Shawn – Panyaindra

“𝑳𝒊𝒗𝒊𝒏𝒈 𝒊𝒏 𝒂 𝒉𝒐𝒖𝒔𝒆 𝒕𝒉𝒂𝒕 𝒅𝒐𝒆𝒔𝒏’𝒕 𝒓𝒆𝒇𝒍𝒆𝒄𝒕 𝒘𝒉𝒐 𝒚𝒐𝒖 𝒂𝒓𝒆 𝒊𝒔 𝒂 𝒍𝒊𝒕𝒕𝒍𝒆 𝒃𝒊𝒕 𝒍𝒊𝒌𝒆 𝒘𝒆𝒂𝒓𝒊𝒏𝒈 𝒔𝒐𝒎𝒆𝒐𝒏𝒆 𝒆𝒍𝒔𝒆’𝒔 𝒄𝒍𝒐𝒕𝒉𝒆𝒔,”

.

คำพูดของคริสเตียน ดิออร์ที่ว่า “การอาศัยอยู่ในบ้านที่ไม่สะท้อนตัวตนของคุณก็เหมือนกับการสวมเสื้อผ้าของคนอื่น” วลีนี้สะท้อนไปไกลเกินกว่ารันเวย์ แต่แทรกซึมเข้าสู่บ้านของเราได้อย่างคมคายและชัดเจนมาก

.

ดิออร์ เน้นย้ำไปถึงความสำคัญของการแสดงออกซึ่งตัวตนในที่อยู่อาศัยของเรา เปรียบไปก็เหมือนเสื้อผ้าที่จะสะท้อนบุคลิกของเราจากภายนอกให้คนได้เห็น ดังนั้น บ้านก็ควรจะเป็นภาพสะท้อนตัวตนของเราออกมาได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ที่เรียบง่าย โมเดิร์น มินิมอล ฟาร์มเฮาส์ หรือทรอปิคอล บ้านของเราควรสะท้อนรสนิยมของเราออกมาให้ดีที่สุด

.

พาร์ทนี้กานต์พาไปชมบ้าน 𝐒𝐇𝐀𝐖𝐍 (ฌอน) ปัญญา-อินทรา บ้านหรูจาก Singha Estate ที่มาพร้อมกับไอเดียของการอยู่อาศัยที่อยากให้เราได้มีความเป็นตัวเองสูงสุด กับคอนเซปต์ 𝐋𝐢𝐯𝐞 𝐒𝐡𝐚𝐰𝐧 𝐖𝐚𝐲, 𝐋𝐢𝐤𝐞 𝐧𝐨 𝐨𝐧𝐞 𝐞𝐥𝐬𝐞. โดดเด่นด้วยงานดีไซน์สไตล์ Modern Tropical Contemporary ที่ให้ความเป็นส่วนเอกสิทธิ์เพียง 72 ยูนิตเท่านั้น

.

โครงการได้นำธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน โดยผสมผสานต้นไม้ วัสดุจากธรรมชาติ และงานดีไซน์ที่ให้ความเป็นออร์แกนิก อาทิ หน้าต่างบานใหญ่ ระเบียงกว้างและสวน ด้วยความที่เป็นบ้านเดี่ยวบนที่ดินผืนใหญ่ 100 ตร.ว. ขึ้นไป ทำให้มีพื้นที่สวนเพิ่ม ทำให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติยิ่งขึ้น

.

สิ่งสำคัญคือเรื่องฟังก์ชันในการออกแบบและพื้นที่ใช้สอย จุดเด่นของบ้าน SHAWN คือ บ้านที่บ่งบอกเรื่องราวความสำเร็จ สะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย เพราะตัวบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชัน ให้สอดรับกับรสนิยม และความต้องการใช้งานจริงของสมาชิกในแต่ละครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะเหมือนหรือแตกต่างกันออกไป

.

บางคนเน้น Work from Home ต้องการพื้นที่ทำงานขนาดใหญ่ ก็สามารถปรับใช้พื้นที่ห้องนอนชั้นล่างให้กลายเป็นห้องทำงานได้ หรือหากครอบครัวไหนอยู่อาศัยกันหลายเจนเนอเรชั่นก็สามารถรองรับได้เพียงพอเพราะมี 4-5 ห้องนอน แต่ถ้าคิดว่าห้องนอนยังไม่พอ ก็สามารถปรับพื้นที่โถง Double Volume ชั้นบนให้เป็นห้องนอนหรือห้องอเนกประสงค์เพิ่มได้ เพราะโครงการได้วางโครงสร้างไว้สำหรับการต่อเติมเพิ่มพื้นที่ในอนาคตให้อยู่แล้วครับ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านชอบเข้าครัวแบบกานต์ รับรองว่าจะต้องถูกใจเพราะบ้านตัวอย่างที่เราพาไปชมกันในพาร์ทนี้ มีพื้นที่ของ Dining Pantry และครัวไทยที่ใหญ่มาก ทำให้สนุกในการปรุงอาหารแต่ละมื้อ แต่ละเดย์ได้ เอนจอยมากยิ่งขึ้นครับ

.

ส่วนบ้านไหนนิยมทานข้าวนอกบ้านกันบ่อยๆก็สะดวกมากเลยครับเพราะด้วยความที่โครงการตั้งอยู่ในแหล่งชุมชนบนถนนเลียบคลองสอง ร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่เก๋ๆ เยอะมาก ใกล้โรงพยาบาล มีสถานศึกษาชั้นนำอย่างโรงเรียนสาธิตพัฒนา ทำให้ชีวิตของเราสะดวก ง่ายและสนุกขึ้นได้ในทุกวัน

.

ดังนั้น บ้านจึงเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย บ้านคือภาพสะท้อนของการเดินทางของชีวิต ไลฟ์สไตล์และแพชชั่นของเรา ควรปล่อยให้บ้านได้สร้างผลงานชิ้นเอกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บอกเล่าเรื่องราวของด้วยลายเส้นที่กล้าหาญและรายละเอียดที่ซับซ้อน เหมือนเช่นที่บ้าน 𝐒𝐇𝐀𝐖𝐍 (ฌอน) ปัญญา-อินทรา กำลังทำอยู่นี้

.

สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร 1221

หรือลงทะเบียนเพื่อรับข้อเสนอพิเศษได้ที่ https://bit.ly/4detsff

“SHAWN” (ฌอน) ปัญญา-อินทรา โครงการบ้านหรูระดับ Luxury ที่ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสอง ย่านรามอินทรา คู้บอน ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ มีโครงการที่พักอาศัยในทำเลนี้เยอะมาก รอบโครงการเต็มไปด้วยร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา โรงพยาบาล ตลาดสด ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ระหว่างขับรถมาชมโครงการ เราเห็นว่ามีโรงเรียนสาธิตพัฒนาเป็นโรงเรียนนานาชาติที่อยู่ใกล้ๆ ทำให้สะดวกต่อการเดินทางของเด็กๆ มากครับ
อีกหนึ่งจุดเด่นของทำเลคือ การเดินทางที่เชื่อมต่อกับถนนหลายสาย ทำให้สัญจรเข้าออกได้หลายเส้นทาง อาทิ ถนนกาญจนาภิเษกมุ่งหน้าบางนา ถนนคู้บอนเชื่อมต่อทางคู่ขนานเพื่อตรงไปขึ้นทางด่วนจตุโชติ หรือจะใช้ถนนรามอินทราเชื่อมต่อกับเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เพื่อเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวกและรวดเร็วมาก อีกทั้งยังมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่อยู่ไม่ไกล มีถนนตัดใหม่ส่วนต่อขยายที่กำลังอยู่ระหว่างการขอทำเรื่องเวนคืน
โครงการ SHAWN ปัญญา-อินทรา มาพร้อมกับบ้านหรูสไตล์ Modern Tropical Contemporary ที่เป็นซิกเนเจอร์ของ Singha Estate ที่เรามองเห็นแล้วก็จะรู้เลยครับ ทว่า มีการปรับดีไซน์ให้ดูทันสมัยมากขึ้น ตรงกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีไลฟ์สไตล์ชัดเจน ต้องการอยู่บ้านหลังใหญ่บนขนาดแปลงที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว. ขึ้นไป
เราชอบการออกแบบฟังก์ชันพื้นที่ใช้สอยที่มีลักษณะเป็น Open Plan ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบห้องต่างๆ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และความชอบของสมาชิกในบ้านได้มากที่สุดครับ
โครงการพัฒนาบนเนื้อที่ประมาณ 33 ไร่ เป็นส่วนตัวในสังคมคุณภาพเพียง 72 ยูนิตเท่านั้น ออกแบบเป็นบ้านอารมณ์รีสอร์ตที่ผสมผสานความงามของธรรมชาติให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานสถาปัตยกรรมทำให้ความสวยงามของบ้านอยู่เหนือกาลเวลา (Timeless) และหรูหรา โดดเด่นด้วยเส้นสายที่สะอาดตา สัดส่วนที่สมมาตร มีสีสันเรียบง่ายสบายตา เลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติทั้งไม้และหินเข้ามาเป็นองค์ประกอบ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวคิดหลัก Crafted to Last จาก Singha Estate คือการให้คุณค่ากับความสวยงาม ความยั่งยืน และง่ายต่อการบำรุงรักษา ตลอดจนคัดสรรวัสดุที่มีความสวยงามและเต็มไปด้วยคุณภาพ เพื่อความคงทนและยั่งยืน
เราจึงได้เห็นงานดีไซน์ในบ้าน SHAWN ที่เน้นพื้นที่เปิดโล่งและโปร่งสบาย มีหน้าต่างบานใหญ่เปิดให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาอย่างเต็มที่ เป็นสไตล์อเนกประสงค์ที่สามารถปรับให้เข้ากับการตกแต่งภายในได้หลากหลาย ทำให้บ้านคงความสวยงาม ท่ามกลางความเรียบง่าย ถ้าเรามองในภาพรวมจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกถึงความสง่างามทว่าแฝงไว้ด้วยรายละเอียดที่ซับซ้อนของงานออกแบบ

ดังนั้น บ้านในโครงการ SHAWN ปัญญา-อินทรา จึงประกอบด้วยความงดงามตามแบบฉบับ Modern Tropical Contemporary ที่ผสานพื้นที่สีเขียวของธรรมชาติเข้ามา ตลอดจนสีสันสดใสซึ่งมีความหมายถึงการใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการ เพื่อให้บ้านสามาร
เราขับรถมาตามถนนเลียบคลองสอง ตรงเข้ามาประมาณ 6 กิโลเมตร ก็จะพบกับโครงการ SHAWN ปัญญา-อินทรา มีป้ายไฟขนาดใหญ่บอกชื่อโครงการเห็นเด่นชัดมาแต่ไกล Main Gate เข้าออกโครงการเป็นซุ้มประตูในสไตล์ Modern Tropical Contemporary ที่ให้อารมณ์เรียบหรู รอบด้านเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และพุ่มไม้สีเขียวสบายตา ด้านหน้ามีน้ำพุเพิ่มความสดชื่น ได้บรรยากาศสไตล์รีสอร์ตตามซิกเนเจอร์จาก Singha Estate ประตูทางเข้าออกควบคุมด้วยระบบ RFID ที่จะเปิดปิดอัตโนมัติแบบ Easy Pass ให้กับผู้อยู่อาศัย ส่วนแขกที่มาติดต่อลูกบ้านจะต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ในช่องทางขวาก่อนครับ มีประตูเล็กเป็นเหล็กสีดำสำหรับคนเดินเข้าออก มีป้อมยามอยู่ตรงกลางโดยมาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ติดตั้งกล้อง CCTV ทั่วโครงการ รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร และมีรั้วโปร่งต่อเพิ่ม
จาก Main Gate ขับรถต่อเข้าไปด้านใน ถนนสายหลักมีความกว้าง 12 เมตร ข้ามคลองไปเล็กน้อยจะพบกับ Clubhouse ที่ให้ความ Privacy ตั้งอยู่ใจกลางโครงการ ทำให้บ้านทุกหลังสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย สามารถมองเห็นความสวยงามและ Clubhouse ได้ตลอดเวลา
Clubhouse ออกแบบภายนอกโดยใช้กระเบื้องลายหินสีเทาเข้มตัดกับระแนงลายไม้สีน้ำตาล ทำให้สัมผัสได้ถึงความกลมกลืนไปกับธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังจัด Landscape เพื่อให้มีพื้นที่สีเขียวโอบล้อมอาคารเอาไว้และช่วยทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวขณะเข้าใช้บริการ ด้านหน้าโดดเด่นด้วยสระว่ายน้ำสีฟ้าขนาดใหญ่ที่อยู่ขนานไปตามแนวถนนหลัก ท่ามกลางพื้นที่สวนสีเขียวและไม้ดอกหลากสี หลายสายพันธุ์ที่คอยชูช่อรอทักทายเราตลอดเวลาเมื่อขับรถกลับเข้ามาบ้าน
สระว่ายน้ำมีขนาดใหญ่มากแบบ Half-Olympic ขนาด 6.3×25 เมตร สามารถใช้ว่ายออกกำลังกายได้จริงจัง เป็นสระระบบเกลือที่แยกส่วนของสระเด็กออกไป ออกแบบให้อยู่ใกล้กับมุมนั่งพักผ่อนที่จัดวางชุดที่นั่งไว้ใกล้กับสระเด็ก ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถนั่งรถเด็กๆ ที่กำลังเล่นน้ำสนุกสนานได้สบายเลยครับ ส่วนใครที่ไม่ได้ชอบว่ายน้ำแต่อยากพักผ่อนสบายๆ ก็สามารถมาใช้บริการ Jacuzzi ที่อยู่ติดกันได้ หากมาว่ายน้ำช่วงบ่ายๆ เย็นๆ ก็ถือว่าเป็นเวลาดีในการออกกำลังกาย บริเวณสระว่ายน้ำจะร่มรื่น เพราะมีอาคารสโมสรช่วยบังแดดเอาไว้
สำหรับลูกบ้านที่มาใช้บริการสระว่ายน้ำ สามารถใช้โถงทางเดินยาวที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำซึ่งอยู่ด้านในสุดได้ในการเปลี่ยนเสื้อผ้าและพื้นที่อาบน้ำล้างตัวก่อนลงสระ ทำให้สะดวกและมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเก็บของและเสื้อผ้าไว้ใน Locker ในห้องน้ำได้อีกด้วย ห้องน้ำและโถงทางเดินมีขนาดใหญ่ออกแบบให้รองรับการใช้งานรถเข็นวีลแชร์ได้สะดวกเลยครับ เพราะ Clubhouse ได้รับการออกแบบโดยใช้หลักการ Universal Design คำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นสำคัญ
ด้านใน Clubhouse จะเป็นพื้นที่เปิดโล่งเป็นห้องโถงใหญ่ เรียกว่า Leisure Lounge มีพื้นที่กว้างขวาง ดูหรูหรา โอ่โถง โดยรอบผนังประดับด้วยกระจกใสเปิดช่องแสงธรรมชาติให้ส่องเข้ามาได้ตลอดทั้งวัน
ภายในตกแต่งในสไตล์ Homey ที่ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งพักผ่อนอยู่ในห้องนั่งเล่นที่บ้านของเราเอง เพราะบางทีเราแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากภายในบ้าน แต่ก็ไม่อยากเดินทางไปไหนไกลๆ ตรงนี้ผมว่าตอบโจทย์ได้สบายๆ เลยครับ
Leisure Lounge มีการจัดชุดโซฟาดีไซน์และสีสันหลากหลายเอาไว้ให้เพื่อรองรับการพักผ่อนของลูกบ้าน แบ่งฟังก์ชันการใช้งานพร้อมกันได้ 2 กลุ่มสำหรับนั่งพูดคุยในวันสบายๆ อ่านหนังสือหรือหากจะนัดหมายแขกให้มาพบปะพูดคุยกันที่ Clubhouse โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปในบ้านก็ได้เช่นกันครับ กานต์ประทับใจในบรรยากาศและการตกแต่งสวยมาก ใช้เป็นพื้นที่รับรองแขกได้อย่างดีเป็นหน้าเป็นตาให้กับผู้อยู่อาศัยภายในโครงการ
ห้องติดกันเป็น Biz Lounge ห้องประชุมส่วนตัวออกแบบมาเพื่อการนัดหมายทีมงานหรือลูกค้าให้มาประชุมกันที่นี่ มีโต๊ะประชุมพร้อมเก้าอี้ขนาด 8 ที่นั่งจัดไว้รองรับการใช้บริการพร้อมจอทีวีในกรณีที่ต้องมีการนำเสนองานเป็นการอำนวยความสะดวกให้ครับ
ส่วนชั้นบนเป็น S Gym ซึ่งก็มีอุปกรณ์ออกกำลังกายจัดเตรียมไว้อย่างครบครันทั้ง Weight Training และ Cardio มีทั้ง Treadmill, Elliptical และ Spin Bike รวมถึงเตรียม Gym Ball และ Yoga Mat เอาไว้ให้แล้วท่ามกลางวิวสวนสีเขียวขนาดใหญ่และสระว่ายน้ำที่อยู่ชั้นล่าง กานต์ชอบรายละเอียดของการจัดวางเครื่องออกกำลังกาย ให้เราได้ปั่นจักรยานหรือวิ่งบนลู่ไฟฟ้า ไปพร้อมกับการชมวิวต้นไม้สีเขียวน้อยใหญ่ภายนอกอาคารไปด้วย ช่วยให้เราหายเหนื่อยได้ดีมากเลยครับ
กานต์ชอบ Clubhouse ของที่นี่มากครับ ได้เข้ามาใช้บริการแล้วรู้สึกสบายใจดี
ออกแบบให้มีพื้นที่สวนสีเขียวขนาดใหญ่มีพื้นที่รวมประมาณ 1 ไร่ มีสนามหญ้าให้ได้มาทำกิจกรรม วิ่งเล่น นั่งปิคนิกในสวนหรือจะตีแบดมินตันกันเบาๆ ก็ได้เช่นกัน
สวนขนาดใหญ่มาพร้อมกับสนามเด็กเล่นและ Jogging Path ให้เราได้ใช้เวลาในช่วงเช้าหลังตื่นนอนหรือจะเป็นช่วงเย็นหลังเลิกงานในการออกกำลัง วิ่งจ๊อกกิ้งเบาๆ หรือใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายกลางแจ้งที่ติดตั้งไว้ให้ ตลอดจนจัดพื้นที่ทิ้งขยะในช่วงจังหวะที่สมาชิกในโครงการพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นยังพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อช่วยกันรักษาความสะอาดและจัดให้มีจุดจอดจักรยานด้วยครับ
พื้นที่ส่วนหนึ่งจัดเป็น Children’s Playground ขนาดใหญ่ โดยความตั้งใจคือต้องการให้เด็กๆ ได้ออกมาใช้ชีวิตสัมผัสเรียนรู้อยู่กับธรรมชาตินอกบ้าน ออกมารับวิตามินดีให้กับร่างกายบ้าง มีสนามเด็กเล่นกลางแจ้งขนาดใหญ่พร้อม ม้าโยกและสไลเดอร์สำหรับปีนป่ายเน้นให้เด็กๆ ได้เล่นสนุกกัน ได้ปลดปล่อยและใช้ชีวิตสมวัยในแบบที่ต้องการได้เต็มที่
เล่นสเก็ตบอร์ดเสร็จก็พักเหนื่อยจิบเครื่องดื่มโซดาเย็นๆ เติมความสดชื่น
Leisure Park ยังจัดให้มี Pavillion สำหรับพักกายพักใจพร้อมกับติดตั้งงาน Sculpture ชื่อว่า “The Equilbrium of Nature” เป็นรูปวงกลมซ้อนกันสัญลักษณ์ของความสมดุลเพื่อให้มนุษย์ ครอบครัวและธรรมชาติสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
มาดูบ้านตัวอย่างในโครงการ SHAWN ปัญญา-อินทรา กันบ้าง บ้านทุกแบบสามารถรองรับครอบครัวใหญ่หลาย Generations ได้สบายเลยครับ มีให้เลือก 3 แบบ คือ RESIDENCE III ที่ดินเริ่มต้น 101 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 335 ตร.ม. ฟังก์ชันบ้าน 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 1 ห้องรับแขก, 1 ห้องพักผ่อน, 1 ห้องครัว, 1 ห้องแม่บ้าน และ 3 ที่จอดรถ

