LOYLUM ~ eco floating villa
กานต์เพิ่งกลับจากกาญมาครับ (อ่ะ!! งงแมะ) ไปนอนพักเหนื่อยให้ธรรมชาติฮีลใจอยู่บนเขื่อนศรีนครินทร์ ชื่อ “ลอยลำ อีโค่ วิลล่า” เป็นที่พักลอยน้ำเปิดใหม่ ดีไซน์สวยดีครับ ทำมาจากตู้คอนเทนเนอร์
.
เนื่องจากเป็น eco friendly จึงมีการเอานำสัจะวัสดุอย่างไม้เก่ามา Reuse ผสมกับวัสดุอื่นๆ เช่น ไม้ไผ่สานขัดแตะ หลังคามุงจาก ฐานทำจากทุ่นแพจากเหล็กม้วน คำนวนสมดุลอย่างดี เพื่อให้ลอยตัวอยู่อย่างสง กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมรอบข้างที่มีทั้งป่าไม้และผืนน้ำ
.
ที่สำคัญคือจะนอนสบายไม่ค่อยเมาคลื่นหรือรู้สึกโคลงเคลงเท่าใดนัก
.
ทุกส่วนของวิลล่าจะเปิดรับวิวธรรมชาติได้หมด ส่วนตัวผมชอบประตูที่เป็นแบบบานเฟี้ยมเปิดกว้าง ได้ฟีลแบบบ้านพักตากอากาศที่เปิดให้ลมโกรกได้ตลอดทั้งวัน อ่างอาบน้ำแยกตัวออกไปด้านนอก ส่วนห้องสุขาก็ใกล้ชิดธรรมชาติดีครับ
.
อยู่ที่นี่ไม่ต้องกลัวอด มีมินิบาร์ ชา กาแฟ เติมเต็มตู้เย็น มีห้องครัวและส่วนรับประทานอาหารแยกออกไป มีบัทเลอร์คอยดูแลตลอด ตอนเย็นๆ ให้เชฟมาทำกับข้าวให้ทาน ผมรีเควสเป็นอาหารบ้านๆ สไตล์คนเมืองกาญ รสชาติจัดจ้านดีครับ ส่วนอาหารเช้าทาน ABF ง่ายๆ
.
กิจกรรมเยอะดีครับ มีพายคายัค เรือถีบ มีมุมนั่งชิลล์หลายจุด ทั้งศาลากลางน้ำที่แยกตัวออกไปจากเรือน มีเปลให้นั่ง มีกีต้าร์ให้เกาเพลินๆ หรือจะดึงจอโปรเจคเตอร์ลงมา เพื่อจะนอนดูซีรีย์
.
เสียดายที่ไม่มีไมค์จัดมาให้ ไม่งั้นได้คาราโอเกะขับกล่อมผืนป่ากันทั้งคืนละงานนี้
.
“Nature is not a place to visit, it is home.” ผมชอบประโยคนี้มาก ฟีลคือแบบนี้เลยครับ เอาละไปดูภาพที่กานต์ถ่ายมาฝากกันดีกว่าครับ
—
“An ultimate peaceful hideaway”
ทริปนี้ชวนทุกคนมาพักผ่อนพักใจ กันที่กาญจนบุรีครับ
เหมือนถูกปล่อยเกาะ อยู่ในโลกแบบส่วนตัวกันเลยทีเดียว
แค่ได้นั่งชิลล์บนศาลา มองพระอาทิตย์ตกยามเย็น ผมก็มีความสุขละนะ เป็นไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดครับ
“The goal of life is to make your heartbeat match the beat of the universe, to match your nature with Nature.”
