HIGH SEASON POOL VILLA & SPA RESORT
_________________________________________________
“I visited many places,
Some of them quite
But I always returned to myself.”
.
ช่วงปลายปีแบบนี้ กานต์มีทริปเดินทางเยอะมากครับ
ทั้งงานประจำที่ทำ ทั้งทริปเที่ยวพักผ่อนส่วนตัว
ผมว่า เวลาที่เราอยู่ต่างประเทศนานๆ
อาการคิดถึงบ้าน มักจะถามหา
คล้ายๆ กับว่า เป็นที่ที่เราคุ้นเคย อยู่แล้วสบายใจ
.
กลับไทยปุ๊บ มีเวลาว่าง 4 วัน จัดการจองตั๋วเครื่องบิน
บินตรงไปลงตราดกับ Bangkok Airways จ้า
ตอนนี้ คิดถึงทะเลเกาะกูด มันกู๊ดมากๆ
อยากไปนอนพักผ่อนที่ High Season Pool Villa & Spa
รีสอร์ทหรูของคนไทยหนึ่งเดียวบนเกาะกูด
ที่ซึ่งเต็มไปด้วยธรรมชาติของทิวพร้าว ติดหาดคลองเจ้า
ด้วยความที่หน้าหาดค่อนข้างยาว
ทำให้เรามีกิจกรรมเยอะแยะไปหมด
แถมยังมีมุมพักผ่อนจัดไว้ตามจุดต่างๆ ของรีสอร์ทได้อย่างลงตัว
และยังมีสระว่ายน้ำระบบเกลือที่ใหญ่ที่สุดในเกาะกูดด้วย
.
ไฮไลท์อีกอย่างของ HIGH SEASON
คือการชมพระอาทิตย์ตกพร้อมดินเนอร์ที่ The Bird’s Nest
เป็นกระเช้าบนต้นไม้ที่ให้ความเป็นส่วนตัว
ในวิวทะเลมุมสูงที่แปลกตา มาพร้อมอาหารจานหรู
เหมาะสำหรับทานกับคู่รักในโอกาสพิเศษครับ
.
Good space transcends taste and values.
It’s a weird, mystical thing.
It’s very difficult to achieve,
but you know when you’ve got it.
.
ซาฮา ฮาดิด สถาปนิกชื่อดังเคยพูดเอาไว้ว่า
สิ่งสำคัญของการออกแบบคือเรื่องการจัดสรรพื้นที่
ถ้าทำได้ดีก็จะเห็นรสนิยมและคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในนั้น
เป็นเรื่องยากเกินกว่าที่จะเข้าใจ
… แต่หากทำได้ เราก็จะรับรู้เอง
.
“A place is only as good as the people in it.”
ยอมรับเลยว่าที่ HIGH SEASON ออกแบบสวยมาก
ดีไซน์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 5 ปี
ที่สำคัญทุกหลังเป็น POOL VILLA
สะท้อนถึงการให้คุณค่าของความเป็นส่วนตัว
พร้อมการบริการที่ได้มาตรฐาน 5 ดาว
กานต์จึงได้รับแต่ความสะดวกสบาย ภายใต้ชีวิตที่มีระดับ
ตลอดระยะเวลา 3 คืน ที่อยู่ที่นี่ จนไม่ได้ออกไปไหนเลยครับ
เพื่อให้สอดรับกับการเป็นวันพักผ่อนที่แท้จริง
.
/ the journalist /
LEISURE TRAVEL x HOTEL LIFESTYLE
.
fanpage : https://www.facebook.com/kantjournal
website : https://www.kantjournal.com
twitter : https://twitter.com/kantjournal
instagram : https://www.instagram.com/kantjournal
soundcloud : https://www.soundcloud.com/kantjournal
podbean : https://www.podbean.com/kantjournal
.
