ศาลเจ้าเทพอินาริ (伏見稲荷大社, Fushimi Inari Shrine) หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่าศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอก เป็นอีกจุดหมายหนึ่งที่ผมตั้งใจมาเยือนเมื่อมาเกียวโตครับ
สำหรับการเดินทางนั้น เนื่องจากผมมี JR PASS จึงนั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานี JR Inari (JR Nara Line) ศาลเจ้าจะอยู่เบื้องหน้าเลยครับ หรือหากมาสายอื่นก็จะต้องออกแรงเดินเล็กน้อยจากสถานีรถไฟ Fushimi Inari ของสาย Keihan Main Line แต่ก็มาถึงได้เหมือนกัน
ที่นี่เป็นศาลเจ้าชินโต (Shinto) ที่มีความเก่าแก่ (ประมาณพันกว่าปีมาแล้ว) มีความสำคัญ และมีชื่อเสียงโด่งดังก็มาจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงนี่แหละครับ เวลาเราเห็นในรูปมีเสาสีแดงเรียงตัวกันข้างหลังนี่มันช่างสวยงามชวนดึงดูดใจให้มาถึง
เสาที่ว่านี้มีจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริเลยทีเดียวครับ คนญี่ปุนเขาก็เชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักสิทธ์ มีเทพอินาริเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และท่านจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย (บ้างก็ว่าท่านชอบแปลงร่างเป็นจิ้งจอก) ดังนั้นอย่าแปลกใจหากเราจะพบเจอรูปปั้นจิ้งจอกมากมายเต็มศาลเจ้าไปหมด
ใครมีเวลาขอแนะนำให้เดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ นะครับ จะใช้เวลาเดินประมาณ 2-3 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร วนเป็นวงกลมลงมาที่จุดเดิม แต่ช่วงกิโลเมตรแรกของทางขึ้นเขาจะมีจุดชมวิวที่เรียกว่า ทางแยกโยซึซึจิ (Yotsutsuji Intersection) ที่จะสามารถเห็นวิวเมืองเกียวโตได้ ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะจบการเดินทางที่จุดชมวิวแห่งนี้เพราะเหนื่อย!!
แต่ถ้าใครแรงเยอะ ก็เดินต่อครับ ระหว่างทางเดินขึ้นเขาจะพบศาลเจ้าเล็กๆ ได้ตลอดทาง รวมถึงเสาโทริอิแบบเล็กๆ และจิ้งจอกตัวเล็กๆด้วย (คนงบน้อยก็สามารถเลือกบริจาคซื้อแบบเล็ก ๆ เอามาวางได้เหมือนกัน)
เราจะเห็นว่าศาลเจ้าแห่งนี้บูรณะค่อนข้างดี แทบจะไม่พบว่าสีแดงส้มของประตูโทริซีดแต่อย่างใด อาจจะด้วยแรงศรัทธาจากคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวที่ร่วมกันบริจาคเงินเพื่อบูรณะตลอดเวลา เพราะว่าเป็นศาลเจ้าที่ได้รับความนิยมนั่นเอง
แต่ก็อีกนั่นแหละ คนเยอะก็จะเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของการถ่ายภาพครับ ซึ่งต้องใช้ความอดทนรอเป็นอย่างมากต่อการได้มาซึ่งภาพถ่ายดีๆ สักใบ
ดังนั้น อย่าได้แปลกใจ หากรีวิวนี้จะมีรูปไม่ค่อยเยอะสักเท่าไรนัก …