บรรยากาศคือเงียบ ต่างจากแพอื่นๆ ที่จะมีเสียงดัง ที่นี่เราจะไม่มีเพื่อนบ้านใกล้ๆ ทำให้ได้ความสงบ แต่มีบัทเลอร์ให้บริการดูแลตลอด
เช็คอินที่ ทอสี เลควิว จากนั้น พนักงานจะนำเราลงแพยนต์แล้วล่องมาที่ลอยลำอีกที
งานก่อสร้างผมดูละ ค่อนข้างคราฟท์และออกแบบดี เลือกใช้วัสดุที่แข็งแรง แทบไม่รู้สึกถึงการสั่นไหว
แยกส่วนพักผ่อน ห้องนอน มุมนั่งพักผ่อนด้านนอก ออกจากกัน เผื่อใครอยากไปใช้เวลาส่วนตัวก็มีให้เลือกหลายมุมดีนะ
ชอบในความประตูบานเฟี้ยม ข้อดีคือเปิดได้กว้าง สุดทุกบาน รับลมได้ตลอดทั้งวัน
ที่นั่งพักใจในห้องนอน น่ารักมาก
ด้านนอกมีเปลตาข่าย เทสละแข็งแรงดีครับ เช้าๆ มานั่งอ่านหนังสือ ผมว่าฟีลดีมาก
ออกแบบให้มองเห็นธรรมชาติรอบด้าน
วันก่อนตีกลอง วันนี้ดีดกีต้าร์ ทำทรงว่าดีดเก่ง
เป็นทริปที่ลืมมมม เอา macbook มา งานการไม่ต้องทำเลยจ้า นั่งๆ นอนๆ ทั้งวัน จะทำผ่านมือถือก็ไม่ค่อยถนัด
ชอบการนำเอาไม้เก่าสร้างเป็นการรียูสที่ดีมาก ได้ฟีลบ้านพักตากอากาศที่รักษ์โลก
ศาลาคนเศร้า
เย็นๆ จะเป็นมุมที่ต้องมาดูพระอาทิตย์ตก วิวสวยมาก
ส่วนที่อาบน้ำจะอยู่ด้านนอก มีทั้งชาวเวอร์แบบเปิดโล่ง
และมีอ่างไม้อยู่ด้านนอก ไม่มีใครเห็นหรอก ไม่ได้อยู่ติดกับใครเลย
จิบเครื่องดื่มๆ เย็นๆ แช่ฟองนุ่มๆ สบายตัวดีมาก
ห้องสุขาก็แบบว่าเปิดโล่งใช้ได้ ห่างจากผืนน้ำด้านนอกเพียงราวผ้ากั้น
มีห่วงยางเพราะเขาห่วงใย ชอบตรงที่ปลูกต้นไม้บนแพได้ด้วยนี่แหละ
คายัคเก่งแล้วหนึ่งงงงง
กลางคืน นอนดูหนัง ฟังเพลง ใจคืออยากร้องเกะมาก แต่หาไมค์ไม่เจอ
บรรยากาศตอนเช้า พระอาทิตย์จะขึ้นด้านหลังฝั่งห้องนอน
ตื่นมาก็วิวนี้เลยจ้า!!!
จริงๆ เป็นคนชอบมานอนแพบนเขื่อนนะ มันเงียบสงบดี เพราะบางทีก็เบื่อทะเล …
ตอนเช้านี้แสงดีมาก ถ่ายมุมไหนก็ส๊วยยยยยยย
มองจากห้องนอนออกไปผ่านห้องครัว และโต๊ะกินข้าว สุดปลายนู๊นจะเป็นศาลาพักใจ มีคนแอบไปนั่งพักอ่านหนังสือสอบแต่เช้าตรู่แล้วหนึ่งงงงง
มีพี่แตน กับน้องใหม่เป็นบัทเลอร์คอยดูแล ต้องการอะไรเรียกได้เลยครับ พี่แตนทำกับข้าวให้ทานทุกมื้อ
เช้าๆ พี่แตนจะไปตลาด ถ้าอยากกินอะไรเป็นพิเศษก็สั่งได้ เช้านี้มีข้าวเหนียวปิ้งกับปาท่องโก๋มาฝาก ส่วนเมนูหลักสั่งเป็นข้าวต้มแบบไทยและ American Breakfast
มื้อเย็นมีทั้งบาร์บีคิว ปิ้งย่าง หรือจะเลือกเป็นอาหารไทยแบบ Chef in Villa ก็ได้ แน่นอนว่ามาเมืองกาญ ต้องทานอาหารป่าสไตล์บ้านๆ ร้อนแรงถึงใจจริงๆ
“For a time, I rest in the grace of the world, and am free.”
เวลาแห่งความสุขผ่านไปเร็วเสมอ แปบๆ ก็ต้องกลับกรุงเทพอีกละ เอาไว้มาใหม่ เพราะขับรถไม่ไกลมาก ราว 2 ร้อยโลนิดๆ