Musée d’Orsay
พิพิธภัณฑ์ที่สร้างจากสถานีรถไฟร้างในฝรั่งเศส
/
พาร์ทที่แล้วกานต์เขียนถึงสถาปัตยกรรมแบบ Beaux-Arts พาร์ทนี้จึงอยากพาไปชมตัวอย่างที่น่าสนใจจากทริปปารีสกันสักหน่อย นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์ออร์แซ (Musée d’Orsay) สัญลักษณ์แห่งศิลปะและประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปารีส ริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำแซน
.
เดิมเคยเป็นสถานีรถไฟออร์แซ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1900 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Beaux-Arts อันวิจิตรตระการตา รูปแบบสถาปัตยกรรมนี้ได้รับความนิยมในยุโรปในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ถึงต้นศตวรรษที่ 19 ผสมผสานระหว่างการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่กับการออกแบบที่หรูหราและคลาสสิก
.
สถานีรถไฟออร์แซแสดงถึงความก้าวหน้าทางวิศวกรรมในยุคนั้น มีการใช้โครงสร้างเหล็กและกระจกขนาดใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมและการขนส่ง ความยิ่งใหญ่ของสถานีแห่งนี้ไม่ได้หยุดอยู่เพียงการใช้งานเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่มีบทบาทสำคัญทางวัฒนธรรมด้วย
.
ทว่า ในปี ค.ศ. 1939 สถานีรถไฟนี้ต้องปิดตัวลง เนื่องจากไม่สามารถรองรับรถไฟสมัยใหม่ได้ ทำให้อาคารเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงและการปรับปรุงใหม่
.
สถานีรถไฟออร์แซได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอาคารประวัติศาสตร์และได้เริ่มต้นโครงการบูรณะเพื่อเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์
.
การเปลี่ยนแปลงอาคารขนาดใหญ่เช่นนี้ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง โดยทีมสถาปนิกและนักออกแบบต้องรักษาโครงสร้างเดิมของสถานีรถไฟไว้ในขณะเดียวกันก็ต้องเพิ่มองค์ประกอบสมัยใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัย
.
กาเอ อาเลนติ (Gae Aulenti) สถาปนิกชาวอิตาลีได้รับหน้าที่ในการปรับเปลี่ยนภายใน เธอได้ออกแบบเฟอร์นิเจอร์และวางผังการจัดแสดงผลงานศิลปะ โดยคำนึงถึงการผสมผสานระหว่างความดั้งเดิมของอาคารและการสร้างสรรค์พื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการชมงานศิลปะ การใช้แสงธรรมชาติจากหลังคากระจกของอาคารเดิม ช่วยเพิ่มความลุ่มลึกให้กับการชมงานศิลปะ
.
พิพิธภัณฑ์เปิดในปี ค.ศ. 1986 จัดแสดงผลงานศิลปะฝรั่งเศสตั้งแต่ปี ค.ศ. 1848 ถึง ค.ศ. 1915 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ศิลปะได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะกลุ่มศิลปินอิมเพรสชันนิสม์และโพสต์-อิมเพรสชันนิสม์ที่มีชื่อเสียง เช่น โคลด โมเนต์, เอดัวร์ มาเนต์, เอดการ์ เดอกาส์, ปอล เซซานน์ และ วินเซนต์ แวน โก๊ะ ฯลฯ
.
นอกจากจิตรกรรมแล้ว พิพิธภัณฑ์ยังจัดแสดงประติมากรรม ภาพถ่าย และงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางศิลปะและวัฒนธรรมในยุคนั้น
.
อีกหนึ่งไฮไลท์คือการไปถ่ายรูปกับนาฬิกาในพิพิธภัณฑ์ที่มีทิวทัศน์ของแม่น้ำแซนและเมืองปารีสเป็นฉากหลัง เหมือนเป็นการถ่ายทอดช่วงเวลาที่เชื่อมโยงระหว่างอดีตและปัจจุบัน เป็นภาพถ่ายที่สื่อถึงการเดินทางผ่านประวัติศาสตร์และความงดงามของศิลปะ
.
นอกจากการเป็นแหล่งสะสมและจัดแสดงผลงานศิลปะแล้ว พิพิธภัณฑ์ออร์แซยังเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่มีการจัดกิจกรรมทางศิลปะอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงนิทรรศการพิเศษและงานทางวัฒนธรรมต่างๆ
.
ชั้นบนสุดของอาคารยังมีร้านอาหารที่ให้เราสามารถเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์อันงดงามของกรุงปารีส พร้อมทั้งสัมผัสกับบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบันของสถานที่แห่งนี้ได้
.
ใครไปเที่ยวปารีสก็อย่าลืมแวะไปชมงานอาร์ตดีๆ กันที่นี่ได้นะครับ
