ขับรถเข้าป่าเกือบ 5 ชั่วโมง
ไปนอนเรียวกัง 1,300 ปีเก่าแก่ที่สุดในโลก
/
ได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊คว่าเป็นเรียวกังที่เก่าแก่ที่สุดในโลกนะที่ครับ สำหรับ นิชิยามะ ออนเซ็น เคอุนคัง (Nishiyama Onsen Keiunkan) จังหวัดยามานาชิ เราขับรถกันไปจากโตเกียว ระยะทางเหมือนไม่ไกลมากแต่ช่วงท้ายคือขับเข้าไปในหุบเขาเลยทำเวลาได้ไม่ดีนัก เมื่อยทรีนมากๆ
.
แต่พอไปถึงก็หายเหนื่อยเลยนะ สภาพคือดีมาก ทีแรกนึกว่าจะเก่าแบบโทรมไปเลย แต่เหมือนมีการรีโนเวทตลอดแต่ยังคงกลิ่นอาย เรื่องราวและจิตวิญญาณของญี่ปุ่นดั้งเดิม มีภูเขาอาคาอิชิโอบล้อมเรียวกังเอาไว้ ภาพแรกคือมีพนักงานมายืนแถวรอต้อนรับ ประทับใจละหนึ่ง จากนั้นคุณลุงแก่ๆ ก็มาช่วยขนกระเป๋าเข้าไปด้านใน
.
รองเท้าสวมภายในเรียวกังถูกจัดเตรียมไว้ให้พร้อมป้ายชื่อ รองเท้ามีให้เลือกหลายไซซ์ รองรับชาวต่างชาติที่เท้าใหญ่กว่าเอเชีย เดินเข้าไปในล้อบบี้คือพื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีที่นั่งให้ชมวิว เสียดายเราเข้าพักเร็วไปนิด ใบไม้ยังไม่ทันจะเปลี่ยนสีดี ปีนี้เปลี่ยนสีช้ามาก อดเห็นภาพความพีคเลย
.
จากนั้น เราไปเช็คอินในห้องพักกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของไม้และเสื่อทาทามิลอยมาทักทาย การต้อนรับจากพนักงานเป็นไปอย่างอบอุ่นตามแบบฉบับญี่ปุ่น ที่นี่พนักงานใส่ชุดกิโมโนและให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอน ตั้งแต่การนำกระเป๋าไปยังห้องพัก ไปจนถึงการอธิบายรายละเอียดของโรงแรม เราได้ห้องเบอร์ 105 อยู่ชั้น 1 ต้องลงลิฟต์จากล้อบบี้ซึ่งอยู่ชั้น 3 นั่นแปลว่าวิวของห้องเราจะได้สัมผัสกับแม่น้ำยูกาวะและแม่น้ำฮายะกาวะ
.
ห้องพักที่เราเข้าพักปูด้วยเสื่อทาทามิ และมีประตูบานเลื่อนกระดาษแบบฟุสุมะ เมื่อเปิดประตูออกไปก็จะเจอระเบียงไม้ที่มองเห็นวิวภูเขาและสวนญี่ปุ่นเล็ก ๆ ที่ถูกจัดอย่างพิถีพิถัน ในห้องพักยังมีชุดยูกาตะเตรียมไว้ให้เราได้สวมใส่ ดูเหมือนเป็นคุณลุงคนญี่ปุ่นเข้าไปอีก
.
หนึ่งในไฮไลต์ของการเข้าพักที่นี่คือ บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่มีชื่อเสียง มีห้องส่วนตัวให้จองด้วยนะ เรารีบบล็อคเวลาก่อนเลย ได้มาช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ ตอนเย็นก็เลยไปแช่ออนเซ็นห้องรวมก่อนเลยไม่ได้ถ่ายรูปมา น้ำพุร้อนของเคอุนคังอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงผิวและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การได้แช่น้ำร้อนท่ามกลางอากาศเย็นสบาย พร้อมชมทิวทัศน์ธรรมชาติรอบด้าน เป็นประสบการณ์ที่ทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ
.
ที่นี่บริหารแบบกิจการครอบครัวมาแล้วกว่า 50 รุ่น อายุรวม 1,319 ปี ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 705 พระภิกษนามว่า ฟูจิวาระ โนะ มาซาโตะ เป็นผู้ค้นพบน้ำพุร้อนธรรมชาติในพื้นที่แห่งนี้ ท่านสังเกตเห็นน้ำร้อนที่พุ่งขึ้นมาระหว่างหินริมแม่น้ำยูกาวะ เมื่อสัมผัสกับน้ำก็พบว่าน้ำพุร้อนนั้นมีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและเบาสบาย ด้วยความศรัทธาในธรรมชาติและความปรารถนาที่จะส่งต่อประโยชน์ให้กับผู้อื่น ท่านจึงพัฒนาพื้นที่นี้ให้คนในหมู่บ้านโดยรอบสามารถเข้าถึงน้ำพุร้อนเพื่อบำบัดร่างกายได้ง่ายขึ้น
.
ชื่อเสียงของบ่อน้ำพุร้อนนี้กระจายไปอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างเมื่อ จักรพรรดิโคเก็ง ซึ่งประชวรอยู่ในเวลานั้น เดินทางมารักษาอาการป่วยที่นี่ จนหายภายในเวลาเพียง 20 วัน เลยทำให้ดังขึ้นมา เราลองแช่ดูก็รู้สึกจี๊ดๆ นะ สดชื่นดีเหมือนกัน
.
อีกหนึ่งจุดขายคือเรื่องอาหาร เราจองแบบรวมอาหาร 2 มื้อคือมื้อค่ำและอาหารเช้า เป็นการเสิร์ฟอาหารแบบไคเซกิ (อาหารญี่ปุ่นแบบหลายคอร์ส) ที่คัดสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติอย่างพิถีพิถัน ชอบที่สุดเห็นจะเป็นเนื้อวากิวย่างบนเตาหินที่รองด้วยพักอีกทีเพื่อไม่ให้เนื้อสัมผัสกับความร้อนโดยตรงจะได้ไม่สุกเกินไป อาหารที่นี่ค่อนข้างจืดเน้นรสอูมามิจากธรรมชาติ
.
มาเรียวกังก็ทำให้เราได้นั่งอยู่นิ่งๆ ชมใบไม้ไหว สายน้ำไหล ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ก็ดีเหมือนกัน ถ้าใครแพลนจะไปยามานาชิ อยู่แล้วก็ใส่เรียวกังเก่าแก่นี้ไว้ในโปรแกรมก็ดีเหมือนกัน ห้องพักมีน้อยอาจจะต้องแย่งชิงกันหน่อย ราคาแต่ละวันไม่เท่ากันนะ ต้องเช็คดีๆ ถ้ามีคนรู้จักเป็นชาวญี่ปุ่นแนะนำให้จองตรงกับเรียวกัง ราคาจะดีกว่าจองผ่าน Japanican เกือบครึ่ง