“การยังเป็นตัวของตัวเองได้ในโลกที่พยายามทำให้คุณเป็นคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
.
“𝐓𝐨 𝐛𝐞 𝐲𝐨𝐮𝐫𝐬𝐞𝐥𝐟 𝐢𝐧 𝐚 𝐰𝐨𝐫𝐥𝐝 𝐭𝐡𝐚𝐭 𝐢𝐬 𝐜𝐨𝐧𝐬𝐭𝐚𝐧𝐭𝐥𝐲 𝐭𝐫𝐲𝐢𝐧𝐠 𝐭𝐨 𝐦𝐚𝐤𝐞 𝐲𝐨𝐮 𝐬𝐨𝐦𝐞𝐭𝐡𝐢𝐧𝐠 𝐞𝐥𝐬𝐞 𝐢𝐬 𝐭𝐡𝐞 𝐠𝐫𝐞𝐚𝐭𝐞𝐬𝐭 𝐚𝐜𝐜𝐨𝐦𝐩𝐥𝐢𝐬𝐡𝐦𝐞𝐧𝐭.” – กวีและนักปรัชญาชาวอเมริกัน Ralph Waldo Emerson เคยกล่าวเอาไว้
.
วลีนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 จนถึงตอนนี้
.
ยุคนั้นดีไซเนอร์หลายคนก็พยายามกระตุ้นให้เรามีความชัดเจนในตัวตนผ่านงานดีไซน์ อย่าง Coco Chanel ก็ออกมาสนับสนุนความเป็นปัจเจกบุคคล งานของเธอเน้นความสบาย เรียบง่ายและสง่างาม ส่งเสริมให้ผู้คนแต่งตัวเพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อแฟชั่น เธอบอกว่า “The most courageous act is still to think for yourself”
.
ไม่เพียงแต่แวดวงแฟชั่นที่ต้องการกระตุ้นให้เราเป็นตัวของตัวเอง ปัจจุบันการจะซื้อบ้านสักหลังก็ยังต้องเลือกโครงการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และตัวตนของเราได้มากที่สุด Developer เองก็พยายามนำเสนอโครงการให้ดูน่าสนใจ หนึ่งในโครงการบ้านที่กานต์มองว่ากล้าและน่าอยู่ มีแนวคิดในการให้ทุกคนนำเสนอตัวตนออกมา นั่นคือ AIRI SUKHUMVIT-BANGNA KM.5 (แอริ สุขุมวิท-บางนา กม.5)
.
“My Place, My Attitude บ้านเพื่อทุกความเป็นตัวเอง” เป็นคอนเซปต์ที่ชัดเจนมาก ใน Identity ที่ต้องการให้ทุกคน “มีความชัดเจนในตัวตน” กานต์ยอมรับเลยว่าโครงการนี้ดีไซน์สวยมาก ฉีกทุกกฎเกณฑ์การออกแบบ เพื่อสร้างนิยามใหม่แห่งการอยู่อาศัยที่แตกต่างจากอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์
.
เห็นได้จากการดีไซน์ตัวบ้าน ให้มีความโมเดิร์น ออกแบบให้บ้านเกือบทุกหลังตั้งอยู่หน้าสวนส่วนกลาง (Facing Around Serene Park) มี Facade บังด้านหน้าบ้านช่วยให้เกิดความเป็นส่วนตัวขณะอยู่อาศัย ภายในตกแต่งบ้านด้วยงานศิลปะที่สะท้อนความชอบและตัวตนของเรา คนที่ชอบเข้าสังคมเน้นสนุกสนาน อาจออกแบบบ้านให้มีพื้นที่เปิดโล่งเคลื่อนย้ายได้ง่าย ส่วนคนชอบเวลาที่เงียบสงบ อาจออกแบบบ้านให้มีมุมสบายๆ เป็นพื้นที่ส่วนตัว หรือหากอยากใช้เวลาร่วมกันสามารถเปลี่ยนบรรยากาศไปใช้ที่ AIRI PRESTIGE CLUB คลับเฮาส์ขนาดใหญ่ มาพร้อมสระว่ายน้ำขนาด Half Size Olympic ได้เช่นกันครับ
.
อีกหนึ่งจุดเด่นของ AIRI SUKHUMVIT-BANGNA KM.5 ต้องบอกว่าทำเลคือ Rare Item เลยครับ โครงการตั้งอยู่ในช่วงต้นของโซนบางนา-ตราด ที่นับว่าจะหาที่ดินผืนใหญ่ได้ยาก ตอนนี้กลายเป็น New CBD กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกที่น่าจับตา รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคครบครัน ที่สุดของความเป็นส่วนตัว เอกสิทธิ์เพียง 40 ครอบครัวเท่านั้น
.
ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม! 300,000 บาท คลิก https://anan.ly/4g2cWR3
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายเข้าชมโครงการโทร 0-2316-2222
AIRI SUKHUMVIT-BANGNA KM.5 (แอริ สุขุมวิท-บางนา กม.5) บ้านเดี่ยวหรูโครงการใหม่จากบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ซึ่งกานต์ว่าออกแบบโครงการได้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และดีไซน์ฟังก์ชันได้โดนใจคนเมืองมากๆ เลยครับ โครงการ AIRI SUKHUMVIT-BANGNA KM.5 มีขนาดเนื้อที่ประมาณ 12 ไร่ ตั้งอยู่ภายใน ซ.บางนา-ตราด 37 หรือเราเรียกกันง่ายๆ ว่าซอย Index ซึ่งเป็นทำเลที่ถือเป็น Hidden Gem ของบางนาช่วงต้นเลยครับ นับว่าจะหาที่ดินผืนใหญ่เพื่อทำเป็นโครงการบ้านได้ยากเต็มที ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สะดวกในการเดินทางเพราะเชื่อมต่อถนนได้หลายสาย อาทิ ถนนบางนา – ตราด, ถนนพระราม 9, ถนนพัฒนาการ, ถนนศรีนครินทร์, ถนนอ่อนนุช (ซ.สุขุมวิท 77), ถนนอุดมสุข ใกล้ทางด่วนบูรพาวิถี (ฝั่งขาออก) มุ่งหน้าออกไปทางพัทยา-ชลบุรี หรือจะออกไปถนนกาญจนาภิเษกทั้งบางปะอิน-พระราม 2 ก็สะดวกเช่นกันครับ แต่ถ้าใครจะเข้าเมืองก็สามารถกลับรถตรงหน้าปากซอยโครงการแล้วตรงมาขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครเพื่อเข้าเมืองได้เลยครับ นับว่าสะดวกมากๆ นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้าถึง 2 สาย คือ รถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท (คูตค-เคหะ) ไว้รองรับสำหรับคนที่ต้องการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ AIRI SUKHUMVIT-BANGNA KM.5 ตั้งอยู่บนทำเลที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งสถานศึกษาระดับแถวหน้า สถานพยาบาลที่มีมาตรฐานชั้นนำ ห้างสรรพสินค้า Community Mall ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารชื่อดัง คาเฟ่ดีไซน์เก๋เยอะมาก ที่สำคัญตั้งอยู่ใกล้กับโรงเรียนนานาชาติหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น International Community School (ICS) ที่อยู่ห่างจากโครงการเพียง 600 เมตรเท่านั้น ไม่ไกลกันยังมี Raffles American School (RAS), Berkeley International School และโรงเรียนนานาชาติไทย-สิงคโปร์ สะดวกมากๆ เลยครับ โครงการ AIRI SUKHUMVIT-BANGNA KM.5 เป็นบ้านเดี่ยวหรู Timeless Design มี Concept ที่สะท้อน Attitude ของผู้อยู่อาศัยภายใต้ 4 แกนเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ AIRI BRAND DNA ประกอบด้วย จนกลายมาเป็น My Place, My Attitude บ้านเพื่อทุกความเป็นตัวเอง ที่สะท้อนตัวตนด้วยความประณีตทุกรายละเอียดที่แตกต่างและเป็นตัวเองอย่างลงตัว เราจึงได้เห็นบ้านที่มีดีไซน์สวยแปลกตาฉีกกว่าทุกโครงการที่อนันดาเคยทำมาและยูนีคไม่เหมือนใคร ทั้งยังมีจำนวนยูนิตน้อยเพียง 40 หลัง ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง บนที่สุดของทำเล New CBD ฝั่งตะวันออก บางนา กม.5 เมื่อมาถึงโครงการ ด้านหน้าโดดเด่นด้วยประตู Main Gate ขนาดใหญ่ดีไซน์โมเดิร์นดูหรูหราสวยงาม โดดเด่นด้วยการเลือกใช้ผนังหินอ่อนสีดำตัดกับลายเส้นสีทอง สอดรับกันดีกับป้ายด้านหน้าโครงการที่มองเห็นชัดแต่ไกล ประดับด้วยหญ้าสีเขียวและพุ่มไม้ที่เป็น Layer ซ้อนด้านหน้าและด้านหลัง ประตูทางเข้าแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งเพื่อสะดวกต่อการเข้าออก ใช้เป็นประตูเหล็กรางเลื่อนอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย มีประตูเล็กสำหรับคนเดินเท้า การเข้า-ออกจะใช้ระบบตรวจจับป้ายทะเบียน LPR (License Plate Recognition) ส่วนการรักษาความปลอดภัยของที่นี่จะเน้นความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยสูง มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง มีระบบกล้อง CCTV โดยรอบ รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร มีระบบ Video Door Phone เพื่ออำนวยความสะดวกให้แขกสามารถโทรติดต่อพูดคุยกับลูกบ้านได้ Clubhouse โครงการจะเรียกว่า AIRI PRESTIGE CLUB เป็นอาคารดีไซน์ผสมผสานความโมเดิร์นและ ความคลาสสิค ให้เข้ากันได้อย่างลงตัวสูง 2 ชั้น ด้านหน้าประดับด้วย Facade อลูมิเนียมฉลุฉลายสี Jade Green อัญมณีสีเขียวที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย มีชีวิตชีวา ดูสวยงามและแปลกตาดีมาก แต่โดยรวมดูกลมกลืนกับสวนและต้นไม้น้อยใหญ่ ทำให้บรรยากาศของ AIRI PRESTIGE CLUB ดูหรูหรา สดชื่นสบายตา สบายใจ เหมาะกับวันพักผ่อนสบายๆ ดีครับ ด้วยความที่โครงการออกแบบให้ AIRI PRESTIGE CLUB อยู่ด้านหน้าทางเข้า ข้อดีก็คือเราสามารถนัดหมายแขกเพื่อพบปะพูดคุยธุระได้ที่ Clubhouse โดยไม่จำเป็นต้องเชิญเข้าไปในบ้าน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวและคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักครับ ด้านในบริเวณชั้นหนึ่งจะเป็น Lobby ที่แยกฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลาย ปัจจุบันจะเป็นพื้นที่ของสำนักงานขาย บริเวณนี้จัดวางชุดเก้าอี้ที่นั่งสีน้ำตาล สีเทา สีเขียว บุด้วยผ้าและหนังกลับ โต๊ะกลางทำจากไม้ ให้ฟีลลิ่งถึงความเป็นธรรมชาติ เป็นหนึ่งเดียวกับกับวิวสีเขียวของต้นไม้ด้านนอก ที่ส่องแสงผ่านกระจกใสบานใหญ่ ทำให้ Lobby ดูโปร่ง โล่ง อยู่สบาย เหมาะเป็นมุมพักผ่อนและต้อนรับแขก ถัดเข้าไปด้านในมีชุดโซฟาหนังกลับจัดเอาไว้ให้อย่างหรูหราสำหรับนั่งทำงาน อ่านหนังสือหรือพักผ่อนในวันสบายๆ ท่ามกลางบรรยากาศของสวนสีเขียวเบื้องหน้า เราสามารถเปิดประตูออกไปสู่สนามหญ้าและรับแสงแดดเติมวิตามินดีให้กับร่างกายในช่วงเวลาสายๆ ได้ด้วยครับ ชั้นล่างด้านหน้าติดกับสระว่ายน้ำจะเป็น KIDSPIRE มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ภายในมีช่องแสงขนาดใหญ่ส่องเข้ามาเพื่อให้ดูปลอดโปร่ง เป็นพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กๆ ได้พักผ่อนทำกิจกรรม ภายในตกแต่งด้วยสีสันสดใสสมวัย มองออกไปจะเห็นสระว่ายน้ำเรียกว่า AQUA LAP POOL เป็นสระกลางแจ้งขนาด Half Size Olympic 25 x 5 เมตร ดีไซน์โมเดิร์น ส่วนตัวชอบมุมสระว่ายน้ำที่สุดออกแบบได้สวยมาก ส่วนใครที่เป็นสายเวิร์คเอ้าท์ ชอบออกกำลังกาย ที่โครงการก็จัดให้มี VIGOR GYM เป็นห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ที่อยู่บนชั้น 2 ทำให้บรรยากาศดูโปร่งสบาย ออกกำลังกายได้ไม่อึดอัด จัดวางอุปกรณ์ออกกำลังกายไว้ครบครันทั้งแบบ Cardio, Free Weight และ Machine ติดตั้งลู่วิ่งสำหรับคาดิโอและเครื่อง Elliptical กระจายกันไปรอบห้องเพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย ผนังห้องรายล้อมด้วยกระจกเขียวตัดแสงแบบ Full Height เปิดรับวิวจากภายนอกรู้สึกเลยว่าโล่งสบาย ภายในตกแต่งสวย ในบรรยากาศของวิวสวนสีเขียวเบื้องหน้า ผมว่าเป็นมุมออกกำลังกายที่เติม Energy ได้ดีมาก พื้นที่ส่วนกลางของโครงการบรรยากาศดีมาก ออกแบบ Clubhouse ให้มีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ เห็นได้จากการปลูกต้นไม้ไว้โดยรอบ การเลือกใช้กระจกใสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานตกแต่ง ทำให้ได้ฟีลลิ่งของความโมเดิร์นที่ดูโปร่งสบายด้วยผนังกระจกใส มองออกไปจะเห็นภาพรวมโดยรอบโครงการ อีกทั้งยังทำให้เชื่อมต่อมุมมองของธรรมชาติจากภายนอกสู่ภายในอาคาร ทำให้ดูมีความร่วมสมัยอย่างเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เป็น Clubhouse ที่เข้ามาใช้บริการแล้วรู้สึกสบายใจดีมากครับ SERENE PARK เป็นสวนขนาดใหญ่ใจกลางโครงการ ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Lawn สวนสีเขียวขนาดใหญ่แบบเดียวกับต่างประเทศที่สนับสนุนให้ผู้คนได้ออกมาทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น ออกกำลังกาย นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และยังมี FITKIDS ซึ่งเป็นพื้นที่กลางแจ้งที่ให้เด็กๆ ได้ออกมาสัมผัสธรรมชาติและเล่นสนุกกัน นอกจากนี้ ภายใน SERENE PARK ยังได้มีการติดตั้ง Sculpture ขนาดใหญ่เป็นรูปทรงกลม สื่อความหมายถึงความสัมพันธ์อันดีภายในครอบครัวอันจะนำไปสู่ความสำเร็จของชีวิต สวนแห่งนี้จึงเป็นพื้นที่ที่ทำให้ทึุกคนได้ใช้เวลาที่มีคุณภาพร่วมกัน Vincent van Gogh ศิลปินชื่อก้องโลกเคยบอกว่า “In nature, there is no color that is not beautiful.” – ในธรรมชาติไม่มีสีใดที่ไม่สวยงาม “Architecture should speak of its time and place, but yearn for timelessness.” – Frank Gehry, สถาปนิกชาวอเมริกัน เคยกล่าวเอาไว้แบบนั้น ซึ่งกานต์เห็นด้วยเลยครัับ เพราะว่าที่จริงแล้วสถาปัตยกรรมทำให้เกิดความรู้สึกเหนือกาลเวลาและความสงบภายใน เป็นพื้นที่สำหรับก่อให้เกิดความสงบในจิตใจและเชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่หลากหลายของเรา โครงการมีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบคือ MAROON เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 61.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 322 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน โดดเด่นด้วยการออกแบบเหนือกาลเวลาจากอัญมณีสีแดง Red Ruby ที่เต็มไปด้วยพลังและแรงบันดาลใจ ส่วนบ้านอีกแบบที่เราจะพามาชมกันในพาร์ทนี้คือ LAPIS เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นเช่นกันแต่มีขนาดใหญ่กว่า ที่ดินเริ่มต้น 73.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 369 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน ตลอดจน รวมถึง 360° Courtyard (Inner Garden) Facade หน้าบ้านมีความโดดเด่นด้วยการเลือกใช้ Aluminium สีทอง ดัดโค้งพร้อมฉลุลาย ทำให้เวลาแดดส่องตอนเช้าหรือเย็นจะเป็นจังหวะที่บ้านสวยเด่นมาแต่ไกล ผนวกกับผนังหิน Stone Surface สี Sand ทำให้บ้านดูเรียบหรู ด้วยความที่โครงการมีคอนเซปต์ว่า บ้านทุกหลังจะต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัว การก่อสร้างจึงเลือกใช้โครงสร้างแบบ Conventional ทำให้เราสามารถทุบผนังต่อเติม ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันในอนาคตสะดวกรองรับทุกความต้องการในการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในทุกช่วงวัย ทั้งในปัจจุบันและอนาคต Facade ด้านหน้าบ้านเป็นไฮไลท์ของงานออกแบบที่กานต์ชอบมากครับ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของเสากรีกสไตล์โรมันที่นำมาปรับใหม่โดยลดทอนรายละเอียดบางอย่างออกไปให้คงเหลือเพียงความเรียบหรูจากการใช้แผงอะลูมิเนียมสีเหลืองทองที่มีลักษณะเป็นทรงโค้ง เพิ่มดีเทลด้วยการเซาะร่องเอาไว้รอบเสา สะท้อนถึงรายละเอียดของงานดีไซน์ที่อยากนำเสนอความคลาสสิคแบบร่วมสมัยและให้บ้านมีเส้นโค้งเพื่อให้ดูละมุนขึ้น ด้านหน้าเป็นพื้นที่จอดรถ โครงการลงเสาเข็มแบบ On Beam มาให้ ลานจอดรถปูพื้นด้วย Stamped Concrete สีดำด้านทำให้ดูเรียบหรูดีครับ ผนังด้านในทาด้วยสีน้ำเงิน Lapis พร้อมกับติดตั้งระบบไฟฟ้า 3 เฟสเอาไว้เพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามาให้แล้ว ติดกันเป็นตู้บานเลื่อนสำหรับเก็บของขนาดใหญ่ เช่น ถุงกอล์ฟ จักรยาน อุปกรณ์ทำสวน พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV บริเวณนี้ให้แล้ว 1 จุด นอกจากนี้ ยังมี Couryard ด้านหน้าบ้านเป็นสวนที่เปิดรับวิวได้จากในบ้าน ทำให้บรรยากาศดีมาก ออกแบบให้มีการเปิดช่องแสงจากด้านบนเอาไว้เพื่อให้ต้นไม้โตขึ้นไปผ่านห้องนอนจนทะลุหลังคาได้ในอนาคต เป็นไอเดียการออกแบบที่เราชอบมากครับ A Warm Welcome ทันทีที่เปิดประตูก้าวเข้ามาสู่ภายในบ้านโครงการให้ประตูแบรนด์จาก Tostem พื้นที่ภายในบ้านออกแบบให้มี Common Area แบบ Open Space ที่เชื่อมต่อกับทุกห้องรองรับการทำกิจกรรมร่วมกันสำหรับทุกเจนเนอเรชั่น แต่การออกแบบจะลงดีเทลให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ด้านหน้าเป็น Living Room มีขนาดใหญ่เปิดรับช่องแสงจากรอบบ้านพร้อมกระจกเข้ามุม Bay Window ช่วยทำให้บ้านสว่างในช่วงเวลากลางวันโดยที่ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ เป็นการประหยัดพลังงานไปในตัว แสงที่เข้ามาจะเป็น แบบ Indirect คือได้ความสว่างแต่ไม่ได้ความร้อน มุมนี้จัดวางชุดโซฟาบุด้วยหนังกลับสีเทาควันบุหรี่ มีสตูลทรงเตี้ยสีแดงสดทำให้ห้องนี้ดูโดดเด่นสดใส มองออกไปจะเห็นวิวสวนรอบบ้าน สามารถเปิดประตูออกไปใช้พื้นที่ภายในและภายนอกพร้อมกันได้ รวมถึง 360° Courtyard (Inner Garden) ด้านหลังชั้นวางทีวีด้วย พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนแผ่นใหญ่ ขนาด 80×80 ช่วยให้บ้านดูแกรนด์ขึ้น ถัดเข้าไปด้านในเป็นมุมรับประทานอาหาร ขนานไปกับความกว้างของตัวบ้านชั้นล่าง บ้านตัวอย่างจัดวางโต๊ะขนาด 8 ที่นั่ง ด้านหลังมี Wide Frame Window ที่เป็นกระจกบานเลื่อนกว้างถึง 5.8 เมตร เปิดรับวิวสวนและผนังน้ำตก เป็นการเปิดมุมมองจากภายในสู่ภายนอก ผ่านผนังกระจกบานใหญ่ ทั้งจากหน้าบ้าน ข้างบ้านและหลังบ้าน ช่วยเติมเต็มให้มื้ออาหารของเรามีความสุขมากยิ่งขึ้น ติดกันมี Pantry สำหรับจัดเตรียมอาหารและมีเคาน์เตอร์บาร์ เผื่อว่าที่บ้านจัดปาร์ตี้หรือจะเอาไว้จิบกันเบาๆ ก่อนจะเริ่มต้นมื้ออาหารในบรรยากาศสบายๆ ไม่ทางการมากนัก ในส่วนของห้องครัวจะแยกออกไปทางโซนด้านหลังดูเป็นสัดส่วนดีครับ ครัวมีขนาดใหญ่บ้านตัวอย่างจัดเตรียมเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวแอล (L-Shape) เอาไว้ให้ดูเป็นไอเดีย ทางเข้าครัวมีประตูเล็กที่เชื่อมกับลานจอดรถ เผื่อเราซื้อของจากซุปเปอร์มาร์เก็ตก็สามารถตรงเอาเข้ามาเก็บในครัวได้เลยทันที อีกฝั่งของตัวบ้านติดกับ Living Area ถัดเข้ามาด้านใน บ้านตัวอย่างจะได้ฟังก์ชันเป็นห้องนอนผู้สูงอายุที่มาพร้อมห้องน้ำในตัว จุดเด่นก็คือสามารถเปิดประตูออกไปสู่พื้นที่สวนด้านข้างบ้านได้ ภายในห้องจัดวางเตียงนอนขนาดควีนไซส์ไว้ตรงกลางค่อนไปทางประตูกระจกเพื่อใช้เป็นช่องแสงธรรมชาติและเปิดรับวิวสวนได้ ทำให้เจ้าของห้องสามารถนั่งบนเตียงแล้วมองออกไปเห็นวิวสวนด้านข้างบ้านได้ ตื่นเช้ามาเปิดกระจกสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าได้เต็มที่ หรือจะเปิดออกไปเดินเล่น จิบกาแฟอ่านข่าวสารยามเช้า เราว่าเป็นอีกหนึ่งมุมสงบและมีความเป็นส่วนตัว โครงการติดตั้ง Magnetic & Shock Sensor มาให้ที่ประตู-หน้าต่างทั้ง 2 ชั้นของตัวบ้านแล้วครับ และยังได้ติดตั้ง Motion Sensor ตรวจจับความเคลื่อนไหว เพื่อเปิด-ปิดไฟแบบอัตโนมัติ เป็นนวัตกรรมที่ทำให้เราอุ่นใจในการพักอาศัย พื้นที่บนชั้น 2 เราจะพบพื้นที่ Family Area ที่เชื่อมต่อกับทุกห้อง กานต์ว่าฟีลลิ่งค่อนข้างโปร่งโล่งสบาย ได้เรื่องแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามา พื้นที่นี้สามารถรับรองการทำกิจกรรมร่วมกันสำหรับทุกเจนเนอเรชั่นในครอบครัว ทั้งเล่นเกม ดูทีวี อ่านหนังสือหรือทานของว่างอร่อยๆ ด้วยกัน ข้อดีของการแยกฟังก์ชันทำให้เราสามารถรับแขกที่ชั้นล่างได้ ในขณะเดียวกันก็ไม่รบกวนสมาชิกคนอื่นที่อยากพักผ่อนหรือดูทีวีอยู่ที่ชั้นบน ชั้นบนนี้จะมีด้วยกัน 3 ห้องนอน เราเริ่มจากพาชม Master Bedroom กันก่อน ห้องนี้กินพื้นที่ปีกขวาเกือบครึ่งหนึ่งของตัวบ้าน เป็นห้องนอนหลักที่มีขนาดใหญ่มาก บรรยากาศค่อนข้างโปร่งเพราะได้ช่องแสงเปิดเข้ามาจากทั้ง 2 ด้าน ทำให้ดูสว่างมาก ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้สอยภายในเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว เตียงนอนจัดไว้เยื้องบริเวณประตูทางเข้าโดยหลบเข้าไปด้านในทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวเมื่อเปิด-ปิดประตู สามารถจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ได้เลยครับเพราะมีพื้นที่กว้างเดินได้รอบเลย ภายในตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค ด้วยการเลือกใช้ดีไซน์ของเตียง กรุผนังหัวเตียงด้วยหินอ่อน โต๊ะหัวเตียงและโคมไฟแบบร่วมสมัย เติมความโดดเด่นให้กับห้องนอนด้วยการจับคู่หมอนสีน้ำเงิน-ส้มที่ทำออกมาได้น่าสนใจ จัดวางอาร์มแชร์ที่นั่งอ่านหนังสือไว้ด้านข้างและมีโซฟาที่นั่งพักผ่อนช่วงปลายเตียงด้วย เราสามารถติดตั้ง Cabinet สำหรับวางทีวีขนาดใหญ่ให้เรานอนชมซีรีย์เรื่องโปรดจาก Netflix บนเตียงเลยได้สบายๆ เลยครับ แต่ถ้าจะแนะนำให้แขวนทีวีติดผนังจะดูเรียบกว่าช่วยให้ห้องดูโมเดิร์นขึ้น ด้านนอกมีระเบียงกว้างที่ให้เราออกมายืนสูดอากาศบริสุทธิ์หลังตื่นนอนตอนเช้า ชมวิวสวนสวยๆ จากในห้องนอนแบบส่วนตัวได้เลยครับ ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet Space ทางโครงการจัดให้เป็น Build-in Wardrobe ไอเดียในการติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พร้อมกับกระจกเงาช่วยให้ห้องดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ด้านในสุดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ตรงกลาง มีช่องแสงที่ช่วยเพิ่มความสว่างเวลาแต่งตัวได้อีกด้วย ด้านหน้าประตูทางเข้าห้องน้ำ ซึ่งข้อดีก็คือเมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วสามารถแต่งตัวและแต่งหน้าจบในโซนได้เลยครับ นับว่าสะดวกมาก
มุมแต่งตัวที่ว่ามีขนาดใหญ่ยังต้องยอมแพ้ให้กับห้องน้ำที่กว้างขวาง ตกแต่งสวยมากถูกใจผมเลยครับ ภายในห้องน้ำแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้ดีมีครบทั้ง 4 Figures ให้เป็นของ American Standard ไม่ว่าจะเป็น อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาและตู้เก็บของบานใหญ่ สุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ โซน Shower ได้ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower อยู่ด้านในกระจกฉากกั้นซึ่งแยกโซนเปียกแห้งเอาไว้ให้เรียบร้อย ติดตั้งอ่างอาบน้ำแบบฝั่งเอาไว้ริมหน้าต่างให้แล้วด้วยครับ สามารถเปิดออกได้เพื่อระบายอากาศและไล่ความชื้น โถงกลางบ้านเมื่อเดินขึ้นมาจากบันไดจะเจอกับห้องนอนรอง 2 ฝั่ง ห้องนอนรองห้องแรกจะอยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน แม้เราจะเรียกว่าห้องนอนรองแต่เอาเข้าจริงๆ ห้องนอนทั้ง 2 ห้องที่อยู่ปีกขวาของบ้านก็ถือเป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ใช้ได้เลยนะครับ เป็นความ Timeless ในเรื่อง Function ออกแบบมาให้เป็นบ้านที่สามารถสามารถอยู่ได้ทุกช่วงวัย หรือ ตั้งแต่เด็กจนโต (3 MASTER BEDROOM) อย่างเช่นห้องนี้ เมื่อเปิดประตูไปจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ภายในห้อง สามารถใช้เป็นโซนพักผ่อน มุมนั่งเล่นกีต้าร์ชิลล์ๆ ในเช้าวันหยุดที่ไม่ได้ออกไปข้างนอก ด้วยความที่บ้านดีไซน์เป็นโมเดิร์น ทำให้เปิดช่องแสงได้ในหลากหลายจุด อย่างมุมที่เรานั่งเล่นกีต้าร์ หากมองออกไปจะเห็นวิวสวนหน้าบ้านและเปิดช่องแสงรับวิวของ 360° Courtyard (Inner Garden) ด้วยครับ ทำให้สดชื่นตั้งแต่ตื่นนอนกันเลยทีเดียว ส่วนฝั่งหน้าออกแบบให้มีระเบียงส่วนตัวภายในห้องนอนด้วย บ้านตัวอย่างออกแบบให้โซนพักผ่อนอยู่ด้านใน โดยสามารถจัดวางเตียงขนาดใหญ่ไว้ตรงกลาง สามารถเปิด-ปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศเพิ่มการหมุนเวียนภายในห้องได้ ส่วนปลายเตียงเป็นชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ให้เรานอนดูหนังเรื่องโปรดจากบนเตียงได้เลย ส่วนตัวเราชอบฟีลลิ่งของห้องนี้มาก ห้องนอนทุกห้องภายในบ้านจะเป็นแบบ En Suite คือมีห้องน้ำส่วนตัวทุกห้อง และมีห้องแต่งตัวอยู่ถัดเข้าไปด้านใน แบ่งสัดส่วนการใช้งานชัดเจน ห้องน้ำอยู่ถัดเข้าไปด้านในพร้อมมุมแต่งตัว โดยตู้เสื้อผ้าจะเป็น Walk-in Closet ตู้สูงจรดผนังทั้ง 2 ฝั่งเข้ามุม ด้านหนึ่งกรุด้วยกระจกใสเพื่อเพิ่มมิติให้เห็นเสื้อผ้าบนราวด้านใน อีกด้านเป็นตู้ทึบเพื่อความเป็นระเบียบ เราชอบการออกแบบให้มีความลึกแบบเปอร์สเปคทีฟ ห้องจึงดูกว้างขึ้น เชื่อมต่อกับห้องน้ำได้ทันทีซึ่งเราว่าสะดวกมาก ทำให้สามารถจัดการธุระส่วนตัวได้เรียบร้อยในบริเวณนี้เลยครับ เรียกได้ว่าสะดวกครบ จบในโซนเดียว ส่วนห้องนอนรองห้องที่สองอยู่ทางด้านหลังทำให้ได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบ ตกแต่งภายในห้องดูสดใส โดยจัดแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่พักผ่อน สามารถวางเตียงนอนขนาด King Size ได้สบายเลยครับ แนะนำให้วางไว้ชิดผนังกระจกด้านในจะทำให้ได้ความเป็นส่วนระหว่างที่มีคนเปิด-ปิดประตู เพราะเมื่อเดินเข้ามาจะยังไม่เจอกับเตียงนอนในทันที ย้อนออกไปด้านนอกบริเวณทางเข้าห้องนอน จะเป็นมุมแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวได้อย่างพอดีพอเหมาะ มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่ครบไม่ว่าจะเป็น อ่างล้างหน้าที่ติดตั้งกระจกเงาและตู้เก็บของมาให้ สุขภัณฑ์ พร้อมทั้งแยกเป็นโซน Shower ด้านใน หากต้องการแยกส่วนเปียกแห้งในการใช้งาน เราก็สามารถติดตั้ง Shower Box เพิ่มเติมในภายหลังได้ครับ #โดยสรุป โครงการ AIRI SUKHUMVIT-BANGNA KM.5 เป็นโครงการที่ดีไซน์สวยถูกใจกานต์มากครับ กับภาพลักษณ์ใหม่ที่ดูโมเดิร์น งานดีไซน์จัดๆ สะท้อนตัวตนของเราในฐานะเจ้าของ เพราะปัจจุบันบ้านไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่นอนอีกต่อไป แต่จะเป็นฟังก์ชันหนึ่งที่สะท้อนคาแรกเตอร์ของเราให้ชัดเจน โดยเฉพาะการได้อยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่งานดีไซน์โดดเด่น เป็นตัวเองสุดๆ ถือเป็นอีกหนึ่งคุณค่าชีวิตที่เรียกได้ว่า ต้องหามาครอบครองให้ได้https://anan.ly/4g2cWR3 