RESIDENCE II ที่ดินเริ่มต้น 101 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 388 ตร.ม. ฟังก์ชันบ้าน 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 1 ห้องรับแขก, 2 ห้องพักผ่อน, 1 ห้องครัว, 1 ห้องแม่บ้าน และ 4 ที่จอดรถ

RESIDENCE I ที่ดินเริ่มต้น 124 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 474 ตร.ม. ฟังก์ชันบ้าน 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 1 ห้องรับแขก, 2 ห้องพักผ่อน, 1 ห้องครัว, 1 ห้องแม่บ้าน และ 4 ที่จอดรถ ซึ่งเป๋็นแบบบ้านที่เราจะพามาชมกันในพาร์ทนี้ครับ

โครงการวางผังบ้านในทิศเหนือและทิศใต้เป็นหลัก ข้อดีก็คือเป็นการวางแปลนให้สอดรับกับทิศทางของลมเมืองไทย ช่วยให้บ้านมีอากาศไหลเวียน อยู่สบายไม่รู้สึกร้อน และไม่ปะทะกับแดดในช่วงเช้าและบ่ายโดยตรง หมดปัญหาเรื่องบ้านร้อนไปได้ ทว่าใครที่ซื้อบ้านที่หันหน้าไปทางทิศเหนือ จะทำให้หน้าบ้านจะโดนแดดในช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายแดดจะอ้อมไปด้านหลังทำให้หน้าบ้านร่มเย็น แต่ถ้าเป็นบ้านที่หันหน้าไปทางทิศใต้ จะให้ร่มเงาในตอนเช้าและรับแดดบางส่วนในช่วงบ่าย ถ้าเป็นกานต์ก็ว่าจะเลือกบ้านหันทางทิศใต้เพราะเป็นคนนอนตื่นสายครับ นอกจากนี้ บ้านทุกหลังของโครงการ SHAWN ปัญญา-อินทรา ยังได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับหลักฮวงจุ้ยอีกด้วยเพื่อให้บ้านอยู่สบายทั้งกายและใจ อาทิ Master Bedroom ไม่อยู่เหนือที่จอดรถและให้อยู่ด้านหลังเพราะเป็นประธานของบ้าน ส่วนห้องน้ำจะไม่อยู่บริเวณด้านหน้าบ้าน ไม่หันชักโครกออกทางหน้าบ้าน เตาไฟอยู่ห่างจากอ่างล้างจานและก๊อกน้ำ เป็นต้น 
Finishing ของบ้านเป็นงานดีไซน์แบบ Modern Tropical Contemporary ที่ให้ฟีลแบบรีสอร์ตซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากโครงการระดับ Flagship อย่างสันติบุรี บ้านให้มีความร่วมสมัย ทว่า ออกแบบฟังก์ชันให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตรงตามความต้องการและการใช้งานจริง ภาพรวมเลือกใช้เอิร์ธโทนอย่างสีขาว สีเทา สีน้ำตาล เพื่อให้เกิดความรู้สึกสบายตาและเพิ่มลูกเล่นด้วย Facade ด้านหน้าคล้ายระแนงไม้ซี่ให้บ้านดูมีดีไซน์และช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว หลังคาบ้านทรงปั้นหยา ออกแบบให้รองรับการติดตั้ง Solar Roof ของลูกบ้านในอนาคตได้ เพื่อช่วยในการประหยัดค่าไฟ 
Singha Estate ในฐานะผู้พัฒนาโครงการยังออกแบบด้วยความใส่ใจในรายละเอียดของผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญ นั่นคือการออกแบบโดยคำนึงถึงหลักอารยสถาปัตย์ (Universal Design) ที่มีทั้งบันไดและทางลาดกว้าง 1 เมตร ระดับความชัน Ramp ที่ 1 : 12 ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานที่ทำให้ผู้ใช้งานวีลแชร์สามารถเข็นขึ้นเองได้โดยไม่ต้องอาศัยคนช่วย เป็นอีกหนึ่งรายละเอียดของการออกแบบแบบที่กานต์ไม่อาจมองข้ามและอยากพามาชมกัน

หน้าบ้านบริเวณเชื่อมต่อกับลานจอดรถ ออกแบบให้มีทางลาดสำหรับเข้าสู่ภายในบ้าน เพื่อรองรับผู้ใช้งานรถเข็น วีลแชร์ ตลอดจนการใช้หลักการออกแบบนี้ในพื้นที่ส่วนกลางด่้วยครับ เรียกได้ว่าเป็นโครงการที่คำนึงถึงการใช้งานของลูกบ้านทุกคนได้อย่างเท่าเทียม

ลานจอดรถลงเสาเข็มให้แล้วเท่ากับตัวบ้าน พื้นบริเวณนี้เป็นแบบทรายล้าง ด้านในจะมีตู้เก็บของสำหรับเคลื่อนย้ายออกจากรถยนต์เอาเข้าไปเก็บได้สะดวกเช่น ถุงกอล์ฟ รถจักรยานพับได้้ หรือเอาไว้ใช้เก็บอุปกรณ์ทำสวน ทั้งนี้ยังได้วางระบบไฟ 3 เฟส รองรับการติดตั้ง EV Charger สำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ พร้อมกับติดตั้ง Smart Outdoor Camera เพื่อตรวจจับความเคลื่อนไหวบริเวณหน้าบ้าน ส่วนประตูรั้วบ้านมาตรฐานจะได้เป็นเหล็กล้อเลื่อนทำสีพร้อมเดินสายไฟติดตั้งระบบอัตโนมัติเอาไว้ให้แล้ว 
เราสามารถเข้าสู่ตัวบ้านได้ 2 ทางคือประตูเล็กตรงเข้าจากลานจอดรถสู่ห้องครัวได้เลยครับ ส่วนประตูหลักจะเข้าสู่ Grand Living Room ประตูทางเข้าบ้านมีขนาดใหญ่ สามารถขนเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่เข้าบ้านได้สบายเลยครับ วัสดุเป็นอะลูมิเนียมลายไม้บานไม้ขนาดใหญ่ของ Hafele เจาะช่องแสงเล็กน้อยเพื่อให้มองเห็นความเคลื่อนไหวภายนอก 
เมื่อเข้ามาภายในบ้าน เราจะสัมผัสได้ทันทีถึงความโปร่งจากช่องแสงที่รายล้อมบ้าน มองออกไปจะเห็นพื้นที่สีเขียวจากต้นไม้และไม้ดอกที่ปลูกเอาไว้ รอทักทายเราในทุกเช้า ทำให้เรารู้สึกถึงความเย็นสบายได้ในทันทีที่ก้าวเข้าสู่ตัวบ้าน ถ้าไม่เชื่อต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองครับ

Grand Living Room เป็นพื้นที่รับแขกขนาดใหญ่ ที่ได้ความโปร่งแบบ Double Volume จากพื้นจรดเพดานชั้นบน รายล้อมด้วยผนังกระจกแบบเข้ามุมทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง สามารถเปิดรับวิวสวนได้ทั้งหน้าบ้านและด้านข้างบ้าน มีประตูบานเลื่อนให้เปิดเชื่อมต่อกับสวนด้านนอกได้เลย ออกแบบมาเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวหากต้องการนัดหมายแขกให้มาพูดคุยธุระกันที่บ้าน 
มุมนี้จัดวางที่นั่งเป็นโซฟาสีเทาควันบุหรี่ ตัดด้วยหมอนอิงสีแดงหนังกลับหลากสีดูเรียบหรู พร้อมสตูลที่นั่งสไตล์โมเดิร์นสีเทา ตรงกลางเป็นโต๊ะกลางจัดวางเป็นพื้นที่วางนิตยสาร แก้วกาแฟ ของประดับตกแต่ง เพื่อต้อนรับแขก ท่ามกลางบรรยากาศของสวนหน้าบ้านและด้านข้างเพื่อสร้างความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อนสวยงามช่วยเติมเต็มความหรูหราให้แก่บ้าน โครงการยังได้ติดตั้ง Magnetic Sensor เอาไว้ให้ ซึ่งจะมี Home Panel เป็นจอควบคุมระบบ Smart Home ติดตั้งไว้ให้ด้วย 
“I’m not lazy, I’m just very relaxed.”

จริงๆ ก็เป็นอีกหนึ่งมุมในบ้านที่กานต์รู้สึกว่าเป็นพื้นที่พักผ่อนสบาย ดู Lazy มาก อยากนอนเอกเขนกก็ได้ตามใจ หรือสั่งพิซซ่ามาพร้อมกับจิบเครื่องดื่มโซดารสซ่า ให้เราดูนอนซีรีย์เรื่องโปรดอยู่บนโซฟาทั้งวันก็สามารถทำได้ ไม่ต้องมีใครว่าเลยครับ 
เราสามารถเปิดประตูจาก Grand Living Room ออกมานั่งเล่นที่ลานด้านข้างบ้านได้ครับ บ้านตัวอย่างจัดเป็นโต๊ะสำหรับนั่งจิบกาแฟยามเช้า หรือเราจะใช้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ก็ได้ตามใจ ด้วยความที่บ้านที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว. ออกแบบให้วางตัวบ้านไว้ชิดรั้วฝั่งหนึ่ง จึงทำให้เราได้พื้นที่สวนด้านข้างบ้านที่มีขนาดใหญ่ 
นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าออกได้จากห้องนอนชั้นล่าง ที่ออกแบบมาให้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ เราสามารถปรับเป็นห้องอเนกประสงค์หรือ Home Office ก็ได้เช่นกัน 
ด้วยความที่คอนเซปต์โครงการได้จัดวางฟังก์ชันเผื่อเอาไว้ให้สำหรับครอบครัวที่อาศัยอยู่กันหลายเจนเนอเรชั่น สถาปนิกจึงออกแบบให้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุโดยคำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานจริงในทุกจุด อาทิ จัดวางเตียงนอนขนาดควัีนไซส์ไว้อยู่ตรงกลาง มีพื้นที่รอบเตียงเหลือเพื่อรองรับการใช้งานรถเข็นวีลแชร์หรือเดินเหินได้อย่างสะดวกสบาย พื้นห้องปูด้วย SPC มีความคงทน สวยงามและให้สัมผัสคล้ายไม้ หัวนอนเปิดช่องแสงไปพร้อมกับหน้าต่างด้านหลัง ส่วนด้านข้างอีกฝั่งหากมองออกไปผ่านประตูกระจกเราจะเห็นสวนสีเขียวหน้าบ้านสามารถเปิดออกไปเดินเล่นชมสวน ออกกำลังกายแกว่งแขวนเบาๆ รับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าครับ 
ประตูห้องนอนและห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่ ออกแบบให้มีพื้นราบเสมอกันโดยไม่มีธรณีประตูเพื่อป้องกันการสะดุด 
ติดกันเป็นพื้นที่เปิดโล่งแบบ Open Plan ที่เชื่อมต่อกันทั้งหมด ได้แก่ Living+Dining+Pantry+Kitchen เข้าไว้ด้วยกัน โดยแยกออกเป็น 1 โซนของชั้นล่างออกไปทำให้เราสามารถต่อเติมประตูเปิด-ปิดจากแยกจาก Grand Living Room ออกไปได้เลยครับ เมื่อเวลาต้อนรับแขกคนสำคัญพร้อมกันจัดเตรียมอาหารก็จะได้ไม่เป็นการส่งเสียงดังรบกวนการพูดคุย หรือแยกฟังก์ชันการใช้งานของสมาชิกในครอบครัวบางส่วน กรณีที่มีแขกมาเยี่ยมบ้านและนั่งพูดคุยกันอยู่ที่ Grand Living Room 
พื้นที่นั่งเล่น จัดเป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่คุมโทนสีเทาควันบุหรี่ ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีเป็นแนวยาวเราสามารถติดตั้งสมาร์ททีวีหน้าจอ 100 นิ้วได้สบายเลยครับ ด้านข้างเป็นรีับวิวสวนยาวไปจนถึงโต๊ะรับประทานอาหาร ทำให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ให้บรรยากาศสบายๆ ราวกับได้พักผ่อนอยู่ในรีสอร์ตตลอดทั้งวัน 
ด้านในจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ 8-10 ที่นั่ง พื้นที่กว้างขวางสามารถปรับเพิ่มที่นั่งได้ 
บรรยากาศของ Dining Area ให้ความรู้สึกค่อนข้างสบาย เราสามารถนั่งกินข้าว พูดคุยระหว่างมื้อกันได้นานๆ โดยไม่รู้สึกอึดอัด มีความสูงโปร่งเปิดช่องแสงผ่านกระจกรอบบ้านให้ความรู้สึกหรูหรา โอ่อ่าและผ่อนคลายสบายใจ 
ติดกับโต๊ะรับประทานอาหารเป็นพื้นที่จัดเตรียมอาหาร (Pantry) หรือ Cooking เบาๆ ติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวด้านหลังพร้อมเปิดพื้นที่สำหรับตู้เย็นขนาดใหญ่ เราสามารถปรับ Island ครัวให้เป็นมุมบาร์ชิลล์ไปได้ในตัว หรือจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวก็ได้เพราะมีพื้นที่เปิดอยู่ติดกับสวนด้านนอกบ้านสามารถเปิดออกได้ ทำให้ SHAWN ปัญญา-อินทรา เป็นบ้านที่ออกแบบบรรยากาศภายในได้ดี เหมาะต่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่เป็นรางวัลให้กับชีวิต

ฝั่งตรงข้ามโต๊ะอาหารจะเป็นประตูเล็กที่เชื่อมต่อจากลานจอดรถ ซึ่งในความเป็นจริงจะเป็นประตูที่เราใช้งานบ่อยมาก เนื่องจากสามารถตรงเข้าภายในบ้านจากลานจอดรถ ผ่านทางประตูนี้ได้เลย ยิ่งหากวันไหนเราไปช้อปปิ้งที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตมาก็สามารถขนข้าวของ อาหารผลไม้ ตรงไปเก็บไว้ในห้องครัวได้เลยทันทีครับ

นอกจากนี้ยังออกแบบให้มีห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับใช้งานร่วมกันบริเวณชั้นล่างด้านข้างประตูเล็กอีกจุดหนึ่งด้วยครับ 
ครัวไทยด้านหลังบ้านเป็นห้องกระจกกั้นทำให้กันกลิ่นจากการทำครัวได้ดี และมีความเป็นส่วนตัว ตลอดจนสะดวกในการเปิดพื้นที่ให้แม่บ้านได้ทำงานโดยไม่กระทบกับพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวของสมาชิกในครอบครัวเนื่องจากให้เข้าออกทางประตูหลังบ้านแทน โครงการจัดวางเคาน์เตอร์โดยรอบห้องครัว จัดให้มีเคาน์เตอร์ครัวท็อปหินแกรนิตสีดำ พร้อมเปิดพื้นที่สำหรับวาง Sink เตาและ Hood มาให้ตามบ้านมาตรฐาน ด้านข้างเปิดพื้นที่สำหรับติดตั้งตู้เย็นขนาดใหญ่เอาไว้ให้แล้ว ทางโครงการยังได้ติดตั้ง Heat Detector ในห้องครัวเพื่อความปลอดภัย

ส่วนด้านหลังบ้านจะเป็นลานซักล้าง ที่มีการเตรียมงานระบบน้ำ-ไฟให้เรียบร้อย พร้อมทั้งติดตั้งปั๊มน้ำและถังสำรองน้ำบนดินมาให้แล้วครับ ติดกันจะเป็นเป็นห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำครับ 
โถงบันไดจะอยู่กลางบ้าน ด้านล่างเป็นห้องเก็บของใต้บันไดมีการติดตั้ง Smoke Detector ไว้ให้เพื่อความปลอดภัย ใช้เป็นพื้นที่ของห้องควบคุมระบบและเป็นห้องเก็บข้าวของที่มีขนาดใหญ่และนานๆ จะใช้งานสักทีนึงเช่น กระเป๋าเดินทาง เป็นต้น

สังเกตว่าบันไดขึ้นลงค่อนข้างกว้างกว่าปกติ เราสามารถเดินสวนกันขึ้นลงได้สบายเลยครับ ส่วนโครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วย SPC ลายไม้ให้ความแข็งแรงและเรียบหรู มาพร้อมราวกันตกและมือจับลายไม้สีอ่อนกว่า วางยาวไปตลอดแนวบันได ชานพักเป็นรูปสี่เหลี่ยมก็มีขนาดใหญ่เช่นกีัน โถงบันไดมีช่องแสงขนาดใหญ่ที่สามารถเปิดออกเพื่อระบายอากาศได้ แนะนำให้ติดตั้ง Chandelier ขนาดใหญ่บริเวณโถงบันไดเพื่อทำให้บ้านดูมีมิติที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น

ภายในตัวบ้านยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยเรื่องการถ่ายเทอากาศอย่าง S-Air System เป็นระบบหมุนเวียนอากาศในตัวบ้านแบบ Active Air Flow เพื่อให้เราได้ทั้งอากาศบริสุทธิ์สดใหม่ไหลเวียนภายในบ้านตลอดทั้งวัน ด้วยการดูดอากาศภายในขึ้นไปไล่อากาศร้อนบริเวณใต้หลังคาให้ไหลออกไปทางชายคา ช่วยให้บ้านอยู่สบายไม่ร้อน ติดตั้ง Emergency Light System ที่จะสว่างขึ้นอัตโนมัติเมื่อไฟฟ้าดับ 
ชั้นบนจะมี 4 ห้องนอนพร้อมกับ 2 พื้นที่อเนกประสงค์เป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับสมาชิกในบ้าน จุดแรกคือ Family Area ที่เชื่อมต่อกับโถงบันไดและทางเดินร่วมชั้นบน พื้นชั้นบนปูด้วย SPC ทนความชื้นได้ดีกว่าพื้นไม้จริง มีระยะฝ้าสูง 2.85 เมตร พร้อมบรรยากาศเปิดโล่งของวิวสวนขนาดใหญ่ 
ชั้นบนกานต์ว่าฟีลลิ่งค่อนข้างโปร่งโล่งสบาย เพราะมีประตูกระจกเปิดออกไปด้านนอก ซึ่งเป็นระเบียงขนาดใหญ่ราวกันตกเป็นกระจกใสทำให้บ้านดูโมเดิร์นมากขึ้น เราสามารถปลูกไม้กระถางเพิ่มได้ หรืออยากจะแนะนำให้หาเก้าอี้โยกเป็นไม้ดีไซน์วินเทจเก๋ๆ สักตัวมาวาง เพื่อจะได้นั่งเล่นรับลมชมวิว อ่านหนังสือหรือว่าจิบกาแฟยามเช้า ให้ความเป็นส่วนตัวด้วย Facade ด้านหน้า อีกจุดที่ผมชอบคือจะได้เรื่องแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามา บ้านตัวอย่างหันหน้าไปทางทิศตะวันออกทำให้แสงตอนเช้าส่องเข้ามาภายในบ้าน 
ข้อดีของการแยกฟังก์ชันทำให้เราสามารถรับแขกที่ชั้นล่างได้ ในขณะเดียวกันก็ไม่เป็นการรบกวนสมาชิกคนอื่นที่อยากพักผ่อนหรือดูทีวีอยู่ที่ชั้นบน ออกแบบให้เป็นมุมนั่งเล่นส่วนตัว ทำการบ้าน นั่งอ่านหนังสือหรือนั่งคุยกันก่อนนอนที่มุมนี้ได้ 
Multi-purpose Area อีกจุดจะอยู่ถัดจากโถงบันไดตรงกลาง เป็นพื้นที่ขนาดไม่ใหญ่ที่สามารถใช้เป็นมุมทำงาน ทำการบ้านอ่านหนังสือหรือเล่นดนตรีก็ได้เช่นกัน ออกแบบให้เชื่อมต่อกับ Grand Living Room ชั้นล่างด้วยโถงสูงแบบ Double Volume ขนาด 6.7 เมตร เพดานประดับด้วยโคมไฟทรงกลม ช่วยเพิ่มแสงสว่างให้ทั้งชั้นล่างและชั้นบนไปด้วยในตัว 
หัวใจหลักคือเป็นบ้านออกแบบสวย เน้น Space และ Function การอยู่อาศัยที่สะดวกสบาย มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลาย ทำให้จุดเด่นของมุมนี้คือการออกแบบพื้นที่ให้รองรับการต่อเติมในอนาคต 
ด้วยความที่ตัวบ้านใช้โครงสร้างแบบ Conventional และการออกแบบไม่ให้มีเสาขวางในจุดที่จำเป็นต้องทุบออกเพื่อผนังขยายห้อง เราจึงสามารถปรับพื้นที่เพื่อต่อเติมได้หากต้องการใช้ Space เพิ่ม ทำให้เป็นห้องนอนหรือห้องอเนกประสงค์ ก็สามารถขยายพื้นที่ออกไปกลายเป็นการทำพื้นปิดทับ Double Volume เพื่อให้ได้พื้นที่ใช้สอบเพิ่มมากขึ้นและเพียงพอต่อการรองรับการใช้งานในอนาคตได้ เนื่องจากโครงการได้ออกแบบคานรับน้ำหนักเผื่อเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ นับว่าเป็นบ้านที่มองการณ์ไกลและเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี 
มาดูในส่วนของห้องนอนกันบ้างครับ เริ่มจากส่วนพื้นที่ครึ่งหนึ่งของบ้านในปีกขวาด้านหลังบ้าน จะเป็น Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่มาก ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้สอยภายในเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว ที่สำคัญออกแบบโดยคำนึงถึงหลักฮวงจุ้ยเป็นสำคัญด้วยครับ หรือถ้าหากปรับพื้นที่ให้เชื่อมต่อกับ Working Area ด้านนอกเพื่อต่อเติมให้เป็นห้องนอนก็จะทำให้บริเวณนี้ทั้งหมดเป็นพื้นที่ของห้องนอนหลักซึ่งมีขนาดใหญ่มาก

เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเป็นพื้นที่ของ Foyer ก่อน ดีไซน์เป็นชั้นโชว์หรือจะทำเป็นตู้หนังสือก็ได้ ส่วนเตียงนอนจะถูกจัดไว้หลบเอาเข้าไปด้านใน ทำให้ได้ความเป็นส่วนเมื่อมีคนเปิด-ปิดประตูเข้ามา ดังนั้น ด้านหน้าจึงเป็นพื้นที่สำหรับจัดวางเก้าอี้ที่นั่งพักผ่อนสบายๆ รู้สึกถึงความโปร่งด้วยช่องแสงจากด้านข้างบ้านทั้งหมด 
ที่สำคัญ โครงการออกแบบโดยคำนึงถึงหลัก Cross Ventilation เป็นการวางตำแหน่งของหน้าต่างบนผนังห้อง ช่วยให้อากาศถ่ายเทสะดวกและช่วยลดความอบอ้าว ซึ่งทุกห้องภายในบ้านจะใช้หลักการไหลเวียนของลมภายในทำให้ทุกห้องมีลมผ่าน และช่วยให้บ้านอยู่แล้วเย็นสบายในทุกห้อง

พื้นที่ด้านในห้องนอนกว้างขวางมากครับ เราสามารถจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ได้เลย เพราะมีพื้นที่กว้างเดินได้รอบ ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นด้วยการเลือกใช้ดีไซน์ของเตียง โต๊ะหัวเตียง โคมไฟและการจับคู่สีที่ทำออกมาได้น่าสนใจ เตียงนอนมีระยะห่างมากพอที่จะติดตั้งทีวีจอใหญ่บริเวณปลายเตียง สามารถติดตั้ง Cabinet สำหรับวางทีวีขนาดใหญ่ให้เรานอนชมซีรีย์เรื่องโปรดจาก Netflix บนเตียงเลยได้สบายๆ เลยครับ แต่ถ้าจะแนะนำให้แขวนทีวีติดผนังจะดูเรียบกว่าช่วยให้ห้องดูโมเดิร์นขึ้น บ้านมาตรฐานจะเป็นพื้นที่เปิดโล่งไม่ได้กั้นมาให้ดูเป็นไอเดียเช่นนี้ ก็ทำให้เราสามารถที่จะรังสรรค์ทุกความต้องการใส่เข้าไปในพื้นที่ห้องนอนหลักของเราได้ นอกจากนี้ยังออกแบบให้มีระเบียงสำหรับเปิดออกไปรับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าหลังตื่นนอน ชมวิวสีเขียวของต้นไม้ให้สบายใจ ก่อนออกไปทำงาน 
ถัดจากเตียงนอน แบ่งฟังก์ชันเป็น Walk-in Closet Space ด้วยความที่ห้องนอนหลักมีพื้นที่เยอะมาก ทำให้มุมแต่งตัวปรับให้มีขนาดใหญ่และพื้นที่ใช้สอยภายในเยอะตามไปด้วย โดยมีโต๊ะเครื่องแป้งเป็นตัวแบ่งกึ่งกลางพื้นที่ห้อง สามารถแต่งหน้าแต่งตัวพร้อมกับเปิดรับแสงจากภายนอกด้วย ทำให้ Total Look เราก่อนออกจากบ้านพลอยดูดีแบบมีความเป็น Natural Look ตามไปด้วย 
ด้านซ้ายเป็นในส่วนของตู้เสื้อผ้าทางโครงการจัดให้ดูเป็น Build-in Wardrobe เชื่อมต่อกับโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ตรงกลาง มาพร้อมกับกระจกตู้สีชาช่วยให้ห้องดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ไอเดียในการติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่รอบห้องเพื่อให้เราได้ใช้พื้นที่ส่วนตัวอย่างเต็มที่ เราเชื่อเลยว่าคนที่รักในการแต่งตัวแล้วออกไปปาร์ตี้จะชอบห้องนอนนี้มาก 
Master Bathroom จะอยู่ฝั่งตรงข้ามภายในห้องน้ำมีพื้นที่กว้างขวาง แยกส่วนการใช้งานแบบเปียกแห้งมาให้เรียบร้อยแล้ว ภายในห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าแบบ His & Her ที่มาพร้อมกับเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่และกระจกเงาสี่เหลี่ยมผืนผ้าเต็มบานขนานไปกับตัวห้อง ใกล้กันเป็นสุขภัณฑ์อัตโนมัติ จาก Cotto ตรงข้ามเป็นพื้นที่ของชาวเวอร์ที่กั้นกระจกเรียบร้อยแล้ว และโครงการยังได้ติดตั้งอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ของ Kohler มาให้แล้ว ภายในมีหน้าต่างบานเลื่อนที่สามารถเปิดออกเพื่อระบายอากาศและไล่ความชื้นได้ 
ห้องนอนรองห้องแรกจะอยู่ติดกับห้องนอนหลัก เมื่อเดินขึ้นบันไดมาจะเจอห้องนอนนี้ก่อนเลยครับ จุดเด่นของห้องนี้ความที่คืออยู่ทางด้านหลังบ้านทำให้ได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบ ตกแต่งภายในห้องโดยจัดแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่พักผ่อน สามารถวางเตียงนอนขนาดควีนไซส์ ได้สบายเลยครับ 
