HARD ROCK, Maldives
รีสอร์ตที่มันส์ที่สุดในมัลดีฟส์
_
ออกตัวก่อนว่า Hard Rock Hotel Maldives อาจจะไม่ใช่รีสอร์ตที่ดีที่สุด สวยหรือหรูหราที่สุดในมัลดีฟส์
แต่กานต์ยกให้เป็นรีสอร์ตที่ทั้งมันส์และสนุก กิจกรรมเยอะ เหมาะแก่การมาพักผ่อนที่นอกเหนือไปจากนอนดูวิวทะเลอย่างเดียวในราคาที่รับได้จ่ายไหว
ทริปนี้กานต์พัก Platinum Overwater Pool Villas แบบที่ยื่นลงไปในทะเล เป็น Signature ของรีสอร์ตในมัลดีฟส์
ผมว่ามันต้องมีสักครั้งสินะ ที่เราจะได้มีประสบการณ์แสนตื่นเต้น ได้เล่นน้ำอยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย เดินก้าวลงจากวิลล่าส่วนตัว แบบไม่ต้องกลัวว่าฉลามจะมางับๆ
ถามว่ามีไหม ก็มีแหละ แต่เป็นฉลามที่ชอบคุณงับ เราเลยได้เห็นภาพนักท่องเที่ยวว่ายน้ำกับฉลามกันอย่างเพลิดเพลิน แต่ทริปนี้เราไม่ได้ไปนะ เสียดายมาก แพลนไปวันสุดพอดี … ดันมีฝนตก
คำว่าฝน 8 แดด 4 อาจจะใช้ไม่ได้กับที่นี่ แต่ถ้าจะหมายถึงฝนตก 8 นาที หยุด 4 นาที แล้วตกอีกรอบก็อาจจะพอได้ มองเห็นความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติอันเป็นนิจนิรันดร์จากกลางทะเล
บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน ถ้ามองจากมัลดีฟส์ เดี๋ยวก็มืด เดี๋ยวก็สว่าง!!!
ไฮไลท์ของฮาร์ดร็อก มัลดีฟส์ อย่างแรกเลย ตัวรีสอร์ตอยู่ห่างจาก Velana ซึ่งเป็นสนามบินหลัก ใช้เวลาเพียง 20 นาทีโดยเรือเฟอร์รี่ความเร็วสูง ซึ่งหมายความว่าเราไม่จำเป็นต้องเดินทางไปต่ออีกครึ่งวันเมื่อไปถึงมัลดีฟส์ แต่ถ้าใครอยากลองมีประสบการณ์นั่ง Seaplane ควรเปลี่ยนแผนไปจองที่อื่น ดังนั้นที่นี่ เราสามารถพาคุณพ่อคุณแม่ คนแก่มาได้ เพราะเดินทางง่ายจึ้งงงงงง
รีสอร์ตเป็นส่วนหนึ่งของ Crossroads Marina ที่มีเจ้าของและบริหารโดย S Hotels & Resorts จากสิงห์ คอร์ปอเรชั่น อารมณ์คือคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ใจกลางมัลดีฟส์ มีร้านอาหาร คาเฟ่ สปา ช้อปปิ้ง ให้เพลิดเพลินได้ทั้งวัน แบบไม่ต้องออกไปไหนไม่มีเบื่อ แต่เหนือสิ่งอื่นใดอย่าลืมไปนั่งฟังไลฟ์แบนด์ที่ Hard Rock Cafe นะ มันเท่มาก
และหากใครซื้อห้องพักแบบ all inclusive แบบผม เราสามารถกินอาหารได้ในแทบทุกร้านที่ Crossroads Marina แค่นี้ผมว่าก็คุ้มแล้ว
“In this travel guide, you will discover some very useful and interesting information: the result of our investigations while visiting one of the must-go to places in the world – Maldives.”
มัลดีฟส์เป็นหนึ่งใน Dream Destination ของกานต์เลยครับและเชื่อว่าหลายคนก็เช่นกัน อยากไปนั่งชมวิวทะเล จิบเครื่องดื่มแก้วโปรดอยู่กลางทะเลสักครั้ง
มัลดีฟส์เป็นหนึ่งใน Dream Destination ของกานต์เลยครับและเชื่อว่าหลายคนก็เช่นกัน อยากไปนั่งชมวิวทะเล จิบเครื่องดื่มแก้วโปรดอยู่กลางทะเลสักครั้ง
ทริปนี้ เราเลือกมาพักผ่อนที่ Hard Rock Hotel Maldives รีสอร์ตที่บริหารจัดการโดย S Hotels & Resorts จากสิงห์ คอร์ปอเรชั่น ของไทยเรา เป็นหนึ่งใน Crossroads โปรเจคยักษ์ใหญ่ซึ่งขอติดไว้ก่อนครับ เดี๋ยวจะเล่าในรีวิวหน้าแบบเต็มๆ
ทริปนี้ผมเดินทางโดย Bangkok Airways เป็นเพียงไม่กี่สายการบินจากไทยที่บินตรงลงมาเล สนามบินของมัลดีฟส์ สะดวกมากใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงครับ
เมื่อเครื่องลงก็ตรงมาที่คีย์ออสด้านหน้าสนามบิน ซึ่งมีเยอะมากต้องหาดีๆ รีสอร์ตมีเจ้าหน้าที่มารอรับและพาเราไปนั่งเรือเฟอร์รี่ความเร็วสูง ขากลับเป็นสปีดโบท สะดวกรวดเร็วดี ประมาณ 20 นาทีก็ถึงรีสอร์ต
ที่ท่าเรือจะมีพนักงานของ Hard Rock มาตีกลองร้องเพลงทักทายต้อนรับ เอาให้สมกับเป็นรีสอร์ตแห่งเสียงเพลง
ที่นี่จะมี 3 เกาะย่อยๆ ซึ่งประกอบด้วย Crossroads Marina Complex / SAii และ Hard Rock ทั้ง 3 พรอพจะเชื่อมกันด้วยสะพานครับ เพื่อความเป็นส่วนตัว
ที่ Hard Rock มีห้องพักหลายแบบมาก ทั้งห้องพักในอาคารบนฝั่งและ Over Water Villas ซึ่งมีทั้งแบบมีสระว่ายน้ำส่วนและไม่มี ผมเลือกเป็น Platinum Overwater Pool Villa หันหน้าออกสู่ทะเลแบบไม่มีอะไรกั้น
วิลล่ามีขนาดใหญ่มากกกกก มาพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว มีระเบียงและวางที่นั่งเอาไว้ให้พักผ่อนชมวิวทะเลสุดจึ้ง
ภายในห้องตกแต่งได้สีสันสดใส เท่าที่สังเกตที่นี่จะเน้นสีเหลืองทองกับสีฟ้าเทอควอยซ์เป็นหลัก ภายในจัดวางชุดโซฟาที่นั่งพร้อมกับมีไวน์ต้อนรับจากทางรีสอร์ตแช่ไว้ให้ สามารถนั่งมองวิวทะเลจากมุมนี้ได้
เตียงนอนใหญ่เว่อร์มาก หัวเตียงบุด้วยหนังให้ความรู้สึกเท่ๆ มีโต๊ะหัวเตียงและสิ่งอำนวยความสะดวกครบตามมาตรฐานโรงแรม 5 ดาวชั้นนำ
ความเก๋ก็คือหมอนปักรูปกีต้าร์เอาไว้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ Hard Rock ทุกที่
ปลายเตียงมุมห้องจะเป็นมินิบาร์ ชา กาแฟ น้ำเปล่าขวดใหญ่ อยู่คนละฝั่งกับโซฟา อาจจะมองไกลหน่อยนะ ก็แน่ละ เค้าอยากให้เรามองทะเลมากกว่า
ห้องน้ำกว้างมาก แยกส่วนกับห้องนอน มาพร้อมกับเคาน์เตอร์อ่างล่างมือตรงกลาง กระจกสวยดีมี 2 บานซ้อนกัน ส่องได้จาก 2 ฝั่ง ส่วนอ่างอาบน้ำจะอยู่ริมหน้าต่างที่เปิดออกได้จะเป็นวิวทะเลด้านนอก
ความดีงามของห้องพักแบบ Platinum Overwater Pool Villa คือจะหันหน้าออกทะเลไปเลยครับ วิวสวย นั่งมองฟ้ามองน้ำได้ทั้งวัน ถ้าเป็นวิลล่าอีกฝั่งจะหันเข้าหารีสอร์ตและส่วนของ Crossroad แทน
จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ให้ชื่นใจ แต่ลมทะเลที่นี่พัดแรงเย็นสบายกว่ามาก จนรู้สึกหนาวๆ ในบางที แต่ฟีลดีแหละ ได้แช่น้ำในสระ มองน้ำในทะเล เก๋ๆ กันไป
ผมว่าทุกคนต้องอยากทำแหละ นอนแช่น้ำกลางมหาสมุทรอินเดีย ชนิดที่ว่าลงจากบันไดวิลล่ามาก็เป็นกลางทะเลเลย แต่ไม่แนะนำให้ไปไกลนะครับ คลื่นค่อนข้างแรง
แช่น้ำพักผ่อนอยู่ดีๆ ก็อาจจะมีป้าข้างวิลล่ามาทักทาย อยากว่ายน้ำด้วยแต่กลัวฉลามงับๆ
มีห้องพักแบบที่อยู่บนฝั่งด้วยครับ ก็จะเหมาะสำหรับคนชอบอาบแดด เดินสามก้าวก็เข้าสู่ชายหาดชายทะเล ความเก๋ของมัลดีฟส์ก็คือซ้ายก็เป็นทะเล ขวาก็เป็นทะเล มันสุดจริงๆ
พื้นที่ส่วนกลางใหญ่มากกกกกก มีครบทั้งห้องอาหาร สระว่ายน้ำ เตียงผ้าใบชายหาด กิจกรรมทางน้ำ ชิงช้าม้านั่งถ่ายรูปก็มี อยู่แต่ในรีสอร์ตนี่แหละ 4 วัน ไม่ต้องออกไปไหน
ที่สระว่ายน้ำใหญ่จะมีสไลเดอร์ให้เล่นด้วย สนุกสนานกันไป ถ้าอยากได้รูปแบบไม่ติดใครต้องรีบมาถ่ายตอนเช้า
ภายในรีสอร์ตจะมีจักรยานส่วนตัวให้ใช้ของใครของมันเลยครับ ปั่นจากวิลล่าเรามา หรือว่าจะเรียกรถบัคกี้ก็ได้ ถ้าใครไม่อยากปั่น
กิจกรรมเยอะมาก สามารถดำน้ำตื้นจากหน้ารีสอร์ตได้เลยครับ มีปลาหลายชนิด บางทีก็จะมีฉลาม ปลากระเบนว่ายมา
กิจกรรมบางชนิดต้องเสียเงินเพิ่ม สามารถติดต่อที่สปอร์ตเซ็นเตอร์ได้เลยครับ
ผมหนีมาฟังเจ้าหน้าที่บรรยายเรื่องการก่อสร้างรีสอร์ตและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลดีกว่า ผมสังเกตว่า S Hotels & Resorts เน้นย้ำเรื่องนี้มาก ตั้งแต่ตอนไปพักที่ SAii Phi Phi ละ ทำให้รู้เลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ว่าเราจะนำการพัฒนาให้มาอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างไร เจ้าหน้าที่คนนี้เป็นคนไทยครับ อยู่ที่นี่มาตั้งแต่ยังเป็นที่กลางทะเลเปล่าๆ เลยทีเดียว
จากนั้น ก็ไปชมมิวเซียม บอกเล่าเรื่องราวของทะเล เมือง และศิลปวัฒนธรรม มีการสอนภาษาให้เราหัดสะกดชื่อตัวเองเป็นภาษา Dhivehi ของมัลดีฟส์ด้วยนะครับ
มาเดินเล่นที่ Crossroads Marina complex กันบ้างครับ บรรยากาศสวยงาม สดชื่น เต็มไปด้วยต้นมะพร้าวและธรรมชาติสีเขียว มีร้านรวงต่างๆ มากมาย
ใครที่ซื้อแพกเกจแบบรวมทุกอย่างมาก็จะคุ้มมาก เพราะเลือกกินได้ทุกร้านทุกมื้อไม่อั้น มีอาหารหลากหลายประเภทมากครับ ไทย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น อิตาเลียน ฝรั่งเศส เลือกกินกันไม่ไหวเลย
แต่ไฮไลท์เลยที่ต้องไม่พลาดคือ Hard Rock Cafe เคยไปฟังดนตรีสดที่พัทยา ผมว่าวงดนตรีเล่นดี ที่นี่ก็เจ๋งเหมือนกัน เป็นแนวร็อคผสมแจ๊ส เล่นเพลงสากลเป็นหลัก
ในร้านจะตกแต่งเป็นเอกลักษณ์ด้วยกีต้าร์ของจริงของศิลปินชื่อดังทั่วโลก ผมมาเห็นที่ Hard Rock มีกีตาร์ของพี่ป้อม-อัสนี และพี่ฟองเบียร์ นักแต่งเพลงชื่อดังจากแกรมมี่ ประดับไว้ที่ผนังร้านด้วยครับ
นั่งรออาหาร ใช้เวลานานเหมือนกันนะ เพราะว่าแขกเยอะครับยิ่งค่ำยิ่งคนเยอะมาก เต็มทุกโต๊ะ ต้องรีบมาเพราะว่าแขกส่วนใหญ่จะนิยมมานั่งที่นี่กินข้าว ดื่มแล้วก็ฟังเพลงกัน ที่สำคัญคือรวมอยู่ในแพกเกจแล้วด้วยจ้าาาา
สั่งเบอร์เกอร์เมนูไฮไลท์มา อาหารมีให้เลือกเยอะมาก ชอบ New York Burger กับ Buffalo Wings ที่สุด
Hard Rock Cafe จะอยู่อีกฝั่งห่างจากรีสอร์ต จะต้องเดินข้ามสะพานซึ่งมีความยาวมากกกกก แต่ก็มีฝรั่งเดินกันจริงจังนะ บางคนก็นั่งรถบัคกี้มา ส่วนเราปั่นจักรยานกลับจ้า
ที่กินมาตะกี้คือเบิร์นออกไปหมดแล้วนะ
ตอนปั่นจักรยานระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปอะไรไปเรื่อยเปื่อย มองไปเห็นวิลล่าเราเปิดไฟอยู่กลางทะเล ทำไมสวยจัง
มีใครเป็นเหมือนกันบ้าง ผมชอบเปิดม่านนอน เพราะตื่นตอนเช้าอยากเห็นภาพแรกหลังลืมตา เป็นภาพนี้เลยจ้า สวยมาก ถ่ายจากบนเตียงกันไปเลยเรียลๆ
ตอนเช้าวิวพระอาทิตย์ขึ้นก็สวยครับ เหมาะสำหรับสายถ่ายรูปจริงๆ
“In Maldives, life is different. Time doesn’t move hour to hour but mood to moment. We live by the currents, plan by the tides, and follow the sun. ”
– Unknown
ตอนเช้าๆ ตื่นมาบินโดรน วิวสวยมาก แสงดี พระอาทิตย์ที่มัลดีฟส์ขึ้นไวดีเหมือนกัน อาจจะต้องขยันตื่นเช้าหน่อย
ตอนเช้ามาทานข้าวที่ห้องอาหารหลัก ขนาดใหญ่มาก จัดที่นั่งไว้เต็ม ไม่แออัดเท่าไร อาจจะด้วยกระจกสูงโปร่ง มองเห็นชายหาดด้านนอก มีให้เลือกนั่งทั้งในห้องแอร์และด้านนอก
เครปขายดีมาก เบเกอรี่ที่นี่อร่อย กินบ่อยสุดแล้ว อาหารไม่ค่อยเท่าไร มีอาหารเช้าแบบฝรั่งและเน้นหนักไปทางอาหารอินเดีย ใครชอบกลิ่นเครื่องเทศ ที่นี่คือสวรรค์เลยครับ ส่วนผมถนัดงานนมเนยแป้งครัวซองก์ไรงี้
นั่งกันเพลินมาก จนสายโด่งใกล้เที่ยง มีนัดทำสปาเอาไว้ที่ Rock spa อยู่ติดทะเลเลยครับ
ด้วยความที่รีบมากเลยไม่ทันได้ชวนพนักงานคุยเรื่องดีไซน์ของสปา แต่ดูแล้วสวยเก๋ดี คล้ายเปลือกหอย ห้องทำทรีตเมนท์มีน้อยแค่ 4 ห้องครับ
ข้างในสปาตกแต่งสวยมาก เตียงทรีตเม้นท์ เชื่อมต่อกับส่วนพักผ่อนด้านนอกวิวทะเล ให้เราได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่ในบรรยากาศสบายๆ
ก่อนพิธีกรรมสปาจะเริ่ม สังเกตเห็นเทอราพิส ทำท่าทางคล้ายกับปลุกจิตวิญญาณของเราให้ผ่อนคลายจิตใจไปพร้อมกับการปรนนิบัติที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีก 60 นาทีข้างหน้า จากนั้นเราก็หลับไปเลยครับ มันสบายมากจริงๆ
เสร็จจากสปา ก็มานั่งที่ Relaxation Area มุมนี้สวย ดูผ่อนคลายดีครับ เหมาะสำหรับมานั่งปลีกวิเวกสักพัก
ตอนบ่าย ได้แวะไปวิลล่าของเพื่อนมา เป็น Rock Star Villa ขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยเสียงเพลง มีกีต้าร์ มี Jukebox มีเครื่องร้องคาราโอเกะ ไม่ต้องกลัวว่าจะรบกวนใครเพราะวิลล่าอยู่ด้านในสุดติดทะเล ร้องเพลงให้ฉลามฟัง
ที่เก๋อีกอย่างคือกลางห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นกระจกมองเห็นน้ำทะเลด้านล่างกันเลยทีเดียว
อีกห้องเป็นห้องนอนพร้อมโซฟาเบดปลายเตียงที่หันออกทางทะเล ห้องนี้ก็เป็นอีกห้องที่ผมว่าเก๋และอยากพักมาก แต่มีห้องไม่เยอะ ส่วนใหญ่จองกันเต็มตลอดทั้งปี
จากโครงการเยี่ยมบ้านเพื่อนฝั่งตะวันออก เราปั่นจักรยานมาฝั่งตะวันตกเพราะจะมาชมพระอาทิตย์ตกดินที่สุดปลายวิลล่า กันครับ
บรรยากาศดีมาก ขอยืนทำเอ็มวีแปบ เป็นวิวที่สวยจริงๆ มองเห็นทะเลสุดลูกหูลูกตา มีแค่น้ำ ฟ้า และเรา
มุมนี้เป็นลานกว้าง จะมีนักท่องเที่ยวปั่นจักรยาน หรือบางคนก็เดินมาจากวิลล่าเพื่อมาเก็บภาพความประทับใจ
มัลดีฟส์ทริปนี้สนุกและประทับใจมาก อย่างที่ออกตัวไว้ว่าอาจจะไม่ได้หรูหราแบบ Ultra Luxury แต่เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ตที่เหมาะมาใช้เวลาร่วมกับเพื่อนๆ ครอบครัวทำกิจกรรมร่วมกัน พร้อมกับหาเวลามาเป็นส่วนตัวได้ด้วยครับ
“Sunsets are proof that no matter what happens, every day can end beautifully.” ชอบประโยคนี้จัง “พระอาทิตย์ตกดินเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทุกวันก็จบลงอย่างสวยงาม”
แล้วพรุ่งนี้พระอาทิตย์ก็ขึ้นเป็นเช้าวันใหม่
4 คืนจบไปอย่างสนุกสนาน ได้เวลากลับบ้านแล้วครับ บินกับบางกอกแอร์เช่นเคย
จองตั๋วไปมัลดีฟส์ที่นี่เลยครับ >> https://www.bangkokair.com
ส่วนจองโรงแรมก็กดที่นี่ >> https://bit.ly/3T1CxO2