“Nature is not a place to visit. It is home.” – Gary Snyder
.
ประโยคนี้ Gary Snyder กวีชาวอเมริกันและยังเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นคนเคยพูดไว้
กานต์ว่าความหมายลึกซึ้งเลยทีเดียวครับ “ธรรมชาติไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นบ้าน” ดูเป็นการเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
.
Gary สะท้อนให้เราเห็นว่า ธรรมชาติไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทางที่ห่างไกลหรือการออกไปเที่ยวสัมผัสเพียงครั้งคราว แต่กลับเป็นส่วนสำคัญในการดำรงอยู่ เมื่อเรารู้สึกว่าธรรมชาติเป็นบ้าน จะดูแลและปกป้องมันเหมือนที่เราดูแลบ้านของเราเอง การได้มีบ้านอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนสงบ จึงเป็นจุดหมายที่สำคัญไม่แพ้วิถีชีวิตในด้านอื่น
.
กานต์พาไปสัมผัสกับเฌอรีน (CHERENE) กรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า โครงการบ้านเดี่ยวจาก Peace & Living ผู้พัฒนาโครงการที่มุ่งเน้นการสร้างบ้านให้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เห็นได้จากบรรยากาศภายในโครงการที่ร่มรื่น รู้สึกสบายทันทีที่เพราะเต็มไปด้วยแมกไม้สีเขียว สีสันของดอกไม้ตัดกับบ้านสีขาวมุกหลังคาทรงสามเหลี่ยมสไตล์ยุโรป ที่ลดทอนให้อ่อนนุ่มด้วยประตูโค้งทรง Arch ส่งผลให้บ้านดูโมเดิร์นอบอุ่น น่าอยู่มากยิ่งขึ้น
.
การออกแบบมุ่งเน้นให้เราได้สัมผัสกับธรรมชาติของกรุงเทพ มีพื้นที่สีเขียวและสเปซเปิดโล่งมากมาย โดยเฉพาะภายในบ้านซึ่งมีไฮไลท์คือโถงนั่งเล่นแบบ Double Volume ดึงดูดใจสำหรับใครที่ต้องการเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่โปร่ง สบาย เงียบสงบและเป็นธรรมชาติ
.
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือทำเลที่ติดถนนใหญ่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าหลายสาย ใกล้มอเตอร์เวย์ พระราม 9 ทั้งยังสะดวกในการเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิอีกด้วยครับ
.
Leigh Hunt เคยบอกว่า “Colors are the smiles of nature.” สีสันคือรอยยิ้มของธรรมชาติ
.
กานต์จึงอยากจะพาไปสัมผัสกับความอบอุ่นสดใสของบ้านในโครงการ ผ่านภาพถ่ายและเรื่องราวในแคปชั่น ไปติดตามพร้อมกันนะครับ
.
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษได้ที่ https://cherene-krungthepkreetha-romklao.peaceandliving.c…
#ขยายเวลาครอบครัวให้ทุกความรู้สึกเชื่อมถึงกัน
#PEACEANDLIVING#CHERENE#เฌอรีน#กรุงเทพกรีฑา#ร่มเกล้า#บ้านเดี่ยวร่มเกล้า#บ้านเดี่ยวกรุงเทพกรีฑา#บ้านเดี่ยว
—
เฌอรีน (CHERENE) กรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่เน้นบรรยากาศของการอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ บนทำเลติดถนนใหญ่ เชื่อมต่อการเดินทางได้สะดวกสบาย และให้ความเป็นส่วนตัวสูงเพราะมีเพียง 83 ยูนิตเท่านั้น
.
