เวลาที่เราเดินเล่นที่มาดริดเมืองหลวงของสเปน จะพบว่ายังเต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมใหญ่โตโอ่อ่า สวยงามและดูสง่า มีความซับซ้อนทางประวัติศาสตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Palacio Real de Madrid พระราชวังหลวง Plaza Mayor รอบจัตุรัสกลางเมือง Palacio de Cibeles ที่ว่าการเมือง รวมไปถึงหนึ่งในสุดยอดพิพิธภัณฑ์อย่าง Museo Nacional del Prado
.
สถาปัตยกรรมสเปนมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ยุคออสเตรีย มีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยการผสมผสานระหว่างอิทธิพลแบบโกธิกและเรอเนซองส์ เห็นได้จาก Plaza Mayor จัตุรัสอันกว้างขวางของเมืองที่สร้างมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ขึ้นชื่อเรื่องความสมมาตรและสัดส่วนที่กลมกลืนกัน จนมาถึงยุคบูร์บงที่สะท้อนภาพความมั่งคั่งยิ่งใหญ่ ด้วยการตกแต่งภายในที่แสนประณีตอันได้รับแรงบันดาลใจจากฝรั่งเศส
.
อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าที่น่าสนใจของสเปนคือ Palacio de Cibeles อาคารสีขาวขนาดใหญ่ใจกลางเมืองมาดริด เป็นงานสถาปัตยกรรม Neoplateresque ผสม Art Deco อายุเกิน 100 ปี ที่ยังคงมีความหรูหรา คลาสสิค ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับ Plaza de Cibeles ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับการเฉลิมฉลองชัยชนะของทีมมาดริดและทีมชาติสเปน จึงเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญและมีความหมายยิ่งใหญ่มาก
.
ดังนั้น ความท้าทายในงานออกแบบที่มีแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมของมาดริดจึงอยู่ที่การรักษาสมดุลระหว่างความสง่างามทางประวัติศาสตร์กับงานอาร์ตร่วมสมัย สถาปนิกต้องเลือกสรรวัสดุและลวดลายอย่างรอบคอบ เพื่อสะท้อนถึงสุนทรียภาพในยุคฮับส์บูร์กและบูร์บง ผสานเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อผลลัพธ์ที่ได้คือเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ ในขณะเดียวกันก็มอบความสะดวกสบาย ให้ประโยชน์ใช้สอยเต็มพื้นที่
.
แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ (Grand Bangkok Boulevard Chaengwatthana-Ratchaphruek) เป็นโครงการที่กานต์จะพาไปชมเยี่ยมชมในครั้งนี้ คฤหาสน์หรูที่สร้างจากแรงบันดาลใจของสถาปัตยกรรมในเมืองมาดริดของสเปน ซึ่งกานต์ไปเห็นมาด้วยตาตัวเองครับ ยิ่งใหญ่อลังการและงดงามราวต้องมนต์สะกดจริงๆ ครับ
.
โครงการตั้งอยู่บนถนนชัยพฤกษ์ มุ่งหน้าห้าแยกปากเกร็ด เชื่อมต่อกับถนนราชพฤกษ์ ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ถนนรัตนาธิเบศร์ ทางพิเศษศรีรัชและใกล้สถานีรถไฟฟ้า ทำให้สะดวกต่อการเดินทางมาก
.
แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ เน้นความแกรนด์สมชื่อ ด้วย Double Main Gate ขนาดใหญ่ มี Clubhouse ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าโครงการ ด้านข้างเป็นสระว่ายน้ำ บรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่กระจายตัวอยู่ทั่วโครงการ ทำให้เรารู้สึกสดชื่นตลอดเวลาราวกับเดินอยู่ในสวนของ The Palacio Real de Madrid
.
บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ 2 ชั้น แบบบ้านซีรีส์ใหม่เน้นดีไซน์สวย นำเสนอความ Elegance Aesthetic ออกมา ซึ่งปรากฎอยู่ในบ้านตัวอย่างที่เน้นความยิ่งใหญ่อลังการ ด้วยความเป็นบ้านเดี่ยวที่ดินใหญ่ขนาด 100 ตร.วา ให้ความพิเศษด้วย Pocket Garden รอบบ้านและสระว่ายน้ำส่วนตัว ออกแบบให้มีฟังก์ชันพิเศษด้วย Automatic Garage ที่จอดรถบบอัตโนมัติสูงสุดถึง 5 คัน ราวกับเป็นโชว์รูมแห่งความภาคภูมิใจสำหรับความสำเร็จอีกขั้นของชีวิต
.
ติดตามอ่านเรื่องราวของโครงการ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ พร้อมภาพถ่ายที่กานต์นำมาฝากกันต่อด้านในได้เลยครับ
.
สนใจดูรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หรือโทร. 065-505-8555 หรือลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ https://m.scasset.com/LyTZ
มาดริดเมืองหลวงของสเปน เป็นอีกหนึ่งเครื่องพิสูจน์ถึงวิวัฒนาการทางสถาปัตยกรรมที่กินเวลายาวนานหลายทศวรรษ ตั้งแต่ในสมัย ราชวงศ์ฮับส์บูร์กและบูร์บง หนึ่งในงานสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่และเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบให้กับสถาปนิกทั่วโลกคือ Palacio de Cibeles อาคารสีขาวขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใน Plaza de Cibeles แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ (Grand Bangkok Boulevard Chaengwatthana-Ratchaphruek) เป็นหนึ่งในโครงการที่พัฒนาขึ้นจากแรงบันดาลใจในเรื่องความงดงามและยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปในยุคสมัยต่่างๆ ของกรุงมาดริด ประเทศสเปน ก่อนจะสร้างเป็นโครงการคฤหาสน์สุดหรูตั้งอยู่บนถนนชัยพฤกษ์ โครงการ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ มีขนาดที่ดินโครงการอยู่ที่ 40-1-6.6 ไร่ มีจำนวนเพียง 64 ยูนิต เท่านั้น จะสังเกตได้ว่าเมื่อเทียบจำนวนบ้านกับเนื้อที่ของโครงการโดยรวมแล้ว ถือว่ามีไม่มาก ดังนั้น บ้านทุกหลังจึงนำเสนอจุดเด่นเรื่องความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี ท่ามกลางสังคมแห่งการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพครับ โดยรอบโครงการเป็นย่านที่พักอาศัย ไม่มีอาคารสูงหรือโรงงานขนาดใหญ่ ทำให้บรรยากาศในทำเลนี้ค่อนข้างเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน เหมาะกับการพัฒนาเป็นโครงการบ้านหรูที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง การเดินทางของโครงการจะอยู่ฝั่งเข้าเมืองมุ่งหน้าไปทางสะพานพระราม 4 ห้าแยกปากเกร็ด ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนวิภาวดีรังสิต ทั้งนี้ยังสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนกาญจนาภิเษกได้อย่างสะดวก มุ่งสู่ถนนหลักหลายสายได้อย่างรวดเร็ว อาทิ ถนนราชพฤกษ์ ถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนนครอินทร์ ทางหลวงหมายเลข 345 และมีทางพิเศษศรีรัช ตลอดจนสะดวกสำหรับใครที่ต้องการใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีม่วง ระหว่างที่ขับรถมาเยี่ยมชมโครงการ กานต์ก็คอยสังเกตดูรอบๆ พบว่าทำเลนี้รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบและครบทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์, เดอะคริสตัล ชัยพฤกษ์, ชิค รีพับลิค ราชพฤกษ์, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เป็นต้น ใกล้สถานศึกษาชั้นนำหลายแห่ง อาทิ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์นนทบุรี (SISB), โรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า บริติช สคูล (DBS), โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ กรุงเทพ, โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ราชพฤกษ์ และโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ เป็นต้น ทำเลนี้ยังแวดล้อมด้วยสถานพยาบาล อาทิ โรงพยาบาลปากเกร็ด, โรงพยาบาลเวิล์ด เมดิคอล เซ็นเตอร์, โรงพยาบาลวิภาราม ปากเกร็ด, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชันแนล รัตนาธิเบศร์, โรงพยาบาลนนทเวชและโรงพยาบาลกรุงไทย เวสเทิร์น เป็นต้น ทำให้อุ่นใจเมื่อยามต้องใช้บริการฉุกเฉินด้านสุขภาพ โครงการออกแบบให้มี Main Gate แรกอยู่ด้านหน้า ทำให้สะท้อนภาพความยิ่งใหญ่อลังการ ก่อนจะขับรถผ่านเข้าไปด้านในเป็นแนวต้นไม้ ผ่านสะพานข้ามคลอง จังหวะนี้เราจะเริ่มมองเห็นความยิ่งใหญ่อลังการของ Clubhouse ก่อนที่จะขับรถเข้าไปด้านใน จากนั้น จะพบกับ Main Gate ที่ 2 ซึ่งต้องบอกว่าหรูหรา ยิ่งใหญ่อลังการไม่แพ้กัน วงเวียนทางเข้าประดับด้วยงานประติมากรรมขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า ให้ความรู้สึกพริ้วไหวราวกับผ้าของ Matador ที่กำลังหลอกล่อวัวกระทิงสเปน ขณะเดียวกัน เมื่อมองลึกเข้าไปโดยรอบก็จะรู้สึกเหมือนเป็นดอกไม้ขนาดใหญ่ที่ชูช่อรอทำหน้าที่ต้อนรับลูกบ้านและผู้มาเยือนทุกท่าน เป็นงานอาร์ตแบบ Abstract ที่ขึ้นอยู่กับมุมมองและการตีความของแต่ละคนครับ Main Gate โครงการมีขนาดใหญ่ ซุ้มโค้งดูโดดเด่นด้วยเส้นสายของไฟสี Copper มาตกแต่ง ประดับด้วยวัสดุลายหินสีเทาทำให้ดูสวยงาม หรูหราหลังคามีขนาดใหญ่ มาพร้อมกับป้ายชื่อด้านหน้าโครงการเห็นชัดเจน การรักษาความปลอดภัยใช้ระบบ Double Security System แยกประตูทางเข้า-ออก 2 ฝั่ง จึงให้ความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยสูง โดยการเข้าออกของรถยนต์จะเป็นระบบอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์อัตโนมัติ (License Plate Recognition) เพื่อช่วยจัดการรถยนต์ของลูกบ้านและแขกที่มาพบได้อย่างสะดวกง่ายดาย ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันรู้ใจ (RUEJAI HOME OS) พร้อมมีโหมดห้ามรบกวนเพื่อความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย นับเป็น 1 ในนวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตที่ดีจาก SC Asset ส่วนด้านซ้ายมีประตูเล็กเป็นเหล็กสีดำสำหรับคนเดินเข้าออก มีป้อมยามอยู่ตรงกลางพร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและติดเหล็กแหลมเพิ่มขึ้นไปอีก 60 ซม. บนยอดซุ้มประตู ประดับด้วยงานประติมากรรมที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Angel of Victory ที่บอกเล่าเรื่องราวของชัยชนะอันยิ่งใหญ่ เพื่อสะท้อนถึงความสำเร็จของชีวิตและความภาคภูมิใจในทุกๆ ด้านของผู้ที่ได้ครอบครองบ้านทุกหลังภายในโครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ โดยต้องยอมรับว่าทาง SC Asset ได้มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพที่อยู่อาศัยให้มีประสิทธิภาพสูงสุดกับผู้พักอาศัยทุกคน เพื่อให้บ้านเป็นมากกว่าคำว่าบ้านจริงๆ สมแล้วกับบ้านระดับ “แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด” ทันทีที่เข้าไปภายในโครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ เราสามารถสัมผัสได้ถึงความรื่นรมย์ในการพักอาศัยด้วยพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ โดยมีไฮไลท์คืออาคาร Clubhouse ที่มีดีไซน์ในแบบสเปน สถาปนิกลดทอนรายละเอียดของงานสถาปัตยกรรมออกไปทำให้ดูมีความโมเดิร์นคลาสสิคมากยิ่งขึ้น โครงการได้ออกแบบให้มีระยะถอยร่นจากถนนหลักมากพอสมควร จัดทำเป็นสวนด้านหน้าและมีแนวต้นไม้ใหญ่คอยเป็น Buffer ช่วยป้องกันเสียงได้ดีทีเดียวครับ เมื่อขับรถเข้ามาในโครงการเราจึงแทบจะไม่ได้ยินเสียงรถราที่วิ่งอยู่ข้างนอกเลยครับ บรรยากาศภายในจึงให้ความรู้สึกหรูหราอลังการ เพราะถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างประณีต ทัศนียภาพภายในโครงการดูเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงาม เนื่องจากดำเนินการร้อยสายไฟลงดินให้แล้วทั้งโครงการครับ พื้นที่ส่วนกลางของโครงการถือว่ามีขนาดใหญ่มาก โดยจะให้น้ำหนักกับพื้นที่สีเขียวครับ ทั้งไม้พุ่ม ไม้ดอกและต้นไม้ใหญ่ มีสระว่ายน้ำสำหรับออกกำลังกาย ด้านในมี Main Park เหมาะสำหรับกิจกรรมนันทนาการภายในครอบครัว เราสามารถพาน้องหมามาเดินเล่นบริเวณสวนได้ เป็นงานออกแบบในสไตล์โมเดิร์นที่เน้นความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ทำให้ได้ฟีลลิ่งของ Organic Architecture มากขึ้น รู้สึกสบายใจดีมากครับ รอบ Clubhouse ปลูกต้นไม้ไว้หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งไม้ดอก ไม้พุ่ม ไม้ยืนต้นฟอร์มเด่นสลับกันไปเพื่อให้เกิดร่มเงาและร่มรื่น เป็นการนำเอาศิลปะจากธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานสถาปัตยกรรม เราจึงได้เห็นเงาของใบไม้ ทอดเงายาวอยู่ในสระว่ายน้ำเกิดเป็นลวดลาย หรือสาดแสงเงาเข้าไปภายในบ้านทำให้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น สระว่ายน้ำของโครงการเป็นระบบเกลือ แบบ Half Oympic สามารถใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริงจังเลยครับ นอกจากจะมีโซนสระเด็กแล้วยังมีจะมีโซนจากุชชี่ สำหรับแช่น้ำผ่อนคลายในวันสบายๆ ได้อีกด้วย บริเวณริมสระจัดวาง Sun Deck สำหรับนั่งอาบแดดพักผ่อนราวกับได้อยู่ในรีสอร์ตหรูที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของธรรมชาติ ต้นไม้สีเขียวน้อยใหญ่ ปลูกไว้เพื่อให้ความร่มรื่น เราสามารถว่ายน้ำในสระขนาดใหญ่สีฟ้าสดใสในบ่ายวันหยุด ชมความงามของธรรมชาติราวกับศิลปะชั้นเลิศ ด้วยสีฟ้าของน้ำที่ตัดกันกับวิวสีเขียวของต้นไม้ในสวนที่เริ่มทอดเงาร่มรื่นในช่วงเวลาพระอาทิตย์เริ่มยอแสงสีส้ม ได้ฟีลลิ่งของการพักผ่อนจริงๆ ครับ ภายใน Clubhouse เต็มไปด้วย Facilities ที่ครบครันและเพียงพอต่อการใช้งานของทุกครอบครัวแน่นอนครับ เมื่อเดินเข้าไปด้านในเราจะพบกับ Grand Lobby Lounge มีลักษณะเป็นห้องโถงสูงดูโอ่อ่า ซึ่งปัจจุบันปรับเป็นพื้นที่สำหรับสำนักงานขาย จัดวางที่นั่งกระจายไปโดยรอบพร้อมแชนเดอร์เลียขนาดใหญ่ ทั้งนี้ ลูกบ้านสามารถเข้าไปใช้บริการใน Co – Living Space ที่แยกออกไปเป็นห้องด้านในเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนและเงียบสงบ ออกแบบให้มีที่นั่งเป็นเบาะขนาดใหญ่แบบเข้ามุมอยู่ริมผนังเป็นกระจกใส ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อมุมมองของธรรมชาติจากภายนอกสู่ภายใน Clubhouse ทำให้ภาพรวมดูมีความร่วมสมัย เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ บรรยากาศค่อนข้างอบอุ่น เบาสบายเหมาะสำหรับมานั่งพักผ่อนหรือนัดหมายแขกมานั่งพูดคุยธุระทั่วไป ห้องนี้ยังออกแบบให้มีความเป็น Co – Kitchen ควบคู่กันไปด้วย สำหรับจัดเลี้ยงสังสรรค์รับประทานอาหารร่วมกันระหว่างกลุ่มเพื่อน โดยโครงการได้จัดเตรียม Pantry และมีอ่างล้างจานเอาไว้ให้แล้ว และด้วยความที่ Clubhouse ตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการ ทำให้มีข้อดีคือเราสามารถทำนัดหมายกับแขกทั่วไปที่มารอพบได้ที่นี่ได้เลยโดยที่ไม่ต้องเชิญเข้าบ้าน เพื่อความเป็นส่วนตัวของเราและเพื่อนบ้านนั่นเองครับ แม้สถาปนิกจะได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากพระราชวังที่คลาสสิคของสเปน แต่กานต์กลับชอบดีเทลของความโมเดิร์นที่ซ่อนไว้ในการออกแบบ Clubhouse เราจะเห็นได้จากการที่สถาปนิกเลือกใช้สีโทน Monochrome สีเทา สีดำ สีขาว สีเบจ ขับความเข้มของเส้นสายด้วยวัสดุที่เป็นเหล็กและโลหะ มีความโดดเด่นด้วยสีขาวที่ถูกตัดด้วยเส้นขอบสีดำ (White House with Black Trim) กระเบื้องผนังและเสาสีเข้มที่หนักแน่น ทำให้ดูแข็งแรง มั่นคง ก่อนจะเติมความโปร่งสบายให้ตัวอาคารด้วยกระจกรายรอบทำให้ภาพรวมของอาคารมีความแข็งแกร่งและสง่างาม (Strong and Beautiful) แต่ที่ผมว่าน่าสนใจคือลวดลายของเส้นสายเหลี่ยมมุมที่เกิดจากการตกกระทบของแสงทำให้ในแต่ละชั่วโมง ทำให้ Clubhouse ดูสวยไม่ซ้ำกันตามทิศทางของแดด ช่วยเพิ่มมิติที่น่าสนใจให้กับการอยู่อาศัยได้ดีมากครับ อย่างเช่นทางขึ้นชั้นบนของ Clubhouse ออกแบบเป็นโถงบันไดขนาดใหญ่ให้มีชานพักทรงครึ่งโค้งรับกับภาพรวมของงานดีไซน์ เลือกใช้สีดำเข้มทำให้ดูน่าค้นหา ส่วนการออกแบบในภาพรวมยังคงเน้นการใช้หลัก “Universal Design” มีทางลาดสำหรับรถเข็นให้สามารถใช้ได้กับผู้สูงอายุ ผู้พิการ โดยคำนวนองศาของพื้นทางลาดมาให้แล้วด้วยว่าเป็นองศาที่สามารถใช้งานได้ง่าย นอกจากนี้ ยังมีเก้าอี้เลื่อนอัตโนมัติ Stair Lift เลาะไปตามราวบันไดให้ผู้สูงอายุหรือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ สามารถขึ้นไปใช้งานบนพื้นที่ชั้น 2 ได้อย่างสะดวก เป็นหลักการออกแบบที่เราจะพบได้ทุกโครงการของ SC Asset เลยครับ แม้สถาปนิกจะได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากพระราชวังที่คลาสสิคของสเปน แต่กานต์กลับชอบดีเทลของความโมเดิร์นที่ซ่อนไว้ในการออกแบบ Clubhouse เราจะเห็นได้จากการที่สถาปนิกเลือกใช้สีโทน Monochrome สีเทา สีดำ สีขาว สีเบจ ขับความเข้มของเส้นสายด้วยวัสดุที่เป็นเหล็กและโลหะ มีความโดดเด่นด้วยสีขาวที่ถูกตัดด้วยเส้นขอบสีดำ (White House with Black Trim) กระเบื้องผนังและเสาสีเข้มที่หนักแน่น ทำให้ดูแข็งแรง มั่นคง ก่อนจะเติมความโปร่งสบายให้ตัวอาคารด้วยกระจกรายรอบทำให้ภาพรวมของอาคารมีความแข็งแกร่งและสง่างาม (Strong and Beautiful) แต่ที่ผมว่าน่าสนใจคือลวดลายของเส้นสายเหลี่ยมมุมที่เกิดจากการตกกระทบของแสงทำให้ในแต่ละชั่วโมง ทำให้ Clubhouse ดูสวยไม่ซ้ำกันตามทิศทางของแดด ช่วยเพิ่มมิติที่น่าสนใจให้กับการอยู่อาศัยได้ดีมากครับ ชั้นบนมี Co-Working Space และ Sky Lounge ออกแบบได้เรียบหรูดูดีเช่นกันครับ จัดวางที่นั่งชุดโซฟา โต๊ะ เก้าอี้ เอาไว้กระจายไปรอบห้องเพื่อรองรับการใช้งานของลูกบ้านไม่ว่าจะมาพักผ่อน อ่านหนังสือแบบเดี่ยวๆ หรือชวนเพื่อนข้างบ้านมานั่งคุยกันที่นี่ ด้านในค่อนข้างกว้างขวาง โอ่โถงเหมาะสำหรับนั่งทำงานส่วนตัวหรือนั่งประชุมก็ได้ ส่วนใครที่จะจัดประชุมหรือพรีเซนต์งานก็สามารถไปใช้บริการ Meeting Room ที่อยู่ติดกันได้ ภายในจัดวางโต๊ะประชุมขนาดใหญ่พร้อมเก้าอี้ประมาณ 8-10 ที่นั่งพร้อมจอทีวีและติดตั้งระบบเพื่อรองรับการใช้งานเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวผมชอบ Clubhouse มีการเลือกใช้สีที่คุมโทนได้ดี เน้นเป็นสีเอิร์ธ น้ำตาล เทา ขาวและดำ ทำให้สัมผัสได้ถึงรายละเอียดในการออกแบบที่เน้นความหรูหราทว่าคลาสสิคสไตล์ยุโรปได้เป็นอย่างดี ส่วนใครที่เป็นสายเวิร์คเอ้าท์ ชอบออกกำลังกาย ที่โครงการก็จัดให้มีห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงข้าม เป็นบรรยากาศแบบโปร่งสบาย ออกกำลังกายได้ไม่อึดอัด จัดวางอุปกรณ์ออกกำลังกายไว้ครบครันทั้งแบบ Cardio, Free Weight และ Machine ติดตั้งลู่วิ่งสำหรับคาดิโอ จักรยานไฟฟ้าและเครื่อง Elliptical กระจายกันไปรอบห้อง ผนังห้องรายล้อมด้วยกระจกเขียวตัดแสงเปิดรับวิวจากภายนอกรู้สึกเลยว่าโล่งสบายได้บรรยากาศของวิวสวนสีเขียวเบื้องหน้า เราว่าเป็นมุมออกกำลังกายที่เติม Energy ได้ดีมาก ถ้ารู้สึกเหนื่อยๆ ก็แค่มองออกไปนอกหน้าต่าง เพียงเท่านี้ก็ได้ Reboost ตัวเองขึ้นมาจากความเหนื่อยล้าได้ระดับหนึ่งแล้วครับ ส่วน Kid’s Room จะอยู่ชั้นล่างของ Clubhouse เป็นพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กๆ สำหรับพักผ่อนทำกิจกรรม ภายในตกแต่งด้วยสีสันสดใสสมวัย โดยทางโครงการได้จัดเตรียมของเล่นเสริมพัฒนาการ นิทานสำหรับเด็ก บ่อบอล จัดวางโต๊ะและสตูลเตี้ยสำหรับนั่งดูไอแพด ทำการบ้าน อ่านหนังสือหรือต่อเลโก้ร่วมกับเพื่อนๆ วางกระจายกันไปในหลายมุม เด็กๆ น่าจะชอบห้องนี้กันมาก ดูเหมือนว่าโครงการนี้จะให้น้ำหนักกับการออกแบบประสบการณ์ใหม่และความสนุกสนานนอกห้องเรียนของเด็กๆ มากเป็นพิเศษซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี ตลอดจนหลักการออกแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัยในการเล่นเป็นสำคัญ ใกล้ๆ กันยังจัดให้มี Playground ด้านนอกเพื่อกระตุ้นให้ลูกบ้านตัวเล็กได้ออกมาใช้ชีวิตสัมผัสกับธรรมชาตินอกบ้านบ้าง เน้นให้ทุกคนในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ชวนกันออกไปรับวิตามินดีในวันที่อากาศเป็นใจ หรือจะแท๊กทีมกันกับเพื่อนบ้าน ไปเล่นที่สวนส่วนกลางก็มีสนามเด็กเล่นกลางแจ้งขนาดใหญ่พร้อมสไลเดอร์ เน้นตีมเกี่ยวกับดาราศาสตร์ พื้นติดตั้งเป็นยางกันกระแทกเพื่อป้องกันอันตราย ตลอดจนมีสะพาน เนินยาง ลานวิ่งสำหรับให้เด็กๆ ได้มาเดินเล่นท่ามกลางบรรยากาศของสวนและต้นไม้สีเขียวน้อยใหญ่อีกด้วยครับ ด้านในจะเป็น Main Park มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ในส่วนของการออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง เราเข้าใจว่าสถาปนิกค่อนข้างคำนึงถึงการอยู่อาศัยที่หลากหลายของสมาชิกภายในโครงการ ทั้งเพศ วัยและความจำเป็นในการใช้ชีวิต เพราะนอกจากมีสนามเด็กเล่นแล้ว ยังมีมุมนั่งเล่นเป็นเก้าอี้เหล็กสำหรับนั่งพักเหนื่อย นั่งพักผ่อนอ่านหนังสือ ส่วนด้านในสุดเป็น Garden Pavilion สไตล์ยุโรป สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ นั่งอ่านหนังสือเล่มโปรด ส่วนตัวกานต์ว่าบรรยากาศของสวนค่อนข้างร่มรื่น เชิญชวนให้หยิบหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารเล่มโปรดติดมือมาอ่านด้วย นั่งสักพักก็มีลมพัดเย็นสบายดี ในอนาคตถ้าต้นไม้โตเต็มที่ ยิ่งช่วยเพิ่มอ๊อกซิเจนเข้าไปอีก เปรียบเสมือนโอเอซิสขนาดใหญ่ใจกลางเมือง อีกหนึ่งรายละเอียดเล็กๆ ของงานออกแบบที่น่าสนใจและยิ่งใหญ่มากในความรู้สึกของกานต์ คือสถาปนิกออกแบบให้มีพื้นที่ทางลาดรอบบริเวณสวน ด้วยการคำนึงถึงการใช้งานจริงของ Universal Design ทำให้ผู้ที่จำเป็นต้องใช้รถเข็นวีลแชร์ ก็สามารถเข้ามารับอากาศบริสุทธิ์ พักผ่อนสบายๆ ในช่วงสายๆ หรือเย็นๆ เป็นเวลาแห่งการใช้ชีวิตร่วมกันของสมาชิกทุกคนในบ้าน จากพื้นที่ส่วนกลาง เรามาชมบ้านตัวอย่างกันบ้างครับ โดยกานต์พามาชมแบบบ้านขนาดใหญ่ที่สุด Castellano มีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 829 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 5 ที่จอดรถ ไฮไลท์คือ Automatic Garage มาพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว และมีห้องพักแม่บ้านอีก 2 ห้อง บนที่ดินขนาดเริ่มต้น 182.1 ตร.ว. โครงการออกแบบ Exterior บ้านเป็นงานสถาปัตยกรรมแบบ Classic Luxury หลังคาเป็นทรงปั้นหยาเพิ่มกิมมิคดีไซน์หน้าจั่ว ตัวบ้านเลือกใช้โทนสีเทา สีขาว สีน้ำตาล ทริมด้วยสีดำทำให้บ้านดูเรียบหรูโก้ Facade แบบย่อเข้ามุมรับกับเสาสไตล์โรมันเพื่อเพิ่มมิติให้ตัวบ้าน ทั้งยังโชว์ความโปร่งด้วยผนังกระจกใส กรุผนังด้วยกระเบื้องหินอ่อนสีเข้มที่หนักแน่นคล้ายหิน ทำให้ได้ฟีลลิ่งของการอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ตัวบ้านสร้างด้วยระบบ Conventional ผนังก่ออิฐมวลเบา QCon ซึ่งทั้งทนทานและง่ายกับการต่อเติม บ้านมาตรฐานติดตั้งชุดมอเตอร์รั้วประตูอัตโนมัติมาให้แล้วครับ ทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานด้วยหลังคาที่ติดตั้ง Solar-Roof ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของลูกบ้านมาให้แล้ว เป็นหนึ่งใน 7 นวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตจาก SC Asset ภายในบ้านตัวอย่างตกแต่งออกมาได้อย่างหรูหรามีระดับ ด้านหน้าเป็น Arrival Hall จัดวางโต๊ะกลมประดับด้วยงานอาร์ตเพื่อเป็นพื้นที่วางของขนาดเล็กก่อนเข้า-ออกบ้าน ประตูหน้าบ้านแบบ Over Scale เป็นบานคู่ปิดผิวลายไม้กรุกระจกใสเป็นช่องเล็กๆ เพื่อให้ดูไม่ทึบตันจนเกินไปจะได้มองเห็นความเคลื่อนไหวภายนอกบ้านได้ มือจับประตูติดตั้ง Digital Door Lock มาให้แล้ว พื้นปูด้วยแกรนิตโต้แผ่นใหญ่ ด้านในออกแบบให้มี Shoes Storage และตู้เก็บของก่อนเข้าไปภายในบ้าน แต่หากยึดตามแปลนของบ้านมาตรฐาน มุมนี้จะมีห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับ Automatic Garage ที่อยู่ถัดไปครับ ภาพเบื้องหน้าที่โดดเด่นเมื่อเดินเข้าไปด้วยใน ด้วยบันไดวน Double Volume Spiral Staircase เป็นโถงสูงขึ้นไปจรดชั้นบนแบบ Double Volume ทางโครงการจัดวาง Art Toy น้อง MOON หน้ามึน ผลงานจาก Fat Fox and Moon Journey ตั้งเอาไว้รอทักทายทุกคน ส่วนผนังบริเวณบันไดเปิดเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ที่ส่องผ่านแสงแดดจากธรรมชาติเข้ามาภายในบ้านได้ บันไดเซาะร่องประดับไฟราวจับไว้อย่างหรูหราสวยงามรับกันดีกับลูกตั้งลูกนอนของบันไดที่ใช้เป็นหินอ่อน ทว่าบ้านจริงเป็นพื้นไม้สักที่ผมรู้สึกว่าสวยไม่แพ้กัน พื้นที่การใช้งานภายในบ้านจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคั่นกลางด้วยบันได เราเริ่มจากด้านซ้ายมือออกแบบให้เป็น Great Room สำหรับต้อนรับแขกนั่งพูดคุยธุระสำคัญ บ้านตัวอย่างตกแต่งสวยมากครับได้ฟีลเหมือนอุโมงค์ลับที่ทำฝ้าเพดานทรงโค้งล้อไปกับภาพรวมของโครงการ เปิดช่องแสงจากผนังกระจกใสด้านหน้าและด้านข้าง เพื่อรับวิวสวนสีเขียวรอบบ้านดูสดชื่นดีมาก เราชอบเวลาที่มีแสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาภายใน กระทบกับเฟอร์นิเจอร์เกิดเป็นเงาและโคมไฟที่ดูประกายแวววาว ดูงดงามราวกับเป็นภาพจิตรกรรมที่มีชีวิต บ้านตัวอย่างติดตั้งผ้าม่าน 2 ชั้นเน้นสีเข้ม ทำให้บ้านดูมีมิติ มุมนี้จัดวางชชุดโซฟาที่นั่งแบบฟรีฟอร์มหลากดีไซน์หลายที่นั่ง กระจายกันไปทั่วห้องตามสไตล์บ้านโมเดิร์นคลาสสิค โครงการติดตั้ง Magnetic & Shock Sensor เอาไว้ให้แล้วทั้ง 2 ชั้น ตลอดจน Smoke Detector, Heat Detector นอกจากนี้ยังคุมคุณภาพอากาศในบ้านให้สะอาดสดชื่นตลอดเวลาด้วยระบบ Active Air Quality ที่กรองท้ังฝุ่นละออกขนาดเล็กและเชื้อไวรัสได้ รวมถึงติดตั้งอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงจาก AIS FIBER ให้ลูกบ้านฟรี 1 ปี สามารถเปิดปิดควบคุม สั่งการระบบไฟภายในบ้านได้จากมือถือผ่าน RUEJAI HOME OS ดูน้อยลง “Do something nice for yourself today. Find some quiet, sit in stillness, breathe. Put your problems on pause. You deserve a break.” ― Akiroq Brost ติดกันเป็นห้องพักผ่อนสำหรับดื่มสังสรรค์ในวันสบายๆ หรือจะใช้เป็นห้องรับรองสำหรับพรีดินเนอร์ก็ได้เช่นกันครับ เพราะออกแบบให้มีชุดที่นั่งโซฟาและบาร์พร้อมเก้าอี้สตูลทรงสูงเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว แต่หากจะดูตามแปลนบ้าน ห้องนี้จะเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุครับ ไฮไลท์เลยคือการเชื่อมต่อกับ Terrace ด้านข้างบ้านสามารถเปิดประตูออกไปเดินเล่นชมสวน ออกกำลังกายแกว่งแขวนเบาๆ รับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าครับ ภายในห้องจัดวางฟังก์ชันเผื่อเอาไว้ให้สำหรับครอบครัวที่อาศัยอยู่กันหลายเจนเนอเรชั่น สถาปนิกจึงออกแบบให้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุโดยคำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานจริงในทุกจุด เช่น สามารถจัดวางเตียงนอนขนาดควัีนไซส์และมีพื้นที่รอบเตียงเหลือเพื่อรองรับการใช้งานรถเข็นวีลแชร์หรือเดินเหิรได้อย่างสะดวกสบาย ประตูห้องนอนและห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่ ออกแบบให้มีพื้นราบเสมอกันโดยไม่มีธรณีประตูเพื่อป้องกันการสะดุด พื้นของห้องนี้จะมีความพิเศษคือเป็นแบบ SCG Soft Absorbtion Floor รองรับการกระแทกได้ดี ส่วนห้องน้ำจะออกแบบให้มีราวจับในหลายจุดเพื่อช่วยพยุงตัวสำหรับผู้สูงอายุ ภายในห้องยังโดดเด่นด้วย The Parlor บริเวณด้านข้างเตียง ออกแบบเป็นหน้าต่างทรงเหลี่ยมที่ยื่นออกไปยังบริเวณด้านข้างบ้านสำหรับจัดวางโซฟาที่นั่งแบบเข้ามุม ให้ความรู้สึกหรูหราน่าอยู่ขึ้นมาทันที เมื่อมองจากห้องนั่งเล่นเราจะมองเห็นวิวสวนด้านข้าง เต็มไปด้วยต้นไม้ ไม้พุ่มและไม้ดอก สีเขียวสดชื่นสบายตา เป็น Terrace ขนาดใหญ่ออกแบบให้เป็นที่นั่งพักผ่อนกลางแจ้ง จัดวางเฟอร์นิเจอร์โดยเลือกใช้วัสดุเป็นไม้บุเบาะด้วยผ้า มาพร้อมโต๊ะกลาง ได้ฟีลลิ่งของบ้านพักตากอากาศในบรรยากาศสบายๆ บ้านตัวอย่างออกแบบให้มีสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้านเป็นไอเดีย พร้อมจัดวาง Sunbed สำหรับนอนอาบแดด อ่านหนังสือหรือนั่งรับลมเย็นๆ โดดเด่นด้วยซุ้มโครงเหล็กฉลุสีขาวให้ความรู้สึกแบบบ้านยุโรปสมัยใหม่ ให้เราสามารถมีวันพักผ่อนได้อยู่ภายในบ้านของเราเองได้แบบส่วนตัว ไฮไลท์ของบ้านหลังนี้คือการออกแบบให้มีความเชื่อมโยงกันระหว่าง Garage กับ Living ที่ให้อารมณ์ Man Cave แบบผู้ชายเท่ๆ บ้านตัวอย่างยังออกแบบให้บรรยากาศดูสบายๆ มีมุมนั่งเล่น นั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ที่บาร์ มีโต๊ะพูลสำหรับปาร์ตี้กับกลุ่มเพื่อนที่มีความชอบเหมือนๆ กัน จัดสรรพื้นที่สำหรับเซอร์วิสรถยนต์คันโปรดได้ เรียกได้ว่าสามารถใช้เวลาอยู่ในห้องนี้ได้ทั้งวัน กลายเป็นอีกหนึ่งมุมโปรดของสมาชิกภายในบ้านที่นิยมสะสมรถยนต์หรู ซุปเปอร์คาร์และสามารถใช้เป็น Show Gallery สำหรับบ่งบอกรสนิยมความชอบและการใช้ชีวิตของเรา โดยเป็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่จอดรถได้ 5 คัน พร้อมระบบเปิดปิดประตูแบบออโต้ แต่หากปิดลงมาจะเป็นกระจกใสเปิดช่องแสงให้ผ่านเข้ามาภายใน ยามค่ำตอนที่ Garage ต้องแสงไฟ หากเรามองจากด้านนอกเข้าไปจะสวยหรูดูแพงมากครับ ทางโครงการได้วางระบบ Wallbox ในการติดตั้ง EV Charger เป็นระบบไฟฟ้า 3 เฟสแบบ 50/150 เพื่อรองรับสำหรับบ้านไหนที่มีรถยนต์ไฟฟ้า และการใช้ไฟฟ้าภายบ้านให้กำลังโหลดสูงๆ ได้สบายเลยครับ จาก Garage สามารถเดินทะลุเข้าไปยัง Dining Area และครัวได้เลยครับ ภาพแรกที่เห็นจะเป็นมุมนี้ ซึ่งมีความโดดเด่นด้วยโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ ที่หลบฝ้าขึ้นไปเล็กน้อยพร้อมติดตั้งกระจกเงา ให้ดูเป็นมุมที่แกรนด์มากๆ อีกหนึ่งมุมภายในบ้าน บ้านตัวอย่างจัดวางโต๊ะแบบ 10 ที่นั่ง แต่ผมว่าเราสามารถจัดให้เป็นแบบ Long Table ได้เลยนะครับ สำหรับต้อนรับแขกและรับประทานอาหารร่วมกันภายในครอบครับ เพราะบริเวณนี้มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง ด้านข้างมีเคาน์เตอร์มินิบาร์สำหรับจัดเตรียมเครื่องดื่มเอาไว้แล้ว บ้านตัวอย่างออกแบบให้มี Pantry และมีอ่างล้างจานด้านหลัง ติดตั้งเอาไว้ให้ดูเป็นไอเดียเผื่อใครอยากทำเพิ่มบ้าง เผื่อว่าอยากจะเชิญ Celebrity Chef มาเปิด Chef Table ทำอาหารให้ทานในบรรยากาศสบายๆ เป็นส่วนตัวของเพื่อนฝูงหรือคนในครอบครัว ส่วนตัวกานต์ชอบมุมนี้มาก ดูสวยงามคลาสสิค ได้นั่งรับประทานอาหารในบรรยากาศที่โปร่ง โล่ง มีแสงแดดอ่อนๆ ลอดเข้ามา มองออกไปเห็นวิวสวน ต้นไม้สีเขียวด้านนอก ดูสดชื่นสบายตา ถ้าใครสังเกตให้ดีบ้านซีรีย์นี้เน้นผนังกระจกใสเยอะมาก ทำให้เราได้สัมผัสกับบริบทของธรรมชาติแวดล้อมได้อย่างเต็มที่ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของบ้าน ช่วยเติมอรรถรสให้กับมื้ออาหารได้เป็นอย่างดี ส่วนด้านในจะเป็นครััวไทยขนาดใหญ่ติดตั้งเคาน์เตอร์แบบเข้ามุมพร้อมตู้เก็บของปิดบน-ล่าง นอกจากนี้บริเวณด้านหลังยังมีห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับแขกและสมาชิกภายในบ้านใช้งานร่วมกัน ด้านหลังสุดจะเป็นห้องนอนแม่บ้าน และพื้นที่ Maid Plaza ภายในบ้านยังได้ติดตั้งระบบแผงควบคุมของ RUEJAI HOME OS ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันตัวเด็ดของ SC Asset เปลี่ยนเป็นบ้านอัจฉริยะ โดยเราสามารถที่จะควบคุมระบบความปลอดภัย สั่งการเปิด-ปิดระบบไฟภายในบ้านได้ง่ายๆ ผ่าน Smart Phone เรียกได้ว่าใช้นวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเติมเต็มการพักอาศัยในแบบ Living Solutions by SC Asset จริงๆ ครับ จากนั้น เราจะเดินขึ้นบันไดไปชมพื้นที่ชั้น 2 ของบ้านกันบ้างครับ ผมชอบมุมนี้มาก เพราะดูโดดเด่นด้วยแสงไฟจากแชนเดอร์เลียร์พวงใหญ่ที่ห้อยระย้าจากฝ้าเพดานไปจนถึงชั้นล่างของบ้านแบบ Double Volume หากทอดสายตาลงไปตามแนวไฟจะเห็นเป็นช่องเปิดจนถึงชั้นล่างดูสวยงามมากครับ เดินขึ้นบันไดมายังบนชั้น 2 เราจะพบกับ โถงทางเดินกว้างที่เชื่อมต่อทุกห้องนอนเข้าด้วยกัน พื้นชั้น 2 ปูด้วยปาเกต์ไม้สักผิวสัมผัสดีมาก ความสูงโดยรวมจากพื้นจรดเพดานอยู่ที่ 3 เมตร ไฮไลท์หนึ่งของชั้นบนคือโซน Family Area ซึ่งมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ให้ความรู้สึกโปร่งด้วยหน้าต่างรอบบ้าน ทำให้เปิดช่องแสงเข้าได้มากกว่าบ้านทีั่วไป ตอบโจทย์ของคนรักอิสระแต่มั่นคง สมกับความเป็นบ้านที่ออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic หัวใจหลักของการออกแบบบ้านคือแนวคิดในการเปิดกว้างในการพักอาศัยให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ บ้านตัวอย่างจึงออกแบบ Family Area ให้เป็นห้องทำงานหรือใช้เป็นพื้นที่สำหรับให้เด็กๆ ทำการบ้านด้วยกัน แต่ก็ยังจัดให้มีอาร์มแชร์และโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อนในมุมนี้เช่นกัน การตกแต่งภายในบ้านเลือกใช้สีพื้นฐานในการออกแบบและใช้รูปทรงฟรีฟอร์มของชุดโซฟานำมาทับซ้อนกันเป็นเลเยอร์ให้บ้านดูมีมิติมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นแก่นของงานออกแบบสไตล์โมเดิร์นในยุคปัจจุบัน ผสานเข้ากับความครีเอทีฟของผนังเซาะร่องเป็นวงกลมติดตั้งกระจกเงา ด้านในสามารถทำเป็นชั้นโชว์ไปได้ในตัว ตลอดจนผ้าม่านโปร่งสีดำเทาที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกเบาสบาย พริ้วไหวไปตามแรงลม โดยจะไม่เน้นให้บ้านสว่างมาก ทั้งนี้เราสามารถปรับฟังก์ชันให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในบ้านได้ มาดูในส่วนของห้องนอนกันบ้างครับ ชั้นบนจะมีด้วยกัน 4 ห้องนอน เริ่มจาก Grand Suite Master Bedroom กันก่อน บ้านตัวอย่างตกแต่งห้องนี้ในคาแรกเตอร์ที่มีความโมเดิร์น ดูชิคแต่ยังคงความเรียบหรูโก้เอาไว้ ออกแบบให้มีช่องแสงขนาดใหญ่ส่องมาจากด้านหน้าบ้านเป็นประตูกระจกเขียวตัดแสง เราสามารถติดตั้งม่านหรือมู่ลี่เพิ่มเติม เปิด-ปิดม่านได้หากต้องการความเป็นส่วนตัว ส่วนพักผ่อนจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ไว้ชิดผนัง ด้านข้างเปิดช่องแสงเข้ามาภายใน มีพื้นที่โดยรอบเตียงสามารถเดินได้สบายเลยครับ หัวเตียงมีโต๊ะเตี้ยสำหรับวางโคมไฟส่องสว่างตอนก่อนนอน ปลายเตียงสามารถจัดวางเดย์เบดขนาดใหญ่และชั้นวางทีวีขนาด 55 นิ้ว สามารถนอนดูซีรีส์จากบนเตียงได้เลย สะดวกสบายดีมาก ส่วนตัวแล้วผมชอบวิวจากห้องนี้มาก จะเห็นว่าได้ความเปิดโล่งรับพื้นที่สีเขียวจากสวนส่วนกลางและสวนด้านหน้าบ้าน ดูแล้วรู้สึกสดชื่นมากครับ เป็นห้องนอนที่น่าอยู่มาก อีกจุดที่ผมชอบคือในห้องเป็นฝ้าเพดานทรงสูงถึง 4.50 ม. ดูโอ่โถงดี ออกแบบให้มีความโค้งมนเพื่อล้อไปกับภาพรวมของโครงการทั้งหมด และยังคงความเรียบนิ่งเท่ด้วยการเลือกใช้สีโทนเข้มทั้งหมด ติดตั้งแชนเดอร์เลียดีไซน์เก๋เพื่อทำให้ห้องนี้ดูมีมิติที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เราว่าหลักการออกแบบที่ดีต้องไม่ลืมคำนึงถึงเรื่องการเติมเต็มสุนทรียะในการพักผ่อนเข้ามาประกอบด้วย เป็นเรื่องที่เราให้น้ำหนักมาก หากเทียบกับโครงการนี้จะพบว่า สถาปนิกได้ออกแบบให้มีระเบียงขนาดใหญ่หน้าบ้าน ยาวตั้งแต่ห้องนอนไปจนถึงห้องน้ำ เพื่อช่วยในการเปิดรับแสงจากภายนอกทำให้บ้านดูสว่าง ไม่ต้องเปิดไฟ สามารถประหยัดพลังงานในช่วงเวลากลางวันได้ ทั้งยังเป็นการพักผ่อนรับลมชมสวนสีเขียวฝั่งด้านหน้าบ้าน สามารถนั่งอ่านหนังสือหรือวาดรูป ถักนิตติ้ง เป็นการใช้เวลาแบบส่วนตัวได้ภายในพื้นที่ของเรา ถ้าเป็นเราตอนเช้าๆ หลังตื่นนอนจะหยิบแก้วกาแฟร้อน แล้วออกมายืนรับอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มที่ ส่วนตัวกานต์ค่อนข้างชอบมุมนี้เพราะดูแกรนด์สมชื่อดีมากๆ เนื่องจากระเบียงอยู่ตรงกับหน้าจั่วสามเหลี่ยมของบ้านพอดี ทำให้เป็นมุมที่ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยมากครับ ส่วนด้านในเป็นโถงทางเดินสำหรับไปห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ด้วยการ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่จรดเพดานติดตั้งไว้ฝั่งทั้ง 3 ฝั่งพร้อมกระจกสีชาประดับไฟทำให้เพื่อให้เราได้ใช้พื้นที่ส่วนตัวอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะคนที่ชอบแต่งตัวจะสนุกกับห้องนี้มาก ตรงกลางด้านในเป็นโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ เปิดช่องแสงธรรมชาติจากผนังด้านในช่วยให้แต่งหน้าได้สวยเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ถัดไปด้านในสุดเป็น Grand Suite Master Bathroom ห้องน้ำแบบ Full Bath ซึ่งมีขนาดใหญ่เช่นกัน แยกส่วนการใช้งานเปียกและแห้ง พื้นปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนแผ่นใหญ่ แบ่งฟังก์ชันการใช้งานออกเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์หินอ่อนสีดำติดตั้งอ่างล้างมือแบบ His & Her ขนาดใหญ่ ใต้อ่างเป็นตู้เก็บของด้านบนมีกระจกเงาติดตั้งไว้ยาวเต็มบานเต็มผนัง ดูเก๋ดี ตรงข้ามเป็นพื้นที่ห้องอาบน้ำที่มีทั้ง Hand Shower และ Rain Shower จัดวางอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ใช้งานพร้อมกันได้ 2 คน พร้อมระบบ Bubble นวดตัว เปิดช่องให้มีแสงสว่างเข้ามาภายในห้องน้ำและยังช่วยเรื่องการระบายความชื้นระบายอากาศภายในห้องน้ำได้อีกทางหนึ่ง และได้ความที่อยู่ติดกับห้องแต่งตัวทำให้สะดวกในการใช้งานแบบครบจบในจุดเดียว ถือเป็นห้องนอนหลักที่มีขนาดพื้นที่กว้างขวางและออกแบบฟังก์ชันใช้สอยภายในได้ค่อนข้างลงตัวมากเลยครับ ห้องนอนรองห้องแรกจะอยู่ระหว่าง Family Area และ Grand Suite Master Bedroom จะได้เปรียบเรื่องความเป็นห้องมุมที่เปิดรับช่องแสงจากด้านข้าง และความเงียบสงบเนื่องจากเป็นห้องนอนที่ค่อนไปข้างโซนด้านหลังบ้าน ภายในมีขนาดกว้างขวาง จัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่เอาไว้ตรงกลางพร้อมกับมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้เดินได้สบาย และยังสามารถจัดวางโต๊ะหัวเตียงพร้อมโคมไฟแบบแขวนเอาไว้อีกด้วย มุมห้องด้านหน้าจัดวางอาร์มแชร์สำหรับเป็นมุมพักผ่อน เอาไว้นั่งอ่านหนังสือ หรือดูทีวี ปลายเตียงเป็นชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังจะทำให้ห้องดูโมเดิร์นขึ้น ห้องนี้ตกแต่งในโทนวัยรุ่นชาย ที่มีความรักในงานศิลปะดูเท่ดีมาก ผมชอบผนังด้านข้างที่ประดับด้วยงานอาร์ตสีสันสดใสในแนว Abstract ด้านในสุดจะเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ยาวขนานกันไปกับตัวห้องก่อนจะไปสุดที่โต๊ะเครื่องแป้งด้านในและห้องน้ำในตัว ห้องนอนรองห้องถัดมาจะอยู่ติดกับ Grand Suite Master Bedroom เป็นห้องนอนโซนหน้าบ้านที่มีจุดเด่นคือได้แสงสว่างจากผนังด้านนอก ภายในห้องจัดวางฟังก์ชันไว้ลงตัว โดยมีเตียงนอนขนาดใหญ่จัดวางเอาไว้ด้านในสุด ซึ่งจะไม่ตรงกับตำแหน่งประตู ข้อดีก็คือทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ห้องตกแต่งโทนสีน้ำตาลเหลืองดูเป็นโทนสีที่ลงตัว หัวเตียงประดับด้วยงานศิลปะให้ดูเป็นห้องนอนเด็กหนุ่มทรงเท่ๆ ด้านข้างเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและมุมนั่งทำการบ้านไปในตัว ส่วนปลายเตียงติดตั้งชั้นวางทีวีและตู้เก็บของ โดยปรับให้มุมแต่งตัวและห้องน้ำมาอยู่ฝั่งด้านหน้าประตูทางเข้าแทนครับ ห้องนอนห้องสุดท้ายจะอยู่ปีกซ้ายของบ้าน กินพื้นที่เป็นแนวลึกทำให้ห้องมีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าห้องนอนรองทั่วไป เรียกได้ว่าเป็น Junior Suite Master Bedroom เราจะแบ่งพื้นที่ภายในห้องออกเป็น 3 ส่วน เริ่มจากเข้ามาตรงกลางห้องจะยังไม่เจอเตียงนอนในทันที เป็นงานดีไซน์เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวกับเจ้าของห้อง โดยจะเป็นมุมเดย์เบดนั่งพักผ่อนสบายๆ สามารถใช้เป็นมุมทำงาน นั่งอ่านหนังสือหรือวาดรูปสบายๆ ในห้องนอนตัวเองได้ ส่วนเตียงนอนก็มีขนาดใหญ่เช่นกัน มีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้เดินได้สบายๆ เพราะห้องมีขนาดใหญ่มาก ออกแบบให้อยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน เปิดรับช่องแสงจากผนังกระจกขนาดใหญ่ สามารถเปิดประตูออกไปยืนรับลมบริเวณระเบียงได้ เราแนะนำให้หาไม้กระถางฟอร์มสวยมาวางประดับไว้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน เตียงนอนมาพร้อมกับโต๊ะหัวเตียงที่ออกแบบให้เชื่อมต่อกับเดย์เบดด้านข้าง ส่วนปลายเตียงสามารถจัดวางตู้วางทีวีขนาดใหญ่ให้เรานอนดูซีรีส์จากบนเตียงได้เลย บ้านตัวอย่างจัดทำเป็นโต๊ะทำงานภายในตัว สะดวกสบายดีมาก ส่วนตัวแล้วผมชอบวิวจากห้องนี้มาก จะเห็นว่าได้ความเปิดโล่งรับพื้นที่สีเขียวจากสวนส่วนกลางและสวนด้านหน้าบ้าน ดูแล้วรู้สึกสดชื่นมากครับ เป็นห้องนอนที่น่าอยู่มาก ด้านในจะเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่กั้นเป็นมุม Walk in-Closet ไปในตัว เหมาะสำหรับสาวๆ สายแฟชั่น แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ ห้องน้ำภายในห้องนอนนี้จะมีอ่างอาบน้ำติดตั้งมาให้ด้วยครับ มาพร้อมกับห้องอาบน้ำแบบ Shower Box และโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ #โดยสรุป โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ – ราชพฤกษ์ เหมาะสำหรับคนที่มองหาบ้านเดี่ยว 2 ชั้นหลังใหญ่ขนาดที่ดิน 100 ตร.วา ขึ้นไป รองรับครอบครัวที่พักอาศัยกันหลายเจนเนอเรชั่น บรรยากาศโดยรวมของโครงการนำเสนองานสถาปัตยกรรมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากพระราชวัง Cibeles ใจกลางกรุงมาดริดและภาพรวมของอาร์ตสไตล์สเปน โครงการออกแบบทุกตารางนิ้วโดยเน้นไปที่ความหรูหรา ทว่า คลาสสิค คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวเนื่องจากมีเพียง 64 ยูนิตเท่านั้น มาพร้อมกับ Clubhouse ขนาดใหญ่พื้นที่ส่วนกลางและ Main Park ที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่พื้นที่สีเขียวเยอะมาก เหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจราวกับได้ใช้ชีวิตอยู่ที่ยุโรป โครงการนำสายไฟลงดินเรียบร้อยแล้วครับทำให้ทัศนียภาพภายในโครงการดูเป็นระเบียบและสวยงาม โครงการตั้งอยู่บนทำเลชัยพฤกษ์ที่เชื่อมต่อทุกการเดินทางไม่ว่าจะเข้าสู่แจ้งวัฒนะ ศูนย์ราชการ แยกปากเกร็ด หรือจะใช้ถนนราชพฤกษ์ ถนนกาญจนาภิเษกก็ถือว่าทำได้รวดเร็ว รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ช่วยให้การใช้ชีวิตของเราง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น สนใจดูรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หรือโทร. 065-505-8555 หรือลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ https://m.scasset.com/LyTZ