BELGRAVIA คือย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของลอนดอน ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ในยุควิกตอเรียนได้รับการจัดวางให้เป็นย่านที่อยู่อาศัยสำหรับชนชั้นสูงของลอนดอน การวางผังเมืองอย่างพิถีพิถันและการออกแบบที่ละเอียดอ่อนทำให้ BELGRAVIA กลายเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและความมีรสนิยม
.
สิ่งที่ทำให้ BELGRAVIA แตกต่างจากย่านหรูหราอื่นๆ คือความงดงามที่ไร้กาลเวลา ยังคงรักษาความมีเสน่ห์และความต้องการสูงมาตลอดเกือบสองศตวรรษ จนนำไปสู่แรงบันดาลใจในการพัฒนาโครงการของบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) ที่ทำให้ BELGRAVIA เป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวสุดหรูแบบ Exclusive
.
BELGRAVIA Exclusive RATCHAPHRUEK – RAMA 5 คือหนึ่งโครงการที่ได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงจากมนต์เสน่ห์และความหรูหราของย่าน BELGRAVIA ในลอนดอน ผสมผสานกับความคลาสสิคของงานดีไซน์จากสถานีรถไฟ King’s Cross นำเอาสุนทรียภาพ ปรัชญาการออกแบบ และแนวคิดการใช้ชีวิตแบบเอ็กซ์คลูซีฟมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของไทย
.
BELGRAVIA ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดของลอนดอน แน่นอนว่า BELGRAVIA Exclusive RATCHAPHRUEK – RAMA 5 ก็ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูงของกรุงเทพฯ โดยอยู่บนถนนราชพฤกษ์เชื่อมต่อกับพระราม 5 ซึ่งเป็นย่านที่กำลังเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่ล้อมรอบด้วยสถานศึกษาชั้นนำระดับนานาชาติ ศูนย์การค้าและร้านอาหารระดับพรีเมียม สถานพยาบาลที่มีมาตรฐานสูง เส้นทางคมนาคมที่สะดวกสู่ใจกลางเมือง โครงการนี้มอบทั้งความเงียบสงบและการเข้าถึงใจกลางเมืองที่รวดเร็ว
.
กานต์มองว่าการเป็นเจ้าของบ้านที่ BELGRAVIA Exclusive RATCHAPHRUEK – RAMA 5 ไม่ใช่เพียงการมีที่อยู่อาศัย แต่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเราและครอบครัว ด้วยคลับเฮาส์ส่วนกลางที่ออกแบบอย่างหรูหรา สระว่ายน้ำและสวนที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน มาตรฐานการก่อสร้างในระดับพรีเมียมสำหรับผู้อยู่อาศัย ตลอดจนชุมชนเอ็กซ์คลูซีฟของผู้ที่มีรสนิยมและความสำเร็จคล้ายคลึงกัน
.
“𝐓𝐡𝐞 𝐭𝐫𝐮𝐞 𝐥𝐮𝐱𝐮𝐫𝐲 𝐨𝐟 𝐁𝐞𝐥𝐠𝐫𝐚𝐯𝐢𝐚 𝐢𝐬𝐧’𝐭 𝐣𝐮𝐬𝐭 𝐢𝐧 𝐭𝐡𝐞 𝐠𝐫𝐚𝐧𝐝 𝐡𝐨𝐦𝐞𝐬, 𝐛𝐮𝐭 𝐢𝐧 𝐭𝐡𝐞 𝐩𝐫𝐢𝐯𝐚𝐜𝐲 𝐚𝐧𝐝 𝐝𝐢𝐬𝐜𝐫𝐞𝐭𝐢𝐨𝐧 𝐢𝐭 𝐚𝐟𝐟𝐨𝐫𝐝𝐬. 𝐘𝐨𝐮 𝐜𝐚𝐧 𝐥𝐢𝐯𝐞 𝐚𝐧𝐨𝐧𝐲𝐦𝐨𝐮𝐬𝐥𝐲 𝐚𝐦𝐢𝐝𝐬𝐭 𝐞𝐱𝐭𝐫𝐚𝐨𝐫𝐝𝐢𝐧𝐚𝐫𝐲 𝐛𝐞𝐚𝐮𝐭𝐲.” – ครั้งหนึ่งนิตยสาร The Financial Times เคยเขียนถึงย่าน BELGRAVIA เอาไว้แบบนั้น ซึ่งจากการที่เราได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศและรีวิวโครงการ BELGRAVIA Exclusive RATCHAPHRUEK – RAMA 5 ก็พบว่าให้ความรู้สึกที่ไม่แตกต่างกัน
.
อยากชวนให้จินตนาการถึงการตื่นขึ้นมาในบ้านที่ออกแบบอย่างประณีต ล้อมรอบด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงาม และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันคล้ายกับสิ่งที่เราพบในย่าน BELGRAVIA ของลอนดอน
.
กานต์จะพาไปสัมผัสที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ BELGRAVIA Exclusive RATCHAPHRUEK – RAMA 5 ติดตามต่อด้านในได้เลยครับ
.
BELGRAVIA Exclusive RATCHAPHRUEK – RAMA 5 โครงการบ้านเดี่ยวหรู ที่เน้นความเป็นส่วนตัวสูง เอกสิทธิ์เพียง 35 ยูนิต เป็นบ้านที่ดินใหญ่เริ่มต้นที่ 81 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 400-500 ตร.ม. โดยมีไฮไลท์ของโครงการคือเป็นบ้านหน้ากว้าง เน้นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่เพื่อเติมเต็มความสุขให้กับทุกไลฟ์สไตล์ รองรับ 4 ห้องนอน จอดรถได้สูงสุด 4 คัน ออกแบบโครงการโดยได้แรงบันดาลใจจากย่าน Belgravia Park และสถาปัตยกรรมสไตล์อังกฤษ พร้อมทั้งมอบสัมผัสของความเป็นธรรมชาติในการอยู่อาศัย ทั้งจากในพื้นที่สวนสู่อาคาร (Outside in) และจากภายในอาคารสู่พื้นที่สวน (Inside out) เพื่อให้บ้านสะท้อนเรื่องราวและตัวตนของผู้อยู่อาศัยผ่านรายละเอียดต่างๆ ในการออกแบบ กานต์เดินทางมาจากเส้นราชพฤกษ์ขับตรงมาเรื่อยๆก่อนจะเลี้ยวซ้ายออกทางถนนนครอินทร์ มุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษกก็จะเจอกับโครงการ BELGRAVIA Exclusive RATCHAPHRUEK – RAMA 5 ซึ่งอยู่ติดถนนใหญ่เลยครับ นับเป็นทำเลที่มีศักยภาพมูลค่าของที่ดินเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งยังเป็นทำเลที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก แหล่งไลฟ์สไตล์และสาธารณูปโภคครบครัน ที่ตั้งโครงการถือว่าเป็นทำเลที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะสะดวกสบายในการเดินทางเข้า – ออก เส้นทางหลัก 4 เส้นทาง ได้แก่ ถนนนครอินทร์, ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนราชพฤกษ์ และถนนบรมราชชนนี เชื่อมต่อกับทางหลวงสายหลักและระบบขนส่งมวลชนอย่างดี ใกล้ทางพิเศษศรีรัช ทำให้เราสามารถเดินทางเข้าไปในเมืองและที่อื่น ๆ ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งยังไม่ไกลจากรถไฟฟ้ารถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีตลิ่งชั่นและรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีตลาดบางใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวกรายรอบโครงการ อาทิ Central Westville, The Crystal SB ราชพฤกษ์, The Circle ราชพฤกษ์, Food Vila ราชพฤกษ์, ตลาดพระราม 5 และ Central Plaza ปิ่นเกล้า สถานพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อสร้างความอุ่นใจ ได้แก่ โรงพยาบาลศรีสวรรค์ ราชพฤกษ์, โรงพยาบาลธนบุรี ทวีวัฒนา โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น เป็นต้น ส่วนโรงเรียนนานาชาติและสถานศึกษาชั้นนำที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเด็กๆ ที่จะเดินทางไปโรงเรียนที่อยู่ไม่ไกลบ้านมากนัก ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า, โรงเรียนนานาชาติดีบีเอส, โรงเรียนบดินทรเดชา นนทบุรี, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ บางใหญ่, โรงเรียนเท เมื่อมาถึงด้านหน้าทางเข้า เราประทับใจกับป้ายโลโก้สัญลักษณ์แสดงอักษรย่อ BGV ของโครงการที่สอดประสานกันอย่างลงตัว สะท้อนภาพความหรูหราออกมาได้อย่างชัดเจน โดดเด่นด้วยสีทองตัดกับพื้นหลังโครงสร้างเหล็กแบบตาข่ายสีเขียวเข้ม สื่อถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติแวดล้อมที่เราพบเห็นกันตั้งแต่ด้านหน้าทางเข้า เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ไม้ดอก ไม้พุ่ม พร้อมทั้งซุ้มทางเดินโค้งทรง (Arch) ซึ่งเป็นโครงสร้างงานสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเอกลักษณ์ของสถานีรถไฟคิงส์ครอส (King’s Cross Station) ที่เป็นสถานีรถไฟชื่อดังในกรุงลอนดอนมาใช้ สะท้อนภาพการใช้ชีวิตของชนชั้นสูงในยุคนั้น จนกลายเป็นเสน่ห์ที่สะกดสายตาได้ทันทีสำหรับใครที่ขับรถผ่านไปมาและยังสะท้อนภาพความหรูหราของการพักอาศัยให้กับลูกบ้านของโครงการนี้ด้วยครับ Main Gate ได้รับการออกแบบมาอย่างเรียบหรูสลักชื่อโครงการ BELGRAVIA เอาไว้ด้านหน้า ประดับประดาด้วยต้นไม้สีเขียวไม้ดอกและไม้พุ่มตลอดเส้นทาง โครงการออกแบบให้มีระยะถอยร่นจากถนนหลัก เพื่อเพิ่มความ Private ของการอยู่อาศัย โดยจัดทำเป็นสวน และจัดวาง Clubhouse เอาไว้ด้านหน้า สำหรับใช้ต้อนรับพบปะพูดคุยธุระกับแขก โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปโซนพักอาศัยภายในโครงการ เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว เมื่อเข้ามาภายในโครงการจะสังเกตเห็นถนนที่ถูกดีไซน์ให้มีแพทเทิร์นของพื้นผิวที่ช่วยดึงดูดความสนใจมากขึ้น และด้วยความที่โครงการเน้นบ้านหลังใหญ่เกือบเต็มพื้นที่ แต่ก็ยังมีการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Belgravia Park London ให้มานั่งพักผ่อนภายในสวนกันได้ด้วย วางขนานไปตลอดแนวถนนที่รถวิ่งผ่าน ส่วนอีกด้านเป็นอาคาร Clubhouse ซึ่งเราจะได้พาเข้าไปชมกัน นอกจากนี้ ยังมีระบบความปลอดภัยภายในโครงการครบครัน ทั้งระบบ CCTV รั้วทึบและต่อระแนงแผงประดับขึ้นไปโดยรอบโครงการ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังเดินสายไฟร้อยท่อลงดินทั้งโครงการ ทำให้ได้ทัศนียภาพภายในที่สวยงาม ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ตลอดทางเข้ามีแนวต้นไม้คอยเป็น Buffer ช่วยป้องกันเสียงได้ดีทีเดียว เมื่อขับรถเข้ามาในโครงการเราจึงแทบจะไม่ได้ยินเสียงรถราที่วิ่งอยู่ข้างนอกเลยครับ เมื่อเข้ามาภายในโครงการ จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่มีความโดดเด่นด้วย 3 องค์ประกอบที่เชื่อมโยงเข้ากันนั่นคือธรรมชาติสีเขียวของต้นไม้ สีฟ้าของสายน้ำและความงดงามทางสถาปัตยกรรมที่มีกลิ่นอายของยุควิคตอเรียนจากอังกฤษ นำมาประยุกต์ให้มีความร่วมสมัยและสร้างบรรยากาศของการพักอาศัยที่หรูหรามีระดับภายในโครงการ อาคาร Clubhouse มีลักษณะ 2 ชั้นพร้อมพื้นที่จอดรถสำหรับลูกบ้านและแขกอยู่ด้านข้าง ออกแบบในสไตล์ Modern Classic ที่ดูหรูหราในทุกยุคสมัย เน้นดีไซน์ให้มีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ เน้นดีเทลของงานออกแบบที่โดดเด่นด้วยซุ้มเหล็กโค้งทรง Arch พร้อมกับการเลือกใช้สีเขียวที่สะท้อนภาพของธรรมชาติแวดล้อมได้เป็นอย่างดี โดยรอบมีทางเดินประดับไฟและไม้พุ่มให้เราได้มาพักผ่อนหย่อนใจ Clubhouse ยกพื้นให้สูงขึ้นราวกับอัครสถานขนาดใหญ่ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถานีรถไฟคิงส์ครอส ซุ้มโค้งที่สถานีคิงส์ครอสออกแบบโดยสถาปนิก Lewis Cubitt มีลักษณะพิเศษที่เรียกว่า “Great Northern Arch” เป็นซุ้มโค้งครึ่งวงกลม (Semi-circular Arch) ที่มีขนาดใหญ่และโดดเด่น ทำหน้าที่เป็นทั้งโครงสร้างรับน้ำหนักและองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่สวยงาม โครงสร้างเหล็กสีเขียวเข้มที่ประดับอยู่บนซุ้มโค้งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางวิศวกรรมในยุคนั้น สถาปนิกที่ออกแบบโครงการ BELGRAVIA Exclusive RATCHAPHRUEK – RAMA 5 จึงได้นำเอาแนวคิดของซุ้มโค้งมาประยุกต์ใช้ ทั้งการจำลองรูปแบบดั้งเดิมเพื่อสร้างความรู้สึกถึงประวัติศาสตร์ และการตีความใหม่ในรูปแบบที่ทันสมัยมากขึ้น นำสีเขียวเข้มที่เป็นเอกลักษณ์ของโครงสร้างเหล็กที่อังกฤษมาใช้ในงานสถาปัตยกรรมให้ดูร่วมสมัย เป็นการผสมผสานระหว่างความคลาสสิคที่มีกลิ่นอายของอดีตและความหรูหราในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว พามาชม Clubhouse และพื้นที่ส่วนกลางกันก่อนครับ เป็นอาคารดีไซน์แบบโมเดิร์นที่มีกลิ่นอายความคลาสสิคสไตล์อังกฤษรับกันดีกับ Main Gate โดดเด่นด้วย Facade โค้งระแนงฉลุลายสีเขียวเข้มในแบบ Modern Arch ถ้าจะมีแขกมาพบเราสามารถนัดได้ที่ Clubhouse ได้เลยครับ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าบ้าน เพื่อความเป็นส่วนตัว พื้นที่ชั้นล่างของ Clubhouse เป็น Lobby ที่จัดวางชุดโซฟาที่นั่งไว้จำนวนมากและหลากหลายมุม ปัจจุบันเป็นพื้นที่ Sale Office และเตรียมโอนให้เป็นกรรมสิทธิ์ของลูกบ้านในอนาคตครับ ดังนั้น หากต้องการใช้บริการนั่งทำงานพักผ่อน แนะนำให้ขึ้นไปที่ Social Club ชั้นบนจะดีกว่าครับ นอกจากนี้ยังมี Lounge ขนาด 8-10 ที่นั่งแยกออกไปต่างหากเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว หนึ่งในฟังก์ชันของ Facilities ที่กานต์มองว่าดีมาก ตอบโจทย์ผู้พักอาศัยและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบันที่มีการ Work from Home กันมากขึ้น ก็คือการออกแบบให้มี Private Meeting Room แยกออกไปอีกเป็นห้องส่วนตัวสามารถจองเข้าใช้บริการกับทางนิติบุคคลล่วงหน้าได้ แต่จุดที่เราชอบที่สุดคือภายใน Lounge ยังจัดให้มีมุมกาแฟคอยให้บริการ มีอ่างล้างจานเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อยสำหรับลูกค้าไว้จัดเลี้ยงกลุ่มย่อยๆ ได้ นับว่าเป็นการลงรายละเอียดเรื่องการอำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกบ้านผู้ใช้งานได้ดีมาก Clubhouse มีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับวิวสวนสีเขียวได้อย่างน่าสนใจ พร้อมทั้งแบ่งสระเด็กและสระผู้ใหญ่ไว้ให้เรียบร้อย ถือว่าเป็นสระว่ายน้ำมีขนาดใหญ่มาก หากเทียบกับจำนวนลูกบ้านเพียง 35 ยูนิต เรียกได้ว่าเพียงพอต่อการรองรับความต้องการ มีพื้นที่นั่งริมสระ ใกล้ๆ จัดวางไว้สำหรับนั่งพักผ่อนหรือให้ผู้ปกครองมานั่งรอเด็กๆ ที่กำลังเรียนว่ายน้ำกันอยู่ หากเรากำลังว่ายน้ำแล้วมองออกไปจากขอบสระจะเห็นพื้นที่สวนส่วนกลาง มีทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้ดอก ไม้ประดับ ปลูกสลับกันไปเพิ่มความสดชื่นตรงข้ามมีสนามหญ้าให้เด็กๆ มานั่งเล่นพักผ่อนใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ด้านหนึ่งของสวนจะมี Pavilion ศาลาสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ อ่านหนังสือหรือจิบชากาแฟยามบ่าย ด้านในจัดวางชุดเก้าอี้ที่นั่งเอาไว้ให้แล้ว จะเห็นว่า Clubhouse ออกแบบในสไตล์โมเดิร์นที่เน้นความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ เห็นได้จากการปลูกต้นไม้ไว้โดยรอบทำให้ได้ฟีลลิ่งของ Organic Architecture มากขึ้น เชื่อมต่อมุมมองของธรรมชาติจากภายนอกสู่ภายในอาคาร ทำให้ดูมีความร่วมสมัยอย่างเป็นหนึ่งเดียวกัน สวยงามน่าประทับใจมากครับ พื้นที่ส่วนกลางที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์การใช้งานของลูกบ้านที่มีความชอบและไลฟ์สไตล์ที่เหมือนหรือต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น Lobby, Lounge ที่ชั้นล่างหรือ Social Club สำหรับพักผ่อน ประชุม ทำงาน อ่านหนังสือ หรือเปลี่ยนบรรยากาศจากการอยู่บ้านมานั่งเล่นที่ Clubhouse ชั้นบนจะเป็น Social Club สี Dark Green ตัดสลับกับสีน้ำตาลและสีเทาควันบุหรี่ดูคลาสสิคดีครับ ประดับด้วยคิ้วบัวทรงโค้งที่คงความโมเดิร์นเอาไว้ ผนังโดยรอบประดับประดาด้วยงานศิลปะที่บอกเล่าเรื่องราวของอังกฤษสมัยก่อน เราว่าเหมาะสำหรับนั่งพักผ่อน ทำงานหรือนัดเพื่อนมาเม้าท์กัน จัดวางที่นั่งกระจายรอบห้อง รองรับการใช้งานทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่มเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว พร้อมมุมเครื่องดื่ม ใครอยากจิบน้ำชายามบ่ายสไตล์อังกฤษ ก็สามารถมานั่งพักผ่อนที่ Clubhouse ได้นะครับ ส่วนอีกห้องติดกันจะเป็นฟิตเนสที่มีเครื่องออกกำลังกายครบครัน บรรยากาศเป็นห้องกระจกที่มองเห็นวิวสวนด้านนอกได้สดชื่นดี ถือว่าเป็นฟิตเนส มีขนาดใหญ่ จัดวางเครื่องเล่นและอุปกรณ์ในการออกกำลังกายเอาไว้เยอะมากทั้งฟรีเวทและแมชชีน รองรับการใช้งานของลูกบ้าน ลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน เครื่อง Elliptical จะจัดวางเป็นแนวยาวขนาดไปกับหน้าต่างเพื่อให้เราสามารถออกกำลังกายไปพร้อมกับการชมวิวสีเขียวของต้นไม้จากภายนอกได้ในบรรยากาศสบายๆ เราว่าบรรยากาศตอนเย็นหลังเลิกงานจะมองเห็นวิวพระอาทิตย์ตกขณะวิ่งออกกำลังกาย เป็นภาพที่สวยมาก ติดกันเป็น Studio Room สำหรับลูกบ้านสาว ๆ ที่รักสุขภาพ เป็นห้องโล่งๆ ภายในติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่และมีช่องแสงขนาดใหญ่ส่องเข้ามาได้เช่นกัน ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะออกกำลังกาย โยคะ เต้นบัลเลต์ ซ้อมร้องเพลงหรือป๊อบแดนซ์ก็ได้หมดเลยครับ สามารถนัดครูจากภายนอกมาสอนแบบส่วนตัวที่นี่ได้เลย ทางโครงการได้เตรียม Gym Ball และ Yoga Mat เอาไว้ให้แล้ว ด้านล่างเป็นพื้นที่สวนส่วนกลางมาพร้อมฟังก์ชันของ Jogging Track และสนามหญ้าขนาดใหญ่สำหรับวิ่งจ็อกกิง ออกกำลังกายเบา ๆ ให้เราได้ใช้เวลาในช่วงเช้าหลังตื่นนอนหรือจะเป็นช่วงเย็นหลังเลิกงานในการออกกำลัง หรือใครที่อยากสัมผัสพลังจากแสงแดด สายลม ต้นไม้ก็สามารถไปนั่งกำหนดลมหายใจ เล่นโยคะกลางลานสนามหญ้าริมสระน้ำ เพื่อให้เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติน้อยใหญ่ได้ในสวนส่วนกลางได้เช่นกัน พื้นที่ส่วนกลางดีไซน์ร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ให้ความสดชื่นสบายตา สนามหญ้ากว้างขวางพร้อมจัดวางที่นั่งกระจายโดยรอบ มี Pavillion สีขาวตั้งอยู่บนเนินเล็ก ๆ มองเห็นวิวสวนโดยรอบ บางจุดจัดวางที่นั่งเป็น Day Bed ขนาดใหญ่สีสันสดใสน่ารักมากเหมาะสำหรับมานั่งเล่นช่วงเย็นๆ กับคนในครอบครัว ดูเป็นพื้นที่แห่งความผ่อนคลายสบายใจ ชวนให้มานั่งเล่นปิคนิคหรือจิบน้ำชากลางสวน และเรายังสามารถพาน้องหมามาเดินเล่นบริเวณสวนได้ สนามหญ้าสีเขียวที่กว้างใหญ่ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นทันที ยิ่งช่วงนี้เราจะมีลมหนาวพัดมาปะทะใบหน้าเบา ๆ ทำให้เรารู้สึกเย็นกายสบายใจ ทำให้รู้สึกดีที่ได้ใช้ชีวิตใจกลางกรุงท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวของต้นไม้ สีฟ้าจากสายน้ำและสีสันของธรรมชาตินานา ทั้งไม้พุ่ม ไม้ดอกและต้นไม้ใหญ่ เป็นงานออกแบบในสไตล์โมเดิร์นที่เน้นความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ทำให้ได้ฟีลลิ่งของ Organic Architecture มากขึ้น รู้สึกร่มรื่นสบายใจดีมากครับ เป็นการนำเอาศิลปะจากธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานสถาปัตยกรรม จาก Clubhouse ของโครงการ ตรงเข้าอีกนิดจะพบกับบ้านตัวอย่างหลังใหญ่ที่สวยมาก เราว่าหัวใจหลักของโครงการคือเป็นบ้านออกแบบสวย เน้น Space + Function การอยู่อาศัยที่สบาย ให้พื้นที่ใช้สอยเยอะ หลายคนรู้อยู่แล้วว่ากานต์ชอบบ้านสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค ทำให้รู้สึกถึงความทันสมัยและทำให้บ้านดูมีมิติ มีโถงสูงๆ เปิดช่องแสงกว้างๆ ผ่านกระจกใส รายรอบบ้าน โครงการมีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ คือ LEICESTER (เลสเตอร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 81 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม.– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน TRAFALGAR (ทราฟัลการ์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 500 ตร.ม. – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน ซึ่งเป็นแบบบ้านที่เราจะมารีวิวกันในพาร์ทนี้ งาน Exterior Design เป็นบ้านดีไซน์โมเดิร์นหลังคาทรงตัดเลือกใช้สีโทน Monochrome สีเทา สีดำ สีขาว ขับความเข้มของเส้นสายด้วยวัสดุที่เป็นเหล็กและโลหะ เสริมความโดดเด่นของสีขาวที่ถูกตัดด้วยเส้นขอบสีดำ (White House with Black Trim) เสาสีเข้มที่หนักแน่น ทำให้ดูแข็งแรง มั่นคง ก่อนจะเติมความโปร่งสบายด้วยกระจกรายรอบ เพิ่มความคลาสสิคด้วยซุ้มประตูทรงโค้งด้านหน้าบ้าน จากนั้นก็ระบายเฉดสีเขียวจากต้นไม้ลงไป ทำให้ภาพรวมของบ้านมีความแข็งแกร่งและสง่างาม (Strong and Beautiful) ราวกับอัตลักษณ์ของสุภาพบุรุษจากเกาะอังกฤษ ประตูทางเข้าหลักเป็นประตูบานเปิดกระจกใส เพื่อให้มองเห็นพื้นที่เชื่อมต่อทั้งภายในและภายนอก ส่วนหน้าบ้านอีกฝั่งจะมีประตูเล็กสำหรับเข้าบ้านได้จากลานจอดรถ อำนวยความสะดวกหากเราซื้อของมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือมีแขกมาเยี่ยมบ้าน เราไม่จำเป็นต้องผ่านประตูหลักด้านหน้า เพื่อที่ว่าจะได้เป็นการไม่รบกวนบรรยากาศการสนทนาธุระสำคัญ เมื่อเดินเข้าไปภายในบ้าน เราจะพบกับ Arrival Hall โถงสูงที่โดดเด่นด้วยการออกแบบที่เปิดโล่งแบบ Double Volume สร้างความรู้สึกกว้างขวางและโอ่อ่า ผนังกระจกขนาดใหญ่รอบด้านช่วยให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามา เชื่อมโยงพื้นที่ภายในบ้านกับสวนสีเขียวภายนอกได้อย่างกลมกลืน ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติแม้จะนั่งพักผ่อนอยู่ภายในบ้านก็ตาม ภายในบ้านมี Common Area ที่เชื่อมต่อกันรองรับการทำกิจกรรมร่วมกันสำหรับทุกเจนเนอเรชั่นในครอบครัว แต่การออกแบบจะลงดีเทลให้เข้ากับยุค New Normal มากขึ้น ด้วยการจัดให้มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทำกิจกรรมของตัวเอง ตรงนี้ถือเป็นหลักการออกแบบที่ดีมากครับ ดีไซน์ที่เราชอบคือโคมไฟระย้าทรงยาวที่ห้อยลงมาจากเพดาน ดีไซน์แปลกตาคล้ายกับหยดน้ำฝนที่กำลังตกลงมา สร้างความหรูหรา น่าสนใจและเพิ่มมิติให้กับพื้นที่ได้อย่างลงตัว แสงไฟอ่อนๆ จากโคมไฟเหล่านี้ช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลายในยามค่ำคืน Common Area มีขนาดใหญ่ดีครับ มองเข้าไปด้านในจะเห็นเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่าง Living Area ส่วนรับประทานอาหารและ Pantry ครัวยุโรป มุมรับแขกจะอยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน มีประตูกระจกบานสไลด์สามารถเปิดออกไปได้ เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านเลือกใช้โทนสีอ่อนๆ เช่น สีเทา สีน้ำตาลและสีครีม ช่วยเสริมความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย โซฟาตัวใหญ่วางอยู่กลางบ้าน เหมาะสำหรับการพักผ่อนหรือรับแขก มีโต๊ะกลางทรงกลมวางไว้อย่างลงตัว และอาร์มแชร์ช่วยเพิ่มพื้นที่นั่งเล่นได้อย่างสบาย ส่วนพื้นกระเบื้องสีอ่อนและพรมสีครีมช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับห้อง ในขณะที่ผ้าม่านยาวช่วยควบคุมแสงและเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้เมื่อต้องการ ถัดเข้าไปด้านในเป็นโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 10 ที่นั่ง ท๊อปโต๊ะทำด้วยหินอ่อนสไตล์โมเดิร์นที่เรียบหรู มีเก้าอี้สตูลบาร์สำหรับนั่งจิบเครื่องดื่มเบาๆ ก่อนเริ่มต้นมื้ออาหาร หรือใช้เป็นพื้นที่รับประทานอาหารเช้าสำหรับเด็กๆ ก่อนไปโรงเรียนก็ได้ จะเห็นได้ว่า บ้านหลังนี้ออกแบบมาให้เราทุกคนได้ใช้เวลาร่วมกันในการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเข้าครัว รับประทานอาหาร อ่านหนังสือ หรือพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด ผนังกระจกบานใหญ่เปิดรับวิวสวนสีเขียวด้านนอก ทำให้รู้สึกเหมือนได้รับประทานอาหารท่ามกลางธรรมชาติ บรรยากาศอบอุ่นถูกเสริมด้วยโคมไฟระย้าที่ให้แสงสว่างนวลตา สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกในมื้อดินเนอร์ยามค่ำคืน “A proper English breakfast is a work of art.” การออกแบบแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการสร้างพื้นที่ ทั้งสวยงามและใช้งานได้จริงเป็นสถานที่ที่ผู้อยู่อาศัยสามารถพักผ่อน สังสรรค์หรือใช้เวลากับครอบครัวได้อย่างมีความสุข สะท้อนถึงคุณภาพชีวิตที่ดีที่ มอบให้กับผู้อยู่อาศัย ส่วนพื้นที่ของครัวไทยจะอยู่ถัดไปด้านหลังถือว่าเป็นห้องครัวที่มีขนาดใหญ่มาก โครงการติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวแบบฟูลออปชั่นมาให้แล้วดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดี มีฟังก์ชันการใช้งานมาให้ครบครัน ถือว่าใส่ใจในรายละเอียดได้ดีมากครับ ห้องครัวไทยออกแบบให้อยู่ในทำเลที่ทำให้แม่บ้านสามารถประกอบอาหารได้สะดวก ปราศจากกลิ่นรบกวนเข้ามาในตัวบ้านและยังได้ความเป็นส่วนตัว เนื่องจากจะอยู่บริเวณเดียวกับ Maid Plaza โซนทำงานของแม่บ้าน สามารถกั้นเป็นโซน Back of House คือให้เป็นทางเข้าออกของแม่บ้าน ซึ่งแยกส่วนชัดเจนออกมาจากพื้นที่หลักของตัวบ้านเพื่อความเป็นส่วนตัวของเราครับ ส่วนรอบๆ บ้านจะมีที่ดินเหลือไว้ให้จัดตกแต่งสวนได้อีก บ้านตัวอย่างออกแบบให้มีสวนและศาลาพักผ่อนอยู่ด้านหลังและด้านข้างบ้าน Court รูปตัวแอล (L-Shape) เพื่อรังสรรค์ให้เรากับธรรมชาติได้เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน บ้านตัวอย่างทำเป็นน้ำตกไหลได้ฟังเสียงแล้วรู้สึกเย็นสบายในทุกช่วงเวลา สามารถที่จะมานั่งทำกิจกรรมจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวสังสรรค์กันในครอบครัวได้ อีกด้านมีศาลาพร้อมชุดเก้าอี้สนามเอาไว้ให้ทุกคนได้นั่ง สำหรับวันพักผ่อนสบายๆ มานั่งจิบกาแฟยามเช้า รับข่าวสารจากหนังสือพิมพ์ หรือชวนเพื่อนมานั่งจิบน้ำชายามบ่ายในบรรยากาศสบายๆ มีแสงแดดสาดส่องลอดใบไม้เกิดเป็นเงา เพื่อไม่ให้เรารู้สึกว่ามันร้อนจนเกินไป ได้ลมเย็นๆ และความสดชื่นของน้ำและฟ้า ทั้งนี้เมื่อมองจากองค์รวมของงาน Interior จะพบว่าพื้นที่ภายในบ้านออกแบบ Open plan ให้เชื่อมต่อกันได้อย่างลงตัว สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามใจผู้พักอาศัย ดังนั้นในยุคที่ผู้คนต้องการสัมผัสธรรมชาติทั้งภายในและภายนอกบ้าน ตลอดจนการสร้างสภาวะความเป็นอยู่ที่ดีกลายเป็นเรื่องสำคัญ BELGRAVIA Exclusive RATCHAPHRUEK – RAMA 5 จึงได้นำเสนอแนวคิดการปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในบ้าน ด้วยการเปลี่ยนห้องนอนชั้นล่างซึ่งเหมาะสำหรับเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุให้กลายเป็น Garden Room พื้นที่ส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ หากบ้านไหนไม่มีความจำเป็นต้องใช้ จนกลายเป็นห้องที่กานต์ชอบมากเพราะเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวให้เราได้มานั่งพักผ่อนหย่อนใจเป็นเหมือน Living Room อีกห้อง ที่สามารถใช้งานไปพร้อมกับห้องรับแขกด้านหน้าบ้าน หากมีแขกมาพบ สมาชิกคนอื่นก็สามารถมานั่งเล่นที่ห้องนี้แทนได้ แต่หากบ้านไหนที่ไม่มีผู้สูงอายุพักอาศัยอยู่ด้วย ทว่ากลายเป็นบ้านของคุณแม่มือใหม่ กานต์ว่าห้องนี้ก็สามารถปรับเป็นห้องนอนสำหรับทารกหรือคุณแม่แรกคลอดได้อย่างลงตัว การออกแบบที่ยืดหยุ่นนี้ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย แต่ยังสะท้อนถึงแนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของชีวิตในระยะยาว ทำให้บ้านสามารถปรับตัวไปพร้อมกับความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้อยู่อาศัยได้อย่างลงตัว ไปชมชั้น 2 กันบ้างครับ ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อรองรับการใช้ชีวิตในแบบหรูหรา พร้อมทั้งให้ความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวแก่สมาชิกในครอบครัวทุกคน พื้นที่นี้ถูกจัดให้เป็นจุดศูนย์กลางของบ้านสำหรับการพักผ่อนที่ลงตัว เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันและการต้อนรับแขก บันไดดีไซน์แบบโค้งและมีขนาดใหญ่ไล่ระดับมาเรื่อยๆ จนถึงพื้น ให้เรารู้สึกถึงคฤหาสถ์หลังใหญ่ในลอนดอนที่ดูอลังการมาก เราสังเกตว่าบันไดขึ้นลงค่อนข้างกว้างกว่าปกติ สามารถเดินสวนกันขึ้นลงได้สบายเลยครับ ส่วนโครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยลายไม้สีเข้มให้ความแข็งแรงและเรียบหรู มาพร้อมราวกันตกและมือจับลายไม้สีอ่อนกว่า วางยาวไปตลอดแนวบันได ชานพักเป็นรูปสี่เหลี่ยมก็มีขนาดใหญ่เช่นกีัน โถงบันไดมีช่องแสงขนาดใหญ่ที่สามารถเปิดออกเพื่อระบายอากาศได้ บ้านตัวอย่างได้ติดตั้ง Chandelier ขนาดใหญ่บริเวณโถงบันไดช่วยทำให้บ้านดูมีมิติที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ด้านล่างจัดวางสตูลเตี้ยสำหรับนั่งสวมรองเท้าเอาไว้ให้ดูเป็นไอเดียครับ พื้นที่พักผ่อนที่ชั้น 2 ยังเชื่อมต่อกับภายนอกผ่านหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นวิวสวนได้จากภายในบ้าน ทำให้บรรยากาศดูมีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ และสร้างความผ่อนคลายได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้เวลาพักผ่อนภายในห้องหรือการเปิดรับแสงแดดและลมจากภายนอก บริเวณกลางบ้านชั้น 2 ออกแบบมาเพื่อตั้งใจให้สมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีคุณภาพ ทั้งการพักผ่อนหรือทำกิจกรรมต่างๆ ภายในบ้าน พื้นที่ภายในห้องออกแบบให้เปิดโล่งและเชื่อมต่อกับวิวสวนด้านนอกผ่านหน้าต่างบานกระจกขนาดใหญ่ที่เปิดออกได้ ทำให้ภายในห้องมีความโปร่งโล่งและเต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ บรรยากาศจึงมีความอบอุ่นซ่อนอยู่ Family Area จัดวางชุดโซฟาที่นั่งกระจายตัวกันออกไปโดยเลือกใช้วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ดูโมเดิร์นคลาสสิคสะท้อนถึงสไตล์ที่เรียบง่ายแต่หรูหราในเวลาเดียวกัน เช่น โซฟาเบาะนุ่มที่ให้ความสะดวกสบายและเก้าอี้สำหรับนั่งอ่านหนังสือหรือทำงาน พร้อมทั้งโต๊ะกลางที่จัดวางหนังสือและของตกแต่งที่เสริมสร้างบรรยากาศความเป็นกันเอง สามารถใช้ห้องทำการหรือมุมอ่านหนังสือได้ มุมนี้เราชอบวอลล์เปเปอร์ลายดอกไม้สีขาวพื้นเขียวดูวินเทจดีมากให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านที่อังกฤษเลยครับ Master Bedroom มีขนาดใหญ่มาก กินพื้นที่เกือบครึ่งของตัวบ้าน บรรยากาศภายในห้องค่อนข้างโปร่ง ด้วยช่องแสงขนาดใหญ่รายรอบห้อง การเลือกใช้โทนสีอ่อน เช่น สีครีมและสีเบจที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่สงบและผ่อนคลาย การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอนใหญ่เน้นไปที่ความสะดวกสบายและความเรียบง่าย เตียงขนาดใหญ่ถูกจัดวางด้านในเพื่อความเป็นส่วนตัว โดยมีชุดโซฟา เก้าอี้พักผ่อนและโต๊ะกลางที่สามารถใช้เป็นพื้นที่ทำงานหรือนั่งอ่านหนังสือได้ จะเห็นว่าภายในห้องนอนหลัก จัดแบ่งฟังก์ชันการใช้สอยได้หลากหลายและลงตัวดีครับ ราวกับเป็นบ้านอีกหนึ่งหลัง เมื่อเดินเข้าประตูไปจะไม่สามารถมองเห็นพื้นที่พักผ่อนได้ในทันที เพราะเตียงนอนจะถูกจัดเหลื่อมไว้บริเวณประตูทางเข้าโดยหลบเข้าไปด้านในเล็กน้อย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวของเจ้าของห้อง มีพื้นที่รอบเตียงค่อนข้างกว้างเดินได้รอบเลย ห้องนอนออกแบบให้มี Living Area ภายใน ซึ่งมีขนาดใหญ่มากจัดวางชุดโซฟาที่นั่งขนาดใหญ่และเก้าอี้ไว้หลายตัว ด้วยความที่งานตกแต่งในโทนสีน้ำตาลดูเรียบหรูและมีเสน่ห์โดดเด่นมากเมื่อต้องแสงไฟ Warm Light ต้องยอมรับว่า ดีไซน์เนอร์ได้ตกแต่งภายในให้มีความโดดเด่นเน้นการสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองและอบอุ่น และเน้นไปที่การสร้าง flow ของพื้นที่ที่ต่อเนื่อง มองออกไปจากภายในบ้านตัวอย่างเราจะเห็นประติมากรรม Infinity ที่อยู่วงเวียนกลางด้วยครับ เป็นภาพที่สวยงามมาก ห้องนอนออกแบบให้มี Living Area ภายใน ซึ่งมีขนาดใหญ่มากจัดวางชุดโซฟาที่นั่งขนาดใหญ่และเก้าอี้ไว้หลายตัว ด้วยความที่งานตกแต่งในโทนสีน้ำตาลดูเรียบหรูและมีเสน่ห์โดดเด่นมากเมื่อต้องแสงไฟ Warm Light ต้องยอมรับว่า ดีไซน์เนอร์ได้ตกแต่งภายในให้มีความโดดเด่นเน้นการสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองและอบอุ่น และเน้นไปที่การสร้าง flow ของพื้นที่ที่ต่อเนื่อง มองออกไปจากภายในบ้านตัวอย่างเราจะเห็นประติมากรรม Infinity ที่อยู่วงเวียนกลางด้วยครับ เป็นภาพที่สวยงามมาก ด้านในสุดเป็น Master Bathroom ออกแบบโดยเน้นการใช้วัสดุหินสีเทาเข้มที่ให้ความรู้สึกเรียบหรูและสงบ มีการติดตั้งผนังกระจกใสที่แบ่งสัดส่วนของพื้นที่ห้องน้ำออกเป็นโซนแห้งและโซนเปียกอย่างชัดเจน ช่วยให้พื้นที่ภายในดูโปร่งโล่งและไม่อึดอัด มีอ่างล้างหน้าแบบ His & Her พร้อมผนังกระจกเงาบานใหญ่ มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่พร้อมสุขภัณฑ์แบบ Washless อีกด้านติดตั้ง Shower Box พร้อมฝักบัวและ Rain Shower มาให้แล้ว “Beauty begins the moment you decide to be yourself.” — Coco Chanel พามาดูห้องนอนต่อมา ตกแต่งได้สวยประทับใจมาก ด้วยการเลือกใช้เส้นสาย สีสันและลวดลายเข้ามาเป็นองค์ประกอบเพื่อให้ห้องดูสดใสและน่าสนใจ จะสังเกตว่าช่วงหัวนอนจะปิดทึบตามดีไซน์ของ Exterior บ้าน แต่จะเปิดช่องแสงขนาดใหญ่จากด้านข้างแทน ภายในห้องนอนแยกส่วนพักผ่อนกับการใช้งานภายในห้องออกจากกันชัดเจน บ้านตัวอย่างจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ไว้ตรงกลาง พร้อมโต๊ะหัวเตียงและโคมไฟ มีพื้นที่โดยรอบเตียงเดินได้สบายเลยครับ พื้นที่ปลายเตียงสามารถติดตั้งชั้นวางทีวีได้ มีพื้นที่เหลือพอให้จัดวางอาร์มแชร์เอาไว้เป็นมุมพักผ่อนหรืออ่านหนังสือมาพร้อมช่องแสงธรรมชาติขนาดใหญ่จากนอกบ้าน มีระเบียงส่วนตัวที่สามารถเปิดออกไปรับลมได้ ปลายเตียงออกแบบให้มีโต๊ะทำงานและชั้นวางของที่ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสีสันสดใสและโคมไฟที่ให้แสงสว่างเพียงพอสำหรับการทำงาน ประดับด้วยงานศิลปะที่สีสันและรูปทรงร่วมสมัยตามสไตล์คนรุ่นใหม่ ลึกเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่แต่งตัว บ้านตัวอย่างติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ไว้ให้ดูเป็นไอเดีย มีโต๊ะเครื่องแป้งจัดวางเอาไว้น่าจะถูกใจสาวๆ เจน Z โดยออกแบบมาให้เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว ส่วนห้องน้ำจัดวางสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแยกส่วนเปียกแห้งเอาไว้ให้แล้วเรียบร้อย ด้านหน้าเป็นอ่างล่างมือ ติดตั้งกระจกเงาไว้เต็มบาน ติดตั้งสุขภัณฑ์และมี Shower Box ครับ ทำให้สะดวกในการใช้งานแบบครบจบในจุดเดียว ฟังก์ชันแบบนี้สะดวกดีนะครับ ห้องนอนต่อมาจะอยู่มุมซ้ายของบ้านที่มองเห็นวิวสวนด้านนอกด้วยทำให้ได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบ บ้านตัวอย่างตกแต่งในห้องนี้ด้วยโทนสีน้ำเงินตัดสีขาวดูล้ำๆ เหมาะสำหรับห้องเด็กชายวัยรุ่นที่มีงานอดิเรกคือนั่งแคสท์เกมอยู่บ้าน ตกแต่งด้วยฟิกเกอร์เติมสีสันให้กับห้องให้ดูสดใสตามสไตล์วัยรุ่นขึ้นมาหน่อย เตียงนอนขนาดใหญ่จัดวางไว้ด้านในเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวเหมือนที่บอกเอาไว้ หัวเตียงบุนวมสีเทาควันบุหรี่ตัดกับผนังลอนสีน้ำเงินเข้ม ห้องนอน เปิดช่องแสงเอาไว้ทางด้านข้างมาพร้อมกับเก้าอี้และโต๊ะเตี้ยสำหรับนั่งอ่านหนังสือหรือพัักผ่อนช่วงเวลาเช้าหรือก่อนนอน บรรยากาศดีมาก มีแสงแดดอ่อนๆ ลอดเข้ามาภายในห้องพร้อมวิวต้นไม้สีเขียว ปลายเตียงเป็นเคาน์เตอร์ยาวเชื่อมต่อกันไปเป็นโต๊ะทำงาน สำหรับทำการบ้าน อ่านหนังสือหรือแคสต์เกมคลายเครียด เป็นห้องนอนที่มาพร้อมกับมุมแต่งตัวและห้องน้ำในตัวเช่นกัน โดยจัดวางฟังก์ชันภายในเอาไว้ให้แล้วครบครัน #สรุป BELGRAVIA Exclusive RATCHAPHRUEK – RAMA 5 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวในระดับ Luxury ที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มองหาบ้านในทำเลราชพฤกษ์และพระราม 5 สามารถเชื่อมต่อกับถนนได้หลายสาย ใกล้แหล่งสาธารณูปโภคและรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งโรงเรียน สถานพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ที่สำคัญคือการสร้างบรรยากาศร่วมภายในโครงการ ออกแบบให้มีกลิ่นอายของสถานีรถไฟคิงส์ครอส เกาะอังกฤษให้เราได้มีชีวิตที่หรูหรา ท่ามกลางความสดชื่น ร่มรื่น อบอุ่น ผ่อนคลายในทุกวัน สะท้อนถึงความงดงามของชีวิตที่มีสมดุลระหว่างธรรมชาติและความลักซ์ชูรีในราคาที่คุณก็เป็นเจ้าของได้ ลงทะเบียนหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1509 https://briurl.com/2p9bsj6f Line : @bgv02