ห้องนี้ตกแต่งในโทนสีน้ำตาลอ่อนดูสบายตา ชวนให้น่านอนพักผ่อน หัวเตียงไม่หันออกไปทางด้านหลังบ้าน ทำให้เปิดรับแสงจากด้านข้างเตียงแทน ส่วนอีกฝั่งติดกับประตูทางเข้าห้องจะเป็นพื้นที่ของโต๊ะทำงาน อ่านหนังสือ ตรงข้ามกันจะเป็นพื้นที่แต่งตัว บ้านตัวอย่างติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ไว้ให้ดูเป็นไอเดีย โดยออกแบบมาให้เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว 
ห้องน้ำจัดวางสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแยกส่วนเปียกแห้งเอาไว้ให้แล้วเรียบร้อย ด้านหน้าเป็นอ่างล่างมือพร้อมตู้บานปิดด้านล่าง ผนังเซาะร่องเอาไว้สำหรับวางของใช้กระจุกกระจิก ติดตั้งกระจกเงาไว้เต็มบาน ด้านข้างเป็นสุขภัณฑ์ ติดกันด้านในสุดจะเป็น Shower Box ครับ ทำให้สะดวกในการใช้งานแบบครบจบในจุดเดียว ฟังก์ชันแบบนี้สะดวกดีนะครับ 
ห้องนอนรองห้องต่อมาจะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ห้องนี้ตกแต่งในสไตล์ศิลปินตัวน้อยที่มีความสดใส เลือกใช้สีพาสเทลโทนชมพู ฟ้า เขียวเพื่อให้ห้องดูซอฟท์ 
ด้วยความที่เป็นห้องมุมอยู่ทางด้านหน้าทำให้เปิดรับช่องแสงผ่านหน้าต่างได้จากฝั่งหัวเตียงและด้านข้างทั้ง 2 ด้าน ภายในห้องถือว่ามีขนาดกว้างขวางอยู่ครับ จัดวางเตียงนอนไว้ตรงกลางพร้อมพื้นที่เปิดกว้างโดยรอบเตียง ส่วนปลายเตียงกั้นผนังเพื่อให้อีกฝั่งเป็นเก้าอี้สำหรับนั่งทำการบ้าน อ่านหนังสือและใช้เป็นมุมส่วนตัวได้ ดีไซน์เป็นเคาน์เตอร์ยาวขนานไปกับผนัง 
ด้านหลังเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดกำลังดี ติดตั้งเอาไว้ให้ดูเป็นไอเดีย เชื่อมต่อกับห้องน้ำซึ่งจัดวางฟังก์ชันครบครัน เหมือนกับห้องนอนก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างหน้าอยู่บริเวณประตูทางเข้า ด้านในเป็นสุขภัณฑ์ ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นพื้นที่อาบน้ำ Shower Box ครับ 
ห้องนอนรองห้องสุดท้ายจะอยู่ฝั่งด้านหลังบ้านออกแบบมาสำหรับลูกชายคนโตที่มีความเท่ๆ แบบวัยรุ่น เน้นการเลือกใช้สีสันของเฟอร์นิเจอร์ที่สดใสสมวัย จับคู่สีน้ำเงิน-เหลือง ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นสไตล์ที่วัยรุ่นชอบ 
ภายในห้องนอนจัดวางฟังก์ชันได้ค่อนข้างลงตัว ภายในออกแบบเป็นพื้นที่พักผ่อน จัดวางเตียงนอนไว้เกือบชิดผนัง มีพื้นที่โดยรอบเตียงสามารถเดินได้สบายเลยครับ มาพร้อมกับระเบียงด้านข้างที่สามารถเปิดออกไปเดินเล่นได้ สามารถเปิดผ้าม่านเพื่อรับแสงสว่างจากภายนอกได้ 
ข้างเตียงจัดวางโคมไฟและข้าวของตกแต่งเอาไว้ดูเท่มากเลยครับ หัวเตียงบุนวมและมีงานดีไซน์เป็นงานอาร์ตสไตล์ พื้นที่ปลายเตียงจัดวาง Bean Bag สำหรับชวนสมาชิกในบ้านมานั่งเล่นบอร์ดเกมกันสนุกๆ
พื้นที่ติดผนังออกแบบเป็นเคาน์เตอร์อเนกประสงค์แนวยาว สามารถติดตั้งตู้ขนาดเล็กด้านล่างได้ สำหรับเก็บข้าวของ ส่วนด้านบนใช้วางทีวีและยังใช้เป็นโต๊ะนั่งทำการบ้าน อ่านหนังสือหรือแคสต์เกมคลายเครียด และเป็นโต๊ะเครื่องแป้งไปในตัว เป็นห้องนอนที่มาพร้อมกับมุมแต่งตัวและห้องน้ำในตัวเช่นกัน โดยจัดวางฟังก์ชันภายในเอาไว้ให้แล้วครบครัน 
“SHAWN” (ฌอน) ปัญญา-อินทรา โครงการที่มาพร้อมกับคอนเซปต์ที่สนับสนุนให้ทุกคนได้นำเสนอตัวตนที่ชัดเจนใน Space ของตัวเอง จุดเด่นของบ้านคืองานดีไซน์ที่มีกลิ่นอาย Modern Tropical Contemporary ที่ดูสวยงาม สดชื่นน่าอยู่ตลอดเวลา กับบ้านไซส์ใหญ่ขนาด 100 ตร.วา ขึ้นไปทุกหลัง ตั้งอยู่ท่ามกลางแหล่งชุมชนถนนเลียบคลองสอง โดยรอบโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ โรงเรียนนานาชาติ สถานพยาบาล ฯลฯ อีกเรื่องที่โดดเด่นคือเป็นทำเลที่มีการสัญจรสะดวกมาก เราสามารถเชื่อมโยงเส้นทางเข้าออกได้กับถนนหลายสาย ทำให้สามารถเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว

สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร 1221
หรือลงทะเบียนเพื่อรับข้อเสนอพิเศษได้ที่ https://bit.ly/4detsff 
KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน