Setthasiri Ngamwongwan

กานต์เป็นคนที่ชื่นชอบการเดินทางเพื่อไปดูงานสถาปัตยกรรมจากทั่วโลกครับ อย่างวิลล่าสไตล์ Georgian Architecture ที่เคยขับรถไปดูตอนอยู่อังกฤษก็ทำเอาตกหลุมรักง่ายๆ ได้เลยเหมือนกัน เพราะเป็นต้นฉบับของสถาปัตยกรรมที่เต็มไปด้วยความคลาสสิค

.

Georgian Architecture Style จะมีรายละเอียดของโครงสร้างจากกรีกและโรมันโบราณ งานดีไซน์มีความเรียบง่าย ทว่ายิ่งใหญ่ ใช้อิฐและหินเป็นหลัก เน้นสีสันอย่างสีเหลือง ส้ม ขาว ครีม ปัจจุบันก็มีการใช้สีที่แตกต่างออกไปจากเดิมอยู่บ้างแต่ก็ยังอยู่ในโทนสีอบอุ่น ไม่จัดจ้าน

.

ที่สำคัญคือเรื่องความสมมาตร (Symmetry) ใช้สัดส่วนที่คลาสสิก รวมถึงการผนวกรูปแบบของงาน Palladian หรือ สไตล์ปัลลาดิโอ อาทิ การเพิ่มเสา หน้าจั่ว การใช้รูปปั้นมาตกแต่งเพื่อเพิ่มความคลาสสิค ทำให้รายละเอียดของอาคารดูลงตัว คงกลิ่นอายของงานสถาปัตยกรรมโบราณแบบกรีกโรมัน ช่วยให้บ้านสไตล์จอร์เจียนดูมีความคลาสสิคมากยิ่งขึ้น

.

สำหรับใครที่ชอบบ้าน Georgian Architecture อยากแนะนำให้ไปชมโครงการเศรษฐสิริ งามวงศ์วาน (Setthasiri Ngamwongwan) ครับ งานดีไซน์ดูเรียบหรูมาก

.

งานดีไซน์ของโครงการได้แรงบันดาลใจมาจาก Georgian Architecture Style เน้นบ้านหลังใหญ่สำหรับครอบครัวที่อยู่อาศัยกันหลายเจนเนอเรชัน ฟังก์ชันของบ้านสไตล์จอร์เจียนจะให้ความสําคัญของพื้นที่ที่กว้างขวาง (Generous Sense of Space) เปิดรับช่องแสงจากธรรมชาติภายนอกเข้าสู่ภายในตัวบ้าน ผ่านซุ้มประตูทางเข้าที่ออกแบบเป็น Arches Window กระจกหน้าต่างทรงโค้งบานสูง เชื่อมต่อ Double Volume ภายใน และเพิ่มดีเทลของงานดีไซน์ให้บ้านดูโดดเด่นสไตล์ยุโรปด้วยกรอบหน้าต่างกระจกลายตาราง พร้อมบาน Shutter ที่สมมาตรช่วยเพิ่มความสวยงามของ Facade อันเป็นเอกลักษณ์

.

Clubhouse มีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าโครงการ บรรยากาศร่มรื่นเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว โดดเด่นด้วยสวนแบบ Symmetry ที่ช่วยเพิ่มความอลังการให้กับ Clubhouse ราวกับใช้ชีวิตอยู่ในพระราชวังหรู ด้านหน้าเป็นสระว่ายน้ำที่ดีไซน์โมเดิร์นคลาสสิคดูสวยงาม สามารถออกกำลังกายไปพร้อมกับการชมวิวสวนสีเขียวเบื้องหน้าได้ ส่วนโดยรอบโครงการเป็นย่านที่พักอาศัยทำให้บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ

.

อีกหนึ่งไฮไลท์คือโครงการเศรษฐสิริ งามวงศ์วาน มาพร้อมกับทำเลที่ดีมาก ใกล้ทางด่วนศรีรัชเพราะอยู่ในซอยงามวงศ์วาน 21 ใกล้กับทางด่วนทำให้เราสามารถไปขึ้นทางด่วนศรีรัชทั้งฝั่งไปจตุจักรและไปรังสิตได้ง่ายโดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีและยังมีทางยกระดับอุตราภิมุขที่อยู่ห่างออกไปไม่เกิน 5 กิโลเมตร ทำเลนี้ยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งเราจะลงรายละเอียดกันในแคปชั่นของแต่ละภาพกันต่อด้านในครับ

.

เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน เริ่ม 18 – 40 ล้าน*

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม https://siri.ly/hiYa0WA

#SetthasiriNgamwongwan#Setthasiri#Sansiri#Sansiri40Years#เศรษฐสิริ#งามวงศ์วาน

เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้น ขนาดที่ดินโครงการประมาณ 19 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านพักอาศัยเพียง 48 ยูนิตเท่านั้น จึงให้ความเป็นส่วนตัวสูง เน้นบ้านหลังใหญ่สามารถรองรับการพักอาศัยของครอบครัวขนาดใหญ่ได้ ดีไซน์สวยออกแบบโดยคำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานในทุกมิติ มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ที่ดินเริ่มต้น 60-158 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 248-390 ตร.ม.
โครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน นำเสนอภาพลักษณ์ของการอยู่อาศัยด้วยการใช้งานดีไซน์แบบ Georgian Architecture ที่มีความหรูหรา ดูคลาสสิคและ Timeless เพื่อสะท้อนถึงความภูมิฐานและบ่งบอกรสนิยมของผู้อยู่อาศัย

โครงการตั้งอยู่ในซอยงามวงศ์วาน 21 ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพโดดเด่นด้วยจุดที่ตั้งอันเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพมหานครกับนนทบุรี ตั้งอยู่ติดกับวัดบัวขวัญ และย่านชุมชนที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของโซนงามวงศ์วาน เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน
ด้านการคมนาคม โครงการมีจุดเด่นด้านความสะดวกในการเดินทางด้วยการเข้าถึงเส้นทางสำคัญหลายสาย เราสามารถเดินทางผ่านถนนหลักได้ทั้งถนนงามวงศ์วาน ถนนสามัคคี ถนนแจ้งวัฒนะและถนนติวานนท์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงทางด่วนที่สะดวกรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นทางด่วนศรีรัชฝั่งไปรังสิตที่อยู่ห่างเพียง 1.4 กิโลเมตร ส่วนทางด่วนศรีรัชฝั่งไปจตุจักรอยู่ห่างไประยะทาง 2.5 กิโลเมตร และใช้ทางยกระดับอุตราภิมุขได้ในระยะ 4.8 กิโลเมตร

