หลายคนสงสัยว่าในแต่ละวันผมทำงานอะไรบ้าง ทำไมชีวิตมันถึงแลดูยุ่ง ไม่ค่อยว่างเอาเสียเลย
ช่วงนี้ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมไว้สำหรับธุรกิจท่องเที่ยวต่างประเทศที่กำลังจะฟื้น ไหนจะมีสินค้าใหม่ที่กำลังจะวางตลาด ผมเลยอาจจะต้องไปพบปะผู้คนเยอะหน่อย ไม่นับรวมงาน Online Media ที่ตอนนี้ต้องบอกว่าคิวแน่นจริง ๆ ครับ
ดังนั้น หลักใหญ่ที่ผมใช้คือบริหารเวลาในแต่ละวันให้ดี ทำทุกนาทีให้มีความหมาย
โพสต์นี้ก็เลยอยากแชร์เรื่องราวของตัวเองว่าใน ONE DAY หรือแต่ละวัน มันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง พร้อมกับแบ่งปันหลักคิดในเชิงบริหารที่ผมนำมาใช้ ส่วนมากเป็นแนวคิดการทำงานสไตล์ญี่ปุ่น
แฟนเพจหลายคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าผมชอบไปประเทศนี้ ทั้งไปเที่ยวและทำงาน ช่วงหลังจึงอ่านหนังสือแล้วซึมซับวิถีแห่งแดนซามูไร เอามาใช้ในงานเยอะมาก อย่างหนังสือ Toyota Way “วิถีโตโยต้า” หรืออีกเล่มที่อ่านแล้วชอบคือ Toyota Mind “โตโยต้า คิดระดับโลก คุณก็ทำได้” เพียงเพราะผมสงสัยว่า อะไรทำให้แบรนด์ยานยนต์ญี่ปุ่นขึ้นชั้นอันดับต้น ๆ ของโลกได้ไม่ธรรมดา
แน่นอนว่า รถยนต์ที่ผมเลือกก็ต้องเป็น Toyota Camry ตัวนี้โฉมใหม่ 2.5 HEV Premium Luxury ให้ความหรูหราสมฐานะผู้บริหาร ยิ่งได้ชุดแต่ง CAMRY MODELLISTA รอบคันทำให้ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากขึ้น ซึ่งในวันทำงานจะมี Driver พาผมออกจากบ้าน ไปยังจุดหมายตั้งแต่เช้า กลับเข้าบ้านอีกทีก็คือค่ำเลยครับ
ส่วนถ้าเป็นวันเสาร์ อาทิตย์ ผมยังติดนิสัยชอบขับรถเองอยู่นะ ขับไปทำงานกึ่งพักผ่อนที่ต่างจังหวัด ระหว่างนั้นก็ขอเปิดเพลงโปรดคลอเบา ๆ หรือถ้าเราอยากได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามา รุ่นนี้สามารถเปิด Sunroof ได้ครับ
“No Best, Only Better”
เป็นหนึ่งในข้อความอันทรงพลังจากคุณ Akio Toyoda ประธาน Toyota
“ไม่มีดีที่สุด มีแต่ดีกว่า”
ผมว่าประโยคนี้ ชัดเจนดีและนำไปปรับใช้ได้
เหมือน 1 ในรูป Collection นี้ ที่มีรถยนต์ Toyota จอดอยู่กับคำว่า Believe
“แท้จริงแล้วมันคือการหยุดนิ่ง เพื่อค้นหาความหมายที่แท้จริง … แล้วเดินหน้าต่อ”
โพสต์นี้จะพามาติดตาม One Day ของกานต์ กับรถยนต์ Toyota Camry 2.5 HEV Premium Luxury กันครับ
นานๆ จะมีลุ๊คแบบนี้ให้ดูกันสักที มีความเป็นท่านผู้บริหารกับเค้าเหมือนกัน ช่วงนี้ผมจะยุ่ง ๆ หน่อยครับ เปิดประเทศแล้ว
“Believe in your infinite potential. Your only limitations are those you set upon yourself.”
― Roy T. Bennett, The Light in the Heart
Start my day : เริ่มต้นด้วยการตื่นแต่เช้าออกจากบ้านไปทำงาน
ผมว่าหลายคนคิดเหมือนกันกับผมนะ ถ้าเราออกจากบ้านก่อน 7 โมง ถนนในกรุงเทพจะโล่งรถยังไม่ค่อยติดมากเท่าไร ว่าไหม?
“เอก” ซึ่งเป็น Driver ประจำตัวของผม ขับ Toyota Camry 2.5 HEV Premium Luxury พาขึ้นทางด่วนวิ่งสบายๆ เพื่อไปให้ถึงปลายทางได้เร็วและปลอดภัยที่สุด
แม้จุดหมายปลายทางจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่เราก็อย่าลืมมองระหว่างทาง เพราะอาจจะมีเรื่องราวน่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งผมจะได้เล่าต่อไปในโพสต์นี้ครับ
ผมชอบช่วงเวลาที่ได้อยู่ในรถเหมือนกันนะ บางทีเจอโมเมนต์ดี ๆ แสงสวย ๆ ก็อดจะหยิบกล้องคู่ใจยกขึ้นมาถ่ายเก็บไว้สักรูป เวลานั่งในรถทำให้เราได้ปล่อยความคิดไหลไปเรื่อย ๆ
ด้วยความที่ Toyota Camry 2.5 HEV Premium Luxury ภายในห้องโดยสารค่อนข้างกว้างและกันเสียงได้ดี ทำให้เรานั่งในรถนาน ๆ ได้สบายโดยที่ไม่รู้สึกอึดอัดครับ
Toyota Camry 2.5 HEV Premium Luxury เป็นรถยนต์หรูเครื่องยนต์ไฮบริดที่ Toyota จัดออปชั่นมาเต็มมากครับ ยึดโยงกับแชสซีคุณภาพ TNGA – Toyota new global architecture
ทั้งดีไซน์ที่ดูหรูหราโฉบเฉี่ยว กันชนและกระจังหน้าใหม่ ออกแบบให้มีขนาดใหญ่ ดีไซน์เป็นแถบแนวนอนหลายชั้นเป็นจุดดึงดูดสายตาได้ดี มีไฟหรี่ช่วงกลางวัน LED Day Time Running Lights จากโคมไฟหน้าแบบไฟที่รับกันดีครับโลโก้ Toyota สีฟ้าอ่อนๆ ด้านหน้า ตัดกับสีรถ Metal Stream Metallic เป็นกิมมิคในการออกแบบที่เพิ่มเข้ามาทำให้มุมด้านหน้าของรถดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
อีกจุดที่ผมชอบคือเบาะที่นั่งด้านหน้า สามารถเลื่อนไปด้านหน้าแล้วปรับเอน จากนั้น ปลดล็อคส่วนพนักศรีษะพับลง เป็นการออกแบบเพื่อให้ผู้บริหารที่โดยสารอยู่เบาะหลัง สามารถมองเห็นวิสัยทัศน์ด้านหน้าได้อย่างชัดเจนขึ้น เปิดมุมมองได้กว้างมากขึ้น เป็นฟีลลิ่งสบายๆ สำหรับผู้ที่มองการณ์ไกล
วิสัยทัศน์เป็นเรื่องที่สำคัญมากนะครับ ถ้าเรารู้เส้นทางที่เราจะเดิน จะทำให้กำหนดทิศทางที่ชัดเจนให้กับองค์กรได้ พอถึงเวลาลงมือจริงจะได้ไม่หลงทาง
ยิ่งเป็นองค์กรขนาดใหญ่อย่าง Toyota ผมว่าวิสัยทัศน์ชัดเจนมากคือ Kaisen เป็นหลักง่ายๆ คือ “การทำวันนี้ให้ดีขึ้นกว่าเมื่อวาน” เป็นการเปลี่ยนให้ดีขึ้น (Change for the Better) ฟังดูเหมือนง่าย แต่เอาเข้าจริงก็ทำยากอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าทำได้ก็จะทำให้เราพัฒนาขึ้นไปในทุกวันครับ
Toyota Camry 2.5 HEV Premium Luxury คันนี้ มาพร้อมกับชุดแต่ง CAMRY MODELLISTA รอบคัน ทั้งสเกิร์ตกันชนหน้า-หลัง สเกิร์ตข้างซ้าย-ขวา และสปอยเลอร์หลัง รับกับชุดไฟท้ายทรงสวยแบบ HV LED ช่วยทำให้ดีไซน์ของรถมีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
“If one advances confidently in the direction of his dreams, and endeavours to live the life which he has imagined, he will meet with success unexpected in common hours.”
— Henry David Thoreau
เช้านี้เราไม่ค่อยรีบมาก บอกให้เอกแวะซื้อลาเต้ร้อนแก้วโปรดของผมกันสักหน่อยครับ
เราสามารถนำกาแฟใส่ในช่องวางแก้วที่เบาะหลังได้เลยครับ ออกแบบมาให้วางแก้วได้ทั้ง 2 ฝั่ง มาพร้อมกับแผงควบคุมภายในช่วงเบาะหลังซึ่งดึงลงมาจากพนักพิงได้
แผงควบคุมภายในติดตั้งไว้ที่เบาะหลังสำหรับผู้บริหารทันสมัยมากครับ สามารถสั่งการได้ทั้งระบบปรับอากาศภายในรถ บอกตัวเลขเป็นอุณหภูมิชัดเจน
สามารถปรับระดับเอนของเบาะที่นั่งด้วยไฟฟ้า สั่งการจากปุ่มกดด้านข้างที่นั่ง ปรับเสียงลำโพงให้ดังหรือเบาได้ทันที เป็นลำโพง JBL ที่ติดตั้งไว้ 9 ตำแหน่ง และยังมีเปิดม่านที่บังแสงได้อีกด้วย เป็นรายละเอียดที่ Toyota ออกแบบมาให้โดยคำนึงถึงผู้ใช้งานจริง
ที่สำคัญ คือสามารถพับเก็บได้หากไม่ได้ใช้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในช่วงบริเวณที่นั่งด้านหลังให้กับผู้โดยสารครับ
“อุโมงค์ก็เหมือนอุปสรรค” เหมือนเล่นมุขนะ แต่ว่าไม่ใช่ ผมคิดแบบนี้จริง ๆ
บางครั้งตามเส้นทางที่เราเลือก ในการขับรถก็ต้องพาเรามุดอุโมงค์ลงทางลอดเพื่อลัดทางแยกไปสู่จุดหมายได้เร็วกว่า แน่นอนว่าถนนช่วงนี้อาจจะไม่สว่างเท่าแสงอาทิตย์ภายนอก แต่มันก็จะเป็นบททดสอบเล็ก ๆ ที่ผ่านเข้ามาให้เราได้เรียนรู้เพื่อจะฝ่าฟันและทยานผ่านไปได้อย่างมั่นใจ ก่อนจะไปเจอกับแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อีกครั้ง เป็นหลักคิดง่ายๆ ที่ผมใช้บอกกับตัวเองอยู่เสมอ
เป็นบันทึกนึกขึ้นได้ ระหว่างนั่งอยู่บนรถยนต์คู่ใจอย่าง Toyota Camry 2.5 HEV Premium Luxury คันนี้แหละครับ
หลักคิดของ Toyota Way ข้อหนึ่งที่พูดถึง Genchi Genbutsu เป็นภาษาญี่ปุ่นที่หมายถึง “การไปดูด้วยตนเอง”
คือ การไปให้เห็นถึงปัญหาหรือกระบวนการบนสถานที่จริง ด้วยเหตุนี้ ในเช้าผมเลยแวะมาที่ย่านโกดังจัดเก็บสินค้า เพื่อจะมาตรวจสอบคุณภาพของที่สั่งมาเพื่อให้มั่นใจได้ที่สุด
เวลาอ่านบทสัมภาษณ์ของผู้บริหารหลายท่าน ผมมักจะพบเคล็ดลับหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ นั่นคือการ “เดิน” ครับ
ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “Gemba Walk” คือการเดินไปให้เห็นสถานที่จริง สถานการณ์จริง ปัญหาจริง ซึ่งเป็นหลักคิดที่ Toyota เองก็นำมาใช้เช่นกัน
ดังนั้น หากใครจะเลือกรถยนต์สักคัน ผมแนะนำให้เดินดูให้รอบ จนได้คำตอบว่า นี่เป็นคันที่ใช่ โดยเฉพาะรถยนต์ระดับผู้บริหารที่ต้องการความเรียบหรูของดีไซน์ ขับขี่สบายนุ่มนวล มาพร้อมกับการออกแบบฟังก์ชั่นภายในที่ครอบคลุมทุกความต้องการโดยไม่ละเลยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของการออกแบบ ดั่งเช่น Toyota Camry 2.5 HEV Premium Luxury คันนี้ที่ผมเลือกครับ
ผมถาม Driver ว่ารู้สึกอย่างไรที่ขับ Toyota Camry 2.5 HEV Premium Luxury คันนี้ที่ผมเลือก เอกตอบว่า คันนี้ขับสนุกดี มีระบบการสั่งงานต่างๆ ที่ไฮเทคมาช่วยในการขับขี่ มีพวงมาลัยปรับไฟฟ้าและเบาะหนังที่ฝังพัดลมปรับอากาศ
“เวลาจอดรถนานๆ ขึ้นรถมาแล้วมีพัดลมก็ช่วยให้เบาะไม่ร้อนมาก นั่งได้เลยตรงนี้ชอบสุด” Driver บอก
ดีไซน์ภายในหรูหราไม่แพ้กัน ที่สำคัญคือกว้างขวาง ทันสมัย เพรียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน ใช้งานง่าย ตกแต่งแบบใหม่โทนสีเข้ม เบาะเป็นหนังแท้และมีวัสดุสังเคราะห์แบบนุ่มเข้ามาช่วยให้นั่งสบายมากยิ่งขึ้น ห้องโดยสารเน้นความเงียบ เพื่อยกระดับการขับขี่
ความจริงที่ผมเลือกเพราะรุ่นนี้ เพราะมี Toyota Safety Sense เป็นเทคโนโลยีเรื่องความปลอดภัยเป็นหลักเลยครับ ทั้งระบบความปลอดภัยเตือนก่อนการชน เพิ่มระบบตรวจจับคนและจักรยาน ระบบควบคุมความเร็วแปรผันแบบ All Speed และลดความเร็วขณะเข้าโค้ง ระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน หน่วงรถให้ด้วยถ้าเราขับรถคร่อมเลน พร้อมกล้องมองรอบคัน 360 องศา ฯลฯ
แผงควบคุมมาพร้อมกับหน้าจอแบบ Floating type ขนาดใหญ่ 9 นิ้ว ผมใช้ iPhone สามารถเชื่อมต่อระบบ Apple CarPlay ได้เลย ส่วนใครที่ใช้ Android Auto ก็เชื่อมต่อได้ทันทีเช่นกัน ที่สำคัญคือมี Wireless Charging สามารถชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ได้ในตัวครับ
ผมอาจจะไม่สันทัดในเรื่องการขับขี่ได้ดีเท่า Driver ครับ แต่จากการสอบถามและมีโอกาสขับเองบ้างในช่วงวันหยุด ผมว่า Toyota Camry 2.5 HEV Premium Luxury จังหวะออกตัวทำได้ดี เพราะรวมเอาพลังไฮบริดของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าควบรวมเข้าด้วยกัน
“อัตราเร่งได้ประมาณ 7-8 วินาทีปลายๆ ได้สบายครับ” คนขับรถของผมบอก
รุ่นนี้ใช้ระบบเกียร์ E-CVT มีให้เลือก 3 โหมดการขับขี่ คือ Normal ใช้สำหรับการขับแบบปกติทั่วไป Eco เน้นขับแบบประหยัด และ Sport จะตอบสนองการขับขี่ขของโหมดได้สูงสุด เรียกได้ว่า เค้นขุมพลังแรงม้ามาทุกตัวเลยครับ ถ้าใครอยากปลดปล่อยพลังในวันหยุดสุดสัปดาห์ ผมแนะนำว่าให้เลือกโหมดนี้ในการขับขี่ครับ
ช่วงกลางวัน ผมมีนัดรับประทานอาหารที่โรงแรม Nikko ทองหล่อครับ เป็นโรงแรมสัญชาติญี่ปุ่น เพราะนัดพาร์ทเนอร์ชาวญี่ปุ่นไว้มาคุยงานกันที่โรงแรมนี้
DNA ของความเป็นญี่ปุ่นมีอยู่ในทุกที่เลยครับ โดยเฉพาะงานดีไซน์ไม่ว่าจะเป็น อาคาร ข้าวของเครื่องใช้ รวมไปถึงรถยนต์
อย่างเช่น Toyota Camry 2.5 HEV Premium Luxury คันนี้ที่มีความสวยงาม หรูหรา ทว่าเมื่อได้ขับแล้วจะสัมผัสได้ถึงความโฉบเฉี่ยวปราดเปรียวอีกด้วยครับ
ก่อนจะกลับ Driver ขับรถมารอที่ Drop-off ซึ่งผมสังเกตว่าแทบจะไม่ได้ยินเสียงรถเลยครับ เป็นเครื่อง 2.5 ลิตรที่เน้นความเงียบในการทำงาน มีเพียงเสียงคำรามเบา ๆ แบบกระโชกโฮกฮาก ตามสไตล์รถยนต์ระดับผู้บริหาร ที่เน้นความเรียบหรู
Toyota Camry 2.5 HEV Premium Luxury รถยนต์หรูเหมาะสำหรับผู้บริหารจริง ๆ
แวะเติมคาเฟอีนกับกาแฟแก้วโปรดยามบ่ายกันอีกสักแก้วครับ ส่วนตัวผมอาจจะดื่มกาแฟบ่อยเพื่อชาร์จพลัง แต่รถคันนี้กลับไม่ต้องเติมน้ำมันบ่อย
เพราะเท่าที่ขับมาผมลองวัดอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานซึ่งประหยัดได้ถึง 23 กม./ลิตร เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ที่เข้ากับเศรษฐกิจในยุคน้ำมันแพงทั้งเมืองแบบนี้มากครับ
Toyota Camry 2.5 HEV Premium Luxury ที่มาพร้อมกับชุดแต่ง CAMRY MODELLISTA ทำให้ดีไซน์ภายนอกสปอร์ต หรูหรา เส้นสายที่คมชัด ดูโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว เรียกได้ว่าพิถีพิถันทุกการออกแบบเลยทีเดียวครับ
ตารางงานช่วงบ่ายวันนี้จะหลวมๆ หน่อย มีอีกทีก็คืองานเลี้ยงตอนเย็นที่โรงแรมหรูแถวริมแม่น้ำเจ้าพระยา เราจะขับข้ามสะพานเพื่อไปยังฝั่งธนบุรีกันครับ
ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงที่โรงแรม The Peninsula Bangkok ครับ เย็นนี้เราได้รับเชิญมาร่วมงานเลี้ยง
ผมชอบระหว่างทางกลับบ้านจังเลยครับ แม้จะเป็นยามค่ำคืน ไม่มีแสงตะวัน แต่ก็ยังมีสีสันของแสงไฟเข้ามาจับต้องให้ชีวิตของเราสวยงามขึ้นได้เสมอ
ดูอย่างรถยนต์ Toyota Camry 2.5 HEV Premium Luxury คันนี้สิครับ
ยิ่งมืดยิ่งเห็นดาว แต่ถ้าเป็นกระจกหน้าของรถยนต์ Toyota Camry 2.5 HEV Premium Luxury คันนี้ต้องบอกว่า ยิ่งมืดจะยิ่งเห็นหน้าจอ Head-up Display แบบดิจิตอลที่แสดงอัตราความเร็วซ่อนอยู่ ดูแล้วสวยงามดีครับ
“If you are working on something exciting that you really care about, you don’t have to be pushed. The vision pulls you.”
— Steve Jobs
ในงานเลี้ยงปีใหม่ที่ผ่านมา คุณ Akio Toyoda ประธานของ Toyota ได้ขึ้นเวทีกล่าวสุนทรพจน์ต่อพนักงาน นอกเหนือไปจากการสร้างความเชื่อมั่นแล้ว มีประโยคนึงที่ผมชอบมาก เพราะเป็นการแสดงความปรารถนาส่วนตัวของท่านประธานเอง
“…What I personally want to do this year is to make time to enjoy cars, I want to enjoy the time as a person who loves driving and cars.
I hope to have much time for enjoying cars this year, so, folks, please try not to bother me when I’m behind the wheel. And don’t come messing with me with anything to do with work…”
ว่าแล้วท่านก็หัวเราะ … ผมว่าเป็นวิธีคิดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังตามสไตล์ Toyota มากๆ เลยนะครับ ไม่ว่าบทบาทที่เราได้รับจะเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบมาก มันคือความสุขที่สุดแล้ว
“ท่านประธานชอบขับรถครับ”