ถ้าผมมีแฟน … จะพาแฟนไปที่นี่
.
อยากให้ลองคิดภาพตามครับว่า จะโรแมนติกเพียงไหน หากได้ดินเนอร์ท่ามกลางวิวที่สูงและสวยขนาดนี้ …
.
Mahanakhon Bangkok SkyBar
.
ออกแบบมาให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในบาร์บนตู้เสบียงของรถไฟขบวนหรู เพื่อจะนำเราไปสู่การผจญภัยในค่ำคืนนี้
.
ออกแบบที่นั่งให้มีการเชื่อมต่อกันด้วยโซฟาโค้งมนเป็นแถวแนวยาว คล้ายอยู่ในขบวนรถไฟที่มีขนาดใหญ่ ประดับด้วยโคมไฟทรงกระดุม ผมชอบมากครับ
.
ยอมรับเลยว่าที่นี่วิวสวยมากครับ มองออกไปสุดลูกหูลูกตา จะมองไปทางไหนก็จะเห็นกรุงเทพฯแบบพาโนรามา ในฐานะของความเป็น “มหานคร” บนตึกที่สูงที่สุดของไทย วิวมุมสูงของกระจกบานใหญ่ ที่ต้องการถ่ายทอดวิวแบบพาโนราม่าของมหานครกรุงเทพฯ เอาไว้ให้ได้กว้างที่สุด
.
ผมเลือกโต๊ะกลมที่ตั้งอยู่ริมกระจก ส่วนเก้าอี้ถูกจัดหันหน้าเข้าหากัน มองออกไปจะเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา มุมนี้จึงเหมาะกับการนัดพบครั้งสำคัญของคนพิเศษ
.
ผมสั่ง 2010 La Chapelle de Saint Dominique รสชาติดีเลยทีเดียว เข้ากับบรรยากาศของคืนนี้มาก ได้ดินเนอร์ท่ามกลางวิวที่สูงและสวยขนาดนี้ มีสีเขียวของต้นไม้คล้ายป่าใจกลางกรุงด้านนอก ตัดสลับกับสีของท้องฟ้าที่มองไปไม่เห็นเส้นบรรจบเป็นฉากหลัง …
.
… คล้ายกับว่าโลกนี้มีแค่เราสอง
.
อ่านรีวิว Mahanakhon Bangkok SkyBar ฉบับเต็ม คลิกที่นี่ >> https://bit.ly/2ntuJes
.
/ the journalist /
LEISURE TRAVEL x HOTEL LIFESTYLE
.
fanpage : https://www.facebook.com/kantjournal
website : https://www.kantjournal.com
twitter : https://twitter.com/kantjournal
instagram : https://www.instagram.com/kantjournal
soundcloud : https://www.soundcloud.com/kantjournal
podbean : https://www.podbean.com/kantjournal
.
#MahanakhonBangkokSkyBar#Mahanakhon
#KANT#KΔNT#leisuretravel#hotellifestyle
#journalisttravel#luxurytravel
#ท่องเที่ยวพักผ่อน#ชอบนอนโรงแรมสวย
—
“มหานคร แบงค็อก สกายบาร์”
Mahanakhon Bangkok SkyBar
เปิดให้บริการเครื่องดื่มและอาหารค่ำทุกวัน
เวลา 17.00-01.00 น.
สำรองที่นั่งได้ที่ www.mahanakhonbangkokskybar.com
หรือ 02-677-8722
มุมนี้เป็นมุมที่ผมชอบที่สุด
คุณทริสตัน เออร์ (Tristan Auer แห่ง Wilson Associates’ Paris Atelier) ดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศส ที่มีชื่อเสียงก้องโลก ผู้สร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่บนชั้น 76 และ 77 ของ “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ออกแบบมาให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในบาร์บนตู้เสบียงของรถไฟขบวนหรู เพื่อจะนำเราไปสู่การผจญภัยในค่ำคืนนี้
โถงทางเข้ามีฉากและเนื้อหาที่บอกเล่าราวกับฉายภาพยนตร์หนึ่งเรื่องที่น่าติดตามฉากต่อไป
สื่อสารผ่านบทสนทนา สีหน้า แววตา ท่าทาง กับผลงานการออกแบบห้องอาหารหรูที่อยู่เบื้องหน้า พาเราเดินดูตั้งแต่หน้าลิฟต์ที่ชั้น 76 เราเจอกับโค้งประตูไม้ คล้ายกับโบกี้ขบวนรถไฟ ให้ความรู้สึก หรูหราสง่างามแบบฝรั่งเศสและความวิจิตรปราณีตแบบไทย นำไปสู่การบอกเล่า จุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์ สัมผัสถึงสายน้ำและความเป็นกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร ความงดงามของสตรีไทย ที่ เปี่ยมไปด้วยความอ่อนช้อย เรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความหรูหราครับ
กวาดตามองไปในมุมต่างๆ เราสังเกตว่า จะมองไปทางไหนก็จะเห็นกรุงเทพฯแบบพาโนรามา ในฐานะของความเป็น “มหานคร” บนตึกที่สูงที่สุดของไทย วิวมุมสูงของกระจกบานใหญ่ ที่ต้องการถ่ายทอดวิวแบบพาโนราม่าของมหานครกรุงเทพฯ เอาไว้ให้ได้กว้างที่สุด
วัสดุที่ใช้ในการออกแบบ ประดับตกแต่ง รวมทั้งโต๊ะเก้าอี้ ล้วนเป็นงานคราฟท์ทั้งสิ้น ส่วนการออกแบบที่นั่งในโซนด้านล่าง ที่มีการเชื่อมต่อกันด้วยโซฟาโค้งมนเป็นแถวแนวยาว คล้ายอยู่ในขบวนรถไฟที่มีขนาดใหญ่ ประดับด้วยโคมไฟทรงกระดุม ผมชอบมากครับ
มุมด้านนี้ถ้ามองออกไปจะเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา โต๊ะกลมตั้งอยู่ริมกระจก และเก้าอี้ที่ถูกจัดหันหน้าเข้าหากันจึงเหมาะกับการนัดพบครั้งสำคัญของคนพิเศษ
Bangkok top view
โซนด้านนอก เป็นอีกมุมที่กานต์คิดว่าน่าสนใจครับ ให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันกับท้องฟ้า กับการตกแต่งประดับประดาด้วยต้นไม้สีเขียวของพืชพรรณนานา ให้ความรู้สึกราวกับป่าบนท้องฟ้า
หลงใหลในการออกแบบที่แมทช์คอนเซปต์ให้กรุงเทพกับความเฟมินินของหญิงไทย นำมาผสานกับความมัสคิวลีนของมหานครปารีส เราจึงเห็นแนวคิดในการออกแบบและการเลือกใช้วัสดุในการตกแต่ง อย่างผ้าทอลาย ไม้ ดินเผา แผงกระจกกัดลายที่มีลายเส้นพริ้วไหวและสีสันแปลกตา การใช้หินอ่อนและเครื่องปั้นดินเผามาประดับประดา เน้นการใช้สีเอิร์ธโทนอย่างน้ำตาลของไม้ สีเขียวและครีม ล้อไปกับแสงจากโคมไฟโทนอบอุ่น
สตาร์ตเตอร์ เป็น “Salmon Rillettes” สเปรดแซลมอนสดบดละเอียดคลุกเคล้ากับสมุนไพร ปาดทานคู่กับขนมปังที่ปิ้งจนกรอบ
2010 La Chapelle de Saint Dominique
เคาท์เตอร์บาร์ ที่นี่มีเมนูค็อกเทล เครื่องดื่มและไวน์ธรรมชาติชื่อดังให้เลือกกว่า 100 ชนิด
เชื่อว่าบริเวณเค้าท์เตอร์บาร์ น่าจะเป็นอีกมุมโปรดของใครหลายคนแน่นอน
มีแยก Private & VIP Zone เพื่อความเป็นส่วนตัว
มีดีเจมาเปิดแผ่นเปิดเพลง บรรเลงให้ฟัง ซึ่งมองจากบูธดีเจแล้ว … วิวสวยมากครับ มุมนี้คือสวยมาก คนมาเป็นดีเจที่นี่คงแฮปปี้ทั้งวัน นอกจากจะได้เปิดแผ่น ฟังเพลง มอบความสุขให้กับคนฟังแล้ว ยังได้มอบความสุขให้กับตัวเองผ่านการเทควิวสวยๆ บนตึกสูง ที่มองออกไปสุดลูกหูลูกตา
ถัดไปเป็นห้องน้ำที่สูงที่สุดและสวยที่สุดในประเทศไทย
ห้องน้ำที่มาในคอนเซปต์ห้องนั่งเล่น เป็นการดีไซน์ฟังก์ชั่นของห้องน้ำที่แปลกใหม่ คือมีพื้นที่ส่วนกลางภายในร่วมกัน ผ่านกระจกเงาและอ่างล้างมือที่เรียงราย ก่อนที่จะเข้าไปภายในแยกซ้ายของผู้หญิง ขวาของผู้ชาย และกลายเป็นประสบการณ์ใหม่กับการเข้าห้องน้ำที่สวยและสูงที่สุดในประเทศไทย
Mahanakhon Bangkok SkyBar เน้นอาหารตะวันตกผสมเอเชีย ภายใต้การดูแลของเชฟ Joshua Cameron ที่มีประสบการณ์ในห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์ในนิวยอร์ก เป็นผู้หลงใหลในศาสตร์ของการทำอาหาร และเป็นผู้ที่ชื่นชอบในการเดินทางเพื่อค้นหารสชาติและวัตถุดิบแปลกใหม่มาต่อยอดเป็นอาหารจานเลิศครับ มาเป็นผู้ออกแบบเมนูและดูแลเรื่องอาหาร
จานนี้เป็นหอยนางรมสดส่งตรงจากนอร์มังดีที่เสิร์ฟมาเป็นคู่ “Mr.Jean-Paul, Normandy Oysters” คอนเซปต์ คือมาเป็นคู่ เร่ิมจากทานแบบ Cold ก่อน จะหอยนางรมท๊อปด้วยซอสมัลเบอร์รี่ ให้รสหวานฉ่ำอมเปรี้ยวนิดๆ ก่อนจะทานแบบ Hot เป็นหอยนางรมท๊อปด้วยน้ำจิ้มรสเปรี้ยวจัดจ้านเผ็ดร้อน
Hokkaido Uni Panna Cotta เมนูเด็ดของเชฟ Joshua เป็นพานาคอตต้าไข่หอยเม่นเนื้อเนียน ทานคู่กับไข่ปลาแซลมอนและซอสพอนสึเปรี้ยวฉ่ำ เป็นการนำอาหารญี่ปุ่นมาดัดแปลงในสไตล์ฝรั่งเศสได้อย่างยอดเยี่ยม
อีกจานเป็น “ยำหัวปลีกุ้งลายเสือ”
เมนคอร์สเป็นเนื้อ Tomahawk ทานคู่กับ Cauliflower ราดด้วยน้ำจิ้มแจ่วเจลสูตรพิเศษ
ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานอย่างช็อกโกแลตทาร์ตเนื้อเนียนเสิร์ฟพร้อมไอศกรีมช็อกโกแลตเข้มข้นและมูส
“มหานคร แบงค็อก สกายบาร์” Mahanakhon Bangkok SkyBar ร้านอาหารและบาร์ที่หรูหราที่สุด และสูงที่สุดในประเทศ ภายใต้คอนเซปต์ การเดินทางจากเมืองใหญ่สู่การผจญภัยที่ไม่รู้จบ ซึ่งพร้อมต้อนรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกแล้วตั้งแต่วันนี้
