Vincent van Gogh ศิลปินชื่อก้องโลกเคยบอกว่า “𝐈𝐧 𝐧𝐚𝐭𝐮𝐫𝐞, 𝐭𝐡𝐞𝐫𝐞 𝐢𝐬 𝐧𝐨 𝐜𝐨𝐥𝐨𝐫 𝐭𝐡𝐚𝐭 𝐢𝐬 𝐧𝐨𝐭 𝐛𝐞𝐚𝐮𝐭𝐢𝐟𝐮𝐥.” – ในธรรมชาติไม่มีสีใดที่ไม่สวยงาม
.
บ้านสไตล์จอร์เจียนได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะคลาสสิกของกรีกและโรมัน แต่สิ่งที่ทำให้แตกต่างและมีเอกลักษณ์คือการผสานเข้ากับธรรมชาติอย่างกลมกลืน ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม เป็นการสร้างสรรค์พื้นที่ที่ผสานความลงตัวระหว่างสถาปัตยกรรมกับธรรมชาติได้อย่างลึกซึ้ง เหมือนกับวลีที่แวนโก๊ะได้บอกเอาไว้
.
กานต์มองว่าบ้านสไตล์จอร์เจียนเหมือนกับการสร้างงานศิลปะบนผืนผ้าใบธรรมชาติ บ้านแต่ละหลังเป็นเสมือนผลงานศิลปะที่วาดขึ้นด้วยความสมมาตรและสมดุลที่มีความประณีต โครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-พรานนก ได้นำเอาความสง่างามแบบจอร์เจียนมาผสมผสานกับทัศนียภาพของธรรมชาติอย่างลงตัว ความตั้งใจในการออกแบบโครงการ คือการสร้างบ้านที่ให้ผู้พักอาศัยรู้สึกเหมือนกำลังรื่นรมย์อยู่ในงานศิลปะบนผืนผ้าใบของธรรมชาติที่แต่ละครอบครัวร่วมกันแต่งแต้มรังสรรค์ขึ้น
.
บ้านทุกหลังโดดเด่นด้วยการออกแบบที่เน้นความสมดุลและสมมาตร คลาสสิกตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมจอร์เจียน ผนังสีขาวและเสาขนาดใหญ่ หน้าต่างกระจกบานกว้างที่ถูกจัดเรียงอย่างลงตัว เปิดช่องให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในบ้าน เปิดมุมมองเราในฐานะผู้อยู่อาศัยสามารถชื่นชมสวนที่ออกแบบให้เชื่อมโยงกับตัวบ้านหรือทิวทัศน์โดยรอบได้จากทุกมุมเลยครับ
.
ด้วยความที่แสนสิริมีแนวคิด Green Living Designed Home ทำให้บ้านทุกหลังจึงมาพร้อมพลังงานสะอาด ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งนวัตกรรมที่ช่วยให้บ้านเย็น สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ แผงโซลาเซลล์บนหลังคา หรือเครื่อง EV Charger ก็ถูกติดตั้งในบ้านทุกหลัง หรือแม้แต่ส่วนกลางของโครงการที่ใช้ไฟจาก Solar Cell เป็นหลัก เสาไฟฟ้าถูกนำลงดินทั้งโครงการไม่มีอะไรมาบดบังทัศนียภาพการอยู่อาศัย ทุกอย่างถูกคิดมาอย่างละเอียดและใส่ใจ
.
กานต์มองว่าแนวคิดการออกแบบที่ดีจากแสนสิริได้สร้างความรู้สึกสงบและเป็นส่วนตัว โดยไม่ทิ้งเรื่องงานดีไซน์ที่มีโดดเด่น แต่ยังเน้นเพิ่มนวัตกรรมที่ทำให้ลูกบ้านสะดวกสบาย เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้ในทุกวัน
.
อีกทั้งยังจัดวางตัวบ้านและออกแบบผังโครงการอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ทุกหลังมีมุมมองที่ดีที่สุดของสวนและธรรมชาติรอบตัว ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเด่นของทำเลราชพฤกษ์-พรานนก ที่เน้นการอยู่อาศัยในบ้านหลังใหญ่ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากจะขยับขยายแต่ต้องการอยู่อาศัยในทำเลที่ไม่ไกลจากครอบครัวเดิม เพิ่มเติมคือการได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ อีกทั้งยังเดินทางสะดวกเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
.
เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-พรานนก จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่โครงการบ้านที่หรูหราและมีความสง่างาม แต่ยังเป็นสถานที่ที่ช่วยให้เราได้สัมผัสถึงความเป็นส่วนตัวเพียง 35 ยูนิตเท่านั้น ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบและความงามของธรรมชาติผ่านการออกแบบที่ลงตัวระหว่างสถาปัตยกรรมและพื้นที่สีเขียวโดยรอบ เป็นการใช้ชีวิตในสถานที่ที่สอดคล้องกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ทุกการออกแบบ ทุกมุมมอง ล้วนแสดงถึงการผสมผสานที่ลงตัวของสถาปัตยกรรมและความงามของธรรมชาติที่รอให้เราวาดไว้ลงผืนผ้าใบแห่งชีวิต
_________________________
8-10 พฤศจิกายนนี้ เตรียมพบกับประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับ ในงานเปิดตัวแบบบ้านใหม่ 𝐒𝐚𝐜𝐤𝐯𝐢𝐥𝐥𝐞 ที่โครงการ เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-พรานนก
.
ครั้งแรกกับฟังก์ชัน Double Volume Living Space ในเศรษฐสิริ ซีรีส์ Georgian ห้องรับแขก Double Volume ที่โอ่โถงสูงโปร่ง พร้อม Layout แบบ Open Space ที่เชื่อมโยงพื้นที่ห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหาร และสวนหลังบ้านเข้าด้วยกันอย่างลงตัวในส่วนหลังของตัวบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความเป็นส่วนตัวและการผ่อนคลายอย่างแท้จริง
.
เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ – พรานนก | 29 – 40 ล้าน*
สนใจสอบถามรายละเอียด คลิก https://siri.ly/GBlXlHA หรือโทร. 1685
#Setthasiri #เศรษฐสิริ #ราชพฤกษ์ #พรานนก #PortraitOfSuccess #Sansiri40years #Sansiri
เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-พรานนก เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury เนื้อที่โครงการ 17 ไร่เศษ ได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ผสานความหรูหราของงานสถาปัตยกรรมและความรื่นรมย์ของธรรมชาติอย่างลงตัวครับ บรรยากาศของโครงการได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมสไตล์จอร์เจียน ที่เน้นความสมมาตรและความสง่างามในทุกมิติ ทำให้ตัวบ้านทุกหลังมีลักษณะโดดเด่นด้วยเส้นสายที่ชัดเจน บ้านทุกหลังได้รับการออกแบบให้สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ด้วยหน้าต่างบานใหญ่ที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอก ทำให้เราสามารถสัมผัสกับความงดงามของทิวทัศน์และความเขียวขจีได้ในทุกวัน Clubhouse มีขนาดใหญ่จัดวางเอาไว้ด้านหน้าโครงการ ท่ามกลางบรรยากาศของต้นไม้น้อยใหญ่ พื้นที่สวนและพื้นที่สีเขียวออกแบบเอาไว้อย่างร่มรื่น ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสำหรับการใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวนส่วนกลางขนาดใหญ่สามารถปรับเป็นพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้งหรือวิ่งจ๊อกกิ้งเพื่อสุขภาพได้ เกิดเป็นบรรยากาศที่สงบสุขเหมาะสำหรับการทำกิจกรรมกับครอบครัวหรือการพักผ่อนส่วนตัว โลเคชั่นและการเดินทางไปยังโครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-พรานนก นั้นสะดวกสบายมาก เนื่องจากตั้งอยู่บนถนนปากน้ำฝั่งเหนือ ใกล้กับถนนกาญจนาภิเษก ถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 อีกทั้งยังมีการเชื่อมต่อกับถนนราชพฤกษ์และถนนบรมราชชนนีและทางพิเศษศรีรัช-ราชพฤกษ์ สามารถออกได้ทั้งจากทาง ถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 หรือทางถนนราชพฤกษ์ ทำให้สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังอยู่ห่างเพียง 3 กม. จากรถไฟฟ้า MRT สถานีไฟฉาย และไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าสายแดงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ช่วยให้การเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนสะดวกยิ่งขึ้นครับ โครงการตั้งอยู่บนทำเลที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย อาทิ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เช่น เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า, The Paseo Park, Food Villa, The Circle ราชพฤกษ์ และเดินทางเพียง 15 นาทีก็สามารถถึง ICONSIAM หรือเยาวราชได้ นอกจากนี้ ยังแวดล้อมด้วยโรงพยาบาลชั้นนำที่จะทำให้ครอบครัวที่มีผู้สูงอายุให้อุ่นใจได้ทุกช่วงเวลา อาทิ โรงพยาบาลธนบุรี, โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลวิชัยเวช และโรงพยาบาลพญาไท 3 เป็นต้น สำหรับครอบครัวที่มีบุตรหลาน โครงการนี้ก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากอยู่ใกล้กับสถานศึกษาที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง ทำให้ผู้ปกครองสามารถเลือกสถานศึกษาที่เหมาะสมกับบุตรหลานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง อาทิ โรงเรียนเด่นหล้า, โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี โรงเรียนนานาชาติ Kensington, โรงเรียนนานาชาติ British Columbia, โรงเรียนนานาชาติ SISB, โรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury, โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ ดับเบิ้ลทรี, มหาวิทยาลัยสยาม และอีกมากมาย ส่วนด้านการลงทุน เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-พรานนก ถือเป็นโครงการที่มีศักยภาพสูง ด้วยทำเลที่ตั้งในย่านที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ราคาที่ดินในบริเวณนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาทั้งบ้านพักอาศัยและการลงทุนในระยะยาว นอกจากนี้ ชื่อเสียงของโครงการเศรษฐสิริจาก บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่อยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์มายาวนานก็เป็นเครื่องการันตีถึงคุณภาพและความน่าเชื่อถือของโครงการได้เป็นอย่างดี โครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-พรานนก อยู่ถัดจากถนนหลักคือถนนปากน้ำฝั่งเหนือเข้าไปในซอยเล็กน้อย เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว คือ Private Community ที่ให้ความเป็นส่วนตัวอย่างสูงสุด จำกัดเพียง 35 ครอบครัวเท่านั้น การรักษาความปลอดภัยของที่นี่จะเน้นความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยสูงที่เรียกว่า LIV-24 ซึ่งเป็นมาตรฐานของแสนสิริ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง มีระบบกล้อง CCTV โดยรอบ บันทึกประวัติการเข้าออกของผู้มาเยือน รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรเสริมด้วยระแนงที่สูงไปอีกเท่าตัว มี Digital Fence ตรวจจับความคลื่นไหวอัจฉริยะ ประตูรั้วโครงการแบบ Gated Community มีระบบ RFID Sensor เปิดซุ้มประตูให้ลูกบ้านแบบอัตโนมัติ ส่วนการเข้า-ออกของผู้มาติดต่อเป็นระบบ VMS System บันทึกภาพผู้มาติดต่อ รวดเร็ว และแม่นยำเพื่อสร้างความอุ่นใจ ด้านหน้าโครงการมีระยะ Set-Back จากถนนหลักเข้ามาพอประมาณ ทำให้เปิดพื้นที่สีเขียวด้านหน้าได้อย่างโดดเด่นสำหรับผู้ที่ผ่านไปมาและยังเป็นบัฟเฟอร์ป้องกันเสียงเพื่อให้เกิดบรรยากาศของการพักอาศัยที่เงียบสงบได้เป็นอย่างดี เพราะทันทีที่เข้าไปภายในโครงการ เราจะได้สัมผัสถึงความเงียบสงบ ด้วยการออกแบบให้มีแนวต้นไม้น้อยใหญ่คอยทำหน้าที่เป็นบัฟเฟอร์กั้นเสียงรบกวนจากภายนอก ราวกับได้พักผ่อนอย่างเงียบสงบอยู่ในรีสอร์ตหรูท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติ ออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย ร่มรื่นมาก ที่น่าสนใจก็คือ โครงการอยู่ห่างจากถนนสายหลักเพียงเล็กน้อย แต่เรากลับไม่รู้สึกถึงความจอแจหรือได้ยินเสียงรถราที่วิ่งอยู่ด้านนอกถนนใหญ่แต่อย่างใดครับ จาก Main Gate มายัง Clubhouse ด้านหน้า ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ข้อดีก็คือเราสามารถนัดหมายแขกเพื่อพบปะพูดคุยธุระได้ที่นี่โดยไม่จำเป็นต้องเชิญเข้าไปในบ้าน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวและคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักครับ Clubhouse ของโครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-พรานนก ดีไซน์สวยมาก ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สะท้อนถึงความพิถีพิถันในการออกแบบและความใส่ใจในรายละเอียดของโครงการนี้ ด้วยแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมสไตล์จอร์เจียน Clubhouse จึงไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่ส่วนกลางเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือนประตูสู่โลกแห่งความหรูหราและความคลาสสิกที่ยังคงร่วมสมัย บริเวณพื้นที่รอบ Clubhouse ปลูกต้นไม้ไว้หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งไม้ดอก ไม้พุ่ม ไม้ยืนต้นฟอร์มเด่นสลับกันไปเพื่อให้เกิดร่มเงาและร่มรื่น เป็นการนำเอาศิลปะจากธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานสถาปัตยกรรม ยิ่งช่วงนี้หน้าหนาวจะมีลมเย็นพัดมาปะทะใบหน้าเบาๆ ทำให้เรารู้สึกเย็นกายสบายใจ เป็นฟีลลิ่งดีๆ ที่ได้ใช้ชีวิตใจกลางกรุงท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวของต้นไม้ สีฟ้าจากสายน้ำและสีสันของธรรมชาตินานา จากภาพมุมสูงจะเห็นว่า พื้นที่ส่วนกลางของโครงการถือว่ามีขนาดใหญ่มาก โดยจะให้น้ำหนักกับพื้นที่สีเขียวมีสนามหญ้าที่กว้างใหญ่ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นทันที รองรับทุกการทำกิจกรรมนันทนาการภายในครอบครัว เราสามารถพาน้องหมาน้องแมวมาเดินเล่นบริเวณสวนได้ เป็นงานออกแบบในสไตล์โมเดิร์นที่เน้นความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ทำให้ได้ฟีลลิ่งของ Organic Architecture มากขึ้น เมื่อเข้ามาพักผ่อนแล้วกานต์รู้สึกสบายใจดีมากครับ เมื่อยามแดดส่องแสงในช่วงเวลาเช้าและเย็นทำให้เกิดเป็นลวดลาย หรือสาดแสงเงาเข้าไปภายใน Clubhouse ทำให้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ด้านหน้า Clubhouse จะเป็นสวนขนาดใหญ่ มี Pavillion พร้อมจัดวางที่นั่งกระจายกันไป ผมชอบการปลูกต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งไม้โปร่ง ต้นสน พุ่มไม้ ไม้ดอก ปลูกเอาไว้จนเต็มพื้นที่ดูแล้วได้ฟีลเหมือนอยู่เมืองนอกดีครับ ทัศนียภาพรอบโครงการมีความสวยงามเพราะดำเนินการเอาสายไฟฟ้าในโครงการลงใต้ดินทั้งหมด เมื่อก้าวเข้าสู่บริเวณ Clubhouse กานต์รู้สึกราวกับได้ย้อนเวลากลับไปสู่ยุคทองของสถาปัตยกรรมอังกฤษซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสถาปัตยกรรมสไตล์จอร์เจียนที่เกิดขึ้นในอังกฤษ ช่วงรัชสมัย King George I-IV ทางเข้าอาคาร Clubhouse โดดเด่นด้วยเสาโรมันและซุ้มโค้งทรง Arch ที่ประดับตกแต่งอย่างวิจิตร สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกพบ หน้าต่างกระจกใสที่ฉลุกรอบคล้ายลวดลายตารางพร้อมบานเลื่อน ไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงามให้กับตัวอาคารแต่ยังช่วยเปิดรับแสงจากธรรมชาติได้อย่างดี ส่วนหลังคาทรงปั้นหยาที่มีหน้าต่างบานเล็กประดับอยู่ด้านบนทำให้อาคารดูมีความคลาสสิกมากยิ่งขึ้น ถัดออกไปมี Sansiri Backyard ซึ่งเป็นสวนส่วนกลางที่ออกแบบมาให้เป็นมากกว่าแค่พื้นที่สีเขียว แต่เป็นแหล่งของพืชผักสวนครัวตามฤดูกาลที่ลูกบ้านสามารถมาเก็บเกี่ยวไปใช้ประกอบอาหารเพื่อสุขภาพได้ทุกหลัง แนวคิดนี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการใช้ชีวิตที่ใกล้ชิดธรรมชาติ แต่ยังสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนบ้านผ่านกิจกรรมการปลูกและดูแลพืชผักร่วมกัน การออกแบบคลับเฮาส์และพื้นที่ส่วนกลางของโครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-พรานนก สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจในการสร้างสรรค์พื้นที่ที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังตอบสนองรสนิยมการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยได้อย่างลงตัว ผสมผสานความหรูหราของสถาปัตยกรรมจอร์เจียนเข้ากับความสะดวกสบายของการอยู่อาศัย ส่งผลให้ Clubhouse กลายเป็นจุดศูนย์รวมของคอมมูนิตี้ที่มีเสน่ห์และน่าหลงใหล พร้อมมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับให้กับทุกครอบครัว โครงการได้ออกแบบอาคารให้มีความโอ่โถง หรูหราและสง่างาม ความสมมาตรของอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ของสไตล์จอร์เจียนปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน เรื่อยไปจนถึงรายละเอียดของการตกแต่งภายใน เมื่อก้าวเข้าสู่ภายใน Clubhouse เราได้พบกับพื้นที่โถง Living แบบ Double Volume สร้างความรู้สึกโอ่อ่าและหรูหรา แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นเสมือนนั่งพักผ่อนอยู่ในบ้านของตัวเอง การตกแต่งภายในผสมผสานความคลาสสิกของสไตล์จอร์เจียนเข้ากับความร่วมสมัย ด้วยการเลือกใช้สีโทนเย็นที่ให้ความรู้สึกสบายตา เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกสรรมาอย่างพิถีพิถัน มี Co-Working Space จัดวางกระจายกันไปในหลายจุดเพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกันไปและให้ความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางรายละเอียดการตกแต่งที่ประณีต คลาสสิก นอกจากพื้นที่พักผ่อนในอาคารแล้ว Clubhouse ยังมาพร้อมกับ สระว่ายน้ำส่วนกลางขนาดใหญ่เป็นสระระบบเกลือที่ล้อมรอบด้วยกำแพงต้นไม้เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้งาน ท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มรื่นและผ่อนคลาย ราวกับได้ว่ายน้ำอยู่กลางสวนสไตล์อังกฤษที่เขียวชอุ่ม เด็กๆ เองก็สามารถมาใช้บริการสระว่ายน้ำได้ เพราะแยกโซนสระเด็กไว้อยู่ด้านในสุด ส่วนรอบๆ สระว่ายน้ำออกแบบพื้นที่อเนกประสงค์แบบ Semi-outdoor จัดวาง Day Bed ที่นั่งสำหรับพักผ่อนริมสระ ใครอยากจะมานอนอ่านหนังสือหรือ อาบแดด นอนฟังเสียงน้ำให้สบายใจก็ทำได้สบายเลยครับ ส่วนคุณแม่ที่มารอลูกว่ายน้ำก็สามารถมานั่งบริเวณพื้นที่รับรองนี้ได้ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่งแบบ Open Air แต่หากต้องการอยู่ในห้องปรับอากาศก็สามารถไปนั่งรอที่ Living Room ได้เช่นกัน Clubhouse มาพร้อมกับห้องน้ำที่ออกแบบได้สวยมาก มีทั้งห้องสุขาและห้องอาบน้ำในตัว เราเดินขึ้นบันไดวนไปชมชั้นบนกันบ้าง ออกแบบให้เป็นฟิตเนสซึ่งก็มีอุปกรณ์ออกกำลังกายจัดเตรียมไว้อย่างครบครันทั้ง Weight Training และ Cardio มีทั้ง Treadmill, Elliptical และ Spin Bike รวมถึงเตรียม Gym Ball และ Yoga Mat เอาไว้ให้แล้วท่ามกลางวิวสวนสีเขียวขนาดใหญ่และสระว่ายน้ำที่อยู่ชั้นล่าง กานต์ชอบรายละเอียดของการจัดวางเครื่องออกกำลังกาย ให้เราได้ปั่นจักรยานหรือวิ่งบนลู่ไฟฟ้า ไปพร้อมกับการชมวิวต้นไม้สีเขียวน้อยใหญ่ภายนอกอาคารไปด้วย ช่วยให้เราหายเหนื่อยได้ดีมากเลยครับ แต่หากใครไม่อยากออกกำลังกายในฟิตเนส หรือไม่อยากให้เด็กๆ อยู่แต่ในบ้าน อยากให้มาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ก็สามารถมาใช้พื้นที่สวนโดยรอบได้ครับ เพราะออกแบบให้มีสนามเด็กเล่น Educational Playground ที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก หากบ้านไหนมีผู้สูงอายุก็อยากให้ชวนกันมาเดินแกว่งแขวนเบาๆ ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพยามเช้า หรือวิ่งจ๊อกกิ้งหลังเลิกงานตอนเย็นก็ได้เช่นกันครับ นอกจากนี้ ด้านในยังมี Meetting Room ห้องประชุมส่วนตัวออกแบบมาเพื่อการนัดหมายทีมงานหรือลูกค้าให้มาประชุมกันที่นี่ มีโต๊ะประชุมพร้อมเก้าอี้ขนาด 8 ที่นั่งจัดไว้รองรับการใช้บริการพร้อมจอทีวีในกรณีที่ต้องมีการนำเสนองานเป็นการอำนวยความสะดวกให้ครับ ช่วงเย็นๆ เราได้ไปเดินเล่นชมบรรยากาศรอบๆ โครงการ กันดูบ้าง กานต์สังเกตว่าสถาปนิกเน้นไปในเรื่องการใช้แปลนพื้นที่เปิดโล่ง เพื่อสร้างความรู้สึกกว้างขวางอาจจะด้วยเพราะเป็นบ้านหลังใหญ่และไม่ได้สร้างเต็มพื้นที่จนรู้สึกแน่นเกินไปหรืออึดอัด บ้านทุกหลังเว้นระยะเพื่อให้เกิดความโปร่ง สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติเพื่อเพิ่มความสว่างภายใน ตลอดจนการใช้การจัดสวนและปลูกต้นไม้น้อยใหญ่ ทั้งในสวน พื้นที่ส่วนกลาง ด้านหน้าบ้าน ริมถนนหลัก ถนนรองในซอย เพื่อให้พื้นที่สีเขียวมาช่วยสร้างความรู้สึกสงบและสบายใจที่ได้อยู่อาศัยในโครงการนี้ จากนั้น เราจะเดินไปชมบ้านตัวอย่างของโครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-พรานนก กันบ้างครับ โครงการมีจำนวนทั้งสิ้น 35 ยูนิต เน้นพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นบ้านขนาด 100 ตร.