AIRI Rama 5

餅は餅屋 – ขนมโมจิต้องที่ร้านโมจิ

เป็นสุภาษิตญี่ปุ่นที่บอกว่า “ขนมโมจิที่อร่อยที่สุดก็ต้องมาจากร้านที่นวดแป้งโมจิขึ้นเอง” หมายถึง เรื่องใดที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านก็ต้องยกให้ผู้ที่ได้ชื่อว่าเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นเป็นคนทำ

กานต์กำลังจะเล่าถึงคอลเลคชั่นบ้านดีไซน์ญี่ปุ่นที่ชื่อว่า AIRI แอริ จากอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เชี่ยวชาญในการทำบ้านสไตล์ญี่ปุ่น

เรื่องนี้เราต้องยกให้อนันดาเค้าทำ แล้วเราเป็นคนไปซื้อ อยู่อีกทีจะดีที่สุด

แอริ (AIRI) พระราม 5 เป็นอีกโครงการที่ผมจะพาไปรีวิว เป็นบ้านที่มาพร้อมกับแนวคิดปรัชญาการออกแบบของญี่ปุ่น “SHAKKEI” คือการหยิบยืมทัศนียภาพภายนอกให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับตัวบ้าน

พอเข้ามาดูแล้วจะรู้สึกได้ถึงความกว้างขวาง โปร่งโล่งสบาย เชื่อมต่อภายนอกกับภายในได้ดี อย่างเช่นที่ แอริ พระราม 5 จะมีไฮไลท์ของดีไซน์คือสวนด้านข้างแบบ L-Shape เป็นพื้นที่สีเขียวที่โอบล้อมเราไว้ ทำให้รู้สึกสบายใจตลอดเวลาที่อยู่ในบ้าน เหมาะแก่การจิบน้ำชา อย่างที่เคยเล่าไว้ว่า ถ้าผมอยู่บ้านแอริคงได้มี 茶道 (Sadou) หรือพิธีชงชาอยู่ในสวนบ้านตัวเองแน่นอน

อีกจุดที่ผมชอบคือ Living Room เพดานสูงจรดฝ้าชั้น 2 สูงและสวยมาก ช่วยให้บ้านดูแกรนด์มากขึ้น บ้านตัวอย่างได้ออกแบบพื้นที่นั่งเล่นด้านหลังที่เชื่อมต่อกับสวนภายนอก ผมว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจดี เพราะได้ช่วยเติมเต็มกันและกันระหว่างธรรมชาติกับตัวเรา เช้าๆ ผมเดินเล่นในโครงการเห็นบ้านบางหลังปรับพื้นที่สวนเพิ่มบ่อปลาคราฟท์เข้ามาน่ารักดีครับ

Clubhouse ของโครงการออกแบบด้วยแนวคิดเดียวกัน เราได้เห็นสีเขียวของสนามหญ้าตัดกับสีฟ้าของน้ำในสระ เป็น White Pearl Swimming Pool ที่ให้ความรู้สึกเหมือนซ่อนตัวอยู่กลางป่าใหญ่ สระว่ายน้ำจัดวางเดย์เบดไม้สีน้ำตาลไหม้เอาไว้ พร้อมกับที่นั่งเล่นโดยรอบสวน ให้ความรู้สึกมินิมอลสไตล์มาก อยากให้ลองเข้ามาสัมผัสด้วยตัวเองดูครับ

#AIRI#AIRIRAMA5#ANANDA#ANANDADEVELOPMENT

บ้านแอริ พระราม5

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร02-316-2222

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิก : https://anan.ly/3glxo33

เพียงแสดง CODE : 7DAYS3 รับส่วนลดเพิ่ม เมื่อเยี่ยมชมสํานักงานขายภายใน 7 วัน

แอริ เป็นโครงการที่ออกแบบได้มินิมอลสไตล์ญี่ปุ่นมากครับ วันนี้เลยเน้นคอสตูมแบบเรียบง่าย ดูดีตามไปด้วย

ภาพมุมสูงของบ้าน L-Shape ดูสวยแปลกตาเป็นระเบียบดีครับ

แอริ พระราม5 ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมาก เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากเมือง สามารถเดินทางโดยใช้รถยนต์ได้สะดวก ถนนเส้นนี้สามารถทางเชื่อมต่อได้กับถนนหลักอย่างราชพฤกษ์ได้สบาย และถือว่าไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงนัก

บ้านตัวอย่างที่กานต์พามาชมในวันนี้จะเป็นแบบบ้าน AIDEA มีพื้นที่ใช้สอย 250 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ สามารถจอดรถได้ 2 คัน โครงสร้างบริเวณที่จอดรถเป็นแบบ Slab on Beam ดูรวมๆ แล้วเป็นบ้านสไตล์ Simple Japanese Modern มีความดูดีทว่าเรียบง่ายสไตล์บ้านญี่ปุ่น

หน้าบ้านภายนอกทาสีขาวตัดเทาควันบุหรี่ ดูมีคาแรกเตอร์แบบคนญี่ปุ่นคือไม่เน้นโชว์หน้าบ้านให้โดดเด่นมากนักครับ แต่จะดีไซน์ให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เพื่อการใช้ประโยชน์พื้นที่ได้อย่างเต็มที่ ในความเป็นบ้าน L-Shape นี้ เนื่องจากระบบการก่อสร้างเป็นแบบก่ออิฐฉาบปูน (Conventional) จึงสามารถปรับเปลี่ยนต่อเติมในอนาคตได้

การแฝงแนวคิดเรื่องงานดีไซน์กับฟังก์ชั่น เราจะพบเห็นกันตั้งแต่หน้าประตูทางเข้าเลยครับ ด้วยโถงทางเดินที่เป็นแนวลึกเข้าไป เพราะโซนนี้เราจะไม่ได้ใช้งานอะไรนอกจากเก็บรองเท้าและวางสัมภาระ จึงออกแบบเป็นทางเดินไม่กว้างมาก ผนังด้านข้างติดตู้ Built-in สำหรับเป็นชั้นวางรองเท้าและเก็บของได้

เข้ามาด้านในเพื่อพบกับ Living ที่กว้างใหญ่เป็นแนวยาวตามสายตา ส่วนด้านขวาจะเป็นห้องโถง Double Volume เพดานสูงจากพื้นจรดฝ้าชั้น 2 สูงโปร่ง กระจกหน้าต่างเข้ากรอบอลูมิเนียมสีดำเข้ม เป็นกระจกเขียวตัดแสงบานใหญ่ ช่วยให้ห้องสว่างเปิดรับแสงธรรมชาติเข้าได้เต็มที่ จากมุมนี้ทำให้บ้านดู Cozy มากๆ ครับ

ยิ่งมองจากมุมสูงลงมา ผมว่าเป็นบ้านที่เรียบหรูแต่ทว่าดูแกรนด์มากครับ สำหรับ Living Room ห้องนี้ เป็นจุดขายที่น่าสนใจและน่าอยู่มาก อยากจะปรับเป็นห้องนั่งเล่น หรือเป็นมุมสำหรับต้อนรับแขกก็ได้ ระยะระหว่างที่นั่งกับผนังตรงข้ามคือกว้างมาก สามารถจัดวาง TV ขนาดใหญ่ได้หรือจะใช้เป็น Projector ก็จะได้โฮมเธียเตอร์กันไปเลยแบบส่วนตัว

เป็นบ้านที่อยู่แล้วรู้สึกโล่งสบายมากๆ ครับ คงจะฝังตัวอยู่บ้านทั้งวันไม่อยากออกไปไหน

แต่หากบ้านไหนจะมีบาร์บีคิวปาร์ตี้ก็สามารถจัดพื้นที่เอ้าท์ดอร์บริเวณสวนให้เชื่อมต่อกับพื้นที่ภายในตัวบ้านได้เลย

การออกแบบฟังก์ชั่นอิสระเช่นนี้ทำให้เราเลือกแต่งแต้มสีสันให้กับชีวิตได้ตามใจไม่เหมือนใครราวกับผ้าใบผืนใหญ่ที่มีชีวิต เป็นไปตามแนวคิดหลักของโครงการคือ CRAFT YOUR LIFE INSPIRE YOUR LIVING นั่นเองครับ

มี Mini Bar เป็นชุดเคาท์เตอร์ที่ติดตั้งมาให้พร้อมสรรพ จะต่อเนื่องไปกับห้องครัวที่แยกออกไป ทางโครงการเดินระบบท่อน้ำไว้ให้แล้วเรียบร้อย มุมนี้จะกลายเป็นพื้นที่ทำงานของแม่บ้านไปโดยปริยาย มี Laundry Area เป็นจุดวางเครื่องซักผ้ากั้นไว้ให้ ติดกันจะเป็น Maid Plaza ห้องนอนแม่บ้านและลานซักล้าง ตรงนี้จะสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับเราเจ้าของบ้านได้มากเลยครับ

ใกล้กันจะเป็น Pantry ดูดีมีรสนิยมมากครับ

จาก Living Room จะเปิดพื้นที่เชื่อมต่อกับส่วนตรงกลางบ้าน ซึ่งจะเป็น Island ต่อเนื่องกับโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ ผมว่าจัดได้ 6-10 ที่นั่งสบายๆ เลยครับ แต่บ้านของจริงจะเป็นห้องโล่งๆ เพื่อเปิดโอกาสให้เราดีไซน์มุมนี้ได้ตามใจ

มุมมองจากโต๊ะรับประทานที่อยู่ตรงกลางระหว่างบันไดทางขึ้นชั้นบนกับอีกฝั่งเป็นประตูกระจกบานเลื่อนทั้งแนวยาว มุมนี้จะเชื่อมต่อกับสวนด้านข้างบ้านที่เป็นไฮไลท์มองเห็นความเป็นดีไซน์ L-Shape ได้ชัดเจนดี หากมองจากมุมนี้ดูค่อนข้างโปร่ง เห็นวิวสวนเต็มที่ ช่วยให้อรรถรสในการรับประทานอาหารดีขึ้น

โถงกลางเอนกประสงค์สามารถดัดแปลงฟังก์ชั่นการทำงานได้หลากหลาย จริงๆ พื้นที่ตรงนี้เป็นมุมเอนกประสงค์ที่มีพื้นที่กว้างขวางพอสมควรเลยนะครับ เปิดกว้างทางความคิดเต็มที่ อยากจะขยับโต๊ะรับประทานอาหารไปไว้ด้านหลังสุดของบ้านที่เชื่อมกับประตูทางออกไปสวนแล้วปรับให้มุมนี้เป็นมุมทำงานก็ได้สำหรับโฮมออฟฟิศก็ยังได้

ผมว่าแอริไม่เพียงแต่เป็นการดีไซน์บ้านเท่านั้น แต่ยังช่วยออกแบบให้มีวิถีอิสระมากขึ้นอีกด้วย

ตรงนี้เราสามารถปรับให้ห้องด้านหลังเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุก็ได้ เพราะวิวดีเหลือเกินและยังไม่ต้องเดินขึ้นลงบันไดแถมยัง เขื่อมต่อกับห้องน้ำทำประตูส่วนตัวอีกบานเองได้เลยครับ ห้องน้ำชั้นนี้แยกส่วนแห้งส่วนเปียกกั้นเป็นสัดส่วนไว้ให้แล้วครบดีมากครับ

พอเห็นสวนด้านข้างบ้านดีไซน์ที่นั่งเป็นแบบเล่นระดับไม่สูงมากตามสไตล์สวนญี่ปุ่น ก็อดที่จะยกถาดน้ำชาพร้อมกามาจิบชมสวนไม่ได้ 茶道 (Sadou)

ส่วนตัวผมชอบชาเขียวเกียคุโระเป็นพิเศษ เคยไปเก็บชาที่ชิซึโอกะมา ชาประเภทนี้ถือเป็นชาชั้นสูง มีกระบวนการผลิตที่ยาก ต้องอาศัยการควบคุมปริมาณแสงที่ต้นใบชาจะได้รับเหมือนกับการผลิตมัทฉะ ทว่ามีความหอมหวานละมุน กลมกล่อมกว่า และมีปริมาณคาเฟอีนมากกว่า

พลอยให้นึกถึง 一期一会 (Ichigo Ichie) เป็นปรัชญาชีวิตที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังพิธีชงชาของญี่ปุ่นที่แปลง่ายๆ ได้ว่า “โอกาสเดียว พบกันครั้งเดียว” หมายถึงทุกช่วงเวลาของชีวิตในทุกสิ่งที่เราทำ ควรทำมันให้เต็มที่และดีที่สุด เพราะนี่อาจจะเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวที่เราจะได้ทำมันก็ได้ครับ

เหมือนกับเวลาที่ผมเขียนรีวิวโรงแรม รีสอร์ต อสังหาริมทรัพย์แบบละเอียดมาก เพราะอยากให้ทุกคนได้อ่านโดยเข้าใจ ได้ชมภาพสวยงามที่ผมถ่ายมาฝาก แม้ว่าตอนทำงานนั้นจะเหนื่อยยากก็ตาม แต่ก็สุขใจในยามที่ทำและเมื่อยามผลลัพท์ออกมา

เดินขึ้นมาชมบนชั้นสองกันบ้างดีกว่าครับ ผมชอบรายละเอียดในการออกแบบเล็กๆ น้อยๆ ที่ดูใส่ใจดีตามสไตล์ญี่ปุ่น เช่นห้องน้ำชั้นล่างและชั้นบนอยู่มุมตรงกัน ถ่ายภาพออกมาแล้วก็เก๋ดี บันไดทางขึ้นชั้นบนเป็นเหล็กกล่องสีดำพรางสายตา ทว่ามีความสูงจรดเพดานเลยกั้นตกได้ดี เป็นสไตล์ที่ดูโมเดิร์นลอฟต์ดีครับ

โถงบันไดชั้น 2 ทางฝั่งซ้ายจะมีประตูกระจกบานใหญ่เพื่อออกไปที่ระเบียงขนาดย่อมสามารถทำเป็น Pocket Garden เพื่อวางกระถางต้นไม้ได้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้าน เพื่อความสุนทรีย์ให้กับชีวิตและยังช่วยบังสายตาจากเพื่อนบ้านได้้ด้วย ข้อดีอีกอย่างของฟังก์ชั่นนี้คือทำให้บ้านมีช่องแสงขนาดใหญ่บริเวณโถงบันไดได้อีกทาง

เมื่อเดินขึ้นบันไดมาจะเจอมุมเอนกประสงค์ที่จัดสรรพื้นที่ไว้ สำหรับทำเป็นห้องพระ ผมชอบบ้านตัวอย่างที่ออกแบบห้องนี้ให้ดูมีความ Minimalist ตรงกับจริตผมมาก และเหมาะกับการทำเป็นห้องพระนั่งสมาธิแบบเรียบโล่ง มีเพียงพระพุทธรูปประดิษฐานเอาไว้ นัยเพื่อเป็นการปล่อยวางทุกสิ่ง

ด้านขวามือจากห้องพระจะเป็นห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom ที่หันไปทางโซนด้านหน้าบ้านครับ กินพื้นที่ไปเกือบครึ่งชั้นเลยทีเดียว ถือว่าเป็นห้องนอนที่กว้างใหญ่และดูโปร่งสบายเพราะมีหน้าต่างเปิดรับช่องแสงธรรมชาติขนาดใหญ่เข้ามาทำให้แทบไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวัน

บริเวณมุมพักผ่อน สามารถจัดวางเตียงขนาดใหญ่พร้อมดีไซน์พื้นที่หัวเตียงได้ตามใจชอบ โดยรอบมีพื้นที่เหลือให้เดินได้สบายเลยครับ เพราะว่าห้องกว้างมากจริงๆ บริเวณปลายเตียงสามารถแขวนโทรทัศน์จอใหญ่ได้สบายๆ เอาไว้นอนดู Netflix เรื่องโปรดจากบนเตียงได้ ส่วนมุมด้านซ้ายสามารถจัดวางโต๊ะทำงาน หรือจะวางเดย์เบดขนานผนังสักตัวก็ได้ เอาไว้เอนกายอ่านหนังสือ และยังเจาะช่องหน้าต่างบานเล็กๆ เอาไว้ให้มองเห็นความเป็นไปในบริเวณห้องโถงชั้นล่างได้ด้วยครับ

#ความสุขของคูมกานต์เค้าหล่ะ

หน้าต่างบานใหญ่จากโซนหน้าโครงการ มองออกไปเห็นอาคารสโมสรด้วยครับ เดี๋ยวตอนท้ายรีวิวจะพาไปชมกัน

ด้านในสุดจะเป็นส่วนของห้องน้ำ และห้องแต่งตัวแบบ Walk-in closet ที่กั้นสัดส่วนได้ดีมาก เป็นมุมที่ผมชอบเพราะได้ความเป็นส่วนตัว จะสังเกตว่าห้องนอนตัวอย่างจะตกแต่งภายในด้วยการใช้ไม้เป็นวัสดุปิดผิวช่วยให้ห้องดูซอฟท์ ตู้ต่างๆ จะปิดทึบทำให้ไม่รกสายตา เหมาะแก่การพักผ่อน และดูเป็น Japanese Style ดีครับ