เฌอรีน กรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า มี 83 ยูนิตบ้านทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ แบบบ้าน Welation (S) ที่ดินบ้าน 50 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 194 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน
แบบบ้าน Welax (M) ที่ดินบ้าน 60 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 236 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 1 ห้องทำงาน, ที่จอดรถ 2 คัน
แบบบ้าน Weliber (XL) ที่ดินบ้าน 70 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 302 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 1 ห้องแม่บ้าน, ที่จอดรถ 2 คัน
ส่วนแบบบ้านที่เห็นอยู่นี้คือ Welax ซึ่งเราจะได้พามาชมกันครับ
ส่วนตัวกานต์ชอบเรื่องการผสมผสานงานดีไซน์สไตล์ Modern European ที่ดูหรูหราเน้นสีเขียวของธรรมชาติและสีขาวที่สะท้อนถึงความเงียบสงบ
โครงการออกแบบภายใต้แนวคิด “Reconnect & Refocus” เพื่อให้คนที่ต้องการช่วงเวลาพักผ่อนที่สงบและเป็นส่วนตัว หยุดคิดเรื่องภายนอก และหันมาโฟกัสกับตัวเองและคนรอบข้างได้มากยิ่งขึ้น
งานออกแบบมีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติในบรรยากาศของความนิ่งเรียบ เงียบสงบ อบอุ่นและผ่อนคลาย ทำให้ได้ฟีลลิ่งของคำว่า “ครอบครัว” อยู่ในนั้น
โดดเด่นตั้งแต่ซุ้มทางเข้าของโครงการที่ได้แรงบันดาลใจมาจากปีกเครืองบิน บ่งบอกเลยว่าอยู่ใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เพียง 15 นาที*
กานต์ขับรถยนต์จากพระราม 9 มุ่งหน้ามอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี เลี้ยวซ้ายตรงทางออก 3 ไปถนนร่มเกล้า จากนั้นขับตรงเข้ามาอีกประมาณ 4 กิโลเมตรก็จะถึงโครงการซึ่งอยู่ระหว่างซอยร่มเกล้า 32-34 หรือจะมาทางถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ก็ได้เช่นกัน ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 650 เมตรเท่านั้น ทำให้สะดวกต่อการเดินทาง
เชื่อมต่อถนนหลายสาย สามารถใช้บริการรถไฟฟ้า Airport Link สถานีลาดกระบัง อีกทั้งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี และรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี เพิ่มมาเป็นอีกทางเลือก ทำให้เราเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ทำเลนี้รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า Community Mall ตลาดสด ร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ ทั้งในย่านลาดกระบัง ศรีนครินทร์ กรุงเทพกรีฑา
ตลอดจนอยู่ใกล้สถานศึกษาชั้นนำหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น รร.รัตนโกสินทร์สมโภชลาดกระบัง, รร.นานาชาติร่วมฤดี, รร.อินเตอร์คิดส์ นิมิตใหม่, รร.นานาชาติแอสคอต, รร.นานาชาติเวลลิงตัน, รร.สาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ส่วนสถานพยาบาลใกล้เคียงได้แก่ รพ.นวมินทร์ 9, รพ.นวมินทร์, รพ.สินแพทย์ เสรีรักษ์, รพ.ลาดกระบัง, รพ.สิรินธร, รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร, รพ.นพรัตนราชธานี และ รพ.เกษมราษฎร์ รามคำแหง ฯลฯ
ด้านหน้าทางเข้าโครงการ มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยป้อม รปภ. ตลอดจนติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อบันทึกภาพการเข้าออก โดยลูกบ้านของโครงการจะเข้า-ออกผ่านระบบ Easy Pass ส่วนผมซึ่งเป็น Visitor ก็ต้องแลกบัตรประชาชนก่อนเข้าโครงการตามระเบียบครับ
เมื่อขับเข้ามาด้านในเราจะพบกับ Clubhouse 2 ชั้นสีขาว สลับสีเทา ดีไซน์แบบ Modern European ตั้งอยู่โซนด้านหน้า มาพร้อมกับสวนสาธารณะสีเขียวขนาดใหญ่ในบรรยากาศสไตล์ยุโรป พื้นที่ส่วนกลางมีเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ มีทั้งโซนกลางแจ้งและพื้นที่พักผ่อนภายในอาคาร
เฌอรีน (CHERENE) กรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า วางผังบ้านในลักษณะเส้นก๋วยเตี๋ยวเป็นแนวลึกเข้าไปจากถนนร่มเกล้า รอบๆ โครงการเป็นย่านที่อยู่อาศัย สลับกับที่ดินเปล่า
ด้วยความที่โครงการมีระยะ Setback จากหน้าถนนใหญ่เข้าไปเยอะพอสมควร ข้อดีเลยคือทำให้เราสัมผัสกับความเงียบ ไม่ค่อยมีเสียงรถราจากถนนใหญ่มารบกวนใจ เพื่อให้เราได้ใช้เวลาพักผ่อนอย่างมีความสุข
ด้านหน้าของ Clubhouse มีสระว่ายน้ำระบบเกลือแบบน้ำล้น มีขนาด 5×12 ม. พร้อมสระเด็กที่แยกส่วนออกมาให้ สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายหรือจะแช่น้ำเล่นเย็นๆ ในบรรยากาศของวันสบายๆ มองดูแมกไม้สีเขียวสบายตา
บริเวณโดยรอบสระว่ายน้ำ จัดให้มีชุดเก้าอี้นั่งกระจายออกไปในบรรยากาศแบบ Semi-Outdoor Terrace ดีไซน์สีขาวสบายตา และยังมี Co-Working Space จัดวางที่นั่งภายในห้องปรับอากาศที่สามารถใช้เป็นพื้นที่ประชุม ทำงานหรืออ่านหนังสือได้อีกด้วย
ที่นั่งทรงกลมแบบแขวนฝ้า ห้อยลงมาคล้ายกับลูกตุ้มแกว่งไปมาอย่างสบายใจ ให้เราสามารถนั่งชมวิวสระว่ายน้ำและสวนแบบ Exclusive ได้ในมุมนี้ คาดว่าน่าจะเป็นที่นั่งโปรดของใครหลายคน รวมถึงกานต์ด้วยครับ
ทางขึ้นชั้นบน ดีไซน์ในสไตล์โมเดิร์น เน้นโทนสีแบบเอิร์ธเพื่อให้รู้สึกสบายตาและเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
การออกแบบโถงบันไดทางขึ้นโดดเด่นด้วยประตูโค้งทรง Arch เพดานยกสูงตามสไตล์ยุโรป ผนังประดับโคมไฟกิ่งแบบวินเทจ สอดแทรกด้วยไม้กระถางทำให้เรายังรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติที่มีอยู่ทั้่วโครงการ
ชั้นบนมีพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวสบายๆ ทั้ง 2 ฝั่งของอาคาร ทอดสายตาผ่านซุ้มโค้งที่มองออกไปเห็นวิวสวนสีเขียวเบื้องล่าง สีสันของธรรมชาติที่แต่งแต้ม งดงามราวกับเป็นภาพวาด
ส่วนตัวคิดว่าเป็นมุมที่นั่งที่ผมรู้สึกว่าค่อนข้างเงียบและไพรเวทดี หากอยากปลีกวิเวกมาใช้เวลากับตัวเอง
นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ของ Fitness Studio ที่มีลักษณะเป็นห้องหน้ากว้างขนานไปกับอาคารสโมสร โดดเด่นด้วยวิวสวนที่มองผ่านผนังกระจกสูงแบบ Full Height ภายในมีการจัดวางอุปกรณ์ออกกำลังกายทั้งแบบฟรีเวทและแมชชีน
โดยโครงการได้จัดเครื่อง Treadmill เครื่อง Elliptical และเครื่องปั่นจักรยานไว้ริมกระจกเพื่อรับวิวสวนส่วนกลางด้านนอกเพลินๆ ได้สบายตาครับ ส่วนเวทเทรนนิ่งและสายโยคะ ก็จัดเครื่องเล่นไว้ฝั่งกระจกเงาเพื่อให้เราสามารถออกกำลังไปด้วย เช็คบอดี้ตัวเองไปได้ด้วย
ส่วนบริเวณรอบนอกของสระว่ายน้ำที่เชื่อมต่อกับสวนสาธารณะส่วนกลาง จะปลูกไม้พุ่มเอาไว้เพื่อช่วยบังสายตา เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้บริการสระว่ายน้ำ ที่สำคัญช่วยให้บรรยากาศโดยรอบดูสดชื่นมากยิ่งขึ้น ว่ายน้ำออกกำลังกายได้นานแล้วยังรู้สึกเฟรชอยู่ตลอดเวลา
โครงการยังจัดให้มีที่นั่งกระจายไว้ตามจุดต่างๆ ทำให้เหมาะสำหรับการออกมานั่งพักผ่อนกลางแสงแดดอ่อนๆ ตอนเช้า หรือชวนสมาชิกในครอบครัวเปลี่ยนบรรยากาศมาปิกนิกนอกบ้านกันดูบ้าง ก็น่าสนใจดีนะครับ
สวนสาธารณะส่วนกลางมีพื้นที่ขนาดใหญ่ ประมาณ 1 ไร่ ที่ชอบคืองานดีไซน์ที่ลงตัวระหว่างอาคารสไตล์ Modern European กับงานภูมิสถาปัตย์ที่โดดเด่นด้วยลานสนามหญ้า
รายล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่มีทั้งแบบให้ร่มเงาและเน้นบรรยากาศสวนสไตล์ยุโรปด้วยต้นสน ไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม พืชคลุมดินสลับกับสีหวานของไม้ดอกที่ผลิบานอยู่ภายใน ต่างโบกทักทายไปตามแรงลมที่พร้ิวไหว เชื้อเชิญให้เราเข้ามาด้านในสวนเพื่อชมความงามของดอกไม้ พร้อมกับสีสันของงานศิลปะที่แต่งแต้มลงไปในจุดต่างๆ ของสวน
หากใครเบื่อที่จะต้องวิ่งออกกำลังกายในฟิตเนส กานต์แนะนำให้มาลองวิ่งรอบสวนสาธารณะของโครงการดูครับ ฟีลจะค่อนข่้างต่างกัน วิ่งในสวนจะสดชื่นได้สัมผัสกับธรรมชาติมากกว่า
เพราะว่าโครงการออกแบบให้มีพื้นที่รองรับการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นลู่วิ่ง Jogging Track พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้งอเนกประสงค์ สนามเด็กเล่น ที่จัดวางของเล่นไว้บนพื้นแบบรองรับแรงกระแทกเพื่อป้องกันอันตรายสำหรับเด็ก
จาก Clubhouse เราจะมองเห็นบ้านตัวอย่างในโครงการ โดยบ้านตัวอย่างที่กานต์จะพามาชม เป็นแบบบ้าน Welax ซึ่งมีความหมายถึง We (ครอบครัว) + Relax (ผ่อนคลาย)
งานดีไซน์มีความโดดเด่นในเรื่องของสไตล์ยุโรปสมัยใหม่ด้วยหลังคาสามเหลี่ยมทรงสูงดูโมเดิร์นมาก มาพร้อมกับประตูโค้งทรง Arch ให้ความอบอุ่น ดูหรูหรา สวยงาม
โครงสร้างบ้านเป็นระบบ Precast แข็งแรง ทนทาน ตัวบ้านภายนอกเน้นสีขาวมุก สลับกับเทาอ่อนและเทาเข้มเพื่อให้เกิดมิติของบ้านที่สวยงาม ผนังออกแบบให้มีลายเส้นที่เรียบง่ายแบบ Less is More เพื่อให้เป็นมุมมองที่สวยสะดุดตา
แบบบ้าน Welax (M) ออกแบบให้สามารถจอดรถได้ 2 คัน บริเวณโรงจอดรถเป็นงานก่อสร้างแบบ Slab on Beam ทางโครงการยังได้ติดตั้งระบบ EV Charger เพื่อรองรับสำหรับบ้านไหนที่มีรถยนต์ไฟฟ้าเอาไว้ให้แล้วด้วยครับ พร้อมกับกล้อง Ip Camera 1 จุดที่บริเวณนี้
จากที่จอดรถสามารถเดินเข้าบ้านผ่านโถงทางเดินด้านในโดยไม่ต้องอ้อมไปเข้าทางซุ้มประตูด้านหน้า ทำให้สะดวกหากว่าเกิดฝนตกก็จะได้ไม่เปียก พื้นทางเข้าด้านหน้าบ้านได้ยกขั้นบันไดขึ้นมาเล็กน้อย ชานพักหน้าบ้านปูพื้นกระเบื้องเซรามิกสีเทาขนาด 30 x 30 ซม. เข้ากับผนังซุ้มประตูสีเข้มเช่นกัน
ประตูทางเข้าบ้านทาสีเทาเข้ม ทางโครงการได้ติดตั้งมือจับแบบ Digital Door Lock มาให้แล้ว สามารถใช้งานได้ทั้งหมด 3 ระบบ ได้แก่ Pin Code, Finger Scan และ Key Card Access เพื่อความสะดวกสบาย และได้ความปลอดภัยสูงสุด
นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งระบบ Magnetic Sensor ที่บานประตู-หน้าต่าง ชั้น 1 ให้บ้านทุกหลัง หน้าต่างทุกบานติดตั้งกระจกเขียวตัดแสงบานเลื่อนแบบฟิกซ์ 1 ด้าน กรอบ UPVC สีดำเข้ากับบ้านดี ประตูปิดแล้วดูแน่นสนิทเก็บเสียงได้ดี ไม่มีเสียงจากภายนอกเล็ดลอดเข้ามากวนใจ ภายในบ้านทาด้วยสี TOA Organic Care เทคโนโลยีสีมาตรฐาน USDA จากสหรัฐอเมริกา ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ ผู้มีปัญหาโรคภูมิแพ้และหอบหืด
เมื่อเปิดประตูสู่ภายในบ้าน Foyer ด้านหน้าทางเข้าออกแบบให้มีตู้เก็บของพร้อมชั้นวางเพื่อเพิ่มความสะดวกในการเก็บสิ่งของสำคัญที่ต้องใช้ตอนเข้า-ออกจากบ้านเช่น กุญแจ หรือแม้แต่ตู้เก็บรองเท้า พร้อมมุมที่นั่งสำหรับสวมใส่ก่อนออกจากบ้าน
มองเข้าไปภายในบ้าน เราสามารถสัมผัสได้ทันทีถึงความโปร่งสบายด้วยผนังกระจกใสรายรอบ ที่มองออกไปจะเห็นสวนสีเขียวเติมเต็มความสดชื่น เปิดรับแสงสว่างจากธรรมชาติจากภายนอกเข้ามายัง Living Area ทำให้บ้านดูสว่างในตอนกลางวันแทบไม่ต้องเปิดไฟเลยครับ
ไฮไลท์ของบ้านคือ โถงสูงแบบ Double Volume จากพื้นจรดเพดานชั้นบนประมาณ 5.9 ม. พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีเบจขนาด 60 x 60 ซม. บ้านตัวอย่างจัดวางชุดโซฟาเป็นรูปตัวแอล (L-Shape) สีเบจเช่นเดียวกัน ทำให้เข้ากันดี ขับความโดดเด่นของมุมนี้ด้วยหมอนอิงสีเข้ม
ส่วนตัวผมชอบมุมนี้มาก บ้านตัวอย่างได้ให้ไอเดียของการออกแบบที่อบอุ่น ฟรีฟอร์มด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวดีไซน์เรียบง่าย ระยะห่างระหว่างที่นั่งกับชั้นทีวีก็ไกลพอที่จะวางระบบโฮมเธียเตอร์ขนาดใหญ่ได้สบายเลยครับ
ผังบ้านวางเป็นรูปตัว C พื้นที่ภายในเริ่มจาก Common Area ออกแบบให้มีประตูกระจกตรงกลางเพื่อเชื่อมมุมมองออกไปยังสวนข้างบ้านได้ซึ่งทำเป็น Welax Courtyart คอร์ดตรงกลางระหว่าง 2 ห้อง บ้านตัวอย่างออกแบบให้เป็น Glass House ซึ่งมีประตูกระจกเปิดปิดได้
ดีไซน์ Exterior ของบ้านให้มีผนังกระจกใสเพื่อเชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวภายนอกและธรรมชาติโดยรอบโครงการให้ได้มากที่สุด ทั้งยังช่วยในการเปิดรับแสงจากภายนอก ข่้อดีก็คือเราจะได้พื้นที่ภายในบ้านแบบเปิดโล่งเพิ่มมา ขณะเดียวกันหากอยากสัมผัสกับธรรมชาติภายนอก ก็เพียงเปิดประตูออกให้เชื่อมต่อกันได้ทันที
ผมเดาว่าโดยความตั้งใจของสถาปนิกคืออยากให้เป็นมุมเปิดโล่งเพื่อมีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกคนอื่นภายในบ้านที่นั่งทำกิจกรรมอยู่ที่ห้องนั่งเล่นที่อยู่ตรงข้ามกัน อีกหนึ่งข้อดีก็คือ เราสามารถเปิดรับแสงธรรมชาติผ่านช่องแสงขนาดใหญ่เข้ามา ทำให้บ้านในมุมนี้ดูโปร่ง โล่ง สว่าง อยู่สบายไม่อึดอัดบรรยากาศโดยรวมของบ้านชั้นล่างดูสวยและปรับฟังก์ชันได้หลากหลายดีครับ รองรับทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการ
ตัวบ้านภายในดีไซน์ให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในบ้าน ผมชอบการออกแบบให้เพดานสูงขึ้น บ้านจึงรู้สึกโปร่ง อยู่สบายไม่อึดอัด จัดแบ่งฟังก์ชันได้ตามความต้องการของลูกบ้านแต่ละหลัง ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีความแตกต่างกันครับ
อย่างเช่นห้องด้านหน้าบ้าน สามารถออกแบบได้หลากหลาย สามารถทำเป็นห้องอเนกประสงค์บริเวณด้านข้างที่เชื่อมต่อจาก Common Area เป็นห้องสี่เหลี่ยมที่สามารถปรับการใช้งานได้ตามต้องการ มาพร้อมกับช่องแสงขนาดใหญ่ที่มองออกไปจะเห็นความเคลื่อนไหวฝั่งด้านหน้าบ้าน สามารถติดผ้าม่านเพิ่มได้เพื่อความเป็นส่วนตัว
บ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็นห้องทำงาน พร้อมโต๊ะและชั้นวางเอกสาร หันหน้าเข้าหาภายในบ้าน เพื่อเชื่อมต่อความสัมพันธ์กับสมาชิกทุกคน แต่เราอาจจะปรับให้เป็น Home Office เต็มรูปแบบได้โดยที่จะไม่รบกวนสมาชิกท่านอื่น เพราะมีประตูบานเลื่อนกระจกด้านข้างแยกออกมาอย่างเป็นสัดส่วน ทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวและมีสมาธิในการทำงานที่ดี รวมถึงการพบปะพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ
มุมนี้ยังเชื่อมต่อกับ Glass House ให้เราได้ออกไปเดินรับลม เปลี่ยนอิริยาบถจากการนั่งทำงานเป็นเวลานานได้อีกด้วยครับ
ชั้นล่างมีห้องนอน 4 ซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นที่รับประทานอาหารและสามารถเปิดประตูออกไปสู่ Glass House ได้เช่นกัน จริงๆ แล้ว พื้นที่อเนกประสงค์ตรงนี้สามารถออกแบบได้ตามใจ
ซึ่งโดยหลักของการออกแบบที่ผมเคยเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้คือ Open Plan การออกแบบจึงเปิดให้มีความยืดหยุ่นในการใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่และตรงตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยในแต่ละบ้าน เป็น Kid’s Room สำหรับเด็ก เป็น Entertainment Room จัดวางชุดโซฟาพร้อมจอทีวีขนาดใหญ่เอาไว้นั่งดูหนังฟังเพลง นั่งเล่นเกมส์ชิลล์ๆ ก็ได้
แต่หากบ้านไหนที่อยู่กันหลาย Generation ก็สามารถปรับให้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้เช่นกัน เนื่องจากเป็นห้องที่มีห้องน้ำในตัว รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ ด้วยประตูที่กว้างกว่าปกติทั่วไปรองรับการใช้วีลแชร์ และพื้นยังออกแบบเป็น Stepless จะได้เดินสะดวกไม่สะดุด ตลอดจนออกไปเดินเล่นที่สวนข้างบ้านตอนเช้า หรือแม้แต่จะนั่งชมสวนสวยๆ อยู่บนที่นอนตอนตื่นก็ได้เช่นกัน ทำให้สุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพใจดีอีกด้วยครับ
จากนั้นก็มาเข้าครัวทำอาหารให้หลานๆ ได้ทานก่อนออกไปโรงเรียนได้ ทั้งนี้ด้วยขนาดพื้นที่ของห้อง ผมลองจินตนาการเพิ่มเติมดูว่าสามารถจัดวางเตียงนอนขาดควีนไซส์ พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งแบบเข้าชุด และติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดพอเหมาะไว้ที่มุมห้องได้
ถัดจากมุมนั่งเล่นจะเป็นฟังก์ชัน Dining Area ที่เชื่ีอมต่อกับครัวที่อยู่ห้องถัดไป ถือเป็นมุมโปรดของผมเลยครับ
บ้านตัวอย่างจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่และวางเก้าอี้ไว้ 6 ตัว นั่งได้สบายๆ เลยครับ สามารถเปลี่ยนเป็นโต๊ะขนาดใหญ่กว่านี้ได้ หากที่บ้านมีสมาชิกจำนวนมาก
บริเวณนี้มีพื้นที่กว้างขวางเหลือเฟือ สามารถจัดปาร์ตี้กับสมาชิกในครอบครัวหรือชวนเพื่อนบ้านคนสนิทมาเข้าครัวทำอาหารทานกันในบรรยากาศสบายๆ
มองออกไปบริเวณด้านหลังเป็นหน้าต่างกระจกที่เลื่อนเปิดออกได้ สามารถชมวิวบรรยากาศดีๆ ของสวนรอบบ้านระหว่างที่รับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งเป็นข้อดีที่ผมย้ำบ่อยมากของโครงการเฌอรีน กรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า ก็คือการมีช่องแสงที่เปิดกว้างและหลายทาง ทำให้บ้านรับแสงสว่างได้ตลอดเวลา สามารถเปิดออกเพื่อรับลมและระบายอากาศได้
ด้านในเป็นส่วนของครัว โดยบ้านมาตรฐานจะกั้นผนังและทำเป็นประตูบานเลื่อนแยกส่วนมาให้ เพื่อจะได้เป็นการป้องกันกลิ่นและควัน จากการทำอาหารไม่ให้ย้อนกลับเข้าสู่ภายในบ้าน
อย่างไรก็ตามโครงการได้ติดตั้งระบบฟอกอากาศภายในบ้าน Panasonic nanoe™X สามารถยับยั้งแบคทีเรีย ไวรัส และกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพเอาไว้ให้แล้ว ทำให้เราได้อยู่ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์
โครงการได้ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้แล้วเป็นรูปตัวแอล (L-Shape) พร้อมทั้งติดตั้งอ่างล้างจานและชั้นคว่ำจานไว้ให้ ข้างใต้เป็นตู้เก็บของที่ปิดหน้าบานเรียบร้อย เว้นพื้นที่ว่างด้านข้างสำหรับติดตั้งตู้เย็นขนาดใหญ่ และมีช่องสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้ามาให้แล้ว หากรู้สึกว่าพื้นที่เก็บของไม่เพียงพอก็สามารถติดตั้งตู้ลอยเพิ่มเติมได้
ห้องครัวจะมีหน้าต่างมาให้ สามารถเปิดบานสไลด์ออกเพื่อระบายอากาศได้ เมื่อเปิดประตูไปด้านหลังจะเป็นลานซักล้าง สามารถต่อเติมหลังคาและเคาน์เตอร์เพื่อทำเป็นครัวไทยด้านนอกได้ โดยส่วนงานหลังบ้าน ทางโครงการได้เดินงานระบบไฟฟ้า ประปา แยกท่อน้ำดีน้ำทิ้งมาให้เรียบร้อยแล้วครับ จะได้ลดความยุ่งยากให้กับลูกบ้าน
นอกจากนี้ บ้านตัวอย่างยังมีห้องน้ำแบบ Powder Room กล่าวคือจะไม่มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำ ใช้สำหรับแขกอยู่บริเวณใต้บันได อย่างไรก็ตามถือว่าภายในห้องน้ำมีขนาดใหญ่และฟังก์ชันครบ ทั้งอ่างล้างมือ สุขภัณฑ์เป็นของ COTTO พร้อมช่องแสงด้านในช่วยเปิดรับแสงสว่างเข้ามาภายในห้องน้ำ
ขึ้นบันไดไปดูชั้น 2 กันบ้างดีกว่าครับ บันไดเป็นโครงสร้างเหล็ก ลูกตั้งลูกนอนเป็นไม้ยางพาราประสาน เข้ากันดีกับราวจับไม้สีน้ำตาลติดผนัง ชานพักรูปสามเหลี่ยม 2 ขั้น เดินขึ้นลงสวนกันได้สบาย
เมื่อขึ้นมาชั้นบนจะพบกับ Family Area อยู่บริเวณกึ่งกลางบ้าน เป็นพื้นที่เอนกประสงค์ จัดวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งไว้สำหรับทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเป็นไอเดียในการออกแบบที่ดีมาก สมาชิกทุกคนในบ้านจะได้มีพื้นที่ส่วนตัวและยังคงมีพื้นที่ส่วนรวมสำหรับทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว
บริเวณนี้จะเชื่อมต่อกับ Living Area ที่ชั้นล่าง เป็นพื้นที่เปิดโล่งตรงโถงกลางแบบ Double Volume เชื่อมกับช่อง Void ทำให้มองเห็นความเคลื่อนไหวหรือแขกไปใครมาที่ชั้นล่างได้สะดวกมาก อีกทั้งยังช่วยให้ห้องดูสว่างและไม่อึดอัดคับแคบจนเกินไป ทางเดินติดตั้งราวกันตกเป็นกระจก Tempered Glass ไร้ขอบช่วยให้พื้นที่ดูโอ่โถงยิ่งขึ้น เปิดรับแสงจากธรรมชาติด้านนอกที่ส่องมาจนถึงชั้นบนด้วยเช่นกัน
พื้นชั้นบนให้เป็น SPC สีน้ำตาลลายไม้ มีด้วยกัน 3 ห้องนอน ออกแบบให้เป็นโถงทางเดินตรงกลางเชื่อมต่อห้องนอนทั้งหมดเข้าด้วยกัน
ผมแยกเป็นสองฝั่งก็แล้วกันครับจะได้อธิบายง่ายขึ้น ปีกขวามือของบันไดจะเป็นห้องนอนรอง 2 ห้องติดกัน
ส่วน Master Bedroom จะอยู่ทางฝั่งซ้ายของบ้าน
Family Area จึงเป็น Flexible Space ที่ให้เรีาปรับฟังก์ชันได้ตามต้องการ สามารถใช้งานได้ทั้งการเป็นห้องเรียนออนไลน์และมุมทำการบ้านสำหรับเด็กๆ มีที่นั่งพักผ่อนร่วมกัน เป็นมุมอ่านหนังสือในช่วงเวลาสบายๆ หรือจะดีดกีต้าร์ ร้องเพลงด้วยกันก็ได้
Master Bedroom อยู่ทางฝั่งซ้ายของบ้าน เป็นห้องนอนหลักที่มีขนาดใหญ่มาก ลักษณะแนวยาวขนานตามความกว้างของหน้าบ้านเกือบทั้งหมด พร้อมกับออกแบบและจัดวางฟังก์ชันการใช้สอยภายในห้องอย่างเป็นสัดเป็นส่วนเพื่อสุนทรียภาพแห่งการพักผ่อนอย่างเต็มรูปแบบ
เริ่มจากด้านหน้าทางเข้าเป็นโซนพักผ่อน ห้องนอนใหญ่มาพร้อมกับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างกระจกบริเวณข้างเตียงซึ่งเปิดรับวิวฝั่งด้านหน้าบ้าน
บ้านตัวอย่างจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ ขนาด 6 ฟุต ได้สบายๆ พร้อมกับมีพื้นที่รอบเตียงเดินได้แบบเหลือๆ พร้อมโต๊ะหัวเตียงและโคมไฟส่องสว่าง บริเวณช่วงปลายเตียงสามารถติดตั้ง Cabinet สำหรับวางทีวีขนาดใหญ่สามารถนอนชมซีรีย์เรื่องโปรดจาก Netflix บนเตียงเลยได้สบายๆ เลยครับ
ความพิเศษของห้องนอนหลักคือมีประตูที่สามารถเปิดออกไปสู่ระเบียงได้ มีขนาดกว้างขวางพอประมาณ สามารถจัดการหาโต๊ะเก้าอี้มาวางสำหรับจิบกาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์ยามเช้าในบรรยากาศสบายๆ ไม่เร่งรีบนัก
“𝐓𝐡𝐞𝐫𝐞’𝐬 𝐬𝐨𝐦𝐞𝐭𝐡𝐢𝐧𝐠 𝐚𝐛𝐨𝐮𝐭 𝐝𝐫𝐢𝐧𝐤𝐢𝐧𝐠 𝐜𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞 𝐢𝐧 𝐧𝐚𝐭𝐮𝐫𝐞 𝐭𝐡𝐚𝐭 𝐦𝐚𝐤𝐞𝐬 𝐢𝐭 𝐭𝐚𝐬𝐭𝐞 𝐞𝐯𝐞𝐧 𝐛𝐞𝐭𝐭𝐞𝐫. 𝐌𝐚𝐲𝐛𝐞 𝐢𝐭’𝐬 𝐭𝐡𝐞 𝐟𝐫𝐞𝐬𝐡 𝐚𝐢𝐫, 𝐭𝐡𝐞 𝐬𝐨𝐮𝐧𝐝 𝐨𝐟 𝐭𝐡𝐞 𝐛𝐢𝐫𝐝𝐬, 𝐨𝐫 𝐭𝐡𝐞 𝐟𝐞𝐞𝐥𝐢𝐧𝐠 𝐨𝐟 𝐛𝐞𝐢𝐧𝐠 𝐬𝐮𝐫𝐫𝐨𝐮𝐧𝐝𝐞𝐝 𝐛𝐲 𝐛𝐞𝐚𝐮𝐭𝐲. 𝐖𝐡𝐚𝐭𝐞𝐯𝐞𝐫 𝐢𝐭 𝐢𝐬, 𝐈 𝐚𝐥𝐰𝐚𝐲𝐬 𝐞𝐧𝐣𝐨𝐲 𝐦𝐲 𝐜𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞 𝐦𝐨𝐫𝐞 𝐰𝐡𝐞𝐧 𝐈’𝐦 𝐢𝐧 𝐧𝐚𝐭𝐮𝐫𝐞.”
– Bill Bryson, A Walk in the Woods (1998)
ติดกันเป็นมุมแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ขนาดใหญ่พอๆ กับห้องนอนอีกห้องเลยครับ
Walk-in Closet ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยกระจกสีเข้มและเส้นสายของไฟสีสันสวยงาม ตู้เสื้อผ้า Built-in เต็มผนังสองฝั่ง พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามถัดเข้าไปด้านใน
ห้องนอนหลักมาพร้อมกับห้องน้ำในตัวครับ ภายในห้องน้ำเปิดช่องแสงส่องสว่างและระบายอากาศได้เต็มที่ช่วยให้ห้องน้ำไม่อับชื้น ภายในติดตั้งอ่างล้างมือพร้อมเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ด้านหลังเป็นกระจกเงา
มี Shower อยู่ด้านในเป็นพื้นลดระดับลงไปกั้นส่วนเปียกแห้งด้วยการก่อธรณีขึ้นมาสูงเล็กน้อย ทางโครงการติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้แล้วครับ สำหรับสุขภัณฑ์ห้องน้ำใช้แบรนด์ COTTO ทั้งหมด
ห้องนอนรองห้องแรกอยู่โซนด้านหลังบ้าน ทำให้ได้เปรียบเรื่องความเงียบและเปิดรับแสงสว่างจากช่องแสงธรรมชาติด้านข้างสองฝั่งที่เป็นหน้าต่าง 2 บาน สามารถเปิดม่านออกได้หรือจะเปิดหน้าต่างบานเลื่อนออกเพื่อรับลมระบายอากาศก็ได้เช่นกัน ทำให้ห้องดูสว่างมากในเวลากลางวันแทบไม่ต้องเปิดไฟเลยครับ และยังช่วยให้ภาพรวมของห้องดูโปร่งสบาย ผ่อนคลายมาก
ออกแบบให้เป็นห้องนอนสำหรับเด็กเล็กเน้นสีสันและลวดลายสดใส จัดเตียงไว้ชิดผนังมีช่องแสงคอยปลุกเราตอนเช้าโดยอัตโนมัติ มาพร้อมกับที่นั่งริมผนังในบรรยากาส Cozy สบายๆ สามารถเก็บข้าวของเครื่องใช้ไว่้ในตู้ได้ทั้งหมด ติดกันเป็นห้องน้ำในตัว
ถ้าครอบครัวไหนมีจำนวนสมาชิกไม่เยอะมาก อาจจะปรับจากห้องนอนมาเป็นห้องดูหนังฟังเพลง ห้องหนังสือ ห้องทำงานหรือทำเป็นสตูดิโอสำหรับไลฟ์รีวิวขายของออนไลน์ก็ได้ ซึ่งเราย้ำกันตั้งแต่แรกแล้วว่า เป็นบ้าน Open Plan สามารถปรับเปลี่ยนการใช้สอยได้ตามไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัว
ห้องนอนทุกห้องมาพร้อมกับห้องน้ำในตัวขนาดใหญ่ แยกส่วนเปียกแห้งเอาไว้ให้เรียบร้อย
ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องนอนรองอีกห้อง ภายในห้องจัดวางเตียงนอนขนาดควีนไซส์ ที่มีความโดดเด่นด้วยหัวเตียงบุนวมสีเทาเข้มดูหรูหรา ให้ความส่วนตัวภายในห้อง
ด้านข้างมีหน้าต่าง 2 บานเพิ่มแสงสว่างเข้ามาภายในห้อง หัวเตียงจัดวางโต๊ะเตี้ยเล็กๆ สำหรับวางของ มีพื้นที่ว่างรอบเตียงสามารถเดินได้สบายเลยครับ
ปลายเตียงออกแบบให้เป็นเคาน์เตอร์ยาวพร้อมเก้าอี้สามารถนั่งทำงานอ่านหนังสือหรือพักผ่อน แต่หากจะนอนดูทีวีอาจจะต้องขยับมาเอกเขนกบนเตียงแทน
ส่วนตู้เสื้อผ้าจะอยู่ติดผนังบริเวณฝั่งทางเข้า ติดกันกับเตียงนอนเป็นห้องน้ำ จุดเด่นที่ผมชอบสำหรับโครงการนี้คือห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้องเลยครับ สามารถทำธุระได้อย่างเป็นส่วนตัว
#โดยสรุป เฌอรีน กรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจสำหรับใครที่มองหาบ้านในย่านร่มเกล้าเข้าลาดกระบัง หรือออกไปทางกรุงเทพกรีฑา
สามารถเชื่อมต่อไปยังทุกทำเลได้รวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์เวย์ ชลบุรี พระราม 9 กรุงเทพกรีฑา ศรีนครินทร์ รามคำแหง ตลอดจนผู้ที่ต้องเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิเป็นประจำถือว่าสะดวกมากเลยครับ
ตัวบ้านและบรรยากาศในโครงการให้ฟีลลิ่งของยุโรปที่มีความร่วมสมัย ท่ามกลางบรรยากาศของแมกไม้ พื้นที่สีเขียวรายรอบโครงการ ให้เราได้ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติในทุกวัน เป็นการเชื่อมต่อทุกความสัมพันธ์ตามคอนเซ็ปต์ “Reconnect & Refocus”
สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ https://cherene-krungthepkreetha-romklao.peaceandliving.c…