SALA Samui Choengmon Beach Resort

🏝ศาลา สมุย หาดเชิงมน

สูงสุดคืนสู่สามัญ กับการค้นหาตัวตนแบรนด์ “ศาลา”

KΔNT The #COLLECTION107 x Sala Hospitality Group

.

.

มาถึงรีวิวตัวสุดท้ายของรีสอร์ตในเครือศาลากันแล้วครับ

สังเกตว่ากานต์เลือกเขียนรีวิวศาลาตัวใหม่ล่าสุดก่อน

คือ ศาลา สมุย เฉวง บีช SALA Samui Chaweng Beach Resort

เพราะอยากให้ภาพปัจจุบัน ย้อนตัวมันกลับไปสู่ตัวตน

ก่อนจะมาปิดท้าย คอลเลคชั่นรีสอร์ตในเครือศาลาทั้งหมด

ด้วย “ศาลา สมุย เชิงมน บีช” SALA Samui Choengmon Beach Resort

รีสอร์ตแห่งแรกของแบรนด์ศาลา

ภายใต้การบริหารของคุณทศ เจ้าของห้างเซ็นทรัล

อ่าน “ใครคือเจ้าของโรงแรมศาลา” https://www.facebook.com/286042824270/posts/10158526618364271/

.

ย้อนกลับไปสิบกว่าปีก่อน

“ศาลาสมุย” ถือว่าแปลกใหม่ในการใช้ดีไซน์เป็นตัวนำ

เพราะเจ้าของเป็นคนที่ชื่นชอบเรื่องศิลปะ

สนใจเรื่องการออกแบบ การลงดีเทลในงาน

ผมสังเกตว่าตามทางเดินของศาลา เชิงมน

จะมีรูปปั้นงานอาร์ตวางแทรกไว้ทุกจุด

มีสระว่ายน้ำตั้งอยู่หน้าหาด

ที่มองเห็นความงามของหาดเชิงมนที่ทอดยาว

ตกกลางคืนสระน้ำทำหน้าที่สปอร์ตไลท์

คอยสะท้อนความงามให้กับห้องอาหารที่อยู่ติดกัน

.

สถาปนิกออกแบบให้มีกลิ่นอายความเป็นไทย

ผสานกับความโมเดิร์นแบบตะวันตก

เน้นออกแบบสร้างจุดเด่น เป็นที่พักไฮเอนด์ที่กลมกลืนกับธรรมชาติ

มีงานปูนเข้ามาผสมไม้ มีความเป็นธรรมชาติที่รายล้อม

มีสีเขียวของต้นไม้เข้ามาตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเลและหาดทรายสีขาว

เล่าเรื่องผ่านเส้น สาย ลาย เสียง

ร้อยเรียงกันเป็นโรงแรมไทยมาตรฐานสากล

กอปรกับชื่อเสียงเรื่องการให้บริการระดับดีเยี่ยมที่นำไบเบิลแบบซิกส์เซนส์มาใช้

จนเป็นโรงแรมที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้การยอมรับ

.

จนถึงวันที่ผมไปเข้าพัก

ดีไซน์ต่างๆ ต้องยอมรับว่า ดูโอลด์สไตล์ ในสายตาคนไทย

แต่ยังสามารถสื่อสารอัตลักษณ์ของความเป็นไทยได้ดี

พูลวิลล่าที่เคยสร้างความฮือฮาเมื่อสิบกว่าปีก่อน

ตอนนี้กลายเป็นเรื่องเฉยๆ

“รีสอร์ตที่ไหนเขาก็มีกัน”

ดังนั้น หัวใจหลักของ ศาลา จึงไม่ใช่เรื่องของพร๊อพเพอร์ตี้

แต่เพียงอย่างเดียว

หัวใจของศาลา จึงเป็นนามธรรมที่เห็นชัดเป็นรูปธรรม

ที่ใครก็เลียนแบบใครได้ยาก

และก็อยากที่จะบอกเล่าได้เช่นกันครับ

ต้องชวนไปสัมผัสด้วยตัวเอง

.

แม้ แบรนด์ “ศาลา” ทุกแห่งจะมีดีไซน์ ที่แตกต่างกัน

แต่กลับสามารถดึงหัวใจหลักของคำว่า “ศาลา”

ออกมาสู่แขกที่มาเข้าพักได้

จนกลายเป็นการอรรถาธิบายตัวตนของแบรนด์ไปโดยปริยายครับ

.

นั่งสายการบิน Bangkok Airways ไปลงสมุย

แล้วตามเข้าไปดูรูปสวยๆ

ฟังกานต์เล่าเรื่องราวสนุก

กับ “ตัวตนของศาลา” แห่งแรกที่เชิงมน ด้วยกันด้านในสิครับ

ผมชอบคอมโพสต์ของรูปนี้สวยดี
หยิบมาทักทายกันครับ

SALA SAMUI CHOENGMON BEACH RESORT
10/9 Moo 5, Baan Plai Laem
Koh Samui, Suratthani 84320 Thailand

www.salachoengmon.com

RESERVATIONS
T : +66-77-245-888
F : +66-77-245-889
E : reservations@salachoengmon.com

ศาลาริมน้ำ เป็นมุมที่ผมมานั่งนอนเล่นบ่อยที่สุดเลยครับ เหมือนว่าจะเอาไว้ทำสปาด้วย แต่ตอนไม่มีแขกก็มานอนเล่นได้ ลมเย็นดี มีสระบัว ใกล้ทะเล เบื่อๆ ก็กระโดดน้ำเล่นในสระได้ครับ

ที่นี่กิจกรรมเยอะดี มีพายเรือด้วย แต่ฝนตก!!

จากสนามบินใช้เวลาไม่นานครับ ราวๆ 15 นาที ก็มาถึงที่ศาลาเชิงมน รับเวลคัมดริงก์เย็นๆ ชื่นใจ อากาศที่สมุยวันที่ไปค่อนข้างร้อน อาจจะเพราะฝนจะตกหรือเปล่า

บรรยากาศแวดล้อมที่เราเห็น ตอนเข้าพักครั้งแรก คือนี่เขาใหญ่หรือสมุย ต้นไม้เยอะมากครับ เขียวสบายตา ไปทั้งไหนก็มีน้ำ มีสระ มีบัว มีต้นไม้ เดินเท่าไรก็ไม่เจอทะเลสักที นึกว่ามาผิดที

อ๋อ .. ทะเลอยู่ด้านในสุดเลยครับ เป็นส่วนตัวมาก

เข้าวิลล่ามาก่อน ผมพักห้อง SALA Pool Villa ขนาดร้อยตารางเมตรนิดๆ ถือว่าใหญ่ เน้นพื้นที่เปิดโล่งด้านนอก ให้ได้พักผ่อนครับ มีศาลาริมสระ และเดย์เบดไว้ให้นอนรับวิตามินดี

ด้านในก็เป็นไปตามคอนเซปต์ของศาลา คือเตียงต้องใหญ่และหนานุ่ม นอนหลับให้สบายก่อน ตื่นมาค่อยว่ากัน ตื่นมาก็มีชา กาแฟ มีขนมทานเล่นมีผลไม้แห้งและสด อย่างมะม่วงสุก ไว้ให้ปอกเองด้วย

ห้องตกแต่งแบบเรียบง่าย คล้ายเรือนไทยประยุกต์ ผมว่าเก๋ดี หัวเตียงอาจจะดูเชยไปสักหน่อย เหมือนมานอนเล่นห้องคุณตา

ที่ชอบมากคือพื้นที่เปิดด้านข้างที่เป็นอ่างอาบน้ำ ห้องน้ำและสุขา เปิดโล่งทั้งวัน กั้นด้วยมุ้งบางๆ ตอนกลางคืน รู้สึกสัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติบำบัด

อีกมุมหนึ่งในวิลล่าที่ชอบ คือ ศาลาริมสระครับ ถ้าไม่ติดว่ายุงเยอะ ก็อยากจะมานั่งตรงนี้บ่อยๆ หยิบขนมติดไม้ติดมือ หรือว่าจะสั่งเครื่องดื่มจากบาร์มาก็ได้ครับ สบายๆ วันพักผ่อน

บรรยากาศก็อย่างที่เห็น ค่อนข้างโล่ง โปร่งสบายๆ เหมาะแก่การมา Leisure เปลี่ยนบรรยากาศเหมือนอยู่บ้านหลังที่สอง

อยากออกกำลังกายเบาๆ ก็กระโดดลงสระได้เลยครับ เรียกเหงื่อได้ดีพอสมควร

ห้องน้ำเป็นแบบโอเพ่น คือโล่งจริงๆ ถามว่าสุขภัณฑ์อยู่ตรงไหน หลังกระจกบานนั้น คือคำตอบครับ

ส่วน Amenity ที่นี่ก็เตรียมไว้ให้ครบครัน อยากได้กลิ่นอะไรสามารถเลือกได้จากพนักงานตอนเช็คอินครับ

ไม่ใช่แค่สุขาที่เปิดโล่ง ชาวเวอร์ก็ด้วยจ้า ด้านหลังกำแพงคือถนน ทางเดินไปสู่หาด แบบว่าวิลล่าติดถนนไรงี้ อาบน้ำไปเพลินๆ ไม่มีคนมาดูหรอก เพราะวิลลาที่นี่ชั้นเดียวเท่ากัน

ส่วนอางอาบน้ำก็เปิดโล่งเช่นกันครับ เหมาะแก่การจิบอะไรเย็นๆ เบาๆ เคล้ากับฟองนุ่มๆ ขาวๆ นวลๆ สบายใจดีครับ

เดินจากวิลล่ามาไม่กี่สิบก้าว ก็จะเจอกับสระว่ายน้ำสีดำ ตรงนี้ค่อนข้างลึกและยาว ว่ายออกกำลังกายได้สบายๆ

ขอถ่ายภาพปกอัลบั้มไว้หน่อยนะครับ กานต์พันธุ์ดุ แข่งกับนิโคล

ริมสระเป็นบ่อบัวและมีศาลาให้นอนรับลมทะเลเย็นๆ

อยากดื่มอะไร ตะโกน!! เอ๊ยย เรียกพนักงานจากบีชบาร์มารับออเดอร์ได้เลยครับ อยู่ติดกัน

ถัดมาเป็นสระสีขาว หันหน้าเข้าหาชายหาดและหันข้างให้กับห้องอาหารซึ่งเราจะทานดินเนอร์กันที่นี่ครับ

เป็นห้องอาหารริมทะเลที่คลาสสิคมาก ด้วยการตกแต่งที่เรียบง่าย ออกแบบให้มีแสงไฟสีส้มนวล ตัดกับสีฟ้าของไฟจากสระน้ำ ทำให้ดูมีมิติมากขึ้น

โต๊ะอาหารมีจำนวนเยอะพอประมาณ แขกที่มาทานส่วนมากเป็นต่างชาติครับ

มีของทะเลกริลล์ให้ทานกันสดๆ ริมหาดเลยครับ

คืนนี้จัดเต็มมากๆ เป็นไลน์บุฟเฟต์อาหารทะเล

นอกจากนี้ยังมีแบบ à la carte ให้เลือกด้วยนะครับ แนะนำให้สั่งอาหารไทยเพราะที่นี่ทำรสชาตได้จัดจ้านครบเครื่องมากครับ

เข้าวิลล่า ก็จัดการลงอะไรร้อนๆ มาทานก่อนจะนั่งเคลียร์งานรอบสุดท้ายก่อนนอน ผมชอบการพักผ่อนแบบนี้ งานก็ไม่เสีย สามารถทำต่อได้ทุกที่ แก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที แถมยังได้เที่ยวด้วย

แม่บ้านมาเทิร์นดาวน์เตรียมที่นอนไว้ให้เรียบร้อย ด้านนอกเอามุ้งลงและจุดยากันยุงเพิ่มให้ คืนนี้อากาศดีครับ เย็นสบายเพราะตอนหัวค่ำฝนตกไปแล้ว

ตื่นเช้ามา ติดตามข่าวสารกันหน่อย เกิดเป็น “คนข่าว” ยังไงก็ต้องเสพข่าวอ่ะนะ แม้จะมาพักผ่อนก็เถอะ มันเป็นความเคยชิน แต่ไม่ต้องไปอินกับข่าวให้มันมากนัก

ไปเดินเล่นริมทะเล ดูบรรยากาศกันสักหน่อย เห็นเรือน้อยใหญ่เตรียมให้บริการกันแล้ว

ออกกำลังกายตอนเช้าๆ ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำเยอะนะครับ โยคะ ฟิตเนส พายเรือ ว่ายน้ำ มีอะไรให้ทำทั้งวัน

บรรยากาศทะเลยามเช้าก็จะเงียบๆ หน่อย แต่สดชื่นดี เตรียมตัวทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหารเดิมครับ

เมนูมีให้เลือกสั่งหลากหลายและเปลี่ยนไปตามแต่ละวัน นอกจากนั้นก็ยังมีไลน์บุฟเฟต์ให้บริการตัวเองด้วยครับ

เลือกนั่งโต๊ะริมหาด ได้บรรยากาศตอนเช้าๆ ที่สดชื่นดี

เลือกสั่งเมนู ซิกเนเจอร์ของทางรีสอร์ตมาทาน

ส่วนอีกเช้า เราเลือกเป็นทานอาหารในวิลล่าครับ แจ้งไว้ตั้งแต่ตอนเช็คอินเลย พนักงานจะได้เตรียมไว้ ส่วนจะให้เสิร์ฟกี่โมงก็แล้วแต่เรา

อาหารในไลน์ก็มีหลากหลายดีครับ แต่ทานไม่หมดหรอก เยอะเกิ้นนนนน สั่งเครื่องดื่มเพิ่มก็ได้นะครับ จ่ายเอา

สายๆ ก่อนกลับ เราไปทำสปากันที่ ศาลาสปา กลายเป็นว่าไปพักที่ศาลาไหนก็ต้องขอแวะไปทำสปาตามประสาคนขี้เมื่อยครับ

ห้องทรีตเม้นท์กว้างดีครับ มาทีไรชอบได้ห้องคู่รักทุกที ทั้งๆ ที่มาคนเดียว ฮือๆๆๆ

ช่วงเที่ยงก็เช็คเอ้าท์แล้วให้รถโรงแรมไปส่งที่สนามบินครับ ข้อดีของสมุยนอกจากการมีสายการบิน Bangkok Airways ให้บริการตลอดทั้งวันด้วยไฟล์ทที่เยอะมากแล้ว ก็ถือว่าสะดวก สบายด้วยการให้บริการเล้าจน์ด้วยครับ

จุดแข็งของบางกอกแอร์เวยส์ คือเล้าจน์ เลยครับ โดยเฉพาะใครมีสิทธิ์บลูริบบอนแบบผม เล้าจน์คือดีงามมาก มีอาหารร้อนให้ทานด้วย ที่สมุยเสิร์ฟน้ำมะพร้าวมาเป็นลูกๆ พักผ่อนสบายๆ ระหว่างรอขึ้นเครื่อง

กลับกรุงเทพฯ พร้อมกับบริการที่ประทับใจ ทั้งตัวรีสอร์ทที่สวย สงบ เรียบง่าย ไม่วุ่นวาย อาหารก็อร่อย ไม่ต้องออกไปหาทานที่ไหน แถมสมุยยังเดินทางง่าย ใช้เวลาไม่นานครับ

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน