#รีสอร์ตเปิดใหม่ ไฮไลท์
ทุกหลังคือพูลวิลล่า
________________________
สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับ Alila รีสอร์ตจะเป็นแบรนด์ที่เน้นความเป็นธรรมชาติแวดล้อมแต่ยังคงความหรูหรา มีระดับ เป็นแบรนด์ตัวท๊อปของ Hyatt ครับ ต้องยอมรับว่า Alila จะดีไซน์ มีสไตล์เฉพาะตัวในแต่ละทำเลที่รีสอร์ตไปตั้งอยู่
.
เอาจริง ผมว่า Hyatt เองก็มีแบรนด์โรงแรมสวยๆ อยู่หลายแห่งเลยครับ สำหรับบ้านเราอาจจะต้องรอสักพักเพราะตอนนี้ยังมีน้อยอยู่ ที่น่าตื่นเต้นเห็นจะเป็น Andaz Jomtien Beach Pattaya และ Andaz One Bangkok แต่ใดๆ แล้ว Park Hyatt Bangkok ยังมีโรงแรมในกรุงเทพอันดับหนึ่งในใจกานต์ตลอดมาเลยนะครับ ตามไปอ่านรีวิวกันได้
เท่าที่ได้เห็นใน Pipelines ตอนไปงาน Journey With Hyatt Across Asia ในโลเคชั่นอื่นผมว่า Hyatt มีหลายแห่งน่าสนใจ รวมถึง Park Hyatt แห่งที่ 2 ของไทยด้วย อุ๊ยยย!!
Alila Kothaifaru Maldives นี่ก็เพิ่งเปิดได้ไม่กี่เดือน ตั้งอยู่ใน Raa Atoll ทางตอนเหนือของหมู่เกาะมัลดีฟส์ เป็นเกาะที่มีปะการังสวยหลากสี เมื่อลงเครื่องที่ Male แล้วต้องนั่ง Seaplane ต่อไปอีกประมาณ 45 นาที
ตัวรีสอร์ตออกแบบสวยและมี Overwater Pool Villas อันน่าจึ้ง อีกจุดเด่นเลยคือหาดทรายสีขาว น้ำทะเลสีฟ้าครามตัดกับต้นไม้สีเขียวครึ้มราวกับป่าบนเกาะ มองเห็นมาตั้งแต่บนเครื่องบิน
สถาปัตยกรรมของที่นี่เป็นแบบ Luxury Minimalist ผลงายของ Studiogoto จากสิงคโปร์ ทุกหลังเป็น Pool Villas ดูมีความเรียบง่าย เน้นแสงสว่างจากภายนอก ออกแบบให้เชื่อมโยงกับบริบทของธรรมชาติรอบตัว แทบจะไม่ได้ตัดต้นไม้เดิมออกเลยครับ ดังนั้น ถ้าใครชอบบรรยากาศยามเช้าแนะนำเป็น Sunries Beach Villa จะได้ยินเสียงนกร้องกลางป่า มีแดดอ่อนๆ ส่องเข้ามาทักทายแต่เช้า เราสามารถเดินลงสู่ทะเลได้จากหน้าวิลล่า
แต่สำหรับเราซึ่งชอบวิวทะเลกับท้องฟ้ายามเย็นต้องเป็น Sunset Water Villa เท่านั้น วิวพระอาทิตย์ตกจากวิลล่าที่ทอดยาวเหนือทะเลสาบสีฟ้าคราม พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวและลานอาบแดดที่มองเห็นเส้นขอบฟ้าของมหาสมุทร แทบจะหยุดใจไว้ที่นี่
Alila Kothaifaru Maldives อยู่ใกล้กับเขตสงวนชีวมณฑลโลก Hanifaru Bay จาก UNESCO ซึ่งเป็นที่อยู่ของปลาแปลก ๆ รวมถึงกระเบนราหูและฉลามวาฬ และยังตั้งอยู่ใกล้กับเกาะ Vaadhoo ซึ่งเป็นสถานที่ที่น่าจะได้เห็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ นั่นคือ “Sea of Stars”
ในรีสอร์ตมีร้านอาหาร Seasalt บรรยากาศดี วิวสวย เน้นอาหารเมดิเตอร์เรเนียนริมชายฝั่งที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันออกกลาง ที่ห้ามพลาดเลยคือเมนูปลาอบเกลือเป็น Signature ของที่ร้าน ติดกันเป็น Mirus Bar ซึ่งเป็นภาษา Dhivehi แปลว่า พริก เครื่องดื่มจึงได้รับแรงบันดาลใจจากเส้นทางการค้าเครื่องเทศในอดีตของภูมิภาคนี้ และปรุงด้วยส่วนผสมจากสวนสมุนไพรของรีสอร์ต
มีห้องอาหาร Umami เน้นเมนูสไตล์ญี่ปุ่น เนื้อวากิว ซูชิ ซาชิมิ อาหารทะเล เสิร์ฟพร้อมผักที่ปลูกแบบออร์แกนิค พร้อมกับ Yakitori Bar ให้เราได้จิบสาเกและเหล้าญี่ปุ่น สามารถรีเควสว่าอยากจัดดินเนอร์ใต้แสงเทียนใต้แสงดาวแสนโรแมนติกที่ The Shack ได้ด้วยนะครับ
สำหรับกิจกรรมมีให้ทำเยอะมาก ทั้ง แล่นเรือใบ พายเรือคายัค ล่องแก่ง ดำน้ำตื้น โยคะ ฟิตเนส สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ หรือใครชอบปรนเปรอผิวก็สามารถไปใช้บริการสปาได้ ทรีตเม้นท์จะเน้นเทคนิคแบบโบราณร่วมสมัย และใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ
คอนเซ็ปต์ที่โดดเด่นของ Alila Kothaifaru Maldives คือเป็นรีสอร์ตที่เน้นความยั่งยืนหรือ Sustainable มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องของงานสถาปัตยกรรม แนวทางการใช้น้ำอย่างยั่งยืนในรีสอร์ต ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา ลดใช้พลาสติก มีมาตรการกำจัดของเสีย การแปลงผลิตภัณฑ์กระดาษและขยะจากพืชเป็นปุ๋ยและการใช้เครื่องบดขวดเพื่อนำไปหลอมใช้ เน้นทั้งเรื่อง Reduce Reuse และ Recycle แบบครบลูปเลยครับ น่าสนใจมาก
#Maldives#AlilaKothaifaruMaldives#Alila#Hyatt#WorldOfHyatt
