เปิดวาร์ปแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ
สายถ่ายรูป-เช็คอินไม่ควรพลาด
GWM EXPERIENCE CENTER
_
วันก่อนกานต์ไปเดินเล่น ICONSIAM ห้างหรูใกล้บ้าน
เดินผ่านร้านกาแฟสีขาวเปิดใหม่น่านั่งเลยเข้าไปสั่ง
พนักงานบอกว่า ไม่ใช่ค่ะ ที่นี่เป็น “EXPERIENCE CENTER”
ศูนย์เรียนรู้สุดไฮเทคเน้นความสนุกสนานและประสบการณ์ใหม่
โดย Great Wall Motors แบรนด์ยานยนต์นวัตกรรมระดับโลก
ที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหน้าน้องเหมียวน่ารักๆ นั่นแหละครับ
ไหนๆ ก็เข้ามาแล้ว ขอเก็บภาพมาเป็นไอเดียสักหน่อย
ที่นี่แบ่งออกเป็น 7 โซนด้วยกันครับ กินพื้นที่ชั้น 3-4
ฟังก์ชั่นสไตล์ Co-Working Space เน้นเรื่องเทคโนโลยี
มีมุมไฮไลท์สวยๆ ให้ถ่ายภาพเช็คอินกันหลายจุดเลยครับ
ผมชอบวิวแม่น้ำเจ้าพระยามาพร้อมสวนให้นั่งรับลมเย็นๆ
หรือใครจะมานั่งเล่น อ่านหนังสือ ทานขนม จิบกาแฟก็ได้
มีห้องประชุมให้เราได้คุยงานซึ่งติดตั้งอุปกรณ์สุดไฮเทคไว้พร้อม
ไม่ต้องเป็นเจ้าของรถ GWM ก็มาจองใช้บริการห้องประชุมได้
ถ้าเผื่อเครียดๆ คิดงานไม่ออกก็มีสไลเดอร์ให้เล่นปลดปล่อ
เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่สร้างสรรจินตนาการสุดล้ำจริงๆ ครับ
สมกับที่เรียกตัวเองว่าเป็น “The 4th Space” เหนือกว่าใคร
ผมเก็บภาพไฮไลท์มาให้ชมครบทั้ง 7 โซนเลยครับ
ตอนเย็นๆ วิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาตอนตึกเปิดไฟแสงสวยมาก
อยากชวนทุกคนให้ตามรอยมาถ่ายรูปเล่นกัน
ไม่ต้องมาซื้อรถก็สามารถแวะมานั่งเพลินๆ ได้เลยนะครับ
หรือถ้าอยากเป็นเจ้าของยานยนต์นวัตกรรมแห่งอนาคตสักคัน
ผมว่ามันก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อยเลยล่ะครับ
GWM EXPERIENCE CENTER
เปิดบริการทุกวันเวลา 10.00-21.30 น.
ชั้น 3-4 ที่ ICONSIAM
—
GWM EXPERIENCE CENTER
เปิดบริการทุกวันเวลา 10.00-21.30 น.
ชั้น 3-4 ที่ ICONSIAM
Sky Garden
GWM EXPERIENCE CENTER : The 4th Space
Amphitheater
โซน 1 Mobility Experience Park อยู่ชั้น 3 ด้านหน้าของ GWM เลยครับ จะเป็นจุดโชว์เทคโนโลยีของ GWM ที่มาพร้อมกับรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่นำมาจัดแสดงให้ได้ชมกัน แต่ละคันมีเทคโนโลยีที่จัดเต็มมากครับ แถมยังดีไซน์สวย
ผมชอบไอเดียการบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ GWM ผ่านจอ LED Sphere ลูกโลก 360 องศา ที่พร้อมจะบอกเราว่านวัตกรรมของ GWM ไม่เพียงแต่จะโดดเด่นเรื่องเทคโนโลยี แต่ยังมีความเกี่ยวพันกับไลฟ์สไตล์ สิ่งแวดล้อมไปจนถึงเป็นนวัตกรรมเพื่อมวลมนุษยชาติเลยล่ะครับ
ใกล้ๆ บริเวณนี้ จะมีสไลเดอร์ให้เราเล่นสนุก มีความสูงจากชั้น 4 ลงมาชั้น 3 ราว 6.9 เมตร ยาว 15 เมตร สามารถเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเรื่องความปลอดภัยตลอดเวลาครับ
ส่วนตรงกลางของโซนที่ 1 เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบให้เป็นลาน Amphitheater ขนาด 100 ที่นั่ง เพื่อรองรับกิจกรรมต่างๆ ที่ GWM EXPERIENCE CENTER จะหมุนเวียนจัดขึ้นตลอดเวลา ช่วงไหนว่างๆ ก็สามารถปรับเป็นที่นั่งเอนกประสงค์ได้อีกด้วยครับ ดูผมสิ!! ถึงกับยกโน๊ตบุ๊คมาตั้ง นั่งส่งงานด่วนกันจากที่นี่เลย
ผมว่านี่เป็นอีกมุมที่ถ่ายรูปสวยดี ชอบการวางแพทเทิร์นของกล่องไม้ทรงเหลี่ยมที่ดูคอนทราสกับเบาะนั่งทรงกลม ซึ่งวางเรียงกันดีไซน์เก๋
โซนที่ 2 เป็น Technology Lab โดดเด่นด้วยจอแบบ Interactive LED Wall ขนาดจอคือใหญ่มาก มีความยาว 14 เมตร สูง 3 เมตร แบ่งย่อยออกเป็น 5 จอเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์แต่ละรุ่น เทคโนโลยีและนวัตกรรมความทันสมัย สามารถนั่งดูได้สบายๆ หรือใครจะ Interac หน้าจอร่วมกับคนอื่นๆ ก็ได้ด้วยครับ
ถัดจาก Technology Lab จะเป็นโซน 3 Conference Hall เป็นห้องประชุมงานที่เปิดให้เราได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์กันอย่างเต็มที่
พร้อมมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสุดไฮเทคไว้ให้บริการ ท่ามกลางวิวสวยๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยาแบบพาโนรามิค ผมยกให้เป็นห้องประชุมที่มีวิวสวยที่สุดในประเทศไทย ที่สำคัญคือสามารถใช้งานได้ฟรีโดยที่เราไม่ต้องเป็นเจ้าของรถยนต์ GWM ก็ได้ เพียงเข้าไปบุ๊คช่วงเวลาที่ต้องการใช้บริการไว้กับเจ้าหน้าที่ด้านหน้าก่อนนะครับ
ที่ชั้น 3 ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์คือเจ้ารถยนต์น้องเหมียว ORA รถยนต์ไฟฟ้าสุดคิ้วท์ อยู่ด้านหน้าคือโซน 4
ผมชอบมุมนี้มากครับ ออกแบบให้เป็น Living Room & Sky Garden ตกแต่งแบบมินิมอลสุดๆ เป็นมุมเปิดโล่งเอาไว้ให้เรามานั่งชิลล์ได้ทั้ง 2 ชั้น
ใครเดินดูรถยนต์จนรู้สึกเหนื่อย (เพราะมันกว้างมาก) ก็มานั่งพักผ่อนได้ที่โซนนี้ มีทั้งที่นั่งด้านในและสวนลอยฟ้าด้านนอกแบบเปิดโล่งชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้เพลินๆ ครับ
สามารถแลกกาแฟจากคาเฟ่ของ GWM มานั่งจิบที่สวนด้านนอกได้ นี่เป็นอีกไฮไลท์ที่ผมอยากแนะนำสำหรับใครที่ชอบถ่ายรูปวิวแม่น้ำเจ้าพระยาในมุมสูง ก็จะได้ภาพที่แปลกตาออกไป ยิ่งตอนกลางคืน ตึกต่างๆ เปิดไฟ ได้วิวหลักล้านมากครับ
ขึ้นบันไดไปที่ชั้น 4 กันบ้างครับ
โซนที่ 5 ชื่อว่า GWM Story ออกแบบให้เป็น Interactive Wall บอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของแบรนด์รถยนต์เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 1984 ที่มีพัฒนาการเรื่อยมาจนก้าวขึ้นไปสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกได้
ต้องเรียกว่า … ไม่ธรรมดาเลยนะครับ
ชั้นบนก็มีที่นั่งสบายๆ ให้เราได้พักผ่อนได้ตามสไตล์
จากนั้น ขยับมาโซนที่ 6 Car Mapping ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน จะมีโมเดลรถยนต์รุ่น ORA ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบของ GWM จอดอยู่อย่างโดดเด่น เดินผ่านไปผ่านมาก็จะเห็นได้ชัดเจนเลยครับ ให้เราได้ทดลองวาดจินตนาการเพื่อดีไซน์รถยนต์ในฝัน ผ่านเทคโนโลยีสุดอัจฉริยะของ GWM ผมชอบมุมนี้มาก เหมือนเราได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งด้วยการวาดฝัน สร้างสรร แต่งเสริม เติมสีให้กับรถยนต์ดีไซน์โปรดด้วยตัวเราเองครับ
แวะมาเล่นกันได้นะครับ
โซนสุดท้ายคือ GWM Cafe & Co-Kitchen ตกแต่งเป็นร้านกาแฟสีขาวสุดมินิมอล ชวนให้อยากเดินมาสั่งกาแฟสักแก้ว อยากลองชิม Shakarita มากน่าจะอร่อย ซึ่งมุมนี้ก็เป็นคาเฟ่จริงๆ นะครับ เพียงแต่ไม่ขาย เพราะ GWM จะมอบเครื่องดื่มให้ฟรีสำหรับใครที่นำคะแนนสะสมในแอปพลิเคชันของ GWM ซึ่งได้มาจากการร่วมสนุก ทำกิจกรรมภายในแอปพลิเคชันมาแลกเครื่องดื่ม หรือถ้าใครซื้อรถยนต์ของ GWM ก็จะได้รับคะแนน ไว้นำมาแลกเครื่องดื่มแก้วโปรดได้เลยครับ
มุมนี้ยังมีกิมมิคน่ารักๆ ซ่อนไว้ระหว่างรอรับกาแฟ คือสามารถแชร์ไอเดียต่างๆ ของเราเขียนเป็นข้อความลงบนโต๊ะแบบทัชสกรีนที่เอาไว้รอรับกาแฟ เพื่อแชร์ขึ้นจอด้านหลังในคาเฟ่แบบ Interactive หรือตอนที่บาริสต้าเสิร์ฟกาแฟวางลงบนโต๊ะ ก็จะมีปลาคราฟท์ มีเต่า ว่ายน้ำมาทักทายเราด้วย น่ารักดีครับ
นอกจากนี้ ยังมีมุมของที่ระลึกจากแบรนด์ GWN ผมชอบโมเดลรถ HAVAL มากดูหล่อเลย ส่วนด้านในสุดคือ Co-Kitchen ออกแบบเป็นเคาน์เตอร์ครัว ฟีลเหมือนได้อยู่บ้านสบายๆ ให้เราร่วมทำกิจกรรม Workshop ต่างๆ มากมาย อย่างวันที่ผมไปก็ได้ทดลองแต่งหน้าคัพเค้กในคอนเซ็ปต์วันฮาโลวีนด้วยครับ
ที่นี่เขามีจัดกิจกรรมเรื่อยๆเลยนะครับ ใครที่สนใจสามารถเข้าไปดูได้ตารางกิจกรรมแต่ละเดือนได้ที่ GWM Application ที่สำคัญคือฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายด้วยนะครับ
แวะเข้ามาทักทายกันได้ที่ ชั้น 3-4 ICONSIAM ครับ
GWM EXPERIENCE CENTER
เปิดบริการทุกวันเวลา 10.00-21.30 น.
ชั้น 3-4 ที่ ICONSIAM