Setthasiri Ratchapruek-Nakhon In

“𝐅𝐚𝐬𝐡𝐢𝐨𝐧𝐬 𝐟𝐚𝐝𝐞, 𝐬𝐭𝐲𝐥𝐞 𝐢𝐬 𝐞𝐭𝐞𝐫𝐧𝐚𝐥.” เป็นวลีที่ติดตรึงอยู่ในใจกานต์มานาน และกลายเป็น Motto หลักในการทำงานตลอดมา

.

แน่นอนว่าคนที่เอ่ยขึ้นคือ 𝗬𝘃𝗲𝘀 𝗦𝗮𝗶𝗻𝘁 𝗟𝗮𝘂𝗿𝗲𝗻𝘁 ดีไซน์เนอร์คนโปรดของผมนั่นเองครับ

.

กานต์นึกไปถึงงานดีไซน์ของบ้านในโครงการต่างๆ ยิ่งนับวันก็มีหลากหลายสไตล์ให้เราได้เลือกบนทำเลที่มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป

.

แต่สไตล์หนึ่งที่ยังคงอยู่และไม่มีวันเลือนหาย ที่สำคัญยิ่งนานวันเสน่ห์ของงาน Modern Classic Style ก็ยิ่งชวนให้หลงใหล นับเป็นงานออกแบบและสถาปัตยกรรมร่วมสมัยไร้กาลเวลา (Timeless Design)

.

บ้านสไตล์โมเดิร์นคลาสสิกเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์เหนือกาลเวลาและหรูหราที่ผสมผสานการออกแบบแบบดั้งเดิมและร่วมสมัยได้ดีที่สุด โดดเด่นด้วยเส้นสายที่สะอาดตา สัดส่วนที่สมมาตร มีสีสันสบายตา และเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติเข้ามาเป็นองค์ประกอบ

.

บ้านคลาสสิกสมัยใหม่มักเปิดโล่งและโปร่งสบาย โดยมีหน้าต่างบานใหญ่และแสงธรรมชาติส่องเข้ามาอย่างเต็มที่ เป็นสไตล์อเนกประสงค์ที่สามารถปรับให้เข้ากับการตกแต่งภายในได้หลากหลาย ทำให้บ้านคงความสวยงาม ท่ามกลางความเรียบง่าย ถ้าเรามองในภาพรวมจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกถึงความสง่างามทว่าแฝงไว้ด้วยรายละเอียดที่ซับซ้อนของงานออกแบบ

.

เห็นได้ชัดจากบ้านในโครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-นครอินทร์ (Setthasiri Ratchapruek-Nakhon In) ที่นำเสนอกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมในสไตล์ Modern Classic ด้วยงานดีไซน์ที่ซ่อนไว้อยู่ในทุกรายละเอียด

.

ส่วนตัวผมชอบการออกแบบฟังก์ชันพื้นที่ใช้สอยที่มีลักษณะเป็น Open Plan ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบห้องต่างๆ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และความชอบของสมาชิกในบ้านได้มากที่สุด

.

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือบรรยากาศของแมกไม้สวนสีเขียวสไตล์อังกฤษ ทั้่วทั้งโครงการตั้งแต่ Main Gate หน้าบ้าน สวนด้านข้าง ไปจนกระทั่ง Clubhouse ของโครงการที่มีขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยสระว่ายน้ำท่ามกลางพื้นที่สวนสีเขียวและไม้ดอกหลากสี หลายสายพันธุ์ที่คอยชูช่อรอทักทายเราตลอดเวลา โดยรอบเต็มไปด้วยพื้นที่นั่งพักผ่อนทั้งในห้องปรับอากาศและกลางแจ้งแบบ Open Air ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติแวดล้อม

.

บนทำเลที่มีศักยภาพเชื่อมต่อกับถนนหลักหลายสายทั้งถนนราชพฤกษ์, ถนนนครอินทร์, ถนนรัตนาธิเบศร์, ถนนกาญจนาภิเษกและใกล้ทางด่วน ทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าสนใจมีอยู่อย่างครบครัน โดยเฉพาะช่วงปลายปีนี้กับการเปิดตัวห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ซึ่งอยู่ไม่ห่างไปจากโครงการมากนักครับ

.

เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-นครอินทร์ จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจสำหรับใครที่มองหาบ้านเดี่ยวดีไซน์สวย ส่วนกลางขนาดใหญ่ในทำเลนี้

.

สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://siri.ly/CGMqlvA

หรือทำนัดหมายเพื่อเข้าชมโครงการได้ที่โทร 1685

#Setthasiri#เศรษฐสิริ#ราชพฤกษ์#นครอินทร์#PortraitofSuccess#Sansiri#YouAreMadeForLife

..

บ้านในโครงการ เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-นครอินทร์ ที่กานต์พามาชมในครั้งนี้ เป็นตัวอย่างของงานออกแบบที่สปอยล์ชีวิตได้ดีงามมาก

เริ่มจาก โลเคชั่นอยู่ติดถนนใหญ่ เดินทางได้สะดวกเข้าออกได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าเราจะขับรถตรงเข้าสาทร ราชพฤกษ์ก็ง่ายหรือจะออกไปทางวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษกก็สะดวกมากครับทำเลนี้ยังรายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า คาเฟ่ ร้านอาหาร โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ

.

กานต์เดินทางมาจากเส้นราชพฤกษ์ขับตรงมาเรื่อยๆก่อนจะเลี้ยวซ้ายออกไปทางถนนบางกรวย-ไทรน้อย ก็จะเจอกับโครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-นครอินทร์ ซึ่งอยู่ติดถนนบางใหญ่-บางคูลัดเลยครับ

ในส่วนของทำเลถือว่ามีความน่าสนใจเพราะสัญจรเข้าออกได้หลากหลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็นถนนราชพฤกษ์ ถนนนครอินทร์ ถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนบรมราชชนนี ถนนกาญจนาภิเษก และใกล้ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก (ด่านฉิมพลี) มีรถไฟฟ้า MRT สถานีบางพลู อยู่ห่างจากโครงการไปไม่ไกลนัก

ส่วนงานออกแบบมีให้ครบทุกความต้องการเน้นดีไซน์แบบร่วมสมัยไร้กาลเวลา เพราะว่าในโครงการนี้ทั้งหมด 98 ยูนิต มีแบบบ้านให้เลือกถึง 6 Type ที่รองรับความต้องการของทุก Generations

เน้นพื้นที่ใช้สอยจัดเต็ม พร้อมสวนขนาดใหญ่รอบบ้าน ตลอดจนพื้นที่ส่วนกลางที่จัดเต็ม กานต์ว่าเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-นครอินทร์ ออกแบบ Clubhouse ที่มีกลิ่นอายความเป็น Modern Classic ที่สวยคลาสสิคมาก ผมชอบสระว่ายน้ำด้านหน้าสวนที่มีขนาดใหญ่มันคือที่สุดของบรรยากาศดีๆ ในวันที่เราพักผ่อนอยู่บ้าน

ด้านหน้าทางเข้าจะใช้ระบบ RFID Sensor สำหรับลูกบ้านและระบบ VMS สำหรับบันทึกข้อมูลการเข้าออกของผู้มาติดต่อที่รวดเร็วและแม่นยำ เพื่อให้ลูกบ้านได้รับความเป็นส่วนตัวและเพื่อความปลอดภัย ใครที่มีแขกมาหาแต่ว่าไม่สะดวกเชิญเข้าบ้าน หรือต้องการความเป็นส่วนตัว ก็สามารถให้มาพบปะกันที่สโมสรแทนได้ ซึ่งจะอยู่ใน Gate ถัดไปด้านใน

ภายในโครงการเน้นระบบรักษาความปลอดภัยแบบ LIV-24 ซึ่งเป็นมาตรฐานของแสนสิริ ตลอด 24 ชม. มีกล้อง CCTV ทั่วทั้งโครงการ

บ้านในโครงการนี้จะติดตั้งสัญญาณป้องกันขโมยทั้งแบบ Magnetic Sensor และ Digital Fence รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร เสริมด้วยระแนงสูง และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชม.

ในส่วนของ Clubhouse เมื่อมองจากหน้าประตูจะเห็นได้ทันทีถึงความหรูหรา อลังการของอาคารขนาดใหญ่ที่สระว่ายน้ำเป็นแนวขวางขนานไปกับด้านหน้าอาคารสโมสร

ส่วนตัวผมชอบดีไซน์ของสัญลักษณ์ตัว “S” สไตล์โรมันที่บ่งบอกตัวตนที่หรูหราชัดเจนของความเป็นเศรษฐสิริได้ดี ซึ่งเราจะพบเห็นโลโก้เช่นนี้ได้ทั่วทั้งโครงการครับ

หนึ่งในความคลาสสิคที่มักพบเห็นได้ในแทบทุกโครงการของแสนสิริคือการนำเอา Installation Art เป็นรูปปั้นศิลปะขนาดใหญ่จัดวางไว้ในสวนส่วนกลางเพื่อเพิ่มสุนทรียในการพักผ่อน

อย่างเช่นที่โครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-นครอินทร์ ก็จะเป็นรูปปั้นเทพีที่กำลังร่ายรำอยู่อย่างเริงร่า ท่ามกลางสนามหญ้าสีเขียวและไม้ดอกสีสันสดใส ทำให้บรรยากาศดูอบอวลไปด้วยรอยยิ้ม ความสุข เมื่อเราได้เห็นธรรมชาติกำลังเริงระบำอยู่ ท่ามกลางสายน้ำขนาดใหญ่ทำให้เรารู้สึกสดชื่นสบายใจ เมื่อได้มาพักผ่อนที่ Clubhouse

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการมีขนาดใหญ่มาก บนเนื้อที่เกือบหนึ่งไร่ เกินครึ่งจะให้น้ำหนักกับพื้นที่สีเขียวครับ ทั้งไม้พุ่ม ไม้ดอก และต้นไม้ใหญ่ มีสนามหญ้าขนาดใหญ่เหมาะสำหรับกิจกรรมนันทนาการภายในครอบครัว

ส่วนตัวอาคาร Clubhouse ออกแบบในสไตล์โมเดิร์นที่เน้นความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ เห็นได้จากการปลูกต้นไม้ไว้โดยรอบและด้านในคลับเฮ้าส์ การเลือกใช้หินเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานตกแต่ง ทำให้ได้ฟีลลิ่งของ Organic Architecture มากขึ้น

