#หลวงพระบาง ทริปนี้ ไฮไลท์ของเราเป็นการล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดินกลางแม่น้ำโขง วิวสวยมาก โรแมนติกสุดๆ ส่วนตอนบ่ายอีกวันไปเล่นน้ำกันที่น้ำตกตาดกวางสี ตอนเย็นไปเดินเล่นถ่ายรูปชิลล์ๆ ในเมือง
อีกจุดที่เราชอบคือ “ออก พบ ตก” (Ock Pop Tok) หรือ East meet West เป็นร้านขายผ้าและงานดีไซน์แฮนเมดเกร๋ๆ มีคาเฟ่และที่พักด้วย
จากนั้นก็มาพักผ่อนที่โรงแรมหรู ROSEWOOD ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ให้เข็มนาฬิกาทำหน้าที่ของมันไป ปล่อยจอย ปล่อยใจไปแบบหยุดนิ่ง เพื่อจะสำรวจความเป็นไปของจิตใจ ควบคู่ไปกับการเพลินใจในศิลปวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่ของหลวงพระบาง
เรา Remark ไฮไลท์ให้ตามนี้
• ถนนคนเดิน พระธาตุพูสี
• วัดเชียงทอง
• ออกพบตก (Ock Pop Tok)
• น้ำตกตาดกวางสี
• ฟาร์มควาย ลาว บัฟฟาโล่
• ใส่บาตรข้าวเหนียว
• เดินเล่นตลาดเช้า
• กินกาแฟประชานิยม
• หอพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติหลวงพระบาง
• Royal Palace
• ล่องเรือกลางแม่น้ำโขง
• ถ้ำติ่ง
• ROSEWOOD RESORT
จะเห็นว่าที่หลวงพระบางนั้นมีความงามของธรรมชาติแทรกตัวอยู่ควบคู่ไปกับวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่มีความเรียบง่ายไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบ ทำให้เราหลงเสน่ห์ในความ Slow Life ของหลวงพระบางไปโดยปริยาย กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และอยากจะมาใช้ชีวิตกันที่นี่ เราเองก็รู้สึกประทับใจมาก และเชื่อว่าน่าจะมีการกลับมาเที่ยวในครั้งหน้าอีกแน่นอน
..
The Tadkwangsi waterfall in Luang Prabang is a testament to nature’s artistry, where the cascade’s symphony harmonizes with the tranquil surroundings, inviting every soul to bask in its serene beauty.
.
น้ำตกตาดกวางสี ไฮไลท์ที่ทุกคนต้องมา
ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดินที่กลางแม่น้ำโขง สวยสุดๆ
ทริปนี้พักที่ ROSEWOOD หลวงพระบางใจกลางป่าเขา
น้ำตกตาดกวางสี เป็นน้ำตกหินปูนที่มีน้ำเป็นสีฟ้าเทอควอยซ์ ซึ่งเกิดจากแร่ธาตุที่อยู่บริเวณน้ำตก ไหลลดหลั่นลงมาทั้งหมด 4 ชั้น
วันที่ไปฝรั่งเยอะมาก ธรรมชาติดีสุดๆ
หน้าฝนแบบนี้มักจะมีนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนหย่อนใจและเล่นน้ำกันที่นี่เป็นจำนวนมาก
ปั่นจักรยานมาเที่ยวที่ “ออก พบ ตก” (Ock Pop Tok) มีความหมายว่า East meet West เป็นกิจการเพื่อสังคม ขายผ้าทอมือที่มีดีไซน์ร่วมสมัย
ก่อตั้งโดยช่างภาพสาวชาวอังกฤษมิสโจแอนนา สมิท กับหญิงสาวชาวลาวก็คือคุณแววมณี ดวงมาลา ผู้เชี่ยวชาญด้านการทอผ้า การมัดย้อม การทำผ้าไหมโดยใช้วิธีการทางธรรมชาติ
เราชอบแนวคิดแบบนี้นะ เป็นการสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นเพื่อผลิตผลที่มีคุณภาพสูง และที่สำคัญคือสร้างความสุขให้เกิดขึ้นกับทุกคน
ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ที่เราชอบคือ ฟาร์มควาย ลาว บัฟฟาโล
ก่อตั้งโดยคุณซูซี่ มาร์ติน เป็นคนออสเตรเลีย เธอมาเที่ยวแล้วก็ตกหลุมรักประเทศนี้จึงตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่นี่ และก่อตั้งฟาร์มควายขึ้น
ส่วนตัวเราชอบระบบของการดูแลควายของที่นี่ ทั้งการคำนึงเรื่องของสุขอนามัย ความเป็นระเบียบเรียบร้อย เรื่องของวิชาการการพัฒนาสายพันธุ์ควาย และที่สำคัญคือเรื่องของการสร้างรายได้ให้กับชุมชนผ่านรูปแบบต่างๆ
ราว 4 โมงเราจองเรือของ “แม่โขง คิงดอมส์” Mekong Kingdoms เอาไว้
จะไปชมอีกหนึ่งไฮไลท์ของหลวงพระบาง นั่นก็คือพระอาทิตย์ตกกลางแม่น้ำโขง
ใช้เวลาล่องเรือประมาณชั่วโมงเศษ
จอดเรืออยู่ในเวิ้งน้ำที่กว้างและเป็นมุมที่ดีสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกดินที่นี่
ถ้าใครมากันเป็นคู่ก็ดูเหมือนจะเป็นบรรยากาศที่โรแมนติกไม่น้อย
โรงแรมก็สวยนะ ROSEWOOD อยู่กลางป่าของหลวงพระบาง
วิลล่าของเรามีน้ำตกไหลผ่านด้านหน้า บรรยากาศดีมากจริงๆ
ห้องพักสวย คอนเซ็ปต์ดี ออกแบบโดยพ่อมดวงการโรงแรม บิลล์ เบนสลีย์
ห้องพักไม่มีเยอะทำให้ค่อนข้างเงียบสงบ พักผ่อนได้อย่างสบายใจ
ชอบการนำเสนอความเป็นอาหารลาวในสไตล์โมเดิร์น รสชาติแบบที่คุ้นเคยในหน้าตาที่เปลี่ยนไป
เก็บกระเป๋าเช็คอินเข้าโรงแรมเสร็จ ก็เป็นเวลาแดดร่มลมตกพอดี เรามีเวลาเหลือเฟือ เลยกะจะไปเดินชมเมืองหลวงพระบางกันหน่อย อย่างที่รู้กันว่าหลวงพระบางนั้นเป็นเมืองมรดกโลก มีเรื่องราวในอดีตมากมายเลยทีเดียว แม้จะรับเอาอิทธิพลของฝรั่งเศสเข้ามา ทว่าเราก็ยังเห็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่ซ่อนตัวอยู่มากมายในหลายจุด
เช้าวันต่อมาเรามีกิจกรรมไฮไลท์ นั่นคือการใส่บาตรข้าวเหนียว ซึ่งต้องตื่นแต่เช้าประมาณตี 5
ใส่บาตรข้าวเหนียวเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวรวมถึงคนท้องถิ่นนั้นนิยมทำกัน ถือเป็นการเริ่มต้นเอาฤกษ์เอาชัย
จากนั้น จะมีพระภิกษุและสามเณรจากหลายสิบวัดเดินเรียงรายกันเข้ามารับบาตรจากญาติโยม ซึ่งเป็นภาพที่เราไม่ค่อยจะพบเห็นนัก และกลายเป็นเอกลักษณ์ของหลวงพระบางไปเสียแล้ว
เดินเล่นตลาดเช้าที่อยู่ใกล้ๆ กัน
บรรยากาศนึกไปถึงเชียงใหม่เมื่อสัก 30 ปีก่อนยังอยู่ต่อนยอน สบายๆ เน้นขายของจากธรรมชาติ ของป่า อาหารการกิน
มาหลวงพระบางต้องได้กินข้าวจี่
ซิกเนเจอร์อีกอย่างที่จะต้องมาเช็กอินแล้วถ่ายรูปที่ร้านกาแฟ “ประชานิยม” เมื่อเรามาเที่ยวที่หลวงพระบาง
แลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองหลวงพระบางที่เรากำลังจะไปกันในช่วงสาย ก็คือ “วัดเชียงทอง” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง เป็นวัดที่สำคัญและสวยงามที่สุด งานสถาปัตยกรรมแบบล้านช้างมีพระอุโบสถที่คนลาวเค้าเรียกกันว่า “สิม” เป็นพระอุโบสถที่มีหลังคาแอนโค้งลาดต่ำลงมาซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น เป็นศิลปะแห่งหลวงพระบางขนานแท้และดั้งเดิม
ไฮไลท์อีกอย่างก็คือการถ่ายรูปกับหน้าต่างที่มีองค์พระบางจำลอง เป็นผนังด้านข้างนั้นซึ่งมีจิตรกรรมกระจกสีถือเป็นมุมเด็ดของวัดเชียงทองและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองหลวงพระบางด้วย ตอนหลังเราจะเห็นนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกับหน้าต่างนี้กันมากขึ้นเพราะว่าความสวยงามของกระจกสีที่ประดับตกแต่ง
ส่วนพระประธานภายในพระอุโบสถ ชาวลาวเรียกว่า “พระองค์หลวง” ภายในประดับตกแต่งด้วยสีทองงดงามอร่ามตา
พระราชวังหลวง
หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง ด้านในห้ามถ่ายรูปครับ
ช่วงก่อนเที่ยงมีจองเรือไว้อยู่แล้ว ตั้งใจจะไปดูวิถีชีวิตของผู้คน
เรือ จะล่องไปทางถ้ำติ่ง เป็นถ้ำที่ตั้งอยู่กลางภูเขาลูกใหญ่ จุดเชื่อมของแม่น้ำโขงและแม่น้ำอู มาบรรจบกัน
ถ้ำติ่ง มีลักษณะเป็นโพรงถ้ำ มีหินงอก หินย้อยเล็กน้อย
เป็นถ้ำที่มีพระพุทธรูปทำมาจากไม้ ดิน ปูน สัมฤทธิ์ฯ จำนวนมากหลายขนาด ส่วนใหญ่เป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