#KANT#KΔNT#leisuretravel#hotellifestyle
#journalisttravel#luxurytravel
#ท่องเที่ยวพักผ่อน#ชอบนอนโรงแรมสวย
—
High Season Pool Villa & Spa
117 Moo2 T.Ko Kut, A.Ko Kut, Trat 23000, Thailand
Tel : (+66) 039 510 888
Fax : (+66) 039 510 877
HOT LINE : (+66) 063 202 1800
E-mail : info@highseasonresort.com
For Reservation :
Tel : (+66) 02 416 8899
ต้นมะพร้าวคู่ที่แขวนชิงช้า กลายมาเป็น The Signature ของที่นี่ครับ นับเป็นมุมที่ใครมาก็ต้องถ่าย ด้วยมุมของภาพที่ให้ความรู้สึกของการพักผ่อนริมทะเลได้เป็นอย่างดี
ที่ High Season Pool Villa & Spa ถือเป็นรีสอร์ทที่มีพื้นที่เยอะมากครับและเต็มไปด้วยต้นไม้โดยเฉพาะดงมะพร้าวที่มีอยู่เดิม แทบจะไม่ได้ตัดทิ้งเลยครับ ถ้ามองจากมุมสูงจะเห็นที่การวางผังที่ให้วิลล่าแทรกตัวอยู่ตามต้นไม้ จึงได้บรรยากาศของการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่แท้จริง
ทริปนี้ ผมเดินทางโดยเครื่องบินครับ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า การเดินทางไปตราดนอกจากขับรถแล้วยังนั่งเครื่องบินได้ด้วยกับสายการบิน Bangkok Airways บินตรงไปลงตราด ใช้เวลาประมาณ 45 นาที เร็วมากครับ ไม่เหนื่อยด้วย
ข้อดีของการบินกับบางกอกแอร์เวยส์ คือเป็นฟลูเซอร์วิสที่ฟรีทุกอย่าง
#ฟรีน้ำหนักกระเป๋า20กิโลกรัม
#ฟรีบริการเลือกที่นั่ง
#ฟรีบริการอาหารและเครื่องดื่ม
#ฟรีห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน
ไฟล์ทกรุงเทพตราด มีบินวันละ 4 ไฟล์ท สะดวกสบายมากๆ ครับ จากสนามบินต่อรถเข้าเมืองหรือจะไปท่าเรือก็สะดวก
จากนั้น ก็มาดรอปกันที่ High Season Pool Villa & Spa : Leam Sok reception office ซึ่งเป็นจุดจอดรถ เช็คอินของทางรีสอร์ทนั่นเอง คนที่ขับรถมาจากจอดรถไว้ที่นี่ จัดที่จอดไว้อย่างดี มีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงครับ อยู่ใกล้กับท่าเรือแหลมศอก ซึ่งเป็นท่าเรือเดียวที่ไปเกาะกูด
ระหว่างรอรอบเรือก็นั่งพักผ่อน จิบเครื่องดื่มให้สบายใจ ดูแลดีตั้งแต่ก่อนเดินทางกันเลยทีเดียว
จากนั้น ก็จะมีรถมารับไปท่าเรือครับ พร้อมบริการขนสัมภาระ เราไม่ต้องทำอะไรเลย เจ้าหน้าที่ของ High Season Pool Villa & Spa จัดการให้หมดทุกอย่าง
ถ้าช่วงหน้าไฮของเกาะกูดก็จะมีรอบเรือเยอะหน่อย เรือมีหลายเจ้า ถ้านั่งจากท่าเรือแหลมศอก จะมีเรือของ บุญศิริ, Super Jet, เอ๊กซ์เพรส และปริ้นเซส ลงที่ท่าเรืออ่าวสลัด
บรรยากาศที่ท่าเรืออ่าวสลัด จะเป็นด่านแรกที่เราเจอก่อนขึ้นเกาะกูด ส่วนตัวค่อนข้างชอบ เพราะมีความเป็นธรรมชาติ และวิถีชีวิตของชาวประมงที่ผูกพันอยู่กับเกาะ ผู้คนที่นี่รักษ์ธรรมชาติ หวงแหนและดูแลอย่างดี ดังนั้นใครที่มาเที่ยวเกาะกูด ก็ต้องช่วยชาวบ้านรักษาธรรมชาติกันด้วยนะครับ
