“𝐎𝐥𝐝 𝐦𝐨𝐧𝐞𝐲 𝐬𝐭𝐲𝐥𝐞 𝐢𝐬 𝐚𝐛𝐨𝐮𝐭 𝐰𝐞𝐚𝐫𝐢𝐧𝐠 𝐲𝐨𝐮𝐫 𝐰𝐞𝐚𝐥𝐭𝐡 𝐥𝐢𝐠𝐡𝐭𝐥𝐲 𝐚𝐧𝐝 𝐥𝐞𝐭𝐭𝐢𝐧𝐠 𝐲𝐨𝐮𝐫 𝐜𝐡𝐚𝐫𝐚𝐜𝐭𝐞𝐫 𝐬𝐩𝐞𝐚𝐤 𝐥𝐨𝐮𝐝𝐞𝐫 𝐭𝐡𝐚𝐧 𝐲𝐨𝐮𝐫 𝐜𝐥𝐨𝐭𝐡𝐞𝐬” นักธุรกิจชื่อดัง John Wanamaker เคยพูดประโยคนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจ
.
Old Money Style ไม่ได้หมายความถึงแค่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญะบ่งบอกรสนิยมในการใช้ชีวิตที่ Mature, Prestigious และ Stately มากกว่าทั่วไป มีสไตล์ที่เรียบง่ายทว่าหรูหราโดยไม่จำเป็นต้องอวดความมั่งคั่งผ่านเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับ คนกลุ่มนี้กลับชอบแต่งตัวแบบคลาสสิก เรียบหรูดูประณีต เน้นการตัดเย็บอย่างดี เพื่อนำไปสู่การสร้างคุณค่าให้กับตนเอง
.
Old Money Style มักมองหาผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยยกระดับชีวิตและทำให้เกิดความรู้สึกพิเศษ กานต์นึกไปถึงคฤหาสน์หรูระดับ 6 ดาว จาก Cystal Solana โครงการระดับ Ultra Luxury Residences ที่มาพร้อมกับการส่งมอบคุณค่าเกี่ยวกับประสบการณ์หรูหราและคุณค่าส่วนบุคคล
.
นำเสนอ New Luxury ในการออกแบบและสถาปัตยกรรมร่วมสมัยไร้กาลเวลาในแบบ Contemporary Timeless คือการสร้างพื้นที่ที่มีทั้งความสวยงามประโยชน์ใช้สอย สะท้อนความเป็นตัวตนของผู้พักอาศัย ส่งเสริมความรู้สึกเป็นอยู่ที่ดี มีความหรูหราที่เงียบสงบ นำมาใช้เป็นปรัชญาการออกแบบที่เน้นความสง่างาม งานฝีมือที่มีคุณภาพและประณีต มีสไตล์ที่เหนือกาลเวลา
.
แบบบ้านที่กานต์พามาชมกันในครั้งนี้คือ #DIAMONTE ที่มีความโดดเด่นด้วยงานดีไซน์ที่เรียบหรู เลือกใช้สีที่เป็นกลาง เช่น สีขาว สีเบจ และสีเทา ใช้วัสดุที่ดีมีคุณภาพระดับโลก มีคุณภาพ หรูหรา สวยงาม เช่นเดียวกับวิธีการก่อสร้างและการตกแต่ง เน้นเปิดช่องแสงเข้าสู่ภายในบ้าน ทั้งยังออกแบบให้เราได้แต่งเสริมเติมต่อตามความต้องการ โดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัว ทั้งยังมีพื้นที่รอบบ้านให้สามารถทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัวได้ สร้างบรรยากาศที่แสนอบอุ่น
.
โครงการเชื่อมโยงบ้านเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ ด้วย Clubhouse ขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 2 ไร่ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ของลูกบ้าน บรรยากาศของโครงการ Cystal Solana จึงเต็มไปด้วยความคลาสสิค สวยงามไร้กาลเวลา ทั้งยังเป็นการสร้างสังคมแห่งการอยู่อาศัยที่ทรงคุณค่า ที่มาพร้อมกับความปลอดภัยและการให้บริการระดับที่ดีที่สุด เอกสิทธิ์เพียง 47 ครอบครัวเท่านั้น
.
ที่สำคัญเป็นบ้านพร้อมเข้าอยู่ทันที ถือเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจมากครับ เพราะเราสามารถสัมผัสกับบ้านจริงก่อนได้ นอกจากนี้ ความที่โครงการอยู่ติดถนนใหญ่บนทำเลหนึ่งเดียวของถนนประดิษฐ์มนูธรรม ทำให้เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมได้สะดวกและมุ่งหน้าสู่ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ ได้อย่างรวดเร็ว
.
Oscar de la Renta ดีไซเนอร์ชื่อดังแห่งยุค 60s เจ้าของแบรนด์ชื่อดัง ได้พูดถึงความหมายของ “ความหรูหรา” เอาไว้ว่า “𝐋𝐮𝐱𝐮𝐫𝐲 𝐭𝐨 𝐦𝐞 𝐢𝐬 𝐧𝐨𝐭 𝐚𝐛𝐨𝐮𝐭 𝐛𝐮𝐲𝐢𝐧𝐠 𝐞𝐱𝐩𝐞𝐧𝐬𝐢𝐯𝐞 𝐭𝐡𝐢𝐧𝐠𝐬; 𝐢𝐭’𝐬 𝐚𝐛𝐨𝐮𝐭 𝐥𝐢𝐯𝐢𝐧𝐠 𝐢𝐧 𝐚 𝐰𝐚𝐲 𝐰𝐡𝐞𝐫𝐞 𝐲𝐨𝐮 𝐚𝐩𝐩𝐫𝐞𝐜𝐢𝐚𝐭𝐞 𝐭𝐡𝐢𝐧𝐠𝐬.” สำหรับเขาแล้ว ความหรูหราไม่ใช่การซื้อของแพงแต่เป็นการใช้ชีวิตแบบชื่นชมคุณค่าของสิ่งต่างๆ
.
เฉกเช่นเดียวกับคฤหาสน์หรู DIAMONTE ที่กานต์นำมาฝากกันในครั้งนี้ ไปชมภาพและอ่านเรื่องราวของโครงการ Cystal Solana กันต่อได้เลยครับ
.
สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.crystalsolana.com
หรือนัดหมายแบบส่วนตัวเพื่อเข้าชมโครงการได้ที่โทร 02 101 5775
Line: @crystalsolana
..
โครงการ Cystal Solana นำเสนอคฤหาสน์หรูระดับ Ultra Luxury Residences ที่เชื่อมโยงรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัยเข้ากันได้อย่างเหนือระดับ ด้วยความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด
.
โครงการ Cystal Solana ได้หยิบยกแรงบันดาลใจในการออกแบบที่มีความเป็น Contemporary Timeless Style เน้นดีไซน์ที่เรียบหรูไร้กาลเวลา นำมาไว้ที่นี่
นิยามของงานดีไซน์ที่มีความงามอยู่เหนือกาลเวลา เป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์โมเดิร์นที่ดูโก้หรูทันสมัย เข้ากับสไตล์คลาสสิกที่นำเสนอความเป็นกลิ่นอายดั้งเดิม เน้นสีขาวแบบโคโลเนียลนิดๆ ผนวกเข้ากับการเลือกใช้วัสดุที่หรูหรา ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในยุโรปและอเมริกาเพราะว่าเป็นสไตล์ที่ทั้งหรูหรา ทว่าเรียบง่าย แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไปก็ไม่ได้ทำให้ความสวยงามคลาสสิคลดน้อยลงเลยครับ
โครงการ Cystal Solana มีทั้งบ้านสั่งสร้างที่สามารถ Customize เองได้ รวมถึงบ้านสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที ออกแบบสถาปัตยกรรมโดยมีเอกลักษณ์ที่เน้นความหรูหรา ไร้กาลเวลา สะท้อนความเป็นตัวตนของผู้พักอาศัยได้เป็นอย่างดี
โครงการ Cystal Solana มีทั้งบ้านสั่งสร้างที่สามารถ Customize เองได้ รวมถึงบ้านสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที ออกแบบสถาปัตยกรรมโดยมีเอกลักษณ์ที่เน้นความหรูหรา ไร้กาลเวลา สะท้อนความเป็นตัวตนของผู้พักอาศัยได้เป็นอย่างดี
เห็นได้จากบ้านในโครงการ CRYSTAL SOLANA ตัวบ้านภายนอกออกแบบได้อย่างหรูหราเป็นบ้านสไตล์ยุโรปที่มีความร่วมสมัย เป็นงานสถาปัตยกรรมที่ไร้กาลเวลาแบบ Contemporary Timeless Style
อย่างเช่นแบบบ้านที่กานต์พามาชมกันในครั้งนี้คือ DIAMONTE ที่มีความโดดเด่นเรื่องงานดีไซน์ที่ดูหรูหรา บ้านมีขนาดพื้นที่ใช้สอย 497 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ Living Room พร้อมห้องรับแขก Family Area ครัวขนาดใหญ่ มุมรับประทานอาหารพร้อม Nook และยังมี Home Studio สำหรับเป็นพื้นที่เอนกประสงค์อีกด้วย มีห้องแม่บ้านและพื้นที่ซักล้างด้านใน ส่วนด้านหน้าบ้านสามารถจอดรถยนต์ได้มากถึง 6 คัน
แบบบ้าน DIAMONTE เป็นบ้านขนาดกลาง ภายนอกทาด้วยสีขาวงาช้างจาก Sherwin Williams ทำให้บ้านดูคลาสสิค Facade หน้าบ้านประดับด้วยหิน Travertine จากอิตาลีที่ต้องใช้ช่างผู้ชำนาญในการติดตั้ง เพื่อให้ได้ผลงานที่มีความงดงามและสัมผัสดุจธรรมชาติ กานต์มองแล้วเห็นงานออกมาเนี๊ยบ ดูเรียบหรูอลังการ ชา่วยทำให้บ้านดูโดดเด่น เป็นอัครสถานที่ดูแล้วมีเสน่ห์น่าค้นหา น่าหลงใหลมากเลยครับ
ส่วนบริเวณลานจอดติดตั้ง EV Charger Wallbox ไว้สำหรับการใช้งานรถไฟฟ้าของลูกบ้าน พร้อมกับมีประตูเล็กเชื่อมต่อกับครัวไทยหรือโซนเซอร์วิสด้านใน เพื่อให้สะดวกในการขนของเข้าบ้าน โดยไม่ต้องผ่าน Living Area
ประตูทางเข้าหลักของบ้านเป็นบานไม้จริงทาสีเข้มบานคู่ พร้อมมือจับเหลืองแท้ใช้ของแบรนด์ Baldwin ดูหรูหรา ประดับประดาเสาทางเดินด้วยโคมไฟกิ่งสไตล์ Modern Classic สอดรับกันดีกับต้นสนน้อยใหญ่ที่ปลูกประดับไว้รายรอบบ้าน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านในยุโรป
ด้วยการเลือกสรรวัสดุจากแบรนด์ระดับพรีเมี่ยม ผสานกับเฟอร์นิเจอร์งานเวิล์ดคลาส เน้นการออกแบบเพื่อการอยู่อาศัยจริง รองรับการใช้งานสำหรับสมาชิกภายในบ้านที่มีความต้องการหลากหลาย ดังนั้น ฟังก์ชันต่าง ๆ ภายในบ้านจึงค่อนข้างมีความยืดหยุ่นแม้ว่าที่เราเห็นจะเป็นบ้านที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้วก็ตาม
เมื่อเข้ามาภายในจะพบกับ Arrival Hall ขนาดใหญ่ ผนังด้านในประดับด้วยกระจกเงาทำให้บริเวณนี้ดูโปร่งโล่งสบาย เวลากลับมาจากที่ทำงานแล้วเดินเข้าบ้านจะได้รู้สึกผ่อนคลาย หายเหนื่อยทันทีที่มาถึง
บริเวณด้านหน้าประตูจัดวางเก้าอี้และโต๊ะวางของเล็กๆ เอาไว้เป็นมุมสำหรับนั่งสวม-ถอดรองเท้าสบายๆ และยังใช้เป็นพื้นที่พักคอยของแขกที่มารอพบได้อีกด้วย
ด้านซ้ายแยกโซนออกไปเป็น Living Room สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนและต้อนรับแขก ด้วยความที่พื้นยกระดับทำให้รับกับองศาของการมองเห็นทันทีที่แขกมาถึงเป็นมุมที่โดดเด่นที่สุดของบ้าน
บริเวณนี้มีความโปร่งด้วยโถงสูงแบบ Double Volume สูงถึง 7 เมตร เปิดรับช่องแสงผ่านหน้าต่างทรงสูงทั้ง 2 ด้าน ทำให้มองเห็นบรรยากาศของด้านหน้าและสวนสีเขียวด้านข้างบ้าน ทางโครงการเลือกใช้กรอบประตูหน้าต่างแบรนด์ Windsor by SCG ช่วยป้องกันเสียงทำให้บ้านเงียบสงบ
โครงการจัดวางชุดโซฟาสีขาวและสีเทาดีไซน์ฟรีฟอร์มเพื่อให้ห้องนี้รู้สึกผ่อนคลายสบายๆ เราชอบการเลือกหมอนอิงที่ดูมีความสดใส มุมนี้ยังประดับประดาด้วยของตกแต่งสไตล์โมเดิร์น มีไฮไลท์คือ Chandelier ขนาดใหญ่ที่แขวนไว้ด้านบนเพดาน เลือกดีไซน์ที่มีความระยิบระยับสวยงามดีครับ
Living Room จะเชื่อมต่อกับโถงบันได ทำให้เรามองเห็นแขกที่มารอพบได้ทันทีและเสริมความสง่าเมื่อค่อยๆ เดินก้าวลงมาจากชั้นบนเพื่อมาพบแขก
อีกทั้งยังช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ มองเห็นความเคลื่อนไหวหากลูกๆ นั่งเล่นทำการบ้านอยู่ที่บริเวณนี้ได้ด้วย โดยไม่เป็นการรบกวนกันจนเกินไปให้ความเป็นส่วนตัวกับทุกคนแม้จะอยู่ในพื้นที่ส่วนรวมก็ตามครับ
บริเวณใต้บันไดก็สามารถเก็บของเช่นกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่และใช้เป็นห้องคอนโทรลระบบต่างๆ ภายในบ้านด้วยครับ ถัดเข้าไปด้านในออกแบบให้มี Shoes Closet ขนาดใหญ่ สามารถเก็บรองเท้าได้หลายร้อยคู่เลยครับ
บริเวณนี้จะมีประตูเล็กเปิดออกไปยังโรงจอดรถได้ สมาชิกในบ้านสามารถใช้ประตูนี้ในการเข้าออกได้เลยครับ อีกทั้งยังใกล้กับครัวทำให้สะดวกในการขนข้าวของที่เพิ่งช้อปปิ้งมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้าน โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องรับแขก
ถัดไปเป็นพื้นที่ของ Service Zone Area ทั้งลานซักล้างและห้องนอนแม่บ้าน
ภายในเป็น Common Area ที่มีขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ ถัดเข้าไปด้านในเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่าง Great Room ส่วนรับประทานอาหารและครัวยุโรป แบ่งสัดปันส่วนแยกฟังก์ชันกันได้อย่างลงตัว บรรยากาศภายในบ้านเป็นโทนขาวสะอาดตา มีความอบอุ่น ล้วนเป็นการเลือกสรรสีจากธรรมชาติเข้ามาช่วยขับเน้นความสง่างามและมีรสนิยมของผู้อยู่อาศัย ด้วยการดึงงานออกแบบ Timeless Classic Style นำเสนอความงดงามไร้กาลเวลามาเป็นองค์ประกอบหลัก
ด้านในเป็นมุมรับประทานอาหารจัดวางฟังก์ชันไว้อย่างเป็นสัดส่วน เพื่อให้เป็นช่วงเวลาพิเศษของทุกคนในครอบครัว บ้านตัวอย่างตั้งใจออกแบบให้มีความเป็น Open Space เชื่อมต่อกันระหว่างโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ประมาณ 8 ที่นั่ง และยังสามารถขยายหรือจัดวางเป็นโต๊ะอาหารแบบ Long Table ได้อีกด้วยครับเพราะว่าพื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างกว้างขวาง
ติดกันเป็น Gourmet Kitchen สีขาวพร้อม Pantry และมีเก้าอี้สตูลทรงสูงสีเข้มจัดวางเอาไว้ สำหรับให้เด็กๆ ได้มานั่งทานมื้อเช้าก่อนไปโรงเรียน ส่วนด้านในจัดวางเคาน์เตอร์ครัวของ Poggenpohl ออกแบบให้ยาวขนานไปกับผนังบ้าน ทางโครงการจัดเตรียมอุปกรณ์รองไว้ไว้เรียบร้อยแล้วครับ ติดตั้งตู้เก็บของบน-ล่างเพิ่มเติมเอาไว้ให้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมกับเปิดช่องแสงผ่านหน้าต่างบานเล็กเอาไว้ให้ได้ระบายอากาศ
เมื่อได้เข้ามาชมบ้านจริงและรับฟังเรื่องราว ก็ยิ่งรู้สึกประทับใจในความเรียบโก้หรู การออกแบบที่เห็นแล้วรู้ได้ทันทีว่างานดีเทลดีมากเลยครับ ที่สำคัญมีให้เลือกเป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมขาย ลูกค้าสามารถเข้าอยู่ได้ทันทีไม่ต้องรอครับ
ส่วนตัวเราชอบการออกแบบของ Robert A.M. Stern สุดยอดสถาปนิกระดับโลกจาก New York อยู่แล้ว ซึ่งสถาปนิกที่ออกแบบ CRYSTAL SOLANA ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานระดับโลกของเขา โดยเฉพาะแนวคิดในการเชื่อมโยงกันระหว่างผู้พักอาศัยกับธรรมชาติที่อยู่รายล้อมบ้าน ทำให้บรรยากาศดูสดชื่นด้วยพื้นที่สีเขียวตลอดเวลา
เพราะต้องไม่ลืมว่าโลเคชั่นของโครงการ CRYSTAL SOLANA คือตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศของแมกไม้สีเขียว จะช่วยเยียวยาจิตใจในวันที่เหนื่อยล้าจากการใช้ชีวิตนอกบ้านได้มากเลยครับ
นอกจากนี้ การออกแบบให้มีพื้นที่เชื่อมต่อกันของฟังก์ชันในโซนด้าน Dining สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีให้กับเจ้าบ้านและแขก หรือแม้แต่กับคนในครอบครัวด้วยกันเอง นับเป็นการออกแบบที่เป็นไปตามคอนเซปต์โครงการที่อยากจะเชื่อมต่อทุกคนภายในบ้านเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้บ้านเสมือนเป็นสถานที่ของทุกคน
เพราะเป็นทั้งมุมรับประทานอาหารและสังสรรค์ไปในตัว ออกแบบให้มีทั้งมุมนั่งเล่นแบบโซฟาเล้าจน์และมินิบาร์ สามารถมานั่งจิบเครื่องดื่มเบาๆ เปิดเพลงฟังเคล้าคลอ ก่อนที่เราจะไปนั่งโต๊ะรับประทานอาหารมื้อหลัก เพราะติดกันกับส่วนเตรียมอาหาร จะเชื่อมต่อกับ Great Room ให้เราสามารถนั่งจิบเบาๆ Pre Dinner กันที่โซฟาก่อนที่จะย้ายมาทานอาหารร่วมกันในมื้อค่ำที่นี่ได้
ด้านในสุดเป็น Home Studio ใช้เป็นพื้นที่เอนกประสงค์ปรับให้ตรงตามไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกบ้าน อาจจะทำเป็นห้องสมุด Nook สำหรับจิบกาแฟยามเช้า หรือทานขนมของว่างจิบน้ำชาเบาๆ ยามบ่าย หรือจะปรับเป็นพื้นที่ออกกำลังกายก็ได้ครับ
ไฮไลท์คือ Skylight หน้าต่างทรงเหลี่ยมที่ยื่นออกไปยังบริเวณด้านข้างบ้านให้ต้นไม้ใบหญ้าได้เข้ามาทักทายผ่านบานกระจกใส ได้ความรู้สึกหรูหราและโดดเด่นขึ้นมาทันที เราจะพบเห็นบ้านสไตล์นี้กันมากที่ยุโรป เหมาะสำหรับการชมวิวมองความเคลื่อนไหวภายนอกบ้าน เป็นการเปิดมุมมองที่กว้างกว่า
ทั้งนี้เมื่อมองจากองค์รวมของงาน Interior จะพบว่าพื้นที่ภายในบ้านออกแบบ Open plan ให้เชื่อมต่อกันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น Common Area ที่มีพื้นที่นั่งเล่นและเป็นมุมรับแขก เชื่อมต่อกับ Dining Area ครัวและพื้นที่ส่วนตัวด้านใน ทำให้ชั้นล่างของบ้านออกแบบมาให้รองรับการใช้งานได้เต็มที่ มีที่นั่งจัดวางไว้หลายฟังก์ชัน สามารถปรับเปลี่ยนสไตล์ได้ตามใจผู้พักอาศัย
ติดกันเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room คือเป็นห้องน้ำที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ สำหรับแขกและลูกบ้านใช้งานร่วมกัน แต่ยังคงตกแต่งได้อย่างหรูหรามีระดับพื้นและผนังประดับด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนลายหินอ่อนจากอิตาลี ภายในติดตั้งอ่างล้างหน้า Artist Edition จาก Kohler มาพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ ตลอดจนสุขภัณฑ์สุดหรู
แต่ผมกลับชอบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของงานออกแบบที่สอดแทรกมาให้ คือการเปิดช่องแสงเล็กๆ จากด้านหลังบ้านเพื่อให้ห้องน้ำดูสว่างขึ้น และสามารถเปิดบานกระทุ้งออกเพื่อระบายอากาศ ไล่ความชื้นได้เพื่อสุขอนามัยที่ดีในการพักอาศัยครับ
“𝐓𝐫𝐮𝐞 𝐥𝐮𝐱𝐮𝐫𝐲 𝐢𝐬 𝐛𝐞𝐢𝐧𝐠 𝐚𝐛𝐥𝐞 𝐭𝐨 𝐨𝐰𝐧 𝐲𝐨𝐮𝐫 𝐭𝐢𝐦𝐞 – 𝐭𝐨 𝐛𝐞 𝐚𝐛𝐥𝐞 𝐭𝐨 𝐭𝐚𝐤𝐞 𝐚 𝐰𝐚𝐥𝐤, 𝐬𝐢𝐭 𝐨𝐧 𝐲𝐨𝐮𝐫 𝐩𝐨𝐫𝐜𝐡, 𝐫𝐞𝐚𝐝 𝐭𝐡𝐞 𝐩𝐚𝐩𝐞𝐫, 𝐧𝐨𝐭 𝐭𝐚𝐤𝐞 𝐭𝐡𝐞 𝐜𝐚𝐥𝐥, 𝐧𝐨𝐭 𝐛𝐞 𝐜𝐨𝐦𝐩𝐞𝐥𝐥𝐞𝐝 𝐛𝐲 𝐨𝐛𝐥𝐢𝐠𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧.” – Ashton Kutcher
เราเดินขึ้นบันไดมาชมชั้น 2 กันบ้างครับ ประกอบไปด้วยห้องนอน 3 ห้องและโถงขนาดใหญ่ที่โดดเด่นด้วย Double Volume เชื่อมต่อพื้นที่ชั้น 1 และชั้น 2 เข้าไว้ด้วยกัน
เดินขึ้นบันไดชั้นบนมาจะเจอกับ Family Area พื้นที่สำหรับสมาชิกในครอบครัวที่เชื่อมต่อกับทุกจุดภายในชั้นบนของบ้านเข้าไว้ด้วยกัน ออกแบบมาโดยคำนึงถึงการปรับใช้งานมุมนี้ให้ได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์และความต้องการของสมาชิกในครอบครัว
บ้านตัวอย่างจัดวางชุดโซฟาแบบฟรีฟอร์มเพื่อให้เรารู้สึกสบายๆ ผ่อนคลาย สามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวีก็ได้ แนะนำให้เลือกสมาร์ททีวีจอใหญ่ๆ ทำเป็นโฮมเธียเตอร์เอาไว้ดูหนังพร้อมกันทั้งครอบครัวได้เลยครับ หรือจะเอาไว้ทำเป็นออฟฟิศ ห้องทำงาน อ่านหนังสือหรือ Work From Home ก็ได้
นับเป็นบ้านที่ออกแบบมาให้รู้สึกผ่อนคลายได้ดีมาก ติดกันมีห้องเล็กๆ สำหรับแยกไว้ทำเป็นห้องพระให้แล้วด้วยครับ
ที่สำคัญนอกจากฟังก์ชันการใช้สอยภายในบ้านแล้ว เรื่องงานดีไซน์ก็ยังต้องให้น้ำหนัก คือบ้านมีความสวยดูดี ดูหรูหรา สมฐานะ ใช้หลักการออกแบบที่เติมเต็มสุนทรียะในการพักผ่อนเข้ามาประกอบ เพื่อให้ลูกบ้านรู้สึกราวกับได้ใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์หรูแถบยุโรป ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะคำนึงถึงเรื่องความเป็นส่วนตัวในพื้นที่ส่วนรวม การเป็นหัวใจหลักของทุกคนในบ้านสามารถใช้เวลาร่วมกันได้ ก่อนจะแยกย้ายกลับเข้าห้องนอนส่วนตัว
ในส่วนของห้องนอนจะเริ่มจาก Master Bedroom ห้องแรกกันก่อนอยู่โซนด้านหลังบ้าน ทำให้ได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบและพื้นที่สีเขียวจากต้นไม้สูงด้านหลังบ้าน
ห้องนอนหลักมีขนาดกว้างมาก โถงทางเข้าออกแบบได้เก๋ดีครับ จัดเป็นมุม Master Retreat หรือเรียกว่าพื้นที่นั่งเล่นภายในห้องนอน สำหรับพักผ่อนก่อนจะเข้าถึงเตียงนอนที่อยู่ด้านใน เผื่อว่าคุณพ่อคุณแม่มีเด็กๆ มานั่งเล่นพูดคุยกันจะได้แบ่งโซนกันชัดเจน มุมนี้ตกแต่งในโทนสีเทาควันบุหรี่เข้มๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ที่ดูเรียบหรูและมีเสน่ห์โดดเด่นมากเมื่อต้องแสงไฟ Warm Light ผนังอีกด้านจัดวางคาบิเนทเตี้ยสำหรับวางทีวีขนาดใหญ่ หรือจะใช้เป็นแบบแขวนก็ได้เช่นกันครับ เพื่อทำให้ห้องดูโมเดิร์นยิ่งขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่า ดีไซน์เนอร์ได้ตกแต่งภายในห้องนี้ให้มีความโดดเด่นจริงๆ ผมชอบมาก
ด้านในยังคุมโทนสีได้ดี มุมห้องมีอาร์มแชร์สีเทาอ่อน พร้อมโต๊ะกลางสำหรับวางเครื่องดื่ม ให้เราได้นอนอ่านหนังสือหรือนั่งฟังเพลงพร้อมกับจิบเบาๆ ก่อนเข้านอนดีไซน์ให้สอดรับกันดีกับผ้าม่านทึบสีน้ำตาลอ่อน
บริเวณหัวเตียงปิดผิวผนังด้วยลายไม้ จัดวางเตียงนอนส่วนพักผ่อนไว้ชิดผนังฝั่งด้านหลังบ้าน เปิดรับแสงธรรมชาติ ส่วนหัวเตียงบุนวมสีน้ำตาลอ่อน ทั้ง 2 ข้างมีโต๊ะเตี้ยและโคมไฟประดับ ได้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ทำให้ห้องนี้เต็มไปด้วยความเรียบหรูดู Classic Timeless มากยิ่งขึ้น พร้อมกับวิวและช่องแสงขนาดใหญ่จากระเบียงด้านข้างที่สามารถออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าได้
เดินเข้าไปจะเป็นห้องแต่งตัวขนาดใหญ่แบบ Walk-in closet ลึกเข้าไปเป็นรูปตัวยู (U-Shape) ตรงกลางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่เปิดรับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างมาให้แล้วด้วยครับ เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่มีรสนิยมในเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว แต่งหน้า
ภายในออกแบบให้มีตู้และชั้นวางที่สามารถจัดเก็บเสื้อผ้า กระเป๋า แอคเซสเซอรี่ได้จุใจ บ้านตัวอย่างออกแบบตู้เสื้อผ้าได้เรียบหรูดีครับ เนื่องจากเป็นห้องปิดอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องติดตั้งบานปิดตู้แต่อย่างใด
ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องน้ำในตัว แบบ Full Function ครับ ถือว่ามีขนาดค่อนข้างกว้างเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของบ้านหลังนี้ที่อยากจะเน้นคือการให้ Space ขนาดใหญ่กับห้องน้ำภายในห้องนอนเพราะถือเป็นพื้นที่ส่วนตัว พร้อมกับแยกส่วนเปียก-แห้งให้เรียบร้อย
ห้องน้ำจะอยู่ด้านในสุด ประดับด้วยหินอ่อนแผ่นใหญ่ลายเดียวกันทั้งพื้นและผนัง ทั้งยังถือว่าครบครันด้วยสุขภัณฑ์ จาก Kohler อ่างล้างหน้าแบบ His & Her และห้องอาบน้ำที่ติดตั้ง Shower Box เป็น กระจกนิรภัยขนาดใหญ่เอาไว้ พร้อมกับอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ริมหน้าต่างกระจกเพื่อเปิดรับแสง ได้ฟีลแบบบ้านสไตล์ยุโรปที่ไม่ปิดทึบจนเกินไป และสามารถเลื่อนสไลด์เปิดออกได้เพื่อไล่ความชื้นและระบายอากาศครับ
มาดูในส่วนของห้องนอนรองห้องแรกกันบ้างครับ อยู่โซนด้านหน้าบ้านมีขนาดใหญ่เช่นกันเพราะขนานไปกับความกว้างของด้านหน้าบ้าน
โซนพักผ่อนมีเตียงนอนอยู่ตรงกลางเป็นเตียงสีน้ำตาลขลิปเข้มด้วยหมอนอิงสีดำ หัวเตียงจัดวางโคมไฟและประดับผนังลายไม้ให้ดูสบายตา มาพร้อมกับงานอาร์ตแบบ Abstract ส่วนด้านข้างจัดวางโต๊ะแบบลอยตัวเอาไว้แต่ถ้าใครอยากวางทีวี ช่วงปลายเตียงจะมีช่องว่างระหว่างประตูระเบียงอยู่ให้เราแขวนทีวีเอาไว้ได้ ส่วนมุมห้องด้านในอยากแนะนำให้หาอาร์มแชร์มานั่งเล่นสักตัวครับ
ผังห้องบริเวณทางเข้าเปิดประตูเข้าไปจะเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet เป็นแนวลึกเข้าไป สองฝั่งเป็นตู้เสื้อผ้าสูงจากฝ้าเพดานจรดพื้น ส่วนช่วงปลายติดกับระเบียงด้านนอกจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่เปิดรับช่องแสงจากธรรมชาติส่วนห้องน้ำจะอยู่ถัดเข้าไปด้านในของโซนพักผ่อน ภายในห้องตกแต่งสไตล์ Modern Oriental ให้ความรู้สึกเรียบง่ายด้วยการเลือกใช้สีน้ำตาลอ่อนไล่เฉดไปหาสีเข้ม
ผมค่อนข้างชอบห้องนี้เพราะผนังด้านหน้าบ้านเป็นกระจกที่เปิดช่องแสงธรรมชาติด้านหน้าบ้านส่องผ่านเข้ามาสู่เตียงนอนได้ทันที ห้องนี้จึงดูโปร่งโล่งอยู่สบายไม่รู้สึกอึดอัด ทั้งยังเปิดออกเพื่อระบายอากาศ เราสามารถเดินไปที่ระเบียงด้านนอกได้ หรือจะหาเก้าอี้มาวางสักตัวทำเป็นมุมพักผ่อนแบบ Semi-Outdoor ก็ได้เช่นกัน
ห้องนอนรองอีกห้องจะอยู่ติดกัน โดยแปลนห้องออกแบบให้บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าเป็นมุมแต่งตัวและห้องน้ำ ซึ่งทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวเวลาเปิดประตูเข้าออก ดังนั้น คนที่มองจากภายนอกเข้ามาจะไม่สามารถมองเห็นบริเวณเตียงนอนของเราได้ นับว่าเป็นการออกแบบที่คำนึงถึงรายละเอียดในการใช้งานจริงได้ดีมากเลยครับ
ถัดเข้าไปด้านในเป็นโซนพักผ่อน เป็นห้องที่ตกแต่งในสไตล์เรียบเท่แบบวัยรุ่นชายดูคลูๆ จัดแบ่งพื้นที่การใช้งานภายในห้องได้อย่างเป็นสัดส่วน ห้องจัดวางเตียงนอนเอาไว้ติดผนังทำให้เปิดรับแสงจากธรรมชาติยามเข้า ส่วนด้านในเป็นมุมพักผ่อนแบบส่วนตัวสำหรับนั่งทำงาน อ่านหนังสือหรือนั่งวาดรูปในวันสบายๆ
บ้านทุกหลังของโครงการ CRYSTAL SOLANA จะออกแบบห้องนอนให้เป็นแบบ En Suite Bedroom คือมีห้องน้ำส่วนตัวให้ทุกห้อง
โครงการ CRYSTAL SOLANA เป็นคฤหาสน์หรูระดับ Ultra Luxury Residences นำเสนอสถาปัตยกรรมร่วมสมัยไร้กาลเวลาในแบบ Contemporary Timeless เข้ากับบรรยากาศของการพักอาศัยที่ร่มรื่นด้วยพื้นที่สีเขียวและต้นไม้น้อยใหญ่ตั้งแต่บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการมาจนถึงสวนส่วนกลางและ Clubhouse ขนาดใหญ่รวมเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ภายในโครงการมีทัศนียภาพที่สวยงามเนื่องจากเอาสายไฟลงดินทั้งหมด มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม ตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่ในทำเลที่ได้ชื่อว่า มีโครงการบ้านหรูรวมกันมากที่สุดคือถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา
ทว่าสิ่งที่ทำให้ CRYSTAL SOLANA มีความแตกต่างจากที่อื่นคือ เป็นโครงการบ้านหรูเพียงแห่งเดียวที่อยู่ใกล้กับจุดขึ้น-ลงทางด่วนเพียง 1 นาที อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าถึง 2 สาย คือ สายสีชมพูและสายสีเทา วัชรพล-ทองหล่อ ขณะเดียวกัน สิ่งอำนวยความสะดวกในทำเลนี้ก็ถือว่าครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล ทำให้เป็นทำเลที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยและมีอัตราการเจริญเติบโตสูงมากโดยเฉพาะกลุ่ม High Net Worth เนื่องจากจุดเด่นเรื่องการเดินทางที่เชื่อมต่อถนนใหญ่ได้หลายสายนั่นเองครับ
CRYSTAL SOLANA เป็นโครงการหมู่บ้านสไตล์โมเดิร์นคลาสสิคที่ถือว่าเป็นที่สุดระดับสากลเพราะได้รับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจถึง 2 รางวัลระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ในงานประกวด Gold Nugget Awards ได้แก่ รางวัลที่สุดของคลับเฮ้าส์ระดับนานาชาติ (Best International Residential project – Amenity) และรางวัลที่สุดของหมู่บ้านระดับนานาชาติ (Best International Residential project) จึงเป็นเครื่องการันตีความเป็นที่สุดของบ้านหรูระดับ Ultra Luxury Residences ในประเทศไทย
กานต์เดินขึ้นไปชั้นบนแล้วยืนมองออกไป เห็นบรรยากาศภาพรวมของโครงการได้ชัดเจน มีความโปร่งโล่งด้วยโถงเสาสูงบริเวณสระว่ายน้ำ ส่วนด้านนอกเป็นสีเขียวของต้นไม้ตัดสลับกับสีขาวของอาคารให้ความรู้สึกสงบ สบายตา สบายใจ ดูยิ่งใหญ่อลังการดีครับ สมกับความเป็น Ultra Luxury Residences ระดับ 6 ดาวจริงๆ
CRYSTAL SOLANA นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางได้สวยงาม ยิ่งใหญ่อลังการ เป็นเอกสิทธิ์สำหรับลูกบ้าน 47 ครอบครัวเท่านั้นครับ Clubhouse มีด้วยกัน 2 ชั้นพร้อม Facilities ที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงและตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำขนาด 25 เมตร, ห้องไลบรารี่, ห้องยิม, ห้องสปา, ห้องโยคะ, ห้องซาลอน, สนามเทนนิส, กอล์ฟไดร์ฟแพคทิส, สนามเด็กเล่น, และเส้นทางลู่วิ่ง 2.5 กิโลเมตรกับทุกเส้นทางสีเขียว
บรรยากาศโดยรอบบ้านร่มรื่นมากครับ จัดเป็นสวนขนาดใหญ่ มีทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้ดอก ช่วยให้บริเวณนี้ดู ร่มรื่น สดชื่น สบายตา สบายใจ เหมาะแก่การเปลี่ยนบรรยากาศจากการพักผ่อนภายในบ้านมานั่งเล่นที่ส่วนกลางดูบ้างครับ
ออกแบบให้มีเก้าอี้นั่งสำหรับพักผ่อนในสวน พื้นที่สีเขียวภายในโครงการ จัดวางที่นั่งกระจายไปในหลายจุดและออกแบบให้มีลู่วิ่งรอบสวน เพื่อการออกกำลังกายและสุขภาพที่แข็งแรง
สระว่ายน้ำของโครงการเป็นแบบ Semi-Outdoor หันหน้าออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงทิศเหนือ ดังนั้นช่วงหลังเที่ยงไปจนถึงเย็นสามารถว่ายน้ำได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวร้อน ส่วนตอนเช้าๆ ก็ได้จะได้รับวิตามินดีจากแสงแดดอ่อนๆ ถือว่าเป็นสระว่ายน้ำที่ลูกบ้านสามารถเข้ามาใช้งานได้ตลอดทั้งวัน มองออกไปจากสระว่ายน้ำจะเป็นสวนสีเขียวดูสดชื่นสบายตาพลอยช่วยให้หายเหนื่อยระหว่างว่ายน้ำออกกำลังกายครับ
ส่วนผนังบริเวณโดยรอบสระว่ายน้ำประดับด้วยหินอ่อน White Panda มีสีขาวลวดลายดำ นำมาต่อลายหินได้อย่างลงตัวดูเป็นงานออกแบบที่ประณีตมากครับ ทั้งนี้สระว่ายน้ำยังออกแบบให้มีโซนสระสำหรับเด็กและติดตั้งสไลเดอร์ให้ด้วย พร้อมอำนวยความสะดวกด้วยห้องน้ำแยกชายหญิงและมีตู้ล็อกเกอร์บริการด้วย
ออกแบบให้เป็นสระว่ายน้ำที่มีขนาดใหญ่ 7.6 x 23 ม. ลึก 1.2 ม. เป็นสระเกลือที่ใช้ระบบ Overflow (น้ำล้น) ให้ฟีลอยู่ริมน้ำตกดีนะครับ เพราะหากมานั่งพักผ่อนที่นี่เราจะได้ยินเสียงน้ำไหลทั้งวัน บริเวณโดยรอบสระว่าน้ำจัดวางเก้าอี้นั่งพักผ่อนกระจายกันไป ให้ผู้ปกครองได้มานั่งรอเด็กๆ กำลังเรียนว่ายน้ำหรือสนุกกับเพื่อนๆ ในสระ ก็สามารถมานั่งบริเวณพื้นที่รับรองนี้ได้ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่งแบบ Open Air แต่หากต้องการอยู่ในห้องปรับอากาศก็สามารถไปนั่งรอที่ Residents’ Lounge ได้เช่นกันครับ
Residents’ Lounge สำหรับให้ลูกบ้านได้มาพักผ่อนหย่อนใจ มี Library ให้เข้าไปนั่งอ่านหนังสือ กานต์ชอบบรรยากาศของห้องนี้ที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงไว้ซึ่งความสะดวกสบายและหรูหรา ภายในห้องกว้างขวาง จัดวางที่นั่งเอาไว้หลายจุดเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ตกแต่งราวกับเป็นห้องสมุดสุดคลาสสิคในยุโรป ให้ความรู้สึกโล่งโปร่งสบายด้วยหน้าต่างทรงสูงทั้ง 4 ด้านเพื่อเปิดช่องแสงจากธรรมชาติเพิ่มเข้ามา ภายในจัดวางเก้าอี้ดีไซน์หวายสีเข้ม พร้อมโต๊ะกระจก ไว้เต็มพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีเคาน์เตอร์บาร์ขนาด 5 ที่นั่ง พร้อมพื้นที่สำหรับจัดเตรียมอาหารและมีอ่างล้างจานเตรียมไว้ให้บริการ
โดยเรายังสามารถเชิญเชฟชื่อดังมาให้บริการทำอาหารแบบส่วนตัว หรือจะเป็น Chef’s Table มาปรุงอาหารให้เราได้ทานกันใน Residents’ Lounge ได้อีกด้วย ลูกบ้านที่อยากจะจัดงานเลี้ยงปาร์ตี้ส่วนตัว สามารถติดต่อขอใช้พื้นที่กับทางเจ้าหน้าที่โครงการได้เลยครับ
Clubhouse ยังมีห้องประชุมไว้รองรับลูกบ้านด้วยครับ สามารถมานั่งพักผ่อน ประชุมคุยงาน อ่านหนังสือหรือเด็กๆ ก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศมาใช้บริการนั่งทำงานกลุ่มกับเพื่อนๆ ที่ Business Lounge นี้ได้เช่นกันครับ เหมาะสำหรับทำกิจกรรมร่วมกันได้ บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมาก มาพร้อมกับจอทีวีที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ทันทีเพื่อรองรับการนำเสนองานพร้อมสรรพ
พาไปชมชั้นบนของ Clubhouse กันดูบ้างครับ ความพิเศษคือ มีห้องซาลอนไว้คอยให้บริการ โดยเราสามารถเรียกช่างแต่งหน้าทำผมมาที่นี่ได้เลยเช่นกัน โครงการจัดเตรียมเตียงสระผมเอาไว้ให้บริการด้วย สะดวกดีเหมือนกันไม่ต้องนัดช่างไปที่บ้าน มาที่ Clubhouse ดีกว่าครับ
Clubhouse ของที่นี่ยังมีห้องสปาไว้คอยบริการด้วยครับ จะเป็นแบบ 2 เตียงนวด เราสามารถนัดหมายเทอราพิสจากภายนอกมาให้บริการได้โดยไม่ต้องออกไปข้างนอก
ติดกันเป็นห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา มาพร้อมกับหน้าต่างกระจกใส มองออกไปเห็นบรรยากาศภายนอก ได้ความรู้สึกโปร่งโล่งๆ ดีมาก
ภายในมีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน ทั้งแบบ Cardio และ Weight Training Machine เลือกใช้แบรนด์อุปกรณ์ออกกำลังกายระดับโลกอย่าง Life Fitness แบรนด์เครื่องออกกำลังกายระดับโลก เพื่อส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับกับการออกกำลังกายในแบบ Luxury ให้กับลูกบ้าน
แต่ที่ผมชอบคือการจัดวางเครื่องออกกำลังกายให้สามารถหันหน้าออกไปทางกระจกใส ฝั่งสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลาง มองดูแล้วสดชื่นดีครับ เห็นต้นไม้สีเขียวๆ ระหว่างวิ่งออกกำลังกายก็ค่อยหายเหนื่อยหน่อย
ติดกันมี Yoga Studio เป็นห้องโล่งๆ ภายในติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่และมีช่องแสงขนาดใหญ่ส่องเข้ามาได้เช่นกัน ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะออกกำลังกาย โยคะ เต้นบัลเลต์ ซ้อมร้องเพลงหรือป๊อบแดนซ์ก็ได้หมดเลยครับ สามารถนัดครูจากภายนอกมาสอนแบบส่วนตัวที่นี่ได้เลย
พาไปชมลานดาดฟ้าของ Clubhouse มีสนามเทนนิสไว้ให้เล่นออกกำลังกายด้วยครับ
มี Golf Driving Cage สำหรับซ้อมวงสวิงเบาๆ ผมว่าเป็น Facilities ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านที่นี่มาก
Clubhouse ของที่นี่น่าจะเป็นที่สุดแล้วสำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการคฤหาสน์หรูที่อยู่ใจกลางเมืองขนาดนี้
“𝐓𝐡𝐞 𝐡𝐨𝐦𝐞 𝐬𝐡𝐨𝐮𝐥𝐝 𝐛𝐞 𝐭𝐡𝐞 𝐭𝐫𝐞𝐚𝐬𝐮𝐫𝐞 𝐜𝐡𝐞𝐬𝐭 𝐨𝐟 𝐥𝐢𝐯𝐢𝐧𝐠.”
สถาปนิกและนักวางผังเมืองชาวฝรั่งเศส Le Corbusier เคยบอกเอาไว้ ซึ่งมีนัยยะของบ้านในความหมายถึงความรัก ความสุข ความทรงจำ และความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นที่นี่
บ้านควรเป็นสถานที่ที่เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่เป็นการตอกย้ำแนวคิดที่ว่าการออกแบบและบรรยากาศของบ้าน ย่อมส่งผลต่อวิถีชีวิตและประสบการณ์ชีวิตของเราในฐานะผู้อยู่อาศัย
กานต์มองว่า เราอาจจะต้องเข้ามาสัมผัสด้วยตัวเองถึงบรรยากาศของ Clubhouse และบ้านทุกหลังอย่างตั้งใจ เพราะเราไม่ได้เพียงแค่ซื้อบ้านเท่านั้น แต่ยังเป็นการก้าวเข้าสู่สังคมแห่งการอยู่อาศัยที่ทรงคุณค่า ซึ่งมาพร้อมกับความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัวและการให้บริการระดับที่ดีที่สุด
แล้วเราจะรู้สึกได้ถึงแก่นแท้ของความหรูหรา ความสง่างาม ความประณีตและเงียบสงบ ซึ่งเป็นอีกขั้นของศิลปะแห่งการใช้ชีวิตที่เหนือระดับที่โครงการ CRYSTAL SOLANA บรรจงส่งมอบให้อย่างตั้งใจ
สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.crystalsolana.com
นัดหมายแบบส่วนตัวเพื่อเข้าชมโครงการได้ที่ โทร 021015775
Line: @crystalsolana