“𝐋𝐢𝐟𝐞 𝐢𝐬 𝐚 𝐛𝐥𝐚𝐧𝐤 𝐜𝐚𝐧𝐯𝐚𝐬, 𝐚𝐧𝐝 𝐲𝐨𝐮 𝐧𝐞𝐞𝐝 𝐭𝐨 𝐭𝐡𝐫𝐨𝐰 𝐚𝐥𝐥 𝐭𝐡𝐞 𝐩𝐚𝐢𝐧𝐭 𝐨𝐧 𝐢𝐭 𝐲𝐨𝐮 𝐜𝐚𝐧.”
― Danny Kaye นักแสดงชาวอเมริกันซึ่งได้เป็นทูตคนแรกของ Unicef เคยพูดไว้แบบนั้น
.
กานต์คิดว่าเป็นประโยคที่มีความหมายและใช้ได้จริงมากเลยครับ เพราะชีวิตเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง องค์ประกอบอื่นไม่ว่าจะเป็น ตัวเรา ครอบครัว หน้าที่การงาน เพื่อนฝูง ญาติมิตร บ้าน ออฟฟิศ งานอดิเรกและอื่นๆ อีกมากมาย ล้วนเป็นดินสอสีที่รอให้เราบรรจงวาดหรือสาดบรรเลงไปตามจังหวะชีวิตของแต่ละคน จนออกมาเป็นภาพวาดที่บอกเล่าเรื่องราวแตกต่างกันไป
.
กานต์ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโครงการใหม่ของ AP-Thai เป็นแบรนด์ใหม่ล่าสุดเลยครับ เห็นว่ามีความน่าสนใจจึงอยากจะนำมาเล่าให้ฟัง โครงการนี้ชื่อว่า MODEN บางนา-ศรีนครินทร์ มาพร้อมกับโจทย์ใหม่และใหญ่กว่าคือ #บ้านต้องเป็นได้ทุกอย่าง เพื่อให้รองรับการออกแบบชีวิตของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป
.
ดังนั้น สมการแรกที่ถอดรูทออกมาได้คือ การมีบ้านหลังใหญ่ ให้สเปซในการใช้สอยที่มากกว่า และต้องสามารถใช้งานทุกตารางนิ้วในบ้านได้อย่างคุ้มค่า เป็นแนวคิด Zero-Wasted Space ซึ่งผมว่าไอเดียคอนเซปต์ดีมากเลยครับ #บ้านคือพื้นที่ความสุขของเรา เราสามารถออกแบบเองได้โดยไม่จำเป็นต้องตามแบบใครใช้มันได้อย่างเต็มที่
.
ภายในบ้านจึงดีไซน์แบบ Open Plan สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัว มีพื้นที่ว่างๆ เป็นส่วนกลางภายในบ้านและห้องเอนกประสงค์ที่รองรับการใช้งานได้ตามใจ เป็นการถอดรหัสมาจากกระแสสังคมที่วุ่นวาย พอได้กลับมาอยู่ในบ้านสไตล์ Modern Minimal Living ที่ไม่เพียงแต่เรียบง่าย แต่เป็นการเปิดพื้นที่จะทำให้ความรู้สึกทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่งไปจากความวุ่นวายภายนอกบ้าน
.
#บ้านหลังใหญ่ทำไมขายถูกจัง นี่ยังสงสัย เอากำไรจากไหนก่อน แต่ถือเป็นการเปิดแบรนด์ใหม่ที่ดี ทำเลถือว่าโอเค บ้านสวยโดนใจ นี่เป็นแบบบ้านดีไซน์ใหม่ของ AP-Thai ที่กานต์ประทับใจมาก ออกแบบให้เป็นบ้านทรงเหลี่ยมสีขาวสบายตา หลังคาทรงตัด หน้าบ้านมี Facade สีน้ำตาลของไม้ให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติและมีสีเขียวของต้นไม้น้อยใหญ่ที่ปลูกไว้รายรอบบ้าน เป็นการสะท้อนแนวคิดแบบ Eco-Living เพื่อให้เกิดความสุขที่แท้จริงครับ
.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://apth.ly/efv
นัดหมายเข้าชมโครงการได้ที่ Call Center 1623
#apthai#moden#บางนา#ศรีนครินทร์
MODEN บางนา-ศรีนครินทร์ เป็นโครงการใหม่บ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ ดีไซน์ใหม่ภายใต้ Concept “New Definition Defined” พื้นที่ชีวิตในแบบใหม่ ที่คุณกำหนดได้เอง โดย AP-Thai ซึ่งต้องยอมรับว่าโครงการใหม่ๆ ของเอพี ตีโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคเสียใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
อย่างเช่นโครงการ MODEN บางนา-ศรีนครินทร์ ไฮไลท์คือเป็นบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ในราคาจับต้องได้ ออกแบบให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานเพื่อให้ผู้พักอาศัยได้ดีไซน์บ้านให้ตรงตามไลฟ์สไตล์และความต้องการที่แตกต่างกันไปในแต่ละครอบครัว
พื้นที่โครงการมีทั้งหมด 40 ไร่ จำนวน 185 ยูนิต มีแบบบ้านทั้งหมด 5 แบบ ซึ่งแต่ละแบบก็จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตและรูปแบบครอบครัวที่แตกต่างกันไป
บ้านทุกแบบมีคอนเซปต์เป็น Zero-Wasted Space เราสามารถใช้งานพื้นที่ทุกตารางนิ้วภายในบ้านได้อย่างคุ้มค่า คุ้มกับราคาที่จ่ายไป
MODEN บางนา-ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพของโซนกรุงเทพตะวันออก พร้อมเชื่อมต่อถนนหลักหลายสายไม่ว่าจะเป็น ถนนตำหรุ-บางพลี ถนนศรีนครินทร์ ถนนบางนา-ตราด ถนนเทพารักษ์ และถนนแพรกษา
โครงการตั้งอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน 2 สาย ทั้งกาญจนาภิเษกและทางพิเศษบูรพาวิถี ข้อดีก็คือเราสามารถเข้า-ออกเมืองได้ง่ายและยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีด่านและรถไฟฟ้า BTS สถานีแพรกษาที่กำลังจะเปิดให้บริการในอนาคตอันใกล้
หลังถ่ายงานเสร็จตอนขากลับ ผมลองจับเวลาจากโครงการไปยังศูนย์การค้าเมกาบางนา ใช้เวลาประมาณ 10 นาที*เท่านั้น แต่ถ้าไปสนามบินสุวรรณภูมิจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที* ในช่วงเวลาปกติ ใครที่ทำงานสายการบินถือว่าเดินทางสะดวกรวดเร็วมาก ทำให้เรามีเวลาเพิ่มขึ้นในการใช้ชีวิตอยู่บ้านกับครอบครัว
ทำเลนี้ยังถือว่าเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ไฮเปอร์มาร์ท ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงเรียนนานาชาติ มหาวิทยาลัย ตลอดจนโรงพยาบาลชั้นนำ
ด้านหน้าโครงการเป็นถนนภาระจำยอมภายในซอยจงศิริ เราจะพบกับ Main Gate ของโครงการออกแบบมาในสไตล์ร่วมสมัย เน้นเส้นสายที่เรียบง่ายโค้งมน โฉบเฉี่ยวด้วยการเลือกใช้วัสดุ Aluminum Composite ที่ดูล้ำสมัย เพื่อนำเสนอรูปแบบการใช้ชีวิตที่อิสระ ลื่นไหล สร้างบรรยากาศของการอยู่อาศัยได้แตกต่างจากโครงการทั่วไปดีครับ
ด้วยความที่โครงการอยู่ห่างจากถนนตำหรุ-บางพลี เล็กน้อย ทำให้มีข้อดีก็คือ เป็นทำเลที่เงียบสงบแบบ Residential Area ไม่มีเสียงรถราวิ่งดังกวนใจ
บริเวณทางเข้าจะเป็นวงเวียนต้นไม้ที่แยก 2 โครงการของเอพีเช่นกัน ด้านซ้ายจะเป็นหมู่บ้าน Pleno Town สุขุมวิท-เทพารักษ์ ถัดมาจะเป็นทางเข้าโครงการ MODEN บางนา-ศรีนครินทร์ ดังนั้นระบบการรักษาความปลอดภัยด้านหน้าโครงการถือว่ามั่นใจได้คูณสองกันไปเลยครับ
เมื่อเข้ามาด้านในจะพบกับ Clubhouse อยู่โซนด้านหน้าติดกับ Main Gate ออกแบบให้เชื่อมต่อกันแบบชั้นเดียว
ทางขึ้น Clubhouse ได้รับการออกแบบตามหลัก Universal Design เพื่อรองรับการใช้งาน Wheelchair ถือว่าใส่ใจในรายละเอียดการออกแบบได้ดีครับ
ด้วยความที่ Clubhouse อยู่ด้านหน้าโครงการ ทำให้มีข้อดีคือเราสามารถทำนัดหมายกับแขกทั่วไปที่มารอพบได้ที่ Lobby Lounge & Guest Area ของสโมสรส่วนกลางได้เลยครับ โดยที่ไม่ต้องเชิญเข้าบ้าน เพื่อความเป็นส่วนตัวของเราและเพื่อนบ้าน
สระว่ายน้ำส่วนกลางเป็นสระระบบน้ำเกลือ สำหรับว่ายออกกำลังกาย หรือพักผ่อนในวันสบายๆ ใกล้กันทางด้านซ้ายจะแยกเป็นสระว่ายน้ำสำหรับเด็กแยกมาให้ 1 สระ
ช่วงเช้าเรื่อยไปจนถึงตอนสายถือว่าเป็นเวลาดีในการออกกำลังกายเพราะสระจะร่มรื่น มีอาคารสโมสรช่วยบัง แต่หากมาว่ายน้ำช่วงบ่ายๆ เย็นๆ อาจจะมีแสงแดดสาดส่องเข้ามาบ้างก็ถือว่าได้เติมวิตามินดีให้กับผิวพรรณ และได้ออกกำลังกายให้สุขภาพแข็งแรงอีกด้วยครับ
พื้นที่ส่วนกลางถูกออกแบบให้มีกิจกรรมเยอะมาก เพื่อรองรับลูกบ้านไว้หลากหลายมาก เริ่มจากพื้นที่พักผ่อน อ่านหนังสือหรือว่านั่งทำงานภายใน Lobby Lounge & Guest Area ให้ความรู้สึกโปร่งสบายด้วยเพดานทรงสูงแบบ Double Volume ผนังเป็นกระจกใสเขียวตัดแสง Full Height เต็มบาน เพื่อเปิดรับช่องแสงจากธรรมชาติภายนอกเข้ามา
ภายในตกแต่งมาในสไตล์ Modern Minimal จัดวางชุดที่นั่งสำหรับลูกบ้านและแขกเอาไว้ในบรรยากาศที่เรียบง่าย มีห้องน้ำส่วนกลางไว้คอยให้บริการ
เมื่อเปิดประตูด้านในที่เชื่อมกับ Lobby Lounge & Guest Area จะเป็นพื้นที่ Outdoor ของสระว่ายน้ำ ซึ่งต้องเข้าออกผ่านด้านหน้าอาคารเท่านั้นครับ มี Terrace ซึ่งจัดวางเก้าอี้นั่งพักผ่อน และรองรับผู้ปกครองที่มานั่งรอเด็กๆ ว่ายน้ำ หรือจะเลือกนั่งด้านในห้องแล้วคอยมองออกมาก็ได้เช่นกันเพราะผนังเป็นกระจกใส มองเห็นความเคลื่อนไหวได้ตลอด
จากสระว่ายน้ำสามารถเดินต่อมายังฟิตเนสซึ่งอยู่ทางฝั่งด้านหน้าโครงการ เป็นห้องเปิดโล่ง ผนังติดกระจกเขียวตัดแสง Full Height ให้ความรู้สึกความโปร่ง สบาย
ภายในฟิตเนสจัดวางอุปกรณ์ออกกำลังกายครบทั้งแบบฟรีเวทและแมทชีน สามารถวิ่งหรือปั่นจักรยานไปพร้อมกับการชมวิววงเวียนต้นไม้และสนามหญ้าด้านหน้าโครงการ ตลอดจนมองเห็นความเคลื่อนไหวอื่นๆ ได้ด้วยเป็นการพักกายพักใจพักเหนื่อยไปในตัว
หากใครเบื่อที่จะต้องวิ่งออกกำลังกายในฟิตเนส ผมแนะนำให้มาจ๊อกกิ้งวิ่งรอบสวนสาธารณะของโครงการดูครับ ฟีลจะค่อนข่้างต่างกัน วิ่งในสวนจะสดชื่นได้สัมผัสกับธรรมชาติมากกว่า
โครงการออกแบบให้มีลู่วิ่งและเดินออกกำลังกายรอบสวน พร้อมกับลานกว้างเพื่อรองรับการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลายรวมกันของสมาชิกในครอบครัว ผมว่าโดยรวมแล้วพื้นที่ส่วนกลางบรรยากาศดีมากครับ
พามาชมบ้านตัวอย่างกันบ้างครับ กานต์พามาชมแบบบ้าน Warren (วอ-เรน) ซึ่งเป็นบ้านขนาดใหญ่สุด ขนาดที่ดินเริ่มต้น 56 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 235 ตร.ม.
ตัวบ้านเป็นแบบบ้านหน้ากว้าง ฟังก์ชั่นภายในบ้านขนาด 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 1 ห้องครัว สามารถจอดรถได้ 3 คัน บ้านเป็นแบบ Flexible Space สามารถจัดฟังก์ชั่นได้หลากหลาย
บ้านเป็นดีไซน์ใหม่จากทาง AP Thai เน้นความเรียบง่าย หลังคาเป็นแบบตัด ผมชอบเรียกบ้านดีไซน์นี้ว่าทรงกล่อง ดู Modern Minimal ดีครับ สถาปนิกลดทอนรายละเอียดในการออกแบบลงไปคงเหลือเพียงเส้นสายของ Facade หน้าบ้านเป็นสีน้ำตาลเหมือนไม้ เลือกใช้โทนสีกลาง (Neutrals) เช่นสีขาว เทา ดำ ครีม น้ำตาล ในการตกแต่งเป็นหลัก เพื่อช่วยทำให้ห้องดูเรียบ คลีน ๆ ทำให้ดูผ่อนคลายสบายตา
ภายนอกเลือกใช้สีขาวเป็นหลัก ขับให้ระแนงไม้ดูเด่นขึ้นมา ภาพรวมของบ้านให้บรรยากาศที่ดูอบอุ่น ผ่อนคลาย ให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ได้ฟีล Minimal Eco Living
ลานจอดรถภายในบ้านมีขนาดใหญ่ซึ่งถือว่าหายากมากในบ้านเซกเมนท์ระดับเดียวกันนี้ ที่จะมีพื้นที่ลานจอดรถได้มากถึง 3 คัน
พื้นเป็น Slab on ground แยกโครงสร้างออกจากตัวบ้าน ฝ้าเพดานติดไฟ Led เอาไว้ให้และติดตั้งระบบสัญญาณกันขโมย Magnetic Sensor ทั้งหลัง พร้อม Outdoor Camera
จุดเด่นของ AP คือมีระบบรักษาความปลอดภัยที่มีชื่อว่าระบบ KATSAN ซึ่งพัฒนาขึ้นมาใช้ในทุกๆ โครงการผมว่าน่าสนใจและมีประโยชน์มาก เช่นการให้ข้อมูลเรื่องความปลอดภัย ระบบการจดจำป้ายทะเบียนรถยนต์ของลูกบ้าน ตลอดจนสามารถเรียกเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการได้ในหลายเรื่องที่มีปัญหา รวมถึงการเรียก Taxi แจ้งตำรวจ การอำนวยความสะดวกเรื่อง E-Stamp สำหรับแขก เป็นต้น
นอกจากนี้ บริเวณผนังลานจอดรถยังได้เดินระบบงานไฟฟ้า ติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำ เพื่อรองรับ Wall Box EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ใกล้กันออกแบบให้มีห้องเก็บของเพดานสูง เพื่อเก็บสัมภาระชิ้นใหญ่เช่นถุงกอล์ฟ กระเป๋าเดินทาง จักรยานแบบพับได้ หรือจะเอาไว้เก็บอุปกรณ์ทำสวนก็ทำให้หน้าบ้านดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดี
บริเวณนี้จะมีประตูเล็กสำหรับเปิดเข้าในบ้านได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องอ้อมเข้าประตูหลัก ถือว่าสะดวกมากหากเราซื้อของมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตสามารถเปิดประตูเดินตรงไปสู่ห้องครัวได้ทันที
บริเวณนอกบ้านด้านข้างออกแบบให้เป็นพื้นที่สำหรับทำสวนปลูกต้นไม้ ซึ่งเป็นแนวคิดสไตล์ญี่ปุ่นแบบ Engawa – Inside Out, Outside In เชื่อมต่อภายนอกกับภายในบ้านเข้าด้วยกัน
ส่วนด้านหลังเป็นพื้นที่ลานซักล้างที่เดินเชื่อมไปจากสวนด้านข้างได้ครับ ที่ผมชอบคือการออกแบบให้มีห้องเก็บของด้านหลังสามารถทำเป็น Laundry Area จัดวางเครื่องซักผ้าเครื่องอบผ้าได้ ทางโครงการเดินงานระบบน้ำ-ไฟ เอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ นับว่าสะดวกและเป็นระเบียบดีมาก
เราเดินเข้าบ้านทางประตูหลัก หน้าบ้านออกแบบให้มียกพื้นเป็นเฉลียงทางเข้าบ้าน มีชายคาเพื่อกันแดดกันฝนได้ โครงการติดตั้งประตูกระจกเขียวตัดแสงบานเลื่อนแบบฟิกซ์ กรอบ UPVC สีขาวเข้ากับบ้านดี ประตูปิดแล้วดูแน่นสนิทเก็บเสียงได้ดี ไม่มีเสียงจากภายนอกเล็ดลอดเข้ามากวนใจ
ภายในจะเป็น Common Area ที่มีขนาดใหญ่มาก แบ่งฟังก์ชั่นการใช้สอยออกเป็นโซนค่อนข้างชัดเจน
Common Area เป็นลักษณะ Open Plan ให้เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจ โซนด้านหน้าทางเข้าบ้านตัวอย่างจัดให้เป็น Living Area สำหรับนั่งพักผ่อน ต้อนรับแขกและดูทีวีร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว
บรรยากาศดูโปร่งสบายดี เพราะออกแบบให้มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.6 เมตร มีผนังพร้อมประตูหน้าต่างเป็นกระจกเปิดรับช่องแสงจากภายนอกถึง 2 จุด พื้นที่โดยรอบเปิดช่องแสงเอาไว้ทำให้บ้านดูสว่างในตอนกลางวันแทบไม่ต้องเปิดไฟเลยครับ
มุมนี้บ้านตัวอย่างจัดวางโซฟาสีเทาควันบุหรี่รูปทรงตัวแอล (L-Shape) ขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะกลางและเก้าอี้ไม้บุผ้าดูเรียบง่าย ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีแขวนติดผนัง
ผมชอบมุมนี้มาก บ้านตัวอย่างได้ให้ไอเดียของการออกแบบที่ดูมินิมอลและฟรีฟอร์มด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวดีไซน์เรียบง่าย ระยะห่างระหว่างที่นั่งกับชั้นทีวีก็ไกลพอที่จะวางระบบโฮมเธียเตอร์ขนาดใหญ่ได้สบายเลยล่ะครับ
ถัดจากมุมนั่งเล่นจะเป็นฟังก์ชั่น Dining Area ที่เชื่ีอมต่อกับครัวที่อยู่ห้องถัดไป ถือเป็นมุมโปรดของผมเลยครับ บ้านตัวอย่างจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่และวางเก้าอี้ไว้ประมาณ 6 ตัว นั่งได้สบายๆ เลยครับ สามารถเปลี่ยนเป็นโต๊ะขนาดใหญ่กว่านี้ได้ หากที่บ้านมีสมาชิกจำนวนมาก บริเวณนี้มีพื้นที่กว้างขวางเหลือเฟือ
ผมชอบโต๊ะรับประทานอาหารที่มีดีไซน์เรียบเก๋ด้วยไม้ให้ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ มีโคมไฟทรงครึ่งวงกลมแขวนลงมาช่วยดึงดูดความน่าสนใจให้กับโต๊ะรับประทานอาหาร
ด้านในเป็นส่วนของครัว โครงการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้แล้ว 2 ฝั่ง พร้อมทั้งติดตั้งอ่างล้างจานและชั้นคว่ำจานไว้ให้ ข้างใต้เป็นตู้เก็บของที่ปิดหน้าบานเรียบร่อย เว้นพื้นที่ว่างด้านข้างสำหรับติดตั้งตู้เย็นขนาดใหญ่ หากรู้สึกว่าพื้นที่เก็บของไม่เพียงพอก็สามารถติดตั้งตู้ลอยเพิ่มเติมได้
ห้องครัวจะมีหน้าต่างแบบบานเกล็ดมาให้ สามารถหมุนออกเพื่อระบายอากาศได้ เมื่อเปิดประตูไปด้านหลังจะเป็นลานซักล้าง สามารถต่อเติมหลังคาและเคาน์เตอร์เพื่อทำเป็นครัวไทยด้านนอกได้
ในแง่ภาพรวมของงานดีไซน์ผมว่าสอบผ่าน โดนใจคนรุ่นใหม่ ซึ่งกลายเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก ด้วยความขาวคลีนๆ แบบ Modern Minimal ของตัวบ้าน เป็นงานสถาปัตยกรรมที่ดูสบายตา น่าอยู่ด้วยสีขาว สอดรับกับสีเขียวของต้นไม้ให้ความรู้สึกร่มรื่นดีมาก
ผมชอบที่โครงการพยายามนำเสนอไอเดียในการตกแต่งบ้านตัวอย่างให้ดูมีชีวิตชีวา ไม่จำเป็นว่าต้องใช้เฟอร์นิเจอร์หลุยส์สีทอง บุที่นั่งด้วยหนังกลับสีม่วงตลอดเวลา แต่กลับเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบอย่างเรียบง่าย เน้นการใช้งานได้สบาย และคุมโทนให้เข้ากับภาพรวมของบ้านได้ดี ในสไตล์ Japandi ที่ผสมกลิ่นอายแบบสแกนดิเนเวียนกับญี่ปุ่นเข้ามา ทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้นมากครับ
ชั้นล่างมีห้องนอน 4 ห้องนี้จึงเป็นห้องที่บรรยากาศดีมาก เพราะเห็นสวนข้างบ้าน เราสามารถปรับเป็นพื้นที่ Work From Home ถ้าเป็นผมคงหยิบ Notebook แล้วมานั่งทำงานตรงนี้ทั้งวัน หรือหากมีเพื่อนมาเยี่ยมที่บ้านก็คงชวนกันมาทำกิจกรรมยามว่างที่ห้องนี้
จริงๆ แล้ว พื้นที่เอนกประสงค์ตรงนี้สามารถออกแบบได้ตามใจ ซึ่งโดยหลักของการออกแบบที่ผมเคยเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้คือ Open Plan การออกแบบจึงเปิดให้มีความยืดหยุ่นในการใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่และตรงตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยในแต่ละบ้าน
ห้องนี้เราสามารถปรับให้เป็นห้องเอนกประสงค์ได้เช่นกันแล้ว หรือถ้ามีแขกมาเยี่ยมบ้านคนในบ้าน เรายังสามารถแยกตัวมาพักผ่อนที่ห้องนี้แทนได้ นอกจากนั้น ยังสามารถปรับให้เป็น Entertainment Room มีชุดโซฟาพร้อมจอทีวีขนาดใหญ่เอาไว้นั่งดูหนังฟังเพลง นั่งเล่นเกมส์ชิลล์ๆ
บ้านไหนที่อยู่กันหลาย Generation ก็สามารถปรับให้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ เนื่องจากเป็นห้องที่มีห้องน้ำในตัว ซึ่งจะทำให้สะดวกในการใช้งานมากขึ้น ตลอดจนออกไปเดินเล่นที่สวนหน้าบ้านตอนเช้า จากนั้นก็มาเข้าครัวทำอาหารให้หลานๆ ได้ทานก่อนออกไปโรงเรียนได้ ทั้งยังใกล้กับประตูทางออกลานจอดรถทำให้สะดวกในการเดินไปขึ้นรถ
ทั้งนี้ ด้วยขนาดพื้นที่ของห้อง ผมลองจินตนาการเพิ่มเติมดูว่าสามารถจัดวางเตียงนอนขาดควีนไซส์ พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งแบบเข้าชุด และติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดพอเหมาะไว้ที่มุมห้องได้
โถงใต้บันไดก็เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่ผมว่าออกแบบได้เก๋ดี มีการจัดสรรพื้นที่ได้อย่างลงตัวทั้งห้องเก็บของและห้องน้ำชั้นล่าง
การออกแบบ บริเวณชั้นล่างใต้บันไดจะเป็นห้องเก็บของซึ่งผมว่าไอเดียนี้ดี จากใจคนเลี้ยงน้องแมวแบบผม คือเราต้องการห้องนอนสำหรับสัตว์เลี้ยงแบบเป็นสัดส่วนครับ
ซึ่งการออกแบบให้ห้องใต้บันไดเป็นห้องนอนน้องสามารถจัดวางที่นอน เครื่องให้อาหารและห้องน้ำอัตโนมัติได้อย่างเป็นระเบียบและลดปัญหาเรื่องกลิ่นได้อีกด้วย ผมแนะนำให้ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเพิ่มเติมในห้องนอนน้องเลยครับ
เนื่องจากใต้บันไดกลายเป็นห้องเก็บของเลยต้องออกแบบห้องน้ำให้อยู่ด้านนอกในบริเวณเดียวกันนี้ ข้อดีก็คือจะได้ห้องน้ำที่กว้างขึ้นและระบายอากาศได้ดี
บ้านตัวอย่างเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับแขก กล่าวคือจะไม่มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำ อย่างไรก็ตามถือว่าภายในห้องน้ำมีขนาดใหญ่และฟังก์ชั่นครบ ทั้งอ่างล้างมือ สุขภัณฑ์เป็นของ COTTO พร้อมช่องแสงด้านในช่วยปิดรับแสงสว่างเข้ามาภายในห้องน้ำ
ขึ้นบันไดไปดูชั้น 2 กันบ้างดีกว่าครับ บันไดเป็นโครงสร้างเหล็ก ลูกตั้งลูกนอนเป็นไม้ยางพาราประสาน เข้ากันดีกับราวจับไม้สีน้ำตาล
ส่วนราวกันตกเป็นเหล็กสีขาว ยังคงคุมโทนให้บ้านดูมินิมอลได้ดี จะเห็นฟังก์ชั่นการใช้งานที่เชื่อมต่อกันของทั้ง 2 ชั้น โถงบันไดเจาะช่องแสงเอาไว้ทำให้บ้านดูสว่างขึ้นโดยธรรมชาติ พร้อมลูกเล่นการตกกระทบของแสงเงา ช่วยให้บ้านเรามีมิติมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นบ้านที่ออกแบบเน้นการอยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของแต่ละครอบครัวจริงๆ
ผมชอบการตกแต่งแบบเรียบง่ายโดยบริเวณโถงบันไดเข้ากับสไตล์ของบ้านที่ดูมินิมอลดี มีเพียงช่องแสงจากธรรมชาติขนาดใหญ่ที่เปิดเอาไว้บริเวณโถงบันไดเพื่อให้บ้านดูสว่างขึ้น ไม่มืดจนเกินไปในเวลากลางวัน ขณะเดียวกันก็สามารถเปิดบานเลื่อนออกเพื่อระบายอากาศกลางบ้านได้ เราสามารถติดตั้งมู่ลี่หรือผ้าม่านเพิ่มได้เพื่อความเป็นส่วนตัว
เมื่อเราขึ้นมาที่ชั้น 2 ของบ้านจะเจอกับโถงบันไดเพื่อที่จะไปยังห้องต่างๆ ผมแยกเป็นสองฝั่งก็แล้วกันครับจะได้อธิบายง่ายขึ้น เบื้องหน้าเมื่อมองจากบันไดจะเป็นห้องนอนหลัก ติดกันด้านขวามือของบันไดจะเป็นห้องนอนรอง เมื่อเดินเลี้ยวซ้ายจะเป็นห้องนอนรองและ Family Area ขนาดใหญ่เป็นพื้นที่เอนกประสงค์ สำหรับทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเป็นไอเดียในการออกแบบที่ดีมาก สมาชิกทุกคนในบ้านจะได้มีพื้นที่ส่วนตัวและยังคงมีพื้นที่ส่วนรวมสำหรับทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว
เริ่มจากห้องนอนแรกอยู่ใกล้กับ Family Area แต่อยู่โซนด้านหลังบ้าน ทำให้ห้องนอนนี้ได้เปรียบเรื่องความเงียบและเปิดรับแสงสว่างจากช่องแสงธรรมชาติด้านข้างที่เป็นหน้าต่าง 2 บาน สามารถเปิดม่านออกได้หรือจะเปิดหน้าต่างบานกระทุ้งออกเพื่อรับลมระบายอากาศก็ได้เช่นกัน ทำให้ห้องดูสว่างมากในเวลากลางวันแทบไม่ต้องเปิดไฟเลยครับ และยังช่วยให้ภาพรวมของห้องดูโปร่งสบาย ผ่อนคลายมาก
ห้องนอนจัดเตียงไว้ชิดผนังมีช่องแสงคอยปลุกเราตอนเช้าโดยอัตโนมัติ ติดกันเป็นห้องน้ำในตัว ส่วนปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน สามารถเก็บข้าวของเครื่องใช้ไว่้ในตู้ได้ทั้งหมด
ถ้าครอบครัวไหนมีจำนวนสมาชิกไม่เยอะมาก อาจจะปรับจากห้องนอนมาเป็นห้องดูหนังฟังเพลง ห้องหนังสือ ห้องทำงานหรือทำเป็นสตูดิโอสำหรับไลฟ์รีวิวขายของออนไลน์ก็ได้ครับ
ซึ่งเราย้ำกันตั้งแต่แรกแล้วว่า MODEN เป็นบ้าน Super Function สามารถปรับเปลี่ยนการใช้สอยได้ตามไลฟ์สไตล์ของทุกคนในบ้าน และด้วยความที่ใช้ระบบการก่อสร้างแบบ Conventional wall ผมว่ามันทำให้ง่ายต่อการปรับเปลี่ยนหรือต่อเติมห้องหับต่างๆ ได้ตามไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัว
Master Bedroom จะอยู่ทางปีกขวาของบ้านตรงขึ้นจากบันไดแล้วเจอเลยทันที เป็นห้องนอนหลักที่มีขนาดใหญ่มาก ลักษณะแนวยาวตามความกว้างของหน้าบ้านเกือบทั้งหมด สามารถออกแบบและจัดวางฟังก์ชั่นภายในได้หลากหลายตามใจ
เริ่มจากด้านหน้าทางเข้าเป็นโซนพักผ่อน ห้องนอนใหญ่มาพร้อมกับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างกระจกบริเวณหัวเตียง ซึ่งเปิดรับวิวฝั่งด้านหน้าบ้าน พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งเปิดรับแสงธรรมชาติขณะเสริมสวย พร้อมมุมแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ขนาดใหญ่
บ้านตัวอย่างจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ ขนาด 6 ฟุต ได้สบายๆ พร้อมกับมีพื้นที่รอบเตียงเดินได้แบบเหลือๆ พร้อมโต๊ะหัวเตียงและโคมไฟส่องสว่าง บริเวณช่วงปลายเตียงสามารถติดตั้ง Cabinet สำหรับวางทีวีขนาดใหญ่สามารถนอนชมซีรีย์เรื่องโปรดจาก Netflix บนเตียงเลยได้สบายๆ เลยครับ
ติดกันเป็นมุมแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ขนาดใหญ่พอๆ กับห้องนอนอีกห้องเลยครับ ผมว่าเป็นมุมในฝันของสาวๆ หลายคนแน่นอน ตู้เสื้อผ้า Build in เต็มผนังทั้งสองฝั่งซ้าย-ขวาทำให้เกิดการใช้พื้นที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ห้องนอนหลักมาพร้อมกับห้องน้ำในตัวครับ ภายในห้องน้ำเปิดช่องแสงส่องสว่างและระบายอากาศได้เต็มที่ช่วยให้ห้องน้ำไม่อับชื้น ภายในติดตั้งอ่างล้างมือพร้อมเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ด้านหลังเป็นกระจกเงา มี Shower อยู่ด้านในเป็นพื้นลดระดับลงไปเราสามารถติดตั้ง Shower Box เพิ่มเติมได้ สุขภัณฑ์ห้องน้ำใช้แบรนด์ COTTO ทั้งหมด
ติดกันกับ Master Bedroom เป็นห้องนอนรอง ที่ตกแต่งแบบเรียบง่าย เน้นเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นเท่าที่จำเป็น ผมชอบมากครับ ทำให้ห้องดู Less is More คือการออกแบบจัดวางข้าวของตามแต่ที่จำเป็น ตัดทอนสิ่งที่ไม่สำคัญออกไป คงเหลือไว้เพียงการเป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนที่แท้จริง
ภายในห้องจัดวางเตียงนอนขนาดควีนไซส์ ที่มีความโดดเด่นด้วยหัวเตียงทำจากวัสดุหวายให้ความรู้สึก Cozy ในห้องสบายๆ แบบส่วนตัว มีหน้าต่าง 2 บานเว้นช่องหัวเตียงตรงกลาง เพิ่มแสงสว่างเข้ามาภายในห้อง
หัวเตียงจัดวางโต๊ะเตี้ยเล็กๆ สำหรับวางของ มีพื้นที่ว่างรอบเตียงสามารถเดินได้สบายเลยครับ ส่วนตู้เสื้อผ้าจะอยู่ติดผนังบริเวณฝั่งทางเข้า ติดกันกับเตียงนอนเป็นห้องน้ำ จุดเด่นที่ผมชอบสำหรับโครงการนี้คือห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้องเลยครับ สามารถทำธุระได้อย่างเป็นส่วนตัว
รูปนี้ถ่ายออกมาได้เก๋ดี ผมชอบการออกแบบมุมนี้มาก ชอบการเลือกใช้สีเอิร์ธโทนอ่อนๆ นุ่มนวลสบายตา ดูเรียบง่ายด้วยกระจกทรงกลมมน มาปรับให้ห้องนอนทรงสี่เหลี่ยมดูสมูทมากยิ่งขึ้นครับ
Family Area ถือเป็นไฮไลท์ของบ้านเลยครับ เป็นพื้นที่เอนกประสงค์ที่ดูกว้างขวางขนานไปกับความกว้างของตัวบ้าน สามารถจัดชั้นโชว์วางของติดผนัง มุมนี้จะอยู่กึ่งกลางระหว่างห้องนอนทั้ง 2 ฝั่งคือห้องนอนรองทางด้านซ้ายและห้องนอนหลักทางปีกขวา
พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้ทำให้ดูอบอุ่นดี มีผนังด้านหน้าและด้านข้างเป็นหน้าต่างเปิดออกไปได้และกลายเป็นช่องแสงธรรมชาติที่ทำให้บริเวณนี้ดูสว่างมากขึ้น สามารถเปิดรับลมระบายอากาศได้ดี
บ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็นพื้นที่ของสมาชิกในครอบครัวอย่างแท้จริง Family Area เป็น Flexible Space เพื่อให้เรีาปรับฟังก์ชันได้ตามต้องการ สามารถใช้งานได้ทั้งการเป็นห้องเรียนออนไลน์และมุมทำการบ้านสำหรับเด็กๆ มีที่นั่งพักผ่อนสำหรับดูทีวี ร่วมกัน และเป็นมุมอ่านหนังสือในช่วงเวลาสบายๆ ด้วยครับ
มุมนี้จัดวางเฟอร์นิเจอร์ในแบบมินิมอลสไตล์ อัตราส่วนโดยประมาณ Space 70% ต่อ Decoration 30% เป็นสัดส่วนที่กำลังลงตัว ถึงแม้จะดูว่ามีความเรียบ ไม่เน้นลวดลาย แต่ดีไซน์ดูทันสมัย มีรูปทรงที่น่าสนใจดูมีคอนเซ็ปต์
เอาจริงผมว่าการปล่อยให้มีพื้นที่ว่างเกิดขึ้นภายในบ้าน ก็กลายเป็นองค์ประกอบที่น่าสนใจของการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลไปในตัว เพราะบ้านที่มีข้าวของตกแต่งจนรกหูรกตา ทางเดินแคบๆ เล็กๆ อาจจะรู้สึกอึดอัดเวลาพักอาศัย แต่หากมีสเปซเหลือพอ เราจัดวางข้าวของเครื่องใช้เท่าที่จำเป็นภายในบ้านก็จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น ดังนั้น พื้นที่ว่างจึงเป็นสิ่งมีความสำคัญและสัมพันธ์ไปกับไลฟ์สไตล์ของเราด้วย
“Simplicity is the ultimate sophistication.”
—Leonardo da Vinci
#โดยสรุป เมื่อมองภาพรวมของงานดีไซน์ ผมดูแล้วนึกไปถึงวลีเด็ด “Less is more” ของ Ludwig Mies van der Rohe ปรมาจารย์ของสถาปนิกทั่วโลก เน้นการออกแบบที่เรียบง่ายและผูกพันกับธรรมชาติและวิถีชีวิต
หรือที่เราเรียกว่า Minimalism in Architecture เป็นคอนเซปต์ที่สำคัญที่ทำให้บ้าน MODEN บางนา-ศรีนครินทร์ มีความโดดเด่นน่าสนใจ ในความเป็นบ้านหลังใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก เปิดโอกาสได้เราแต่งแต้มจินตนาการเข้าไปจนกลายเป็นพื้นที่แห่งการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ เพื่อให้บ้านเป็นได้ทุกอย่างที่ใจเราต้องการครับ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://apth.ly/efv
นัดหมายเข้าชมโครงการได้ที่ Call Center 1623