เมื่อขึ้นจากท่าเรือก็จะเจอเจ้าหน้าที่ของ High Season Pool Villa & Spa มารอต้อนรับและบริการเรื่องสัมภาระ นำไปใส่รถของทางรีสอร์ทที่มารอรอรับ เพื่อจะนั่งต่อไปยังรีสอร์ท
ระหว่างนั่งรถ ราว 35 นาที พนักงานที่นี่ก็จะเสิร์ฟผ้าเย็นและน้ำเย็น พร้อมกับชวนคุย บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของเกาะกูดให้เราฟัง นั่งฟังเพลินๆ ก็ถึงที่รีสอร์ทครับ
เป็นการเริ่มต้นทริปพักผ่อนได้อย่างน่าประทับและใจและเป็นกันเอง
จากนั้นเมื่อมาถึงก็จะมีพนักงานคล้องพวงมาลัยต้อนรับ พร้อมกับจัดแจงเรื่องกระเป๋าส่งไปรอเราที่วิลล่าครับ
ทำเช็คอินในวิลล่าเลยดีกว่า พร้อมกับ welcome drinks เป็นน้ำมะพร้าวเย็นๆ สดๆ เสิร์ฟมาเป็นลูกกันเลยทีเดียว มะพร้าวที่เสิร์ฟปลูกจากสวนภายในรีสอร์ทนี่เองครับ เนื่องจากเต็มไปด้วยต้นมะพร้าว เราจึงมั่นใจในรสชาติที่หอมหวาน
เช็คอินใช้เวลาไม่นาน พร้อมกับแนะนำบริการต่างๆ และภายในวิลล่าจะมีโทรศัพท์ให้ใช้ล็อคเบอร์ไว้ให้สามารถติดต่อกับบัทเลอร์ได้โดยตรง อยากได้อะไรก็แจ้งได้เลยครับ พร้อมจัดหามาบริการได้ภายใน 10 นาที เจ้าหน้าที่ที่ดูแลวิลล่าผมชื่อคุณเอ บริการดีไม่มีอิดออด
ทริปนี้ ผมพักที่วิลล่า type Grand Pool Villa ซึ่งจะเป็นวิลล่าขนาดใหญ่ 130 ตารางเมตร แยกส่วนพักผ่อน ห้องนอน ห้องน้ำออกจากกัน มีระเบียงด้านนอกและสระว่ายน้ำ ส่วนหลังห้องเป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับอาบน้ำแบบไทยๆ เดี๋ยวจะให้ดูรูป
อิอิ เขิลจัง
ช่วงค่ำ ก็จะมีพนักงานมาเทิร์นดาวน์ พร้อมเตรียมห้องนอนเพื่อให้เกิดบรรยากาศของการพักผ่อนที่แท้จริง
เก็บรายละเอียดดี ถึงขั้นวางสลีปเปอร์หัดหน้าออกเอาไว้ให้ ประทับใจมากครับ
ห้องน้ำค่อนข้างกว้าง แบ่งออกเป็นหลายจุดทั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ผมพักหลายวันเสื้อผ้าก็จะเยอะหน่อย จัดแจงแขวนเอาไว้ให้เรียบร้อย
ชอบภาพนี้ครับ เป็นชาวเวอร์อาบน้ำ ที่ด้านบนเป็นอคริลิคโปร่งแสง เพื่อให้เกิดแสงจากธรรมชาติ คล้ายๆ กับที่อาบน้ำด้านนอก ส่วนการออกแบบก็ให้ความรู้สึกเหมือนห้องแห่งความสุข เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่เราสามารถปลดปล่อยได้อย่างเต็มที่
อเมนนิตี้ที่ใช้เป็นกลิ่นตะไคร้ หอมมาก ของรีสอร์ททำเองและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออร์แกนิคครับ ยังหยิบโลชั่นติดกลับมาอยู่เลย หอมจริงๆ
ส่วนอีกด้านในห้องน้ำเป็นอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ พร้อมเกลือขัดผิว ผมเอาบาธโฟมที่ซื้อจากญี่ปุ่นมาลองใช้ หอมดีครับ ชอบเวลานอนแช่อ่างแล้วทำกิจกรรมอื่นไปด้วยเพลินๆ บางทีก็อ่านหนังสือ บางทีก็เอา iPad มานอนอนดูเนตฟลิกซ์เพลินๆ
ชอบชีวิตที่ไม่ต้องเร่งรีบแบบนี้ อยากให้ทุกวินาทีเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน ได้อยู่กับตัวเอง ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบอย่างแท้จริง
มาทะเลอย่าลืมหยิบหนังสือดีๆ ติดมือมาสักเล่มนะครับ
อย่างที่บอก ด้านนอกเป็นโอ่งอาบน้ำสไตล์ไทย เก๋ไก๋ไปอีกแบบ ไม่ใช่เพียงแต่ฝรั่งที่ชอบ คนเมืองกรุงอย่างเรา เจอไม้เด็ดแบบนี้ของทางวิลล่าเข้าไป ประทับใจมากครับ
ทำให้ย้อนนึกถึงบรรยากาศแบบไทยๆ นุ่งผ้าขาวม้า มาอาบน้ำด้วยขัน อาบด้วยกันกลางแจ้ง เป็นส่วนตัว
ยอมใจกับกิมมิคนี้ของทางรีสอร์ทเลยครับ
จากนั้น ก็ไปเดินเล่นกันริมชายหาด ที่ High Season Pool Villa & Spa จะมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก สายไอจีไม่ควรพลาด
อย่างชิงช้าริมทะเลตัวนี้ก็ถือเป็นมุมถ่ายรูปยอดฮิตครับ
เดินเล่นภายในรีสอร์ทกันบ้างดีกว่า ที่ High Season Pool Villa & Spa จะมีวิลล่าอยู่ 3 type คือ
– Deluxe Pool Villa
– Grand Pool Villa
และ Beachfront Suite Pool Villa
ก็คือวิลล่าหลังนี้ที่เห็นในรูปนี่แหละครับ วิลล่าใหญ่มากๆๆๆ จัดจ้านที่สุดในย่านคลองเจ้าแห่งนี้ แถมเต็มเกือบตลอดเวลา เพราะว่ามีลูกค้าประจำที่ชอบและกลับมาพักวิลล่านี้บ่อยๆ มีความเป็นส่วนตัวสูง แยกออกมาอยู่หน้าหาดเลยครับ
Beachfront Suite Pool Villa มีขนาด 180 ตารางเมตร พื้นที่ใช้สอยเยอะมาก แถมยังมีมุมส่วนตัว เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการมาพักผ่อนใช้เวลาร่วมกัน
ส่วนวิลล่าอีก type ที่ได้แวะเข้าไปดูคือ Deluxe Pool Villa เป็น type เริ่มต้น ซึ่งเมื่อหลายเดือนก่อน ผมเคยมาพักแล้ว (ซึ่งก็ว่าหรูหราสะดวกสบายแล้วนะ) ห้องใหญ่ขนาด 95 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่ใช้สอยแยกส่วนกัน ทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ และสระว่ายน้ำหน้าวิลล่า ท่ามกลางบรรยากาศของต้นไม้น้อยใหญ่
ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน คล้ายกันกับ Grand Pool Villa มีเครื่องทำกาแฟ มินิบาร์ น้ำดื่มขอได้ตลอด สามารถอยู่ในรีสอร์ทได้ทั้งวันไม่ต้องออกไปไหนกันเลยทีเดียว
สระว่ายน้ำส่วนกลาง ถือว่าใหญ่มาก เป็นสระระบบเกลือใหญ่ที่สุดในเกาะกูด ขนาด 15×30 ตารางเมตร ทางรีสอร์ทเรียกว่า Galaxy Salt Pool ซึ่งก็สมชื่อครับ
ได้ว่ายน้ำท่ามกลางบรรยากาศของทิวพร้าว มีวิวด้านหน้าเป็นชายหาดและทะเล ก็เท่ไปอีกแบบนะครับ
หรือหากใครอยากจะเล่นน้ำทะเลก็จัดเลยครับ ช่วงหน้าไฮ คลื่นลูกไม่ใหญ่กำลังสวย หาดคลองเจ้า เป็นหาดทรายขาวและยาว เหมาะแก่การเล่นน้ำทะเลมากๆ ครับ
หรือใครจะหาเรฟมาถ่ายรูปเก๋ๆ กับทะเลก็ได้นะ
ผมว่าแปลกอย่างนึง ซึ่งหลายคนเป็นเหมือนกัน คือผมเป็นคนชอบเที่ยวทะเล แต่ไม่ค่อยนิยมเล่นน้ำทะเล คือเล่นได้ แต่ถ้าให้เลือกจะชอบอยู่ริมชายหาด ฟังเสียงคลื่น เสียงลม ผูกเปลนอนใต้ต้นมะพร้าวแบบนี้มากกว่า ผมว่าแค่นี้ก็เพลินมีความสุขมากแล้วนะ
ไหนใครเป็นเหมือนผมบ้างครับ
หลังจากนอนเอนหลังริมชายหาดสักพัก ก็ไปนวดที่สปาดีกว่าครับ ที่ High Season , High Spa ซึ่งมีให้เลือกทั้งนวดที่เรือนสปา หรือว่าจะทำทรีตเมนต์ริมชายหาดท่ามกลางบรรยากาศของลมทะเลซึ่งจะต้องแจ้งและจองไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ครับ
ผมเลือกเรือนสปา เพราะอยากได้ความเป็นส่วนตัว
เมนูสปาของที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย เหมือนกับสปาระดับ 5 ดาวทั่วไป ที่สำคัญคือราคาไม่สูงมาก (สอบถามส่วนลดหรือราคาพิเศษได้จากพนักงาน)
เรือนสปาและทรีตเมนท์ ของ High Spa จะมีลักษณะยกพื้นตั้งอยู่บนสระน้ำ ท่ามกลางกอไม้น้อยใหญ่ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เรือนแต่ละหลังแยกอิสระจากกันแต่มีทางเดินเปิดโล่งเชื่อมต่อกัน
เครื่องสปาที่ใช้เน้นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ จึงมั่นใจได้ว่าปลอดสารแน่นอน
ที่ High Spa ถือว่าได้มาตรฐานสปาระดับ 5 ดาวเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น เวลคัมดริงก์ ระหว่างให้การกรอกแบบฟอร์มเพื่อสอบถามข้อมูลส่วนตัว การเน้นจุดที่ต้องการนวดและ ข้อควรระวังของแขกแต่ละคน
ส่วนตัวผมชอบนวดหนักๆ เน้นเท้าและหลัง เทอราพิสก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ นวดดีจริงๆ หายเมื่อยและเบาสบายตัวมากๆ
ที่นี่มี Kids Club ด้วย เด็กๆ น่าจะชอบ เพราะสามารถปล่อยจินตนาการได้เต็มที่
โดยส่วนตัวเป็นมุมที่ผมชอบมาหาหนังสืออ่านที่ห้องนี้ (ถ้าไม่มีเด็ก) หรือบางทีก็หยิบไปอ่านริมทะเลก็ได้อีกบรรยากาศ
“When the sun has set, no candle can replace it.”
― George R.R. Martin
นักเขียนอเมริกันเคยพูดเอาไว้ ซึ่งผมก็เห็นว่าจริง แสงเย็นของพระอาทิตย์เป็นแสงที่สวยมาก และยากที่จะหาสิ่งใดมาทดแทน หรือสร้างแสงปลอมขึ้นมา ตรงนี้คนชอบถ่ายรูปคงเข้าใจดี
ผมชอบช่วงเย็นของริมทะเลที่สุด เป็นนาทีที่ไม่อยากอยู่ในห้อง อยากออกมาข้างนอก เพื่อเดินเล่น ถ่ายรูป
ที่ High Season Pool Villa & Spa ก็เหมือนกันครับ แสงดี สวยทุกรูป ยิ่งหน้าไฮแบบนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
Beach Front Restaurant อาคารหลักริมชายหาดของ High Season Pool Villa & Spa เป็นเรือนสองชั้นสำหรับทานอาหารแบบ All days บรรยากาศเปิดโล่ง รับลมทะเลเย็นสบาย ให้บริการอาหารที่หลากหลาย จนไม่อยากจะเชื่อว่า นี่เรามาติดเกาะจริงหรือ
มีทั้งอาหารไทย อาหารยุโรป รสชาติดี (ยังคงจำบัวลอย 5 สีที่ผมถามถึงตลอดเวลา เพราะว่าติดใจในรสชาติมากๆ จากการที่ได้มาพักคราวก่อน)
นอกจากนี้ ยังมีโซน a/c ด้านในไว้หลบร้อนอีกด้วยครับ บรรยากาศสบายๆ การบริการได้มาตรฐานโรงแรมหรู 5 ดาว
เซ็ตอาหารไทย เรียงตามลำดับความชอบของผม เชฟเล่าว่า ผัดไทที่นี่ แขกต่างชาติสั่งเยอะมาก เพราะอร่อยดีรสเข้มข้น
แต่ที่ผมชอบสุดต้องยกให้เซ็ตอาหารเช้า ข้าวต้มทรงเครื่อง ผมทานทุกวันเลยครับ ชอบเครื่องข้าวต้ม ผัดผักกับหมูกระเทียมอร่อยมาก อยากชวนเชฟไปเปิดร้านอาหาร 555
ที่นี่บริการน้ำแร่แบบ Sparkling จากอิตาลี คือ San Pellegrino กับ Acqua Panna
ส่วนตัวผมชอบ Acqua Panna เพราะเป็นน้ำแร่แบบ still ไม่มีฟอง จะรู้สึกนัวๆ นวลๆ กว่า
ไฮไลท์อีกอย่างของ High Season Pool Villa & Spa คือ ดินเนอร์สุดหรูบน “Birdnest” เหมือนที่ชื่อบอก คล้ายๆ กระเช้ารังนก บนต้นไม้ สำหรับทานมื้อเช้า หรือมื้อค่ำก็ได้ครับ
สามารถสอบถามและจองได้จากเจ้าหน้าที่ เพราะมีแค่ 1 กระเช้าต่อวันเท่านั้น
อาหารก็มีหลากหลาย ทั้งเช้าและเย็น ที่นี่ให้บริการเป็นเซ็ทครับ แต่หากต้องการอะไรเป็นพิเศษก็สามารถแจ้งได้
เมื่อครั้งก่อนเคยทาน Dinner มาแล้ว กลับมาคราวนี้ขอเปลี่ยนเป็น Breakfast บ้างครับ สามารถจองได้ทั้ง 2 มื้อเลย สำหรับวันพิเศษ โดยเฉพาะดินเนอร์ ผมว่าโรแมนติกมากๆ สำหรับคู่รักที่อยากชมพระอาทิตย์ตกริมทะเล ในบรรยากาศแบบส่วนตัว
แนะนำเลยครับ
นอกจากนี้ด้านหน้ารีสอร์ทยังมีให้บริการ Italian Restaurant ด้วยครับ แขกนอกที่ไม่ได้เข้าพักก็สามารถเข้ามาแวะทานอาหารที่นี่ได้ โดยเฉพาะพิซซ่าเตาถ่านสไตล์อิตาเลี่ยนแท้ๆ หรือใครจะแวะมาจิบกาแฟก็ได้นะครับ
พิซซ่าคือเมนูต้องสั่งครับ แป้งบางกรอบ อร่อยมาก ส่วนพาสต้าก็ใช่ย่อย ยิ่งถ้าสั่งเป็นซีฟู๊ด ก็จะได้ลิ้มลองความสดใหม่ของอาหารทะเลบนเกาะ
เป็นอีกห้องอาหารที่ผมชอบมาฝากท้องไว้ที่นี่ครับ
ถัดกันจากร้านอาหารอิตาเลี่ยนด้านหน้า ก็เป็นร้านขายของที่ระลึก High Souvenir ครับ ชอบกระเป๋าฮาวายใบนี้จัง ทำจากผ้ากระสอบ ดูเข้ากับธรรมชาติดี
ที่นี่ก็มีของให้ซื้อหลากหลาย ราคาไม่แพงอย่างที่คิด
โดยสรุปแล้ว การเข้าพักที่ High Season Pool Villa & Spa 2 ครั้งติดๆ กัน น่าจะเป็นกลยุทธ์ที่ทางรีสอร์ทวางเอาไว้ คือให้แขกเกิดกระบวนการซื้อซ้ำ หรือหวนกลับมาพักอีกเรื่อยๆ
เหมือนกานต์เป็นต้น
แทบจะหาที่ติไม่ได้สำหรับการเข้าพักที่นี่ อาจจะมีบางเรื่องเช่น ยุงเยอะ ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมยาก แต่ก็พยายามแก้ปัญหาด้วยการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง รวมถึงการใช้กลิ่นอโรม่า พวกตะไคร้ ไล่ยุง ซึ่งก็ได้ผลแหะ เพราะในวิลล่าไม่เจอยุงเลย
ส่วนการบริการไม่ต้องพูดถึง ได้มาตรฐานโรงแรมหรูไม่แพ้ในกรุงเทพฯ เลยครับ (อย่าลืมว่าตอนนี้เราอยู่เกาะ) ของบางอย่างจึงต้องสำรองเผื่อไว้ค่อนข้างเยอะ เพื่อไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ตรงจุดนีถือว่าทำได้ดีครับ
ส่วนตัวผมชอบและประทับใจในรีสอร์ทแห่งนี้มาก อยากกลับมาอีกหลายๆ ครั้ง