ผนังเป็นกระจกใสทำให้เชื่อมต่อมุมมองของธรรมชาติจากภายนอกสู่ภายในอาคาร ทำให้ดูมีความร่วมสมัยอย่างเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ

กานต์ชอบ Clubhouse ของที่นี่มากครับ ได้เข้ามาใช้บริการแล้วรู้สึกสบายใจดี

สระว่ายน้ำมีขนาดใหญ่มากแบบ Half-Olympic เราสามารถว่ายน้ำออกกำลังกายแบบจริงจังได้เลยครับ เป็นสระระบบเกลือ ที่แยกส่วนของสระเด็กออกไป ออกแบบให้อยู่ใกล้กับมุมนั่งพักผ่อนที่จัดวางชุดที่นั่งไว้โดยรอบสระว่ายน้ำ

ข้อดีก็คือคุณพ่อ คุณแม่สามารถมานั่งพักผ่อน รอเด็กๆ ที่กำลังเล่นน้ำในสระอย่างสนุกสนาน ควบคู่ไปกับการชมวิวสวนสีเขียวได้ภายในเวลาเดียวกัน ด้วยความที่ขอบสระเป็นระบบน้ำล้น ทำให้ได้ยินเสียงน้ำไหลให้ความรู้สึกสดชื่นตลอดเวลา

Clubhouse ดีไซน์ Modern Classic ที่เน้นดีเทลของงานออกแบบมีทั้งผนังแบบย่อมุม คิ้วบัวสไตล์ยุโรป ฟินบริเวณเหลี่ยมของอาคารที่ช่วยเพิ่มมิติ ประตูทางเข้าออกแบบให้มี Facade อลูมิเนียมทรงโค้งดูสวยดีครับ เติมดีเทลด้วยเหล็กตีเป็นซี่ทำให้มีกลิ่นอายของความคลาสสิค เส้นสายโค้งมนสวยงาม มองไปทางไหนมันก็ดูสอดรับกันไปหมดทั้งตัวอาคาร และซุ้มประตูทางเข้า Clubhouse ด้านใน

ฟังก์ชันการใช้งานภายในได้ถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ เร่ิมจากด้านซ้ายจะเป็นอาคารสูงแบบ Double Volume มีหน้าต่างทรงสูงสอดรับกับดีไซน์ทรงโค้งของประตู ARCH ซึ่งถูกออกแบบให้เป็น Grand Lobby

ภายใน Grand Lobby มีพื้นที่กว้างขวาง ดูหรูหรา โอ่โถง โดยรอบผนังประดับด้วยกระจกใสเปิดช่องแสงธรรมชาติให้ส่องเข้ามาได้ตลอดทั้งวัน มีการจัดชุดโซฟาดีไซน์และสีสันหลากหลายเอาไว้ให้หลายชุด รองรับการพักผ่อนของลูกบ้าน

เราว่าสะดวกดีหากต้องมีการนัดหมายแขกหรือบุคคลภายนอกที่เราไม่อยากให้เข้าบ้านก็เจอกันตรงนี้

ส่วนอีกด้านเป็นโต๊ะไม้ขนาดใหญ่พร้อมเก้าอี้สตูลทรงสูง สำหรับนั่งประชุมงาน หรือจัดปาร์ตี้ส่วนตัว ชวนเพื่อนสนิทและคนในครอบครัวมารับประทานอาหารร่วมกันที่นี่ได้

ยอมรับเลยครับว่า เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-นครอินทร์ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ Clubhouse ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยมาก มีมุมให้เก็บภาพเยอะไปหมดเลยครับ ด้านหน้าของอาคารจะเป็นสวนสีเขียวและมีรูปปั้นประดับไว้ แต่หากมองไปทางด้านข้างจะเห็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ทอดยาวขนานไปกับตัวอาคาร

ที่นี่เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ผมจะพาไปชมยังส่วนอื่นๆ ภายใน Clubhouse กันต่อครับ รับรองว่าจะต้องชอบใจเหมือนผมแน่นอน
เมื่อขึ้นบนมาชั้น 2 จะพบกับ Living Space แยกส่วนไปยังอีกฝั่งจะเป็น Fitness ครับ
Living Space เป็นอีกหนึ่งมุมที่ตกแต่งได้อย่างสวยงาม รองรับการใช้งานทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่มเพื่อให้เกิดความสงบเป็นส่วนตัว เพราะบางทีเราแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากภายในบ้านแต่ก็ไม่อยากเดินทางไปไหนไกลๆ ตรงนี้ผมว่าน่าจะช่วยตอบโจทย์ได้สบายๆ เลยครับ อีกทั้งยังเหมาะกับวิถีชีวิตแบบ New Normal แบบนี้อีกด้วย 

ถัดไปอีกห้องเป็นพื้นที่ของ Fitness ซึ่งก็มีอุปกรณ์ออกกำลังกายจัดเตรียมไว้อย่างครบครันทั้ง Cardio และ Weight Training ท่ามกลางวิวสวนสีเขียวขนาดใหญ่และสระว่ายน้ำที่อยู่ชั้นล่าง ในบรรยากาศสบายๆ ถ้าเป็นตอนเย็นคงสวยมาก

ผมชอบรายละเอียดของการจัดวางเครื่องออกกำลังกาย ให้เราได้ปั่นจักรยานหรือวิ่งบนลู่ไฟฟ้า ไปพร้อมๆ กับการชมวิวธรรมชาติภายนอกไปช่วยให้หายเหนื่อยได้ดีมากเลยครับ 

เราจะไปชมบ้านตัวอย่างกันต่อนะครับ แบบบ้าน MASTERY ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ Living Area Family Area ส่วนเตรียมอาหารและ Dining Area ครัวไทย และลานซักล้าง ขนาดพื้นที่ใช้สอย 285 ตร.ม. มาพร้อมกับส่วนพักผ่อนขนาดใหญ่สำหรับทุกคนในบ้าน ภายนอกดีไซน์ Modern Classis ดูร่วมสมัยไร้กาลเวลา สถาปนิกสอดแทรก Element ในการออกแบบที่ลงรายละเอียดไว้อย่างน่าสนใจ ตัวบ้านเลือกใช้สีขาวงาช้าง ตัดกับสีเทาเข้ม-อ่อนสลับกัน เสริมด้วยวัสดุอย่างกระจกและซี่เหล็กทำให้บ้านดูเรียบหรูสไตล์ยุโรป

ภาพรวมของโครงการจะวางแปลนบ้านให้อยู่ในแนวทิศเหนือทิศใต้ ทำให้ได้ประโยชน์ในเรื่องทิศทางลมและแสงแดดไหลเวียนดีตลอดทั้งวันและทำให้บ้านไม่ร้อน อยู่แล้วสบายมากยิ่งขึ้น นับเป็นงานออกแบบที่ผ่านกระบวนการคิดมาอย่างดี 

กานต์ว่าหัวใจหลักของโครงการคือเป็นบ้านออกแบบสวย เน้น Space + Function การอยู่อาศัยที่สบาย มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ ซึ่งโดนใจผมมากครับ เพราะจากที่ไปชมมาหลายๆ โครงการ หลายๆ ท่านก็คงรู้อยู่แล้วว่าผมชอบบ้านสไตล์ Modern Classic เพราะรู้สึกได้ถึงความทันสมัยทว่าเรียบง่าย และงานออกแบบที่ลงรายละเอียดทำให้บ้านดูมีมิติ มีโถงสูงๆ เปิดช่องแสงกว้างๆ ผ่านกระจกใส รายรอบบ้าน

Exterior Design เป็นสไตล์ Modern Classic ถ้าใครสังเกตให้ดีโครงการนี้เน้นผนังกระจกใสเยอะมาก ดูแตกต่างจากโครงการทั่วไป ทำให้ได้เราสัมผัสกับบริบทของธรรมชาติแวดล้อมได้อย่างเต็มที่ มี Common Area ที่เชื่อมต่อกับทุกห้องรองรับการทำกิจกรรมร่วมกันสำหรับทุกเจนเนอเรชั่นในครอบครัว แต่การออกแบบจะลงดีเทลให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ด้วยการจัดให้มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทำกิจกรรมของตัวเอง ตรงนี้ถือเป็นหลักการออกแบบที่ดีมาก 

หน้าบ้านและด้านข้างเป็นพื้นที่สวนและมีเฉลียงพักผ่อนอยู่สามารถจัดวางโต๊ะสนามสำหรับนั่งจิบกาแฟยามเช้าได้ ผมชอบไอเดียของการจัดพื้นที่รอบบ้านด้านนอก ให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ทว่ายังอยู่ภายใน Area บ้านของตัวเอง

บ้านตัวอย่างตีไม้ระแนงขึ้นไปพร้อมกับปลูกต้นไม้เป็นสวนเล็กๆ และรอให้เวลาผ่านไปสักพักไม้เลื้อยจะค่อยๆ โตขึ้นเรื่อยๆ ผมว่าบ้านได้ทำหน้าที่ของตัวเอง คือการส่งผ่านความอบอุ่นได้ดีมากเลยครับ 

“𝐘𝐨𝐮𝐫 𝐭𝐢𝐦𝐞 𝐢𝐬 𝐥𝐢𝐦𝐢𝐭𝐞𝐝, 𝐬𝐨 𝐝𝐨𝐧’𝐭 𝐰𝐚𝐬𝐭𝐞 𝐢𝐭 𝐥𝐢𝐯𝐢𝐧𝐠 𝐬𝐨𝐦𝐞𝐨𝐧𝐞 𝐞𝐥𝐬𝐞’𝐬 𝐥𝐢𝐟𝐞.”

– 𝓢𝓽𝓮𝓿𝓮 𝓙𝓸𝓫𝓼 

สำหรับบ้าน Type นี้สามารถจอดรถได้ 2 คัน พร้อมประตูทางเข้าบ้านจากที่จอดรถได้ ทำให้สะดวกมากหากเราไปช้อปปิ้งซื้อของเข้าบ้านก็สามารถเปิดประตูเล็กเข้าสู่ห้องครัวได้เลยทันที

พื้นลานจอดรถเป็นพื้นทรายแบบ Slab On Beam คือพื้นวางบนคานเดียวกับตัวบ้าน โครงการลงเสาเข็มมาให้แล้ว ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการทรุดตัว นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้ง Wall Box เพื่อรองรับ EV Charger เอาไว้ให้ที่โรงจอดรถเรียบร้อยแล้วครับ

ลานจอดรถบริเวณผนังที่ชิดกับตัวบ้านออกแบบให้มีห้องเก็บของแบบบานคู่เปิด-ปิด สามารถใส่ถุงกอล์ฟ จักรยานแบบพับเอาเก็บไว้ด้านในได้ หรือจะเป็นอุปกรณ์ทำสวน กล่องเครื่องมือช่างก็ได้ ส่วนรอบๆ บ้านจะมีที่ดินเหลือไว้ให้จัดตกแต่งสวนได้อีก เพื่อรังสรรค์ให้เรากับธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน 

โครงการออกแบบให้มีโถงทางเดินเชื่อมต่อจากลานจอดรถโดยไม่ต้องอ้อมไปด้านหน้า ทำให้เวลาฝนตกจะไม่เปียก ถือว่าเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยที่ช่วยให้ชีวิตเราสะดวกดีขึ้นได้

เดินเข้าไปชมภายในบ้านกันดีกว่าครับ ผ่านประตูกระจกบานเปิดคู่กรุกรอบอลูมิเนียมสีดำ เป็นกระจกเขียวตัดแสงช่วยกรองแสงเข้ามาภายในบ้าน

เมื่อเปิดประตูออกเราจะพบกับ Common Area ด้านหน้าที่จัดให้เป็นพื้นที่เชื่อมต่อกันของมุมนั่งเล่นและรับแขกไปในตัว จัดวางชุดโซฟาที่นั่งดีไซน์โมเดิร์นสีแดงพร้อมโต๊ะกลาง ตั้งอยู่ริมหน้าต่างที่เปิดรับแสงจากธรรมชาติรอบด้าน ส่งผลให้พื้นที่ห้องนั่งเล่น รู้สึกโปร่งโล่ง และยังช่วยทำให้บ้านดูสว่างขึ้นประหยัดพลังงานได้มาก

เวลาที่เรานั่งพักผ่อนอยู่ตรงมุมนี้ ก็สามารถมองออกไปเห็นวิวสวนหน้าบ้าน ส่วนระยะห่างระหว่างผนัง 2 ด้าน ค่อนข้างกว้าง สามารถจัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้สบาย ส่วนชั้นวางทีวีก็เลือกเป็นสมาร์ททีวีรุ่นหน้าจอใหญ่ ๆ ได้เลยครับเพราะมีสเปซเหลือเยอะมาก จิบเครื่องดื่มแก้วโปรดพร้อมกับชมซีรีย์อยู่ที่บ้านสบายๆ

ส่วนด้านข้างมีการเจาะเปิดช่องแสงเพิ่มเพื่อเปิดรับแสงจากธรรมชาติภายนอกเข้ามาในบ้าน ดังนั้น ตอนกลางวันเราแทบไม่ต้องเปิดไฟเลยครับ ช่วยประหยัดเงินค่าไฟไปได้อีก

ด้านในเป็น Dining Area ที่มีประตูกระจกด้านข้างสามารถเปิดออกไปเพื่อรับลมชมสวนหรือนั่งเล่นบริเวณเฉลียงด้านข้างซึ่งจััดโต๊ะเก้าอี้สนามกลางแจ้งเอาไว้แล้ว ฟังก์ชันนี้ดีมากเลยนะผมว่า เหมือนโครงการรู้ใจลูกบ้านว่าต้องการอะไร เพราะเราสามารถเปิดประตูกระจกด้านข้างเพื่อออกไปสู่สวนข้างบ้านได้ อีกทั้งยังช่วยเปิดรับแสงส่องสว่างจากธรรมชาติภายนอกให้เข้าสู่ภายในบ้านได้อีกด้วย

ติดกันเป็นเคาน์เตอร์ครัวยุโรป สำหรับเป็น Pantry ภายในบ้านจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มก่อนเสิร์ฟ หรือใช้เป็นที่นั่งทานอาหารเช้าเบาๆ สำหรับเด็กๆ ก่อนไปโรงเรียนก็ได้ เพราะบ้านตัวอย่างลองให้ไอเดียในการจัดวางเก้าอี้สตูลทรงสูงเอาไว้ พร้อมติดตั้งตู้เก็บของบิลด์อินบนล่างมีหน้าบานปิดไว้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ออกแบบให้เชื่อมต่อกับครัวไทยที่อยู่ถัดเข้าไปด้านใน สะดวกต่อการใช้งานจริงครับ

Pantry & Dining Area ผมว่าจริงๆ แล้วมุมนี้ก็มีพื้นที่เหลือค่อนข้างมาก สามารถจัดเป็นโต๊ะแบบยาวกว่านี้ประมาณ 8-10 ที่นั่งก็ยังพอไหว ถ้าอยากให้ได้ประโยชน์จากการใช้สอยพื้นที่เต็มที่มุมนี้เราก็สามารถปรับฟังก์ชันได้ตามใจ

บ้านตัวอย่างจัดเป็นโต๊ะกลมในสไตล์โมเดิร์น ทำให้ผมนึกย้อนไปถึงวัยเด็กที่เราทานข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาในบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เป็นบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น เติมเต็มด้วยอาหารอร่อยๆ และความรักความผูกพันของทุกคนในบ้าน พอมาได้ชมที่โครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-นครอินทร์ ความรู้สึกนี้ก็กลับมาทักทายอีกครั้ง

ส่วนด้านใน เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเป็นครัวปิดที่มีขนาดใหญ่มากครับ มีพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก จัดวางเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว U ส่วนอีกจุดที่เบาใจและเบาเงินไปได้ก็คือการให้ชุดครัว Built-in Full Function เข้ามาด้วย

มีทั้งเคาน์เตอร์ ตู้ล่างพร้อมบานปิดและติดตั้งตู้ลอยติดผนังเอาไว้ให้แล้ว ติดตั้งซิงค์ล้างจานมาให้พร้อมพื้นที่จัดวางเตา ส่วนด้านข้างเปิดช่องสำหรับจัดวางตู้เย็นขนาดใหญ่เอาไว้ให้แล้วเช่นกัน การออกแบบพื้นที่ภายในครัวค่อนข้างลงตัว ทำได้ง่ายเราจะได้ไม่ต้องไปติดตั้งชุดครัวเองครับ

ในความเห็นของผมซึ่งเป็นคนที่ชอบเข้าครัวทำอาหาร จะปลื้มกับครัวของบ้านตัวอย่างหลังนี้มาก เพราะครัวกว้างขวางเข้าครัวพร้อมกัน 2 คนได้ อีกทั้งยังมีหน้าต่่างบานสไลด์สำหรับเปิดระบายอากาศได้ ช่วยให้เราสามารถทำอาหารต้ม ผัด แกง ทอด ตำน้ำพริกได้เต็มที่ถือว่าสะดวกดีต่อการใช้งานครับ

อีกหนึ่งรายละเอียดของงานออกแบบคือ ห้องครัวไทยจะเชื่อมต่อกับ Maid Plaza เป็นโซนทำงานของแม่บ้านด้านหลัง ทำให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของแม่บ้านเวลาทำครัวและทำงานบ้าน พร้อมห้องนอนแม่บ้านที่มีห้องน้ำในตัว

สามารถจัดวางเครื่องซักผ้า มุมตากผ้ารีดผ้าได้บริเวณนี้ โดยที่แม่บ้านสามารถเข้าออกพื้นที่ผ่านสวนด้านข้างได้เลยครับ ทำให้ไม่จำเป็นต้องผ่านเข้าทางหน้าบ้านจะได้ไม่เป็นการรบกวนเจ้าของบ้านผู้พักอาศัยและทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวด้วยครับ

ที่บริเวณชั้นล่างจะมีห้องนอนอยู่หนึ่งห้อง ออกแบบมาเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ ภายในห้องมีเตียงนอนขนาดใหญ่ที่จัดไว้อยู่ตรงกลาง แต่ก็ยังมีพื้นที่โดยรอบเหลือให้เดินได้สบาย มองออกไปผ่านหน้าต่างจะเห็นสวนหน้าบ้าน

ด้วยความที่อยู่ชั้นล่างทำให้ค่อนข้างสะดวกต่อการเดินไปที่ครัวข้างในบ้านอีกด้วย เพราะปกติแล้วผู้สูงอายุมักจะตื่นเช้ามาเดินเล่นออกกำลังกายเบาๆจากนั้น ก็จะไปช่วยเตรียมอาหารเช้าให้เราก่อนไปโรงเรียน โดยที่การจัดวางฟังก์ชันใช้สอยภายในบ้าน ทำให้ไม่กระทบกับสมาชิกในบ้านที่กำลังพักผ่อนอยู่ชั้นบนเลยครับ ทั้งยังมีห้องน้ำชั้นล่างที่อยู่ติดกันจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นห้องน้ำในตัวก็ยังได้

ผมชอบฟีลลิ่งของห้องนี้มาก การออกแบบตกแต่งที่ดูเรียบง่าย การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงที่ตั้งของห้องซึ่งอยู่ชั้นล่างโซนด้านหน้าบ้านมองออกไปเห็นสวนสีเขียวและดอกไม้สีสันสดใสรอทักทายเราอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ผมไปนั่งอยู่ในห้องแล้วก็พลอยให้นึกไปถึงห้องนอนคุณยายสุดที่รัก

จริงๆ แล้วห้องนี้สามารถปรับเป็นห้องอเนกประสงค์ได้เลยนะครับ จะใช้เป็นห้องทำงาน เป็นออฟฟิศสำหรับใครที่ Work from Home หรือมีกิจการเป็นของตัวเองที่บ้าน หรือจะทำเป็นห้องไลฟ์สดสำหรับขายของออนไลน์ เป็นห้องสำหรับดูหนังฟังเพลงก็ได้ครับ เรียกได้ว่าปรับได้ตามไลฟ์สไตล์และความต้องการของแต่ละคนได้เลย

ถัดจากโถงบันไดเข้าไปอยู่ใกล้กับห้องนอนชั้นล่างเป็นห้องน้ำที่แบ่งโซนเปียกแห้งเอาไว้ให้เรียบร้อย เพื่อรองรับการใช้งานในทุกรูปแบบ กานต์สังเกตเห็นว่าที่ใต้บันไดมีห้องเก็บของด้วยนะครับ พร้อมกับเป็นจุดติดตั้งระบบเซอร์วิสทั้งหมด

จากนั้นเราเดินขึ้นบันไดไปชมชั้นบนกันบ้างครับ ตัวบันไดจะเป็นโครงสร้างเหล็ก ราวจับและลูกนอนเป็นพื้นลายไม้ ซึ่ราวจับบันไดเป็นเหล็กสีดำดูเรียบโก้ บริเวณโถงบันไดถือว่าโปร่งดี ช่วงชานพักมีขนาดใหญ่และมีการเปิดช่องแสงเอาไว้พร้อมกับด้วยบานหน้าต่าง ให้เราสามารถเปิดออกเพื่อระบายอากาศภายในบ้านได้

เราเดินขึ้นไปดูชั้นสองของบ้านกันบ้างครับ ด้วยความที่บันไดช่วงชานพักมีการเจาะช่องแสงเอาไว้ ทำให้บ้านดูสว่างขึ้น ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลย ด้านบนจะมี 3 ห้องพร้อมกับ 1 พื้นที่เอนกประสงค์เป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับสมาชิกในบ้านหรือ Family Area ข้อดีของการแยกฟังก์ชันทำให้เราสามารถรับแขกที่ชั้นล่างได้ ในขณะเดียวกันก็ไม่รบกวนสมาชิกคนอื่นที่อยากพักผ่อนหรือดูทีวีอยู่ที่ชั้นบน ออกแบบให้เป็นมุมนั่งเล่นส่วนตัว ทำการบ้าน นั่งอ่านหนังสือหรือดูหนังร่วมกันก็เข้าท่าดี

หัวใจหลักคือเป็นบ้านออกแบบสวย เน้น Space + Function การอยู่อาศัยที่สบาย มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ หลายคนรู้อยู่แล้วเนอะว่าผมชอบบ้านสไตล์โมเดิร์น รู้สึกถึงความทันสมัยและทำให้บ้านดูมีมิติ เปิดรับช่องแสงกว้างๆ โดยบ้านซีรีส์นี้ได้ออกแบบเชื่อมต่อกับทุกห้องรองรับการทำกิจกรรมร่วมกันสำหรับทุกเจนเนอเรชั่นในครอบครัว แต่จะลงดีเทลให้เข้ากับยุค New Normal มากขึ้น ด้วยการจัดให้มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทำกิจกรรมของตัวเอง ตรงนี้ถือเป็นหลักการออกแบบที่ดีมากครับ

ชั้นบนผมว่าฟีลลิ่งค่อนข้างโปร่งโล่งสบาย เพราะมีประตูกระจกเปิดออกไปด้านนอก ซึ่งเป็นระเบียงขนาดใหญ่ เราสามารถปลูกไม้กระถางเพิ่มได้ หรืออยากจะแนะนำให้หาเก้าอี้โยกเป็นไม้ดีไซน์วินเทจเก๋ๆ สักตัวมาวาง เพื่อจะได้นั่งเล่นรับลมชมวิว อ่านหนังสือหรือว่าจิบกาแฟยามเช้า อีกจุดที่ผมชอบคือจะได้เรื่องแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามา บ้านตัวอย่างหันหน้าไปทางทิศตะวันออกทำให้แสงตอนเช้าส่องเข้ามาภายในบ้าน

ส่วนพื้นที่ครึ่งหนึ่งของบ้านในปีกด้านซ้าย จะเป็น Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่มาก ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้สอยภายในเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว เตียงนอนจัดไว้บริเวณประตูทางเข้าโดยหลบเข้าไปด้านในทำให้ได้ความเป็นส่วนเมื่อเปิด-ปิดประตู สามารถจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ได้เลยครับเพราะมีพื้นที่กว้างเดินได้รอบเลย ตกแต่งในสไตล์วินเทจนิดๆ ให้ความรู้สึกคลาสสิคของบ้านไทยที่มีกลิ่นอายโมเดิร์นด้วยการเลือกใช้ดีไซน์ของเตียง โต๊ะหัวเตียง โคมไฟและการจับคู่สีที่ทำออกมาได้น่าสนใจ เตียงนอนมีระยะห่างมากพอที่จะติดตั้งทีวีจอใหญ่บริเวณปลายเตียง สามารถติดตั้ง Cabinet สำหรับวางทีวีขนาดใหญ่ให้เรานอนชมซีรีย์เรื่องโปรดจาก Netflix บนเตียงเลยได้สบายๆ เลยครับ แต่ถ้าจะแนะนำให้แขวนทีวีติดผนังจะดูเรียบกว่าช่วยให้ห้องดูโมเดิร์นขึ้น

ส่วนบริเวณมุมห้องด้านในจัดวางอาร์มแชร์เอาไว้สำหรับนั่งพักผ่อน ห้องนอนค่อนข้างโปร่งเพราะได้ช่องแสงเปิดเข้ามาจากทั้ง 2 ด้าน ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet Space

ในส่วนของ Walk-in Closet Space ทางโครงการจัดให้เป็น Build-in Wardrobe ไอเดียในการติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พร้อมกับกระจกเงาพ่นทรายช่วยให้ห้องดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ด้านในสุดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้าห้องน้ำ ซึ่งข้อดีก็คือเมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วสามารถแต่งตัวและแต่งหน้าจบในโซนได้เลยครับ นับว่าสะดวกมาก

มุมแต่งตัวที่ว่ามีขนาดใหญ่ยังต้องยอมแพ้ให้กับห้องน้ำที่กว้างขวาง ตกแต่งสวยมากถูกใจผมเลยครับ ภายในห้องน้ำแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้ดีมีครบทั้ง 4 Figures ไม่ว่าจะเป็น อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา โถสุขภัณฑ์ โซน Shower อยู่ด้านในกระจกฉากกั้นซึ่งแยกโซนเปียกแห้งเอาไว้ให้เรียบร้อย ติดตั้งอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวเอาไว้ริมหน้าต่างให้แล้วด้วยครับ สามารถเปิดออกได้เพื่อระบายอากาศและไล่ความชื้น

ส่วนห้องนอนรองห้องแรกอยู่ทางด้านหลังทำให้ได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบ ตกแต่งภายในห้อง โดยจัดแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่พักผ่อน สามารถวางเตียงนอนขนาด King Size ได้สบายเลยครับ

ตกแต่งในสไตล์ศิลปินที่มีความอาร์ต ความเท่ เลือกใช้สีเอิร์ธโทนเพื่อให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ไม้ และด้วยความที่เป็นห้องมุมอยู่ทางด้านหลังทำให้เปิดรับช่องแสงผ่านหน้าต่างได้จากทั้ง 2 ด้าน ทำให้บรรยากาศภายในห้องค่อนข้างโฟลว์ครับ

ส่วนช่วงปลายเตียงจะเป็นมุมทำงาน อ่านหนังสือหรือนั่งเล่น ทำกิจกรรมส่วนตัว ดีไซน์เป็นเคาน์เตอร์ยาวขนานไปกับผนัง

จริงๆ แล้วหากบ้านไหนสมาชิกในครอบครัวไม่ได้เยอะมาก ผมว่าเราสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องเอนเตอร์เทนเม้นท์ สำหรับดูหนังฟังเพลงก็ได้ อย่างที่บอกไปว่า ทุกห้องล้วนเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ที่สามารถออกแบบได้ตามใจ ซึ่งโดยหลักของการออกแบบที่ผมเคยเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้คือ Open Plan การออกแบบจึงเปิดให้มีความยืดหยุ่นในการใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่และตรงตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยในบ้าน

ขยับเข้าไปด้านนอกบริเวณทางเข้าห้องจะเป็นมุมแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวได้อย่างพอดีพอเหมาะ มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่ครบไม่ว่าจะเป็น อ่างล้างหน้าที่ติดตั้งกระจกเงามาให้ ติดตั้งเป็นโซน Shower ที่กั้นพื้นแบบยกสูงเพื่อแยกส่วนเปียกแห้ง ติดกันจะเป็นสุขภัณฑ์ภายในห้องแบบส่วนตัว

เช่นเดียวกับห้องนอนรองอีกห้องที่อยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน ก็มีห้องน้ำในตัวเช่นกันครับ แม้เราจะเรียกว่าห้องนอนรองแต่เอาเข้าจริงๆ ห้องนอนทั้ง 2 ห้องที่อยู่ปีกซ้ายของบ้าน เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ใช้ได้เลยนะครับ

ภายในห้องสามารถแบ่งเป็นโซนพักผ่อน มุมนั่งทำงานและโซนแต่งตัว อย่างห้องนอนนี้ที่อยู่ด้านหน้าก็จะวางเลย์เอ้าท์ต่างกันไป โดยให้โซนพักผ่อนวางเตียงนอนชิดผนังฝั่งหน้าบ้านซึ่งเปิดช่องแสงขนาบข้าง สามารถจัดวางเตียงขนาดใหญ่ด้านสบายเลยครับพร้อมกับมีพื้นที่โดยรอบเตียงเหลือๆ หัวเตียงจัดวางอาร์มแชร์นั่งอ่านหนีังสือสบายๆ ส่วนปลายเตียงก็สามารถจัดวางตู้ทรงเตี้ยและทีวีได้ แต่ไฮไลท์ของห้องนี้ก็คือประตูที่สามารถเปิดออกไปสู่ระเบียงได้ ทำให้เราได้มีพื้นที่ส่วนตัวที่เชื่อมต่อกับธรรมชาติภายนอก มองออกไปเห็นสวนสีเขียวด้านหน้าและความเคลื่อนไหวของผู้คนที่ผ่านไปมา ส่วนตัวผมชอบฟีลลิ่งของห้องนี้มากครับ


#โดยสรุป หากใครกำลังมองหาบ้านสักหลังที่โดดเด่นด้วยโลเคชั่นในโซนราชพฤกษ์ เน้นเรื่องการสัญจรที่สะดวกสบาย เป็นทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตัวบ้านและอาคาร Clubhouse มีความสวยงามด้วยงานดีไซน์แบบ Modern Classic ที่เป็นเอกลักษณ์ดูร่วมสมัยไร้กาลเวลา ให้ความร่มรื่นเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว เน้นเรื่องความปลอดภัยและให้ความเป็นส่วนตัว เหล่านี้เป็นนิยามคำว่าบ้านที่ดีในแบบของผม ถ้าจะให้แนะนำในทำเลและราคาใกล้เคียงกัน ผมว่าตัวเดียวจบครบที่โครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-นครอินทร์ เลยครับ

สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://siri.ly/CGMqlvA
หรือโทร 1685
KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน