Capella Shanghai, Jian Ye Li

🇨🇳 ย้อนอดีตไปในยุคเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ พักในวิลล่าโบราณสไตล์ Shikumen ที่ Capella Shanghai, Jian Ye Li

.

เซี่ยงไฮ้ทริปนี้กานต์พักที่ Capella Shanghai สาเหตุที่เลือกโรงแรมนี้ก็เพราะดีไซน์ของที่พักที่รีโนเวทมาจากตึกโบราณของคนเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่ปี 1930 ที่เรียกว่า Shikumen เป็นเหมือนห้องแถวเล็กๆ ติดๆ กันลึกเข้าไปเป็นตรอก

.

ย้อนกลับไปช่วงนั้นเซี่ยงไฮ้เจริญมาก มีการลงทุนจากทางยุโรปเข้ามา ทำให้อาคารมีกลิ่นอายความเป็น Art Deco ที่ผสมผสานความคลาสสิค เพราะเป็นเขตสัมปทานของฝรั่งเศสมาก่อน

.

Capella Shanghai จึงเลือก Jian Ye Li มาพัฒนาเป็นโรงแรมขนาด 55 วิลล่า ด้านหน้าจะดูงงๆ เล็กน้อยเพราะมีแค่ซุ้มและป้ายเล็กๆ บอกไว้ด้านบน ส่วนตัวโรงแรมนั้นจะอยู่ข้างใน ต้นไม้ค่อนข้างแห้งเพราะเป็นฤดูใบไม้ร่วงคิดว่าปลายปีน่าจะสวย

.

โรงแรมตั้งอยู่ในย่าน Hengfu Historical ซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์ที่เต็มไปด้วยตึกเก่าเอามาทำใหม่ให้เก๋ให้ชิค รอบโรงแรมจึงเต็มไปด้วยคาเฟ่ บูทีคช้อปมากมาย

.

ด้านหน้าเป็นคาเฟ่ที่เกร๋มากชื่อ La Boulangerie ลูกค้าแน่นทั้งวัน แน่นอนว่าเบเกอรี่อร่อยมาก อีกฝั่งเป็นห้องอาหารมิชลิน 1 ดาวชื่อ Le Comptoir de Pierre Gagnaire เชฟฝรั่งเศสในตำนานคนเดียวกับที่เราเคยไปทานที่ InterContinental Da Nang ก่อนหน้านี้ ซึ่งแน่นอนว่าเราทานอาหารเช้าและอาหารค่ำที่นี่ครับ

.

เข้าไปด้านในเป็นพื้นที่ต้อนรับ ห้องเล็กๆ มีเก้าอี้รับแขกนั่งประปราย ไม่มีเคาน์เตอร์รีเซปชั่น มีแค่โต๊ะสำหรับเช็คอิน 1 ตัว ส่วนด้านในเป็นห้องสมุดสำหรับนั่งพักผ่อน

.

จากนั้น พนักงานไปส่งเราที่วิลล่า ซึ่งต้องเดินผ่านตรอกต่างๆ เข้าไปก่อน อารมณ์เหมือนกับซอยบ้านฉันบ้านเธอประมาณนี้ Shikumen Villa จะมี 5 ชั้นรวมดาดฟ้า อารมณ์เหมือนห้องแถวจีนสมัยก่อน หน้าค่อนข้างแคบและลึกเข้าไปด้านใน ด้วยความที่แยกฟังก์ชันกันไปในแต่ละชั้น แต่ไม่มีลิฟต์ทำให้ต้องเดินขึ้นลงบันไดตลอดเวลา

.

ดีไซเนอร์ Jaya Ibrahim ออกแบบโดยเน้นกลิ่นอาย French-Chinoiserie สะท้อนประวัติศาสตร์ Shikumen ที่ผสมผสานองค์ประกอบการออกแบบของจีนและยุโรป เช่น โครงสร้างอิฐแอดง วอลเปเปอร์ผ้าไหม หน้าต่างกรอบไม้ Redwood แบบดั้งเดิม เพดานสูง 4.5 เมตร และใช้รูปทรงทางเรขาคณิตมาช่วยในงานดีไซน์

.

ชั้นล่างจะเป็นห้องนั่งเล่น ฟีลเหมือนบ้านเลยครับ ด้านหน้าประตูมีสวนเล็กๆ ด้านในมีชุดโซฟานั่งรับแขก ด้านหลังจัดวางโต๊ะทำงานและมีห้องน้ำขนาดเล็กแยกออกไปด้านใน ส่วนด้านหลังสุดตามโครงสร้างเดิมจะเป็นห้องครัวของคนเซี่ยงไฮ้ แต่ทางโรงแรมปิดไว้ ส่วนหน้าประตูเตรียมเทียนหอมพร้อมไม้ขีดกลักเอาไว้ให้จุดตอนหัวค่ำ เรารักในความวินเทจนี้จริงๆ

.

โรงแรมเตรียมชุด Welcome เอาไว้ให้ อลังการมาก กร้าวใจสุดๆ ชอบดีเทลของการเขียนจดหมายต้อนรับเป็นลายมือภาษาไทยตัวใหญ่นิดนึง สื่อถึงความพยายามได้ดีมาก

.

ขึ้นบันไดไปชั้น 2 จะเป็นห้องนั่งเล่นสำหรับดูทีวี มีมินิบาร์อยู่ในตู้ขนาดใหญ่ ทุกอย่าง Complimentary กินดื่มได้ฟรี ยกเว้นแอลกอฮอลล์ในชั้นแยก ชอบตรงที่มีเครื่องดื่มท้องถิ่น เบียร์ คราฟท์โซดา และขนมให้เราได้ลองชิมด้วย ลูกอมกระต่ายก็มีนะ และที่ขาดไม่ได้คือชาจีน

.

ชั้น 3 เป็นส่วนของห้องนอน เตียงคิงเบดขนาดใหญ่สะใจมาก ที่นอนหนานุ่มตามสไตล์ Capella หัวเตียงมีโต๊ะนั่งทำงาน ด้านหลังเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง ส่วนปลายเตียงริมหน้าต่างจัดวางที่นั่งเล่นเป็นโซฟาเบดในห้องนอนเอาไว้นั่งอ่านหนังสือชิลๆ

.

ส่วนห้องน้ำในห้องนอนจะต้องขึ้นบันไดไปอีก 1 ชั้น ตรงนี้อาจจะไม่ฟังก์ชันและดูน่าขัดใจ ด้วยความที่โครงสร้างเป็นแบบนี้ทำให้ต้องยกห้องน้ำไปไว้ที่อีกชั้นไปเลย ข้อดีก็คือจะได้ห้องน้ำที่ค่อนข้างใหญ่ โซนชาวเวอร์ สุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ อ่างอาบน้ำก็ติดตั้งมาให้เรียบร้อย พร้อมชุด Toilet Amenity ให้เป็นของแบรนด์ Fereric Malle ที่เจ้าของแบรนด์เพิ่งลาออกจากบริษัทตัวเองไปนั่นแหละ เราได้เป็นกลิ่นดอกแมคโนเลีย หอมสดชื่นแบบโอเรียลทอล

.

ส่วนชั้นบนสุดจะเป็นดาดฟ้าพร้อมหลังคาโปร่งแสงที่สามารถดึงผ้าม่านเปิดออกไปให้แสงส่องเข้ามาในวิลล่าได้ในตอนกลางวัน ดาดฟ้าจะติดกันกับเพื่อนบ้านซ้ายขวา มองออกไปเห็นหลังคาของวิลล่าอื่นๆ ได้ฟีลแบบอยู่บ้านคนเซี่ยงไฮ้จริงๆ แต่ไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเท่าไร

.

กิจกรรมมีไม่เยอะมาก อาคารสปา ฟิตเนส สระว่ายน้ำ แยกออกไปอีกฝั่ง ส่วนอาหารเช้าและค่ำทานที่ห้องอาหาร Le Comptoir de Pierre Gagnaire สามารถรับเครื่องดื่มที่บาร์ได้ฟรีคนละแก้ว Mixologist ทำเครื่องดื่มที่ชื่อว่า White Rabbit มาให้ลอง ส่วนอาหารเป็นสไตล์ฝรั่งเศส

.

อาหารเช้าก็เช่นกัน จะไม่ได้วางไลน์บุฟเฟต์เอาไว้ ทุกอย่างจะสั่งจากพนักงาน เลือกเป็นเซตเมนูจาก 3 ตัวเลือก เราเลือกเป็นเซตยุโรป กับจีน จะได้กินกันหลากหลาย แต่ที่ประทับใจน่าจะเป็นน้ำส้มกับเบเกอรี่ที่อร่อยมาก ก็แน่นอนละว่า มาจากร้าน La Boulangerie คาเฟ่ชื่อดังนี่นา

.

Capella จะมี Cultuist เป็น Signature อารมณ์เหมือน Butler นี่แหละต้องการอะไรก็เรียกได้ ส่วนมากจะให้ช่วยเรียกแท๊กซี่ให้ หรือจะให้พาเดินชมรอบๆ โรงแรมก็ได้ มีสตอรี่น่าสนใจดี บริการโดยรวมถือว่าดี สุภาพไม่มีโฉงเฉงเสียงดังเหมือนจีนทั่วไป (เพิ่งเจอบริการแย่ๆ จาก FS ปักกิ่งมา ไม่ชอบเลย)

.

บรรยากาศการเข้าพักที่เรียบง่าย ติดตรงที่ขนาดค่อนข้างเล็ก และวิลล่ามีแต่บันไดไม่มีลิฟต์ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี ชอบมาก ถ้าใครอยากได้ที่พักดีไซน์สวยๆ แบบ Luxury ก็แนะนำที่นี่ครับ

.

#Capella#CapellaShanghai#CapellaJianYeLi#Shanghai

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน