ฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง Home Alone
.
หนูน้อยเควิน (แสดงโดย Macaulay Culkin) พบกับชายที่แต่งตัวเป็นซานตาคลอส ในฉากนี้ เควินคุยกับชายคนนั้น โดยรู้ว่าเขาไม่ใช่ซานต้าตัวจริงแต่หวังว่าเขาจะสามารถส่งข้อความถึงซานต้าตัวจริงได้
.
ซานต้า: คุณต้องการอะไรในวันคริสต์มาส เด็กน้อย?
เควิน: อืม ฉันไม่แน่ใจ ฉันรู้ว่าฉันไม่อยากได้ของเล่นหรืออะไรทั้งนั้น ฉันแค่ต้องการครอบครัวของฉันกลับคืนมา
ซานต้า: โอ้ นั่นค่อนข้างลึกสำหรับเด็กวัยเดียวกับคุณ
เควิน: ฉันรู้ว่าไม่ควรถามเรื่องนี้เพราะคุณเป็นแค่ผู้ชายใส่สูท แต่คุณช่วยบอกซานต้าตัวจริงให้พาครอบครัวฉันกลับมาในวันคริสต์มาสได้ไหม
ซานต้า: ฉันจะดูว่าฉันทำอะไรได้บ้าง เด็กน้อย สุขสันต์วันคริสต์มาส
.
แม้ว่าการสนทนาของเควินกับ “ซานต้า” จะไม่ได้ตอบคำถามโดยตรงว่าซานตาคลอสมีจริงหรือไม่ แต่ก็สะท้อนถึงความเชื่อของเขาในความสามารถของซานต้าที่จะช่วยให้เขาได้กลับไปอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง
.
บริบทของภาพยนตร์สะท้อนความคิดของทุกคนว่า “ครอบครัว” คือสิ่งสำคัญและ “บ้าน” ก็เป็นเสมือนจุดหมายปลายทางที่ทำให้สมาชิกได้กลับมาพบเจอกัน จะด้วยปาฏิหาร์ยของซานต้าหรือว่าด้วยความรักและผูกพันกันก็ตาม
.
ที่เมือง Rovaniemi ของฟินแลนด์มี Santa Village ซึ่งได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบภาพรวมของโครงการ Bangkok Boulevard Signature พระราม 5 ด้วยบรรยากาศที่น่าหลงใหลของหมู่บ้านซานต้า
.
นำเอาแนวคิดของ Elf Tower ผสานเข้ากับรูปแบบสถาปัตยกรรมร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็นกระท่อมไม้ซุงแบบฟินแลนด์ ผนังหินก้อนใหญ่ ซุ้มโค้งทรง Arch หลังคาทรงตัดลาดเอียงที่โดดเด่น จึงเป็นส่วนผสมที่ทำให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นและสะดวกสบายในการอยู่อาศัย ขณะเดียวกันก็ยังคงเสน่ห์ความสวยงามแบบสมัยใหม่และดูเรียบง่ายแบบมินิมอล ทัศนียภาพภายในโครงการสวยงามเนื่องจากเอาสายไฟลงใต้ดินหมดแล้วครับ
.
กอปรกับการวางผังโครงการที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและความเงียบสงบ เอกสิทธิ์สำหรับผู้อยู่อาศัยเพียง 15 ยูนิตเท่านั้น บ้านแต่ละหลังจึงได้รับการวางผังอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อให้แน่ใจว่ามีพื้นที่รอบบ้านเพียงพอต่อความเป็นส่วนตัว จัดวางบรรยากาศของภูมิทัศน์ ต้นไม้เขียวขจีและมีธารน้ำตก ดีไซน์เป็นเส้นคดเคี้ยว วางตัวอยู่ด้านข้างของบ้านใกล้กับศาลาพักผ่อน
.
กานต์มองว่างานดีไซน์ที่ผ่านกระบวนการคิดอย่างลึกซึ้ง ช่วยให้เราได้สัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เงียบสงบภายในโครงการ และนี่จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเป็นไปได้ที่ในการผสมผสานแรงบันดาลใจทางวัฒนธรรมที่หลากหลายกับการพัฒนาที่อยู่อาศัย ที่ SC Asset ตั้งใจทำและเป็นผู้นำแนวคิดนี้มาอย่างยาวนาน
.
รีวิวนี้ กานต์จึงอยากชวนไปเที่ยวฟินแลนด์ ในบรรยากาศของหมู่บ้านซานต้า ที่โครงการ Bangkok Boulevard Signature พระราม 5 พร้อมกับอ่านเรื่องราวกันต่อที่แคปชั่นด้านในไปพร้อมกันครับ
_______________________________________
20 – 21 พ.ค.นี้ เปิดจองคฤหาสน์หรู โซนสวน แปลงสวย ติดถนนหลักโครงการ กว้าง 12 เมตร
รับข้อเสนอพิเศษ 𝟓 ล้าน! *พร้อม Test Drive Mercedes-Benz รุ่น EQS ภายในงาน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 061-178-5919
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ : https://m.scasset.com/DTNx
#BangkokBoulevardSignature#BangkokBoulevardSignatureRama5#บางกอกบูเลอวาร์ดซิกเนเจอร์#บางกอกบูเลอวาร์ดซิกเนเจอร์พระราม5#SCASSET#ForGoodMornings#LivingSolutionsProvider#SCASSETมุ่งสู่แบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ1
—
โครงการ Bangkok Boulevard Signature พระราม 5 มาพร้อมกับดีไซน์ของบ้านสไตล์ Nordic Series สุด Luxury ที่จะทำให้เราได้ใช้ชีวิตแบบส่วนตัวในบรรยากาศของ Santa Village ที่เมือง Rovaniemi ของฟินแลนด์
.
กานต์ว่ามันคงเป็นความรู้สึกที่ฟินมากหากเราได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ พื้นที่สีเขียว และความเงียบสงบ เพราะมีจำนวนเพียง 15 ยูนิต เท่านั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ 9-1-18.3 ไร่ จึงเป็นโครงการบ้านเดี่ยวสุดหรู 2 ชั้นหลังใหญ่ ที่ดินใหญ่ 100 ตร.วา ขึ้นไป
โดยมีไฮไลท์ของโครงการคือเป็นบ้านหน้ากว้าง เน้นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่เพื่อเติมเต็มความสุขให้กับทุกไลฟ์สไตล์
กานต์เดินทางมาจากเส้นราชพฤกษ์ ขับตรงมาเรื่อยๆ ก่อนจะเลี้ยวซ้ายตรงวงเวียนพระราม 5 เพื่อไปทางถนนนครอินทร์-กาญจนาภิเษก ตรงไปอีกนิดแล้วเข้าซอยอัจฉริยะประสิทธิ์ 1 มาเล็กน้อย ก็จะเจอกับโครงการ Bangkok Boulevard Signature พระราม 5
ถือว่าเป็นทำเลที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะสะดวกสบายในการเดินทางเข้า – ออก เส้นทางหลัก 4 เส้นทาง ได้แก่ ถนนนครอินทร์, ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนราชพฤกษ์ และถนนบรมราชชนนี เชื่อมต่อกับทางหลวงสายหลักและระบบขนส่งมวลชนอย่างดี
ใกล้ทางพิเศษประจิมรัถยา (ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก) เพียง 5 กม. ทำให้เราสามารถเดินทางเข้าไปในเมืองและที่อื่น ๆ ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งยังไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง MRT บางรักใหญ่ และรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีตลิ่งชัน
ระหว่างทางเราก็จะผ่านแหล่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น ตลาดสดพระราม 5 ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ Community Mall ตลอดจนหน่วยงานอย่างโรงเรียน โรงพยาบาล เรียกได้ว่าครบทุกความต้องการ
แหล่งช้อปปิ้ง อาทิ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์ ที่กำลังจะเปิดเร็วๆ นี้ หรือเลยไปทางบางใหญ่จะเป็นเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ส่วนใกล้ๆ โครงการมีโฮมโปร ราชพฤกษ์, The Walk ราชพฤกษ์, The Crystal SB ราชพฤกษ์, Lotus’s North ราชพฤกษ์ อยู่ห่างออกไปเพียงขับรถระยะสั้น ๆ
โครงการจึงรายล้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และสถานบันเทิงมากมาย
โรงเรียนและสถานศึกษาชั้นนำ เช่น โรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า พระราม 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี โรงเรียนบดินทร์เดชา นนทบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ฯลฯ
สถานพยาบาลใกล้เคียงได้แก่ โรงพยาบาลธนบุรี 2, ศูนย์บริการแพทย์นนทบุรี, โรงพยาบาลอนันต์พัฒนา, โรงพยาบาลศรีสวรรค์ ราชพฤกษ์ ทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ดีเยี่ยมได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อมาถึงหน้าโครงการจะพบกับ Main Gate ขนาดใหญ่ที่ขนานไปกับถนนด้านหน้าเป็นแนวยาวดูอลังการงานสร้างมากๆ ครับ ซึ่งจะออกแบบให้เห็นรายละเอียดของ Santa Village รอบด้านเพื่อสะท้อนตัวตนความเป็นโครงการที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตามชื่อ Signature
ระบบการรักษาความปลอดภัยด้านหน้าจะมีทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล้อง CCTV 15 จุดรอบโครงการ ป้ายตลอด 24 ชั่วโมง ที่นี่จะใช้ระบบ Smart Gate With License Plate สแกนทะเบียนรถสำหรับลูกบ้านเปิดอัตโนมัติ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้พักอาศัยครับ
ขณะที่ Visitor แบบผม ก็ต้องแลกบัตรกันตามระเบียบครับ
Bangkok Boulevard Signature พระราม 5 ให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางในบรรยากาศของ Santa Village ในเมือง Rovaniemi ของ Finland
ไม่ว่าจะเป็น คลับเฮาส์ สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น Main Gate ดังนั้น งานสถาปัตยกรรมจึงสะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ขององค์ประกอบการออกแบบไทยและฟินแลนด์
เราจึงได้เห็นรายละเอียดของการออกแบบตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าด้านหน้าโครงการ ป้ายบอกชื่อหมู่บ้านอย่างเด่นชัดอยู่ติดกันกับ Clubhouse ที่มีหลังคาสโลปต่อเนื่องกัน ผสานกับวัสดุจากไม้และผนังหินที่บริเวณสระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นมุมที่ผมชอบมาก
สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือมีขนาดใหญ่มากขนาด 19×4 เมตร อยู่ในร่มทำให้ไม่ต้องกลัวร้อน สามารถมาว่ายน้ำพักผ่อนได้ตลอดทั้งวัน จัดวาง Sundeck และที่นั่งไว้โดยรอบ
ขอบสระเป็นระบบน้ำล้น ทำให้ได้ยินเสียงน้ำไหลให้ความรู้สึกสดชื่นตลอดเวลา
มีสระสำหรับเด็กแยกตัวออกไปใกล้ๆ ถือว่าเป็นสระว่ายน้ำมีขนาดใหญ่มาก หากเทียบกับจำนวนลูกบ้านเพียง 15 ยูนิต เรียกได้ว่าเพียงพอต่อการรองรับความต้องการ
SC Asset ยังเป็น Developer ที่ผมเห็นว่าให้ความสำคัญต่อการออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานของผู้คนที่หลากหลายในทุกโครงการเลยก็ว่าได้ครับ จะสังเกตว่าผมมักจะถา่ายรูป Stairlift หรือลิฟต์เก้าอี้เลื่อนขึ้นบันไดเพื่อนำผู้สูงอายุหรือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษขึ้นไปยังบนชั้น 2 ของ Clubhouse มาฝากกันเสมอ เพื่อเป็นการชื่นชมการออกแบบ Universal Design
นอกจากนี้ ยังมีทั้งทางลาดจากทางด้านหน้า Clubhouse เพื่อสำหรับรองรับผู้ใช้งานรถเข็น วีลแชร์ อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ออกแบบการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางโดยคำนึงถึงลูกบ้านทุกคนอย่่างแท้จริงเลยครับ
พื้นที่ชั้นล่างของ Clubhouse เป็น Guest Lobby ที่จัดวางชุดโซฟาที่นั่งไว้จำนวนมากและหลากหลายมุม ปัจจุบันเป็นพื้นที่ Sale Office และเตรียมโอนให้เป็นกรรมสิทธิ์ของลูกบ้านในอนาคตครับ ดังนั้น หากต้องการใช้บริการนั่งทำงานพักผ่อน แนะนำให้ขึ้นไปที่ Co-Working Space ชั้นบนจะดีกว่าครับ
เราเดินขึ้นบันไดมาบนชั้น 2 ของ Clubhouse กันบ้างครับ บริเวณปีกซ้ายจะเป็น Co-Working Space ภายในตกแต่งอย่างหรูหราผนังประดับกระจกสีชาและคิ้วบัวสไตล์ยุโรปสีเทา จัดวางชุดเก้าอี้ โซฟาและโต๊ะหินอ่อนที่นั่งเอาไว้หลากหลาย รองรับการใช้งานทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่มเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว พื้นปูลายไม้แบบก้างปลาให้ความรู้สึกอบอุ่นราวกับอยู่บ้าน
นับว่าเป็น Clubhouse ที่จัดเต็มมากด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายเพื่อให้ตอบโจทย์ลูกบ้านได้มากที่สุด โดยเฉพาะยุคที่เราต้องการความเป็นส่วนตัวที่ยังคงเชื่อมต่อกับส่วนรวมได้
การใช้พื้นที่ส่วนกลางต้องเน้นเรื่องความสะอาด สะดวกและสบาย ถ้าต้องการเปลี่ยนบรรยากาศจากการนั่งทำงานที่บ้าน ก็แวะมาใช้บริการที่ Clubhouse ได้ นั่งได้สบายผมว่ายังไงก็ไม่เต็ม เพราะมีลูกบ้านเพียงแค่ 15 ยูนิตเท่านั้น
ด้านหนึ่งจะมองผ่านกระจกลงไปเห็นโถงชั้นล่างที่สูงจรดชั้น 2 แบบ Double Volume บรรยากาศจึงดูโปร่งสบายดีมาก
แต่จุดที่ผมชอบที่สุดคือภายใน Co-Working Space จัดให้มีมุมกาแฟคอยให้บริการ มีอ่างล้างจานเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อย นับว่าเป็นการลงดีเทลเรื่องการอำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกบ้านผู้ใช้งานได้ดีมาก นอกจากนี้ยังมีห้องประชุมขนาด 8-10 ที่นั่งแยกออกไปต่างหากเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว
ปีกขวาของ Clubhouse เป็นฟิตเนส มีขนาดใหญ่ จัดวางเครื่องเล่นและอุปกรณ์ในการออกกำลังกายเอาไว้เยอะมากทั้งฟรีเวทและแมชชีน รองรับการใช้งานของลูกบ้าน
โดยลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน เครื่อง Elliptical จะจัดวางเป็นแนวยาวขนาดไปกับหน้าต่างเพื่อให้เราสามารถออกกำลังกายไปพร้อมกับการชมวิวสีเขียวของต้นไม้จากภายนอกได้ด้วย ในบรรยากาศสบายๆ ผมว่าถ้าเป็นตอนเย็นคงสวยมาก
ไม่เพียงแต่จะเป็นการมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือชั้นให้กับผู้อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ Bangkok Boulevard Signature พระราม 5 ยังเป็นการตอบคำถามที่ค้างคาอยู่ในใจราวกับเราทุกคนเป็นเหมือนหนูน้อยเควิน ที่ต่างปรารถนาให้ซานต้าพาทุกคนกลับมายังบ้าน
จาก Clubhouse ของโครงการ มองผ่านสระว่ายน้ำจะพบกับบ้านตัวอย่างหลังใหญ่ที่สวยมาก ผมว่าหัวใจหลักของโครงการคือเป็นบ้านออกแบบสวย เน้น Space + Function การอยู่อาศัยที่สบาย มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ
หลายคนรู้อยู่แล้วว่าผมชอบบ้านสไตล์โมเดิร์น รู้สึกถึงความทันสมัยและทำให้บ้านดูมีมิติ มีโถงสูงๆ เปิดช่องแสงกว้างๆ ผ่านกระจกใส รายรอบบ้าน
Exterior Design เป็นบ้าน Luxury Nordic ที่มีสวนและศาลาพักผ่อนอยู่ด้านข้างบ้าน มี Common Area ที่เชื่อมต่อกับทุกห้องรองรับการทำกิจกรรมร่วมกันสำหรับทุกเจนเนอเรชั่นในครอบครัว แต่การออกแบบจะลงดีเทลให้เข้ากับยุค New Normal มากขึ้น ด้วยการจัดให้มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทำกิจกรรมของตัวเอง ตรงนี้ถือเป็นหลักการออกแบบที่ดีมากครับ
บรรยากาศของโครงการผมว่าเรียบหรูดูดีมาก บ้านหลังใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงาม ด้วยระบบสายไฟใต้ดินทั้งโครงการเพื่อนำเสนอความงามของสถาปัตยกรรมแห่งการอยู่อาศัยได้อย่างเต็มที่
โครงการ Bangkok Boulevard Signature พระราม 5 เน้นเป็นบ้านหลังใหญ่บนที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว. ขึ้นไป บ้านตัวอย่างที่กานต์พามาชมกันในครั้งนี้คือแบบบ้าน Savonia เป็นบ้านหน้ากว้าง ขนาดพื้นที่ใช้สอย 519 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน สามารถจอดรถได้ 4 คัน มาพร้อมกับศาลาพักผ่อนด้านข้างบ้าน ซึ่งเราสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามใจ
รูปแบบการก่อสร้างเป็นงานก่ออิฐฉาบปูน ด้วยอิฐมวลเบา Q-Con มีความแข็งแรง รองรับการต่อเติมได้ในอนาคต การออกแบบภายนอกจะเป็นสไตล์ Luxury Nordic ที่มีความโมเดิร์น ดูเรียบหรู เป็นบ้านสไตล์คฤหาสน์หลังใหญ่แต่ไม่ดูเทอะทะ
ผมว่าดีไซเนอร์เก่งมากในการออกแบบลูกเล่นกับเหลี่ยมมุมหน้าบ้านที่จะล้อไปกับการตกกระทบของแสงในแต่ละช่วงเวลาทำให้หน้าบ้านดูแปลกตา น่าสนใจ เส้นสายต่างๆ คมกริบ อีกทั้งการเลือกใช้วัสดุต่างๆ อย่างกระจก ไม้ และเหล็ก เหล่านี้ผมว่าก็ช่วยทำให้บ้านดูมีมิติมากขึ้น
ประตูรั้วบ้านเป็นรางเหล็กเลื่อนมาพร้อมกับตู้รับจดหมาย ภายในมีพื้นที่ลานจอดรถหน้าบ้านกว้างขวาง โครงสร้างที่จอดรถลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้าน ส่วนพื้นเป็นทรายล้าง ทางโครงการติดตั้ง EV Charger ไว้สำหรับรองรับการใช้งานรถไฟฟ้าของลูกบ้าน
มีตู้เก็บของสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำสวนหรือถุงกอล์ฟที่มีขนาดใหญ่ได้ พร้อมกับมีประตูเชื่อมต่อกับครัวด้านในเพื่อให้สะดวกในการขนของเข้าบ้าน โดยไม่ต้องผ่าน Living Area
นอกจากนี้ ยังใช้เป็นทางเข้าออกของแม่บ้าน ซึ่งจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ทำงานโซนด้านหลังไม่ว่าจะเป็นลานซักล้าง ห้องครัวและห้องนอนแม่บ้าน ทำให้ทำงานได้สะดวกขึ้น ไม่รบกวนพื้นที่อาศัยของเรา
อีกหนึ่งจุดที่ผมชอบคือการออกแบบให้มีทางเดินภายนอกที่เชื่อมต่อจากโรงจอดรถผ่านห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่างเพื่อเข้ามาภายในบ้าน โดยทำเป็นทางลาดเพื่อรองรับการใช้วีลแชร์ และสามารถเลี้ยวเข้าห้องนอนล่างได้ทันทีโดยไม่ต้องอ้อมมาเข้าทางหน้าบ้าน
ประตูบ้านแบบ Oversize เป็นบ้านไม้สักขนาดใหญ่ พร้อมบานเล็กที่สามารถเปิดออกได้เช่นกัน สำหรับการขนสิ่งของที่มีขนาดใหญ่จะทำได้สะดวกยิ่งขึ้น มือจับใช้ของ COLT นำเข้าจากต่างประเทศ
เมื่อเปิดประตูเข้าบ้านจะพบกับ Arrival Hall ที่โดดเด่นด้วยชั้นวางหนังสือและเป็นที่เก็บของในตัว Built-in ตู้ทรงสูงจนเต็มเพดาน การเลือกใช้กระจกก็ช่วยทำให้บริเวณนี้ดูกว้างขวาง เป็นการเพิ่มมิติให้กับพื้นที่ จากเดิมอยู่ที่ 2.8 เมตร ผมก็ว่าดูสูงโปร่งมากอยู่แล้วนะครับ
ภายในบ้านได้ติดตั้ง Active Air Quality ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ ในการช่วยกรองอากาศจากภายนอกที่เข้ามาในบ้าน เพื่อเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ให้บ้านสะอาดมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ดันอากาศเสียที่อยู่ในบ้านออกไปสู่ด้านนอกเป็นการลดมลพิษภายในบ้านไปพร้อมกัน
ด้านขวามือเป็นมุมสำหรับรับแขกและนั่งพักผ่อน มาพร้อมกับผนังกระจกใสเป็นหน้าต่างรายรอบบ้านเพื่อเปิดช่องแสงเข้ามาภายใน
ผมชอบการเลือกใช้สีของบ้านตัวอย่างหลังนี้เน้นสีน้ำเงินที่จับคู่กับสีส้มของแสงไฟและวัสดุตกแต่ง ทำให้บ้านดูหรูหราและมีเรื่องราวน่าสนใจ ตกแต่งภายในสไตล์ยุโรปที่มีความวินเทจเล็กน้อย ผสานเข้ากับงานศิลป์ชั้นเยี่ยมที่เลือกมาประดับ เพื่อบ่งบอกรสนิยมของผู้พักอาศัย
มองออกไปเห็นบรรยากาศของสวนและน้ำพุภายนอกด้วยครับ รู้สึกร่มรื่นดีมาก ภายในจัดวางชุดโซฟาขนาดหลายที่นั่งเพื่อรองรับแขกกลุ่มใหญ่และการใช้งานที่หลากหลายภายในบ้าน
ผมนั่งอ่านหนังสือที่มุมนี้ก็รู้สึกได้ทันทีถึงความผ่อนคลาย เมื่อได้เห็นสีเขียวของต้นไม้ในบรรยากาศยามสาย เป็นบ้านที่ทำให้ผมไม่ค่อยอยากจะออกไปไหนเลยครับ
ถัดเข้าไปด้านในจะมี Double Living Room เป็นห้องเอนกประสงค์ซึ่งสามารถปรับฟังก์ชั่นได้หลากหลาย ให้ความเป็นส่วนตัว เช่นจะทำเป็น Theater Room สำหรับดูหนังฟังเพลง จะอยู่บริเวณด้านหน้าบ้าน ทำให้สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างบานกว้างได้เต็มที่และมีความเป็นส่วนตัว
ภายในห้องมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ดูแล้วโล่งโปร่งสบายดีมากเลยครับ หรือใครที่เป็นเจ้าของกิจการอยากจะปรับเป็นห้องทำงานหรือ Home Office ห้องสำหรับไลฟ์สดขายของออนไลน์หรือสตูดิโอขนาดย่อมก็ได้
ภายในมีประตูที่เปิดออกไปสู่พื้นที่ด้านข้างบ้าน เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการเลยครับ
ด้านข้างบ้านมีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอที่จะทำเป็นสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้าน หรือทำเป็นศาลาสำหรับพักผ่อนนอกบ้านอ่านหนังสือพิมพ์ยามเช้า ฟังเสียงน้ำตกเบาๆ เติมความสดชื่นสบายใจดี ตอนเย็นทำเป็นพื้นที่สำหรับปาร์ตี้บาร์บีคิวกับเพื่อนและสมาชิกในครอบครัวก็น่าสนุกดีเหมือนกันครับ
บริเวณ Common Area ยังมีพื้นที่สำหรับ Dining ค่อนข้างกว้าง หากจะนับตั้งแต่โต๊ะรับประทานอาหารไปจนถึงครัวด้านในสุด มาพร้อมกับ Pantry และเคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่ภายนอกสำหรับจัดเตรียมอาหาร นั่งดื่มกาแฟยามเช้าหรือจิบกันเบาๆ ตอนหัวค่ำ ทำให้เราสนุกกับการพักผ่อนอยู่บ้านและทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว
Dining Area จัดวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 8 ที่นั่ง ไม่รวมหัวท้าย ซึ่งผมว่าหากบ้านไหนมีจำนวนสมาชิกมากกว่านั้นก็สามารถขยายขนาดของโต๊ะเพิ่มได้ครับ เพราะมีพื้นที่เหลือค่อนข้างมาก
มุมนี้บ้านตัวอย่างตกแต่งได้เรียบหรูดีด้วยสีน้ำเงินแซมด้วยสีทองจากเฟอร์นิเจอร์และสีของโคมไฟเพดานที่ช่วยรับกันได้ดี ทำให้บ้านดูมีมิติน่าอยู่ยิ่งขึ้น มองออกไปเห็นสวนสีเขียวโซนด้านหลังบ้านพร้อมประตูบานเลื่อนที่สามารถเปิดออกไปได้ ช่วยเสริมบรรยากาศของมื้ออาหารให้มีรสชาติที่ดียิ่งขึ้น
ด้านหลังเป็นโถงทางเดินสำหรับไปยังครัว ห้องน้ำชั้นล่างและพื้นที่ทำงานของแม่บ้าน ติดกันเป็นประตูเล็กสำหรับเปิดไปสู่ลานจอดรถด้านนอก บ้านตัวอย่างเติมกระจกเงาเพื่อเพิ่มมิติให้ดูน่าสนใจ เราสามารถติดตั้งตู้สำหรับเก็บรองเท้าหรือเก็บของเพิ่มเติมได้
ทางโครงการยังได้ออกแบบให้มี Ruejai Home Automation พร้อมแผงควบคุมติดตั้งไว้ที่บริเวณนี้ ที่ SC Asset พัฒนาขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการควบคุมและเช็กสถานะของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเปิด-ปิดไฟ เครื่องปรับอากาศ กล้องวงจรปิด มีเซนเซอร์คอยตรวจจับและแจ้งความผิดปกติ ตลอดจนรายงานคุณภาพอากาศภายในบ้านได้ทุกที่ ทุกเวลาครับ ติดกันเป็นแผงควบคุม Control Panel จาก Inim
นอกจากนี้บ้านทุกหลังได้มีการติดตั้งระบบกันขโมย Magnetic & Shock Sensor และติดตั้ง Smoke & Heat Detectorเพิ่มความปลอดภัยในการอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น
ครัวไทยมาพร้อมกับเคาน์เตอร์เป็นรูปตัวแอล (L-Shape) ขนาดใหญ่พร้อมตู้เก็บของบานปิดทั้งบนและล่าง อ่างล้างจานแบบ 2 หลุม ตกแต่งด้วยสีน้ำเงินสดเป็นครัวที่สวยมาก เหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่เป็นทั้งครัวใช้และครัวโชว์ในคราวเดียวกัน
พื้นที่ของครัวถือว่ามีขนาดใหญ่มากครับและแบ่งเป็นสัดส่วนได้ดี แยกออกมาจากส่วนพักผ่อนภายในบ้าน โดยแทบไม่จำเป็นต้องต่อเติมครัวไทยภายนอกเพิ่ม
นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างสำหรับเปิดออกเพื่อระบายอากาศภายในครัว
นอกจากนี้ ชั้นล่างยังออกแบบให้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ โดยลงดีเทลให้มีประตูเปิดเชื่อมต่อกับภายนอกบ้าน สามารถเข้าออกได้ง่ายๆ ใกล้กับลานจอดรถได้อย่างสะดวก หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ถิือว่าเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ดูใส่ใจดี
ขณะเดียวกันก็น่าจะเป็นมุมโปรดสำหรับผู้สูงอายุได้มานั่งพักผ่อนอ่านหนังสือพร้อมกับชมสวน สามารถเปิดประตูเพื่อไปเดินออกกำลังกายเบาๆ ยามเช้ารับอากาศบริสุทธิ์ได้แบบส่วนตัว และด้วยความที่อยู่ใกล้ครัว สามารถตื่นแต่เช้ามาเข้าครัวทำอาหารให้เด็กๆ ได้ทานกันก่อนไปโรงเรียน
ส่วนฟังก์ชั่นภายในห้องออกแบบมารองรับการใช้งานอย่างครบถ้วน เช่น การจัดวางพื้นที่รอบเตียงให้มีขนาดกว้างกว่าห้องนอนทั่วไปเพื่อรองรับการใช้วีลแชร์และสำหรับเดินเหิรภายในห้องจะได้ไม่สะดุด
หัวเตียงมีโต๊ะเตี้ยสำหรับวางโคมไฟและชาร์ตโทรศัพท์ไว้ก่อนนอน พื้นห้องจะปูด้วย Soft Floor ของ SCG เพื่อช่วยลดแรงกระแทก
ประตูห้องน้ำมีขนาดใหญ่กว่าปกติและเป็นแบบ Step Free คือมีความเป็นระนาบเดียวกับพื้นห้องเพื่อป้องกันการสะดุดล้ม ภายในห้องน้ำมีขนาดใหญ่ แยกส่วนเปียกแห้ง และมีการติดตั้งราวจับเพื่ออำนวยความสะดวก สุขภัณฑ์ที่ติดตั้งให้เป็นของ Kohler ครับ
ขึ้นบันไดไปชมชั้น 2 ของบ้านกันบ้าง บันไดตั้งอยู่กึ่งกลางของบ้าน โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกตั้งลูกตั้งลูกนอนเป็นไม้มะค่าลายไม้สีเข้ม ราวกันตกเป็นเหล็กทาสีดำ ส่วนมือจับเป็นลายไม้เข้ากันดี มีพื้นที่ใต้บันไดเป็นห้องเก็บของทั่วไป
ตรงกลางบริเวณชานพักบันไดเป็นขั้นสีเหลี่ยม 3 ขั้น 2 ช่วงค่อนข้างกว้างเดินสวนกันได้สบาย พร้อมผนังกระจกบานใหญ่ อยากแนะนำให้หาแชนเดอร์เลียสวยๆ มาติดบริเวณโถงขึ้นลงบันไดก็น่าจะช่วยให้บ้านดูสวยขึ้น ส่วนฝาผนังถ้ารู้สึกว่าโล่งไปก็ลองนำภาพถ่ายสวยๆ เรื่องราวความทรงจำดีๆ ใส่กรอบแล้วนำมาแขวนไว้ก็ได้ครับ จะได้ดูเพลินๆ ระหว่างเดินขึ้นลงบันได
เมื่อเดินขึ้นบันไดมาเราจะพบกับบริเวณโถงกลาง Family Area ที่มีขนาดใหญ่ ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ผมประทับใจ เพราะเป็นพื้นที่สำหรับสมาชิกในครอบครัวให้ได้พักผ่อนในบรรยากาศสบายๆ และทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว
ชั้นบนยังคงเป็นการตกแต่งภายในที่สวยงามหรูหราตามสไตล์ของ SC Asset ที่ผมมองว่าทำบ้านตัวอย่างสวยถูกใจผมทุกโครงการและมักจะขายได้ก่อนบ้านจริงเสมอ หลังนี้ก็เช่นกัน บ้านตัวอย่างจัดวางโซฟาสไตล์วินเทจสีฟ้าเอาไว้ พร้อมที่นั่งแยกออกไปเป็นสีน้ำเงินเข้มดูเข้าชุดกันดี
ผมชอบดีเทลของหมอนอิงที่ไล่เฉดคุมโทน ทำให้มุมนี้ดูอบอุ่นเป็นกันเอง ส่วนบริเวณด้านหลังจะเป็นตู้โชว์วางของตกแต่ง ตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ ด้วยระยะชมที่เหมาะสมผมว่าเลือกเป็นสมาร์ททีวีขนาด 85-100 นิ้วได้สบายๆ เลยครับ สามารถดูหนังทำกิจกรรมครอบครัวร่วมกันได้
Family Area ยังมีประตูบานเลื่อนที่สามารถเปิดออกไปเป็นระเบียงชั้นบนให้เราออกไปยืนรับลมชมวิว หรือเปิดออกเพื่อระบายอากาศรับลมธรรมชาติที่โฟลว์ขึ้น หรือจะหาโต๊ะเก้าอี้สนามมาวางไว้เพื่อทำเป็นมุมจิบชายามบ่ายก็เก๋ดีเหมือนกันครับ
ชั้นบนปูพื้นด้วย Engineering Wood โดยมีความสูงของฝ้าเพดานเท่ากับชั้นล่างคือ 2.8 เมตร
ติดกันมีมุมเอนกประสงค์สำหรับปรับเป็นพื้นที่ตามไลฟ์สไตล์ของลูกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางลู่วิ่งอุปกรณ์ออกกำลังกาย หรือจะทำเป็นห้องพระก็ได้
ถ้าดูตามแปลนของบ้าน อันที่จริงมุมนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของ Master Bedroom ครับ แต่บ้านตัวอย่างออกแบบให้แยกออกมาเพื่อเป็นพื้นที่กลางใช้งานร่วมกัน ดังนั้นหากใครจะปรับให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวภายในห้องนอนก็ได้เช่นกัน
Master Bedroom กินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของตัวบ้านชั้นบน มาพร้อมกับโถงสูงซึ่งเป็นไฮไลท์ของบ้านในโครงการ Bangkok Boulevard Signature เลยครับ
High Ceiling มีความสูงอยู่ที่ 5.18 เมตร ช่วยให้ห้องนอนหลักดูโปร่งโล่งสบาย พักผ่อนได้ไม่อึดอัด ยิ่งทำเพดานเป็นทรงจั่วด้วยแล้วช่วยเสริมให้บ้านดูโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น
สถาปนิกออกแบบให้ห้องนอนหลักเป็นมากกว่าห้องนอนทั่วไป ดังนั้นเราจะเห็นว่าภายในห้องแบ่งฟังก์ชันการใช้สอยได้หลากหลายและลงตัวดีครับ ราวกับเป็นบ้านอีกหนึ่งหลัง
การตกแต่งภายในคุมโทนความเป็นบ้านสไตล์ Luxury Nordic ได้ดี ห้องนอนหลักออกแบบให้มี Living สำหรับใช้เวลาส่วนตัวโดยจัดวางโซฟาขนาดใหญ่สีเทาเข้ม รับกับโต๊ะกลางสีดำ มีชั้นวางทีวีอยู่อีกฝั่งและมีระยะห่างในการรับชมพอสมควร
รอบห้องเป็นกระจกใสทำให้ห้องนอนมีช่องแสงจากภายนอกขนาดใหญ่เปิดเข้ามาภายใน มีเงาจากร่มไม้รำไรคอยอยู่เป็นเพื่อน เชื่อมต่อเรากับธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกัน ประตูสามารถเปิดออกทั้ง 2 ด้านเพื่อระบายอากาศได้ ทำให้ภายในห้องดูโปร่ง โล่งอยู่สบายไม่รู้สึกอึดอัด
เราสามารถเดินไปที่ระเบียงด้านนอกได้ ทางโครงการได้ติดตั้งราวกันตกเป็นกระจก Temper พร้อมมือจับอลูมิเนียม แนะนำให้หาไม้กระถางขนาดใหญ่และโต๊ะเก้าอี้สนามมาวางเพิ่มที่ระเบียงได้ เอาไว้ยืนที่ริมระเบียงหรือนั่งจิบกาแฟยามเช้า อัพเดทข่าวสารเบาๆ หลังตื่นนอนก็ได้เช่นกัน
โดยถ้ามองจาก Top View ลงมาจะเห็นเป็นสวนด้านหน้าบ้าน ส่วนอีกฝั่งเป็นวิวศาลาพักผ่อนและน้ำตกด้านข้างบ้าน เชื่อมต่อบริบทแวดล้อมกันได้ดี
ภายในห้องนอนจัดวางเตียงขนาดใหญ่ไว้ตรงกลาง หัวเตียงบุนวมสีเทาควันบุหรี่ดูเรียบหรู เข้าคู่กับชุดผ้าปูที่นอนสีขาวตัดสีน้ำเงินน้ำทะเลเข้ม มีโคมไฟส่องสว่างตั้งไว้ที่บริเวณหัวเตียง พร้อมกับตู้แบบเตี้ยสำหรับวางของ ประดับด้วยภาพถ่ายแห่งความทรงจำที่ทำให้เรารู้สึกดีทุกครั้งที่ได้มอง พร้อมกับแชนเดอร์เลียร์ส่องสว่าง มีพื้นที่รอบเตียงเดินได้เหลือๆ เลยครับ
ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ที่ใหญ่มาก เหมาะสำหรับใครที่รักในการแต่งตัว สนุกกับการเลือกชุดเสื้อผ้า เพราะว่ามีพื้นที่จัดเก็บค่อนข้างมาก เราสามารถติดตั้งตู้เสื้อผ้าบานใหญ่ทรงสูงจากพื้นจรดเพดานไว้รอบห้องได้เลยครับ
บ้านตัวอย่างติดไฟ LED เป็นเส้นสายเอาไว้ทำให้ห้องดูน่าสนใจและโปร่งสบาย ให้ฟีลลิ่งที่กว้างกว่าด้วยบานตู้เป็นกระจกใส พร้อมกับโต๊ะเครื่องแป้ง ตรงกลางห้องยังมีที่ว่างให้เราวางตู้สำหรับจัดเก็บเครื่องประดับ พร้อมกับจัดเก้าอี้เอาไว้ให้คุณผู้ชายนั่งรอคุณผู้หญิงขณะแต่งตัวได้อีกด้วย ซึ่งบริเวณห้องแต่งตัวในบ้านจริงจะขยายออกไปเป็นห้องออกกำลังกาย ซึ่งหากใครไม่ได้กั้นห้องแบบบ้านตัวอย่าง ก็จะทำให้ได้พื้นที่ในห้องแต่งตัวเพิ่มมากขึ้นครับ
เข้าไปด้านในเป็นห้องน้ำ ผมว่าฟังก์ชั่นแบบนี้สะดวกดีครับ เราสามารถอาบน้ำแล้วแต่งตัวให้จบภายในโซนได้เลย
ห้องน้ำสวยมากด้วยกระเบื้องสีเทาเข้ม มาพร้อมกับอ่างอาบน้ำ Jacuzzi ของ i-Spa มีขนาดใหญ่มากสามารถแช่ 2 คนพร้อมกันได้เลยครับ มีหน้าต่างที่เปิดช่องแสงเอาไว้ด้านข้าง สามารถเปิดออกเพื่อระบายอากาศและไล่ความชื้นได้
ติดกันเป็นห้องอาบน้ำแบบ Hand Shower เดินระบบน้ำร้อนน้ำเย็นมาให้เรียบร้อย โครงการได้ติดตั้งสุขภัณฑ์อัตโนมัติจาก Kohler มาให้ด้วย ฝั่งตรงข้ามอ่างล้างมือแบบ His & Her พร้อมที่เก็บของใต้อ่าง
“Tea is an act complete in its simplicity. When I drink tea, there is only me and the tea. The rest of the world dissolves.”
– Thich Nhat Hanh
บริเวณปีกซ้ายของบ้านจะเป็นห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องซึ่งทุกห้องมีห้องน้ำในตัว เราเริ่มจากห้องนอนฝั่งด้านหน้าบ้านก่อนครับ ห้องนี้ตกแต่งสีสันสดใส มีความเอาใจลูกคุณสุดๆ ด้วยสี Shocking Pink
ห้องนอนรองมาพร้อมกับฟังก์ชั่นภายในที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเตียงนอนขนาดใหญ่ที่โดดเด่นด้วยผนังหัวเตียงหินอ่อนฉลุทรงโค้งดูเก๋ไก๋ดี มีพื้นที่รอบเตียงให้เดินได้สบาย ปลายเตียงจัดเป็นมุมพักผ่อน มีโต๊ะทำการบ้านและที่นั่งสำหรับอ่านหนังสือหรือนั่งเพนท์รูปตามสไตล์ศิลปิน
เตียงนอนมีขนาดใหญ่โดดเด่นด้วยผนังหัวเตียงหินอ่อนฉลุทรงโค้งดูเก๋ไก๋ดี มีพื้นที่รอบเตียงให้เดินได้สบาย นอกจากนี้ ยังเป็นห้องที่มีระเบียงในตัวครับ สามารถเปิดออกไปรับลมชมวิวฝั่งหน้าบ้านได้
ส่วนด้านในเป็นโถงลึกเข้าไปสำหรับจัดวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เต็มผนัง ช่วงปลายเป็็นโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่บริเวณด้านหน้าห้องน้ำ
ส่วนห้องนอนรองอีกห้องจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่เอาไว้ตรงกลาง ปลายเตียงเป็นตู้หนังสือและโต๊ะทำงาน พร้อมกับชั้นวางทีวีให้เรานอนดูซีรีย์จากบนเตียงได้เลยครับ นับว่าสะดวกมาก
อีกหนึ่งจุดที่ชอบสำหรับห้องนี้คือการมีช่องแสงรอบด้านทำให้ห้องดูค่อนข้างกว้างและจัดวางฟังก์ชั่นภายในได้ค่อนข้างลงตัว
ด้วยความที่ห้องนอนอยู่โซนด้านหลังบ้าน ซึ่งผมว่าจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าและค่อนข้างเงียบ จึงเหมาะที่จะเป็นห้องนอนของชายหนุ่มผู้รักในเสียงดนตรี ชนิดที่ว่ามีชุดกลองไฟฟ้าเอาไว้ซ้อมมืออยู่ในห้องกันเลยทีเดียว
ห้องนอนนี้จะวางผังต่างจากห้องนอนก่อนหน้าคือมีประตูอยู่ตรงกลาง ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ พร้อมกับมุมแต่งตัวที่แยกส่วนชัดเจน เป็นตู้เสื้อผ้าสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดานเต็มพื้นที่มีโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ด้านในสุด
ถัดเข้าไปด้านในทางขวามือถึงจะเป็นมุมพักผ่อนที่ตกแต่งได้อย่างสวยงาม
#โดยสรุป โครงการ Bangkok Boulevard Signature พระราม 5 เหมาะสำหรับคนที่มองหาบ้านใหม่หลังใหญ่ที่ดิน 100 ตร.วา ขึ้นไป ในย่านพระราม 5-ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ในทำเลที่เชื่อมต่อถนนสายหลักหลายสาย ใกล้ทางด่วนและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ที่สำคัญคือการออกแบบที่มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัว เนื่องจากมีจำนวนเพียง 15 ยูนิตเท่านั้น พื้นที่ส่วนกลางมีขนาดใหญ่ เพียงพอต่อการรองรับการใช้งานของลูกบ้าน
ทัศนียภาพโดยรวมสวยมาก โครงการนำสายไฟลงดินเรียบร้อยแล้วครับ บรรยากาศของโครงการมีกลิ่นอายของ Santa Village ที่เมือง Rovaniemi ของฟินแลนด์ซึ่งผมว่าดีไซน์ของ Clubhouse เข้ากันดีกับบ้านสไตล์ Nordic Series สุด Luxury ได้อย่างลงตัว
สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 061-178-5919
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ : https://m.scasset.com/DTNx