สำหรับผู้ที่ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ โครงการอยู่ในระยะที่สามารถเข้าถึงรถไฟฟ้าได้หลายสาย ทั้ง MRT สายสีชมพูสถานีแคราย, MRT สายสีม่วงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี และ BTS สายสีแดง สถานีเกษตรศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีรถประจำทางและรถตู้หลายสายที่ให้บริการในพื้นที่ 
ความโดดเด่นอีกประการของโครงการคือการอยู่ใกล้ศูนย์การค้าชั้นนำ โดยห่างจากพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ขับรถออกมาหน้าปากซอยก็เจอเลยครับ แต่ถ้าจะไปทานข้าวช้อปปิ้งที่เดอะมอลล์ ไลฟ์สไตล์ สโตร์ งามวงศ์วานก็ตรงไปกลับรถเล็กน้อยประมาณ 2 กิโลเมตร ส่วนเอสพลานาด ก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลทำให้การจับจ่ายใช้สอยเป็นเรื่องสะดวกสบาย

ด้านการศึกษา โครงการตั้งอยู่ใกล้สถาบันการศึกษาชั้นนำหลายแห่ง โดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง อาทิ โรงเรียนนานาชาติ MYIS, โรงเรียนนานาชาติ ISB, โรงเรียนนานาชาติ St. Andrews Samakee, โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสเซเวียร์, โรงเรียนนานาชาติแฮมพ์ตัน แจ้งวัฒนะ, โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เป็นต้น

สำหรับด้านการแพทย์และสาธารณสุข ผู้อยู่อาศัยสามารถเข้าถึงโรงพยาบาลชั้นนำได้สะดวก ทั้งโรงพยาบาลนนทเวช, โรงพยาบาลแบงค็อก เมนทัล เฮลท์, โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และโรงพยาบาลวิภาวดี 
ด้วยทำเลที่ตั้งอันเป็นจุดยุทธศาสตร์ การคมนาคมที่สะดวกและความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบทำให้เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน จึงเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยสำหรับครอบครัวยุคใหม่ได้อย่างลงตัว พร้อมศักยภาพการเพิ่มมูลค่าในอนาคตจากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงการต่างๆ ในพื้นที่โดยรอบ 
กานต์เดินทางมาจากสาทรขับขึ้นทางด่วนแล้วลงตรงงามวงศ์วาน วนรถเล็กน้อยก็เข้าซอยงามวงศ์วาน 21 ได้ทันทีเลยครับนับว่าสะดวกและรวดเร็วมาก

ด้านหน้าโครงการมีระยะ Set-Back จากถนนหลักเข้ามาเล็กน้อย ทำให้เปิดพื้นที่สีเขียวด้านหน้าได้อย่างโดดเด่นสำหรับผู้ที่ผ่านไปมาและยังเป็นบัฟเฟอร์ป้องกันเสียงเพื่อให้เกิดบรรยากาศของการพักอาศัยที่เงียบสงบได้เป็นอย่างดี

Main Gate โครงการมีขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยงานดีไซน์เสาทรงกลมแบบโรมันมาตกแต่ง ประดับด้วยวัสดุลายหินสีน้ำตาลทำให้ดูสวยงาม หรูหรา หลังคามีขนาดใหญ่ มาพร้อมกับป้ายชื่อด้านหน้าโครงการเห็นชัดเจนและมีน้ำพุเพิ่มความสดชื่น 
การรักษาความปลอดภัยของที่นี่จะเน้นความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยสูงที่เรียกว่า LIV-24 ซึ่งเป็นมาตรฐานของแสนสิริ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง มีระบบกล้อง CCTV โดยรอบ บันทึกประวัติการเข้าออกของผู้มาเยือน รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรเสริมด้วยระแนงที่สูงไปอีกเท่าตัว มี Digital Fence ตรวจจับความคลื่นไหวอัจฉริยะ ประตูรั้วโครงการแบบ Gated Community มีระบบ RFID Sensor เปิดซุ้มประตูให้ลูกบ้านแบบอัตโนมัติ ส่วนการเข้า-ออกของผู้มาติดต่อเป็นระบบ VMS System บันทึกภาพผู้มาติดต่อ รวดเร็ว และแม่นยำเพื่อสร้างความอุ่นใจ 
Clubhouse ออกแบบให้อยู่ฝั่งด้านหน้าโครงการ เรียกได้ว่าเมื่อขับรถเข้ามาก็จะเจออาคารหลังใหญ่สไตล์จอร์เจียน ตั้งเด่นเป็นสง่าช่วยเพิ่มความประทับใจให้กับแขกที่มารอพบได้ทันที ซึ่งข้อดีก็คือทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้พักอาศัย หากมีแขกมาพบก็สามารถนัดหมายที่ Clubhouse ได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปภายในตัวบ้าน 
บรรยากาศภายในโครงการเน้นเปิดรับพื้นที่สีเขียวในทุกจุด ทำให้ดูร่มรื่น ออกแบบแสงสว่างทั่วโครงการไม่ให้มีจุดบอด และช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายโดยเฉพาะช่วงเวลาหัวค่ำ Clubhouse คือสวยงามและดีไซน์คลาสสิคมากราวกับได้พักผ่อนอยู่ในรีสอร์ตหรู ทั้งยังช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับลูกบ้านอีกทางหนึ่งด้วย 
สถาปนิกเน้นไปในเรื่องการใช้พื้นที่เปิดโล่ง สร้างความรู้สึกกว้างขวาง การเปิดรับแสงธรรมชาติเพื่อเพิ่มความสว่างภายใน ตลอดจนการใช้การจัดสวนเพื่อสร้างความรู้สึกสงบเราจึงได้เห็นการออกแบบให้พื้นที่ภายนอกกลายเป็นสวนสวยสีเขียว จัดให้มีพื้นที่กลางแจ้งสำหรับนั่งพูดคุยกันท่ามกลางสวนขนาดใหญ่ มี Pavillion พร้อมจัดวางเก้าอี้ที่นั่งกระจายกันไปในหลายจุด เราสามารถนัดหมายแขกจากภายนอกให้มาพบปะพูดคุยกันที่บริเวณส่วนกลางแจ้งได้ ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายเป็นกันเอง และยังมอบความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยไม่จำเป็นต้องไปพูดคุยกันที่บ้าน

โครงการเศรษฐสิริ งามวงศ์วาน จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัย แต่กานต์ว่านี่เป็นงานสถาปัตยกรรมที่เน้นการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน ใช้แสงเงาสร้างบรรยากาศที่เชื่อมต่อกับธรรมชาติ ล้วนแล้วแต่ส่งเสริมให้เรารู้สึกถึงความผ่อนคลายในทุกวัน 
เหมือนที่ Tadao Ando สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่นเคยพูดไว้ว่า “I don’t believe architecture has to speak too much. It should remain silent and let nature in the guise of sunlight and wind.”

แนวคิดในการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ไม่จำเป็นต้องดึงดูดความสนใจมากเกินไป ควรจะเป็นสิ่งที่สงบเงียบและเปิดโอกาสให้ธรรมชาติอย่างแสงแดด สายลมและผู้คนได้สัมผัสกันโดยตรง ตัวอาคารที่กลมกลืนกับธรรมชาติจะสามารถสร้างบรรยากาศที่เชื่อมโยงผู้คนเข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัวและผ่อนคลายซึ่งเรารู้สึกได้แบบนั้นจริงๆ เมื่อได้ลองนั่งนิ่งๆ อยู่ในสวนส่วนกลาง 
มองจากภาพมุมสูงเรายังจะเห็นรูปแบบการจัดสวนที่เน้นแลนด์สเคปแบบสมมาตรตามสไตล์จอร์เจียน เหมาะสำหรับมาเดินเล่นในช่วงเวลาเย็นๆ แต่ที่น่าสนใจคือ การออกแบบให้มีพื้นที่ว่างค่อนข้างกว้างท่ามกลางสวนสีเขียว ใช้งานดีไซน์เข้ามาทำให้เป็นประโยชน์ด้วยการจัดเป็น Playground ขนาดใหญ่ โดยความตั้งใจคือต้องการให้เด็กๆ ได้ออกมาใช้ชีวิตสัมผัสเรียนรู้อยู่กับธรรมชาตินอกบ้านบ้าง มีสนามเด็กเล่นกลางแจ้ง มีแทมโบลีน มีของเล่นสำหรับเด็กจัดเตรียมไว้ให้ นอกจากนี้ได้ติดตั้งพื้นเป็นยางกันกระแทกเพื่อป้องกันอันตราย 
ท่ามกลางบรรยากาศของสวนและต้นไม้สีเขียวน้อยใหญ่ เชื่อมต่อกับสนามหญ้าด้านโครงการ กลายเป็นพื้นที่เปิดโล่ง โดยเน้นให้ทุกคนในครอบครัวได้ทำกิจกรรมตามความสนใจ กระตุ้นให้สมาชิกได้ใช้เวลาร่วมกันและชวนกันออกไปรับวิตามินดีในวันที่อากาศเป็นใจ อาจจะชวนกันมาโยคะในสวนตอนเช้าๆ เราก็มีเวลาเหลือเฟือเพราะบ้านเราอยู่ใกล้ทางด่วน ทำให้สะดวกต่อการเดินทางใช้เวลาไม่นานหรือจะมาวิ่งจ็อกกิงออกกำลังในช่วงเย็นหลังเลิกงานก็ได้เช่นกัน 
อีกจุดที่น่าสนใจและการมองว่าเป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่คือการออกแบบให้มีพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงเป็น Pets Area โดยติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเล่นสนุกของน้องหมา น้องแมว พื้นที่สำหรับขับถ่าย ยังมีลานซักล้างพร้อม ก็อกน้ำให้เราได้ทำความสะอาดสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ต่างๆ ในกรณีที่ต้องการด้วย และยังช่วยเรื่องการดูแลความสะอาดของน้องๆ เพื่อให้ลูกบ้านช่วยกันรักษาความสะอาดของพื้นที่ไปได้อีกทาง 
ด้านหน้าเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือความยาวประมาณ 20 เมตรถือว่ามีขนาดใหญ่ แยกโซน Jacuzzi พร้อมโซนเด็กไว้เป็นสัดส่วน ยอมรับเลยว่าเป็นสระว่ายน้ำที่ดีไซน์สวยมากเพราะไม่ได้เป็นแค่สระสี่เหลี่ยมผืนผ้าทั่วไป แต่ออกแบบให้มีเลเยอร์ของสระที่ต้องมองจากมุมสูงมาถึงจะเห็นได้ชัด โดยเฉพาะดีเทลของพื้นสระลายตัดให้สัมผัสถึงสระที่ดูวินเทจคลาสสิค ส่วนตัวกานต์ชอบดีไซน์ของร่มมาก เคยเห็นบ่อยๆ ในโรงแรมริมทะเลแถบฝรั่งเศสตอนใต้ เป็นดีเทลที่ให้ Vibes ได้ดีมากเลยครับ 
สระว่ายน้ำแบ่งพื้นที่ทั้งในร่มและกึ่งกลางแจ้ง สำหรับว่ายออกกำลังกาย หรือพักผ่อนในวันสบายๆ บริเวณขอบสระด้านนอกจะปลูกไม้พุ่มเอาไว้เป็นแนวยาวเพื่อความร่มรื่นและช่วยบังสายตา เพิ่มความเป็นส่วนตัวขณะออกกำลังกาย 
บริเวณโดยรอบสระว่ายน้ำ มี Daybed สีเทาและชุดเก้าอี้จัดวางกระจายออกไปในบรรยากาศแบบ Outdoor Terrace ให้เราพักผ่อนริมสระราวกับพักอยู่ในรีสอร์ตหรู สามารถใช้เป็นพื้นที่ในการนั่งอ่านหนังสือหรือนอนพักผ่อนริมสระสบายๆ ไม่จำเป็นต้องว่ายน้ำก็มาเล่นที่นี่ได้ มองออกไปจะเห็นสนามหญ้าสีเขียวขนาดใหญ่ตัดกับสีฟ้าของน้ำในสระทำให้รู้สึกผ่อนคลายดี 
เราสามารถมาใช้งานได้ตลอดทั้งวัน เพราะในตอนเช้าเราจะได้สัมผัสแดดอ่อนๆ แต่หากมาว่ายน้ำช่วงเย็นๆ ก็ถือว่าเป็นเวลาดีในการออกกำลังกาย บริเวณสระว่ายน้ำจะร่มรื่น เพราะมีอาคารช่วยบังแดดเอาไว้นั่นเองครับ ส่วนด้านในจะมีจุดล้างตัว รวมถึงห้องน้ำแยกชายและหญิง มีตู้ล็อกเกอร์กับห้องอาบน้ำ สำหรับผู้ที่มาใช้บริการสระว่ายน้ำ 
พาเดินเข้ามาชมด้านในของ Clubhouse กันบ้างครับ ออกแบบโดยเน้นนำเสนอเรื่องราวความคลาสสิกและความสง่างามของงานสถาปัตยกรรมแบบ Georgian Architecture Style 
เห็นได้จากการปูพื้นด้วยกระเบื้องสีน้ำตาลอ่อน ประดับโคมไฟ Chandelier ขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้า ผนังประดับด้วยคิ้วบัว ราวจับบันไดเป็นโครงสร้างเหล็ก ดูโดดเด่นและชวนให้เดินเข้าไปด้านใน 
ภาพรวมเป็นการออกแบบมาสำหรับนั่งพักผ่อนสบายๆ อารมณ์เหมือนอยู่ใน Lobby Lounge ของวิลล่าหรูฝั่งยุโรป บรรยากาศโปร่งสบายด้วยโถงสูงแบบ Double Volume ทำให้นั่งได้อย่างสบายใจ 
โครงการจัดวางชุดโซฟาดีไซน์ฟรีฟอร์มสำหรับนั่งพักผ่อนเอาไว้ให้กระจายกันไปในหลายจุด สามารถชวนเพื่อนนั่งเม้าท์มอยกันเพลินๆ ก็ได้ มีบางมุมที่ดูแล้วค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า ซึ่งก็จะเหมาะสำหรับคนที่นัดหมายแขกจากภายนอกให้มาพูดคุยธุระสำคัญกันที่นี่ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปคุยกันในบ้าน ทั้งยังจัดให้มีพื้นที่จอดรถเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มาเยือน 
อีกหนึ่งไฮไลท์ของการออกแบบที่ชอบคือโถงบันไดโค้งเพื่อขึ้นไปชั้น 2 ออกแบบให้มีความย้อนยุคดูเรียบหรู 
การออกแบบเน้นความสูงโปร่งของภายในห้องสูงโปร่ง ประดับประดาฝ้าเพดานด้วยโคมไฟ Chandelier ที่แขวนไว้ดูโดดเด่นตั้งแต่บริเวณชั้นล่าง เมื่อเรานั่งพักผ่อนอยู่บริเวณชั้น 2 ของ Clubhouse ก็จะยังรู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับพื้นที่ชั้นล่าง 
นอกจากนี้ ยังจัดให้มี Meeting Room อยู่ถัดเข้าไปด้านใน เป็นห้องส่วนตัวสำหรับจัดเจรจาธุรกิจ หรือจัดประชุมแขกคนสำคัญได้ จัดวางชุดเก้าอี้พร้อมโต๊ะประชุมขนาด 8-10 ที่นั่ง ติดตั้งอุปกรณ์เอาไว้รองรับการประชุม ให้ความเป็นส่วนตัวและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นครับ 
ติดกันเป็นฟิตเนสขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายสุดไฮเทคที่จะมอบประสบการณ์เหนือระดับกับการออกกำลังกายในแบบ Luxury ให้กับเรา ภายในจัดวางไว้ให้ครบทั้งลู่วิ่งคาร์ดิโอไว้ริมหน้าต่างให้เราออกกำลังกายไปพร้อมกับการชมวิวสีเขียวของต้นไม้ช่วยให้พอคลายเหนื่อยได้ พร้อมกับจัดให้มีโซนฟรีเวทให้เราออกกำลังเพื่อสุขภาพได้ตามใจ 
จากพื้นที่ส่วนกลาง เรามาชมบ้านตัวอย่างกันบ้างครับ โครงการวางผังบ้านส่วนใหญ่หันหน้าบ้านไปทางทิศเหนือ–ใต้ ทำให้ทิศทางลมไหลเวียนดี แบบบ้านในโครงการเศรษฐสิริ งามวงศ์วาน มีด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่

