CHECKED IN
MARINA BAY SANDS HOTEL
_____________________________________________
กานต์พาเช็คอินโรงแรมรูปเรือชื่อดังอย่าง
สัญลักษณ์อีกอย่างของประเทศสิงคโปร์ครับ
เรียกได้ว่าเป็นโรงแรมในฝันของใครหลายคน
ด้วยดีไซน์เป็นรูปไพ่ 3 สำรับ เรียงกัน กั้นเป็น 3 Tower
ถูกเชื่อมกันด้วย Sand Sky Park ที่ชั้นดาดฟ้าซึ่งมีรูปร่างคล้ายเรือ
บนความสูง 57 ชั้น ด้วยห้องพักหลายพันห้อง
แถมยังเป็นโรงแรมที่ตั้งบนทำเลที่ดีที่สุดในสิงคโปร์
เนื่องจากสามารถชมทัศนียภาพรอบๆ เมืองได้อย่างเต็มที่
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า คาสิโน
.
เช็คอินแล้วตามกานต์มาครับ ได้พักที่ Tower 2 ห้องอยู่ชั้น 47 ขึ้นลิฟต์โซนสูง
ตัวห้องพักเน้นความใหญ่ อลังการ แต่ไม่ได้หรูหรามาก
หากเทียบกับโรงแรมห้องพักหลักหมื่นขึ้นไปแบบนี้
เว้นเสียแต่ว่าใครจะพักห้องระดับ Luxe Suite นั่นก็สมราคา
การบริการที่สุดแสนจะประทับใจ ชนิดที่ว่าไม่อยากออกไปไหน
.
สามารถจองได้จาก www.traveloka.com หรือที่ app Traveloka ครับ
ช่วงนี้มีโปรโมชั่นออกมาเรื่อยๆ เจอราคาถูกใจก็กดจองได้เลย
แนะนำว่าหากอยากได้ชั้นสูง ให้เลือกเป็นห้อง sky view เพิ่มเงินอีกนิดหน่อย
แต่ได้วิวที่สวยงามอลังการคุ้มราคากว่ามากๆ เลยครับ
ใครที่จองไปแล้วก็สามารถเปลี่ยนวันเข้าพักได้ ด้วยฟีเจอร์ Easy Reschedule
ทำผ่าน app raveloka ได้เลยสะดวกดีครับ
.
ส่วนตัวที่กานต์ชอบและเห็นว่าดีงามที่สุดก็คือวิวบนชั้น 57 ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำ
ซึ่งเป็นพื้นที่ปิดกั้นเฉพาะสำหรับแขกของโรงแรมเท่านั้น
จึงกลายเป็นศูนย์รวมความบันเทิงครบครันที่กองกันอยู่บนชั้นนี้
หากเป็นแขกด้านนอกจะไปเสียตังค์ชมวิวได้ที่ Skypark Observation Deck ครับ
เสียดายที่หอบขาตั้งกล้องไปด้วยไม่ได้ ภาพเลยอาจจะดูเกรนๆ เล็กน้อย
แต่ก็ต้องขอกราบในความอลังการของวิว
ทั้งฝั่งสระว่ายน้ำที่มองเห็นหมู่อาคารน้อยใหญ่ของสิงคโปร์
ส่วนอีกด้านเป็นบ่อส่วนตัว เน้นวิวของ Garden By the Bay Singapore และอ่าวซึ่งก็สวยไปอีกแบบ
.
2 ทุ่มมีการแสดงแสงสี ตามปกติ
แต่ที่ไม่ปกติคือชมจากบนชั้นดาดฟ้านี่แหละครับ
แสงไฟสาดจากมุมสูงสวยงามจับตาต้องใจ
ซาวด์ดังอลังการเล่นใหญ่กว่ารัชดาลัยมากๆ
แต่หากใครจะลงไปชมบริเวณด้านล่างลานน้ำพุก็ได้ ก็ตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน
.
นอกจากนั้นยังมีส่วนของห้างสรรพสินค้า The Shoppes มีแบรนด์เนมเพียบเลยครับ
ใกล้กันมี ArtScience Museum ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการน่าสนใจมากมาย
เดินทะลุห้างไปจะเป็นทางเชื่อมตัดผ่านโรงแรมเพื่อนำไปสู่ Garden by the Bay
สวนป่าชื่อดังที่โดดเด่นด้วย Super Trees 18 ต้นเรียงรายอยู่ในสวน
และยามค่ำคืนจะโดนเด่นด้วยแสงไฟที่เปลี่ยนสี สวยงาม
ด้านในยังมี Cloud Forest และ Flower Dome
เป็นโดมดอกไม้นานาพันธุ์และโดมสวนน้ำตกในร่มสูงเท่าตึก 7 ชั้น
อลังการงานสร้างมาก สมแล้วก็การเป็นเมือง Garden in the City ที่สิงคโปร์
.
หากมีเวลาเรายังสามารถเดินเท้าจาก Garden by the Bay ใช้เวลาราว 10 นาที
เพื่อไปยัง Marina Barrage เป็นสวนสาธารณะบนสันเขื่อน
ที่คนสิงคโปร์นิยมมาพักผ่อน ออกกำลังกาย และชมวิวที่นี่
เพราะจะมองเห็นอาคารต่างๆ ของสิงคโปร์ รวมถึงโรงแรม Marina Bay Sands
ในอีกมุมมองด้วยครับสวยงามจริงๆ
.
ถ้ามีโอกาสก็อยากให้มาเที่ยวพักผ่อนที่สิงคโปร์กันนะครับ
.
“Dare to live the life you’ve always wanted.”
.
#KANT#KΔNT#leisuretravel#hotellifestyle
#journalisttravel#hotelsblogger
#travelblogger#luxuryblogger#luxurytravel
—
โรงแรม Marina Bay Sands
RESERVATIONS +65 6688 8888
room.reservations@marinabaysands.com
https://www.marinabaysands.com/hotel.html
เลือกรูปนี้มาเป็นรูปแรกๆ เพราะอยากให้เห็นภาพรวมของอาคารทั้ง 3 ที่มาประกอบร่างกันเป็น Marina Bay Sands โรงแรม ศูนย์การค้า ร้านอาหารและคาสิโน แลนด์มาร์กชื่อดังของสิงคโปร์ จะเห็นว่า วิวของห้องพักทั้ง 2 ด้านจะต่างกัน ด้านที่เราเห็นอยู่นี้คือวิว Garden by the bay และอ่าว ส่วนอีกด้านคือ City View ที่เป็นหมู่อาคารน้อยใหญ่ ชอบแบบไหนสามารถเลือกได้ครับ
ห้องที่กานต์พักเป็นวิวหมู่ตึกของสิงคโปร์ครับ จะมองเห็นโรงแรม The Fullerton Hotel Singapore เห็นอาคารโอเปร่า มองเห็นแสงสีเสียงตอนกลางคืนค่อนข้างชัดเจนและเป็นส่วนตัว อาจจะยอมเพิ่มเงินอีกสักหน่อยเพื่อให้ได้ห้องชั้นสูงขึ้น สามารถดู type ห้องพักและสำรองห้องพักได้ที่ www.traveloka.com ได้เลยครับ
นอกจาก www.traveloka.com แล้ว ยังสามารถทำรายการจองผ่าน app ได้ด้วยครับ ดาวน์โหลดได้ทั้ง Play Store และ App Store
สามารถเลือกจองโรงแรมได้ทั่วโลก จะกี่ดาวก็มีให้จองหมดครับ อย่างกานต์ก็จองผ่าน Traveloka เพราะว่าช่วงที่จองมีโปรโมชั่นพอดี
ถ้าใครพลาดโปรนี้ก็ติดตามเรื่อยๆ นะครับ จะมีมาบ่อยๆ ได้ลดไปก็ไม่ใช่น้อย เอาเงินส่วนต่างไปกินอาหารอร่อยๆ ที่สิงคโปร์ได้ครับ
หลังจากจองโรงแรมผ่าน www.traveloka.com เรียบร้อยก็เดินทางมาโรงแรมโดยไม่ต้องปริ้นท์ใบจองมาให้ยุ่งยาก เพราะทุกอย่างถูกนำส่งไว้ใน account ของเราเรียบร้อยแล้วครับ เป็นระบบที่โอเคมากๆ ทำให้เราไม่ยุ่งยากในการจัดเตรียมเอกสาร แถมเลื่อนวันก็ง่าย เป็นฟีเจอร์ใหม่ของทาง traveloka เขา
จากสนามบินชางงี จะเลือกใช้บริการ MRT หรือ grab ก็ได้ครับ
ถ้าเป็นรถไฟฟ้า ลงที่สถานี Bayfront แล้วเดินออกมาทางออก C หรือ D ส่วนถ้าเป็นแท็กซี่ ก็ส่งถึงหน้าโรงแรมเลยครับ ค่าแท็กซี่ประมาณ 15 ดอลล่าร์สิงคโปร์ (ราวๆ 360 บาท)
โรงแรม Marina Bay Sands สามารถเข้าได้ทั้ง 2 ฝั่งประตู สำหรับใครที่มารถส่วนตัวหรือแท๊กซี่ครับ และแน่นอนว่าสามารถเช็คอินได้ทั้ง 2 ฝั่งเช่นกัน คือฝั่ง Tower 1, 2 และฝั่ง Tower 3 ซึ่งฝั่งนี้จะคนน้อยกว่าครับ ถ้าไม่อยากรอคิวนานก็เดินเลยมาหน่อยก็ได้ครับ
ส่วนผมเช็คอินที่ Tower 1
ชอบแสตนด์ดอกไม้นี้ครับ ดูเรียบแต่โก้ ดี ยิ่งเวลามีไฟส่องมายิ่งสวย
จุด Check In / Check Out ของทางโรงแรมครับ สามารถเปิด app Traveloka แล้วโชว์ให้ฟร้อนท์ดูได้เลย พร้อมกับยื่นพาสปอร์ตให้ รวดเร็วทันใจและง่ายมากครับ
ใช้เวลาเช็คอินไม่นาน เพราะว่ามาถึงก็ใกล้ค่ำแล้วครับ มัวแต่ไปเดินเล่น Jewel ในสนามบินชางงี เพราะอยากหนีช่วงเวลาเช็คอินพีคๆ คือ บ่าย 3 เพราะคนจะเยอะมากกกกก
ได้คีย์การ์ดแล้วครับ ผมจองผ่าน Traveloka เป็นห้องแบบ Deluxe Sky View คือเป็นห้องชั้นสูงครับ จะแพงกว่าห้องชั้นล่างอยู่นิดหน่อย ลองดูในเวปนะครับมีให้เลือกอยู่หลายแบบ
ห้องผมอยู่ Tower 2 ชั้น 47 จากห้องพักชั้นสูงสุดคือ 54 ส่วนชั้น 55 เป็นฟิตเนส บันยันทรี ซึ่งปิดปรับปรุง!! เริ่มวันที่ผมเข้าพักพอดี อดวิ่งไปชมวิวไปเลย เซ็งมาก
เดินออกมาจากฟร้อนท์ด้วยความเซ็งเล็กน้อย 555 หันกลับมาอีกด้านจะเป็น Concierge ไว้คอยให้บริการแขกของโรงแรมครับ เราเดินผ่านมาเพื่อจะไป Tower 2 ระหว่างทางเดินก็จะเจอร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ตลอดทาง เพราะโรงแรมใหญ่มาก
บริเวณชั้น 1 ทั้ง 3 อาคารจะเชื่อมกันนะครับ เดินเพลินๆ ก็จะมาถึงทางขึ้น Tower 2 ซึ่งลิฟต์จะมี 2 โซนนะครับต้องดูดีๆ ถ้าเป็น High Floor จะเดินเลยมาอีกนิดทางด้านขวาของรูป
ระหว่างทางเดินชั้น 1 หากเงยหน้ามองขึ้นไปจะเจอสะพานเล็กเชื่อมอยู่ด้านบน ผมอดสงสัยไม่ได้เลยไปหาคำตอบมาได้ความว่าเป็นสะพานที่เชื่อมจากตัวห้างสรรพสินค้า The Shoppes เพื่อจะลัดผ่านโรงแรมไปยัง Garden by the Bay ทะลุไปเลยครับ เก๋มาก
มาถึงชั้น 47 กันแล้วครับ หูมีอาการอื้อเล็กน้อย ลิฟต์รวดเร็วทันใจดีและมี 6 ตัวด้วยกัน เป็นการทะยานมาสู่โซนสูงเลยครับ ทำให้ใช้เวลาไม่นาน
บริเวณโถงทางเดินของชั้นตกแต่งด้วยไฟสีเหลืองทองซึ่งเป็นสีของโรงแรม ดีไซน์เป็นไปอย่างเรียบง่าย แต่ก็ยังดูหรูหราครับ
ห้องพักของกานต์จะเป็นห้องมุมอยู่ด้านในสุดเลยครับ เป็นห้องแบบ Deluxe Sky View เปิดประตูห้องมา ด้านขวาเป็นกระจกเงา เพื่อทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น มีภาพเขียนประดับอยู่ เพื่อแยกเลเยอร์จะได้ไม่งง เดินชนทะลุกระจก ส่วนด้านซ้ายเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเป็นโซนห้องน้ำครับ
สังเกตดีไซน์ของที่นี่จะเป็นสี่เหลี่ยมเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นพรมลายต่างๆ การใช้วัสดุตกแต่งหลักเป็นไม้ปิดผิว เพื่อให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง แต่สังเกตว่าเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ภายในห้องพักมีความชนเหลี่ยม แข็งๆ ทื่อๆ แต่ก็ลดทอนความแข็งกระด้างด้วยโต๊ะกลางแบบโค้งมน
ดีไซน์ในห้องเป็นแบบโมเดิร์นครับ เน้นคุมโทนสีเหลืองทอง น้ำตาล ห้องค่อนข้างกว้างราว 30 ตารางเมตร พักได้ 2 คนสบายๆ ไม่อึดอัด ใช้กระจกเงาเพื่อเพิ่มมิติความกว้างเข้าไปอีก
ไฮไลท์ของห้องคือผนังกระจกบานใหญ่ที่มองออกไปเห็นวิวหมื่นล้าน แม้ภายในห้องจะตกแต่งแบบเรียบง่าย ไม่เน้นดีไซน์มากนัก แต่ก็ยังมองเห็นรายละเอียดของการออกแบบเล็กๆ น้อยๆ ที่เพิ่มเข้ามา เช่นการจัดเซ็ทของไฟให้เข้ากับโต๊ะกลางทรงรีสีดำ เป็นต้น
ขอดื่มด่ำวิวสิงคโปร์ให้ชื่นใจ แม้ว่าจะมีฝนตกโปรยปรายลงมาก็ตาม แต่จะว่าไปก็อาจจะเป็นความบังเอิญที่สีสูทเป็นสีเดียวกับห้องและคล้ายสีผ้าม่าน ราวกับว่านัดกันคุมโทนก็มิปาน
วิวอาคารน้อยใหญ่ใจกลางสิงคโปร์ครับ ตรงกลางภาพคือโรงแรม The Fullerton Bay Hotel Singapore อีกโรงแรมหรูที่มีประวัติศาสตร์น่าสนใจและการตกแต่งดีไซน์ที่สวยงามมาก อยากไปพักที่นี่เหมือนกัน ใครเคยไปพักมาแล้วบ้างเล่าให้ฟังหน่อยนะครับ
จิบกาแฟจากเครื่องชง แล้วดื่มด่ำกับวิวห้องพักสมใจ จากนั้นก็ได้เวลาพักผ่อนกันสักครู่ นั่งดูโทรทัศน์ของโรงแรมก่อนว่ามีอะไรน่าสนใจ เห็นว่ากำลังจะมีละครเวที The Phantom of the Opera มาเปิดการแสดงที่มารีน่า
มาดูในส่วนของห้องน้ำกันบ้าง ก็ยังคงคอนเซปต์เรียบหรูโก้ มีเพียงอ่างอาบน้ำทรงไข่กลางห้อง ที่ประดับด้วยกระจกเงาและเน้นสีเหลืองทอง น้ำตาล ส่วน Amenity ก็มีบริการครบครัน เป็นแบรนด์ของโรงแรมเองครับ ห้องน้ำถือว่าธรรมดาไม่มีอะไรน่าจดจำเป็นพิเศษ
เสร็จจากภารกิจสำรวจห้อง ก็ไปเดินเล่นตามจุดต่างๆ ของโรงแรมกันบ้างดีกว่า
ระหว่างรอลิฟท์ เก็บมาภาพนึง สวยดีเหมือนกันครับ เป็น red dot ท่ามกลางความ monochorme ของเมือง
ในประเทศที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้ จำเป็นที่ต้องมีการจัดการวิถีชีวิตของตัวเองให้บาลานซ์ให้ได้นะครับ ไม่งั้นเครียดตายเลย
มองจากสระว่ายน้ำไปทางหัวเรือ จะเห็นห้องอาหาร CÉ LA VI Restaurant and SkyBar ซึ่งวิวสวยและโรแมนติกมากครับ บริการสำหรับผู้ที่จะมารับประทานอาหาร หรือใครจะมาจิบเบาๆ ที่ SkyBar ก็ได้ เพื่อซึมซับบรรยากาศของพระอาทิตย์ตกยามเย็น เน้นวิวสวยๆ
ส่วนผมขอเก็บภาพตัวเองบ้าง ได้มาประมาณหนึ่ง เพราะคนเยอะมาก แถมยังต้องตั้งกล้องถ่ายตัวเองจากขอบสระด้านใน เล็งมายังริมสระด้านที่ติดกับขอบตึก ทำเอาหวาดเสียวว่ากล้องจะหล่นน้ำหรือมีใครมาเดินชนเอา ต้องรีบแชะแล้วรีบเก็บกล้องครับ
หยิบกล้องมาลองถ่ายจากสระว่ายน้ำดูบ้าง เพื่อจะได้แบ่งปันบรรยากาศจากชั้น 57 ให้หลายคนได้ดูกันว่ามันสวยขนาดไหน
ภาพอาจจะดูเกรนไปบ้างเพราะดัน ISO ขึ้นไปสูงสุดๆ เพราะเป็นการถ่ายจากในสระว่ายน้ำ ไม่สามารถพกขาตั้งกล้องไปได้อยู่แล้ว แถมลมก็แร๊งแรง มือสั่นตลอดเวลา ต้องเกร็งมากเป็นพิเศษ
แต่ก็ได้รูปมาฝากกันประมาณนึงครับ ถูกใจหรือไม่ก็บอกกันด้วยนะครับ
รูปนี้ผมก็ชอบ ท่ามกลางสีเหลืองทองก็ยังมีสีชมพูเข้ามาตัดให้พอชื่นใจ บ่งบอกว่า บางทีชีวิตเราจะต้องมีสีสันอื่นเข้ามาตัดบาง พอให้ดูแตกต่างและเปลี่ยนแปลง แต่ไม่เปลี่ยนไป
มาดูวิวฝั่ง Garden by the Bay บ้าง อาจจะมืดไปนิด เพราะไม่ได้ใช้ขาตั้งครับ มือล้วนๆ เลย แต่สวยไปอีกแบบครับ ว่าไหม
รวมภาพบรรยากาศและสีสันจากชั้น 57 ของ Marina Bay Sands
2 ทุ่ม เป็นเวลาแสดงแสงสี ตามปกติ ชมจากด้านบนสระว่ายน้ำก็สวย หรือจะชมแบบใกล้ชิดบริเวณชั้นล่าง ก็ดูตื่นตาตื่นใจดีครับ
มาสิงคโปร์ทุกครั้งก็นั่งดูทุกครั้ง ก็เปลี่ยนฝั่งดูไปเรื่อยๆ
กลางคืนสามารถเดินเล่นบนสะพานเฮลิกซ์ได้นะครับ เป็นสะพานเกลียวประดับไฟ มาถ่ายรูปเล่นบนสะพานได้ กานต์ว่ากลางคืนเป็นช่วงเวลาที่น่าออกมาเดินเล่นมากๆ ครับ เพราะอากาศดีไม่ร้อน เดินถ่ายรุปไปเรื่อยๆ เพราะประเทศนี้แสงสีเค้าเยอะดีครับ มองไปทางไหนก็สวย
จากโรงแรมมารีน่า เบย์ แซนด์ สามารถเดินมายัง ArtScience Museum ได้ไม่ไกลครับ อยู่ฝั่งเดียวกัน ที่นี่ก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงผลงานทางศิลปะและวิทยาศาสตร์ตามชื่อ
ในช่วงที่ผมไป เค้าเพิ่งเปลี่ยนเอานิทรรศการ มินิมอล ออกไปพอดี โอ๊ยยย เสียดายมาก เลยไปดู @teamlab Singapore แทน ก็คล้ายๆ กับที่ญี่ปุ่นที่เคยไปดูมาครับ เพลินๆ ดีเหมือนกัน ส่วนมากที่นี่จะเน้นกิจกรรมสำหรับเด็กและครอบครัว
มีกิจกรรมแต่งแต้มจินตนาการด้วยการระบายสี น่ารักดีครับ แต่เท่าที่ดูไม่ใช่เด็กๆ หรอก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ที่แหละ … #เราต่างมีความเป็นเด็กอยู่ในตัวเอง
ผมซื้อบัตรเข้าชม ArtScience Museum จาก Traveloka ซึ่งเลื่อนลงมาด้านล่างจะเจอการจับคู่กันของบัตรที่หลากหลายมาก กานต์เลือกแบบคอมโบ เป็นชม Art Science Museum และนิทรรศการ Digital Canvas ซึ่งจัดแสดงบริเวณลานหน้าศูนย์อาหารของห้าง The Shoppes ครับ
ตัวกิจกรรม ก็เน้นสำหรับเด็กเช่นกันแต่ผู้ใหญ่ก็เล่นได้ จะมีไฟดิจิตอลตรงกลางลาน ให้เพื่อเราได้ใช้จินตนาการกับมันอย่างเต็มที่ในการสร้างสรรค์การเคลื่อนไหว น่าสนุกดีเหมือนกัน
ผมก็นั่งทานข้าวมันไก่ไปดูไป
The Shoppes เป็นห้างขนาดใหญ่ นอกเหนือไปจากออร์ชาร์ดของสิงคโปร์ที่รวมแบรนด์ดังไว้มากมาย ที่นี่ก็เช่นกัน มีร้านค้าตั้งอยู่มากมายสองฝั่งทางเดินครบทุกแบรนด์ ข้างในออกแบบคล้ายๆ โดม มีหลายโซนหน่อย แต่ก็มีป้ายบอกตลอดทาง
ถ้าใครอยากมาเดินก็นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Bayfront Station ได้เลยครับ
จากในห้าง The Shoppes เรามองหาป้ายแล้วเดินขึ้นบันไดเลื่อนมายังชั้นบนสุด เพื่อจะไป Garden by the Bay ซึ่งจะต้องเดินออกมายังลานด้านนอกของห้าง และปรากฎว่าเป็นจุดชมวิวถ่ายรูปที่สวยอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นการค้นพบโดยบังเอิญ
และอย่างที่บอก คือการเดินทะลุเข้ามาในโรงแรม เพื่อจะลัดออกไปยังสวน เมื่อเดินออกมาจะพบกับวิวสวยๆ เป็นชิงช้าสวรรค์ ท่ามกลางน้ำพุที่เต้นระบำตลอดเวลา
เดินมาอีกนิดจะเป็นจุดชมวิว เพื่อถ่ายรูปคู่กับต้นไม้สัญลักษณ์ของ Garden by the Bay เสียดายที่มาช่วงเย็น ยังไม่ทันเปิดไฟ ถ้ามาช่วงค่ำคงจะสวยกว่านี้ โดมตรงกลางที่เห็นจะเป็นร้านอาหาร สามารถขึ้นมานั่งจิบแล้วชมวิวด้านบนนี้ได้
ส่วนใครที่อยากเดินบนสะพานก็ซื้อบัตรแยกขึ้นมาต่างหากได้ครับ
จาก สวนกลางแจ้ง เดินเฉียงมาทางซ้าย เราจะเจออาคารโดมคู่ ซึ่งก็เป็นไฮไลท์อีกอย่างของ Garden by the Bay นั่นคือ Cloud Forest และ Flower Dome
เป็นโดมดอกไม้นานาพันธุ์และโดมสวนน้ำตกในร่มสูงเท่าตึก 7 ชั้น
อลังการงานสร้างมาก สมแล้วก็การเป็นเมือง Garden in the City ที่สิงคโปร์
ด้านในของ Cloud Forest มีดอกไม้แปลกๆ หลายสายพันธุ์ มาให้ชม และสลับหมุนเวียนไปเรื่อย เพราะสังเกตบางจุดจะเป็นเหมือนปลูกแบบไม่ถาวร แต่ก็ดีครับสร้างความเปลี่ยนไปไม่จำเจ
แต่ที่ชอบนอกจากน้ำตกในร่มแล้วก็เห็นจะเป็นดอกไม้ในสวนที่ทั้งหมดสร้างจาก เลโก้ ครับ
ถัดจาก Cloud Forest ก็มาเดินต่อยัง Flower Dome ซึ่งอยู่ติดกัน แนะนำว่าให้ซื้อบัตรเป็นแพ็คคู่เลยครับ แต่ถ้าซื้อผ่าน Traveloka นอกจากจะถูกกว่าแล้วก็ยังสะดวกกว่า ไม่ต้องต่อคิวเพื่อแลกบัตร หรือซื้อบัตร สามารถแสกนโค๊ดจากมือถือได้เลยครับ
ข้างในเป็นโดมดอกไม้นานาพันธุ์ ช่วงที่ไปเป็นการจัดเทศกาลทิวลิปครับ #งานกังหันก็มา
ด้านในโดมจะจัดแบ่งสวนออกเป็นโซนๆ เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษาและทำความเข้าใจ อาจจะเป็นตามทวีป ตามการเจริญเติบโต แต่ก็ดูง่าย ไม่สับสนใจและได้ความรู้คู่ความงามของดอกไม้อีกด้วยครับ
จาก Garden by the Bay สามารถเดินลัดออกมาด้านข้าง เพื่อจะไปยัง Marina Barrage เป็นพื้นที่สาธารณะเหนือสันเขื่อน สามารถมาชมวิว มาออกกำลังกาย วิ่ง ปั่นจักรยานเล่นได้ที่นี่ ท่ามกลางบรรยากาศที่ดูดีมากๆ ครับ ยิ่งตอนเย็นๆ คนยิ่งเยอะ
เราจะเห็นชาวสิงคโปร์และนักท่องเที่ยวมานั่งเล่นกันเต็มไปหมด ปิ๊กนิกก็มี เปิดเพลงเต้น มาวิ่ง มาเล่นว่าว เพราะลมเย็นดี วิวก็สวย มองเห็นชิงช้าสวรรค์ และตึกน้อยใหญ่ แน่นอนว่ามองเห็นโรงแรม Marina Bay Sands และ Garden By the Bay Singapore ยามค่ำคืนด้วยครับ เปิดไฟสีสวยเชียว ลองดูจากรูปแรกๆ ที่ผมโพสต์ให้ดูนะครับ
ผมว่าตรงนี้เป็นจุดพักใจที่น่ามาแวะอีกแห่งหนึ่งของสิงคโปร์
โดยรวมของความประทับใจในโรงแรม Marina Bay Sands อาจจะไม่มาก หากไม่ได้คาดหวัง เช่นการออกแบบตกแต่งที่หรูหรา หรือฟังก์ชั่นที่น่าสนใจภายในห้องพัก แต่จุดเด่นที่กลบได้ทุกเรื่องคือวิวและบรรยากาศที่สวยงามเมื่อมองจากห้องพักหรือไฮไลท์คือสระว่ายน้ำ ชั้น 57 ที่เป็น Signature ดึงดูดใจให้หลายคนอยากมาพักที่นี่ สักครั้ง
เอาเป็นว่า ถ้าอยากเป็นบรรยากาศการพักผ่อนตามโรงแรมทั่วไปในสิงคโปร์ ก็เลือกโรงแรมนี้ได้ครับ รับรองประทับใจในบรรยากาศแน่นอน