BuGaan Rama9 – Meng Jai

“การยังเป็นตัวของตัวเองได้ในโลกที่พยายามทำให้คุณเป็นคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”

.

“𝐓𝐨 𝐛𝐞 𝐲𝐨𝐮𝐫𝐬𝐞𝐥𝐟 𝐢𝐧 𝐚 𝐰𝐨𝐫𝐥𝐝 𝐭𝐡𝐚𝐭 𝐢𝐬 𝐜𝐨𝐧𝐬𝐭𝐚𝐧𝐭𝐥𝐲 𝐭𝐫𝐲𝐢𝐧𝐠 𝐭𝐨 𝐦𝐚𝐤𝐞 𝐲𝐨𝐮 𝐬𝐨𝐦𝐞𝐭𝐡𝐢𝐧𝐠 𝐞𝐥𝐬𝐞 𝐢𝐬 𝐭𝐡𝐞 𝐠𝐫𝐞𝐚𝐭𝐞𝐬𝐭 𝐚𝐜𝐜𝐨𝐦𝐩𝐥𝐢𝐬𝐡𝐦𝐞𝐧𝐭” – กวีและนักปรัชญาชาวอเมริกัน Ralph Waldo Emerson เคยกล่าวเอาไว้

.

ไม่น่าเชื่อว่าวลีนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 แต่มนุษย์เราก็ยังคงติดอยู่กับกับดักทางสังคมบางอย่าง ในยุคที่เทรนด์ต่างๆ ไวรัลราวกับไฟป่าผ่านโซเชียลมีเดีย และดูเหมือนว่าทุกคนจะไล่ตามความสุขในแบบเดียวกันจนหลงลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการได้เป็นตัวของตัวเอง ได้พูดในสิ่งที่ตัวเองคิด ได้ทำในสิ่งที่ทำให้หัวใจเราเต้นแรง

.

แต่ก็ดูเหมือนว่าดีไซเนอร์จำนวนมาก พยายามกระตุ้นให้ผู้คนมีความชัดเจนในตัวตนผ่านงานดีไซน์ อย่างเช่น Coco Chanel ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการปฏิวัติแฟชั่นของผู้หญิงในศตวรรษที่ 20 สนับสนุนความเป็นปัจเจกบุคคล งานของเธอเน้นความสบาย ความเรียบง่าย และความสง่างาม ส่งเสริมให้ผู้คนแต่งตัวเพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อแฟชั่น “𝐓𝐡𝐞 𝐦𝐨𝐬𝐭 𝐜𝐨𝐮𝐫𝐚𝐠𝐞𝐨𝐮𝐬 𝐚𝐜𝐭 𝐢𝐬 𝐬𝐭𝐢𝐥𝐥 𝐭𝐨 𝐭𝐡𝐢𝐧𝐤 𝐟𝐨𝐫 𝐲𝐨𝐮𝐫𝐬𝐞𝐥𝐟.”

.

“กล้าหาญที่สุด” ชาแนล บอก

.

หนึ่งในโครงการบ้านที่กานต์มองว่ากล้าและน่าสนใจ มีแนวคิดในการให้ทุกคนนำเสนอตัวตนออกมา นั่นคือ BuGaan ซึ่งทวิสต์มาจากคำว่า “บ้านกู” เป็นภาษาไทยที่เข้าใจได้ในทันทีครับ

.

My Home Speaks for Myself เป็นวลีที่ชัดเจนมาก ใน Identity ที่ต้องการให้ทุกคน “มีความชัดเจนในตัวตน” โดยเฉพาะโครงการใหม่่ BuGaan พระราม 9 – เหม่งจ๋าย ที่ดีไซน์สวยมาก ฉีกทุกกฎเกณฑ์การออกแบบ เพื่อสร้างนิยามใหม่แห่งการอยู่อาศัยที่แตกต่างจาก Sansiri Luxury Collection

.

เราจึงได้เห็นดีไซน์บ้านรูปแบบใหม่ที่ให้ความโค้งมน ลดทอนเหลี่ยมมุมเพื่อให้เกิดฟอร์มคล้ายเส้นสายจากธรรมชาติที่พริ้วไหว เป็นงานสไตล์ Modern Organic Architecture ต่างจากการออกแบบโครงการบ้านทั่วไป Facade สีทองตัดสีดำทำให้ดูโมเดิร์นคลาสสิค รวมถึงการนำแนวคิด Inside – Out มาใช้วางแบบบ้าน ด้วยการใช้ผนังกระจกใสบานใหญ่ เปิดรับมุมมอง Green View ของสวนส่วนกลางและบรรยากาศทั่วไปในโครงการ ซึ่งมีบ้านเพียง 8 ยูนิตเท่านั้น ตอบโจทย์คนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

.

บ้านดีไซน์สุดจัดแบบนี้ กานต์ว่ามีให้เลือกอยู่ 2 ทางเท่านั้นคือ ไม่รัก … ก็เกลียดเลย

.

แต่เราคิดว่าน่าจะมีคนรักมากกว่านะครับ เพราะว่าประกาศปิดโครงการในทันทีที่เปิดจองวันแรก

.

ติดตามอ่านเรื่องราวของโครงการ BuGaan พระราม 9 – เหม่งจ๋าย พร้อมภาพถ่ายที่กานต์นำมาฝากกันต่อด้านในได้เลยครับ

.

สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร 1685

หรือคลิก https://siri.ly/7P1YTr2

ทันทีที่เข้าไปภายในโครงการ BuGaan พระราม 9 – เหม่งจ๋าย เราสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบในการพักอาศัย ด้วยความที่โครงการออกแบบให้มีระยะถอยร่นจากถนนหลักมากพอสมควร ทั้งๆ ที่ตั้งอยู่ในกลางเมือง แต่เรากลับแทบจะไม่ได้ยินเสียงรถราที่วิ่งอยู่ด้านนอกเลยครับ

เพราะอย่าลืมว่าโครงการตั้งอยู่ในซอยสหการประมูล ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ทำให้เราได้รับความสะดวกสบายในการเดินทาง ทั้งยังเชื่อมต่อกับถนนหลายสาย สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง แหล่งไลฟ์สไตล์ ใจกลางธุรกิจและทำเลอื่นๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น เอกมัย ทองหล่อ พระราม 9 ลาดพร้าว อโศก เพชรบุรี ประชาอุทิศ ฯลฯ
โดยรอบโครงการรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบและครบทุกไลฟ์สไตล์ เลยครับ มีทั้ง Creative Community ร้านอาหาร คาเฟ่เก๋ๆ มากมาย ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษามีโรงเรียนนานาชาติที่อยู่ใกล้บ้านมาก อาทิ KIS International School, Regent’s International School Bangkok และ Singapore International School of Bangkok อยู่แทบจะติดโครงการเลยครับ มีโรงพยาบาลชั้นนำ ทั้งโรงพยาบาลปิยะเวช, โรงพยาบาลพระราม 9, โรงพยาบาลกรุงเทพ และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ซึ่งกานต์ว่านี่เป็นทำเลที่ Rare Item มาก 
BuGaan พระราม 9 – เหม่งจ๋าย จากแสนสิริ เป็นโครงการแบรนด์ BuGaan ลำดับที่ 4 ซึ่งโครงการก่อนหน้านี้ กานต์ก็เคยพาไปชมมาแล้วครับ ดังนั้น สิ่งที่เราได้สัมผัสคือความชัดเจนของ Brand Identity ที่โดดเด่นในการสร้างตัวตนและสนับสนุนให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด
BuGaan พระราม 9 – เหม่งจ๋าย เป็นบ้านเดี่ยว สไตล์ Luxury Private Pool Villa 3 ชั้น พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า Young Successor ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เป็นกลุ่ม “HNWI” (High Net Worth Individual) รุ่นใหม่ที่น่าจับตา มีกำลังซื้อสูง มีรสนิยมและไลฟ์สไตล์ที่ชัดเจน
โครงการนี้มีเพียง 8 ยูนิตเท่านั้น บ้านทุกหลังจึงนำเสนอจุดเด่นเรื่องความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยได้เป็นอย่างดี ท่ามกลางสังคมแห่งการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ เป็นบ้านเสร็จก่อนขาย สามารถเข้าอยู่ได้ทันที ซึ่งตอนนี้บ้านทุกหลังขายหมดแล้วตั้งแต่วันแรกของการเปิดจองครับ เป็นเครื่องการันตีความสำเร็จของแบรนด์ว่ามาถูกทาง ในการสร้างตัวตนและคาแรกเตอร์ที่เด่นชัดและสื่อสารกลับไปยังกลุ่มลูกค้าหลัก แน่นอนว่าบ้านดีไซน์สุดจัดเช่นนี้ น่าจะตอบโจทย์ความต้องการของคนกลุ่มนี้ได้ดี
เมื่อมาถึงโครงการ ด้านหน้าโดดเด่นด้วยประตู Main Gate ขนาดใหญ่ดีไซน์โมเดิร์น โดดเด่นด้วยการเลือกใช้ผนังหินสีดำนำเข้า ตัดกับลายเส้นสีทอง สอดรับกันดีกับม่านน้ำพุ พร้อม Lawn หญ้าสีเขียวและพุ่มไม้ที่เป็น Layer ซ้อนด้านหลัง 

บรรยากาศของโครงการตั้งแต่ด้านหน้าทางเข้าไปจนถึงภายใน ร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ตลอดจนไม้ดอกและไม้พุ่ม ช่วยเพิ่มความสดชื่นทันทีที่กลับมาถึงบ้าน ไฮไลท์คือต้น Olive สายพันธ์ุ Farga อายุกว่าพันปีที่นำเข้ามาจากประเทศสเปน ซึ่งมีความหมายสื่อถึงสันติภาพ, ความหวัง, ความมั่งคั่ง, สุขภาพ, ความงาม, สติปัญญา, ชัยชนะ และความอุดมสมบูรณ์นั่นเองครับ 

ส่วนการรักษาความปลอดภัยของที่นี่จะเน้นความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยสูงที่เรียกว่า LIV-24 ซึ่งเป็นมาตรฐานของแสนสิริ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง มีระบบกล้อง CCTV โดยรอบ รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรเสริมด้วยระแนงที่สูงไปอีกเท่าตัว มี Digital Fence ตรวจจับความคลื่นไหวอัจฉริยะ ประตูรั้วโครงการแบบ Gated Community มีระบบ RFID Sensor อุปกรณ์ติดตั้งหน้ารถยนต์ เปิด-ปิดประตูอัตโนมัติ ส่วนการเข้า-ออกเป็นระบบ VMS System บันทึกภาพผู้มาติดต่อ รวดเร็ว และแม่นยำเพื่อสร้างความอุ่นใจ
David Collins ดีไซเนอร์ชื่อดังที่สร้างงานออกแบบสไตล์หรูหรามาโดยตลอด เน้นย้ำว่า “Quality design must have a sense of authenticity” สะท้อนให้เห็นว่าความหรูหราที่แท้จริงไม่ได้เป็นเพียงเกี่ยวกับความมั่งคั่งทางวัตถุเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับความสวยงามน่าดึงดูดใจที่ไร้กาลเวลา สามารถสะท้อนถึงตัวตนของคนที่เป็นเจ้าของเพื่อให้เกิดประสบการณ์ใหม่

เราเห็นได้จากการที่ BuGaan พระราม 9 – เหม่งจ๋าย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการบ้านหรูของ Sansiri Luxury Collection ที่มุ่งส่งมอบความเป็นเลิศผ่าน 3 ปรัชญา ตอกย้ำให้แสนสิริมีความเป็น Taste-Maker Brand ได้แก่ 

1. Refined Taste ดีไซน์ที่สะท้อนรสนิยมและไลฟ์สไตล์ให้โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วย Modern Organic Architecture ผสมผสานความเรียบหรูและเรียบง่ายเข้าไว้ด้วยกัน หน้าบ้านโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่มีความโค้งมน เส้นสายที่พริ้วไหวและดิ่งตรงเป็นความงดงามตามธรรมชาติ

2. Quality Material การใส่ใจในทุกรายละเอียดด้วยความพิถีพิถันผ่านวัสดุที่ดีที่สุดจากทั่วโลก ตลอดจนการรวบรวมเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์สวย ผลงานระดับ World Iconic Piece มาประดับไว้ภายในบ้านตัวอย่างเพื่อบ่งบอกรสนิยมของผู้พักอาศัย

