ใครจะมาสมุยต้องไม่ลืมแวะ Salt Society นะ แหล่งแฮงค์เอ้าท์ใหม่ ต้องมาเช็คอิน อัพรูปลง IG … ก็ที่นี่มันจึ้งงงงงงงงงงงง
อยากบอกว่าไม่ควรพลาดหากใครมาเที่ยวสมุยครับ แม้ไม่ได้พักที่ Centara Reserve Samui ก็สามารถมาทานข้าว เช็คอินสวยๆ อัพรูปลง IG กันได้เลยครับ เพราะนอกจากอาหารจะอร่อย บรรยากาศดีแล้ว ยังถ่ายรูปออกมาสวยจึ้งสุดๆ ได้รูปปังๆ กลับบ้านกันทุกคน
Salt Society เป็น Beach Bar & Kitchen ร้านอาหารเปิดใหม่ที่ตกแต่งได้ว๊าวมาก มีทั้งส่วน Open Air โล่งๆ รับลมทะเลเย็นๆ หรือจะนั่งบนชายหาดก็ได้ แต่ถ้าใครกลัวร้อนก็มีห้องแอร์ด้วยกัน 4 ห้อง 4 ดีไซน์ให้เลือกนั่ง หรือจะปิดโซนจัดเป็นไพรเวทก็ได้ครับ วันที่ไปมีหลายกรุ๊ปมากเลย
ที่ Salt Society จะมีกิมมิคคือเสิร์ฟอาหารพร้อมเกลือที่มีด้วยกันถึง 12 ชนิด วัตถุดิบจะเน้นซีฟู๊ดผสมผสานเทคนิคการปรุงแบบเวสเทิร์น แต่ยังคงความสดของรสชาติอาหารทะเล กานต์ไปทานถึงสองมื้อด้วยกัน เนื่องจากพักในโรงแรมอยู่แล้วทำให้ได้บรรยากาศแตกต่างกันไป
ช่วงเย็น บรรยากาศจะสบายๆ รับลมทะเลและแสงแดดเบาๆ นั่งข้างนอกได้เลยครับไม่ร้อน สั่ง เครื่องดื่ทชื่อ Magic Gin เสิร์ฟมาในแก้วรูปหอยน่ารักมาก พอตอนค่ำห้องอาหารเปิดไฟคือสวยจริงจัง
แต่ถ้าใครอยากได้วิวปังๆ ต้องมานั่งทานตอนกลางวันครับ แสงแดดจะลอดผ่านไม้ไผ่ที่ประดับตกแต่งเอาไว้มากถึง 1,750 ลำ ดีไซน์ให้ล้อกับคลื่นทะเล ทำให้เกิดมิติและมุมมองใหม่ของรูป เมื่อถ่ายออกไปด้านนอกมองเห็นวิวทะเล รูปที่ออกมามันจึงดูเก๋ ดูจึ้งงงงง เหมาะกับการอัพลง IG ในทันทีตั้งแต่อาหารยังไม่ทันจะมาเสิร์ฟ
เราต้องได้รูป!! ท่องไว้ 555
เอาล่ะ ไปชมเรื่องราวผ่านภาพถ่ายที่กานต์กดชัตเตอร์มาฝากกันต่อด้านในเลยดีกว่าครับ
ภาพนี้เห็นแล้วสะกดให้จองมาพักที่ Centara Reserve Samui ทันที เพราะนอกจากโรงแรมจะสวยมากแล้ว ห้องอาหารยังแอบเก๋แอบเปรี้ยว เห็นเซเลปมาเช็คอินที่นี่กันเยอะมาก
พลาดไม่ได้ล้าวววว
ห้องอาหารจะอยู่ด้านขวาสุดของรีสอร์ตเลยครับ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวกว่า ตามสไตล์บีชบาร์นางจะเปิดเพลงทั้งวัน บรรยากาศมันจะชิลล์มาก
ห้องอาหาร Salt Society อยู่ติดทะเลเลยครับ มีทั้งแบบเปิดโล่งรับลม และมีห้องปรับอากาศไว้เป็นทางเลือกด้วยครับ
ทะเลสมุยช่วงนี้สวยมาก สะสมแต้มบุญมาดี ไม่มีฝนเลยสักวัน ท้องฟ้าสีสันสดใส เหมาะแก่การมาพักผ่อนสบายๆ
ภาพมุมสูงผมหยิบมาให้ดู นี่เป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม Centara Reserve Samui เท่านั้น ผมตัดมาเฉพาะส่วนที่เป็นโลเคชั่นของห้องอาหาร Salt Society อยู่มุมซ้ายล่างของภาพครับ
ชอบเทคนิคการตกแต่งโดยใช้แท่งไม้ไผ่ 1,750 ลำ มาทำเป็นเกลียวคลื่นล้อไปกับฟอร์มของคลื่นทะเล มันเก๋ดีมาก ด้านบนเปิดเป็นช่องแสงใสๆ เพื่อให้แดดส่องผ่านมาได้ ทำให้ได้ความแตกต่างกันทั้งกลางวันและกลางคืน
มื้อเย็นวันนี้เริ่มต้นที่อาหารเบาๆ เพื่อสุขภาพเป็น Baby Kale โรยเกลือตามคอนเซ็ปต์ จานนี้จับคู่กับ Smoked Salt ครับ
จานต่อมาเป็น ชีสบูราต้าสด ตามสไตล์อิตาเลี่ยนแท้ แต่ผมว่าทานง่ายกว่าที่เคย เสิร์ฟพร้อม เปเปโรนาต้า พิสตาชิโอ มะกอกคาลามาตา เปรี้ยวนิดๆ เพิ่มความสดชื่น จานนี้อร่อยมากครับ
จานนี้เป็น Wood-Fired Oven เมนูไก่ที่เชฟนำไปรมควัน กลิ่นหอมมาก เสิร์ฟพร้อมกับซอสลิ้นจี่น้ำผึ้ง ด้านล่างเป็นมะเขือม่วงที่เชฟเอาไป glazed กับมิโซะก่อน จะได้ความหอมและหวานออกมาจากมะเขือครับ
จานนี้เป็นปลากะพงแดงสดๆอุดมด้วยเครื่องเทศและสมุนไพร เชฟอบปลาได้สุกกำลังดีปลาจึงมีเนื้อฉ่ำไม่แห้ง ทานกับเครื่องเคียง 3 ชนิด คือ แตงกวาดอง ซอสอะโวคาโด หัวหอมสับ มาพร้อมกับแป้งตอติญ่า
ของหวานปิดท้ายมื้อแอบเก๋ Red kiss เป็นรูปริมฝีปากสีแดง ด้านในเป็นเนื้อมูสเค้กที่มีส่วนผสมของราสเบอรี่ เชอรี่ สตอเบอรี่ครับ
ทานกันในห้องส่วนตัวที่แต่ละห้องจะตกแต่งไม่เหมือนกัน ผมชอบห้องนี้ดูมินิมอลดี
อีกจุดที่คนชอบมาเช็คอินกัน คือหน้าห้องน้ำครับ
เพราะอะไรนะ!?!!
ระหว่างเข้าพักที่ Centara Reserve Samui ผมมานั่งเล่นที่ Salt Society บ่อยที่สุดละ สั่งเครื่องดื่มมาจิบริมทะเล เพลงคือดีมาก อารมณ์บีชบาร์เลยแหละ แต่ว่าฝากท้องมื้อหนักได้ด้วยเลย
ทะเลสมุยตอนกลางวันก็สวยไปอีกแบบ ช่วงที่ไปฟ้าใสหมดทุกวันเลย แดดดีมาก
ความเก๋ของ Salt Society คือ แต่ละช่วงเวลาจะให้ฟีลที่ต่างกันไป กลางวันก็จะสดใสด้วยแสงแดดที่ลอดผ่านไม้ไผ่เข้ามา กลายเป็นกราฟฟิคที่ดูสวยงามแปลกตา แต่พอตอนเย็นร้านเปิดไฟก็จะให้อารมณ์ Sexy นิดๆ
มื้อกลางวันเราก็ฝากท้องกันที่นี่อีก ชอบมาก ซีฟู๊ดคือสดจริง เริ่มมื้อด้วยจานแรกแบบเบาๆ เป็นสลัดทูน่า มีเดรสซิ่งเป็นแตงกวาผสมขิงโรยหน้าเพิ่มรสชาติได้ ด้วย Sumac Salt เป็นเครื่องเทศที่มีราคาแพงที่สุดในโลก
ส่วนตัวชอบจานนี้ที่สุด กุ้งลายเสือผัดกับเห็ดชิเมจิ และผักคะน้าใบหยิก อารมณ์เหมือนอาหารจีน กุ้งไซส์ใหญ่ให้เนื้อกรอบเด้งและหวานดี สั่งมาทานกับข้าวคืออร่อยมาก
จานนี้เชฟนำปลากระพงขาวไปย่างจนหนังกรอบ ราดด้วย ซัลซ่ามะม่วง และมีสลัด Radicchio วางประกอบอยู่ช่วยชูรสชาติเนื้อปลาได้ดีมาก ที่เห็นเป็นผงเขียวๆ โรยจานคือ Parsley ถ้าไม่สะใจมีเป็นขวดเล็กๆ มาให้โรยเพิ่มอีกครับ
ใครสายเนื้อเหมือนผม แนะนำให้สั่ง Veal Rack เป็นซี่โครงที่เชฟนำไปอบในหม้อก่อน เพื่อให้หอม จากนั้น จึงท๊อปด้วยผักและเห็ดโมเรล เสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งบด เข้ากันดีมากครับ
ของหวานก็ต้องมีอ่ะเนอะ จานแรกเป็นชูครีมช็อกโกแลต ทานคู่กับไอศกรีมวานิลลา จานนี้หวานฉ่ำมาก
ส่วนใครชอบเปรี้ยว ต้องสั่ง Citrus เป็นกรานิต้าเลม่อน ช่วยคลายร้อนสดชื่นดีมากครับ
ผมว่าเชฟ Christopher John Patzold ปรับรสชาติอาหารแต่ละจานให้มีความเป็นสากลดีมาก แต่ละเมนูอาจจะไม่ได้ปรุงจนดูซับซ้อนจนเกินไป เน้นทานง่าย นั่งทานได้ทั้งวัน ส่วนหนึ่งด้วยเพราะความสดของวัตถุดิบก็ทำให้ทุกจานอร่อยในตัวอยู่แล้ว
ใครมาสมุยแนะนำที่ Salt Society เลยครับ นั่งได้ยาวทั้งวันกับความเป็นบีชบาร์ มานั่งฟังเพลง สั่งเครื่องดื่มมาจิบ หิวก็สั่งอาหารมาทาน บรรยากาศสบายๆ ไม่ต้องพักที่ Centara Reserve Samui ก็มานั่งทานได้ มีประตูทางเข้าแยกออกไปสำหรับให้บริการแขกด้านนอกด้วยครับ
ไว้คราวหน้าจะไปลองซันเดย์ บรันช์ บ้าง เห็นเค้าลือกันว่ามันดีที่สุดในสมุย!!
สอบถามเพิ่มเติมและจองโต๊ะ โทร. 077-230 500
หรือ https://www.saltsocietysamui.com