Beaux-Arts เป็นช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ถึงต้นศตวรรษที่ 19 ยุคนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่มีการรวบรวมช่างฝีมือชั้นเลิศหรือเรียกว่า “Connoisseur” ของศิลปะและสถาปัตยกรรมเพื่อสร้างผลงานที่วิจิตรหรูหรา ตลอดจนการนำใช้วัสดุชั้นเลิศมาใช้ในการออกแบบและตกแต่ง เช่น หินอ่อน แก้ว และโลหะ ผสานเข้ากับสถาปัตยกรรมอย่างพิถีพิถัน ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ต่างมีความชำนาญพิเศษในการสร้างสรรค์รายละเอียดที่ซับซ้อนและความงามอันบรรจงสร้าง
.
ตัวอย่างงานสถาปัตยกรรมยุค Beaux-Arts คือ อาคารสถานที่สำคัญ เช่น Palais Garnier และ The Grand Palais ในปารีส ล้วนสะท้อนถึงการทำงานร่วมกันของเหล่า Connoisseur ที่เน้นคุณภาพและความหรูหราสวยงามในทุกมิติ
.
การหยิบยกเอากลิ่นอายความวิจิตรแห่งยุคสมัยมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบโครงการ CONNOISSEUR (คอนนาเซอร์) ภายใต้แนวคิด “SC Asset Urban Luxury Collection รังสรรค์อย่างเชี่ยวชาญ ด้วยจิตวิญญาณวิจิตรบรรจง” นับเป็นการสร้างสรรค์คุณค่าของที่พักอาศัยที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของการออกแบบ มาพร้อมฟังก์ชันที่บ่งบอกไลฟ์สไตล์ความเป็นที่สุด
.
โครงการตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 32 โลเคชั่นยอดเยี่ยมของการพัฒนาบ้านจัดสรรระดับ Ultra Luxury ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังใจกลางเมืองอย่างเอกมัย – ทองหล่อ ได้อย่างรวดเร็ว หรือจะเดินทางไปพระราม 9 ย่านสุขุมวิทตอนกลาง อโศก พระราม 4 ก็สะดวกมาก อีกทั้งในปัจจุบันยังมีทางเลือกในการคมนาคม ทั้งรถไฟฟ้า ARL และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองรองรับด้วย
.
CONNOISSEUR เป็นแบรนด์ที่กานต์ประทับใจในการตั้งชื่อให้สอดรับกับตัวตนของ SC ASSET ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการบ้านหรู ต้องยอมรับเลยว่า SC ASSET รับรู้รสนิยมและตอบโจทย์ความต้องการของลูกบ้านได้ดีมาก เฉกเช่นเดียวกับผู้ที่จะมาเป็นเจ้าของบ้านในโครงการ CONNOISSEUR เรามองว่าต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในสายงานและมีไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้เป็นอย่างดี ทำให้ CONNOISSEUR กลายเป็นพื้นที่ที่บ่งบอกตัวตนของผู้พักอาศัยได้ชัดเจน
.
Hubert de Givenchy ดีไซเนอร์ชื่อดังเคยบอกว่า “ความหรูหราอยู่ในรายละเอียด” แต่สำหรับโครงการ CONNOISSEUR กานต์มองว่ามีความ Beyond ไปกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นงานดีไซน์ที่หรูหราเปี่ยมด้วยคุณค่าทางศิลปะจากฝรั่งเศส การออกแบบที่เชื่อมต่อฟังก์ชันและโอบกอดทุกความสัมพันธ์ของสมาชิกในบ้าน เน้นความโปร่งจากแสงธรรมชาติ ที่สำคัญคือการให้น้ำหนักเรื่องการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศของที่พักอาศัย เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวน้อยใหญ่จาก RENDEZVOUS PARK เหล่านี้สะท้อนถึงการให้ความสำคัญในรายละเอียดจนกลายเป็นตัวกำหนดแนวทางการใช้ชีวิตของเราอย่างแท้จริง
.
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือลงทะเบียนนัดเยี่ยมชมโครงการคฤหาสน์หรูบนทำเลพัฒนาการ กับความประณีตในทุกรายละเอียด https://m.scasset.com/Q85n หรือโทร. 1749
โครงการ CONNOISSEUR (คอนนาเซอร์) จาก SC ASSET เป็นโปรเจ็กต์ One-of-a-kind แห่งปี นำเสนอบ้านหรูระดับ Ultra-Luxury ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตอย่างเหนือระดับของผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและสุนทรียภาพในการอยู่อาศัยCONNOISSEUR คือที่สุดแห่งนิยามของบ้านหรูแห่งปีที่ SC ASSET ตั้งใจรังสรรค์ขึ้นเพื่อตอบโจทย์ชีวิตเหนือระดับบนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ที่ให้ความรู้สึกเงียบสงบ ราวกับหลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองกรุง มอบความเป็นส่วนตัวด้วยความที่มีเพียง 20 ยูนิตเท่านั้น บ้านทุกหลังได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน มาพร้อมกับฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัวเพื่อการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายที่สุดแต่ความหรูหราไม่ได้หยุดอยู่แค่ภายในบ้านเท่านั้น CONNOISSEUR ยังมอบสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ Clubhouse, Main Park, Swimming Pool, Gym by Technogym, Dining Lounge, Kid’s Club, Working Lounge, Outdoor Playground สนาม Mini Golf และ RENDEZVOUS PARK สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ที่เป็นหัวใจของจุดนัดพบสำหรับผู้คน ให้เราได้ผ่อนคลายและเติมเต็มความสุขได้อย่างเต็มที่
ทำเลที่ตั้งก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ โครงการนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่โดดเด่นบนถนนพัฒนาการ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยที่เงียบสงบ ใกล้กับย่านธุรกิจและสถานที่สำคัญใจกลางกรุงเทพฯ เช่น ทองหล่อ เอกมัย พระราม 4 อโศก พระราม 9 ฯลฯ เราสามารถเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างง่ายดาย ใกล้ทางด่วน โรงเรียนนานาชาติ และโรงพยาบาลชั้นนำ ครบครันทุกความต้องการ หากใครกำลังมองหาบ้านที่สะท้อนรสนิยม บ่งบอกความสำเร็จและมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือกว่า กานต์มองว่า CONNOISSEUR คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ
โครงการนี้อยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนฉลองรัช สามารถเชื่อมต่อเอกมัย-ทองหล่อย่านศูนย์กลางธุรกิจและไลฟ์สไตล์ชั้นนำได้ได้ภายในเวลาไม่กี่นาที หรือจะไปทางถนนบางนา วงแหวนกาญจนาภิเษก สุวรรณภูมิ ชลบุรีก็สะดวกเช่นกัน ถือเป็น Prime Location มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัยถือเป็นจุดเด่นของโลเคชั่นนี้ที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีสถานศึกษาชั้นนำ อาทิ โรงเรียนนานาชาติ St. Andrews, โรงเรียนนานาชาติ BANGKOK PREP, โรงเรียนนานาชาติ Brighton ฯลฯ สามารถส่งมอบคุณภาพการศึกษาที่ดีให้กับคนรุ่นต่อไปได้
เพื่อความอุ่นใจ โครงการยังตั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาล อาทิ โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ ฯลฯ
ห้างสรรพสินค้า อาทิ The M District, The Common, J Avenue Thonglor ฯลฯ รวมถึงร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านสะดวกซื้อ และอื่นๆ อีกมากมาย ในวันหยุดสบายๆ เราสามารถขับรถไปพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติขนาดใหญ่ใกล้ๆ บ้าน ได้ที่สวนหลวง ร.9 บึงหนองบอน หรือที่สวนเบญกิตติ ครับ 
โครงการตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 32 เข้ามาประมาณ 400 เมตร ข้อดีที่เราสัมผัสได้คือความเงียบสงบใจกลางกรุง เมื่ออยู่ภายในบ้านแทบจะไม่ได้ยินเสียงรถราวิ่งไปมา ทั้งยังมีต้นไม้น้อยใหญ่ที่ปลูกไว้ในโครงการคอยเป็นบัฟเฟอร์กันเสียงและมลพิษอื่นๆ ให้อีกด้วยราวกับเป็นโอเอซิสใจกลางกรุงฯ
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยเป็นแบบ Triple Security ควบคุมการเข้าออกด้วยระบบ Smart Gate เชื่อมต่อกับ Application “RueJai” ติดตั้งกล้อง CCTV รอบโครงการ อีกทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยอีกระดับด้วยรั้วกันขโมยรอบโครงการสูง 3 เมตรและทีมรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อผ่าน Main Gate เข้ามา ด้านหน้าเราจะพบกับ Clubhouse เป็นอาคาร 2 ชั้นขนาดใหญ่ดีไซน์แบบเล่่นระดับได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากยุค Beaux-Arts ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่มีการรวบรวมช่างฝีมือชั้นเลิศ หรือที่เรียกได้ว่าเป็น “connoisseur” ของศิลปะและสถาปัตยกรรมเพื่อสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ก่อให้เกิดงานออกแบบที่มีความซับซ้อน สวยงาม และประณีตสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดเล็กๆ ในการแกะสลักหินหรือการออกแบบโครงสร้างที่ใหญ่โต ทุกองค์ประกอบล้วนผ่านการดูแลและปรับแต่งโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สถาปนิกจึงนำมาใช้ในการออกแบบ Clubhouse 
ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ด้านหน้าจะเริ่มจาก Reception & Lounge สำหรับเป็นพื้นที่รับรองแขกเพื่อพบปะพูดคุยธุระ หากเราไม่ต้องการให้แขกเข้าไปภายในบ้านก็สามารถนัดหมายมาที่นี่ได้เลยครับ ออกแบบให้มีชุดที่นั่งโซฟาจุดละ 2-4 ที่นั่ง กระจายกันไป ปัจจุบันใช้เป็นพื้นที่รับรองแขกของสำนักงานขายครับ ถัดเข้าไปด้านในออกแบบให้เป็น Meeting Room เป็นห้องส่วนตัวสำหรับจัดเจรจาธุรกิจ หรือจัดประชุมแขกคนสำคัญได้ ตกแต่งอย่างหรูหราสวยงาม จัดวางโต๊ะประชุมขนาด 6-8 ที่นั่ง ผนังติดตั้งจอทีวีขนาดใหญ่และอุปกรณ์เชื่อมต่อเพื่อรองรับการใช้งานให้การทำธุรกิจของเรามีความต่อเนื่อง 
Meeting Room 
ติดกันเป็น Dining Lounge แบบ Private สามารถเชิญ Celebrity Chef ที่มีชื่อเสียงมาทำอาหารให้เราได้ทานถึงที่โครงการพร้อมกับสมาชิกในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนได้เลยครับ ทำให้ไม่จำเป็นต้องออกไปทานอาหารนอกบ้าน แต่ก็ยังได้บรรยากาศของความหรูหราและให้ความเป็นส่วนตัวได้เช่นกัน สามารถปิดพื้นที่ใช้บริการได้เลยครับ โครงการออกแบบให้มีเคาน์เตอร์ครัว อุปกรณ์ในการทำอาหารและอำนวยความสะดวกสำหรับเชฟเอาไว้ให้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดูดควัน เครื่องชงกาแฟ ไมโครเวฟ เตาอบและอ่างล้างจาน มีเก้าอี้สตูลทรงสูงจัดวางไว้ที่ Pantry สามารถจิบเครืื่องดื่มเบาๆ ไปพลางคุยกับเชฟขณะ Cooking ไปด้วยเพลินๆ ดีเหมือนกันครับ ภายใน Clubhouse ยังมี Kid’s Club เป็นพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กๆ สำหรับพักผ่อนทำกิจกรรม ภายในตกแต่งด้วยสีสันสดใสสมวัย โดยทางโครงการได้จัดเตรียมของเล่นเสริมพัฒนาการ นิทานสำหรับเด็ก จัดวางโต๊ะและสตูลเตี้ยและบีนแบ็คสำหรับนั่งดูไอแพด ทำการบ้าน อ่านหนังสือหรือต่อเลโก้ร่วมกับเพื่อนๆ วางกระจายกันไปในหลายมุม เด็กๆ น่าจะชอบห้องนี้กันมาก ส่วนชั้นบนเป็น Gym by Technogym ฟิตเนสขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายสุดไฮเทคที่จะมอบประสบการณ์เหนือระดับกับการออกกำลังกายในแบบ Luxury ให้กับเราภายในจัดวางไว้ให้ครบทั้งลู่วิ่งคาร์ดิโอไว้ริมหน้าต่างให้เราออกกำลังกายไปพร้อมกับการชมวิวสีเขียวของต้นไม้ช่วยให้พอคลายเหนื่อยได้ พร้อมกับจัดให้มีโซนฟรีเวทให้เราออกกำลังเพื่อสุขภาพได้ตามใจ ชั้นล่างมีสระว่ายน้ำระบบเกลือแบบ Semi-Outdoor ว่ายน้ำออกกำลังกายได้สบายเลยครับ สระว่ายน้ำจัดพื้นที่สำหรับพักผ่อนเอาไว้โดยรอบ วางเก้าอี้นั่งพักผ่อนและ Sunbed สำหรับนอนเล่นในช่วงเย็นๆ ตอนที่ตะวันใกล้ลับขอบฟ้า สามารถชมวิวสวนสีเขียวที่อยู่ถัดออกไป สิ่งที่กานต์มองว่าทางโครงการลงดีเทลในการออกแบบคือการออกแบบบรรยากาศของสวนสีเขียวตัดกับสีฟ้าของสระว่ายน้ำที่ประดับสัญลักษณ์ CNS บริเวณพื้นสระเอาไว้ได้อย่างงดงาม 
โครงการนี้ให้น้ำหนักกับการออกแบบประสบการณ์ใหม่และความสนุกสนานนอกห้องเรียนของเด็กๆ มากเป็นพิเศษซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี บรรยากาศจึงรายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวที่ RENDEZVOUS PARK สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ เปิดมุมมองสีเขียวทั่วโครงการ พื้นที่กลางแจ้งเป็น Playground เพื่อกระตุ้นให้ลูกบ้านได้ออกมาใช้ชีวิตสัมผัสกับธรรมชาตินอกบ้านบ้าง เน้นให้ทุกคนในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ชวนกันออกไปรับวิตามินดีในวันที่อากาศเป็นใจหรือจะแท๊กทีมกันกับเพื่อนบ้าน ไปเล่นที่สวนส่วนกลางก็มีสนามเด็กเล่นกลางแจ้งขนาดใหญ่พร้อมสไลเดอร์ พื้นติดตั้งเป็นยางกันกระแทกเพื่อป้องกันอันตราย มีลานวิ่งสำหรับให้เด็กๆ ได้มาเดินเล่นท่ามกลางบรรยากาศของสวนและต้นไม้สีเขียวน้อยใหญ่อีกด้วยครับ นอกจากนี้ ยังออกแบบให้มี Golf Field จำนวน 2 หลุม สำหรับให้คุณพ่อได้ฝึกซ้อมวงสวิงเบาๆ ก่อนจะไปออกรอบ กับก๊วนในช่วงวันหยุด หรือจะใช้เป็นสนามเล็กๆ สอนเด็กๆ พัตกอล์ฟในช่วงวันว่างก็ได้เช่นกัน Clubhouse ออกแบบให้มีสวนและที่นั่งกลางแจ้งจัดวางกระจายกันออกไป เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำและพื้นที่ Playground จัดเอาไว้ด้านในเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว สำหรับให้เหล่าคุณแม่่จับกลุ่มพูดคุยกันระหว่างที่รอเด็กๆ กำลังเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน หรือใช้เป็นมุมนั่งอ่านหนังสือสำหรับลูกบ้านในวันที่อากาสเป็นใจสบายๆ ครับ ต้องยอมรับเลยว่า Clubhouse ออกแบบและตกแต่งได้อย่างงดงามไร้ที่ติ ผสานกลิ่นอายของยุค Beaux-Arts อันโดดเด่นในงานสถาปัตยกรรมยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา นำเสนอความสมมาตรที่ดูโอ่อ่า ประดับประดาด้วยรูปปั้น คิ้วบัว เหล็กประดับสีดำ รูปแกะสลักและประตูโค้งทรง Arch ผนวกเข้ากับการเลือกใช้สีดำ ตามแบบฉบับของที่อยู่อาศัยในมหานครปารีสอันเป็นเอกลักษณ์ 
ตอบรับกับความเป็นที่สุดของแบรนด์ CONNOISSEUR เพราะเป็นยุคที่รับอิทธิพลมาจากชนชั้นสูงที่เลือกและคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตอบโจทย์รสนิยมสูงสุดของตัวเองเฉกเช่นเดียวกับลูกบ้านของ SC ASSET ทุกคน บ้านทุกหลังของโครงการ CONNOISSEUR ออกแบบโดยผสมผสานความหรูหราสง่างามของ Signature Elements ของ Beaux Arts อย่างเช่น Facade หินอ่อน Trevertine โทนสีสว่าง ความสมมาตรของซุ้มประตู หน้าต่าง และรูปทรงเสาโรมันที่ถูกนำมาตีความหมายใหม่ ลดทอนรายละเอียดของงานออกแบบบางอย่างออกไปและเพิ่มความโมเดิร์นทันสมัยเข้ามา เพื่อให้เหมาะสมกับยุคนี้
สำหรับแบบบ้านจะมี 2 แบบ คือ
แบบบ้าน SYLVAIN บ้านเดี่ยว 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 756 ตร.ม. ฟังก์ชัน 6 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 2 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ / ลิฟต์ KONE หลังนี้จุดเด่นอยู่ที่พื้นที่ระเบียงยาวต่อเนื่องเล่นระดับบริเวณชั้น 2-3
แบบบ้าน SEVRES บ้านเดี่ยว 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 952 ตร.ม. ฟังก์ชัน 6 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 2 ห้องแม่บ้าน / 5 ที่จอดรถ / ลิฟต์ ทุกหลังออกแบบให้มีสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้าน
ความพิเศษของแบบบ้านนี้ยังมี Duplex Super Car Garage & Man Cave ให้เราสามารถติดตั้งลิฟท์ในโรงจอดรถเพิ่มได้ โถงภายในเป็นแบบ Double Volume, Foyer โถงหน้าบ้าน และมี Living บนชั้น 2 ทะลุถึงชั้น 3 ที่มองเห็นวิวสระกับชั้นล่าง
SEVRES เป็นแบบบ้านที่กานต์พามาชมกันในพาร์ทนี้ บ้านทุกหลังมาพร้อม Solar Roof, ระบบ Air Quality Solutions จาก SCG ช่วยฟอกและกรองอากาศภายในบ้าน โดยควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน รองรับ EV Charger สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ภายในบ้านติดตั้ง Smoke & Heat Detector สัญญาณตรวจจับควันไฟพร้อมแจ้งเตือนภายในบ้าน, ป้อม รปภ. และผ่านแอปพลิเคชันตลอดจน PlotphAI Centre ระบบรักษาความปลอดภัยด้วย AI และ Smart IoT ดูแลรักษาความปลอดภัยภายในโครงการแบบ Real time 24 ชั่วโมง นวัตกรรมใหม่จาก SC Asset เมื่อเข้ามาภายในตัวบ้านเราจะพบกับพบกับ Common Area ที่มีขนาดใหญ่ ชั้นล่างแบ่งแยกออกเป็น 3 โซน เริ่มจากตรงกลางบ้านจัดเป็น Great Room ขนาดใหญ่สำหรับรับรองแขก ตกแต่งได้หรูหรามีระดับ จัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่กว่า 10 ที่นั่งกระจายกันไป เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องเลือกใช้โทนสีอ่อนๆ เช่น เทา และครีม ช่วยเสริมความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย โซฟาชุดใหญ่วางอยู่กลางบ้าน เหมาะสำหรับการพักผ่อนหรือรับแขก มีโต๊ะกลางทรงกลมวางไว้อย่างลงตัว และอาร์มแชร์ช่วยเพิ่มพื้นที่นั่งเล่นได้อย่างสบาย ส่วนพื้นเป็นกระเบื้องหินอ่อนและมีพรมสีเข้มช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับห้อง ในขณะที่ผ้าม่านยาวเทาควันบุหรี่ช่วยควบคุมแสงและเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ ด้วยการออกแบบที่เปิดโล่งมีความสูงแบบ Double Volume เชื่อมต่อพื้นทุกชั้นของบ้านเข้าด้วยกัน สร้างความรู้สึกกว้างขวาง โอ่อ่า ทว่ายังมองเห็นความเคลื่อนไหวของกันและกันภายในบ้านได้ ผนังกระจกขนาดใหญ่รอบด้านช่วยให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาเชื่อมโยงพื้นที่ภายในกับสวนสีเขียวภายนอกได้อย่างกลมกลืนทำให้เรารู้สึกเหมือนได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติแม้จะนั่งอยู่ในบ้านก็ตาม
อีกหนึ่งดีไซน์ที่เราชอบคือโคมไฟระย้าทรงยาวที่ห้อยลงมาจากเพดาน ดีไซน์แปลกตาคล้ายกับหยดน้ำฝนที่กำลังตกลงมา สร้างความน่าสนใจและเพิ่มมิติให้กับพื้นที่ได้อย่างลงตัว แสงไฟอ่อนๆ จากโคมไฟช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลายในยามค่ำคืน การออกแบบแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการสร้างพื้นที่ ทั้งสวยงามและใช้งานได้จริงเป็นสถานที่ที่ผู้อยู่อาศัยสามารถพักผ่อน สังสรรค์หรือใช้เวลากับครอบครัวได้อย่างมีความสุข สะท้อนถึงคุณภาพชีวิตที่ดีที่ CONNOISSEUR มอบให้กับผู้อยู่อาศัย 
การออกแบบภายในของ CONNOISSEUR เป็นงานที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราและความเป็นเอกลักษณ์การใช้ชีวิตอย่างประณีต บริเวณห้องด้านหน้าบ้านออกแบบให้เป็น Duplex Super Car Garage & Man Cave เพื่อตอบโจทย์การพักอาศัยที่เชื่อมโยงระหว่างพื้นที่สำหรับจอดรถยนต์คันโปรดราวกับเป็นชิ้นงานศิลปะระดับ Masterpiece ในบ้าน สอดรับกับการพักผ่อนในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความหรูหรา โครงการได้ติดตั้งประตูไฮโดรลิกด้านหน้ามาให้แล้ว เมื่อเปิดแล้วก็ขับรถออกจากบ้านได้เลยทันที หรือจะติดตั้งระบบลิฟต์สำหรับจอดรถยนต์เพิ่มก็ได้เช่นกัน ดังนั้นพื้นที่นี้จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อคนรักรถโดยเฉพาะ 
ด้วยเพดานสูงและหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติและเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายนอก สามารถมองเห็นได้จากทุกมุมในห้องนั่งเล่น ไฮไลท์คือโถงสูงแบบ Double Volume ช่วยสร้างความรู้สึกโอ่อ่า การตกแต่งภายในเน้นโทนสีเทาและดำ เพดานติดตั้งโคมไฟระย้าในลักษณะ 3 มิติที่ลอยอยู่กลางอากาศ ตลอดจนการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่หรูหรา เช่น หินอ่อนที่ใช้ในโต๊ะกลาง โซฟาหนังสีดำ ชั้นวางของดีไซน์ทันสมัยและพื้นพรมลายละเอียด สร้างความรู้สึกของความเป็นโมเดิร์นคลาสสิกที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและเชิญชวนให้พักผ่อนกับเพื่อนคอเดียวกัน
นอกจากนี้ พื้นที่ทั้งหมดยังถูกออกแบบให้เชื่อมต่อกันอย่างราบรื่น ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินกับทุกมุมของบ้านได้อย่างสบาย โดยไม่รู้สึกถึงการแบ่งแยกในแต่ละห้อง สะท้อนถึงการออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดและสื่อถึงความหรูหราที่ไม่เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ความเป็นส่วนตัว และความหรูหราในทุกมิติ 
ห้องนอนชั้นล่างออกแบบให้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ ตอบโจทย์ครอบครัวที่อยู่กัน 3 เจนเนอเรชั่น ด้วยพื้นที่กว้างขวางและการจัดวางเฟอร์นิเจอร์อย่างเหมาะสม ทำให้การเคลื่อนไหวภายในห้องเป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย เตียงนอนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านใน ปูด้วยผ้าโทนสีอ่อนสบายตา การตกแต่งภายในเน้นโทนสีอบอุ่น สร้างความรู้สึกสบายเป็นกันเองและผ่อนคลาย ข้างเตียงมีโต๊ะวางของจำเป็นพร้อมลิ้นชักเก็บของใช้ส่วนตัว แสงไฟให้ความสว่างเพียงพอยามค่ำคืน ผนังห้องประดับด้วยภาพศิลปะเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับห้อง มุมพักผ่อนมีเก้าอี้นั่งสบายเหมาะสำหรับการนั่งอ่านหนังสือหรือชมวิวสวน ออกแบบให้มีประตูและหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่เปิดมุมมองไปยังสวนและสระว่ายน้ำภายนอก ทำให้ผู้สูงอายุสามารถสัมผัสธรรมชาติได้ง่ายโดยไม่ต้องออกจากห้อง สะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียดและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยทุกช่วงวัย ห้องนอนชั้นล่างมีห้องน้ำในตัว ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงวัย คำนึงถึงทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบาย อาทิ ประตูมีขนาดใหญ่กว่าปกติ ภายในห้องน้ำมีขนาดกว้างขวางรองรับการใช้งานวีลแชร์ได้สะดวก ผนังติดราวจับเพื่อช่วยพยุงตัวในจุดที่จำเป็น โถสุขภัณฑ์เป็นแบบชักโครกที่มีความสูงเหมาะสม พื้นที่อาบน้ำออกแบบให้มีฝักบัวแบบปรับระดับได้ ทำให้ผู้สูงอายุสามารถอาบน้ำได้สะดวกและปลอดภัย กระจกบานใหญ่เหนืออ่างล้างหน้าช่วยเปิดมุมมองความสว่างและความรู้สึกกว้างขวางให้กับพื้นที่ ถัดมาเป็น สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือภายในบ้าน อยู่ปีกซ้ายของตัวบ้านค่อนไปทางด้านหลังบ้านขนานไปกับตัวบ้านตั้งอยู่กึ่งกลางติดกับ Duplex Super Car Garage & Man Cave ทำให้เราสามารถเปิดประตูออกเพื่อใช้พื้นที่ในการจัด Pool Party ได้ Pool Deck มีขนาดใหญ่ ออกแบบให้เป็น Court ใจกลางบ้าน จัดวางโซฟารูปตัวแอล (L-Shape) เอาไว้นั่งสังสรรค์กันในครอบครัว เหมาะสำหรับวันพักผ่อนสบายๆ หากไม่ได้ว่ายน้ำก็สามารถมานั่งจิบกาแฟยามเช้า รับข่าวสารจากหนังสือพิมพ์ หรือชวนเพื่อนมานั่งจิบน้ำชายามบ่ายในบรรยากาศสบายๆ มีแสงแดดสาดส่องลอดใบไม้เกิดเป็นเงา เพื่อไม่ให้เรารู้สึกว่ามันร้อนจนเกินไป ได้ลมเย็นๆ และความสดชื่นของน้ำและฟ้า บ้านตัวอย่างตกแต่งได้สวยงามมากครับ อีกฝั่งทางด้านขวาจะเป็นออกเป็น 2 โซน เริ่มจากห้องด้านหน้าเป็น Family Closet ได้รับการออกแบบให้มีสไตล์ที่ชัดเจน สะท้อนถึงความหรูหราและประโยชน์ใช้สอยในเวลาเดียวกัน มีฟังก์ชันครบครันและเป็นระเบียบ ชั้นวางที่สร้างขึ้นด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ใช้โทนสีส้มสดใสที่เสริมความรู้สึกพลังงานและความหรูหรา มีระบบไฟส่องสว่างภายในชั้นวางเพื่อให้การเลือกรองเท้าใช้งานเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งยังใช้เป็น Drees Up Room สำหรับแต่งหน้าทำผม เพื่อให้เราได้ปรนเปรอผิว ประทินโฉมเตรียมพร้อมความสวยได้จากภายในบ้านไม่ต้องออกไปใช้บริการข้างนอกเลยครับ เป็นการเตรียมความพร้อมเสร็จสรรพสำหรับการไปร่วมงานกาล่าในคืนนี้ได้ทันที ห้องถัดมาจะเป็น Dining Room ที่บ้านตัวอย่างจะเป็นโถงยาวเชื่อมต่อกับ Island ของครัวยุโรป เราสามารถจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 10 ที่นั่ง หรือมากกว่านั้นได้สบายๆ เนื่องจากมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง ทางโครงการได้ Built-in เคาน์เตอร์ครัวและอ่างล้างจานมาให้แล้วท๊อปของของเคาน์เตอร์ก็เลือกใช้หินอ่อนเพื่อเพิ่มความหรูหรา เป็นมุมสำหรับจัดเตรียมอาหารสไตล์ครัวยุโรป ด้านในเป็นครัวไทยมีประตูปิดเพื่อป้องกันกลิ่น ทางโครงการติดตั้งเคาน์เตอร์เป็นรูปตัวแอลให้เรียบร้อยแล้ว มาพร้อมกับอุปกรณ์ครัวครบครันไม่ว่าจะเป็น เตาไฟฟ้า+เครื่องดูดควัน เตาอบ ไมโครเวฟ และเว้นพื้นที่สำหรับจัดวางตู้เย็นขนาดใหญ่
ด้วยความที่ห้องครัวมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้าง สามารถแยกฟังก์ชันการทำงานของแม่บ้านในเวลาเดียวกัน เช่น ทำกับข้าวไว้บนเตาและใช้งานบริเวณอ่างล้างจานได้โดยที่ไม่กระทบซึ่งกันและกัน ออกแบบให้มีตู้เก็บของบน-ล่างเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนด้านหลังเป็นพื้นที่ทำงานของแม่บ้านและลานซักล้าง พร้อมห้องนอนแม่บ้าน ไปชมชั้น 2 กันบ้างครับ ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อรองรับการใช้ชีวิตในแบบหรูหรา พร้อมทั้งให้ความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวแก่สมาชิกในครอบครัวทุกคน พื้นที่นี้ถูกจัดให้เป็นจุดศูนย์กลางของบ้านสำหรับการพักผ่อนที่ลงตัว เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันและการต้อนรับแขก
ด้วยความที่บ้านมีขนาดใหญ่โครงการจึงได้ติดตั้งลิฟต์มาให้เป็นอีกทางเลือกนอกเหนือจากบันได เมื่อออกจากลิฟต์มา เราจะพบกับโถงทางเดินที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ด้วยผนังไม้สีเข้มและแสงไฟแบบ LED ที่ให้บรรยากาศอบอุ่นและทันสมัย จากนั้นเราจะเข้าสู่พื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบอย่างประณีต ด้านหน้ามีพื้นที่ตอนรับจัดวางเก้าอี้นวมสองตัวหันหน้าเข้าหากัน คั่นด้วยโต๊ะกลางกระจก มีฉากหลังเป็นโคมไฟระย้าที่ส่องต่อเนื่องลงไปหา Great Room ชั้นล่างดูเป็นภาพที่งดงามมาก ติดกันเป็น Lifestyle Room โดดเด่นด้วยโคมไฟระย้าขนาดใหญ่ที่ทำจากคริสตัล ใต้โคมไฟคือชุดโซฟาหนังทรงโค้งสีน้ำตาลคาราเมล วางบนพรมวงกลมขนาดใหญ่ พร้อมโต๊ะกลางสำหรับวางเครื่องดื่มประดับด้วยกระดานหมากรุก พื้นที่นั่งเล่นนี้มีเพดานสูงและหน้าต่างขนาดใหญ่ ทำให้ห้องดูโปร่งสบายและได้รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ มีการตกแต่งด้วยต้นไม้ในร่ม เช่น ต้นมอนสเตอร่า เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับพื้นที่ ด้านในเป็นพื้นที่บาร์ที่ออกแบบอย่างสวยงาม ด้วยตู้ไม้สีเข้ม ท็อปหินอ่อน และชั้นวางขวดเครื่องดื่มแบบเปิดโล่ง พร้อมเก้าอี้บาร์สำหรับนั่งดื่มอย่างสบายๆ สามารถรองรับทั้งงานสังคมและช่วงเวลาพักผ่อนส่วนตัวได้อย่างลงตัว พื้นที่พักผ่อนที่ชั้น 2 ยังเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายนอกผ่านหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำได้จากภายในห้อง ทำให้บรรยากาศดูมีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ และสร้างความผ่อนคลายได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้เวลาพักผ่อนภายในห้องหรือการเปิดรับแสงแดดและลมจากภายนอกขณะที่มุมมองจากอีกฝั่งจะเชื่อมกับ Duplex Super Car Garage & Man Cave เพื่อให้เรามองเห็นรถยนต์คันโปรดได้จากทุกจุดของบ้าน ราวกับเป็นงานศิลปะที่ช่วยจรรโลงใจ เรียกได้ว่าบ้านหลังนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้พื้นที่ภายในและภายนอกเชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อเมื่อได้เข้ามาชมบ้านจริงและรับฟังเรื่องราว ก็ยิ่งรู้สึกประทับใจในความเรียบโก้หรู การออกแบบที่เห็นแล้วรู้ได้ทันทีว่างานดีเทลดีมากเลยครับ โดยเฉพาะการออกแบบให้มีพื้นที่เชื่อมต่อกันของฟังก์ชัน Lifestyle Room ด้านในสุดของบ้าน ออกแบบให้เป็นเคาน์เตอร์สำหรับจัดเลี้ยงสังสรรค์กานต์มองว่า พอเราออกแบบให้บ้านมีมุมส่วนตัวก็สามารถช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านได้มากขึ้น ดังนั้น บริเวณนี้จึงมักจะได้รับบทเป็นมุมโปรดของทุกคนในบ้านอยู่เสมอและมักจะมาพร้อมกับบรรยากาศของความผ่อนคลาย เช่น เป็นพื้นที่สำหรับนั่งรับประทานอาหารเช้าแบบง่ายๆ หรือใช้เป็นมุมจิบเครื่องดื่มแก้วโปรดของคุณพ่อหลังเลิกงานต่อมาเป็นพื้นที่ Enclosed Balcony บริเวณกลางบ้านชั้น 2 ออกแบบมาเพื่อตั้งใจให้สมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีคุณภาพ ทั้งการพักผ่อนหรือทำกิจกรรมต่างๆ ภายในบ้าน พื้นที่ภายในห้องออกแบบให้เปิดโล่งและเชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอกผ่านประตูบานกระจกขนาดใหญ่ที่เปิดออกได้ ทำให้ภายในห้องมีความโปร่งโล่งและเต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ บรรยากาศจึงมีความอบอุ่นซ่อนอยู่ โดยเลือกใช้วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ดูโมเดิร์นคลาสสิคสะท้อนถึงสไตล์ที่เรียบง่ายแต่หรูหราในเวลาเดียวกัน เช่น โซฟาเบาะนุ่มที่ให้ความสะดวกสบายและเก้าอี้สำหรับนั่งอ่านหนังสือหรือทำงาน พร้อมทั้งโต๊ะกลางที่จัดวางหนังสือและของตกแต่งที่เสริมสร้างบรรยากาศความเป็นกันเอง สามารถใช้ห้องทำการหรือมุมอ่านหนังสือได้การออกแบบพื้นที่ระเบียงที่เชื่อมต่อกับ Enclosed Balcony ทำให้เกิดการเชื่อมต่อของบรรยากาศทั้งภายในและภายนอกบ้านอย่างต่อเนื่อง ระเบียงตกแต่งด้วยโต๊ะกลางและเก้าอี้นั่งสบายที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้และพรรณไม้เขียวขจี กลายเป็นมุมพักผ่อนที่สามารถนั่งชมวิวธรรมชาติและสูดอากาศบริสุทธิ์ได้ การเลือกใช้วัสดุตกแต่ง เช่น โต๊ะหินที่ทนทานต่อสภาพอากาศ และการจัดวางต้นไม้ตกแต่งขนาดใหญ่ ทำให้ระเบียงดูมีชีวิตชีวา เพิ่มความสดชื่นให้กับทั้งตัวบ้าน ทำให้ระเบียงนี้เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อนในช่วงเย็น หรือการใช้เวลาส่วนตัวในการนั่งอ่านหนังสือหรือจิบกาแฟยามเช้า ทำให้สมาชิกในครอบครัวสามารถเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตที่ผสมผสานระหว่างการใช้พื้นที่ภายในและการพักผ่อนภายนอกได้อย่างลงตัวบริเวณชั้น 2 มีห้องนอนรองอยู่สองห้องซึ่งมีขนาดใหญ่มากห้องแรกตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น เช่น สีครีมและเทาอ่อน ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสงบ การใช้วัสดุที่มีคุณภาพในการตกแต่ง เช่น ผ้าห่มและหมอนที่มีความนุ่มสบาย ผ้าม่านที่ใช้เป็นผ้าม่านสีอ่อนที่เข้ากับโทนห้อง ช่วยกรองแสงแดดให้ส่องเข้ามาได้อย่างเหมาะสม เพิ่มความรู้สึกสงบและผ่อนคลายยิ่งขึ้น ทำให้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในทุกช่วงเวลา
โคมไฟที่ติดตั้งอยู่ยังช่วยสร้างบรรยากาศแสงสลัวที่อบอุ่นและเพิ่มความสวยงามให้กับห้อง นอกจากนี้ ห้องนอนนี้ยังมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งและไม่อึดอัดในระหว่างวัน ห้องนี้ยังมาพร้อมกับพื้นที่ทำงานขนาดเล็กที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้อง เหมาะสำหรับการนั่งทำงานหรืออ่านหนังสือในบรรยากาศที่เงียบสงบโครงการออกแบบให้ทุกห้องเป็นแบบ En Suite Bedroom คือมีห้องน้ำส่วนตัวให้ทุกห้อง ออกแบบมาอย่างทันสมัย ดูเรียบง่ายแต่ใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น กระเบื้องหินอ่อนที่ให้ความรู้สึกหรูหราและสะอาด พื้นที่ห้องน้ำถูกจัดแบ่งอย่างชัดเจนระหว่างโซนแห้งและโซนเปียก โดยมีการติดตั้ง ฝักบัวแบบเรนชาวเวอร์ ที่มอบความรู้สึกเหมือนอยู่ในสปา และอุปกรณ์สุขภัณฑ์ที่ทันสมัย เสริมด้วยแสงไฟที่ส่องสว่างในระดับที่เหมาะสม ทำให้ห้องน้ำดูโปร่งสบายและสะอาดตาห้องนอนรองอีกห้องบนชั้น 2 ออกแบบให้มีความแตกต่างและโดดเด่นในรูปแบบที่เน้นความหรูหราและทันสมัยมากขึ้น โดยการเลือกใช้โทนสีที่เข้มขึ้นเป็นสีเทาเข้มผสมผสานกับเฉดสีน้ำเงิน ทำให้ห้องนี้ให้บรรยากาศที่ดูสุขุมและสง่างามมากกว่า ความน่าสนใจของห้องนี้เริ่มตั้งแต่การวางเตียงนอนขนาดใหญ่ริมผนังกระจก ตกแต่งผนังหัวนอนกรุเป็นคิ้วที่มีเส้นสายคมชัดและเน้นลวดลายที่เรียบง่ายแต่ดูสง่างามเพิ่มความหรูหราให้กับห้อง เฟอร์นิเจอร์ได้รับการจัดวางอย่างลงตัว มีโซฟาขนาดเล็กตั้งอยู่ปลายเตียงทำหน้าที่เป็นที่นั่งพักผ่อนเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวในห้องนอน โต๊ะกลางที่ตั้งอยู่ด้านหน้าโซฟายังเสริมให้สามารถใช้ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การนั่งอ่านหนังสือหรือนั่งดื่มกาแฟได้อย่างสบายๆ นอกจากดีไซน์ที่สวยงามแล้ว ห้องนอนรองนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน โดยมีห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างขวางและจัดระเบียบได้อย่างเป็นสัดส่วน ตู้เสื้อผ้าออกแบบเป็นแบบบานเลื่อนกระจกที่ช่วยเพิ่มความหรูหราFamily Room บริเวณชั้น 3 เป็นจุดศูนย์กลางของพื้นที่พักผ่อนที่ออกแบบมาให้เชื่อมต่อกับห้องนอน 2 ห้องอย่างลงตัว การออกแบบภายในเน้นความโปร่งโล่งและความกลมกลืนระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอก เพื่อให้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรกับครอบครัว ไม่เพียงแค่ใช้งานได้หลากหลาย แต่ยังสะท้อนถึงความสวยงามและหรูหราผ่านการเลือกใช้วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัยและเรียบหรู ละเอียดและประณีต เพิ่มความลึกและมิติให้กับพื้นที่ ขณะเดียวกันหน้าต่างกระจกบานใหญ่ถูกออกแบบมาให้เปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ช่วยสร้างความเชื่อมโยงกับพื้นที่ภายนอกและสร้างบรรยากาศที่สดชื่นในเวลากลางวัน ถ้ามองลงไปจะเห็นไปถึง Man Cave ที่จอดรถยนต์หรูอยู่ชั้นล่างเลยครับสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ พื้นที่ระเบียงภายนอก ที่เชื่อมต่อกับห้องนี้โดยตรง ตกแต่งด้วยเก้าอี้นั่งและโต๊ะกลาง เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อนรับอากาศบริสุทธิ์ในยามเย็น ต้นมะกอกขนาดใหญ่ในกระถางคอนกรีตเป็นจุดเด่น ล้อมรอบด้วยไม้พุ่มและไม้ใบหลากหลายชนิด สร้างความร่มรื่นและความเป็นธรรมชาติทำให้พื้นที่ระเบียงมีความสดชื่นและสงบ เหมาะสำหรับการใช้เวลาอยู่ร่วมกันในบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ
ห้องติดกันมีการจัดวางมุมดนตรีที่ติดตั้งเปียโนซึ่งเป็นกิจกรรมของครอบครัว นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งเล่นที่สามารถใช้เป็นมุมอ่านหนังสือหรือจิบชา โดยมีการจัดวางเก้าอี้นั่งสบายพร้อมด้วยหมอนตกแต่งที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเองGrand Suite Master Bedroom มีขนาดใหญ่มาก กินพื้นที่ 1 ใน 3 ของตัวบ้านปีกขวา แบ่งฟังก์ชันการใช้สอยภายในห้องได้หลากหลายและลงตัวดีครับ ให้ความสำคัญกับทั้งความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน บรรยากาศภายในห้องค่อนข้างโปร่ง ด้วยช่องแสงขนาดใหญ่รายรอบห้อง การใช้โทนสีอ่อน เช่น สีครีมและสีเบจที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่สงบและผ่อนคลาย การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอนใหญ่เน้นไปที่ความสะดวกสบายและความเรียบง่าย เตียงขนาดใหญ่ถูกจัดวางอย่างโดดเด่น โดยมีเก้าอี้พักผ่อนและโต๊ะกลางที่สามารถใช้เป็นพื้นที่ทำงานหรือนั่งอ่านหนังสือได้ ห้องนอนออกแบบให้มี Living Area ภายใน ซึ่งมีขนาดใหญ่มากจัดวางชุดโซฟาที่นั่งขนาดใหญ่และเก้าอี้ไว้หลายตัว ด้วยความที่งานตกแต่งในโทนสีน้ำตาลเข้มดูเรียบหรูและมีเสน่ห์โดดเด่นมากเมื่อต้องแสงไฟ Warm Light ต้องยอมรับว่า ดีไซน์เนอร์ได้ตกแต่งภายในให้มีความโดดเด่นเน้นการสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองและอบอุ่น และเน้นไปที่การสร้าง flow ของพื้นที่ที่ต่อเนื่องห้องแต่งตัวภายใน Grand Suite Master Bedroom เป็นการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราและฟังก์ชันการใช้งานที่ลงตัว โดยมีการเน้นให้พื้นที่นี้เป็นมากกว่าห้องแต่งตัวธรรมดา แต่เป็นพื้นที่ที่สะท้อนถึงรสนิยม ความหรูหราและให้ความเป็นส่วนตัว
ห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูงและมีความละเอียดอ่อนในการออกแบบ มีชั้นวางแบบเปิดกรุด้วยกระจกใสสร้างมิติและความลึกด้วยการใช้แสงไฟซ่อนอยู่ภายในชั้นวาง ทำให้การจัดวางเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวดูมีระเบียบและเรียบหรู การติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่ยังช่วยให้พื้นที่ดูโปร่งและกว้างขึ้นโดยไม่ต้องใช้พื้นที่เพิ่ม ตู้เสื้อผ้าแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคั่นกลางด้วยโต๊ะเครื่องแป้งที่ทำจากหินอ่อน ติดกันมี Island จัดเก็บเครื่องประดับชิ้นเล็กแบบส่วนตัว เป็นจุดเด่นที่เสริมความหรูหราและสะท้อนภาพของคนที่มีรสนิยมสูง ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่การใช้งานระหว่างคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงได้สะดวกยิ่งขึ้นภายในห้องแต่งตัวนี้มีห้องนิรภัยที่ถูกซ่อนอย่างเรียบร้อยไว้ภายใน มีประตูและระบบล็อกที่แข็งแรงเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินที่มีค่า ไม่ว่าจะเป็นเอกสารสำคัญ เครื่องประดับ หรือของสะสมอันล้ำค่า ระบบล็อกและประตูห้องนิรภัยนี้ถูกออกแบบให้กลมกลืนกับการตกแต่งภายในห้องแต่งตัวเป็นหนึ่งเดียวกัน เพิ่มความสวยงามและไม่สร้างความโดดเด่นเกินไป แต่ยังคงรักษาความปลอดภัยได้อย่างดีGrand Suite Master Bathroom ออกแบบโดยเน้นการใช้วัสดุหินสีเทาเข้มที่ให้ความรู้สึกเรียบหรูและสงบ มีการติดตั้งผนังกระจกใสที่แบ่งสัดส่วนของพื้นที่ห้องน้ำออกเป็นโซนแห้งและโซนเปียกอย่างชัดเจน กระจกใสนี้ยังช่วยให้พื้นที่ภายในดูโปร่งโล่งและไม่อึดอัด มีอ่างล้างหน้าแบบ His & Her พร้อมผนังกระจกเงาบานใหญ่ มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่พร้อมระบบเจ็ทในตัวสามารถใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้ พร้อมสุขภัณฑ์แบบ Washless อีกด้านติดตั้ง Shower Box พร้อมฝักบัวและ Rain Shower มาให้แล้วชั้น 3 มีห้องนอนรองอยู่หนึ่งห้อง ออกแบบมาสำหรับเด็กเล็กให้มีความสดใสและทันสมัย สร้างบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับการพักผ่อนและการเรียนรู้ ห้องนี้จัดวางเตียงเดี่ยว 2 เตียงที่ตั้งอยู่คู่กัน มีหมอนสีสันสดใสช่วยสร้างความสนุกสนานและมีชีวิตชีวาให้กับห้องปลายเตียงออกแบบให้เป็นพื้นที่สำหรับการทำการบ้านและการอ่านหนังสือ มีเคาน์เตอร์หินอ่อนวางยาวปรับเป็นโต๊ะทำการบ้านได้ พร้อมกับชั้นวางของที่ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสีส้มสดใสและโคมไฟที่ให้แสงสว่างเพียงพอสำหรับการทำงาน ผนังประดับด้วยงานศิลปะที่สีสันและรูปทรงร่วมสมัยตามสไตล์คนรุ่นใหม่ อีกหนึ่งจุดเด่นของห้องนี้คือการออกแบบที่ใช้แสงธรรมชาติและความโปร่งสบายด้วยหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านข้างเตียง ช่วยให้เปิดช่องแสงเข้ามาในห้องอย่างเต็มที่ห้องนี้ยังมาพร้อมกับ ห้องน้ำในตัว ที่ถูกออกแบบอย่างเรียบหรู โดยใช้โทนสีเทาหินอ่อนที่ให้ความรู้สึกสะอาดและทันสมัย การใช้กระจกที่ฝังอยู่ในผนังช่วยเพิ่มความลึกและความโปร่งของพื้นที่ในห้องน้ำ ฝักบัวแบบเรนชาวเวอร์และสุขภัณฑ์ที่ทันสมัยทำให้การใช้ห้องน้ำเป็นไปอย่างสะดวกสบายและหรูหรา เหมาะสมสำหรับการใช้งานที่หลากหลายและตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว#โดยสรุป ทั้ง 20 ยูนิตในโครงการ CONNOISSEUR ล้วนเป็นการรังสรรค์ที่อยู่อาศัยในระดับ Masterpiece เพื่อเป็นการส่งต่อมรดกอันทรงคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น เพราะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะยกระดับมาตรฐานการพัฒนาที่อยู่อาศัย เต็มไปด้วยคุณภาพและการใส่ใจลงในรายละเอียด ได้แรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมยุค Beaux-Arts นำมาซึ่งมรดกทางสถาปัตยกรรมที่ยังคงเป็นที่ชื่นชมจนถึงปัจจุบัน ถ่ายทอดออกมาให้กลายเป็นโปรเจ็กต์ One-of-a-kind แห่งปี ภายใต้แนวคิด “SC Asset Urban Luxury Collection รังสรรค์อย่างเชี่ยวชาญ ด้วยจิตวิญญาณวิจิตรบรรจง” เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความหรูหราใหม่ที่งดงามไร้กาลเวลา ก่อให้เกิด Perceived Value หรือคุณค่าความเป็นเจ้าของให้กับลูกบ้าน SC ASSET อย่างแท้จริง
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือลงทะเบียนนัดเยี่ยมชมโครงการคฤหาสน์หรูบนทำเลพัฒนาการ กับความประณีตในทุกรายละเอียด https://m.scasset.com/Q85n หรือโทร. 1749
