อะไรที่เป็นอเมริกัน มักจะได้รับความนิยมจากคนญี่ปุ่นเสมอ
และอะไรที่เป็นญี่ปุ่น มักจะได้รับความนิยมจากคนไทยเสมอ
ผม กับ ร้านกาแฟ BLUE BOTTLE ก็เช่นกัน
ร้านนี้สัญชาติอเมริกันที่ดังมากในหนู่คนรักการดื่มกาแฟ ยิ่งเป็นที่นิยมของเหล่าคนดัง เซเลประดับโลก ยิ่งทำให้กระแสดีมากขึ้นไปอีก
ดังในอเมริกาไม่พอ ยังตามมาดังต่อในญี่ปุ่น
ปรัชญาของกาแฟ BLUE BOTTLE ที่ James Freeman ผู้ก่อตั้งวางเอาไว้ก็คือ การมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการดื่มกาแฟ
คล้ายๆ ว่าจะพูดเหมือน “APPLE”
ไม่ได้พูดเปล่า เขาลงมือทำด้วย
JAMES FREEMAN เปิดร้านกาแฟ เพราะต้องการกาแฟที่ตอบโจทย์ของเขา ไม่ว่าจะเป็น
กาแฟที่ให้รสสัมผัสที่เบา
มีกลิ่นที่เป็นธรรมชาติของกาแฟแท้
บาริสต้าบรรจงดริปกาแฟแต่ละแก้วด้วยความประณีต ดุจการสร้างงานศิลปะ
ตลอดจนการส่งผ่านจิตวิญญาณของร้านกาแฟ สื่อสารจากบาริสต้า ไปหาผู้ดื่ม
ดังนั้น อย่าได้แปลกใจ หากบาริสต้า จะสนทนากับเราอย่างออกรสออกชาติ โดยเฉพาะในเรื่องของกาแฟ ในระหว่างที่กำลังชง
การลดทอนบริบทอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับกาแฟออกไปให้คงเหลือเพียงแก้วกาแฟที่อยู่ตรงหน้า
เพื่อเสพคุณค่าจากการดื่มกาแฟ BLUE BOTTLE ให้ได้มากที่สุดในหลากมิติ
หน้าร้านแทบจะไม่มีอะไรโดดเด่น นอกไปจากประตูกระจกที่มีโลโก้ขวดน้ำสีฟ้าติดอยู่
ตกแต่งร้านด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย วัสดุคือไม้ กระจก โลหะ MINIMAL มากๆ
เข้าไปในร้านมีเพียงเค้าท์เตอร์ระดับเอว ที่เปิดโล่ง
เปลือยเปล่าในทุกขั้นตอนให้เราเห็นอย่างไม่ปิดบัง ว่ากว่าจะมาเป็นกาแฟ 1 แก้วในมือเรานั้น …
ผ่านอะไรมาบ้าง
บรรยากาศในร้านก็เรียบง่าย บางสาขามีโต๊ะสูง เค้าต์เตอร์บาร์ นั่งสตูล โต๊ะเตี้ย จะอินดอร์ก็ได้ ออกมานั่งจิบกาแฟหน้าร้านก็เข้าที
จะสั่งกาแฟจากเมล็ดแบบซิงเกิ้ล ออริจิ้น หรือเบลนด์ ก็ได้ เพื่อประสบการณ์ที่หลากหลายและแตกต่าง
ที่ญี่ปุ่น ผมไปตระเวนเดินดูหลายต่อหลายสาขาในโตเกียวไม่ว่าจะเป็น NAKAMEGURO KIYOSUMI ROPPONGI SHINJUKU
พบว่า BLUE BOTTLE สื่อสารอัตลักษณ์ของตนเองได้อย่างยอดเยี่ยม
ตามปรัชญาและจิตวิญญาณ
แม้จะมีมีคำว่า COFFEE แต่เมื่อเราเห็นปุ๊บ เราจะทราบได้ทันที ว่านี่คือ BLUE BOTTLE COFFEE SHOP
ทุกอย่างที่สัมผัสจาก BLUE BOTTLE ล้วนแล้วแต่สร้างความประทับใจให้กับผมทั้งสิ้น
จะไม่ชอบอยู่ก็เพียงเรื่องเดียว …
รอคิวนานมาก!!