3. Unparalleled Living Experience การส่งมอบประสบการณ์อยู่อาศัยที่เหนือระดับ ได้รับความส่วนตัวความปลอดภัยสูงสุดและสร้างความอุ่นใจในการพักอาศัย ตลอดจนบริการจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน Luxury กับ PLUS Luxury Management

BuGaan พระราม 9 – เหม่งจ๋าย นำเสนอโครงการผ่านแนวคิด “My Home Speaks for Myself – ใช้ชีวิตให้ “สุด” ในทุกแบบที่ต้องการ” เพื่อให้บ้านของเราเป็นได้มากกว่าบ้าน เพราะเป็นพื้นที่สะท้อนรสนิยมและความหลงใหลของผู้อยู่อาศัย ผ่านงานดีไซน์ที่บ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ของเรานั่นเองครับ 
กานต์พามาชมบ้านตัวอย่างคือแบบบ้าน Crest ขนาดพื้นที่ดิน 123.4 – 126.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 793 ตารางเมตร บ้านทุกหลังมาพร้อมลิฟต์และสระว่ายน้ำส่วนตัว ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 Living & Family Area พร้อมห้องรับประทานอาหาร ครัวขนาดใหญ่ ห้องแม่บ้าน 2 ห้อง พร้อม Maid Area และลานซักล้าง มีพื้นที่ด้านข้างสำหรับเป็น Back of House ใช้เป็นทางเข้า-ออกของแม่บ้านเพื่อให้ไม่รบกวนการพักอาศัย

ส่วนด้านหน้าบ้านจอดรถได้ 5 คัน โดยทางโครงการได้ติดตั้งรั้วเป็นรางเลื่อนพร้อมประตูมอเตอร์ไฟฟ้า ติดตั้ง Wallbox ระบบไฟ 3 เฟสสำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเอาไว้ให้แล้วครับ
เมื่อเข้ามาภายในจะพบกับ Arrival Hall ขนาดใหญ่ ผนังด้านในเลือกใช้สีเบจทำให้บริเวณนี้ดูโปร่งโล่งสบาย เวลากลับมาจากที่ทำงานแล้วเดินเข้าบ้านจะได้รู้สึกผ่อนคลาย หายเหนื่อยทันทีที่มาถึง 

ประตูหน้าบ้านแบบ Over Scale เป็นบานคู่ปิดผิวลายไม้ มือจับขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกแกรนด์มาก พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock มาให้เรียบร้อย พื้นปูด้วยกระเบื้องลายกราฟฟิคที่ให้ฟีลแบบ Mid-Century หน้าประตูยังติดตั้งแผงควบคุมระบบต่างๆ ภายในบ้าน นอกจากนี้ โครงการยังได้ติดตั้ง Magnetic & Shock Sensor, Smoke Detector, Heat Detector เอาไว้ให้แล้ว
เมื่อเปิดประตูเข้ามาเบื้องหน้าจะมองเห็นวิวสระว่ายน้ำและสวนสีเขียว ช่วยเติมความสดชื่นทันทีที่กลับมาถึงบ้าน บ้านตัวอย่างจัดวางคาร์บิเนททำจากหินอ่อนสีไวท์พิงก์ เป็นพื้นที่สำหรับวางของเล็กๆ พร้อมสตูลทรงเตี้ยสำหรับใช้นั่งสวม-ถอดรองเท้าระหว่างเข้า-ออก บ้าน ทำให้สะดวกมากขึ้น
ลองถ่ายมุมนี้ในตอนกลางคืน ยามได้ต้องแสงไฟก็ดูสวยไปอีกแบบครับ เตรียมพร้อมสำหรับปาร์ตี้ในคืนนี้ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งมุมในบ้านที่กานต์ประทับใจมากครับ
บริเวณ Arrival Hall จะแยกประตูทางเข้าบ้านออกเป็น 2 ฝั่ง เราเริ่มจากทางด้านซ้ายมือกันก่อนนะครับ

บริเวณนี้จะเป็นโถงของ Living Area ด้านหน้ามีห้องแยกเข้าไปด้านในอย่างเป็นสัดส่วน ออกแบบเป็น Shoes Storage ขนาดใหญ่เลือกใช้สีน้ำตาลทองรูปทรงเกือกม้า เป็นพื้นที่สำหรับจัดเก็บรองเท้า หรือจะใช้เป็นห้องเก็บของเช่นถุงกอล์ฟ หรือเก็บกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ก็ได้เช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นบ้านสำหรับคนที่ชอบเดินทางแบบกานต์เลยครับ เพราะสามารถเดินทางไป-กลับสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิได้ไม่ไกลมาก ใช้เวลาประมาณ 25-30 นาทีเท่านั้น
“𝑻𝒓𝒖𝒆 𝒍𝒖𝒙𝒖𝒓𝒚 𝒊𝒔 𝒃𝒆𝒊𝒏𝒈 𝒂𝒃𝒍𝒆 𝒕𝒐 𝒐𝒘𝒏 𝒚𝒐𝒖𝒓 𝒕𝒊𝒎𝒆 – 𝒕𝒐 𝒃𝒆 𝒂𝒃𝒍𝒆 𝒕𝒐 𝒕𝒂𝒌𝒆 𝒂 𝒘𝒂𝒍𝒌, 𝒔𝒊𝒕 𝒐𝒏 𝒚𝒐𝒖𝒓 𝒑𝒐𝒓𝒄𝒉, 𝒓𝒆𝒂𝒅 𝒕𝒉𝒆 𝒑𝒂𝒑𝒆𝒓, 𝒏𝒐𝒕 𝒕𝒂𝒌𝒆 𝒕𝒉𝒆 𝒄𝒂𝒍𝒍, 𝒏𝒐𝒕 𝒃𝒆 𝒄𝒐𝒎𝒑𝒆𝒍𝒍𝒆𝒅 𝒃𝒚 𝒐𝒃𝒍𝒊𝒈𝒂𝒕𝒊𝒐𝒏.”

– Ashton Kutcher
ภายในเป็น Common Area ที่มีขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ ถัดเข้าไปด้านในเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่าง Living Area ส่วนรับประทานอาหารและครัวยุโรป แบ่งสันปันส่วนแยกฟังก์ชันกันได้อย่างลงตัว 

จะสังเกตว่า การออกแบบบ้านมาตรฐานจะเป็น Open Plan เพื่อให้เราสามารถรังสรรค์จัดวางฟังก์ชันการใช้สอยภายในบ้านได้ตามใจและตรงตามไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัวได้ดีกว่า เพื่อให้ตอบโจทย์ที่สุดของการอยู่อาศัยภายในบ้านของคนทุก Generations

บรรยากาศภายในบ้านเป็นโทนสีเบจดูเรียบหรู ให้ความอบอุ่น ล้วนเป็นการเลือกสรรสีจากธรรมชาติเข้ามาช่วยขับเน้นความสง่างามและมีรสนิยมของผู้อยู่อาศัย ด้วยการดึงงานออกแบบโมเดิร์นนำมาทำให้มีความละมุนขึ้น ดูงดงามไร้กาลเวลา Living Area ขนาดใหญ่ สูงโปร่งแบบ Double Volume เปิดรับช่องแสงผ่านหน้าต่างทรงสูงทั้ง 2 ด้าน 

มุมนี้ จัดวางชุดโซฟาสีน้ำตาลขนาดใหญ่จาก De Sede ซึ่งเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์เก่าแก่จากสวิสเซอร์แลนด์ ความเก๋ก็คือสามารถปรับเปลี่ยนฟอร์มของโซฟาให้เป็นดีไซน์ที่เข้ากับภายในบ้านได้
ฝ้าเพดานแขวนโคมไฟ Levante ออกแบบโดย Marco Spatti ดีไซเนอร์ชาวอิตาลีที่เน้นงานแบบเรียบหรู Oriental Aesthetics ทำให้ล้อไปกับงานดีไซน์ภายนอกของบ้านที่ให้ความโค้งมนพร้ิวไหวไปตามธรรมชาติ 

มุมนี้ยังออกแบบให้เป็นผนังกระจกโปร่งใสทรงสูง มองเห็นสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่ภายในบ้าน เราสามารถติดตั้งม่านโปร่งและม่านทึบเพิ่มเติมได้ ซึ่งหากเปิดม่านออกไป เราจะได้มองเห็นวิวสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้านและวิวสวนสีเขียว ทำให้เป็นบ้านที่ดูมีสีสัน มีชีวิตชีวาจากธรรมชาติ ด้วยสีน้ำตาลของโซฟาหนังแท้ เข้ากันดีกับสีเขียวของต้นไม้และสีฟ้าจากน้ำ ทำให้รู้สึกสดชื่นสบายใจ เมื่อได้นั่งพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน
สามารถเปิดประตูออกไปเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ภายในและภายนอกเข้าด้วยกันได้ เกิดเป็นฟีลสบายๆ ที่ดีไซน์มาให้เหมาะกับสมาชิกทุกคนในบ้าน และหากว่ามีพูลปาร์ตี้หรือกิจกรรมภายนอกบ้านก็สามารถเปิดออกได้
บ้านตัวอย่างจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 8 ที่นั่ง เราสามารถปรับให้มากกว่านั้นได้ครับ เป็น Long Table ยังได้เลยครับ เพราะเราดูแล้วมี Space เพียงพอเหลือเฝือ

ถัดจากโต๊ะรับประทานอาหาร โครงการได้ติดตั้ง Pantry สำหรับจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มที่ประยุกต์ให้เป็นบาร์ไปในตัว ส่วนเคาน์เตอร์ด้านหลังติดตั้งอ่างล้างจานและตู้ Built-In สำหรับติดตั้งเตาอบ มีตู้เย็นขนาดใหญ่ซ่อนเอาไว้ด้านใน เพื่อให้ดูสวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อย
ส่วนตัวเราชอบการเชื่อมต่อกันของฟังก์ชันพักผ่อนในโซน Dining ที่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีให้กับเจ้าบ้านและแขก หรือแม้แต่กับคนในครอบครัวด้วยกันเองนับเป็นการออกแบบที่เป็นไปตามคอนเซปต์โครงการที่อยากจะเชื่อมต่อทุกคนภายในบ้านเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้บ้านเสมือนเป็นสถานที่ของทุกคน เพราะเป็นทั้งมุมนั่งเล่น รับรองแขก รับประทานอาหารและสังสรรค์ไปในตัว ออกแบบให้มีทั้งมุมนั่งเล่นแบบโซฟาเล้าจน์ เก้าอี้สตูลบาร์บาร์ สามารถมานั่งจิบเครื่องดื่มเบาๆ เปิดเพลงฟังเคล้าคลอ ก่อนที่เราจะไปนั่งโต๊ะรับประทานอาหารมื้อหลักร่วมกัน
ด้านในมีครัวไทยแยกออกไปอย่างเป็นสัดส่วน จัดวางเคาน์เตอร์เป็นรูปตัวแอล (L-Shape) ทั้ง 2 ฝั่งวางขนานกันไปเป็นแนวลึก จัดวางเตาและติดตั้ง Hob & Hood เปิดพื้นที่ด้านข้างสำหรับติดตั้งตู้เย็น 2 ประตูขนาดใหญ่ ส่วนอีกฝั่งเป็นอ่างล้างจานติดตั้งแบบ 2 หลุมมาให้พร้อมช่องเปิดระบายอากาศด้านข้าง Buit-in ตู้เก็บของมีบานปิดบนและล่างมาให้แล้วเพื่อสะดวกในการใช้งาน
บริเวณนี้จะมีห้องน้ำสำหรับลูกบ้านและแขกใช้งานร่วมกัน ออกแบบมาให้เป็น Powder Room คือเป็นห้องน้ำที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ แต่ยังคงตกแต่งได้อย่างหรูหรามีระดับ ทั้งห้องพื้นและผนังกรุด้วยหิน Arabescato Orobico นำเข้าจากอิตาลี ภายในติดตั้งอ่างล้างมือจาก Kohler พร้อมกระจกเงา ตลอดจนสุขภัณฑ์ให้เป็นของ Kohler เช่นกันครับ 

