Grand Bangkok Boulevard (Ramintra-Kasetnawamin)

จำที่กานต์เคยมาถ่ายแบบใหม่-ดาวิกาได้ไหมครับ 📸✨

บ้านหลังนี้แหละ #สวยมว๊ากกกกกก

.

Giorgio Vasari สถาปนิกและนักเขียนชาวอิตาลีในศตวรรษที่ 16 ได้บันทึกชีวิตของศิลปินยุค Renaissance ผู้ยิ่งใหญ่ไว้ในหนังสือชื่อ “Lives of the Most Excellent Painters, Sculptors, and Architects” หนึ่งในนั้นคือ Filippo Brunelleschi สถาปนิกผู้สร้าง Duomo de Florence ว่าเป็นอัจฉริยะศิลปิน ด้วยการออกแบบและสร้างโดมอันเป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญทางศิลปะและสถาปัตยกรรม เพื่อผลักดันขอบเขตของความสำเร็จของมนุษย์สู่ความเป็นเลิศให้เหนือไปอีกระดับ

.

Florence เมืองที่ตั้งอยู่ใจกลางแคว้นทัสคานี มีบรรยากาศที่สวยคลาสสิคและสง่างามอย่างไม่มีใครเทียบได้ มีความสำคัญมาตั้งแต่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) ไม่ว่าจะเป็นด้านศิลปะ สถาปัตยกรรมและมรดกทางวัฒนธรรม จะเรียกว่าเป็นเมืองหลวงแห่งศิลปะก็ได้ครับ เพราะเป็นที่ตั้งของผลงานชิ้นเอกมากมายที่แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในรายละเอียดและงานฝีมือที่มีความงดงาม

.

บรรยากาศเช่นนี้ มิเพียงแต่เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินและนักคิด นักเขียนจำนวนมาก หากแต่ยังรวมถึงโครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา-เกษตรนวมินทร์ (Grand Bangkok Boulevard Ramintra-Kasetnawamin) คฤหาสน์สุดหรูที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงเมือง Florence เป็นที่อยู่อาศัยที่ดึงดูดจิตวิญญาณแห่งความหรูหรา ความสงบ ความสง่างาม และความประณีตของเมือง ดึงเอามรดกทางศิลปะและสถาปัตยกรรมอันรุ่มรวยของ Florence มาผสมผสานรายละเอียดและความสง่างามในการออกแบบ

.

รีวิวนี้ กานต์​พามาชมบ้านตัวอย่างหลังใหญ่ในโครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา-เกษตรนวมินทร์ เปลี่ยนทุกมุมของผืนดินอันกว้างใหญ่ให้กลายเป็นสวรรค์แห่งงานศิลป์ที่มีความซับซ้อนและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การออกแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานความลงตัวของพื้นที่เปิดโล่งภายในเข้ากับสวนเขียวชอุ่มที่รายล้อมโครงการ โดดเด่นด้วยองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่ละเอียดบรรจง

.

บ้านทุกหลังออกแบบให้เป็นบ้านหน้ากว้าง ผมชอบงานดีไซน์ประตูทางเข้าหลักของบ้านเป็นซุ้มประตูโค้งเว้าสูง ประดับหินอ่อนและคิ้วบัวเพื่อเพิ่มความคลาสสิค เพื่อให้มีบรรยากาศของเมือง Florence ส่วนภายในบ้านได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราพิถีพิถัน อลังการด้วยโถงบันไดวน และ Grand Double Master Bedroom และเป็นการมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับให้กับผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง

.

ไปชมภาพในคอลเลคชั่น Grand Bangkok Boulevard Ramintra-Kasetnawamin พร้อมอ่านเรื่องราวกันต่อที่แคปชั่นด้านในดีกว่าครับ

.

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษได้ที่ >> https://m.scasset.com/Czii

รายละเอียดเพิ่มเติมโทร : 061-398-1999

หรือ Line : @GBBRK

___________________________________________

This review showcases the grand model house in Grand Bangkok Boulevard Ramintra-Kasetnawamin, which is a luxurious residential project aiming to capture the essence of Florence Italy. It incorporates the artistic and architectural heritage of Florence into its design, reflecting the elegance and fine details of the city.

Grand Bangkok Boulevard Ramintra-Kasetnawamin project, transformed the vast land into an artistic paradise with unique and intricate designs. Reminiscent of Florence’s atmosphere, unparalleled in its classic beauty and elegance, with a rich history dating back to the Renaissance era. The architectural design combines spacious interiors with lush green gardens surrounding the project, featuring meticulous architectural elements.

Each house is designed with a wide front and an impressive main entrance door. So the interior of the house is exquisitely decorated with a winding staircase, a grand double master bedroom, and an elevated living experience for residents.

#Florence#Italy#GrandBangkokBoulevardRamintraKasetnawamin#SCAsset#GBBRK

โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา-เกษตรนวมินทร์ ตั้งอยู่ติดถนนสวนสยามซึ่งอยู่ระหว่างถนนรามอินทราและเสรีไทย สามารถเข้าสู่ตัวเมืองได้รวดเร็วเพราะอยู่ใกล้ทางพิเศษฉลองรัช

ส่วนการเดินทางเชื่อมต่อไปยังถนนสายต่างๆ ถือว่าทำได้สะดวกมาก ใกล้ทางพิเศษวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออกหมายเลข 9 ทำให้เราสามารถเดินทางไปยังลำลูกกา–บางปะอิน และบางนา-สุวรรณภูมิได้โดยใช้เวลาไม่นาน อีกทั้งยังเชื่อมต่อไปยังถนนได้อีกหลายสาย เช่น ถนนเกษตร – นวมินทร์ ถนนรามคำแหง ถนนประดิษฐ์มนูธรรมและถนนลาดพร้าว เรียกว่าเข้าออกได้หลายเส้นทางมากครับ ถือเป็นทำเลที่เดินทางได้อย่างสะดวกสบายจริงๆ

นอกจากนี้ โครงการยังตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีชมพู สถานีนพรัตน์ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการเพียง 900 เมตร และรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีมีนพัฒนา อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร

อีกทั้งยังเป็นทำเลที่แวดล้อมไปด้วย Facilities ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนนานาชาติ ฮีทฟิลด์, โรงเรียนอินเตอร์คิดส์, โรงเรียนบรอมส์โกรฟ, โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี มีโรงพยาบาลเสรีรักษ์, โรงพยาบาลสินแพทย์, โรงพยาบาลอินทรารัตน์ และโรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์

รายล้อมไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ ตลอดจน Community Mall และห้างสรรพสินค้า อาทิ Chic Republic รามอินทรา, The Crystal Park, The Promenade, Central Festival EastVille นับว่าตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตมากครับ

โครงการ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา-เกษตรนวมินทร์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 47-0-2.1 ไร่ โดดเด่นด้วยซุ้มประตูทางเข้าแบบ Double Gate จุดแรกด้านหน้าถนนใหญ่ ดีไซน์ออกมาในสไตล์อิตาลีในยุค Renaissance โทนสีขาวเบจ มีรูปปั้นม้าลากเกวียนตั้งอยู่ตรงกลาง

จากนั้น เมื่อเราขับรถเข้ามาด้านในระหว่างทางจะได้พบกับความร่มรื่นของต้นไม้และงานดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยความที่ตัวบ้านอยู่ถัดจากถนนใหญ่เข้ามาด้านใน ทำให้เราไม่ได้ยินเสียงรถราที่วิ่งไปมาด้านนอก เป็นความเงียบสงบที่สัมผัสได้ทันที

เราขับรถเรื่อยมาจนถึงประตูทางเข้าจุดที่ 2 ซึ่งจะอยู่ด้านหน้าบริเวณ Exclusive Clubhouse ซึ่งจะแยกออกจากโซน Residencial อย่างชัดเจน ข้อดีก็คือทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวเพราะเราสามารถนัดแขกที่ไม่ต้องการให้เข้าไปภายในบ้าน มาพบปะพูดคุยธุระที่นี่แทนได้ และยังถือว่าเป็นตัวแทนแห่งความภาคภูมิใจเพราะ Exclusive Clubhouse มีขนาดใหญ่และสวยงามมาก โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรม Duomo de Florence ซึ่งเป็นมหาวิหารชื่อดังที่สวยและงดงามของเมืองนี้

อีกทั้ง การวางระบบสายไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งโครงการ ทำให้อาคารสโมสรและบ้านทุกหลังต่างพากันเฉิดฉายโชว์ความสวยงามและอลังการได้อย่างเต็มที่ เพราะไม่มีเสาไฟมาบดบังทัศนียภาพของโครงการ

ส่วนการรักษาความปลอดภัยใช้ระบบ Triple Security System ที่ดีเยี่ยม โดยทุกจุดมีเจ้าหน้าที่ดูแลพร้อมกล้อง CCTV รอบโครงการ มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ที่นี่จะใช้ระบบ Smart Gate With License Plate สแกนทะเบียนรถสำหรับลูกบ้าน จากนั้นประตูรั้วเหล็กก็จะเลื่อนเปิดอัตโนมัติ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้พักอาศัยครับ

ขออนุญาตเปิดประตูรั้วโครงการชั้นใน นำพาทุกคนไปชมบ้านตัวอย่างกันก่อนครับ โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา-เกษตรนวมินทร์ ออกแบบให้มีการจัดวางผังที่ดินทุกแปลงโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวมากที่สุด โดยเน้นไปที่บ้านแปลงมุมกว่า 60 หลัง จากทั้งหมด 70 หลัง โดยมีบ้านให้เลือก 3 แบบ ได้แก่

-Accademia พื้นที่ใช้สอย 439 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ

-Uffizi พื้นที่ใช้สอย 510 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ

ส่วนแบบบ้านตัวอย่างที่กานต์พามาชมกันในครั้งนี้คือ Duomo De Florence พื้นที่ใช้สอย 591 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ สามารถจอดรถได้ 5 คันพร้อมห้องนอนแม่บ้านด้านหลัง ด้านข้างสามารถจัดสวนเพิ่มได้ บ้านตัวอย่างดีไซน์ให้ประตูทางเข้าบ้านเป็นหินอ่อน มีซุ้มโค้งประดับคิ้วบัวสไตล์คลาสสิค มีน้ำพุและสระน้ำอยู่ด้านหน้าบ้านเพิ่มความอลังการให้สมกับความเป็นอัครสถานสมดังชื่อโครงการ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด

เพราะผมมองว่าในการเลือกบ้านสักหนึ่งหลังนั้น สิ่งสำคัญคือการออกแบบทั้ง Exterior และ Interior ต้องให้ตอบสนองความต้องการและสะท้อนรสนิยมของเราในฐานะผู้อยู่อาศัยให้ได้มากที่สุดครับ

ก่อนพาเข้าไปชมภายในบ้านตัวอย่าง อยากจะชี้ชวนดูให้เห็นถึงรายละเอียดของความหรูหราคลาสสิค ที่ซ่อนไว้ในบ้านสไตล์ Luxury Classic กันก่อนครับ

งาน Exterior ของบ้านเลือกใช้โทนสีเบจกับสีเทาเข้มทำให้ดูเรียบหรูโก้ ขับความเข้มของเส้นสายด้วยวัสดุที่เป็นเหล็กและโลหะ กระเบื้องหินอ่อนผนังสีเข้มที่หนักแน่นคล้ายหิน ทำให้บ้านดูแข็งแรง มั่นคง ก่อนจะเติมความโปร่งสบายให้ตัวบ้านด้วยกระจกบานใหญ่ แต่ที่ผมว่าเป็นกิมมิคที่น่าสนใจคือลวดลายของเส้นสายเหลี่ยมมุมที่เกิดจากการตกกระทบของแสง ทำให้ในแต่ละชั่วโมงบ้านของเราจะดูสวยไม่ซ้ำกันตามทิศทางของแดด ช่วยเพิ่มมิติที่น่าสนใจให้กับการอยู่อาศัยและงดงามราวกับชิ้นงานศิลปะที่มีชีวิต

พื้นลาดจอดรถเป็นแบบ Slab on Beam คือพื้นวางบนคานเดียวกับตัวบ้าน โดยโครงสร้างจะลงเสาเข็มถึงบริเวณสุดชาน ลานจอดรถปูพื้นด้วยคอนกรีตแสตมป์ มีความแข็งแรงทนทาน หน้าบ้านออกแบบให้มีปลั๊กไฟและ Junction ของงานระบบเพื่อรองรับการติดตั้ง EV Charger สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเอาไว้ให้แล้ว พร้อมกับมีห้องเก็บสัมภาระด้านหน้าบ้าน สำหรับจัดเก็บอุปกรณ์ทำสวน จักรยานแบบพับได้ หรือเอาไว้เก็บถุงกอล์ฟ จะได้ขนย้ายเข้าออกจากรถยนต์ได้สะดวก

ออกแบบให้มีประตูเล็กเชื่อมต่อกับภายในบ้านโซนด้านหลัง ทำให้สะดวกมากเวลาที่กลับจากซุปเปอร์มาร์เก็ตก็สามารถตรงเข้าครัวทันที และออกแบบให้มีทางลาดสำหรับรถเข็นวีลแชร์ตรงเข้าบ้านได้เลยครับ

งาน Exterior คือสวยมากจริงๆ ออกแบบ Facade ได้หรูหรา มาพร้อมกับงานสถาปัตยกรรมสไตล์ Modern Classic ที่โดดเด่นด้วยประตูโค้งทรง Arch บานประตูทำจากไม้สัก ทางโครงการยังได้ติดตั้ง Digital Door Lock สีดำดีไซน์สวยดูกลมกลืนไปกับประตู เป็นของแบรนด์ BALDWIN นำเข้าจาก USA ผมว่ามันช่างลงตัวกับบานประตูไม้สักได้อย่างดี โดยที่ประตูจะเป็นแบบ 2 บานเปิด ฉลุด้วยกระจกสีเข้มเพิ่มความหรูหราน่าสนใจ

เราเปิดประตูเข้าไปในตัวบ้านกันดีกว่าครับ Arrival Hall ด้านหน้าเป็นโถงสูงมีพื้นที่กว้างขวาง ไฮไลท์ก็คือภาพเบื้องหน้าที่โดดเด่นด้วยบันไดวน Double Volume Spiral Staircase ตรงกลางสูงจากพื้นชั้น 1 จรดฝ้าเพดานชั้นบนความสูงประมาณ 6.85 เมตร ผนังบริเวณบันไดเปิดเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ที่ส่องผ่านแสงแดดจากธรรมชาติเข้ามาภายในบ้านได้ ส่วนบันไดเซาะร่องประดับไฟราวจับไว้อย่างหรูหราสวยงามรับกันดีกับลูกตั้งลูกนอนของบันไดที่ใช้เป็นหินอ่อน ทว่าบ้านจริงเป็นพื้นไม้สักที่ผมว่าสวยไม่แพ้กัน

บ้านตัวอย่างมาพร้อมกับ Chandelier สีทองเป็นรูปนกกำลังโบยบินดูเก๋มาก นอกจากนี้ บ้านตัวอย่างยังได้จัดวางเปียโนสีดำสุดหรูอยู่บริเวณโถงบันได ด้านขวามี Shoes Closet ขนาดใหญ่ สามารถเก็บรองเท้าได้หลายร้อยคู่เลยครับกั้นเป็นห้องไว้อย่างเป็นสัดส่วน

“Life is like a piano; the white keys represent happiness and the black show sadness. But as you go through life’s journey, remember that the black keys also create music.”

– Ehssan

พื้นชั้นล่าง ปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนแผ่นใหญ่ ซ้ายมือเป็นมุมรับแขกที่ปูพรมทับอีกทีเพื่อเพิ่มความ Luxury โดยมีการจัดวางชุดโซฟาที่นั่งขนาดใหญ่เอาไว้ต้อนรับแขก จุดไฮไลท์ที่กานต์ชอบคือการออกแบบให้มีผนังกระจกทั้งหน้าบ้านและกระจกเข้ามุมด้านข้าง หน้าต่างเลือกใช้กรอบอะลูมิเนียมของแบรนด์ TOSTEM ที่ดูหรูหรา แข็งแรง เหตุที่ชอบมุมนี้เพราะเมื่อมานั่งแล้วสัมผัสได้ทันทีถึงความผ่อนคลายเพราะเปิดมุมมองสวนสวยภายนอกได้กว้างกว่า รู้สึกได้ถึงการอยู่ร่วมกับธรรมชาติแวดล้อม เหมาะสำหรับเป็นมุมต้อนรับแขกคนสำคัญ

ทั้งนี้เมื่อมองจากองค์รวมของงาน Interior จะพบว่าพื้นที่ภายในบ้านออกแบบ Open plan ให้เชื่อมต่อกันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น Common Area ที่มีพื้นที่นั่งเล่น เป็นมุมรับแขกและดูทีวีไปในตัว เชื่อมต่อกับห้องส่วนตัวและเคาน์เตอร์บาร์หินอ่อนด้านใน ทำให้มุมนี้ออกแบบมาให้รองรับการใช้งานได้เต็มที่ เพราะมีที่นั่งจัดวางไว้หลากหลายฟังก์ชั่น สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามใจผู้พักอาศัย

ในส่วนของมุมพักผ่อน หากเป็นบ้านหลังจริง บริเวณนี้จะกั้นเป็นอีกหนึ่งห้องนอน สามารถปรับเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุได้ หรือปรับเป็นห้องเอนกประสงค์ชั้นล่างเชื่อมต่อกับห้องรับแขกเหมือนบ้านตัวอย่างก็ได้เช่นกัน เพราะออกแบบมาให้รองรับการใช้งานในอนาคตเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพื้นเรียบนุ่มแบบซอฟท์ฟลอร์ มาพร้อมกับห้องน้ำในตัวที่รองรับการใช้งานวีลแชร์เพราะดีไซน์ประตูทางเข้าให้ใหญ่กว่าปกติ พื้นของห้องน้ำกับห้องนอนจะเรียบเสมอกันเวลาใช้งานจริงจะได้ไม่สะดุด เพื่อป้องกันอันตราย

ถัดจากมุมเปียโนเข้าไปด้านใน ออกแบบให้เป็น Dining Area มีโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 10 ที่นั่ง พร้อมกับเคาน์เตอร์บาร์อยู่ตรงปลายโต๊ะบริเวณด้านหน้าครัว

ส่วนฝั่งตรงข้ามออกแบบให้เป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่ เผื่อมีใครอยากจะเอนจอยก่อนด้วยเครื่องดื่มเบาๆ ก่อนเริ่มต้นมื้ออาหารหลัก สามารถดื่มด่ำกับวิวสวนสีเขียวบริเวณด้านหลังบ้านระหว่างมื้อได้

ส่วนตัวชอบมุมนี้เพราะตกแต่งสวย ด้วยเก้าอี้บุกำมะหยี่สีแดงอมส้ม บนโต๊ะจัดวางอุปกรณ์ในการรับประทานไว้อย่างหรูหราปราณีต ฝ้าเพดานประดับด้วยแชนเดอร์เลียขนาดใหญ่ 2 จุดเพื่อแสดงถึงความแกรนด์ของบ้าน

ส่วนครัวจะอยู่ด้านในสุดของบ้านจะเป็นครัวไทย ซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าห้องครัวของบ้านทั่วไป จัดวางเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวแอล (L-Shape) มีพื้นที่ตรงกลางติดตั้งเป็น Island สำหรับจัดเตรียมอาหารเพิ่มเติมได้

ถัดไปด้านในจะเป็น Maid Plaza พื้นที่ซักล้าง มีห้องนอนของแม่บ้าน 2 ห้องนอนพร้อมห้องน้ำ

มุมนี้อยู่ใกล้กับโต๊ะรับประทานอาหาร เป็นจุดนั่งสวมรองเท้าก่อนขึ้นรถออกจากบ้าน ด้านในดีไซน์เป็นตู้เก็บของทรงสูงจรดเพดาน ทำให้บ้านมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น

ติดกันเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับแขกและสมาชิกในบ้านใช้งานร่วมกัน

นอกจากจะมีบันไดวนเป็นไฮไลท์ของบ้านแล้ว มุมที่กานต์ว่าน่าสนใจคือ การมี Family Area ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับทุกจุดภายในบ้านเข้าไว้ด้วยกัน

เดินขึ้นบันไดชั้นบนมาก็เจอเลยครับ

Family Area ออกแบบมาโดยคำนึงถึงการปรับใช้งานมุมนี้ให้ได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์และความต้องการของสมาชิกในครอบครัว สามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวีก็ได้ แนะนำให้เลือกสมาร์ททีวีจอใหญ่ๆ ทำเป็นโฮมเธียเตอร์เอาไว้ดูหนังพร้อมกันทั้งครอบครัวได้เลยครับ จะเอาไว้ทำเป็นออฟฟิศ ห้องทำงาน อ่านหนังสือหรือ Work From Home ก็ได้ นับเป็นบ้านที่ออกแบบมาให้รู้สึกผ่อนคลายได้ดีมาก

ที่สำคัญนอกจากฟังก์ชันการใช้สอยภายในบ้านแล้ว เรื่องงานดีไซน์ก็ยังต้องให้น้ำหนัก คือบ้านมีความสวยดูดี ดูหรูหรา สมฐานะ โดยต้องไม่ลืมคำนึงถึงหลักการออกแบบที่เติมเต็มสุนทรียะในการพักผ่อนเข้ามาประกอบราวกับได้ใช้ชีวิตอยู่ในรีสอร์ตหรูหราแถบแคว้นทัสคานี

ดังนั้น สถาปนิกจึงออกแบบให้มีระเบียงขนาดใหญ่เพื่อการพักผ่อนรับลมชมสวนสีเขียวฝั่งด้านหน้าบ้าน มองออกไปเห็นสโมสรส่วนกลาง ทั้งยังช่วยในการเปิดรับแสงจากภายนอกทำให้บ้านดูสว่าง ไม่ต้องเปิดไฟ สามารถประหยัดพลังงานในช่วงเวลากลางวันได้ 

SC Asset ในฐานะผู้พัฒนาโครงการ ยังได้เสริมความสมาร์ทในการพักอาศัยด้วยการควบคุมระบบผ่าน RUEJAI HOME OS ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันตัวเด็ดของ SC Asset เปลี่ยนเป็นบ้านอัจฉริยะ

โดยเราสามารถที่จะควบคุมระบบความปลอดภัย สั่งการเปิด-ปิดระบบไฟภายในบ้านได้ง่ายๆ ผ่าน Smart Phone นอกจากนี้ยังติดตั้ง AIS Fiber เพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง มี Router ให้ 3 ตัว ติดตั้งระบบ Active Air Quality ช่วยขจัดมลพิษทางอากาศภายในบ้าน ช่วยกรองอากาศ เพื่อให้บ้านมีอากาศที่สะอาด จะได้พักผ่อนอยู่ภายในบ้านได้อย่างสบายใจ

ทั้งยังอุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหลัง อาทิ ระบบสัญญาณกันขโมย Magnetic ทั้งหลังและติดตั้ง Shock Sensor บริเวณชั้นล่าง ระบบตรวจจับควันไฟและความร้อน พร้อมหน้าจอ Home Automation ติดตั้งชั้นบนและชั้นล่าง

ชั้นบนจะมีด้วยกัน 4 ห้องนอน แต่บ้านตัวอย่างตกแต่งให้มี 3 ห้องนอน โดยอีกหนึ่งห้องนั้นปรับเป็น Entertainment Room แทน แต่ยังคงไฮไลท์คือ Grand Double Master Bedroom เอาไว้

Entertainment Room ที่แยกออกไปเป็นห้องอเนกประสงค์อยู่โซนด้านหลังบ้าน สามารถจัดเป็นห้องดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ ROV หรือแคสต์เกมส์ก็ได้ สตูดิโอไลฟ์ขายของก็ได้ครับ มาพร้อมกับห้องน้ำในตัว เรียกได้ว่าเป็นห้องที่ให้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง สามารถติดตั้งผ้าม่านทึบแสงหากต้องการความมืดหรือเปิดออกได้เพื่อรับแสง เพราะมีช่องแสงจากทางหน้าต่างด้านหลังส่องผ่านกระจกบานใหญ่

บ้านตัวอย่างจัดวางทีวีจอใหญ่ไว้ตรงกลาง ออกแบบที่นั่งเป็นลักษณะหลุมคล้าย Sunken Seat บุที่นั่งหนานุ่ม ทางเข้าด้านหน้าจัดวางเคาน์เตอร์บาร์ขนาดย่อม แต่หากใครจัดปาร์ตี้ที่บ้านชวนเพื่อนมาดื่มก็เข้าท่าดีเหมือนกัน เปลี่ยนบรรยากาศให้เป็นบาร์ภายในบ้าน ทำกิจกรรมทานข้าว ดูหนังร่วมกัน โดยไม่จำเป็นต้องออกไปสังสรรค์ร้านอาหารนอกบ้าน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ New Normal ดีครับ

ในส่วนของห้องนอนจะเริ่มจาก Grand Double Master Bedroom ห้องแรกอยู่ปีกขวาของบ้านโซนด้านหน้า

ผมค่อนข้างชอบห้องนี้เพราะผนังด้านหน้าบ้านเป็นกระจก Full Height ประตูบานเลื่อนชุดใหญ่เปิดช่องแสงธรรมชาติด้านหน้าบ้านส่องผ่านเข้ามาสู่เตียงนอนได้ทันที ห้องนี้จึงดูโปร่ง โล่งอยู่สบายไม่รู้สึกอึดอัด ทั้งยังเปิดออกเพื่อระบายอากาศ และเราสามารถเดินไปที่ระเบียงด้านนอกได้ มองออกไปเห็นยอดโดมของ Exclusive Clubhouse ทำให้เราได้ฟีลเหมือนพักผ่อนอยู่ในโรงแรมหรูที่ Florence Italy

ห้องนอนจัดวางเตียงนอนไว้ตรงกลาง หัวเตียงบุนวมดูหรูหรา ประดับประดาด้วยภาพงานอาร์ตเท่ๆ เพื่อสะท้อนตัวตนของความเป็นเมืองหลวงของงานศิลปะอย่าง Florence เอาไว้ พร้อมโคมไฟส่องสว่างตั้งไว้ที่บริเวณหัวเตียงและชั้นวางขนาดย่อม ปลายเตียงมีที่นั่งสำหรับดูทีวีดีไซน์เก๋ดีครับ

ส่วนผนังอีกฝั่งเป็นชั้นวางของและโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งทำการบ้านอ่านหนังสือ หรือถ้าหากอยากให้มีทีวีในห้อง ก็สามารถปรับชั้นวางให้มีพื้นที่เว้นว่างตรงกลางสำหรับแขวนทีวีหรือเปลี่ยนเป็นคาบิเนทขนาดสูงพอดีเตียง เพื่อวางทีวีได้เช่นกันครับ

ขณะที่ด้านในดีไซน์เป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet เน้นสีน้ำเงินขาวสไตล์วัยรุ่นชาย มีมุมสำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมห้องน้ำในตัวซึ่งอีกหนึ่งไฮไลท์ก็คือเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอ่างอาบน้ำของ KASCH มาให้แล้วด้วยครับ

ส่วนห้องนอน 4 จะอยู่ติดกับ Entertainment Room ทำให้ได้มุมเป็นฝั่งหลังบ้านเช่นกัน ข้อดีก็คือห้องนี้มีความเงียบสงบมาก

บ้านตัวอย่างตกแต่งด้วยสี Shocking Pink เพื่อเติมความสดใสให้กับบ้าน แต่ยังคงการออกแบบและตกแต่งภายในที่เรียบหรู สามารถดูเป็นไอเดียแนวทางในการตกแต่งบ้านของเราได้นะครับ

ภายในห้องจัดวางเตียงนอนส่วนพักผ่อนไว้ตรงกลางด้านหน้าทางเข้า หัวเตียงทั้ง 2 ฝั่งมีโต๊ะเตี้ยดีไซน์สวยเป็นทรงกลมมน รับกันดีกับโคมไฟแขวนประดับ ผนังด้านหน้าออกแบบให้เป็นโต๊ะสำหรับทำการบ้านอ่านหนังสือ …

ส่วนด้านในเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet ขนาดใหญ่จากสูงพื้นจรดเพดาน อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ ซึ่งจัดวางสุขภัณฑ์ข้าวของเครื่องใช้ไว้ครบครัน

ภายในห้องน้ำแยกพื้นที่โซนแห้งและโซนเปียกออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน ทำให้รู้สึกว่าสะดวกดีเวลาใช้งานจริง อาบน้ำแต่งตัวจบครบในจุดเดียว

มาถึง Grand Double Master Bedroom อีกห้องนอนที่มีขนาดใหญ่สุดอยู่กึ่งกลางบ้านขนานไปกับหน้ากว้างของบ้านเลยครับ

ห้องนอนหลักสามารถจัดแบ่งพื้นที่การใช้งานภายในห้องได้อย่างเป็นสัดส่วน ทั้งมุมพักผ่อนจัดวางเตียงนอนไว้ตรงกลาง ปลายเตียงจัดวางชุดโซฟาดีไซน์กลมมนสำหรับนั่งอ่านหนังสือ จะได้มีเวลาส่วนตัวภายในพื้นที่ของเราเอง

ที่ผมชอบมากสุดที่ในห้องนี้คือเต็มไปด้วยหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้เปิดรับแสงธรรมชาติส่องเข้ามาในเวลากลางวันได้โดยแทบไม่ต้องเปิดไฟ อีกทั้งยังเปิดออกเพื่อไปสู่ระเบียงขนาดใหญ่ที่ขนานไปกับห้องนอน สามารถเปิดรับลมเย็นๆ ที่พัดผ่านเข้ามาภายในได้ แนะนำให้หาเก้าอี้หวายดีไซน์สวยเอาไว้นั่งตรงระเบียง สำหรับจิบกาแฟหลังตื่นนอนตอนเช้าก็ได้เช่นกัน

ด้านในเป็นทางเดินไปยังห้องแต่งตัวและห้องน้ำ ระหว่างโถงทางเดินออกแบบให้เป็นตู้เสื้อผ้าสูงจรดเพดานเรียงรายกันสามารถจุของได้เยอะมาก ตรงกลางเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง

“True luxury is being able to own your time – to be able to take a walk, sit on your porch, read the paper, not take the call, not be compelled by obligation.”

– Ashton Kutcher

จากนั้นจะเป็นห้องน้ำที่อยู่ด้านในสุด ตกแต่งห้องน้ำได้เรียบหรูมาก

อ่างล้างหน้าเป็นแบบ His&Her สามารถใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้ มาพร้อมกับอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ติดตั้งเอาไว้ เปิดช่องหน้าต่างสำหรับใช้ระบายความอับชื้นในห้องน้ำได้

ถัดเป็นเป็นส่วนของชาวเวอร์แบรนด์ GROHE และสุขภัณฑ์จาก KOHLER ครับ

“To see the sun sink down, drowned on his pink and purple and golden floods, and overwhelm Florence with tides of color that make all the sharp lines dim and faint and turn the solid city to a city of dreams, is a sight to stir the coldest nature.”

Mark Twain เคยบรรยายถึงความงามของพระอาทิตย์ตกเหนือเมืองฟลอเรนซ์ของอิตาลีเอาไว้ โดยใช้ภาษากวีในการวาดภาพดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าและขับโทนสีอันอบอุ่นไปทั่วเมือง เขาพูดถึงโทนสีชมพู ม่วงและทองที่ผสมผสานกัน ทำให้เมืองเต็มไปด้วยสีสัน เปลี่ยนเมืองที่จับต้องได้ให้กลายเป็นภาพที่ไม่มีตัวตนและเปรียบเสมือนความฝัน ด้วยภาพพระอาทิตย์ตกเหนือเมืองฟลอเรนซ์อันน่าหลงใหล

เชื่อเหลือเกินว่าหากใครได้มาเยี่ยมชมโครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา-เกษตรนวมินทร์ น่าจะประทับใจในบรรยากาศของบ้านและ Exclusive Clubhouse ที่ได้แรงบันดาลใจในการเนรมิตมาจาก Duomo de Florence อย่างแน่นอนครับ 

จากบ้านตัวอย่าง กานต์พามาชม Exclusive Clubhouse ที่สวยงาม คลาสสิคและอลังการมากๆ ครับ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 1 ไร่ บริเวณ Gate ชั้นในโดยแยกออกจากส่วนพักอาศัยทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว

สามารถเดินเข้าได้จาก 2 ฝั่ง ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่สดชื่นสดใส โอบล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ นำเสนอสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยที่หรูหราและเงียบสงบ โอบกอดผู้พักอาศัยด้วยความสง่างามและความสงบที่เป็นเอกลักษณ์วิถีชีวิตของชาวเมือง Florence

อย่างที่เคยเขียนไปว่า Florence เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านมรดกทางศิลปะอันรุ่มรวย ในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา

ดังนั้นการออกแบบ Exclusive Clubhouse จึงเน้นเรื่องการใช้สัดส่วน ความสมดุลและความลงตัวของโครงสร้าง ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการสรรสร้างมาจาก Duomo de Florence ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมอิตาลี มีลักษณะเป็นสันโค้ง โค้งแหลม และคานลอย ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปของอาสนวิหารแบบกอธิคในยุโรป

ภายนอกใช้สีโทนอ่อนเช่น ขาว เทาอ่อนเพื่อเพิ่มความหรูหรา หลังคาเน้นสีเข้มเพื่อขับความโดดเด่น ตลอดจนการนำเสนอองค์ประกอบของสถาปัตยกรรม เช่น ซุ้มประตูและโดม และองค์ประกอบการตกแต่งในโครงการ ทำให้เกิดความยิ่งใหญ่และสง่างามกับผู้พบเห็นและแขกผู้มาเยือน

Exclusive Clubhouse พื้นที่ใช้สอยประมาณ 1,500 ตร.ม. ถือว่าใหญ่มากครับ เป็นเอกสิทธิ์สำหรับลูกบ้าน 70 ครอบครัวเท่านั้น

มาพร้อมกับสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่ ในรูปแบบ Outdoor และ Semi-Outdoor แยกสระว่ายน้ำสำหรับเด็กเอาไว้ให้ พร้อมออกแบบให้มี Water Curtain Pavilion และ Jacuzzi สำหรับแช่ตัวสบายๆ ในวันพักผ่อนด้วยครับ

ใกล้กันจัดวางเก้าอี้ Sunbed สำหรับนั่งพักผ่อน หรือผู้ปกครองที่รอเด็กๆ เรียนว่ายน้ำก็มานั่งอ่านหนังสือรอบริเวณนี้ได้ครับ

เมื่อเดินเข้ามาด้านใน จะพบกับ Grand Lobby Lounge เป็นพื้นที่สำหรับต้อนรับแขกหากเรานัดหมายมาพูดคุยธุระส่วนตัวก็สามารถนัดมาที่นี่ได้ โดยไม่ต้องเข้าไปภายในบ้าน เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว

มีผนังเป็นกระจกใสเปิดมุมมองให้เห็นบรรยากาศของสวนและสระว่ายน้ำที่อยู่ด้านข้างของตัวอาคาร สีฟ้าจากน้ำและสีเขียวจากต้นไม้ทำให้ได้บรรยากาศที่สดชื่น สบายตาเป็นอย่างมาก เหมาะแก่การมานั่งพักผ่อน ต้อนรับแขกครับ

ชอบมานั่งที่ Grand Lobby Lounge ผมว่าตกแต่งหรูหราดี ภายในห้องกว้างขวาง จัดวางที่นั่งเอาไว้หลายจุดเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ตกแต่งราวกับเป็นห้องสมุดสุดคลาสสิคในอิตาลี

โครงสร้างภายใน Exclusive Clubhouse ออกแบบและตกแต่งอย่างหรูหรา เน้นการใช้สีขาวและทรงโค้งกลมมนของ Extravagance Spiral Staircase ราวกับโน๊ตดนตรีที่พริ้วไหวของ Antonia Vivaldi ศิลปินชื่อดังชาวอิตาลีที่กำลังบรรเลงเพลงคลาสสิคให้เราได้ฟังระหว่างเดินชมพื้นที่

มีการออกแบบทางลาดเอาไว้ด้านข้างสำหรับรองรับลูกบ้านที่ใช้วีลแชร์ ก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้ เป็นการออกแบบที่คำนึงถึงหลัก Universal Design ที่เราจะพบเห็นได้ในทุกโครงการของ SC Asset เลยครับ

นอกจากนี้ยังจัดให้มีมุมนั่งพักผ่อนในร่มกระจายออกไปเพื่อให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างเงียบๆ โดยออกแบบเป็น Sunken Seating ด้านนอกใกล้กับสระว่ายน้ำ บรรยากาศเย็นสบายร่มรื่นดี มีความเงียบสงบและสง่างามตามสไตล์ของ Florence ครับ

กานต์เดินขึ้นไปชั้นบนแล้วยืนมองออกไป เห็นบรรยากาศภาพรวมของโครงการได้ชัดเจน มีความโปร่งโล่งด้วยโถงบันไดจรดเพดานสูงมาก ด้านนอกเป็นสีเขียวของต้นไม้ตัดสลับกับสีขาวของอาคารให้ความรู้สึกสงบ สบายตา สบายใจ และดูยิ่งใหญ่อลังการดีครับ สมกับความเป็น แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ดจริงๆ

ชั้นบนของ Exclusive Clubhouse ดีไซน์เป็น Living และ Co-Working Space สำหรับลูกบ้าน

สามารถมานั่งพักผ่อน ประชุมคุยงาน อ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมร่วมกันได้

มีโต๊ะเกมให้เล่นพร้อมเก้าอี้บาร์ สามารถจองเพื่อจัด Private Party ได้

ติดกันเป็นห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา มาพร้อมกับหน้าต่างทรงโค้งกระจกใส มองออกไปเห็นบรรยากาศภายนอก ทางโครงการจัดให้มีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน ทั้งฟรีเวทและแมชชีน เติมเต็มงานดีไซน์ด้วยเส้นสายสุดเร้าใจช่วยให้ Active มากยิ่งขึ้น

อีกห้องเป็น Yoga Studio ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะออกกำลังกาย เต้นบัลเลต์ ซ้อมร้องเพลงหรือป๊อบแดนซ์ก็ได้หมดเลยครับ สามารถนัดครูมาสอนแบบส่วนตัวที่นี่ได้เลย

“Firenze, l’inaudita armonia della tua bellezza non può essere intesa se non dal cuore.”

นักเขียนและกวีชื่อดังชาวอิตาลี Gabriele D’Annunzio ได้บรรยายให้เห็นถึงความงามอันน่าหลงใหลและมีเสน่ห์ของ Florence ซึ่งเน้นย้ำว่า การจะชื่นชมและเข้าใจความงามของเมืองนี้อย่างแท้จริง จำเป็นต้องใช้หัวใจเข้ามาสัมผัสกับมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหล

หากจะเปรียบไปก็เหมือนโครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา-เกษตรนวมินทร์ ที่กานต์มองว่า อาจจะต้องเข้ามาสัมผัส Exclusive Clubhouse และบ้านตัวอย่างทุกหลังด้วยตัวเองอย่างตั้งใจ

แล้วเราจะรู้สึกได้ถึงแก่นแท้ของความหรูหรา ความสง่างาม ความปราณีตและเงียบสงบ ซึ่งเป็นอีกขั้นของศิลปะแห่งการใช้ชีวิตที่เหนือระดับ เฉกเช่นเดียวกับจิตวิญญาณแห่ง Florence ที่อิตาลี

หากสนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อเยี่ยมชมโครงการและรับสิทธิพิเศษได้ที่ >> https://m.scasset.com/Czii
รายละเอียดเพิ่มเติมโทร : 061-398-1999
หรือ Line : @GBBRK

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน