เข้าที่พักแล้วก็ได้เวลารีวิวที่พักเผื่อเป็นไอเดียสำหรับหลายๆ ท่านที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นนะครับ
บอกไว้ก่อนนะครับว่าจะนอนพวก Hostel หรือ Guesthouse ต้องทำใจล่วงหน้ามาก่อนว่าจะต้องเจอเพื่อนร่วมห้องจากหลายชาติที่มีพฤติกรรมปกติและแปลกประหลาดแตกต่างกันไป
… ขนาดผมทำใจมาจากบ้านแล้ว ยังเคืองพวกฝรั่งเมื่อคืนไม่หาย นึกว่าทุ่งแสงตะวัน จักจั่น จิ้งหรีด กบเขียด … กรนสนั่น ขจรประสาทแดกมั่กๆ
จนเมื่อเช้าเกิดจะเปลี่ยนใจ ไปนอนโรงแรมยอดฮิตของคนไทยเราดีกว่าทั้ง Toyoko-Inn และ APA แต่ก็เสียดายตังค์ที่จ่ายมาแล้ว ทนนอนต่อไปละกัน …
วันนี้ผมนั่งชินคังเซ็นมาจากโตเกียว เพราะตามแพลนเราจะเที่ยวคันโตลงนาริตะแล้วมากลับทางคันไซ โอซาก้า และแน่นอนว่าเปลี่ยนที่พักทุกคืน เพื่อความหลากหลายและประสบการณ์แปลกใหม่
แต่เอาเข้าจริงๆ อย่าหวังว่าจะได้เจอฝรั่งหัวทองมากเท่าไรเลย ที่จองก่อนจน Hostel เต็มไว กลายเป็นอาเหล่าเจ๊ก อาม่า คุณป้าชาวจีนทั้งหลาย นอนกันเต็ม Hostel เลยจ้าาาา!!
ที่นี่ก็เช่นกัน [เศร้าแป๊บ!!] … คืนนี้ Hostel ที่ผมมาพักชื่อ PIECE HOSTEL SANJO ตั้งอยู่ในย่าน Shijo-Kawaramachi, Kyoto ครับ จริงๆ ที่ Kyoto นี่จะมี PIECE HOSTEL 2 ที่ผมเรียกว่า Hostel 2 พี่น้องนะครับ คือ
1. PIECE HOSTEL KYOTO (Kyoto Station)
2. PIECE HOSTEL SANJO (Shijo-Kawaramachi)
เนื่องจากห้องเต็มไวมั่ก! อีกละ ผมได้พัก Hostel ผู้น้อง 1 คืน ส่วนคืนพรุ่งนี้จะไปพัก Hostel ผู้พี่ที่สถานี Kyoto ครับ
ที่ PIECE HOSTEL SANJO ค่อนข้างใหม่นะครับ เพราะเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อกลางปี 2558 ที่ผ่านมานี่เอง ทำเลพอเดินไหวตั้งอยู่ใกล้ตลาดนิชิกิ และย่านช้อปปิ้ง Kawaramachi ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร เมื่อเย็นผมก็ไปเดิน Gion มา ซึ่งเป็นย่านเกอิชาอันเลื่องชื่อ
แว๊บแรกที่เห็น นี่มันใช่เราเลย It’s my style!! ตกแต่งสไตล์ Japanese Loft [ใครที่เคยไปบ้านผมจะรู้ว่าผมชอบ Loft มากแค่ไหน!!]
ตกแต่งโดยใช้การผสมผสาน Loft ปูนเปลือยดิบๆ ตัดด้วยไม้ให้ความอบอุ่นครับ ลงตัวมากๆ เจแปนนิสเดสึกะ!!
ห้องพักมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งที่เป็น Dorm [ห้องรวมแบบที่ผมพัก] / ห้อง Private [มีห้องน้ำในตัว] / ห้อง Private [ห้องน้ำรวม] และห้อง Family [คืนละหมื่นกว่าเยน]
ส่วนของผมจ่าย 2,900 เยนครับ ราวๆ คืนละ 950 บาท
โดยเราสามารถหยิบผ้าเช็ดตัวเพิ่มได้จากล้อบบี้ ส่วนรองเท้าแตะ หรือหมอนหยิบเพิ่มได้จากชั้นบริเวณโถงลิฟต์ของชั้นที่เราพักได้ฟรีอีกด้วย [ทั้งหมดที่ว่ามานี้บางแห่งเสียเงินเพิ่ม]
ส่วนห้องน้ำและห้องอาบน้ำรวมก็สะอาดและโมเดิร์นมาก มีบริการครีมอาบน้ำ แชมพูครีมนวดตามมาตรฐานญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว มีไดร์เป่าผมไว้ให้ที่ชั้นใต้ดิน [ห้องอาบน้ำมีจุดเดียวหลายสิบห้อง] เข้าอาบน้ำได้ตลอด 24 ชั่วโมงไม่ระบุเวลา
นอกจากนั้นยังมีตู้ซักผ้าหยอดเหรียญไว้บริการอีกด้วยครับ สะดวกดีได้ฤกษ์ซักผ้าเสียทีเรา!!
ในส่วนของอาหารเช้าก็เป็นแบบง่ายๆ ไว้คอยบริการฟรี!! ทุกคนจะมาทานรวมกันที่ Kitchen โดยอาหารเช้าจะมีหลายอย่าง เช่น ขนมปัง กาแฟ ชา ข้าวผัด มันบด หรือมื้ออื่นจะซื้อจากข้างนอกมาทานก็ได้ ทานเสร็จก็ต้องล้างจานของใครของมัน ที่นี่มีบริการเตาไฟฟ้า หม้อ กะทะ ใครจะโชว์ทักษะรับคะแนนความสามารถพิเศษด้านการทำอาหารก็ตามสบายครับ [เมื่อหัวค่ำเจอป้าคนจีน ควงตะหลิวโช้งเช้ง ไม่รู้ทำอะไรกิน กลิ่นตลบอบอวล]
ความเก๋ไก๋ของที่นี่ยังไม่หมดนะครับ ชั้นใต้ดินของ Hostel มีร้านกาแฟชื่อ Drip & Drop Coffee Supply เปิดบริการอยู่ด้วย เดินลงจากหน้าตึกมาได้เลย ซึ่งร้านกาแฟจะอยู่ชั้นนเดียวกับ ห้องอาบน้ำ ห้องซักผ้า แต่มีประตูปิดไว้ และงดใช้ลิฟท์ตัวแรกหากใครจะลงมาอาบน้ำ เพราะหากลงลิฟท์ตัวนี้กดมาที่ชั้น B จะเป็นร้านกาแฟทันที อาจมีคนสำลักกาแฟได้!!
โดยรวมแล้วถือเป็น Hostel ที่ดีเลยแหละ ชอบมาก อยากจะพักที่นี่อีกหลายๆ คืน เสียดายที่ช่วงนี้มันไม่มีห้องว่างเลย ใครจะมาพักต้องวางแผนล่วงหน้าหน่อยนะครับ ถ้าหน้าเวปมันไม่มี ลองเมลล์มาถามก็ได้ Search หาจากชื่อ Hostel ได้เลย!!
แต่เอาเข้าจริงสาขา SANJO ผมว่ายังไม่ฮอตเท่าที่ KYOTO นะ สาขาผู้พี่ เต็มไวตลอดชาติตลอดปี …
ของดีย่อมมีแต่คนหมายปอง