วา ขึ้นไป มีให้เลือก 2 แบบคือ Sackville (แซค-วิล) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 105 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 345 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องรับแขก / 1 มุมอเนกประสงค์ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ Rosenberg (โร-เซน-เบิก) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 135 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 462 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 ห้องรับแขก / 1 มุมอเนกประสงค์ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ แบบบ้านที่กานต์พามาชมในครั้งนี้คือ Sackville หน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 3 คัน มีตู้บานปิดสำหรับเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ที่ไม่จำเป็นต้องเอาไปไว้ในบ้าน เช่น ถุงกอล์ฟ จักรยาน เป็นบ้านที่กานต์ว่าเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่อยู่กัน 3 Generations หรืออาจจะปรับเปลี่ยนฟังก์ชันภายในให้เหมาะสมกับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของสมาชิกภายในบ้านก็ได้เช่นกันครับ รั้วทางเข้าบ้านเป็นประตูเหล็กรางเลื่อนซึ่งโครงการได้เตรียมพื้นที่สำหรับติดตั้งมอเตอร์ทำเป็นรางเลื่อนไฟฟ้าไว้ให้แล้วด้วยครับ ทั้งยังได้วางระบบ Wallbox ในการติดตั้ง EV Charger เป็นระบบไฟฟ้า 3 เฟสแบบ 50/150 เพื่อรองรับสำหรับบ้านไหนที่มีรถยนต์ไฟฟ้า พื้นโรงจอดรถเป็นแบบ Slab On Beam คือพื้นวางบนคานเดียวกับตัวบ้าน โครงการลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้านมาให้แล้ว ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการทรุดตัว พื้นจะได้เป็นทรายล้างตามแบบบ้านตัวอย่างเลยครับ เดินเข้าไปชมภายในบ้านกันดีกว่าครับ เมื่อเปิดประตูออกเราจะพบกับ Common Area ด้านหน้าที่จัดให้เป็นพื้นที่เชื่อมต่อกันของมุมนั่งเล่นและรับแขกไปในตัว จัดวางชุดโซฟาที่นั่งดีไซน์โมเดิร์นสีเทาควันบุหรี่ดีไซน์โค้งมนพร้อมโต๊ะกลางหินอ่อน โดดเด่นด้วยที่นั่งดีไซน์เก๋สีน้ำเงินเข้ม ประดับหมอนอิงหลากสีที่สร้างความสดใสและช่วยเพิ่มมิติให้กับห้อง บนผนังด้านหนึ่งของห้องนั่งเล่น มีการติดตั้งงานศิลปะที่มีลวดลายและสีสันสดใส กลายเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดสายตาและสร้างบรรยากาศของความมีชีวิตชีวาในพื้นที่นี้ สีสันของภาพศิลปะผสมผสานเข้ากับเฟอร์นิเจอร์และผนังสีอ่อน ทำให้เกิดความสมดุลระหว่างความสวยงามและความทันสมัย ด้วยความที่มีหน้าต่างเปิดรับแสงจากธรรมชาติรอบด้าน ทำให้บ้านเกิดความโปร่งสบาย กอปรกับได้ความโอ่โถงของความสูงแบบ Double Volume จากพื้นจรดเพดานชั้นบน ส่งผลให้พื้นที่ห้องนั่งเล่นรู้สึกโปร่งโล่ง และยังช่วยทำให้บ้านดูสว่างขึ้น เราสัมผัสได้ทันทีถึงความโฟลว์จากช่องแสงที่รายล้อมบ้านมองออกไปจะเห็นพื้นที่สีเขียวจากต้นไม้และไม้ดอกที่ปลูกเอาไว้ รอทักทายเราในทุกเช้า ทำให้เรารู้สึกถึงความเย็นสบายได้ในทันทีที่ก้าวเข้าสู่ตัวบ้าน เวลาที่นั่งพักผ่อนอยู่ตรงมุมนี้ก็สามารถมองออกไปเห็นวิวสวนหน้าบ้านและด้านหลังบ้าน มีช่องแสงเพิ่มเพื่อเปิดรับแสงจากธรรมชาติภายนอกเข้ามาในบ้าน ดังนั้น ตอนกลางวันเราแทบไม่ต้องเปิดไฟเลยครับ ช่วยประหยัดเงินค่าไฟไปได้ การออกแบบ Dining Area ก็สวยงามไม่แพ้กัน โต๊ะยาวที่ใช้สำหรับรับประทานอาหารถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบรองรับผู้ใช้งานได้หลายคน เก้าอี้มีสีสันสดใสสวยงามและเข้ากับโทนของบ้านได้เป็นอย่างดี ทั้งยังให้ความสบายในการใช้งาน ผนังรอบห้องรับประทานอาหารถูกตกแต่งด้วยสีขาวครีม ตัดกับกรอบประตูและหน้าต่างสีฟ้าเข้ม สร้างความรู้สึกที่หรูหราและคลาสสิกไปพร้อมกัน พื้นที่รับประทานอาหารนี้ยังมีความโปร่งโล่งด้วยหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่เปิดสู่สวนทั้ง 2 ด้าน ทำให้ผู้ที่ใช้งานห้องนี้สามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวที่ตกแต่งอย่างสวยงามได้อย่างชัดเจน การออกแบบนี้ช่วยสร้างความรู้สึกสบายและเชื่อมโยงธรรมชาติภายนอกเข้าสู่ภายในบ้านได้อย่างลงตัว บรรยากาศของ Dining Area ให้ความรู้สึกค่อนข้างสบาย เราสามารถนั่งกินข้าว พูดคุยระหว่างมื้อกันได้นานๆ โดยไม่รู้สึกอึดอัด มีความสูงโปร่งเปิดช่องแสงผ่านกระจกรอบบ้านให้ความรู้สึกหรูหรา โอ่อ่าและผ่อนคลายสบายใจ ออกแบบให้มีประตูกระจกด้านข้างสามารถเปิดออกไปเพื่อรับลมชมสวนหรือนั่งเล่นจัดเป็นปาร์ตี้เล็กๆ ภายในครอบครัวบริเวณเฉลียงด้านข้างซึ่งจััดโต๊ะเก้าอี้สนามกลางแจ้งเอาไว้แล้ว ส่วนอีกฝั่งด้านในมีอ่างจากุซชี่ ให้เราพักผ่อนแช่น้ำเพลินๆ สบายใจท่ามกลางสวนสีเขียว ฟังก์ชันนี้ดีมากเลยนะผมว่า เหมือนโครงการรู้ใจลูกบ้านว่าต้องการอะไร เพราะเราสามารถเปิดประตูกระจกด้านข้างเพื่อออกไปสู่สวนข้างบ้านได้ พักผ่อนสบายๆ อยู่แต่ในบ้านได้เลยครับ โครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-พรานนก นอกจากจะโดดเด่นเรื่องการออกแบบที่งดงามและหรูหราแล้ว แสนสิริยังให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ด้วยแนวคิด Green Living Designed Home โครงการนี้มีการออกแบบที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ โดยบ้านทุกหลังมาพร้อมกับนวัตกรรมที่รองรับพลังงานสะอาด เช่น EV Charger สำหรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า สะท้อนถึงความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ในโครงการยังติดตั้ง Solar Panels ที่ช่วยลดการใช้พลังงานและเพิ่มความประหยัดในระยะยาว หนึ่งในจุดเด่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของโครงการคือระบบบ้านปลอดฝุ่น Dust-Free House ที่มีการติดตั้งเครื่องกรองอากาศในบ้านทุกหลัง ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้บริสุทธิ์และสดชื่นอยู่เสมอ โดยสามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้มากกว่า 90% และฝุ่นที่เล็กกว่า PM 1 ได้ไม่น้อยกว่า 75% นอกจากนี้ยังช่วยลดสารก่อภูมิแพ้และกลิ่นอับ รวมถึงสามารถฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งตอบโจทย์ปัญหาฝุ่นที่เป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบันได้อย่างครบถ้วน ทำให้บ้านในโครงการนี้ไม่เพียงแค่น่าอยู่ แต่ยังปลอดภัยสำหรับสุขภาพของทุกคนในครอบครัว โครงการยังได้ติดตั้ง Magnetic Sensor เอาไว้ให้ ซึ่งจะมี Home Panel เป็นจอควบคุมระบบ Smart Home ติดตั้งไว้ให้ด้วยพร้อม Motion Sensor บริเวณชั้น 1 ตรวจจับบริเวณหน้าทางเข้า และชั้น 2 ตรวจจับบริเวณบันไดให้ด้วยครับ ห้องนอนชั้นล่างสามารถปรับฟังก์ชันได้ตามความต้องการ จะใช้เป็นห้องอเนกประสงค์ ทำเป็นไวน์รูม ห้องดูหนังฟังเพลง ห้องทำงานอ่านหนังสือ หรือทำเป็น Home Office ก็ได้เช่นกัน บ้านตัวอย่างจึงตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดีย ด้วยความที่คอนเซปต์โครงการได้จัดวางฟังก์ชันเผื่อเอาไว้ให้สำหรับครอบครัวที่อาศัยอยู่กันหลายเจนเนอเรชั่น สถาปนิกจึงออกแบบให้ปรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุโดยคำนึงถึงการใช้งานจริงในทุกจุด สังเกตได้ว่าห้องะมีขนาดค่อนข้างกว้าง ชวนให้จินตนาการไปเผื่อถึงตอนใช้งานจริง จัดวางเตียงนอนเอาไว้และให้มีพื้นที่รอบเตียงเหลือเพื่อรองรับการใช้งานรถเข็นวีลแชร์หรือเดินเหินได้อย่างสะดวกสบาย พื้นห้องปูด้วย SPC มีความคงทน สวยงามและให้สัมผัสคล้ายไม้ หัวนอนเปิดช่องแสงไปพร้อมกับหน้าต่างด้านข้างบ้าน ส่วนด้านหน้า หากมองออกไปผ่านประตูกระจกเราจะเห็นสวนสีเขียวหน้าบ้านสามารถเปิดออกไปเดินเล่นชมสวน ออกกำลังกายแกว่งแขวนเบาๆ รับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าครับ ห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัว กานต์สังเกตว่าองค์ประกอบของห้องน้ำภายในห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่างได้ออกแบบให้รองรับการใช้งานอย่างพร้อมสรรพ เพื่อรองรับการใช้งานทั่วไปและสำหรับบางท่านที่ต้องใช้วีลแชร์ มีอ่างล้างมือตรงกลางเว้นพื้นที่ด้านล่างเอาไว้ให้วีลแชร์เข้าไปได้สะดวก พร้อมกระจกเงาบานใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน Shower อยู่ถัดเข้าไปด้านในสามารถติดตั้งกระจกฉากกั้นเพิ่มได้ เรียกได้ว่าเป็นการออกแบบที่คำนึงถึงผู้อยู่อาศัยจริงเป็นสำคัญครับ ด้วยความที่ Common Area ชั้นล่างค่อนข้างกว้าง เราสามารถใช้พื้นที่ทั้งหมดได้ในคราวเดียวกันหรือจะจัดแบ่งฟังก์ชันตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัวก็ได้เช่นกัน เป็นไปตามไอเดียคอนเซปต์ของการจัดวางผังภายในบ้านแบบ Open Plan ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ง่าย อย่างเช่นครัวได้ออกแบบให้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Dining Area โครงการติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวแอล (L-Shape) มาให้แล้ว ออกแบบให้มีอ่างล้างจาน พื้นที่ติดตั้งเตาและมีตู้เก็บของบน-ล่างเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ห้องครัวมีขนาดใหญ่พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้าง เชื่อมต่อไปกับ Maid Plaza พื้นที่การทำงานของแม่บ้าน ให้สามารถเข้าออกได้อย่างสะดวกและไม่เป็นการรบกวนการพักอาศัยของเราด้วยครับ อีกหนึ่งไฮไลท์ของบ้านคือการออกแบบภายในโดยให้มีโถงสูงแบบ Double Volume เป็นจุดเด่น ทำให้พื้นที่ภายในมีความโอ่โถงและโปร่งโล่ง โถงสูงเชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้นบน สร้างความต่อเนื่องระหว่าง 2 ชั้นมองเห็นความเคลื่อนไหวของกันและกันโดยไม่กระทบความเป็นส่วนตัว การใช้โถงสูงนี้ไม่เพียงแต่ทำให้บ้านดูหรูหรา แต่ยังช่วยเพิ่มความสว่างและทำให้บรรยากาศภายในดูปลอดโปร่งยิ่งขึ้นด้านข้างมีหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ แสงที่ส่องผ่านเข้ามาสร้างความรู้สึกที่เปิดกว้าง พื้นที่นั่งเล่นจัดวางเฟอร์นิเจอร์เอาไว้ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะเก้าอี้ทรงโค้งและโซฟาที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย จัดวางโคมไฟที่มีดีไซน์เรียบง่ายแต่เก๋ไก๋ เพิ่มความอบอุ่นและสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายภายในบ้านได้ครับ พื้นที่ชั้น 2 ที่เชื่อมต่อกับโถงสูงเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของบ้าน โครงการออกแบบให้มีราวกันตกเป็นโลหะสีดำลวดลายเรียบหรู ผสมผสานกับพื้นไม้สีน้ำตาลเข้ม ให้ความรู้สึกที่ทันสมัยและคลาสสิกในเวลาเดียวกัน สามารถมองลงมายังชั้นล่างได้ชัดเจน และยังทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวาและมีความเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น อีกจุดที่เราชอบคือการตกแต่งผนังด้วยศิลปะสีน้ำเงินที่ยาวตลอดความสูงของโถงสูงเป็นการดึงดูดสายตาและสร้างจุดโฟกัสให้กับบ้าน เข้ากับโทนสีของห้องได้อย่างลงตัว สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและหรูหราไปพร้อมกัน ขึ้นมาชั้นบนจะพบกับ Family Area ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อทุกห้องนอนเข้าไว้ด้วยกัน เป็นอีกหนึ่งมุมของบ้านที่เราประทับใจ อย่างแรกเลยคือการตกแต่งภายในที่สวยงามหรูหรา ทว่ายังคงมีความโมเดิร์นและเก๋ไก๋ตามสไตล์แสนสิริ อีกทั้งยังออกแบบให้มีพื้นที่กว้างขวาง เพื่อรองรับการใช้งานของสมาชิกภายในบ้าน สถาปนิกออกแบบมุมนี้มาโดยคำนึงถึงการปรับใช้งานมุมนี้ให้ได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์และความต้องการของสมาชิกในครอบครัว สามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวีก็ได้ แนะนำให้เลือกสมาร์ททีวีจอใหญ่ๆ ทำเป็นโฮมเธียเตอร์เอาไว้ดูหนังพร้อมกันทั้งครอบครัวได้เลยครับ หรือจะเอาไว้ทำเป็นมุมทำงาน อ่านหนังสือหรือ Work From Home ก็ได้ ที่สำคัญนอกจากฟังก์ชันการใช้สอยภายในบ้านแล้ว ก็ไม่ลืมที่จะคำนึงถึงเรื่องความเป็นส่วนตัวในพื้นที่ส่วนรวม อันเป็นหัวใจหลักของทุกคนในบ้านสามารถใช้เวลาร่วมกันได้ ก่อนจะแยกย้ายกลับเข้าห้องนอนส่วนตัว ในส่วนของห้องนอนจะเริ่มจาก Master Bedroom กันก่อนครับ จะอยู่ทางปีกขวาของบ้านกินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของตัวบ้าน ด้วยความเป็นมุมบ้านทำให้เปิดช่องแสงได้จาก 2 ฝั่งคือด้านหน้าและด้านข้าง มองออกไปเห็นสวนสีเขียวของบ้าน ทำให้เป็นห้องนอนที่ได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบและพื้นที่สีเขียวจากต้นไม้สูงด้านข้าง ห้องนอนหลักมีขนาดกว้างมากครับ ตกแต่งให้มีความเป็นโมเดิร์น เฮอริเทจ โถงทางเข้าออกแบบเป็นมุม Retreat หรือเรียกว่าพื้นที่นั่งเล่นภายในห้องนอน สำหรับพักผ่อนก่อนจะเข้าถึงเตียงนอนที่อยู่ด้านใน เผื่อว่าคุณพ่อคุณแม่อยากจะนั่งดูทีวี นั่งเคลียร์งานเซ็นต์เอกสารหรือว่าอ่านหนังสือ มุมนี้ตกแต่งด้วยชุดโซฟาที่นั่งในโทนสีเขียวไก่กาเพื่อให้ห้องดูสบาย เข้ากับวิวต้นไม้รอบบ้าน ปลายเตียงติดตั้งตู้ลอยสำหรับวางทีวีขนาดใหญ่ หรือจะใช้เป็นแบบแขวนเพื่อทำให้ห้องดูโมเดิร์นยิ่งขึ้น จัดวางฉากกั้นสีน้ำเงินเข้มเอาไว้ด้านหน้าห้องแต่งตัวเพื่อให้เกิดการแบ่งสรรปันส่วนของพื้นที่ ซึ่งต้องยอมรับว่า ดีไซน์เนอร์ได้ตกแต่งภายในห้องนี้ให้มีความโดดเด่นจริงๆ เราชอบมาก ด้านในเป็นส่วนพักผ่อนจัดวางเตียงนอนเอาไว้ชิดผนังฝั่งด้านหน้าบ้าน เปิดรับแสงธรรมชาติยามเช้า ส่วนหัวเตียงบุนวมสีผ้าลายสีแดงเข้ากันดี ทั้ง 2 ฝั่งมีโต๊ะเตี้ยและโคมไฟประดับทำให้ห้องนี้เต็มไปด้วยความเรียบหรูดู Classic Timeless มากยิ่งขึ้น พร้อมกับวิวและช่องแสงขนาดใหญ่จากระเบียงด้านหน้าที่สามารถเปิดประตูออกไปได้ ห้องนอนนี้มีประตูเพื่อเปิดสู่ระเบียงด้านหน้าบ้าน ออกแบบมาเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสกับความสดชื่นจากธรรมชาติ โดยสามารถจิบกาแฟในยามเช้า ยืนรับลมชมวิวหรือนั่งผ่อนคลายในช่วงบ่าย ระเบียงมีความโปร่งโล่งด้วยราวเหล็กดีไซน์เรียบหรู พร้อมประตูบานเลื่อนกระจกที่เปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้ห้องนอนดูสว่างมากยิ่งขึ้น เดินเข้าไปด้านในจะเป็นห้องแต่งตัวขนาดใหญ่แบบ Walk-in closet สำหรับการจัดเก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวลึกเข้าไปเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่ติดตั้งกระจกบานยาวทำให้ห้องแต่งตัวดูมีมิติ มีโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่มีรสนิยมในเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว แต่งหน้า สามารถจัดเก็บเครื่องสำอางและเครื่องประดับต่างๆ อย่างเป็นระเบียบ ภายในออกแบบให้มีตู้และชั้นวางที่สามารถจัดเก็บเสื้อผ้า กระเป๋า แอคเซสเซอรี่ได้จุใจ ติดตั้งไฟซ่อนในชั้นวางที่ช่วยเพิ่มความสว่างและให้ความรู้สึกหรูหรา ห้องน้ำเป็นแบบ Full Function ครับ ถือว่ามีขนาดค่อนข้างกว้างเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของบ้านที่อยากจะเน้นคือการให้ Space ขนาดใหญ่กับห้องน้ำภายในห้องนอนเพราะถือเป็นพื้นที่ส่วนตัว พร้อมกับแยกส่วนเปียก-แห้งให้เรียบร้อย ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยผนังหินอ่อนสีขาวที่สะท้อนถึงความคลาสสิกและทันสมัยในเวลาเดียวกัน อ่างอาบน้ำทรงโมเดิร์นถูกจัดวางอย่างลงตัวใกล้กับหน้าต่างขนาดใหญ่ ห้องน้ำยังมีการติดตั้งอุปกรณ์ทันสมัย รวมถึงพื้นที่อาบน้ำที่มีประตูกระจกใสเปิดโล่งวัสดุที่ใช้ในห้องน้ำล้วนเป็นวัสดุคุณภาพสูง มาดูในส่วนของห้องนอนรองห้องแรกกันบ้างครับ อยู่ปีกซ้ายของบ้านโซนด้านหน้าบ้าน ภายในมีขนาดใหญ่เช่นกัน ทุกห้องนอนแบบ En Suite คือเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวครับ เมื่อเราเดินเข้าไปด้านในสุดจะเป็นโซนพักผ่อนมีเตียงนอนอยู่ตรงกลางเป็นเตียงสีชมพูอมแดงขลิปเข้มด้วยหมอนอิงสีเหลืองและผ้าคาดเตียงสีส้มทำให้ห้องนี้ดูสดใสขึ้น หัวเตียงจัดวางโคมไฟและกรอบรูปงานอาร์ตแบบ Abstract ส่วนปลายเตียงจัดวางโต๊ะแบบลอยตัวเอาไว้สำหรับนั่งทำงานหรืออ่านหนังสือ หรือใครอยากทำเป็นพื้นที่สำหรับติดตั้งทีวีก็ได้เช่นกัน ด้านข้างเป็นพื้นที่สำหรับแต่งตัวด้วยตู้เสื้อผ้าสูงจากพื้นจรดเพดาน ด้านในเป็นห้องน้ำในตัว จริงๆ แล้วหากบ้านไหนสมาชิกในครอบครัวไม่ได้เยอะมาก เราสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องเอนเตอร์เทนเม้นท์ สำหรับดูหนังฟังเพลงก็ได้ อย่างที่บอกไปว่า ทุกห้องล้วนเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ที่สามารถออกแบบได้ตามใจ ซึ่งโดยหลักของการออกแบบที่ผมเคยเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้คือ Open Plan การออกแบบจึงเปิดให้มีความยืดหยุ่นในการใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่และตรงตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยในบ้านนั่นเองครับ ส่วนห้องนอนรองอีกห้องจะอยู่ค่อนไปทางทางด้านหลังบ้านเช่นกันทำให้ได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบ ตกแต่งภายในห้องในสไตล์วัยรุ่นชาย โดยจัดแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างเป็นสัดส่วน ด้านหน้าเป็นโซนพักผ่อนมีเตียงนอนขนาดใหญ่จัดวางไว้ตรงกลาง หัวเตียงถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม ด้วยการเลือกใช้สีเหลืองสดใสตัดกับลวดลายบนผ้าหุ้มหัวเตียงที่มีลวดลายสีน้ำเงินเข้มเข้ากับโทนสีหลักของห้อง เราค่อนข้างชอบห้องนี้เพราะผนังด้านข้างและด้านหลังบ้านเป็นกระจกที่เปิดช่องแสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาสู่เตียงนอนได้ทันที ห้องนี้จึงดูโปร่งโล่งอยู่สบายไม่รู้สึกอึดอัด ปลายเตียงเป็นพื้นที่สำหรับติดตั้งทีวี ส่วนด้านข้างเตียงดีไซน์เป็นเคาน์เตอร์ยาวขนานไปกับผนัง ใช้เป็นมุมทำงาน อ่านหนังสือหรือนั่งเล่นทำกิจกรรมส่วนตัว ถ้าจะให้ดีต้องมีคอมพิวเตอร์ชุดใหญ่สำหรับสตรีมเกมรับรองว่าน่าจะถูกใจวัยรุ่นมากกว่านี้ ถัดเข้าไปด้านในเป็นมุมแต่งตัวที่มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน เชื่อมต่อกับห้องน้ำที่ถูกจัดแบ่งอย่างชัดเจนระหว่างโซนแห้งและโซนเปียก โดยมีการติดตั้งฝักบัวมีอ่างล้างหน้า อีกทั้งการใช้กระจกบานใหญ่ยังช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่งโล่งให้กับพื้นที่ ตกแต่งด้วยโทนสีที่เป็นกลางและลายกระเบื้องหินอ่อนช่วยเสริมบรรยากาศให้ห้องน้ำดูสะอาดตา มีช่องแสงจากธรรมชาติด้านข้างทำให้ห้องน้ำดูโปร่งสบาย สามารถเปิดออกเพื่อช่วยระบายอากาศได้ #โดยสรุป โครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-พรานนก เป็นโครงการที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้พักอาศัย ด้วยการผสมผสานความหรูหราสไตล์จอร์เจียน ธรรมชาติแวดล้อมที่ร่มรื่นสวยงามและความสะดวกสบายเข้าไว้ด้วยกันในทุกมุมของบ้าน ความโดดเด่นของโครงการนี้คือทำเลที่ตั้งที่อยู่ในย่านราชพฤกษ์-พรานนก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว การเดินทางสะดวกสบายทั้งการใช้รถยนต์ส่วนตัวและการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงเรียน และโรงพยาบาลชั้นนำ นอกจากนั้น โครงการยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว โดยมีการจัดสรรพื้นที่ในโครงการเพื่อรองรับเพียง 35 ครอบครัวเท่านั้น ทำให้เรามั่นใจได้ในเรื่องความสงบสุขและความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย ใครที่สนใจโครงการ เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ – พรานนก สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://siri.ly/GBlXlHA หรือนัดหมายเข้าชมโครงการ โทร. 1685 ได้เลยครับ#Setthasiri #เศรษฐสิริ #ราชพฤกษ์ #พรานนก #PortraitOfSuccess #Sansiri40years #Sansiri