Lawrence บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 247 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องรับแขก / 1 ห้องครัว / 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน
Austen บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร / 1 ห้องครัว / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
Masefield บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 98.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 390 ตร.ม.– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร / 1 ห้องครัว / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน ซึ่ง Masefield เป็นแบบบ้านที่กานต์พามาชมกันในพาร์ทนี้

โครงการออกแบบ Exterior Design เป็นสไตล์จอร์เจียนเลือกใช้โทนสีน้ำตาลอ่อน สีครีมและสีเทา Hip Roof หลังคาทรงปั้นหยา ให้ความสำคัญของพื้นที่กว้างขวาง มีความ Grand ของ Space และตัวอาคาร ด้านหน้ามีเสาทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่ทำให้ดูโอ่อ่า ทางเข้าประดับด้วย Column มีลักษณะเป็น Arches Window กระจกหน้าต่างทรงโค้งบานสูง รับแสงธรรมชาติและเชื่อมต่อ Double Volume ภายใน

ที่กานต์ชอบเลยก็คือเป็นบ้านที่มีขนาดที่ดินผืนใหญ่ หาได้ยากในทำเลนี้ มีการออกแบบให้ใช้สอยได้เต็มพื้นที่เพราะหัวใจหลักของโครงการคือเป็นบ้านหลังใหญ่ที่ออกแบบสวยสไตล์คลาสสิค เน้น Space + Function การอยู่อาศัยที่สบาย มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ เปิดรับวิวสีเขียวโดยรอบบ้านผ่านผนังกระจกใสเพราะทำให้ได้เราสัมผัสกับบริบทของธรรมชาติแวดล้อมขณะพักอาศัยได้อย่างเต็มที่
รั้วทางเข้าบ้านเป็นประตูเหล็กรางเลื่อนซึ่งโครงการได้เตรียมพื้นที่สำหรับติดตั้งมอเตอร์ทำเป็นรางเลื่อนไฟฟ้าไว้ให้แล้วด้วยครับ ทั้งยังได้วางระบบ Wallbox ในการติดตั้ง EV Charger เป็นระบบไฟฟ้า 3 เฟสเพื่อรองรับสำหรับบ้านไหนที่มีรถยนต์ไฟฟ้า มีตู้เก็บของขนาดใหญ่ที่ไม่จำเป็นต้องนำเข้าไปในบ้านเช่นถุงกอล์ฟ จักรยาน ก็สามารถนำมาเก็บไว้ที่โรงจอดรถได้ พื้นที่จอดรถใต้ชายคาลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้านมาให้แล้ว ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการทรุดตัว สามารถจอดรถได้ 3 คัน เป็นบ้านที่กานต์ว่าเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่อยู่กัน 3 Generations หรืออาจจะปรับเปลี่ยนฟังก์ชันภายในให้เหมาะสมกับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของสมาชิกภายในบ้านก็ได้เช่นกันครับ
ประตูทางเข้าบ้านดีไซน์เป็นซุ้มประตูโค้งทรง Arch ประดับด้วยกระจกใสจากพื้นจรดชั้นบน ทำให้บ้านดูโปร่ง ถ้าสังเกตให้ดีจะพบรายละเอียดในการออกแบบที่น่าสนใจและแตกต่างจากบ้านโครงการอื่นทั่วไป คือบ้านของที่นี่จะรายล้อมภายในบ้านด้วยกระจก ทำให้เปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ และออกแบบให้มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของสมาชิกแต่ละคนในบ้าน
บ้านตัวอย่างดีไซน์ฟังก์ชันสำหรับพักผ่อนเอาไว้ทั้ง 2 จุด เพื่อจะได้เป็นไอเดียในการออกแบบให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ด้านขวาเป็นห้องรับแขกขนาดใหญ่จัดวางชุดโซฟาสีเทาควันบุหรี่เอาไว้เพื่อคุมโทนการตกแต่งไม่ให้มีสีสันที่ฉูดฉาดจนเกินไป จัดวางไว้ริมหน้าต่าง มองออกไปจะเห็นวิวสวนสีเขียวรอบบ้าน ส่วนด้านในออกแบบเป็นเลาจน์ สำหรับนั่งจิบเบาๆ ก่อนเริ่มมื้ออาหาร
โครงการเศรษฐสิริ งามวงศ์วาน นอกจากจะโดดเด่นเรื่องการออกแบบที่งดงามและหรูหราแล้ว แสนสิริยังให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ด้วยแนวคิด Green Living Designed Home โครงการนี้มีการออกแบบที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ โดยบ้านทุกหลังมาพร้อมกับนวัตกรรมที่รองรับพลังงานสะอาด เช่น ระบบที่จัดเตรียมให้เพื่อรองรับ EV Charger สำหรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า สะท้อนถึงความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ในโครงการยังติดตั้ง Solar Panels ที่ช่วยลดการใช้พลังงานและเพิ่มความประหยัดในระยะยาว

หนึ่งในจุดเด่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของโครงการคือระบบบ้านปลอดฝุ่น Dust-Free House ที่มีการติดตั้งเครื่องกรองอากาศในบ้านทุกหลัง ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้บริสุทธิ์และสดชื่นอยู่เสมอ โดยสามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้มากกว่า 90% และฝุ่นที่เล็กกว่า PM 1 ได้ไม่น้อยกว่า 75% นอกจากนี้ยังช่วยลดสารก่อภูมิแพ้และกลิ่นอับ รวมถึงสามารถฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งตอบโจทย์ปัญหาฝุ่นที่เป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบันได้อย่างครบถ้วน ทำให้บ้านในโครงการนี้ไม่เพียงแค่น่าอยู่ แต่ยังปลอดภัยสำหรับสุขภาพของทุกคนในครอบครัว

โครงการยังได้ติดตั้ง Magnetic Sensor เอาไว้ให้ ซึ่งจะมี Home Panel เป็นจอควบคุมระบบ Smart Home ติดตั้งไว้ให้ด้วยพร้อม Motion Sensor บริเวณชั้น 1 ตรวจจับบริเวณ Living Area และชั้น 2 ติดตั้งไว้บริเวณ Family Area
ส่วน Arrival Hall ด้านหน้าริมบันไดจัดวางโซฟาเบดสำหรับนั่งสวม-ถอดรองเท้า นั่งรอสมาชิกท่านอื่นที่กำลังแต่งตัวเสร็จแล้วเดินลงมาและแบ่งพื้นที่ด้านในสำหรับ Built-in ตู้เก็บรองเท้าเอาไว้ให้อย่างเป็นสัดส่วน

ตรงกลางบ้านเป็นโถงต้อนรับเพดาน ที่สูงแบบ Double Volume ความสูง 6.5 เมตร จากพื้นชั้นล่างจรดเพดานชั้นบน ทำให้รู้สึกโล่งโปร่งสบายทันทีที่กลับมาถึงแล้วเปิดประตูเข้าสู่ภายในบ้าน มองเข้าไปจะเห็นการเชื่อมต่อของบ้านทั้ง 2 ชั้นและด้านข้างของชั้นบนจะเป็นโถงทางเดินชั้นบนและมีพื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัวทำให้เรามองเห็นความเคลื่อนไหวชั้นล่างได้ตลอดเวลา เผื่อที่ว่ามีแขกมาบ้านก็จะไม่รบกวนการใช้พื้นที่ซึ่งกันและกันและยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่อีกด้วย

โถงบันไดสูงโปร่งประดับด้วยโคมไฟระย้าคริสตัลทองอร่าม ทอแสงอ่อนโยนจากเพดานสูง สร้างบรรยากาศที่สง่างามแต่แสนอบอุ่น ราวบันไดเหล็กดัดสีดำดีไซน์ทันสมัยตัดกับขั้นบันไดไม้สีอ่อน สะท้อนรสนิยมอันเหนือระดับของเจ้าของบ้าน เป็นภาพที่กานต์ประทับใจมาก
ส่วนตัวชอบมุมที่นั่งริมหน้าต่างมาก ให้ความรู้สึกถึงการพักผ่อนที่สบายๆ ได้ใช้เวลาร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว บรรยากาศภายในบ้านสะท้อนภาพความสงบและความอบอุ่นในทุกมุมมอง ภาพในห้องรับแขกดูโปร่งโล่งด้วยผนังกระจกบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ เมื่อมองออกไปข้างนอกเห็นถึงความสดชื่นของธรรมชาติสีเขียวซึ่งเข้ามาผสมผสานกับการตกแต่งภายในอย่างลงตัว
ขณะที่ช่วงเวลาฝนตกก็ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูโรแมนติกและผ่อนคลาย แสงไฟอ่อนๆ การจัดวางโซฟาและเก้าอี้ที่เรียบง่ายแต่มีสไตล์ ล้วนแล้วแต่ส่งเสริมให้บรรยากาศภายในบ้านเต็มไปด้วยความสงบเงียบและความสบาย ทำให้เราสามารถผ่อนคลายและดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งความสงบสุขได้แม้ในวันที่ฝนพรำ เสียงสายฝนที่กระทบหน้าต่างกระจกช่วยสร้างสุนทรีย์ในการพักอาศัย ได้นั่งจิบชาอุ่นๆ ในบ้านที่เงียบสงบ ช่วงเวลานี้เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนบนโซฟานุ่มสบายๆ อ่านหนังสือเล่มโปรดอย่างไม่เร่งรีบ ให้ทั้งวันมีแต่ความสุขและความอบอุ่น
ส่วนด้านนอกจัดวางเก้าอี้กลางแจ้งเอาไว้ให้เราได้ออกมานั่งเล่น อ่านหนังสือพิมพ์จิบกาแฟยามเช้าในช่วงเวลาที่อากาศสบายๆ โดยเฉพาะในฤดูหนาวแบบนี้ได้ฟีลลิ่งของบ้านสไตล์ยุโรปดีมากๆ เลยครับ
ชั้นล่างออกแบบมาให้รองรับการใช้งานในอนาคตเรียบร้อยแล้ว จะปรับเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุเพื่อรองรับครอบครัวที่อยู่กัน 3 เจนเนอเรชั่น ก็ถือว่าสะดวกมากเพราะไม่ต้องขึ้นลงบันได ภายในห้องมีขนาดใหญ่สามารถวางเตียงควีนไซซ์ได้สบายๆ สามารถวางชุดเก้าอี้ไว้นั่งเล่นที่ปลายเตียงได้ ส่วนด้านในเป็นมุมแต่งตัวแถมยังมีห้องน้ำในตัวแยกโซนแห้งและเปียกเอาไว้ให้ แต่ที่เรามองว่าทางโครงการวางแผนเผื่อมาไว้แล้วก็คือ ประตูกระจกขนาดใหญ่บริเวณด้านข้างบ้าน สามารถเปิดออกไปชมสวนได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้สูงอายุที่ชอบตื่นเช้า
ขณะเดียวกันห้องนี้ยังสามารถปรับฟังก์ชันให้เป็นห้องทำงานก็ได้ ด้วยความที่ห้องมีพื้นที่กำลังดี เอื้อต่อการใช้งานจริงได้หลากหลาย และทำเลที่ตั้งอยู่ด้านในพร้อมพื้นที่ด้านข้างทำให้ได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบจากพื้นที่ Common Area ด้านนอก ถ้าเป็นบ้านของกานต์ซึ่งตอนนี้ปรับมาทำธุรกิจส่วนตัวที่บ้านเหมือนกับอีกหลายคน ก็สามารถเปลี่ยนห้องนี้ให้เป็น office from home ได้เลยครับ นับว่ามีประโยชน์มาก
พื้นที่ชั้นล่างภายในบ้านแสดงถึงการเชื่อมต่อกันของฟังก์ชันในโซนด้านในที่เป็นมุมรับประทานอาหารและสังสรรค์ บริเวณ Living Area จัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ ผนังด้านในจัดวางเตาผิงและสมาร์ททีวีขนาดใหญ่ได้สบายเลยครับเพราะมีระยะห่างที่กว้างเพียงพอต่อการรับชม ฟีลลิ่งค่อนข้างสบายๆ ไม่อึดอัด กอปรกับผนังกระจกบานใหญ่ที่เปิดรับวิวสวนสีเขียวด้านข้างบ้านดูสดชื่นดีมาก เราชอบเวลาที่มีแสงแดดส่องเข้ามาภายใน ส่งผลทำให้มุมนี้ดูอบอุ่น กว้างขวางและโปร่งสบาย จัดวางโซฟาเลาจน์เอาไว้นั่งจิบเครื่องดื่ม ฟังเพลงก่อนที่เราจะไปทานอาหารมื้อหลัก
มุมโต๊ะรับประทานอาหารจัดไว้ 8 ที่นั่ง แต่กานต์ว่าเรามีขนาดพื้นที่มากเพียงพอที่จะติดตั้งโต๊ะขนาดใหญ่ได้ถึง 10-12 ที่นั่งกันเลยทีเดียวครับ มีมุมนั่งเล่นสำหรับจัดเตรียมเสิร์ฟเครื่องดื่มเอาไว้ โซนนี้สามารถใช้เป็นพื้นที่สำหรับรับรองแขก สำหรับนั่งจิบเบาๆ พูดคุยกันในบรรยากาศสบายๆ เป็นพรีดินเนอร์ก่อนเริ่มมื้ออาหารจริงเนื่องจากอยู่ติดกับ Dining Area ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่จัดเตรียมอาหาร สามารถออกแบบให้เป็นเคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ พร้อมตู้เก็บไวน์สวยๆ ตั้งโชว์ได้ด้วย และจัดเป็นมุมสังสรรค์ที่เชื่อมต่อกับโต๊ะรับประทานอาหาร เอาไว้จัดปาร์ตี้กันเล็กๆ ภายในบ้านกับเพื่อนๆ หรือสมาชิกในครอบครัวได้

บรรยากาศระหว่างมื้อสามารถเพลินเพลินกับอาหารอร่อยบนโต๊ะไปพร้อมกับการชมวิวสวนสีเขียวภายนอก เราสามารถเปิดประตูกระจกออกเพื่อเชื่อมต่อความสุขจากภายในสู่ภายนอกระหว่างที่จัดบาร์บีคิวปาร์ตี้ได้ด้วยครับเพราะด้านหลังบ้านยังมีพื้นที่เหลือเฟือ เราสามารถทำกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัวหรือชวนเพื่อนสนิทมาทานข้าวสังสรรค์ที่บ้านได้สบายเลยครับ
มี Pantry ที่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีให้กับเจ้าบ้านและแขกหรือแม้แต่คนในครอบครัวด้วยกันเอง เป็นการออกแบบที่เป็นไปตามคอนเซปต์โครงการที่อยากจะเชื่อมต่อทุกคนภายในบ้านเข้าไว้ด้วยกันให้บ้านเสมือนเป็นสถานที่ของทุกคน
ติดกันเป็นประตูเล็กเชื่อมต่อกับลานจอดรถออกแบบเป็นทางลาดขนาด 1 เมตร ข้อดีก็คือเราสามารถตรงเข้าบ้านผ่านทางนี้ได้เลย หรือจะใช้เป็นเส้นทางสำหรับวีลแชร์และรถเข็นก็ได้ นับว่าสะดวกมากหากใครแวะซื้อของช้อปปิ้งจากซุปเปอร์มาร์เก็ตมาก็สามารถนำมาเก็บไว้ในครัวได้ทันที

ชั้นล่างจะมีห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับแขกและสมาชิกในบ้านใช้งานร่วมกันเป็นห้องน้ำแบบไม่มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำแต่ได้ติดตั้งทั้งสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติพร้อมอ่างล้างมือเอาไว้ให้แล้ว
ด้านในสุดเป็นครัวไทยมีประตูปิดเพื่อป้องกันกลิ่น ทางโครงการจัดวางเคาน์เตอร์เป็นรูปตัวยูมาให้เรียบร้อยแล้ว พร้อมติดตั้งเตาแก๊ส, เตาไฟฟ้าและที่ดูดควันจากแบรนด์ Teka เข้าอยู่แล้วก็สามารถใช้งานได้เลย

ครัวมีขนาดใหญ่พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้าง สามารถแยกฟังก์ชันการทำงานของแม่บ้านในเวลาเดียวกัน เช่น ทำกับข้าวไว้บนเตาและใช้งานบริเวณอ่างล้างจานได้โดยที่ไม่กระทบซึ่งกันและกัน ออกแบบให้มีตู้เก็บของบน-ล่างเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนด้านหลังเป็นพื้นที่ทำงานของแม่บ้านและลานซักล้าง โดยทางโครงการได้เดินงานระบบไฟฟ้า ประปา แยกท่อน้ำดีน้ำทิ้งมาให้เรียบร้อยแล้วครับ จะได้ลดความยุ่งยากให้กับลูกบ้าน มาพร้อมห้องนอนแม่บ้านและห้องน้ำในตัว 
เมื่อขึ้นมาถึงชั้นบนจะเป็นโถงทางเดินกว้างๆ ที่เชื่อมต่อห้องนอนทุกห้องเข้าไว้ด้วยกัน พื้นชั้น 2 เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 12 มม. แข็งแรงทนทานดี มีราวกั้นแบบเปิดโล่งมองเห็นโถงชั้นล่างทำให้บ้านดูโปร่ง สามารถรับแสงผ่านกระจกใสจากโถงหน้าบ้าน ช่วยให้ชั้นบนดูสว่างมากและยังมองเห็นความเคลื่อนไหวจากประตูใหญ่หน้าบ้านได้ ชั้นบนเป็น Family Area ออกแบบมาโดยคำนึงถึงการปรับใช้งานมุมนี้ให้ได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์และความต้องการของสมาชิกในครอบครัว สามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวีก็ได้ แนะนำให้เลือกสมาร์ททีวีจอใหญ่ๆ ทำเป็นโฮมเธียเตอร์เอาไว้ดูหนังพร้อมกันทั้งครอบครัวได้เลยครับ จะเอาไว้ทำเป็นออฟฟิศ ห้องทำงาน อ่านหนังสือหรือ Work From Home ก็ได้ นับเป็นบ้านที่ออกแบบมาให้รู้สึกผ่อนคลายได้ดีมาก 
ที่สำคัญนอกจากออกแบบฟังก์ชันการใช้สอยภายในบ้านแล้ว เรื่องงานดีไซน์ก็ยังต้องให้น้ำหนัก สถาปนิกใช้หลักการออกแบบที่เติมเต็มสุนทรียะในการพักผ่อนเข้ามาประกอบราวกับได้ใช้ชีวิตอยู่ในรีสอร์ตหรูหราแถบยุโรป ดังนั้น จึงออกแบบให้มีระเบียงขนาดใหญ่เพื่อการพักผ่อนรับลมชมสวนสีเขียวฝั่งด้านหน้าบ้าน มองออกไปเห็นสโมสรส่วนกลาง ทั้งยังช่วยในการเปิดรับแสงจากภายนอกทำให้บ้านดูสว่าง ไม่ต้องเปิดไฟ สามารถประหยัดพลังงานในช่วงเวลากลางวันได้ 
ห้องนอนรองจะอยู่ตรงกับ Family Area บ้านตัวอย่างปรับฟังก์ชันใหม่เอาไว้ให้ดูเป็นไอเดีย แต่กลับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของบ้านที่กานต์ประทับใจ เพราะออกแบบมาให้เป็นพื้นที่สำหรับสมาชิกในครอบครัวให้ได้พักผ่อนในบรรยากาศสบายๆ และทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว 
เราสามารถปรับฟังก์ชันใหม่ให้กลายเป็นห้องทำงาน ห้องดูหนัง ฟังเพลง แคสเกม หรือเป็นสตูดิโอสำหรับไลฟ์ขายของก็ได้ครับ เรียกได้ว่าเป็นห้องที่ให้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง สามารถติดตั้งผ้าม่านทึบแสงหากต้องการความมืดหรือเปิดออกได้เพื่อรับแสง เพราะมีช่องแสงจากทางหน้าต่างด้านหลังส่องผ่านกระจกบานใหญ่ 
ด้านในยังแยกเป็นมุมชั้นวางหนังสือเหมือนห้องสมุดภายในบ้าน ให้บรรยากาศแบบส่วนตัว สำหรับนั่งอ่านหนังสือพักผ่อนในวันสบายๆ 
ด้านในสุดมีห้องน้ำในตัวครับ สามารถปรับกลับมาเป็นห้องนอนได้ 
Master Bedroom อีกห้องนอนที่มีขนาดใหญ่สุด ขนานไปกับความลึกของบ้านด้านขวาเลยครับ ห้องนอนหลักสามารถจัดแบ่งพื้นที่การใช้งานภายในห้องได้อย่างเป็นสัดส่วน ทั้งมุมพักผ่อนจัดวางเตียงนอนไว้ตรงกลาง ปลายเตียงจัดวางชุดโซฟาดีไซน์เรียบง่าย สำหรับเอาไว้นั่งอ่านหนังสือจะได้มีเวลาส่วนตัวภายในพื้นที่ของเราเอง ริมผนังติดตั้งตู้คาร์บิเนททรงเตี้ยสำหรับวางทีวี เพื่อให้นอนดูได้จากบนเตียงเลยครับ 
กานต์ชอบห้องนี้เพราะผนังรอบบ้านเป็นกระจก บางจุดก็เปิดช่องรับแสงเอาไว้ ทำให้ห้องนี้เต็มไปด้วยหน้าต่างบานใหญ่ เปิดช่องแสงธรรมชาติด้านหน้าบ้านส่องผ่านเข้ามาสู่เตียงนอนได้ทันที ในเวลากลางวันได้เราแทบไม่ต้องเปิดไฟ ห้องนี้จึงดูโปร่งโล่งอยู่สบายไม่รู้สึกอึดอัด

ทั้งยังเปิดออกเพื่อระบายอากาศ มีระเบียงขนาดใหญ่ที่ขนานไปกับห้องนอน สามารถเปิดรับลมเย็นๆ ที่พัดผ่านเข้ามาภายในได้ แนะนำให้หาเก้าอี้หวายดีไซน์สวยเอาไว้นั่งตรงระเบียง สำหรับจิบกาแฟหลังตื่นนอนตอนเช้าก็ได้เช่นกัน มุมจากระเบียงสามารถเห็นสวนหน้าบ้านได้อย่างชัดเจน ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวและสร้างบรรยากาศที่สดชื่นเวลามาใช้งานส่วนระเบียง 
ด้านในเป็นทางเดินไปยังห้องแต่งตัวและห้องน้ำ มีโต๊ะเครื่องแป้งจัดวางเอาไว้ด้านหน้า ระหว่างโถงทางเดินออกแบบให้เป็นตู้เสื้อผ้าสูงจรดเพดานเรียงรายกันสามารถจุของได้เยอะมาก 
จากนั้นจะเป็นห้องน้ำที่อยู่ด้านในสุด ตกแต่งห้องน้ำได้เรียบหรูมาก อ่างล้างหน้ามีขนาดใหญ่สามารถใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้ มาพร้อมกับอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวขนาดใหญ่ติดตั้งเอาไว้ เปิดช่องหน้าต่างสำหรับใช้ระบายความอับชื้นในห้องน้ำได้ อีกฝั่งเป็นพื้นที่อาบน้ำติดตั้งฝักบัวให้ทั้งแบบ Hand shower และ Rain shower ส่วนโถสุขภัณฑ์ให้เป็นแบบอัตโนมัติ ใช้งานได้สะดวก 
ห้องนอนต่อมาจะอยู่ฝั่งซ้ายได้มุมด้านหน้าบ้านเช่นเดียวกัน ที่กานต์ประทับใจในห้องนี้เพราะผนังด้านหน้าบ้านเป็นกระจกทั้ง 2 ฝั่ง และยังเปิดช่องแสงธรรมชาติด้านหน้าบ้านส่องผ่านเข้ามาสู่เตียงนอนได้ทันที ให้เราเปิดมุมมองสู่ภายนอกได้กว้างกว่า ช่วยในการประหยัดพลังงาน ทั้งยังเปิดออกเพื่อระบายอากาศได้ ห้องนี้จึงดูโปร่ง โล่งอยู่สบายไม่รู้สึกอึดอัด ตามหลัก Natural Ventilation 
ฟังก์ชันการใช้งานภายในห้องแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง เตียงนอนจะอยู่ริมผนังไม่ตรงกับประตูเสียทีเดียว ทำให้ได้รับความเป็นส่วนตัว บ้านตัวอย่างตกแต่งในสไตล์พาสเทลที่ยังคงความคลาสสิควินเทจเอาไว้ การเลือกใช้คู่สีชมพูและเขียวอ่อน ทำให้ดูกลมกลืนและน่าอยู่มาก ปลายเตียงจัดวางเก้าอี้และโต๊ะทำงานพร้อมอาร์มแชร์ด้านข้าง ส่วนด้านในสุดเป็นมุมแต่งตัวพร้อมห้องน้ำในตัว 
ห้องนอนถัดมาจะอยู่ขนาดกับโซนด้านหลังบ้าน ตกแต่งในสไตล์เด็กๆ เน้นสีสันสดใส โดยเฉพาะการเลือกใช้สีเขียวอ่อนเข้ามาทำให้ห้องดูสดชื่น เหมาะแก่การพักผ่อน

กานต์ชอบงานดีไซน์ของเตียงนอนที่เชื่อมต่อกับมุมพักผ่อนในห้องแบบส่วนตัว ได้ไอเดียในการตกแต่งที่ดีมาก เพราะเด็กๆ สามารถเล่นซนบริเวณด้านล่างจากนั้นก็ขึ้นเตียงได้สบายเลยครับ 
ขนานกับช่วงเตียงนอนจะเป็นโต๊ะทำงานที่ออกแบบเป็นเหมือนเคาน์เตอร์ยาวติดผนัง ให้เด็กๆ ได้นั่งทำงานการบ้าน อ่านหนังสือหรือว่าดูไอแพดเพลินๆ ในช่วงเวลาหลังเลิกเรียน 
อย่างที่เราได้บอกไปว่าบ้านทุกหลังของโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน จะออกแบบห้องนอนให้เป็นแบบ En Suite Bedroom คือมีห้องน้ำส่วนตัวให้ทุกห้อง ซึ่งสำหรับห้องนอนรองห้องนี้ก็มีห้องน้ำในตัวเช่นกันอยู่ด้านในสุดเลยครับ 
#โดยสรุป โครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน เหมาะสำหรับคนที่มองหาบ้านหลังใหญ่ อยู่กันได้หลายเจนเนอเรชั่น มีพื้นที่สำหรับผู้สูงอายุ รองรับได้ทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการของสมาชิกในบ้าน พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ออกแบบมาตอบโจทย์ทั้งคนและสัตว์เลี้ยง และยังให้ความเป็นส่วนตัวสูงเพราะทั้งโครงการมีเพียง 48 ยูนิตเท่านั้น

ส่วนทำเลนั้นไม่ต้องพูดถึงครับ ถือว่าอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะเชื่อมต่อกับถนนหลายสายเข้าถึงถนนหลักได้ง่าย ใกล่้ทางด่วนเพียง 5 นาที และยังเป็นโซนที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคครบครัน เหมาะแก่การซื้ออยู่หรือลงทุนซื้อเก็บไว้ในอนาคตเพราะนับวันเราจะหาทำเลของโครงการบ้านที่ดีเช่นนี้ได้ยากแล้วครับ

เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน เริ่ม 18 – 40 ล้าน*
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม https://siri.ly/hiYa0WA 
KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน