนตัวได้ดี มีความโดดเด่นด้วยผนังไม้ลวดลายโปร่งเพื่อเปิดช่องแสงจากภายนอกเข้ามา เพราะว่าพื้นที่นี้จะติดกับถนนด้านหน้าโครงการ กลายเป็นมุมที่สวยงามโดดเด่นด้วยแสงและเงาไปโดยปริยาย ทำให้ได้หลากหลายความรู้สึกในช่วงเวลาที่ต่างกัน ด้านในจะเป็นฟิตเนสขนาดใหญ่ ห้องขนาดค่อนข้างกว้างเป็นแนวขนานกันไปกับสระว่ายน้ำ ภายในห้องใช้เป็นกระจกสูงเต็มบาน ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่ง สามารถเทควิวสระว่ายน้ำและสวนสีเขียวตรงกลางได้กว้างขึ้น บริเวณนี้มีห้องน้ำสำหรับรองรับผู้มาออกกำลังกายในฟิตเนส แยกชาย-หญิงเอาไว้ให้เรียบร้อยพร้อม Locker ที่ระบุบ้านทั้ง 28 ยูนิตไว้ชัดเจนเพื่อความเป็นส่วนตัว มีห้องซาวน่าสตรีมเตรียมไว้รองรับลูกบ้านที่มาใช้บริการด้วยครับ ด้วยความที่โครงการ SIRANINN Residences ออกแบบมาในสไตล์ Modernism Tropical Architecture มีแนวคิดในการเชื่อมโยงกันระหว่างผู้พักอาศัยกับธรรมชาติที่อยู่รายล้อมบ้าน ทำให้บรรยากาศดูสดชื่นด้วยพื้นที่สีเขียวตลอดเวลา การสร้างบรรยากาศของแมกไม้สีเขียว จะช่วยเยียวยาจิตใจในวันที่เหนื่อยล้าจากการใช้ชีวิตนอกบ้านได้มากเลยครับ โครงการจึงออกแบบให้มีสวนสีเขียวขนาดใหญ่ในหลายจุด นอกจากบริเวณ Clubhouse แล้วยังมีสวนที่ให้ความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกบ้าน อย่างเช่นบริเวณด้านขวามือหลังจากลงสะพานก่อนจะเข้าไปยัง Residentail Area สวนและพื้นที่ส่วนกลางของโครงการกระจายกันไปในหลายจุดถือว่ามีขนาดใหญ่มาก เพราะโครงการตั้งใจจะให้น้ำหนักกับพื้นที่สีเขียวเพื่อการอยู่ร่วมกับธรรมชาติครับ ภายในสวนจึงมีทั้งไม้พุ่ม ไม้ดอกและต้นไม้ใหญ่ มีสนามหญ้าเหมาะสำหรับกิจกรรมนันทนาการภายในครอบครัว เราสามารถพาน้องหมามาเดินเล่นบริเวณสวนได้ เป็นงานออกแบบในสไตล์โมเดิร์นที่เน้นความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ส่วนด้านในจัดวางที่นั่งเอาไว้ในหลายรูปแบบเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งหินกลางแจ้งมานั่งรับวิตามินดีตอนเช้าๆ กลางสนามหญ้า หรือว่า Pavillion ริมรั้วด้านในที่สามารถนั่งพักผ่อนพร้อมกันได้หลายๆ คน หรือซุ้มที่นั่งใต้ต้นไม้เพื่อให้เกิดความรู้สึกเป็นส่วนตัว ได้ฟังเสียงน้ำพุเบาๆ ช่วยทำให้เราผ่อนคลาย SIRANINN Residences มีแบบบ้านให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ ทั้งหมดจะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จุดเด่นเลยคือเป็นบ้านหน้ากว้างที่ดินขนาดใหญ่ ต่างจากบ้านโมเดิร์นทั่วไปที่จะมี 3 ชั้นในโซนพัฒนาการซึ่งมีพื้นที่ดินและพื้นที่ใช้สอยต่อชั้นน้อยกว่า ดังนั้น จุดเด่นคือการได้อยู่ร่วมกันในบ้านขนาดใหญ่พื้นที่ใช้สอยเยอะ รองรับครอบครัวใหญ่ที่มีหลาย Generation RESIDENCE I เป็นบ้านหน้ากว้าง ภายในมีไฮไลท์คือ Hidden Courtyard กลางบ้าน พร้อม Living area แบบ Double volume และ Family area ที่ชั้นบน ดีไซน์ภายนอกสไตล์ Modern Tropical โดดเด่นด้วยงานออกแบบที่ลงรายละเอียดไว้เยอะมาก ด้วยความที่มีที่ดินผืนใหญ่ ทำให้สร้างเป็นบ้านหน้ากว้าง 2 ชั้น เปิดช่องรับลมรับแสงได้เยอะกว่าบ้านทั่วไป รูปแบบการก่อสร้างเป็นงานก่ออิฐฉาบปูนด้วยอิฐมวลเบามีความแข็งแรงรองรับการต่อเติมได้ในอนาคต บ้านตัวอย่างออกแบบให้มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง Pool Terrace จัดวาง Sunbed สำหรับนั่งอ่านหนังสือหรือนอนอาบแดดแบบส่วนตัวภายในบ้าน ฝั่งตรงข้ามมี Pavilion พร้อมโซฟาที่นั่งชุดใหญ่สามารถใช้เวลาร่วมกันภายในครอบครัวได้ หน้าบ้านมาตรฐานจะเป็นประตูรั้วเหล็กรางเลื่อน โดยทางโครงการได้ติดตั้งมอเตอร์ระบบรั้วไฟฟ้ามาให้เรียบร้อยแล้ว ด้านข้างมีการออกแบบเป็นช่องเก็บขยะดูเรียบร้อยเป็นระเบียบดี มีการเก็บขยะให้ลูกบ้านทุกยูนิตทุกวัน ทางเข้าบ้านหลักเป็นประตูไม้บานทึบแบบ Oversize ทำให้บ้านดูแกรนด์และสะดวกมากในการขนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่เข้าไปภายในบ้าน ติดตั้งลูกบิดและมือจับอะลูมิเนียมสีดำ พร้อมกับติดยางซีลกันน้ำกันเสียงรบกวนมาให้แล้วด้วยครับ เมื่อเข้ามาด้านในจะพบกับความใหญ่โตโอ่โถงของ Foyer เป็นพื้นที่แบบ Double volume ฝ้าเพดานสูง 7.2 เมตร พื้นที่ Common Area ภายในบ้านที่โอบรับ Courtyard ตรงกลางบ้านเอาไว้ มีต้นไม้ใหญ่พร้อมที่นั่งเป็นหินสีดำตรงกลางเพิ่มความโดดเด่น ออกแบบให้สามารถเปิดหลังคาด้านบนออกได้เพื่อให้รับแสงธรรมชาติและให้ฝนตกลงมาแทนการรดน้ำทั่วไปในแต่ละวัน เราเดินวนเข็มนาฬิกาเริ่มจากทางด้านซ้ายมือกันก่อนนะครับจะเป็น Living Area สามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่น หรือว่ารับแขกได้ ด้วยความที่ฝ้าเพดานสูง รายล้อมด้วยกระจกใส มองออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำและสวนสีเขียวด้านหน้าและด้านข้างบ้าน ทำให้เป็นมุมที่รู้สึกได้ถึงความอลังการและได้รับความสบายใจไปในเวลาเดียวกัน สามารถเปิดกระจกออกเพื่อเชื่อมต่อฟังก์ชันการใช้งานภายในกับภายนอกบ้านไปพร้อมกันได้เลยครับ มุมรับประทานอาหารจัดวางฟังก์ชันไว้อย่างเป็นสัดส่วน เพื่อให้เป็นช่วงเวลาพิเศษของทุกคนในครอบครัว บ้านตัวอย่างตั้งใจออกแบบให้มีความเป็น Open Space เชื่อมต่อกันระหว่างโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ประมาณ 10 ที่นั่ง และยังสามารถขยายหรือจัดวางเป็นโต๊ะอาหารแบบ Long Table ได้อีกด้วยครับเพราะว่าพื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างกว้างขวาง Living และ Dining Area ให้ความรู้สึกหรูหราด้วยการตกแต่งในสไตล์ Timeless Elegant ที่ผสมผสานองค์ประกอบดั้งเดิมเข้ากับความเรียบง่ายสมัยใหม่ ทำให้เกิดพื้นที่หรือผลิตภัณฑ์ที่ทั้งซับซ้อนและยั่งยืน ผมว่าเป็นสไตล์ที่ดูแบบ Old Money ที่เชิดชูอดีตขณะเดียวกันก็เข้ากันได้อย่างลงตัวกับชีวิตร่วมสมัย โดยเน้นคุณภาพของงานฝีมือ และสุนทรียภาพเหนือกาลเวลา ใช้วัสดุพวกหินอ่อน หนัง โลหะ เข้ามาจับคู่กับเฟอร์นิเจอร์โทนสีเข้ม ทว่าให้ความโดดเด่นด่้วยวัสดุผิวมันวาวอย่าง Silver และ Bronze เป็นการบ่งบอกถึงนิยามความ Luxury ที่คลาสสิค พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน ส่วนผนังเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาว Common Area ที่มีขนาดใหญ่เต็มพื้น มองเข้าไปด้านในจะเห็นเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่าง Great Room ส่วนรับประทานอาหารและครัวยุโรป แบ่งสันปันส่วนแยกฟังก์ชันกันได้อย่างลงตัว ทว่าสามารถเปิดเพื่อเชื่อมต่อฟังก์ชันการใช้งานได้ในเวลาเดียวกัน ชั้นล่างออกแบบให้มีห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ สำหรับครอบครัวใหญ่ที่อยู่อาศัยกันหลายเจนเนอเรชั่น หรือว่าจะปรับเป็นห้องเอนกประสงค์ก็ได้เช่นกันครับ โครงการออกแบบรองรับการใช้งานสำหรับผู้สูงอายุโดยคำนึงถึงหลักความสะดวกสบายและปลอดภัย Walk in Closet อยู่บริเวณปลายเตียงเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ส่วนบริเวณธรณีประตูของห้องนอนกับห้องน้ำจะเป็นแบบเรียบเสมอกันไปไร้รอยต่อของพื้นต่างระดับ ทำให้หมดกังวลเรื่องการสะดุดหากต้องเดินเข้าออกบ่อยๆ หรือแม้แต่การใช้วีลแชร์ก็ถือว่าสะดวก ปลอดภัยมากเช่นกัน ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าบริเวณนี้จะไม่มีเสามุมนะครับ ทำให้เวลาเปิดพื้นที่เชื่อมต่อกันจึงดูโล่งกว้างไม่มีอะไรมาบดบัง สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีให้กับเจ้าบ้านและแขก หรือแม้แต่กับคนในครอบครัวด้วยกันเอง นับเป็นการออกแบบที่เป็นไปตามคอนเซปต์โครงการที่อยากจะเชื่อมต่อทุกคนภายในบ้านเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้บ้านเสมือนเป็นสถานที่ของทุกคน เพราะเป็นทั้งมุมรับประทานอาหารและสังสรรค์ไปในตัว ออกแบบให้มีห้องนั่งเล่นเป็น Pre-Dinner สามารถมานั่งจิบเครื่องดื่มเบาๆ เปิดเพลงฟังเคล้าคลอ ชมวิวจากสวนสีเขียวกลางบ้าน ก่อนที่เราจะไปนั่งโต๊ะรับประทานอาหารมื้อหลักกันต่อครับ เมื่อได้เข้ามาชมบ้านจริงและรับฟังเรื่องราว ก็ยิ่งรู้สึกประทับใจในความเรียบโก้หรู การออกแบบที่เห็นแล้วรู้ได้ทันทีว่างานดีเทลดีมากเลยครับ โดยเฉพาะการออกแบบให้มีพื้นที่เชื่อมต่อกันของฟังก์ชัน Living & Dining ด้านในเป็นครัวไทยขนาดใหญ่มาก ทางโครงการได้ Built-in เคาน์เตอร์พร้อมตู้ปิดบนล่างแบบเต็มผนัง 2 ฝั่ง เว้นทางเดินตรงกลางไว้กว้างมาก ติดตั้งอุปกรณ์ครัวเอาไว้ให้ครบทั้งเตาแก๊ส 2 หัว, เครื่องดูดควัน, อ่างล้างจานจาก Asian Hood ทางโครงการได้ติดตั้ง Heat Detector และ Gas Detector ภายในห้องครัวมาให้แล้วเรียบร้อย ด้านนอกเป็น Maid Area แยกเป็นห้อง Laundry ขนาดค่อนข้างใหญ่ จัดวางเครื่องซักผ้า อบผ้า พร้อมเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ได้ครบครัน หลังบ้านจะมีลานซักล้างอยู่ติดกับห้องนอนแม่บ้าน 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำ ส่วนด้านในบ้านจะมี Shoes Storage ขนาดใหญ่ สำหรับเก็บรองเท้าบริเวณโถงทางเดินก่อนขึ้นบันไดไปชั้นบน ติดกับประตูเล็กเชื่อมโรงจอดรถ จึงสะดวกมากในการสวม-ถอดรองเท้า นอกจากนี้ ยังมีห้องควบคุมระบบไฟฟ้าอยู่ด้านในสามารถใช้เก็บของต่างๆ ได้ เราจะยังไม่เดินขึ้นบันไดไปชั้นบนแต่จะเดินตรงไปยังโซนด้านหน้าบ้านจะมีห้องเอนกประสงค์อยู่ ภายในห้องมีหน้าต่างบานใหญ่และแสงธรรมชาติส่องเข้ามาอย่างเต็มที่ โครงการได้ออกแบบให้เป็นสไตล์อเนกประสงค์ที่สามารถปรับให้เข้ากับการตกแต่งภายในได้หลากหลาย ทำให้บ้านคงความสวยงาม ท่ามกลางความเรียบง่าย ภายใต้หลักของการออกแบบที่เปิดให้มีความยืดหยุ่นในการใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่และตรงตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยในบ้าน ที่สำคัญคือสามารถขยายเป็นห้องนอนชั้นล่างเพิ่มได้อีกหนึ่งห้อง เนื่องจากมีห้องน้ำในตัวพร้อมพื้นที่อาบน้ำจัดเตรียมเอาไว้ให้แล้ว เราเดินขึ้นไปชั้น 2 กันบ้างครับ ในส่วนของบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กปิดผิวด้วยไม้ พร้อมราวจับไม้และกระจกนิรภัย ลูกนอนบันไดกว้าง 1.5 เมตรถือว่ามีขนาดใหญ่เดินสวนกันได้สบายเลยครับ บันไดมีลักษณะวน ชานพักแบบสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ มองลงไปจะเห็นโถงบันไดเชื่อมต่อพื้นที่ชั้นบนและชั้นล่าง โครงการจัดวางงานประติมากรรมขนาดใหญ่เอาไว้ประดับบ้าน หรือหากต้องการเพิ่มความหรูหราอลังการก็สามารถติดตั้ง Chandelier เพิ่มได้ ขณะเดียวกันพื้นที่นี้เว้นเป็นปล่องสี่เหลี่ยมเพื่อให้เราสามารถติดตั้งลิฟต์ภายในเพิ่มเติมในภายหลังเองได้ครับ พื้นที่ชั้นบนค่อนข้างโปร่งด้วยกระจกใสบานใหญ่เปิดรับช่องแสงได้รอบบ้าน ขณะเดียวกันก็สามารถเปิดออกเพื่อรับลมและเพิ่มการไหลเวียนของอากาศภายในบ้านด้วย พื้นชั้นบนปูด้วย Engineering Wood แผ่นใหญ่หน้าไม้กว้าง 5 นิ้ว ซึ่งจะมีความหนาและแข็งแรง ทนทานกว่าพื้นทั่วไป สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี จากมุมนี้เราจะเดินเลี้ยวขวามาอีกฝั่งของบันไดจะเป็นโถงทางเดินที่เชื่อมต่อห้องนอนทุกห้องเข้าไว้ด้วยกัน โดยมี Family Area เป็นเสมือนด่านหน้าคอยทำหน้าที่เชื่อมโยงทุกคนในบ้านเข้าไว้ด้วยกันในพื้นที่นี้ บ้านตัวอย่างจัดวางชุดโซฟาที่นั่งขนาดใหญ่เป็นรูปตัวแอล (L-Shape) พร้อม Beanbag เอาไว้นั่งเล่นในช่วงเวลาก่อนนอน เป็นมุมพักผ่อนของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ผนังสามารถติดตั้งสมาร์ททีวีจอใหญ่ 100 นิ้วได้สบายๆ เลยครับ สำหรับนั่งดูซีรีย์เรื่องโปรดด้วยกันทั้งครอบครัว ติดกันกั้นเป็นห้องทำงาน เพื่อความเป็นส่วนตัว หรือใช้เป็นห้องทำการบ้านของเด็กๆ โดยที่ได้เปรียบเรื่องความเงียบเพื่อให้เกิดสมาธิ แต่ยังอยู่ในพื้นที่เดียวกันเชื่อมต่อความสัมพันธ์ของทุกคนในบ้านได้ Master Bedroom มีขนาดใหญ่มาก กินพื้นที่ 1 ใน 3 ของตัวบ้านปีกขวา แบ่งฟังก์ชันการใช้สอยภายในห้องได้หลากหลายและลงตัวดีครับ บรรยากาศภายในห้องค่อนข้างโปร่ง ด้วยช่องแสงขนาดใหญ่รายรอบห้อง ด้านในยังคุมโทนสีได้ดี แต่เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับห้องนอนนี้ด้วยอาร์มแชร์หนังสีคาราเมลสำหรับนั่งอ่านหนังสืออยู่มุมห้อง ทำให้ห้องนี้เต็มไปด้วยความเรียบหรูดู Modern Timeless มากยิ่งขึ้น บ้านตัวอย่างจัดวางเตียงนอนส่วนพักผ่อนไว้ตรงกลาง หัวเตียงบุนวมหนังสีคาราเมล ดูเรียบเท่ ด้านข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งมีโต๊ะเตี้ยและโคมไฟประดับ ขณะเดียวกันผนังด้านนอกก็เปิดรับแสงจากดวงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามา ดังนั้น ตอนนอนอาจจะต้องติดตั้งม่านทึบแสงหลายจุดหน่อยแต่ก็ถือว่าดี เพราะได้เปิดให้แสงส่องสว่างเข้าตลอดทั้งวันโดยแทบไม่ต้องเปิดไฟ บ้านตัวอย่างตกแต่งในโทนสีน้ำตาล ขาว ดำ ดูคลาสสิคมากเลย ภายในห้องเปิดช่องแสงจากธรรมชาติภายนอกโดยรอบ มาพร้อมกับหน้าต่างบานสไลด์เปิดออกไปสู่ Courtyard กลางบ้านได้ ด้านในเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดานเอาไว้รอบห้อง ดูหรูหราด้วยแสงไฟส่องสว่างสี Warm ตู้เสื้อผ้าแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคั่นกลางด้วยโต๊ะเครื่องแป้ง มี Island เก็บเครื่องประดับแบบส่วนตัว ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่การใช้งานระหว่างคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงได้สะดวกยิ่งขึ้นคับ ด้วยความที่ออกแบบให้ห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet อยู่ติดกับห้องน้ำเราสามารถใช้พื้นที่ได้ต่อเนื่องกัน ทำให้สะดวกเวลาออกจากห้องน้ำมาก็สามารถแต่งตัวต่อได้เลย จบในจุดเดียว เราเดินต่อไปยังห้องนอนรองซึ่งจะอยู่ปีกซ้ายของบ้าน โดยใช้โถงทางเดินชั้นบนเชื่อมต่อกัน ขนาดของห้องนอนแต่ละห้องใหญ่ใกล้เคียงกัน เริ่มจากห้องนอนรองห้องแรก อยู่ฝั่งซ้ายโซนหลังบ้าน ทำให้ได้เปรียบเรื่องความเงียบ เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเจอกับ Walk-in Closet และห้องน้ำอยู่ด้านหน้าทางเข้า ด้านในเป็นส่วนพักผ่อน ภายในห้องจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ไว้ตรงกลาง พร้อมกับมีโต๊ะเก้าอี้ข้างเตียง สำหรับนั่งทำงานและพร้อมที่จะพักผ่อนในทันที โครงการออกแบบให้ทุกห้องเป็นแบบ En Suite Bedroom คือมีห้องน้ำส่วนตัวให้ทุกห้อง มองเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่พักผ่อนที่เปิดรับช่องแสงได้ดี ห้องนอนรองห้องต่อมาอยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นโซนด้านหน้าบ้านทางด้านขวา ให้ความเป็นส่วนตัวและบรรยากาศที่เปิดโล่งด้วยช่องแสงขนาดใหญ่ผ่านประตูกระจกใส ด้านในเป็นมุมแต่งตัวมีพื้นที่สำหรับติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดีครับ มาพร้อมกับห้องน้ำที่แยกส่วนเปียกแห้งมาให้แล้ว อยู่โซนทางเข้าห้องเช่นกัน ภายในตกแต่งด้วยคู่สีส้ม-น้ำเงิน บางมุมออกแนวโทนดำเข้ม ซึ่งดูเข้ากันดีเหมาะสำหรับเป็นห้องนอนชายหนุ่มที่มีบุคลิกเรียบแต่เท่ ห้องนอนรองห้องสุดท้าย จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนรองอื่นเล็กน้อย มาพร้อมกับการออกแบบที่ให้ความเป็นส่วนตัวกว่าด้วยการเปิดพื้นที่ให้มี Foyer ด้านหน้า นำทางเข้ามาสู่ภายในห้อง ทำให้เมื่อเปิดประตูมาจะยังไม่เห็นเตียงนอนทันที เป็นข้อดีที่ผมชอบมาก เมื่อเดินเข้ามาด้านในขวามือจะเป็นส่วนพักผ่อน จัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่เอาไว้โดยเปิดพื้นที่ให้เดินได้โดยรอบเนื่องจากห้องมีขนาดค่อนข้างกว้าง ผมชอบหัวเตียงที่ออกแบบได้เรียบแต่เก๋ด้วยดีเทล บุนวมที่มีลวดลายลูกเล่นแตกต่างกันออกไป มีโต๊ะเตี้ยสำหรับจัดวางโคมไฟอ่านหนังสือขนาดเล็ก ห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet มีขนาดใหญ่ ติดกันเป็นห้องน้ำที่มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในครบครันและให้ความเป็นส่วนตัว “𝑰 𝒂𝒎 𝒄𝒐𝒏𝒗𝒊𝒏𝒄𝒆𝒅 𝒕𝒉𝒂𝒕 𝒕𝒉𝒆 𝒈𝒓𝒆𝒂𝒕𝒆𝒔𝒕 𝒍𝒆𝒈𝒂𝒄𝒚 𝒘𝒆 𝒄𝒂𝒏 𝒍𝒆𝒂𝒗𝒆 𝒐𝒖𝒓 𝒄𝒉𝒊𝒍𝒅𝒓𝒆𝒏 𝒂𝒓𝒆 𝒉𝒂𝒑𝒑𝒚 𝒎𝒆𝒎𝒐𝒓𝒊𝒆𝒔.” “https://residential.singhaestate.co.th/…/pattanakarn 