ห้องน้ำแบบ Full function มีทั้งอ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้า แยกส่วนเปียกแห้งเรียบร้อย เชื่อมต่อกับมุมแต่งตัว

ถัดจากห้องนอนใหญ่ มาดูห้องนอนเล็กห้องแรกกันก่อนครับ ห้องขนาดไม่ใหญ่มาก จัดวางเตียงเดี่ยวแบบพับได้มาให้ดูพอเป็นไอเดียตามสไตล์บ้านญี่ปุ่นที่เน้นฟังก์ชั่นการใช้สอยของพื้นที่ แต่จริงๆ ผมว่าวางเตียงแบบชิดผนังก็ยังไหวครับ เพราะมีพื้นที่ห้องตรงกลางเหลือค่อนข้างมาก ก่อนที่อีกด้านจะเป็นโต๊ะอ่านหนังสือและตู้เสื้อผ้า Build-in มาให้ พร้อมกับมีช่องแสงเปิดไว้ได้วิวส่วนจากด้านนอกเช่นกัน

แต่ถ้าเป็นสไตล์ผมจะออกแบบให้ห้องนี้เป็น Family Room ที่ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น ปูพื้นด้วยเสื่อทาทามิ มีโต๊ะไม้ยาววางไว้ตรงกลาง พร้อมกับเก้าอี้แบบญี่ปุ่นเลือกดีไซน์เรียบง่ายแบบ Minimalist มาตกแต่งและจัดวางในสัดส่วนที่พอดีต่อการใช้งาน คุมโทนสีแบบเอิร์ธโทนสไตล์ญี่ปุ่นก็คงเก๋ดี และจะเป็นมุมที่พิเศษสำหรับสมาชิกในครอบครัวเท่านั้นครับ

ด้านหลังสุดของบ้านเป็นห้องนอนเล็กเช่นกันครับ ซึ่งจะมีระเบียงด้านนอก เชือมต่อกับห้องนอนเล็กอีกห้อง ภายในจัดวางเตียงเดี่ยวสำหรับเด็กแบบต่อเป็นชั้นลอยขึ้นบันไดไปใต้บันไดขึ้นไปทำช่องเก็บของมาให้ดูเป็นไอเดีย น่ารักดีครับ ส่วนด้านล่างออกแบบให้เป็นมุมของเล่นและนั่งพื้นได้สบายๆ เอาจริงห้องนี้ก็ถือว่ากว้างพอสมควรนะครับ

ห้องของจริงก็จะเป็นห้องโล่งๆ ให้เราจัดสรรพื้นที่ได้เองข้อดีของห้องนี้คืออยู่ติดกับห้องน้ำชั้นบน สามารถเข้าห้องน้ำได้จากในห้องเลย ซึ่งเป็นห้องน้ำที่จะใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กทั้งสองห้องครับ

ชอบไอเดียเตียงยกพื้นสูงดูน่ารักดี ใช้พื้นที่ได้อย่างครบถ้วนเหมาะสมดีครับ

ผมไปถ่ายบ้านเปล่ามาให้ดูของจริงด้วยครับ ซึ่งจะเป็นบ้าน L-Shape เช่นกัน แต่จะเป็นแบบบ้าน AI-AM ซึ่งมีความแตกต่างกันเล็กน้อยตรงพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านบริเวณโถงชั้นล่างจะไม่ได้เปิดโล่งไปจนถึงชั้น 2 แต่จะเป็นการต่อเติมเพิ่มพื้นที่ของ Master Bedroom ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นไปอีกเท่าตัว ทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่ม แต่ก็ไปลดความโปร่งของโถงชั้นล่างเอา ตรงนี้้ทางโครงการเปิดกว้างเอาไว้เป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าว่าอยากได้บ้านตรงกับความต้องการและการอยู่อาศัยแบบไหนครับสามารถเลือกได้เลยตามใจครับ

อย่างที่บอกไปว่าโครงการนี้ก่อนสร้างโดยใช้ระบบ Customize – My Design for Family Member ซึ่งเป็นระบบการก่อสร้างเป็นแบบก่ออิฐฉาบปูน (Conventional) มีข้อดีคือสามารถปรับเปลี่ยนต่อเติมในอนาคตได้ตามไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป เพราะจะว่าไปบ้านหนึ่งหลังเราจะต้องอยู่กันไปอีกนาน อาจจะมีช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านในชีวิตเกิดขึ้นได้ จึงออกแบบจัดวาง Lay Out แต่ละส่วนให้สามารถปรับเปลี่ยนต่อเติมเพิ่มลดพื้นที่ใช้สอยในบ้าน เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัวได้ตลอดไป

พามาดูพื้นที่ส่วนกลางของโครงการกันบ้างครับ ด้วยความที่แอริในทุกทำเลตั้งใจให้มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เพื่อการอยู่ร่วมกันแบบอบอุ่น อย่างแอริ พระราม 5 ก็มีแค่ 63 ยูนิตเท่านั้น แต่ก็ยังจัดสรรส่วนกลางมาให้ครบครัน ออกแบบให้มีแนวคิดเป็น Private Clubhouse เสมือนกับเราอยู่ท่ามกลางป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ทรงสูงและพื้นที่สวนหย่อม ทำให้ได้พื้นที่สีเขียวรายล้อม พร้อมที่นั่งพักผ่อน สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ฟิตเนสและสนามเด็กเล่น

จะเห็นว่ามีด้วยกัน 2 อาคารคือ อาคารแรกเป็นอาคารชั้นเดียว มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ มีพื้นที่นั่งเล่นที่มีทั้งที่นั่งแบบโซฟา และแบบโต๊ะประชุมสำหรับนั่งพูดคุยกันภายใน ถัดไปเป็นห้องฟิตเนสขนาดใหญ่

ส่วนอาคาร 2 ชั้นจะแบ่งเป็นห้องทำงานนิติบุคคลอยู่ชั้นล่าง ส่วนชั้นบนเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนคล้ายกับอีกอาคารแต่จะได้ในมุมที่สูงกว่า สามารถมองเห็นวิวสวนได้สบายตา

ชอบภาพนี้ มินิมอลมากกกก

สระว่ายน้ำของที่นี่เป็นระบบเกลือ ออกแบบสระได้สวยมาก ชอบการเล่นเลเยอร์สีของบันไดริมขอบสระที่ต่อเนื่องกับเก้าอี้ไม้เดย์เบดที่วางเอาไว้ด้านข้างก่อนจะทอดสายตาในมุมสูงเห็นหลังคากระเบื้องดีไซน์โมเดิร์น

忙中閑あり

In the midst of busyness ,there is free time.

เป็นโครงการที่มีสโมสรสวยมาก เดินถ่ายรูปได้ทั้งวัน

#โดยสรุป แอริ พระราม 5 เป็นโครงการบ้านที่แนวคิดในการออกแบบสไตล์ญี่ปุ่น เน้นเรื่องชีวิตและจิตใจของผู้อยู่อาศัยที่แท้จริงครับ ชอบตรงที่บ้านสามารถปรับฟังก์ชั่นการใช้งานได้ตามความต้องการ ราวกับเป็นการออกแบบชีวิต ซึ่งบ้านแต่ละหลังก็จะมีจริตของผู้อยู่ที่แตกต่างกันออกไป นอกจากสไตล์ Simple Japanese Modern ที่เรียบหรูดูดีแล้ว ผมชื่นชมแนวคิด “Shakkei” คือการหยิบยืมทัศนียภาพภายนอกให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ภายในบ้าน เป็นการเติมเต็มธรรมชาติที่เราขาดไปจากการเข้ามาใช้ชีวิตในเมือง ซึ่งแอริจะตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีมากครับ

นับเป็น The Theory Of Art ทฤษฎีแห่งการใช้ชีวิตที่น่าสนใจ ซึ่งคุณไม่อาจจะรู้หรือเข้าใจได้เลยถ้าไม่เคยมาดูหรือมาสัมผัสด้วยตัวเอง

บ้านแอริ พระราม 5

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร02-316-2222

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิก : https://anan.ly/3glxo33

เพียงแสดง CODE : 7DAYS3 รับส่วนลดเพิ่ม เมื่อเยี่ยมชมสํานักงานขายภายใน 7 วัน

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน