Lord Jim’s

✨แพงหน่อยแต่คุ้มนะ #ล็อปสเตอร์ไม่อั้น🦞

อวยยศให้เป็นบุฟเฟ่ต์อันดับ 1 ในใจ🏆

ไลน์อาหารไม่เยอะเท่าไร แต่ความพรีเมี่ยมคือต้องให้คุณเค้า‼️

________________________________

Lord Jim’s (ลอร์ด จิมส์) เป็นเหมือนบุฟเฟ่ต์ในตำนานของวงการโรงแรมไทยไปเสียแล้วครับ กินมาตั้งแต่ราคาหัวละพันเก้าเมื่อหลายสิบปีก่อน จนถึงตอนนี้สนนราคามื้อค่ำอยู่ที่ 4,002 บาทต่อคน

Lord Jim’s เป็นชื่อของกะลาสีเรือ ตัวละครซึ่งมาจากปลายปากกาของนักเขียนชื่อดังชาวอังกฤษ Joseph Conrad ซึ่งเคยมาพักที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียลตัลเมื่อปี พ.ศ. 2431 แต่ห้องอาหาร Lord Jim’s เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2519 ถ้าเปรียบเป็นคนเราตอนนี้ก็อายุ 46 ปีแล้ว

แก่กว่ากานต์อี๊กกกกกกก

เอกลักษณ์ของ Lord Jim’s ที่แตกต่างจากห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ทั่วไป คือการเป็น Seafood Buffet on Ice จนวางเรียงอาหารทะเลหลากหลายไว้ในน้ำแข็งแกะสลักเป็นรูปเรือสวยงาม เช่นเดียวกับการตกแต่งภายในที่ให้ความรู้สึกหรูหราเหมือนมาทานอาหารในเรือสำราญสไตล์อาร์ตเดโค ถ้าใครนั่งโต๊ะริมกระจกจะมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้ฟีลมากยิ่งขึ้นครับ

เวลาได้เดินตักอาหารตามไลน์ผมว่ามันคือความดีงามและความรื่นรมย์ในการมาทานบุฟเฟ่ต์ ซึ่งเมนูของ Lord Jim’s ก็มีทั้งแคนนาเดี่ยนล็อบสเตอร์ ปูยักษ์ หอยนางรมนำเข้า แฮมไอเบอริโก 36 เดือนจากสเปน แซลมอนกรัฟลักซ์ตำรับนอร์ดิค ฟลัวการ์ซอสสูตรคลาสสิกของทางโรงแรม แฮมอบน้ำผึ้งอร่อยมาก ซูชิ ซาชิมิ อาหารญี่ปุ่นต้องมี และบรรดาชีสนานาชนิดที่วางเอาไว้ รวมถึงของหวานที่ไม่อยากให้พลาด

กานต์กินมาการอง ฟองดูว์ เครปกับข้าวเหนียวมะม่วงไปเยอะมาก … ออกจากร้านปุ๊บ!! เตรียมไปให้หมอตัดขาได้เลย

ตอนหลังผมว่าผมทานบุฟเฟต์ไม่ค่อยคุ้มเลยนะ เลยคิดว่า อยากทานอาหารแบบวัตถุดิบดีๆ ไปเลย เพราะเอาจริงก็กินอยู่ไม่กี่อย่างเอง ตอนมา Lord Jim’s ก็มีแค่อาหารทะเล อาหารญี่ปุ่น ของหวาน

ผมจองมาเป็นรอบค่ำวันเสาร์ ซึ่งจะราคาเท่ากับรอบค่ำวันพฤหัสบดี และวันศุกร์ ส่วนวันอาทิตย์และวันจันทร์จะเป็นราคาที่ถูกกว่า

ห้องอาหารเต็มไวมากต้องจองล่วงหน้าประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ว่าก็ไม่ทันโต๊ะกระจกริมน้ำอยู่ดี

บรรยากาศดีมาก

ไฮไลท์ คืออาหารญี่ปุ่นและซีฟู๊ดออนไอซ์ เรียงมาอย่างสวยงามน่าทานมาก ไลน์อาจจะดูพร่องไปสักนิด เพราะผมมาเลท!! รถติดจริงจัง

ส่วนของหวานห้ามพลาดเด็ดขาด ปกติเราจะเผื่อท้องไว้ประมาณ 10-15% ในการเติมของหวานลงไปให้ครบไลน์ แต่สำหรับที่ Lord Jim’s ต้องเผื่อไว้ประมาณ 30-40% เพราะของหวานคืออร่อยมาก

สเตชั่นที่เป็นไฮไลท์จะอยู่ฝั่งนี้ มีอาหารญี่ปุ่น ซีฟู๊ด แฮมต่างๆ คนจะเยอะหน่อย ต้องคอยสแนปภาพไกลๆ ตอนใกล้ปิดเอา

ซีฟู๊ดคือนิพพาน เรียงรายกันในเรือน้ำแข็งแกะสลักสวยงามพร้อมตัวอักษร L J

Lobster ไม่อั้น มันเริ่ด!! ตรงนี้ เนื้อหวานกรอบเด้งแบบไม่ต้องทานคู่กับน้ำจิ้มใดๆ

ปูวววววววว ความดีงามคือเติมตลอดไม่มีพร่อง ไม่มีให้ต้องร้องขอหรือรอถามว่า “หมดแล้วเหรอครับ”

สารพัดหอยนางรม สดมากกกกกกก เนื้อหวานทานพร้อมเครื่องแนมที่จัดวางไว้ด้านข้าง

ไม่นิยมตักอาหารมาวางเต็มโต๊ะแล้วถ่ายรูป ขอทีละจาน เพราะเติมได้ไม่อั้น เราไม่ต้องสต๊อกของกินไว้

ข้าวปั้นดูจะตัดกำลังไปสักหน่อย ส่วนตัวว่าข้าวเปรี้ยวไปนิด แต่เนื้อปลาชิ้นใหญ่และสดดีครับ

จานแรกเวอร์ชั่นลองก่อน อันไหนอร่อยเดี๋ยวไปหยิบเพิ่ม

สลัดอโวคาโด ถ้วยนี้อร่อย หอมมันดี

แซลม่อนรมควันชิ้นหนากำลังดีฃ

สเตชั่นแฮมจะอยู่ข้างๆ ซีฟู๊ด ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไร แต่ไฮไลท์คือ แฮมไอเบอริโก 36 เดือนจากสเปน

เนื้ออบสไลด์มาลองชิมดูก่อน หอมเครื่องเทศและกลิ่นสโมคดีครับ

สถานีสำหรับคนรักชีส มีให้เลือกเยอะมาก แต่ไม่ค่อยได้ทานเลยครับ

เพราะเลยมาที่ตับห่านมากกว่า มาพร้อมกับซอสสูตรพิเศษจากทางโรงแรมทานคู่กับแอปเปิ้ลอบชินนามอน

เทมปุระผมชอบมากกกก อ้วนแหละ ดูออก แต่ทำไงได้ แป้งกรอบ กุ้งเนื้อนุ่มเด้งดีมาก กินไปเยอะสุด

เป็ดปักกิ่ง ทานได้ทีเดียวไม่ค่อยปลื้ม เพราะแป้งค่อนข้างแห้งและแข็งไว อาจจะเพราะเราสั่งมาแล้วยังไม่ทานทันที ไม่ถึงกับแย่ แต่คิดว่า เคยทานที่อร่อยกว่านี้

ผ่านครับ!!

กุ้งเผา ตับห่าน เมนูทานได้เรื่อยๆ อาศัยน้ำจิ้มซีฟู๊ดคอยตัดเลี่ยนเอาครับ

Jeffrey Wilkes เป็นดีไซน์เนอร์ที่ออกแบบตกแต่งอาคารริเวอร์ วิงและห้องอาหาร Lord Jim’s โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเรือสำราญสไตล์อาร์ตเดโค ที่มีความโค้งมนของไม้และทองเหลือง

ติ่มซำ ก็อร่อยครับเป็นเนื้อหมูผสมกุ้ง เนื้อเด้งดีครับ ชอบมากทานไป 3 เข่งได้

ซี่โครงอบคือยั่วยวนมาก

สเตชั่นของร้อนก็น่าสนใจ ซี่โครงแกะอบ เนื้ออบ สไลด์บางๆ จะได้กินได้หลากหลาย อยู่ใกล้กับสเตชั่นพาสต้าเส้นสดโฮมเมดที่มาพร้อมกับซอสนานาชนิดจากห้องอาหารเชาว์ เทอราซซ่า ซึ่งผมว่าทานที่ร้านตอนนั้นก็อร่อยแล้ว

แฮมอบน้ำผึ้งมัลเบอร์รี่ออร์แกนิค จานนี้ห้ามพลาด!! แฮมได้ความหอมมาจากน้ำผึ้งออร์แกนิค จากฟาร์มผึ้งของโรงแรม ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์

สเตชั่นสลัด ขออนุญาตผ่านก่อน วันนี้ชีทเดย์ เมื่อวานก็ใช่นะ 555

มาละ ของหวาน รีบไปตักก่อนเลยครับ เพราะสักพักถ้าหมดอาจจะเปลี่ยนเมนูใหม่ ยกให้เค้าเถอะสำหรับของหวานที่นี่

มาการอง ของ แมนดาริน โอเรียนเต็ล ถ้าไปซื้อแยก ตีง่ายๆ ชิ้นละ 55 บาท ทานสัก 10 ชิ้นมื้อนี้ก็คุ้มแล้ว

เครปอร่อยมาก ได้ยินจากโต๊ะข้างๆ แว่วๆ มา เลยต้องขออาสาตามไปลอง

สั่งไปคนละสองจาน สบายใจ

ของหวานแบบไทยๆ ก็มี ทั้งบัวลอยเผือกเนื้อนุ่มหนึบ สังขยาฟักทอง ขนมใส่ไส้ และที่ชอบมากยกให้ข้าวเหนียวมะม่วง ปอกมะม่วงวางไว้ทีละครึ่งลูกกันไปเลย

ทานจนร้านปิด เลยได้ภาพบรรยากาศมานิดหน่อย ไม่กล้าถ่ายมาก จะรบกวนอรรถรสการกินของผู้อื่น เลยไม่ค่อยได้ไปรีวิวบุฟเฟ่ต์มาให้ชมกันสักเท่าไร

แต่ที่ Lord Jim’s คือต้องไปสักครั้ง บอกได้แค่นี้

จองโต๊ะได้ที่เบอร์ 0-2659-9000

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน