#ใครมีความฝันว่าอยากไปใช้ชีวิตติดทะเลเหมือนกานต์บ้างไหมครับ
ผมชอบที่จะตื่นเช้าๆ มาออกกำลังริมชายหาด ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น จิบกาแฟ มีเวลาพักผ่อนสบายๆ ก่อนจะเริ่มงานแบบ Work from Anywhere แน่นอนว่าโควิดทำให้วิถีชีวิตเราเปลี่ยนไป
“หัวหิน” ดูจะเป็นโลเคชั่นที่น่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการของผมได้มากที่สุด เพราะไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ได้ฟีลเหมาะสำหรับเป็นที่พักตากอากาศ มีธรรมชาติที่สวยงาม ชายหาดเงียบสงบไม่พลุกพล่าน สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีร้านอาหารอร่อยๆ หลายร้านเลือกมาเปิดที่นี่
InterContinental Residences Hua Hin คือที่พักตากอากาศที่ผมมองว่าน่าสนใจที่สุดในเวลานี้ มีความ Rare Item เพราะเป็นคอนโดมิเนียมสุด Luxury ที่อยู่ติดชายหาด ผืนสุดท้ายใจกลางเมืองหัวหิน ปากซอยหัวหิน 71 ด้านหน้าติดถนนเพชรเกษม เดินทางสะดวกมากครับ
ด้วยความที่ทำงานอยู่สาย Hospitality ผมมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับเชนหรู InterContinental โรงแรมและรีสอร์ตระดับ World-Class ที่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งที่หัวหินก็มีเหมือนกัน แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นคือนอกจากจะมี Resort แล้วยังมี InterContinental Residence เป็นแห่งแรกของไทยอีกด้วย
เมื่อผมขับรถมาจอดที่ Drop-off ก็จะมี Concierge Service คอยอำนวยความสะดวกเรื่องกระเป๋า เราเดินผ่านสวนและพื้นที่ส่วนกลางซึ่งให้มากว่า 70% ของพื้นที่หรือราวๆ 4 ไร่ ถือว่าเยอะมากครับ โดยเฉพาะสระว่ายน้ำขนาดใหญ่มีด้วยกันถึง 7 สระ พร้อมกับ Private Beach ดูอลังการมากครับ นับว่าเป็นแปลงที่ดินหน้าหาดกว้างและสวยมาก สมกับที่ทุบสถิติราคาในการซื้อขายที่ดินสูงถึงไร่ละ 150 ล้านบาท!!
ระหว่างเดินผมเห็นงาน Exterior ของ Residence ออกแบบได้สวยมาก มีกลิ่นอายโคโลเนียลซึ่งกลายเป็น Signature ของหัวหินไปเสียแล้ว มี Facade ไม้อยู่ในทุกห้อง ดูคลาสสิคมาก ทุกยูนิตหน้ากว้าง ผมจึงเต็มอิ่มไปกับวิวทะเลผ่านประตูกระจกแบบ Full Height เกือบทุกห้องของที่นี่จะมองเห็นเป็นวิวทะเล (Seaview) เสียดายที่ผมจองเพนท์เฮาส์ไม่ทัน (ฮา) เพราะห้องนี้มีด้านหน้าติดทะเลกว่า 9 เมตร มองเห็นวิวทะเลได้ถึง 270 องศา และทั้งโครงการมีเพียง 2 ห้องเท่านั้น น่าเสียดายที่ชิงขายหมดไปเสียก่อนแล้วสินะ
.
เราจะไปเดินชมโครงการพร้อมกันตั้งแต่ด้านหน้า เรื่อยไปจนถึง Beach Pavilion ด้านหน้าชายหาด พักผ่อนกับบรรยากาศสบายๆ ชายทะเลหัวหิน จากนั้น ไปชมห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom Premier 50 ตร.ม. ซึ่งตอนนี้ใกล้จะขายหมดแล้วเหมือนกันครับ
—
เมื่อมาถึงที่พัก นอกจากจะออกแบบสวยสไตล์ ได้วิวทะเลเหมาะกับการพักผ่อนแล้ว
การเป็น Branded Residence ก็คือโครงการที่อยู่อาศัยที่มีการ Collaborate กับแบรนด์ชื่อดัง เพื่อยกระดับความ Luxury โดยที่นี่จะเป็น InterContinental Residences แห่งแรกของไทย เติมเต็มความพิเศษด้วยบริการที่ได้มาตรฐาน IHG เพื่อการันตีประสบการณ์พักอาศัยเหนือระดับ
ให้เราได้พักผ่อน ใช้ชีวิตกันแบบสบายๆ ในบรรยากาศที่ Vibes มากของหัวหิน มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ติดทะเลให้เราได้ฟินทั้งวัน
การจะใช้ชื่อ InterContinental Residences นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ ผมรู้มาว่าก่อนเซ็นสัญญา ทาง IHG จะต้องพิจารณาก่อนว่าโครงการอยู่ในทำเลที่ดีเหมาะสมกับแบรนด์หรือไม่ และต้องทำตามมาตรฐาน IHG ให้ได้ครบ เช่น ห้องชุดต้องมีพื้นที่ใช้สอยไม่ต่ำกว่า 45 ตร.ม. ตลอดจนการออกแบบและตกแต่งในสไตล์ที่สื่อถึงความเป็น IHG ที่มีความเรียบหรู ดูมีเอกลักษณ์และสะท้อนความเป็นตัวตนของท้องถิ่นที่ตั้งออกมาได้อย่างน่าสนใจ
แต่ก็ต้องยอมรับว่า พราว เรียลเอสเตท เองก็ไม่ธรรมดา เพราะมีประสบการณ์บริหารโครงการระดับ Luxury อย่าง Park 24 และรีสอร์ตหรูคู่หัวหินอย่าง InterContinental มาแล้วจึงเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมากในการสร้างสรรค์ที่พักอาศัยระดับโลกใจกลางเมืองหัวหินเช่นนี้
เมื่อมาถึง จะพบกับ Lobby ที่ออกแบบได้สวยมาก ซึ่งต้องบอกว่ามาตรฐานภาพลักษณ์ของ IHG ตลอดจนการให้บริการนั้นไม่ธรรมดาเลยครับ สมกับความเป็นแบรนด์หรูระดับโลก ซึ่งผมได้ไปสัมผัสมาแล้วต้องบอกว่าประทับใจมาก
ไม่ว่าจะเป็นบริการ Concierge Service คอยอำนวยความสะดวกตั้งแต่เราลงจากรถจนถึงวันกลับกรุงเทพ มี Butler พนักงานส่วนตัวคอยดูแลเราตลอดการเข้าพัก
ถ้าหิวก็มีบริการ In-room dining บริการจัดเตรียมอาหารมื้อพิเศษส่งตรงถึงห้อง Private Chef บริการจัดเตรียมเชฟสำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์ หรือจะไปนั่งที่ Beach Pavilion แล้วสั่งอาหารจาก 111 Social Club ที่อยู่ติดกันมาทานก็ได้เช่นกันครับ
นอกจากนี้ ยังมีห้องสปาส่วนตัวพร้อม Therapist ฟิตเนส มีบริการแม่บ้านคอยทำความสะอาดห้องพักและพื้นที่ส่วนกลาง มีบริการซักรีดชุดเครื่องนอน บริการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย พื้นที่ส่วนกลางมีอินเตอร์เน็ตไวไฟทุกจุด กิจกรรมพิเศษทุกวันหยุด Happy Weekend’s ตลอดจนมีรถรับส่งไปยังสถานที่สำคัญใกล้โครงการฯ เรียกได้ว่าสะดวกครบครันให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงเลยครับ
ภาพแรกที่เราจะเห็นหลังเดินผ่าน Entrance Area เข้ามาด้านในคือผืนน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางทอดยาวขนานไปกับตัวอาคารที่พักอาศัยเรื่อยไปจนถึงด้านหน้าชายหาดเลยครับ
ผมชอบสีสันสดใสของน้ำและท้องฟ้า ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ที่ปลูกไว้จนเต็มพื้นที่ และมีสีน้ำตาลจากไม้เข้ามาทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ร่มรื่น เหมาะสำหรับพักอาศัยและพักผ่อนไปในคราวเดียวกัน
ผมเดินผ่าน Water Court ด้านหน้าสุดที่ติดกับ Lobby เดินไปก็สังเกตเห็นว่าการออกแบบของที่นี่เน้นอำนวยความสะดวกให้กลุ่มคนที่หลากหลายทั้งเด็ก คู่รัก ครอบครัว ผู้สูงวัย เพื่อรองรับการอยู่อาศัย 3 Generations ให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างลงตัว
ดังนั้น InterContinental Residences Hua Hin จึงถูกแบ่งออกเป็นหลาย Roomtype มากครับในทั้งหมด ทั้งหมด 9 อาคาร เพื่อตอบสนองกับความต้องการที่หลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นห้องเพนท์เฮ้าส์ ห้องใกล้หาด ห้องที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ห้องแบบ Pool Access ห้องแบบ Duplex ซึ่งถูกจับจองมีเจ้าของเกินกว่า 90% นั่นหมายความว่าใกล้ปิดโครงการเต็มที ตอนนี้เริ่มมีลูกบ้านเข้ามาพักอาศัยกันแล้วครับ
ผมเดินมาถึงที่ Grand Pool สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถเดินลงสระจากภายในห้องพักได้เลยครับ พร้อมกับมี Kid’s Pool อยู่ใกล้ๆ มีน้ำพุ อุโมงค์น้ำและเครื่องเล่นราวกับเป็นสวนน้ำขนาดย่อม คอยให้บริการความสนุกแก่เด็กๆ
พื้นที่โดยรอบจัดวางเก้าอี้พักผ่อนเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลาย เช่นชุดโซฟา สำหรับนั่งอ่านหนังสือแล้วดูเด็กๆ กำลังเพลิดเพลินกันไป บางจุดมี Sunbed จัดวางไว้สำหรับใครที่ชอบอาบแดดพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัวซึ่งจะแยกโซนทำให้ไม่รบกวนกัน
“Architecture should speak of its time and place, but yearn for timelessness.”
–Frank Gehry
เราเดินมาจนสุดจะเป็นสวนสไตล์โคโลเนียล (Colonial Garden) สวนลายตารางหมากรุก (Chess Lawn) และมีสวนวงกต (Maze Garden) เป็นกิมมิคเก๋ๆ สำหรับเล่นสนุกกันในครอบครัวด้วยครับ ก่อนจะพบกับต้นมะขามยักษ์อายุกว่า 80 ปีซึ่งอยู่คู่กับที่ดินผืนนี้มาตั้งแต่แรก
ทางโครงการเลือกที่จะเก็บต้นไม้ไว้แล้วขยับให้ทางเดินเบี่ยงออกไปเล็กน้อยแบบไม่รบกวนกัน เพื่อให้เกิดการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาตินั่นเองครับ
ด้านหน้าชายหาดจะมี Beach Pavilion สำหรับเป็นที่นั่งพักผ่อน จิบชา กาแฟและรับประทานอาหาร มีทั้งด้านในห้องปรับอากาศและด้านนอกแบบโอเพ่นแอร์
เราสามารถใช้บริการสั่งอาหารจาก 111 Social Club ที่อยู่ติดกันมาทานที่นี่ได้เลยครับ นับว่าสะดวกและเป็นส่วนตัวกว่ามาก
ส่วนด้านหน้าสุดเป็น Private Beach Front ชายหาดส่วนตัวของ Residence ที่ยกสูงขึ้นมาเพื่อให้เรามองเห็นวิวทะเลได้ไกลกว่า พร้อมกับจัดวางเก้าอี้อาบแดดและบีนแบ็คเอาไว้ให้บริการ เหมาะสำหรับมานั่งรับลมเย็นๆ ที่พัดผ่านทิวมะพร้าว
หรือหากใครอยากเล่นน้ำทะเลก็สามารถเดินลงไปยังชายหาดหัวหินที่อยู่เบื้องล่างได้ครับ
ทางโครงการจัดวางเก้าอี้ชายหาดเอาไว้โดยรอบสระและมีคาบาน่าสำหรับพักผ่อนเตรียมไว้ให้ด้วยครับ
หากใครอยากจะนั่งพักผ่อนริมสระว่ายน้ำอยู่ที่คาบาน่า แนะนำว่าอย่าลืมหยิบหนังสือเล่มโปรดมาอ่านพร้อมกับรับบริการเครื่องดื่มเย็นๆ จาก 111 Social Club สั่งมาจิบกันให้เพลิดเพลินใจไปพร้อมกับน้ำใสๆ หาดทรายขาวๆ ที่สั่งพิเศษมาจากต่างประเทศ คละเคล้าไปเสียงคลื่นกระทบฝั่งไปในเวลาเดียวกัน
Beach Pool เป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ไซส์โอลิมปิคสำหรับว่ายออกกำลังกายแบบจริงจัง โครงการจัดเตรียมผ้าเช็ดตัวเอาไว้ให้เรียกว่าเป็นมาตรฐานเดียวกับโรงแรมเลยครับ
ใกล้กันเป็น Jacuzzi on the beach สำหรับแช่ตัวสบายๆ นวดเบาๆ ให้รู้สึกผ่อนคลาย
“Beach Rules: Soak up the sun. Ride the waves. Breathe the salty air. Feel the breeze. Build sandcastles. Rest, relax, reflect. Collect seashells. Bare feet required.”
จากที่ผมได้สัมผัสกับชายหาดหัวหินในแต่ละช่วงเวลาของวัน รู้สึกได้ว่าจะให้บรรยากาศและความประทับใจที่แตกต่างกันไปครับ
ตอนเช้าจะค่อนข้างมีความเงียบสงบและเห็นความสวยงามของธรรมชาติ มองเห็นแสงแดดอ่อนๆ ที่กำลังทอแสงสีทอง ชาวประมงกำลังเตรียมเรือออกหาปลา
วิถีชีวิตต่างๆ กำลังเริ่มต้นขึ้นในเช้าวันใหม่ พระภิกษุสงฆ์เดินบิณฑบาตรเลียบหาดทราย เราสามารถเตรียมอาหารเพื่อมาถวายเป็นมงคลยามเช้าแก่ตัวเองและครอบครัวได้ครับ
ส่วนช่วงตอนเย็นของหัวหินจะเป็นเหมือนหนังคนละม่้วนเลยครับ ผู้คนเยอะแยะมากมายกำลังเล่นน้ำ เด็กๆ กำลังก่อปราสาททราย มีเสียงหัวเราะ สนุกสนานดังขึ้นตลอดเวลา บ้างก็เช่าม้ามาขี่ริมหาดโพสต์ท่าถ่ายรูปกันไป กลายเป็นชายหาดที่มีชีวิตชีวา มองไปทางไหนก็เห็นแต่ภาพแห่งรอยยิ้มและความสุข
พอแดดร่มลมตก มองเห็นแสงอาทิตย์อัสดงส่องพาดผ่านต้นมะขามดูสวยงามมากครับ
นึกถึงบรรยากาศของ Tamarine Theatre ถ้ามีฉายหนังกลางสนามหญ้าช่วงเวลาหัวค่ำให้ลูกบ้านได้ชมกันมันคงคลาสสิคมาก เติมเสน่ห์ให้กับความเป็นเมืองตากอากาศอย่างหัวหินได้เป็นอย่างดี
คอนเซ็ปต์การออกแบบตกแต่งคือ Colonial with a Modern Twist ผมจะพาเดินไปยัง Residence Area กันครับ เพื่อพาไปชมห้องตัวอย่าง นั่งพักผ่อนสบายๆ ในบ้านของเราเอง
ห้องตัวอย่างเป็นแบบ 1 Bedroom Premier ขนาด 50 ตร.ม. 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นและ 1 ห้องน้ำ ซึ่งผมได้เห็นมาสเตอร์แปลนของแต่ละอาคารแล้วพบว่า โครงการได้ออกแบบโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวมากที่สุด มีจำนวนยูนิตต่อชั้นไม่มากนัก แต่ละชั้นมีแค่ 3-13 ยูนิต ทุกยูนิตมีการดีไซน์ให้ใช้งานได้จริง การออกแบบให้มีการถ่ายเทอากาศภายในโดยไม่ต้องเปิดแอร์ก็ได้ครับ
ตัวห้องเปิดรับแสงในช่วงเวลากลางวัน เพื่อให้มีความสว่างจากธรรมชาติเข้ามาภายใน ผ่านระเบียงกว้างในทุกๆ ห้อง โดยสถาปนิกได้ออกแบบบริเวณด้านหน้าของห้องให้มีหน้ากว้างอย่างน้อยที่สุด 6 เมตรเพื่อเปิดรับสู่วิวทะเลผ่านประตูกระจกแบบ Full Height ได้อารมณ์แบบรีสอร์ตหรูริมทะเล
ประตูห้องเป็นบานไม้สีขาวสูงใหญ่ได้ฟีลแบบบ้านพักตากอากาศ ทางโครงการติดตั้ง Digital Door Lock ของ Samsung มาให้แล้ว
เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเจอกับ Common Area ที่ให้ความรู้สึกกว้างมากกว่าห้องทั่วไป ติด Wallpaper สีเบจและปูพื้นด้วยแผ่นไม้ Hybrid Engineered Wood เลือกใช้ลายไม้สีอ่อนเป็นธรรมชาติ จึงทำให้รู้สึกโปร่งโล่งสบายอบอุ่นและผ่อนคลายมากเลยทีเดียวครับ
นอกเหนือไปจากการออกแบบเรื่องฟังก์ชันการใช้งานภายในห้องที่ครบครันแล้วนั้น ยังตกแต่งโดยให้มีมนต์เสน่ห์ของหัวหิน คือเป็นสไตล์โคโลเนียลที่ลดทอนรายละเอียดลง เพิ่มความโมเดิร์นเข้าไปทำให้ห้องดูเก๋มากขึ้นได้ฟีลของการมาพักผ่อนบ้านพักตากอากาศ ณ ทำเลยอดนิยมของไทย
เราจะเห็นได้จากการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ทำจากไม้และหวาย ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายๆ เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนริมทะเล ลดทอน ความแข็งกระด้างของห้องพักทรงสี่เหลี่ยมด้วยการนำเส้นโค้งมนมา ใช้ในการออกแบบบริเวณมุมของห้อง
นอกจากจะช่วยสร้างความรู้สึก สวยงาม ประณีตมากขึ้นแล้วยังช่วยทำให้ภายในห้องดูโปร่ง โล่งมากขึ้น อยู่สบายไม่อึดอัด สามารถนั่งจิบกาแฟ ชมวิวทิวทัศน์ได้ทั้งวัน
InterContinental Residences Hua Hin เป็นการขายห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบ (Fully Furnished) ตามมาตรฐานของ IHG ทั้งชุดครัว ตู้เก็บของ โต๊ะ ที่นั่งโซฟา ชั้นวางทีวี ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน ฯลฯ
ด้านในเป็นห้องน้ำแบบ Sexy Bath กระจกติดกับส่วนของห้องนอน ภายในได้ติดตั้งสุขภัณฑ์ ฝักบัว อ่างล้างมือพร้อมมีอ่างอาบน้ำในตัว
ผมจะขอเวลาส่วนตัวสักครู่เปลี่ยนเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวใหม่แล้วจะไปทานดินเนอร์ริมทะเลกันที่ Beach Pavilion โดยแพลนว่าจะสั่งอาหารจาก 111 Social Club มาเติมเต็มความอร่อยและบรรยากาศริมทะเลอันน่าประทับใจ ไม่ต้องออกไปไหนไกลๆ
ช่วงใกล้พลบค่ำ อาคารที่พักทั้ง 9 หลัง ภายในโครงการเริ่มเปิดไฟให้สีเหลืองส้มสว่างไสวไปทั่วโครงการ รับกันดีกับสีเหลืองทองและทไวไลท์ของท้องฟ้าในเย็นวันนี้ เป็นภาพที่ผมชอบมากครับ
มื้อค่ำวันนี้เราจะไปรับประทานดินเนอร์กันที่ Beach Pavilion นะครับ ซึ่งลูกบ้านของโครงการสามารถมาใช้บริการที่นี่ได้ครับ มองเห็นบรรยากาศของสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ พร้อมกับวิวทะเลหัวหิน มีที่นั่งจัดวางไว้ทั้งด้านในห้องปรับอากาศและด้านนอกแบบโอเพ่นแอร์
เราจะสั่งอาหารจาก 111 Social Club มาทานกันนะครับ เป็นร้านอาหารเปิดใหม่ที่ให้บริการโดย IHG เจ้าของแบรนด์ InterContinental ซึ่งลูกค้าทั่วไปสามารถขับรถเข้ามาในซอยหัวหิน 71 ได้เลยครับ ส่วนลูกบ้านของโครงการ InterContinental Residences Hua Hin สามารถเลือกทานที่ Beach Pavilion แทนได้เพื่อความเป็นส่วนตัวครับ โดยมีบริกรคอยให้บริการครับ
สำหรับ 111 Social Club เป็น Cafe’& Restaurant เดินเป็นบ้านพักตากอากาศชื่อ “บ้านศตสุข” เป็นบ้านไม้สีขาว สถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลริมทะเล ตัวบ้านยกใต้ถุนสูงตามแบบบ้านทรงไทยโบราณ รอบเป็นสระบัวและสนามหญ้าให้นั่งพักผ่อนดื่มกินกันอย่างสบายใจ
เริ่มต้นดินเนอร์ด้วยเครื่องดื่มแก้วโปรดที่ Sommelier แนะนำให้ ท่ามกลางบรรยากาศของแสงไฟและเสียงคลื่นกระทบชายหาด
ส่วนเมนูอาหารของ 111 Social House นั้น เชฟซาบรินา โมลเลอร์ส (Sabrina Mollers) ชาวแอฟริกาใต้ ที่รังสรรค์เรื่องราวของหัวหินผ่านจานอาหาร โดยจับเอาวัตถุดิบท้องถิ่นมาทำเป็นเมนูที่น่าสนใจ สั่งเป็นปลาหรือเนื้อก็ได้ครับ พร้อมสลัดผักสดๆ จากฟาร์มออร์แกนิค เน้นทานอร่อยและได้ประโยชน์ในด้านสุขภาพไปในคราวเดียวกัน
การได้ทานอาหารอร่อยๆ จิบเครื่องดื่มเบาๆ เคล้ากับเสียงคลื่น ใต้แสงเทียนในบรรยากาศสบายๆ เป็นการเติมเต็มให้ดินเนอร์มื้อค่ำวันนี้เป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจมากครับ
คืนนี้ที่หัวหินฟ้าสวยมาก อยากชวนเก็บกระเป๋าย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ด้วยกัน จะได้แบ่งปันภาพธรรมชาติที่สวยงามและช่วงเวลาแห่งความประทับใจนี้ไปพร้อมๆ กัน
“Sunrise paints the sky with pinks and the sunset with peaches. Cool to warm. So is the progression from childhood to old age.”
― Vera Nazarian, The Perpetual Calendar of Inspiration
ปกติเราจะคุ้นชินกับหัวหินตอนเช้าๆ ซึ่ง InterContinental Residences Hua Hin จะหันหน้าไปทางชายหาดด้านทิศตะวันออกนะครับ
ดังนั้น ช่วงเวลาเช้าถือเป็น Hidden Gems ที่ห้ามพลาดเลย แสงแดดอ่อนๆ จะลอดผ่าน Facade ไม้เข้ามาในห้องเป็นการปลุกเบาๆ ให้เรารู้ว่าได้เวลาตื่นแล้ว
เช้านี้ ตั้งใจว่าจะไปวิ่งออกกำลังกายริมชายหาดรับวิตามินดีกันสักหน่อย ผมชอบทำแบบนี้บ่อยๆ เวลามาพักริมทะเลได้ฟีลดีต่อสุขภาพมากครับ
จากนั้น ค่อยไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า มานั่งจิบกาแฟที่ Beach Pavillion ต่อ นั่งอ่านหนังสือตามข่าวสารความเคลื่อนไหวจาก iPad วิถีชีวิตของผมที่หัวหินจะค่อนข้างเรียบง่ายและไม่เร่งรีบ นั่งรับลมเย็นๆ ให้แสงแดดโลมเล้าเราไปเรื่อยๆ อย่างสบายใจ
หากใครอยากออกกำลังกายในร่ม ผมแนะนำให้มาที่ Hidden Gym เลยครับ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของ InterContinental Residences Hua Hin เป็นห้องออกกำลังที่ซ่อนตัวอยู่ใต้สระว่ายน้ำ ซึ่งบนเพดานจะเป็นกระจก ช่วยให้มีแสงธรรมชาติส่องลงมาและสามารถมองเห็นคนที่กำลังว่ายน้ำด้านบนได้อีกด้วย เป็นการสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่แปลกใหม่ได้อย่างลงตัวจริงๆ ครับ
ผมเดินลงบันไดไปเล็กน้อย ด่านแรกด้านนอกเป็นหน้าผาจำลองให้เราได้ปีนป่ายออกกำลังกายแบบเอ็กซ์ตรีม
ส่วนด้านในเป็นฟิตเนสขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายจาก TechnoGym แบรนด์เครื่องออกกำลังกายระดับโลก ที่จะมอบประสบการณ์เหนือระดับกับการออกกำลังกายในแบบ Luxury ให้กับเรา
ภายในจัดวางครบทั้งลู่วิ่งคาร์ดิโอสุดไฮเทค พร้อมกับโซนฟรีเวทให้เราออกกำลังเพื่อสุขภาพได้ตามใจ พร้อมบริการ Online Personal Trainers
ภายในยังมีห้อง Spa สำหรับทำทรีตเม้นท์ ปรนนิบัติผิวสวยในวันพักผ่อนสบายๆ โดยมี Spa Therapist คอยดูแล ฟีลลิ่งแบบเดียวกับสปาในโรงแรมหรูเลยครับ นับเป็นอีกมิติใหม่ของการพักอาศัยใน Residence ที่เป็นมาตรฐานเดียวกับโรงแรมและรีสอร์ตของ InterContinental ทั่วโลก
เราเดินต่อมาเล็กน้อยจะเป็นห้องสมุดครับ ที่ InterContinental Residences Hua Hin มีห้องสมุดขนาดใหญ่ตกแต่งในสไตล์โคโลเนียลแบบไม่หลุดธีมเลยครับ ภายในจัดวางที่นั่งกระจายไปอย่างหลวมๆ สบายๆ ให้เราได้มีมุมส่วนตัวหรือจะนั่งกันเป็นครอบครัวก็ได้เช่นกัน
ผมค่อนข้างประทับใจกับห้องนี้เป็นพิเศษ เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบอ่านหนังสือและฝันว่าอยากมีบ้านที่มีห้องสมุดใหญ่ๆ มีหนังสือเยอะๆ ให้ทุกคนมานั่งอ่านแลกเปลี่ยนไอเดียกัน เป็น Books Club
ส่วนด้านในสุดจะมีอีกหนึ่งห้องเป็น Game Room ให้เราได้ใช้เวลาร่วมกันแบบเป็นส่วนตัวสำหรับสมาชิกในครอบครัวครับ
นอกจากบริการระดับ 5 ดาวแล้ว ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับลูกบ้านโดยเฉพาะ โดยเราจะได้เป็น Platinum Elite Membership เพื่อรับสิทธิพิเศษจากโรงแรมในเครือ IHG ใน 100 ประเทศ ที่มีมากกว่า 6,000 แห่งทั่วโลกกันเลยทีเดียว รวมไปถึง Social Club 111 ที่ทางลูกบ้านเข้าไปใช้บริการได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ยังได้รับสิทธิพิเศษของ Proud Real Estate สำหรับโครงการในเครือและพาร์ทเนอร์ สามารถเปลี่ยนบรรยากาศไปนั่งดื่มชมวิวหัวหินจากมุมสูงที่ Vana Nava Sky Bar หรือจะพาเด็กๆ ไปสนุกที่สวนน้ำ Vana Nava ก็ได้ครับ
#โดยสรุป InterContinental Residences Hua Hin เป็นอีกหนึ่งที่พักอาศัยสุดหรูริมชายหาดหัวหินซึ่งเป็นที่ดิน Rare Item มากๆ ยากจะหาแลนด์สเคปสวยๆ เพื่อสร้างเป็นที่พักอาศัยสุดหรูในพื้นที่ใจกลางเมืองหัวหินได้แล้วนะครับ เสริมทัพด้วยมาตรฐานการให้บริการระดับ World-Class จาก InterContinental ทำให้ที่นี่เป็น Branded Residence แห่งแรกของไทย ภายใต้การบริหารของพราว เรียล เอสเตทฯ เพื่อให้ดำเนินไปตามแนวคิดหลักอย่าง “More Than Just Living” ที่แท้จริง
ในวันพักผ่อนสบายๆ เราอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากความวุ่นวายในเมืองกรุง มุ่งหน้าสู่หัวหินถิ่นที่พักตากอากาศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน สามารถทำได้ทันทีเลยครับ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเราก็จะได้พบกับความผ่อนคลาย หาดทรายและสายลมอ่อน ฟังเสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่งเบาๆ ในบรรยากาศแบบส่วนตัวสุด Luxury ผมแนะนำให้มาเป็นเจ้าของที่ InterContinental Residences Hua Hin
สนใจนัดหมายชมห้องตัวอย่างและสัมผัสบรรยากาศจริงพร้อมเข้าอยู่ได้ที่ >>โทร. 02-026-8999
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
คลิก >> https://www.intercontinentalresidenceshuahin.com