ลึกเข้าไปด้านในทางปีกซ้ายของบ้านจะเชื่อมต่อกับส่วนการทำงานของแม่บ้าน ออกแบบให้มีประตูเพื่อกั้นเป็นโซน Back of House คือทางเข้าออกของแม่บ้านเพื่อไปยังห้องนอน ต่อเนื่องไปจนถึงพื้นที่ซักล้างด้านหลัง แยกฟังก์ชันได้ชัดเจนดี ทำให้เราสามารถปิดประตูกั้นโซนได้หากต้องการความเป็นส่วนตัว
นอกจากความเป็น Ultra Luxury Residences ขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเยอะแล้ว โครงการยังออกแบบพื้นที่แต่ละจุดแยกเอาไว้อย่างเป็นสัดส่วน ทืำให้สะดวกต่อการใช้งานและปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ โดยเฉพาะบ้านที่มีแขกมาเยี่ยมบ่อยๆ หรือมาพบปะพูดคุยธุรกิจ มีมุมรับแขกที่แยกตัวออกไปทำให้ได้รับความเป็นส่วนตัวสูง ส่วนพื้นที่และห้องอื่นๆ ก็สามารถปรับได้เช่นกันครับ
อันที่จริงพื่้นที่ชั้นล่างสามารถปรับเป็นห้องนอนหรือห้องทำงานได้หากมีความจำเป็นต้องใช้งาน ก็ทำให้มีความเป็นส่วนตัวดีครับ
บ้านตัวอย่างปรับเป็น GU Space สำหรับสังสรรค์แบบส่วนตัวกว่า สำหรับกลุ่มเพื่อนสนิทหรือสร้างความประทับใจในการพูดคุยธุรกิจกัน โดยออกแบบให้ส่วนหน้าเป็นเคาน์เตอร์สำหรับจัดเตรียมอาหาร เครื่องดื่ม พร้อมเครื่องครัวแบบฟูลเซ็ท สามารถจัดเชฟเทเบิล โดยเชิญเซเลปบริตี้เชฟมาทำอาหารให้เราทานที่บ้านแบบ Exclusive ได้ และทำเป็นบาร์ขนาดย่อม ให้เราสามารถนั่งดื่มในมุมนี้ก่อนได้
ด้านในจัดวางโต๊ะสำหรับนั่งพูดคุย รับประทานอาหารในแบบไม่เป็นทางการมากนัก เน้นรูปทรงของที่นั่งเป็นวงกลมให้ล้อไปกับภาพรวมของงานดีไซน์ พร้อมเปิดวิวให้เห็นสระว่ายน้ำเพื่อเพิ่มความสดชื่นและสามารถเปิดออกประตูไปใช้เป็นพื้นที่ในการจัดพูลปาร์ตี้ก็ได้เช่นกัน
กานต์มองว่า หัวใจหลักของโครงการ BuGaan พระราม 9 – เหม่งจ๋าย คือเป็นบ้านออกแบบสวยที่เน้น Space + Function และการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัว เพราะแต่ละบ้านจะมีไลฟ์สไตล์ที่สุดจัดชัดเจนแตกต่างกันไป เห็นได้จากการออกแบบที่ “เผื่อ” อนาคตเอาไว้ของบ้าน

ดังนั้น GU Space จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างในการปรับฟังก์ชันของห้องต่างๆ ภายในบ้านมาทำเป็นห้องอเนกประสงค์ที่แยกออกมาจาก Main Hall ของบ้าน
GU Space เป็นพื้นที่สำหรับสังสรรค์นั่งดูหนังฟังเพลง กินดื่มเบาๆ ในบรรยากาศสบายๆ มาพร้อมกับห้องน้ำในตัวขณะเดียวกันก็สามารถปรับให้เป็นห้องนอนรองได้ถ้าจำเป็น
ขึ้นบันไดไปชมชั้น 2 กันบ้างครับ โครงการ BuGaan พระราม 9 – เหม่งจ๋าย ได้ติดตั้งลิฟต์โดยสารให้ภายในบ้านทุกหลังเพื่อความสะดวกในการเชื่อมต่อแต่ละชั้น พร้อมฟังก์ชันของบันไดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการขึ้น-ลง

บันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กลูกตั้งและลูกนอนเป็นไม้ Engineering Wood ลายไม้สีน้ำตาลดูเรียบหรู พร้อมมือจับเป็นไม้ บันไดเป็นรูปทรง U-Shape มีชานพักพร้อมกับเปิดช่องแสงธรรมชาติเอาไว้บริเวณระหว่างชั้น ข้อดีก็คือจะช่วยให้บ้านมีแสงส่องสว่างจากภายนอกเข้ามาภายใน ผสานกับแสงไฟ หักเหจนเกิดเป็นแสงและเงาราวกับงานศิลปะ
ชั้น 2 ออกแบบให้มี Living Area ขนาดใหญ่อีก 1 จุด โดยเปิดช่องแสงจากทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้บ้านดูสว่างมากในตอนกลางวันโดยแทบไม่ต้องเปิดไฟ จัดวางชุดที่นั่งโซฟาขนาดใหญ่ดีไซน์ฟรีฟอร์มเพื่อให้รู้สึกฟีลฟรีในการนั่งพักผ่อนที่มุมนี้กับสมาชิกในครอบครัว
ชั้น 2 จะปูด้วยพื้น Engineering Wood ลายไม้ให้ความรู้สึกถึงสัมผัสจากธรรมชาติ ส่วนด้านหน้าทางเข้าชั้น 2 ออกแบบให้มี Rest Area สำหรับนั่งพักผ่อนอ่านหนังสือ เพราะมีชั้นวางหนังสือขนาดใหญ่ติดตั้งเอาไว้ที่นี่ เป็นพื้นที่แห่งความผ่อนคลายสบายใจ
บรรยากาศภายในพื้นที่พักผ่อนสำหรับสมาชิกในครอบครัวบนชั้น 2 ออกแบบให้มีความเป็น Moment of Joy Living เพื่อให้เรามีความสุขกับทุกช่วงเวลาของชีวิต และทำกิจกรรมพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว ชีั้นนี้เราดูแล้วมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น มีความสดใส สนุกสนาน แต่ยังคงความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย ด้วยช่องแสงขนาดใหญ่ส่องผ่านกระจกเข้ามาถึง 2 ด้าน มองเห็น Green View รายล้อมโครงการ
ด้วยความที่เราไปถ่ายภาพตอนช่วงเช้าจนถึงค่ำ ทำให้ได้เห็นการหักเหของแสงและเงาเข้าบ้านผ่านผนังกระจกบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน กลายเป็นเฉดที่สวยงามตามธรรมชาติที่ส่องผ่านเข้ามา พอได้เวลาเย็นก็เป็นเงาจากแสงไฟที่ตกกระทบทำให้บ้านดูมีมิติที่หลากหลายมากขึ้น
กานต์ชอบกิมมิคของงานออกแบบที่นำเสนอความเป็น Inside out & Outside in ให้รู้สึกเชื่อมต่อกันทั้งพื้นที่ภายนอกและภายใน ทำให้เวลาพักผ่อนอยู่ภายในบ้านก็ยังรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาตินอกบ้าน ทุกมุมเชื่อมต่อกันอย่างไร้ขอบเขต ทุกห้องของบ้านสามารถชมวิวสระว่ายน้ำและต้นไม้ใหญ่ที่อยู่กลางบ้านได้ ไม่ว่าเราจะอยู่ห้องไหนหรือชั้นใดของบ้าน
เราถ่ายรูปมุมนี้มาให้ดูในหลายช่วงเวลาเพื่อที่จะได้สัมผัสถึงความงามตามธรรมชาติภายในบ้านตั้งแต่ช่วงเช้าที่มีแดดสาดส่องเข้ามา ตอนบ่ายที่ให้แสงสว่างจากธรรมชาติและตอนค่ำที่มีโคมไฟเป็นพระเอกภายในบ้าน เป็นฟีลลิ่งที่งดงามแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาครับ
ฝั่งด้านหน้าบ้านจะมองเห็น Green View พื้นที่สีเขียวจากสวนส่วนกลาง เปิดรับมุมในทุกองศาแบบพาโนรามิค ราวกับเป็นงานศิลปะที่มีชีวิตให้เราได้มองดูความสวยงามตามธรรมชาติที่เปลี่ยนผันไปตลอดเวลา
เปิดประตูออกไปนั่งที่ระเบียงด้านนอก มี Pocket Garden จัดเอาไว้ให้เป็นพื้นที่สีเขียวแบบส่วนตัวในบ้านที่เชื่อมบริบทกับสวนส่วนกลาง สามารถนั่งเก้าอี้เพื่อมองดูวิวนี้ได้ทั้งวัน บรรยากาศค่อนข้างเงียบ มุมนี้ Vibes ดีมากครับ เหมาะสำหรับนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ จิบกาแฟยามเช้า หรือนั่งพักเหนื่อยในวันหยุดหลังจากทำงานหนักมาตลอดทั้งสัปดาห์ 

ส่วนอีกฝั่งด้านหลังบ้านจะมองเห็นวิวของสระว่ายน้ำและสวนพร้อมกับพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกันแบบ Double Volume จากชั้นหนึ่งสู่ชั้น 2 ผมชอบฟีลลิ่งของบ้านแบบนี้มาก ให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติแม้จะอยู่ภายในบ้านก็มีแสงแดดส่องผ่านและมีบรรยากาศของต้นไม้สีเขียว
ชั้น 2 จะมีห้องนอนรองที่อยู่บริเวณโซนด้านหลังบ้าน ห้องนอนนี้ตกแต่งด้วยคู่สีฟ้า-ส้ม ซึ่งทำให้โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ของบ้าน BuGaan โดยเฉพาะ

ภายในห้องตรงกลางจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ ผนังด้านหนึ่งเปิดโล่งด้วยกระจกใสเพื่อรับแสงจากธรรมชาติ และมองออกไปสามารถเห็นวิวสระว่ายน้ำที่อยู่เบื้องล่างได้
หัวเตียงจัดวางโต๊ะเตี้ยสำหรับวางข้าวของต่างๆ เช่น โทรศัพท์ หนังสืออ่านก่อนนอน หัวเตียงกรุด้วยสีฟ้าที่ดูเรียบหรูไม่ฉูดฉาดจนเกินไป ส่วน Element อื่นๆ ภายในห้องก็ช่วยขับดันให้ดูมีเสน่ห์โดดเด่นมาก โดยเฉพาะเมื่อยามต้องแสงไฟ Warm Light ต้องยอมรับว่า ดีไซเนอร์ได้ตกแต่งภายในห้องนี้ให้มีความโดดเด่นจริงๆ ผมชอบมาก
ด้านในเป็นห้องแต่งตัวขนาดใหญ่เราใช้คำว่า “ห้อง” ถูกแล้วครับ เพราะแยกออกไปชัดเจนอย่างเป็นสัดส่วน มาพร้อมกับตู้เสื้อผ้าประดับรอบฝาผนังทุกด้าน เสริมทริกการออกแบบด้วยกระจกเงาทำให้เรารู้สึกถึงความกว้างและผนังที่เป็นแพทเทิร์นเดียวกันทั้งหมด มีเพียงโคมไฟระย้าจาก Lorenzo ประดับด้วยจานแก้วสีเหลืองอำพัน ช่วยทำให้ห้องนี้ดูสวยงามโดดเด่นแบบไม่ต้องประโคมเฟอร์นิเจอร์เข้ามาช่วยกันตกแต่งเยอะๆ 

ส่วนด้านในสุดเป็นห้องน้ำที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่แท้จริง
จริงๆ แล้วทั่วทั้งชั้นนี้จะให้ความรู้สึกถึงเพนท์เฮ้าส์สำหรับห้องนอนหลัก แต่กั้นส่วนห้องนอนไว้อีกประตูเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น เห็นได้จากการที่ด้านหน้าห้องนอนหลักจัดวางเป็นโต๊ะกลมจัดวางเก้าอี้ 4 ที่นั่ง เหมาะสำหรับมานั่งจิบเครื่องดื่มอุ่นๆ ก่อนนอนสักแก้ว หรือตื่นนอนตอนเช้าแล้ว แม่บ้านก็สามารถเสิร์ฟชา กาแฟและอาหารเช้าได้ที่ชั้นบนนี้ได้เลยครับ
Master Bedroom มีขนาดใหญ่มากกินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของบ้านฝั่งซ้ายขนานไปกับความกว้างของบ้าน ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้สอยภายในเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว 

ด้านหน้าเมื่อเปิดเข้ามาจาก Family Area จะยังไม่ใช่ส่วนพักผ่อนหรือมุมเตียงนอน เพราะเป็นการออกแบบที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวเป็นสำคัญ ดังนั้น เตียงนอนจะถูกจัดไว้บริเวณห้องที่ถัดเข้าไปด้านใน ทำให้ได้ความเป็นส่วนเมื่อเปิด-ปิดประตู พื้นที่ส่วนแรกจึงเป็นโต๊ะเครื่องแป้งแต่งหน้าแต่งตัว มีกระจกเงาบานใหญ่พร้อมด้วยเก้าอี้สตูลสำหรับแต่งหน้า
ห้องนี้เป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว อยู่ถัดเข้าไปด้านในพร้อมมุมแต่งตัว โดยตู้เสื้อผ้าจะเป็น Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำ โดดเด่นด้วยโคมไฟระย้าดีไซน์รูปดอก Lilypad สีขาวอยู่ตรงกลางห้องดูสวยเก๋มาก
ตู้เสื้อผ้าแบบสมมาตรแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคั่นกลางด้วย Island เก็บเครื่องประดับแบบส่วนตัว ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่การใช้งานระหว่างคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยความที่ออกแบบให้ห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet อยู่ติดกับห้องน้ำใช้พื้นที่ต่อเนื่องกัน ทำให้สะดวกเวลาออกจากห้องน้ำมาก็สามารถแต่งตัวต่อได้เลยจบในจุดเดียว
Master Bathroom มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่สีขาวดำ เป็นห้องน้ำที่กานต์คิดว่าสวยที่สุดตั้งแต่เคยถ่ายรูปมาเลยครับ 

ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้งเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว โดดเด่นด้วยกระจกเงาบานใหญ่ขนาดรับกันพอดีกับอ่างล้างหน้าทั้ง 2 หลุมแบบ His & Her พร้อมสุขภัณฑ์แบบ Washless อีกด้านติดตั้ง Shower Box พร้อมฝักบัวและ Rain Shower มาให้เรียบร้อยแล้ว
บริเวณโซนพักผ่อนถูกออกแบบให้อยู่ด้านในสุด กั้นด้วยผนังเบาพร้อมทำซุ้มประตู้โค้งขอบไม้อีกชั้น เพื่อให้เกิดความรู้สึกเป็นส่วนตัวสำหรับมุมพักผ่อน
ภายในเราสามารถจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ได้เพราะมีพื้นที่กว้างเดินได้รอบเลยครับ ตกแต่งในสไตล์คลาสสิคเรียบง่ายที่ให้ความรู้สึกหรูหรา มีกลิ่นอายแบบ Mid-Century ด้วยการเลือกใช้ดีไซน์ของเตียง โต๊ะหัวเตียง โคมไฟ พรม ตลอดจนการจับคู่สีน้ำตาล ขาว ดำที่ทำออกมาได้น่าสนใจ 

เตียงนอนมีระยะห่างมากพอที่จะติดตั้งทีวีจอใหญ่บริเวณปลายเตียง สามารถจัดวาง Cabinet สำหรับสมาร์ททีวีขนาดใหญ่หรือจะเลือกเป็นทีวีแบบแขวนผนังก็ได้ให้เรานอนชมซีรีย์เรื่องโปรดจากบนเตียง หรือนั่งชมจากโซฟาที่อยู่ริมหน้าต่างได้สบายๆ ในช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนได้เลยครับ
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ นั่งเล่นภายในห้องนอนสำหรับนั่งพักผ่อนบนอาร์มแชร์สีเทาควันบุหรี่ที่ดูสบายตา หรือว่าจะใช้เป็นมุมทำงานภายในห้องนอน สำหรับนั่งเซ็นต์เอกสาร อ่านหนังสือหรืออัพเดทเทรนด์โซเชียลมีเดียเล็กๆ น้อยๆ ในช่วงก่อนเข้านอน
เรากดลิฟต์ขึ้นมาชั้น 3 กันบ้าง
เรากดลิฟต์ขึ้นมาชั้น 3 กันบ้าง ขึ้นมาปุ๊บจะพบกับห้องนอนรองห้องแรก ภายในห้องนี้ตกแต่งในสไตล์โทนสีจัดจ้านสดใสตามประสาทีนเอจ ที่มีความชื่นชอบในเรื่องแฟชั่น ศิลปะ ทว่ายังมีความละมุนด้วยสีขาวสบายตา
ส่วนพักผ่อนจัดวางเตียงนอนไว้ตรงกลาง มีโต๊ะหัวเตียงพร้อมโคมไฟทั้ง 2 ฝั่ง ผนังหัวเตียงประดับด้วยโคมไฟ ส่วนมุมห้องด้านในเป็นเก้าอี้สำหรับทำงานอ่านหนังสือ เพื่อให้มีพื้นที่ส่วนตัวภายในห้องนอนของตัวเองตามสไตล์คนรุ่นใหม่ ปลายเตียงเป็นชั้นวางทีวีที่มีตู้เก็บของในตัว พร้อมกับประตูเชื่อมต่อไปยังห้องแต่งตัวแบบ Walk-in closet ที่มีขนาดใหญ่เช่นกัน เหมาะสำหรับสาวๆ ที่หลงใหลในเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว สามารถจัดเก็บเสื้อผ้า กระเป๋า แอคเซสเซอรี่ได้จุใจ
บ้านตัวอย่างออกแบบตู้เสื้อผ้าได้เรียบหรูดีครับ ดูภายนอกเหมือนตู้เสื้อผ้าธรรมดาไม่น่าจะมีอะไร แต่ถ้าเปิดตู้ไปผมจินตนาการไปถึงความเป็น Fashionable ของวัยรุ่นยุคนี้คงเต็มไปด้วยสีสันและแพทเทิร์นที่เก๋ไก๋ทันสมัยผมชอบมาก
ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องน้ำในตัวครับ ถือว่ามีขนาดค่อนข้างกว้างเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของบ้านหลังนี้ที่อยากจะเน้นคือการให้ Space ขนาดใหญ่กับห้องน้ำภายในห้องนอนเพราะถือเป็นพื้นที่ส่วนตัว
ติดกันเป็นห้องนอนรองที่ปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องทำงาน และมีห้องน้ำในตัวเช่นกัน เพราะอย่างที่เคยบอกไปว่า ทุกห้องในบ้าน ล้วนเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ที่สามารถออกแบบได้ตามใจ ซึ่งโดยหลักของการออกแบบที่ผมเคยเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้คือ Open Plan การออกแบบจึงเปิดให้มีความยืดหยุ่นในการใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่และตรงตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยในบ้าน
ยอมรับเลยว่า โครงการออกแบบให้มีฟังก็ชันการใช้สอยเยอะมาก ให้เราปรับได้ตามไลฟ์สไตล์และความสนใจ และยังมีพื้นที่ว่างเล็กๆ บริเวณชั้นบน ซึ่งผมตั้งใจว่าจะจัดวางงาน Installation Art เก๋ๆ กลางบ้านเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีประตูกระจกบานใหญ่ที่เปิดรับวิวและแสงธรรมชาติจากภายนอกฝั่งด้านหลังบ้านเข้ามา สามารถเปิดออกไปยังระเบียงเพื่อนั่งเล่นรับลมหรือชมวิว เป็นมุมอ่านหนังสือพิมพ์ยามเช้า หรือจิบชาชมวิวพระอาทิตย์ตก มีชุดเก้าอี้สนามจัดวางเอาไว้ด้านนอก เราสามารถจัดวางไม้กระถางได้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน จนกลายเป็นมุมสำหรับนั่งเล่นนั่งคุยกับสมาชิกในครอบครัว ผมว่าดูเป็นกันเองดีครับ
ชั้น 3 มีห้องนอนหลักอีกห้องซึ่งถือว่ามีขนาดกว้างมากเช่นกัน กินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของตัวบ้านปีกซ้าย แบ่งฟังก์ชันการใช้สอยภายในห้องได้หลากหลายและลงตัวดีครับ ทางเข้าห้องประดับภาพศิลปะแนว Abstract เป็นการสะท้อนรสนิยมของผู้พักอาศัยในระดับไฮ-เอนด์ที่นิยมสะสมงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซจากศิลปินชั้นนำ เพื่อบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ ความคิด ความอ่าน ความชอบของเจ้าของบ้านผ่านงานอาร์ต
เมื่อเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง ด้านหน้าออกแบบให้เป็นห้องแต่งตัวก่อน เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวขณะพักผ่อน เราจะยังไม่เจอเตียงนอนในทันที ดีไซน์ตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet ติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดานเอาไว้ ดูหรูหราด้วยแสงไฟส่องสว่างสี Warm เข้ากันดีกับชุดเฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลทอง ตรงกลางมีโต๊ะเครื่องแป้ง และ Island เก็บเครื่องประดับแบบส่วนตัว ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
ด้วยความที่ออกแบบให้ห้องแต่งตัวอยู่ติดกับห้องน้ำใช้พื้นที่ต่อเนื่องกัน ทำให้สะดวกเวลาออกจากห้องน้ำมาก็สามารถแต่งตัวต่อได้เลยจบในจุดเดียว การออกแบบจะเน้นความโปร่งสบาย เนื่องด้วยขนาดพื้นที่ของบ้านที่กว้างใหญ่อย่างที่บอกไป ภายในห้องน้ำพร้อมออกแบบฟังก์ชันการใช้งานที่แบ่งสัดส่วนได้ดี มีพื้นที่แยกส่วนเปียกแห้ง โดดเด่นด้วยกระจกเงาบานใหญ่ขลิบทอง มาพร้อมกับอ่างล้างหน้าหินอ่อนที่ทำให้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น
ภายในห้องเปิดช่องแสงจากธรรมชาติภายนอกฝั่งด้านหลังบ้าน เปิดให้แสงส่องสว่างเข้าตลอดทั้งวันโดยแทบไม่ต้องเปิดไฟ มองไปจะเห็นวิวสระว่ายน้ำท่ามกลางบรรยากาศของสวน 

บ้านตัวอย่างตกแต่งห้องนอนนี้ในโทนเขียวมะกอกตัดด้วยสีขาวและสีน้ำตาลดูคลาสสิคมากเลยครับ ส่วนพักผ่อนจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่คิงส์ไซส์ได้เลยครับ รับกับผนังหัวเตียงสีน้ำตาลประดับโคมไฟส่องสว่างเพื่อให้ดูมีความคลาสสิค มีตู้เล็กๆ สีเขียวจัดวางไว้บริเวณหัวเตียง
ส่วนปลายเตียงจัดให้มีที่นั่งสำหรับอ่านหนังสือเล่มโปรดที่อ่านค้างไว้ในช่่วงเวลาพักผ่อนส่วนตัว หรือใช้จะเป็นพื้นที่สำหรับเอกเขนกได้ตามใจ ผนังอีกด้านติดตั้งกระจกเงาดีไซน์โค้งมนเพื่อลดทอนความแข็งกระด้างของบ้านทรงสี่เหลี่ยม ทำให้บรรยากาศภายในดูละมุนใจ เบาสบายเหมาะสำหรับการพักผ่อน
BuGaan พระราม 9-เหม่งจ๋าย เป็นโครงการที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย เพราะขายหมดในทันทีที่เปิดตัว สะท้อนถึงเรียลดีมานด์ที่มีอยู่จริงกับบ้านระดับ Luxury ขึ้นไป โครงการดีไซน์คาแรกเตอร์ของแบรนด์ไว้เด่นชัด ทำให้จับกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด ตัวบ้านมีความสวยงามหรูหรามาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่ดูแปลกตาไปจากโครงการบ้านทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพตอบโจทย์ทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์

ใครสนใจสามารถดูข้อมูลและลงทะเบียนรับข่าวสารก่อนใครได้ที่ https://siri.ly/7P1YTr2 หรือโทรหาแสนสิริ คอลเซ็นเตอร์ได้ที่เบอร์ 1685 
KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน