“𝑰 𝒂𝒎 𝒄𝒐𝒏𝒗𝒊𝒏𝒄𝒆𝒅 𝒕𝒉𝒂𝒕 𝒕𝒉𝒆 𝒈𝒓𝒆𝒂𝒕𝒆𝒔𝒕 𝒍𝒆𝒈𝒂𝒄𝒚 𝒘𝒆 𝒄𝒂𝒏 𝒍𝒆𝒂𝒗𝒆 𝒐𝒖𝒓 𝒄𝒉𝒊𝒍𝒅𝒓𝒆𝒏 𝒂𝒓𝒆 𝒉𝒂𝒑𝒑𝒚 𝒎𝒆𝒎𝒐𝒓𝒊𝒆𝒔.” – “มรดกอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราฝากไว้ให้ลูกหลานได้ คือความทรงจำที่มีความสุข”
กานต์ไปเจอคำพูดนี้ของ Og Mandino นักเขียนชาวอเมริกันชื่อดัง ในขณะที่กำลังเขียนรีวิวบ้านอิสสระ บางนา โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในสไตล์ Modern Tropical ได้อย่างกลมกลืน
“ร่มรื่นดีจัง” กานต์กำลังรำพึงรำพันกับตัวเองระหว่างเดินชม Clubhouse ประดับด้วยเสาไม้ทรงสูงใหญ่ ตั้งตระหง่านราวกับอัครสถานในยุคโพสต์โมเดิร์นที่มีการผสมผสานระหว่างความคลาสสิคและความร่วมสมัย จะสังเกตว่าผมดูตัวเล็กไปเลยเมื่อเทียบกับอาคารสโมสร
อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือต้นไม้ใหญ่ที่มีความสูงไล่เลี่ยกับอาคารจนแทบจะคลุมมิด สะท้อนถึงแนวคิด Modern Tropical ที่ดึงความเป็นธรรมชาติสีเขียวเข้ามาอยู่ภายในโครงการ สระว่ายน้ำมีขนาดใหญ่และมี Amphitheater ไว้สำหรับนั่งทำงาน หรือพักผ่อน
ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านแปลงมุมติดสวยและ Clubhouse แบบบ้าน 𝗔𝗕𝗘𝗟𝗜𝗔 𝗣𝗟𝗨𝗦 บ้านเดี่ยวสุดหรูหลังใหญ่ที่สุด เป็นบ้าน 3 ชั้นที่มาพร้อมกับพื้นที่สวนบริเวณหัวมุมและมี Private Pool & Pavillion Garden อยู่ภายใน เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่คอยให้ร่มเงาและบังสายตาเอาไว้เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวระหว่างพักอาศัย ออกแบบโดยเน้นหลักการไหลเวียนถ่ายเทของอากาศภายในบ้าน และร่มเงาแสงแดดจากธรรมชาติ
สถาปนิกตกแต่งภายในได้อย่างหรูหรา สวยงาม ผมชอบ Sunroom ที่ให้ความรู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาตินอกบ้านได้เป็นอย่างดี มีพื้นที่ Living Area กว้างขวาง พร้อมทั้ง Family Area บนชั้น 2 แต่ที่ผมชอบที่สุดคือห้องนอนใหญ่บนชั้น 3 ให้ความรู้สึกราวกับ Penthouse เพราะเราจะได้เป็นผู้ครอบครองพื้นที่ทั้งฟลอร์เลยครับ
นับเป็นความประทับใจที่เกิดขึ้นมากมายในบ้านอิสสระ บางนา แห่งนี้ ที่ผมคิดว่าจะเป็นมรดกแห่งความทรงจำอันมีคุณค่า ที่ควรค่าต่อการส่งมอบให้กับคนรุ่นต่อไป
______________________
พบกับกิจกรรมสุด Exclusive : 𝐎𝐩𝐞𝐧 𝐓𝐡𝐞 𝐍𝐞𝐰 𝐋𝐞𝐠𝐚𝐜𝐲 ในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้
โครงการบ้านอิสสระ บางนา เปิดให้ชมบ้านดีไซน์ใหม่ พร้อมรับโปรโมชั่นและของที่ระลึกสุดเซอร์ไพรส์จาก Bentley เฉพาะ 40 ท่านแรกเท่านั้น และซื้อบ้านพร้อมรับรถยนต์ Bentley รุ่น Sport Sedan : Flying Spur Hybrid มูลค่า 14.4 ล้านบาท*
นัดหมายเพื่อเข้าชมโครงการได้ที่ โทร 095-207-9235-7
—
บ้านอิสสระ บางนา เนื้อที่โครงการประมาณ 24 ไร่เศษ จำนวนทั้งสิ้น 44 ยูนิต ตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกในโลเคชั่นที่ยอดเยี่ยมมาก
สามารถเชื่อมไปสู่แหล่งคอมมูนิตี้และไลฟ์สไตล์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า MEGA Bangn, เซ็นทรัล บางนา, ธนาซิตี้ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต คลับ, โรงเรียนนานาชาติ คองคาเดียล, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค), โรงพยาบาลไทยนครินทร์, สนามบินสุวรรณภูมิ ฯลฯ
บ้านตัวอย่างที่กานต์พามาชมกันในครั้งนี้ คือแบบบ้าน Abelia ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่สุด ซึ่งปกติมีขนาดที่ดิน 132-238 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 697 ตร.ม. มี 6 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ จอดรถได้ 5 คัน
บ้านตัวอย่างตกแต่งพร้อมขายหลังนี้มีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 760 ตร.ม. มี 4 ห้องนอนขนาดพิเศษ ราคารวมทั้งสิ้น 159 ล้านบาท
โครงการออกแบบโดย A49 บริษัทสถาปนิกชื่อดังของไทย เน้นการวางแปลนบ้านให้เป็นบ้านหน้ากว้าง เน้นฟังก์ชั่นการพักอาศัยที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด เห็นได้จากการออกแบบพื้นที่ Back of House แยกทางเข้าออกของแม่บ้านจากตัวบ้านส่วนพักอาศัย
ออกแบบโดยคำนึงถึงทิศทางลม มีการวางผังบ้านตามแนวทิศทางเหนือ-ใต้ คำนวนเรื่องการไหลเวียนของอากาศให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้พักอาศัย จะได้อยู่สบายไม่รู้สึกร้อนครับ
โดยรอบโครงการไม่พลุกพล่าน ทำให้บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะกับการพัฒนาเป็นที่พักอาศัยที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง
ด้านหน้าโครงการแม้จะอยู่ติดถนนใหญ่ มีรถราสัญจรไปมา ทว่าโครงการได้ออกแบบให้มีระยะถอยร่นจากถนนหลักมากพอสมควร จัดทำเป็นสวนด้านหน้าและมีแนวต้นไม้ใหญ่คอยเป็น Buffer ช่วยป้องกันเสียงได้ดีทีเดียวครับ
เมื่อขับรถเข้ามาในโครงการเราจึงแทบจะไม่ได้ยินเสียงรถราที่วิ่งอยู่ข้างนอกเลยครับ
แต่ที่ผมประทับใจตั้งแต่แรกเห็นคือ โครงการได้ดำเนินการเอาระบบสายไฟฟ้าลงดินให้หมดเพื่อความปลอดภัยและทำให้โครงการดูสวยงามเป็นระเบียบมากครับ
ด้านหน้าบ้านเป็นลานจอดรถได้ 5 คัน ลงเสาเข็มป้องกันการทรุดตัวเช่นเดียวกับตัวบ้าน พื้นปูด้วย Concrete Stamp ผนังทรายพ่นสีเทาดำดูคลาสสิคดีครับ บริเวณลานจอดออกแบบให้มีทางเข้าออกสำหรับแม่บ้าน และ Maid Plaza โดยตรงเชื่อมต่อกับครัวและลานซักล้าง
ทางเข้าหลักออกแบบให้เป็น Step ยกขึ้นมาประมาณ 4 ขั้นบันไดเพื่อให้ประตูทางเข้ามีความเด่นชัดและสวยงาม ประตูเป็นแบบ Oversize เปิดคู่ บานประตูวัสดุเป็นไม้เนื้อแข็ง พร้อมมือจับเป็น Digital Door Lock ในตัว ส่วนด้านข้างมีตู้ขนาดใหญ่สำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ได้
จากทางเข้าด้านหน้าประตูออกแบบให้เป็น Foyer เล็กๆ ก่อนจะแยกฟังก์ชั่นซ้ายขวา ซึ่งผมจะพามาชมทางด้านปีกขวาของชั้นล่างกันก่อนครับ
สถาปนิกได้ตกแต่งภายในโดยใช้คำว่า Moment มาเป็นแนวคิดหลักเพื่อให้เกิดฟีลลิ่งที่แตกต่างกันไปตามการตีความหมาย โดยชั้น 1 จะเป็น “Moment of pride” สะท้อนถึงความสำเร็จของผู้ที่ได้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้
ทางโครงการออกแบบให้มี Living Area ขนาดใหญ่ รายล้อมด้วยกระจกใส Floor to ceiling ความสูงประมาณ 3.2 เมตรและถ้าสังเกตให้ดีเราจะเห็นผนังกระจกขยับออกจากเสาหลักของบ้านเพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยแบบ Open Extension ทำให้เปิดรับช่องแสงได้มากขึ้นและเทควิวสวนได้เต็มที่ ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ตอบโจทย์ความเป็นบ้านสไตล์ Modern Tropical ได้ดี
Living Area มีขนาดใหญ่ สามารถใช้เป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันภายในบ้านของสมาชิกในครอบครัว และเป็นพื้นที่ไว้สำหรับต้อนรับแขกไปในคราวเดียวกัน พื้นในชั้นล่างทั้งหมดใช้เป็นพื้นใช้วัสดุเป็น Porcelain ลายหินแผ่นใหญ่
บ้านตัวอย่างขายพร้อมตกแต่ง ที่มีความโดดเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์บุผ้าอย่างดีจาก Minotti เลือกใช้สีเอิร์ธโทนเป็นหลัก จัดวางเข้าชุดกับเก้าอี้นั่งดีไซน์วินเทจจาก pargoda & co และตัดด้วยสีส้มสดใสของเก้าอี้นั่งเล่นจาก Quattro เพื่อให้บ้านดูมีสีสัน จัดวางชุดที่นั่งไว้ตรงกลาง ทำให้เราสามารถชมวิวได้ทั้งสวนฝั่งหน้าบ้านและเพลิดเพลินกับเด็กๆ ที่กำลังว่ายน้ำเล่นอยู่ในสระบริเวณด้านหลังบ้าน
บ้านตัวอย่างได้มีการติดตั้ง Home Automation ของ Zipato เพื่อใช้สั่งการผ่าน Application มือถือในการเปิด-ปิดไฟส่องสว่าง เครื่องปรับอากาศ ตามค่ามาตรฐานเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก รวมถึงระบบ Video door phone เชื่อมต่อกับด้านหน้าประตูทางเข้า และที่โซนแม่บ้านเพื่อใช้ประโยชน์ในการสั่งงานได้
บ้านตัวอย่าง ออกแบบให้ด้านในเป็น Dining Area จัดวางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ Long Table ขนาด 10 ที่นั่ง สำหรับจัดเลี้ยงต้อนรับแขกและจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์ได้ เพราะเชื่อมต่อกับสวนและ Pavillon ด้านนอก โต๊ะรับประทานอาหารจัดวางไว้ในบรรยากาศที่โปร่ง โล่งและมองเห็นวิวสวน ต้นไม้สีเขียวด้านนอก ดูสดชื่นสบายตา เชื่อมต่อกับชั้นวางทีวีที่ Living Area ด้านหน้า สามารถเปิดทีวีขณะที่รับประทานอาหารไปด้วยได้ ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเองระหว่างมื้ออาหารได้ดี
ผมได้มีโอกาสไปถ่ายภาพตลอดทั้งช่วงเช้าและบ่าย ทำให้ได้เห็นการหักเหของแสงและเงาเข้าบ้านผ่านผนังกระจกบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน กลายเป็นเฉดที่สวยงามตามธรรมชาติที่ส่องผ่านเข้ามา
ผนังกระจกชั้นล่างเราสามารถติดตั้งม่านโปร่งและม่านทึบเพิ่มเติมได้ ซึ่งหากเปิดม่านออกไป เราจะได้มองเห็นวิวสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้านและอีกด้านเป็นวิวสวนสีเขียว เชื่อมต่อพื้นที่พักผ่อนระหว่างภายในกับภายนอกเข้าไว้ด้วยกัน เป็นบรรยากาศสบายๆ ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับสมาชิกทุกคนในครอบครัว
ส่วนการออกแบบบ้านเปล่าจะเป็น Open Plan ทำให้เราสามารถรังสรรค์จัดวางฟังก์ชั่นการใช้สอยภายในบ้านได้ตามใจและตรงตามไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัวได้ดีกว่า เพื่อให้เกิด Happiness ในการอยู่อาศัยภายในบ้านของคนทุก Generations
ทางโครงการได้ออกแบบให้บ้านแปลง 28A มีความพิเศษ นั่นคือการเพิ่ม Sunroom ให้ยื่นออกไปเป็นหลังคากระจกใส มองออกไปเห็นสวนที่มุมรั้วบ้านและเชื่อมต่อกับ Pavillion
ออกแบบให้มุมนี้เป็นเคาน์เตอร์ครัว Top ใช้เป็นหิน Quartz ทนทานต่อรอยขีดข่วนได้ดี ด้านล่าง Build-in ตู้เย็นมาให้แล้ว มีมุมสำหรับติดตั้งซิงค์ล้างจานพร้อม Island จัดเตรียมอาหารออกแบบเล่นระดับยกสูงขึ้นมา สำหรับนั่งจิบเครื่องดื่มเบาๆ ก่อนเริ่มเข้าสู่มื้ออาหารหลัก
หรือหากเช้าๆ เราก็สามารถมานั่งจิบกาแฟ ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวผ่าน iPad ที่บริเวณนี้ได้เช่นกันครับ รับรองว่าบรรยากาศดีมาก
ด้านนอกก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ผมประทับใจครับ คือการออกแบบให้เป็น Garden Pavilion
Garden Pavilion ด้านบนเป็น Pergola หลังคาระแนงไม้เลื้อย ที่เชื่อมต่อธรรมชาติโดยรอบเข้ากับสวนและสระว่ายน้ำ จัดวางชุดที่นั่งขนาดใหญ่พร้อม Daybed ให้เราได้พักผ่อนในบรรยากาศร่มรื่นสบายๆ ราวกับได้ไปอยู่ในรีสอร์ทหรูที่ได้ฟีลแบบ Tropical มากๆ
ด้วยความที่บ้านจัดวางแปลนในทิศเหนือ-ใต้ เป็นการออกแบบโดยเน้นหลัก Ventilation ทำให้การไหลเวียนของอากาศทำได้ดีเป็นไปตามทิศทางลมพัดผ่าน ไม่ได้หันหน้าไปปะทะกับแสงแดดโดยตรง ทำให้ภายในบ้านรู้สึกเย็นสบายตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวเช่นนี้
ไฮไลท์อีกอย่างคือการติดตั้ง Solar Cell บนหลังคาโครงการเพื่อใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้าพร้อมติดตั้งระบบแปลงไฟเข้ามาใช้ในบ้านก็ถือว่าช่วยประหยัดค่าไฟไปได้มาก
“𝑵𝒂𝒕𝒖𝒓𝒆 𝒊𝒔 𝒏𝒐𝒕 𝒂 𝒑𝒍𝒂𝒄𝒆 𝒕𝒐 𝒗𝒊𝒔𝒊𝒕. 𝑰𝒕 𝒊𝒔 𝒉𝒐𝒎𝒆.”
—Gary Snyder
จากมุมนี้เราจะเห็นการเชื่อมต่อของ Living Area ซึ่งอยู่ทางปีกขวาของบ้าน กับพื้นที่อีกฝั่งที่แยกกันคั่นกลางด้วยลิฟต์และประตู ซึ่งเราจะเดินตรงไปดูกันต่อครับ
ปีกซ้ายของบ้านจะเชื่อมต่อกับส่วนการทำงานของแม่บ้าน ออกแบบให้มีประตูเพื่อกั้นเป็นโซน Back of House คือทางเข้าออกของแม่บ้านเพื่อไปยังห้องนอน ต่อเนื่องไปจนถึงพื้นที่ซักล้างซึ่งเชื่อมต่อกับครัวไทยที่ออกแบบให้อยู่บริเวณด้านหลัง ทำให้สามารถแยกฟังก์ชั่นได้ชัดเจนดี สามารถปิดประตูกั้นโซนได้หากต้องการความเป็นส่วนตัว
บ้านตัวอย่าง Built-in เป็นห้องเก็บรองเท้า Shoes Storage และยังมี Space เหลือพอที่จะเก็บอุปกรณ์กอล์ฟได้
ติดกันเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับแขกและสมาชิกในบ้านใช้งานร่วมกัน เป็นห้องน้ำแบบไม่มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำ
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องนอน 6 ซึ่งถ้าดูจากแปลนบ้าน ห้องนี้จะเหมาะสำหรับการจัดเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ ที่มาพร้อมห้องน้ำในตัว
แต่สำหรับบ้านตัวอย่างหลังนี้ ได้ดีไซน์ให้ห้องนอน 6 กลายเป็นพื้นที่จัดวางโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสมาชิกในครอบครัวที่เชื่อมต่อกับครัวยุโรป พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน
ออกแบบให้มี Island ตรงกลางสำหรับเตรียมอาหาร เคาน์เตอร์ครัวอยู่ชิดผนังขนานไปกับความยาวของตัวบ้าน Top เป็นหินอ่อน พร้อมติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบฝังในตัว ทั้งเตา Induction เครื่องดูดควัน Oven และ Microwave แบบ Combine ใกล้กันเป็นอ่างล้างจานพร้อมตู้เก็บของบนล่างติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้วดูหรูหราสวยงามมากครับ
มุมนี้จัดวางโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสมาชิกในครอบครัวที่เชื่อมต่อกับครัวยุโรปครับ จัดเป็นโต๊ะกลมจัดวางเก้าอี้ 6 ที่นั่ง
ส่วนครัวไทยยังอยู่ด้านหลังตามแปลนบ้านเดิมโดยมีประตูเล็กสำหรับเปิดออกไป เพื่อให้แม่บ้านทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้นและไม่รบกวนสมาชิกในครอบครัวจะได้มีความเป็นส่วนตัว
ครัวไทยติดตั้ง อ่างล้างจานไว้เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับเครื่องดูดควันและเตาแก๊สยี่ห้อ MEX
มากขึ้น สำหรับครอบครัวที่อาจจะไม่มีได้จำนวนสมาชิกมากนัก อีกทั้งบ้านตัวอย่างติดตั้งลิฟต์คู่ขนานไปกับการใช้บันได ทำให้ผู้สูงอายุไม่จำเป็นห้องอาศัยอยู่ที่ห้องชั้นล่างเสมอไป เพราะสามารถขึ้นลงได้สะดวกแล้วครับ จึงเป็นการปรับห้องนอน 6 เป็นฟังก์ชั่นอื่นดีกว่า
เราจะขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังชั้น 2 กันนะครับ โครงการเลือกใช้ลิฟต์ของ Mitsubishi Electric ภายในลิฟต์เป็นงานดีไซน์แบบเรียบง่ายด้วยผนังลิฟต์เป็นอลูมิเนียมสีเงิน มีด้วยกัน 3 ชั้น
เดินออกจากลิฟต์มาเราจะเลี้ยวขวากันก่อนนะครับ เพื่อไปชม Family Area ชั้นนี้จะปูด้วยพื้น Engineering Wood สีโอ๊ค หนา 14 มม. ความสูงของพื้นจรดฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.9 เมตร ถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับบ้านทั่วไป
บรรยากาศภายในพื้นที่พักผ่อนสำหรับสมาชิกในครอบครัวบนชั้น 2 ดูแล้วมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น มีความสดใส สนุกสนาน แต่ยังคงความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย ด้วยช่องแสงขนาดใหญ่ส่องผ่านกระจกเข้ามาถึง 3 ด้าน ตรงกลางจัดวางชุดโซฟาทำจากหนังแท้สีน้ำตาลเข้ม รูปตัวแอล (L) ขนาดใหญ่มาก มีที่นั่งบุหนังกำมะหยี่สีเขียวหยกดูคลาสสิคดีครับ เป็นมุมสำหรับนั่งดูทีวีหรือทำกิจกรรมร่วมกัน บ้านตัวอย่างติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังทำให้ดูโมเดิร์นมากยิ่งขึ้นครับ
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ผมชอบสำหรับ Family Area คือการมีระเบียงขนาดกว้างมากถึง 2 ด้าน พร้อมราวกันตกเป็นกระจกนิรภัยให้เราสามารถไปยืนรับลมสบายๆ ออกแบบให้มีชายคายื่นออกมาจากชั้นบนช่วยบังแสงแดดและลดความร้อนที่จะส่องเข้ามาภายในบ้านได้อีกทาง
ชั้น 2 ออกแบบในคอนเซปต์ “Moment of Joy” เพื่อให้เรามีความสุขกับทุกช่วงเวลาของชีวิต และทำกิจกรรมพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว
ด้านในมีเคาน์เตอร์มินิบาร์เล็กๆ และตู้เย็น สำหรับจัดเตรียมเครื่องดื่มหรือของว่าง มาพร้อมกับอ่างล้างจานและตู้เก็บของบนล่าง
ติดกันเป็นห้องน้ำสำหรับสมาชิกภายในบ้านใช้งานร่วมกันเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room ครับ จะไม่มีส่วนพื้นที่อาบน้ำ สุขภัณฑ์ต่างๆ ให้เป็นของแบรนด์ TOTO
บนชั้น 2 จะมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง ผมเริ่มจากห้องด้านในซ้ายสุดเป็นห้องนอนหลักบนชั้นนี้ ที่มีขนาดกว้างมาก แต่ยังคงเรียกห้องนี้ว่า Junior Master Bedroom เพราะมีห้องนอนหลักที่ใหญ่กว่านี้อยู่ที่ชั้น 3
ห้องนอนนี้มีโถงทางเข้าที่ออกแบบได้เก๋มาก จัดเป็นชั้นโชว์ที่หันหน้าออกไปทางโถงทางเดิน ตกแต่งในโทนสีเบจดูเรียบหรูและมีเสน่ห์โดดเด่นมากเมื่อต้องแสงไฟ Warm Light ต้องยอมรับว่า ดีไซน์เนอร์ได้ตกแต่งภายในห้องนี้ให้มีความโดดเด่นจริงๆ ผมชอบมาก
“𝑶𝒖𝒓 𝒍𝒆𝒈𝒂𝒄𝒚 𝒊𝒔 𝒉𝒐𝒘 𝒘𝒆 𝒔𝒑𝒆𝒏𝒅 𝒐𝒖𝒓 𝒕𝒊𝒎𝒆 𝒂𝒏𝒅 𝒘𝒉𝒐 𝒘𝒆 𝒔𝒑𝒆𝒏𝒅 𝒊𝒕 𝒘𝒊𝒕𝒉.” – Jim Stengel
ด้านในยังคุมโทนสีได้ดี แต่เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับห้องนอนนี้ด้วยโซฟาหนังกลับสีเขียวมรกตสำหรับนั่งดูทีวีอยู่ปลายเตียง ดีไซน์ให้สอดรับกันดีกับผ้าม่านทึบ ทำให้ห้องนี้เต็มไปด้วยความเรียบหรูดู Modern Timeless มากยิ่งขึ้น
จัดวางเตียงนอนส่วนพักผ่อนไว้ตรงกลาง หัวเตียงทั้ง 2 ข้างมีโต๊ะเตี้ยและโคมไฟประดับ พร้อมกับวิวและช่องแสงขนาดใหญ่จากระเบียงด้านข้างที่สามารถออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าได้ มองออกไปจะเห็น Clubhouse ที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม
เดินเข้าไปจะเป็นห้องแต่งตัวขนาดใหญ่แบบ Walk-in closet ลึกเข้าไปเป็นรูปตัวยู (U-Shape)
ห้องน้ำจะอยู่ด้านในสุด แยกส่วนสุขภัณฑ์กั้นด้วยกระจกใช้แบรนด์ TOTO ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำจาก KASCH รุ่น Cute Free Stand ติดตั้งมาให้แล้วด้วยครับ
มาชมห้องนอน 4 กันบ้างครับ ห้องนี้จะอยู่โซนหน้าบ้าน ทำให้มีความโดดเด่นคือได้ช่องแสงจากธรรมชาติขนาดใหญ่ส่องผ่านกระจกใส และมีระเบียงให้สามารถออกไปยืนได้เช่นกัน
ภายในห้องนี้ตกแต่งในสไตล์เด็กสาววัยรุ่นที่มีความชื่นชอบในเรื่องแฟชั่น มีการเลือกใช้โทนสีละมุนใจสไตล์พาสเทล ส่วนพักผ่อนจัดวางเตียงนอนไว้ตรงกลาง มีโต๊ะหัวเตียงพร้อมโคมไฟทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนมุมห้องด้านหน้าทางเข้าจะเป็นโต๊ะทำงานอ่านหนังสือ เพื่อให้มีพื้นที่ส่วนตัวภายในห้องนอนของตัวเองตามสไตล์คนรุ่นใหม่
ปลายเตียงเป็นชั้นวางทีวีที่มีตู้เก็บของในตัว พร้อมกับประตูเชื่อมต่อไปยังห้องแต่งตัวแบบ Walk-in closet ที่มีขนาดใหญ่เช่นกัน เหมาะสำหรับสาวๆ ที่หลงใหลในเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว
สามารถจัดเก็บเสื้อผ้า กระเป๋า แอคเซสเซอรี่ได้จุใจ บ้านตัวอย่างออกแบบตู้เสื้อผ้าได้เรียบหรูดีครับ ดูภายนอกเหมือนตู้เสื้อผ้าธรรมดาไม่น่าจะมีอะไร แต่ถ้าเปิดตู้ไปผมจินตนาการไปถึงความเป็น Fashionable ของวัยรุ่นยุคนี้คงเต็มไปด้วยสีสันและแพทเทิร์นที่เก๋ไก๋ทันสมัย ผมชอบมาก
ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องน้ำในตัวครับ ถือว่ามีขนาดค่อนข้างกว้างเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของบ้านหลังนี้ที่อยากจะเน้นคือการให้ Space ขนาดใหญ่กับห้องน้ำภายในห้องนอนเพราะถือเป็นพื้นที่ส่วนตัว
ด้านนอกเป็นระเบียงกว้าง สามารถเดินออกไปรับลมเย็นสบายๆ ได้เลยครับ หรืออาจจะหาบีนแบ็คมาวางทำเป็นมุมที่นั่งส่วนตัวแบบ Outdoor ภายในห้องนอนได้เลยครับ
ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องนอน 5 ที่อยู่ด้านหลังบ้าน ทำให้ได้วิวเปิดโล่งมีมุมนั่งพักผ่อนริมกระจกที่สามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำชั้นล่างได้ บ้านตัวอย่างจัดวางโซฟาเบดเอาไว้สำหรับพักผ่อน
ห้องนอนนี้ตกแต่งในสไตล์วัยรุ่นชายเท่ๆ ด้วยสีน้ำเงินเข้มตัดด้วยสีส้มอิฐ เป็นคู่สีตรงข้ามที่เต็มไปด้วยไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ และความสดใส เติมความครีเอทีฟด้วยลายกราฟฟิคสุดเท่
ภายในห้องจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ไว้ตรงกลางพร้อมมีพื้นที่ว่างรอบเตียงเดินได้สบายเลยครับ ต้องยอมรับเลยว่าทุกห้องนอนของบ้านหลังนี้มีความใหญ่โตมาก เพราะต้องการเน้นคอนเซปต์พื้นที่ส่วนตัวที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนรวม
ปลายเตียงออกแบบให้เป็นโต๊ะทำการบ้าน ติดกันเป็นตู้โชว์และสามารถเก็บของได้ ออกแบบให้ขนานไปตามแนวห้อง
ตู้เสื้อผ้าจะอยู่ฝั่งตรงข้าม เป็นตู้ Build-in ที่มีขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดานเช่นกัน จัดวางไว้ด้านหน้าห้องน้ำ ทำให้สะดวกต่อการใช้งานจริงมากครับ
ส่วนห้องน้ำถือว่าครบครันด้วยสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า และห้องอาบน้ำที่ติดตั้ง Shower Box เป็นกระจกนิรภัยขนาดใหญ่เอาไว้ แต่สำหรับห้องนอนรองจะไม่มีอ่างอาบน้ำมาให้นะครับ
ขึ้นไปบนชั้น 3 กันบ้างครับ เราลองเปลี่ยนจากการใช้ลิฟต์เป็นการเดินขึ้นบันไดแทน เพราะถือว่าเป็นจุดเด่นของบ้านเช่นกัน
ตัวบันไดออกแบบมาได้สวยมาก มีลักษณะเป็นบันไดโปร่งสไตล์โมเดิร์นไม่มีลูกตั้ง ออกแบบโครงสร้างเป็นเหล็กยึดกับผนัง กระจกและพื้น ราวกันตกใช้เป็นกระจกนิรภัยแบบหนามากเข้ากรอบและทำราวจับเป็นอลูมิเนียมดูทันสมัย แต่ยังคงความคลาสสิคด้วยลูกนอนเป็นพื้นไม้เนื้อแข็งสีโอ๊ค ติดตั้งไฟประดับบริเวณด้านข้างทางเดินขึ้นบันได
เพิ่มความสว่างให้กับมุมนี้ด้วยผนังกระจกใสที่เปิดช่องแสงธรรมชาติขนาดใหญ่มาจากภายนอก มองออกไปจะเห็น Pavillion สวนและสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้านด้วยครับ
อย่างไรก็ตาม ทางโครงการยังติดตั้งลิฟต์ไว้ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเช่นเคยครับ ทำให้เป็นการอำนวยความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้พักอาศัย
“𝑰 𝒅𝒐𝒏’𝒕 𝒃𝒖𝒊𝒍𝒅 𝒊𝒏 𝒐𝒓𝒅𝒆𝒓 𝒕𝒐 𝒉𝒂𝒗𝒆 𝒄𝒍𝒊𝒆𝒏𝒕𝒔. 𝑰 𝒉𝒂𝒗𝒆 𝒄𝒍𝒊𝒆𝒏𝒕𝒔 𝒊𝒏 𝒐𝒓𝒅𝒆𝒓 𝒕𝒐 𝒃𝒖𝒊𝒍𝒅.” – Ayn Rand
ชั้น 3 เป็นคอนเซปต์ “Moment of Indulgence” ออกแบบให้เป็นลักษณะของ Penthouse ที่เชื่อมต่อฟังก์ชั่นกันทั้งชั้น
บ้านตัวอย่างที่ออกแบบให้ห้องนอนรอง 3 กลายเป็น Relexation Room สำหรับพักผ่อน ซึ่งถือว่าเป็นห้องนั่งเล่นในห้องนอนที่มีขนาดใหญ่มากจริงๆ ครับ มาพร้อมกับชุดโซฟาที่เบจทรงโค้งมนจาก Quattro ดูเรียบหรู ผนังคุมโทนสีเดียวกัน ประดับด้วยภาพศิลปะเพื่อเติมบรรยากาศและสีสันภายในห้อง ฝั่งตรงข้ามเป็นคาบิเนททรงเตี้ยสำหรับวางทีวี
ส่วนที่มุมห้องด้านนอกออกแบบให้เป็นชั้นโชว์และจัดวางหนังสือได้ มีโต๊ะทรงสูงสำหรับนั่งทานของว่างหรือจิบกาแฟยามเช้าหลังตื่นนอนได้ทีันที เพราะเชื่อมต่อบรรยากาศและวิวจากพื้นที่สีเขียวรอบบ้าน ระเบียงขนาดใหญ่สามารถเปิดออกไปยืนรับลมสูดอากาศบริสุทธิ์ได้
นอกจากนี้ยังออกแบบให้มีห้องทำงานส่วนตัวอยู่ด้านใน มาพร้อมกับห้องน้ำเพื่ออำนวยความสะดวกจะได้ไม่ต้องเดินไปใช้ในห้องนอนหลักครับ
เติมเต็มชั้นนี้ให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ให้ความเงียบสงบ ผ่อนคลาย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วบนชั้นนี้ออกแบบแปลนให้มีห้องนอนหลักเป็น Master Bedroom และมีห้องนอนรอง 3 อยู่อีกฝั่งของบ้าน ดังนั้น เราจะสามารถปรับแบบให้ตรงกับความใช้งานและไลฟ์สไตล์ของสมาชิกภายในบ้านได้
อีกฝั่งหนึ่งของบนชั้น 3 เป็นส่วนพักผ่อนครับ Master Bedroom มีขนาดใหญ่มาก จัดวางฟังก์ชั่นภายในบ้านได้อย่างเป็นสัดส่วนดีครับ
บรรยากาศภายในห้องค่อนข้างโปร่ง ด้วยช่องแสงขนาดใหญ่รายรอบห้องและเพิ่มความสว่างด้วยกระจกใสและกระจกเงาที่ติดตั้งไว้ตามมุมต่างๆ ภายในห้อง
Master Bedroom จัดวางเตียงนอนไว้ตรงกลาง หัวเตียงบุนวมดูหรูหรา พร้อมโคมไฟส่องสว่างแบบแขวนที่บริเวณหัวเตียง ทั้งสองด้านยังติดตั้งตู้เตี้ยบนหัวนอนสำหรับเก็บของได้
ขณะที่ผนังด้านในดีไซน์เป็นตู้โชว์และชั้นวางหนังสือเล่มโปรดให้เราหยิบมาอ่านในบรรยากาศสบายๆ ในช่วงเวลาพักผ่อนก่อนเข้านอน
ปลายเตียงจัดวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางสำหรับนั่งอ่านหนังสือหรือดูทีวีพักผ่อนในบรรยากาศส่วนตัว
หรือจะขยับไปนั่งเล่นริมระเบียงที่มีโซฟาเบดจัดวางเอาไว้ให้ความรู้สึกสบายใจเมื่อได้มองเห็นวิวธรรมชาติภายนอกบ้านได้ โดยเฉพาะพื้นที่สีเขียวรายรอบบ้านและวิวสระว่ายน้ำจาก Clubhouse
ประตูกระจกบานเลื่อนสามารถเปิดออกไปได้ จะพบกับระเบียงที่มีขนาดกว้างและยาวขนานหน้าบ้านผ่านจากห้องนอนไปจนถึงห้องแต่งตัวเลยครับ เสาไม้ที่เรียงรายตามแนวระเบียงเป็นดีไซน์ที่สอดรับกับเสาไม้ที่อาคารสโมสร ให้ความรู้สึกถึงความเป็น Modern Tropical
ความจริงแล้วป็นเสาที่ตกแต่งด้วยอลูมิเนียมเลียนแบบที่เหมือนไม้จริงทั้งสีและผิวสัมผัส ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ในการออกแบบให้มีความ craftmanship มากขึ้น เพราะจะทนแดดทนฝนได้ดีกว่าไม้ ไม่ผุกร่อน ที่สำคัญคือสามารถดูแลรักษาง่ายกว่าไม้ธรรมชาติ นับเป็นความชาญฉลาดในการออกแบบและคัดสรรวัสดุชั้นเลิศเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัยได้เป็นอย่างดี
มาดูในส่วนของห้องน้ำกันบ้างครับ สมกับที่เรียกว่า Master Bathroom จริงๆ เพราะมีขนาดใหญ่มาก หากจะลองเทียบสเกลแบบง่ายๆ ก็คือการรวมเอาห้องนอนรอง 2 ห้อง ที่อยู่ตรงข้ามกันบนชัั้น 2 มา Merge ให้เป็น Master Bathroom ที่รวมห้องน้ำและห้องแต่งตัวเข้าด้วยกัน 1 ห้อง
สิ่งแรกที่สัมผัสได้และชอบมากคือการเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ ที่ภายในยังครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก มีห้องแต่งตัวถึง 2 ฝั่งสามารถแบ่งการใช้งานได้ชัดเจนแยกเป็นของผู้ชายกับผู้หญิงได้เลยครับ
พื้นที่สำหรับสุภาพบุรุษจะเป็น Walk-in closet แนวลึกเข้าไปเชื่อมต่อกับระเบียงบ้านด้านนอก สามารถเดินเข้าในจากในห้องนอนบริเวณปลายเตียงได้โดยตรง
แน่นอนว่าห้องแต่งตัวอีกห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแต่มีขนาดใหญ่ก็ต้องยกให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณสุภาพสตรีเค้านะเพราะว่าจัดวางโต๊ะเครื่องแป้งมาให้แล้วด้วยครับ
ผมชอบสแตนด์สำหรับยืนลองชุดที่มีกระจกรอบดูราวกับเป็น Atelier of Dream ห้องเสื้อหรู ยิ่งได้ประกายของแสงแดดที่ส่องสว่างจากด้านบนช่วยให้เปล่งประกายเจิดจรัส ผมว่าเป็นความตั้งใจของสถาปนิกที่ต้องการเปิดช่องแสงเฉพาะบริเวณนี้เอาไว้ เป็นการออกแบบตกแต่งภายในที่ต้องบอกว่าลงรายละเอียดได้ดีมาก
นับว่าเป็น Master Bathroom ที่ยิ่งใหญ่อลังการมากเท่าที่ผมเคยเห็นมา เพราะว่าห้องนอนกับห้องน้ำจะอยู่คนจะโซนของบ้านเลยครับ ทำให้มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้นและเป็นส่วนตัวเนื่องจากทั้งชั้นเป็นแบบ Penthouse มีแค่ห้องนอนหลักเพียงห้องเดียว
ด้านในสุดเป็นห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องจากห้องแต่งตัวเลยครับ ทั้งห้องประดับด้วยหินอ่อนแผ่นใหญ่ลายเดียวกันทั้งผนังและพื้น มีอ่างล้างมือแบบ His & Her รุ่น Jewelhex จากแบรนด์ TOTO พร้อมเคาน์เตอร์ Top เป็นหินอ่อนสีขาว กระจกเงาติดผนังแบบเต็มบาน ด้านในเป็นสุขภัณฑ์ ที่มีประตูกระจกกั้นไว้
ห้องนี้จะมีอ่างอาบน้ำในตัวที่แยกส่วนจากห้องอาบน้ำที่อยู่ติดกัน พร้อมกับแยกส่วนเปียก-แห้งให้เรียบร้อย ออกแบบให้มีที่นั่งสำหรับอำนวยความสะดวกในการใช้งาน ทางโครงการติดตั้งระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นมาให้แล้วครับนับว่าสะดวกมาก เติมความหรูราให้กับห้องอาบน้ำด้วย Rain Shower แบบฝังติดฝ้าเพดานยี่ห้อ Grohe ด้านข้างมีช่องแสงเป็นบานกระทุ้งเล็กๆ สามารถเปิดออกเพื่อไล่ความชื้นและระบายอากาศภายในห้องน้ำได้
บรรยากาศโดยรอบบ้านร่มรื่นมากครับ จัดเป็นสวนขนาดใหญ่ มีทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้ดอก ช่วยให้บริเวณนี้ดู ร่มรื่น สดชื่น สบายตา สบายใจ เหมาะแก่การเปลี่ยนบรรยากาศจากการพักผ่อนภายในบ้านมานั่งเล่นที่ส่วนกลางดูบ้างครับ
ออกแบบให้มีศาลาสำหรับพักผ่อนในสวน พื้นที่สีเขียวภายในโครงการ จัดวางที่นั่งกระจายไปในหลายจุดและออกแบบให้มีลู่วิ่งรอบหมู่บ้านเพื่อการออกกำลังกายและสุขภาพที่แข็งแรง
Clubhouse อยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านเลย นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางได้สวยงาม ยิ่งใหญ่อลังการ มีด้วยกัน 2 ชั้น โดดเด่นด้วยเสาไม้ที่ทำจากอลูมิเนียมขึ้นรูปและผิวสัมผัสเลียนแบบไม้จริง แต่ดีกว่ามากเพราะทนแดดทนฝน ดูแลรักษาง่าย
ตัวอาคาร Clubhouse ออกแบบในสไตล์ Modern Tropical ที่ยังคงความ Luxury สอดรับกับภาพรวมของงานดีไซน์ทั้งโครงการ มีขนาด 2 ชั้น
ทางขึ้น Clubhouse เป็นบันไดหน้ากว้าง ด้านข้างมีทางลาดตามหลักการออกแบบ Universal Design สำหรับผู้สูงอายุ ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษและผู้ที่ใช้วีลแชร์
ชั้นบนประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 7 x 30 เมตร จัดวาง Sundeck สำหรับนั่งอาบแดดหรือพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ เรียงรายกันไปมีที่นั่งหลายตัวมาก ด้านในมีฟิตเนส ห้อง Amphitheater
ผมประทับใจมุมสระว่ายน้ำของ Clubhouse มาก ออกแบบได้เรียบหรูอลังการ ในบรรยากาศของวันพักผ่อนของเรา มานั่งเล่นรับลมเย็นสบายก็ได้ฟีล Happy มีความสุขมากแล้วครับ
ด้านในเป็น Fitness ขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายจาก Matrix แบรนด์เครื่องออกกำลังกายระดับโลก ซึ่งส่วนมากจะพบในโรงแรมหรูขนาดใหญ่
ทางโครงการได้ส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับกับการออกกำลังกายในแบบ Luxury ให้กับลูกบ้าน ภายในจัดวางครบทั้งลู่วิ่งคาร์ดิโอสุดไฮเทค พร้อมกับโซนฟรีเวทให้เราออกกำลังเพื่อสุขภาพได้ตามใจ ในบรรยากาศของห้องโถงสูงแบบ Double Volume ผนังเป็นกระจกใสแบบ High ceilings มองออกไปเห็นพื้นที่สวนสีเขียวสบายตา
ขณะที่อีกด้านออกแบบให้เป็น Amphitheater สำหรับพักผ่อนทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัวเพื่อสร้างความสัมพันธ์ ออกแบบให้เป็นพื้นที่นั่งเป็นลำดับขั้นบันได เสริมด้วยเบาะหนานุ่มให้นั่งได้สบาย
ด้านล่างสุดจัดวางชุดที่นั่งขนาดใหญ่เพื่อให้ได้มาพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศนอกบ้าน จะสังเกตว่าโดยรอบจะเป็นกระจกบานใหญ่เพื่อเปิดวิวและรับแสงสว่างรอบข้างทั้ง 3 ด้าน เราสามารถปิดม่านไฟฟ้าลงมาได้เมื่อต้องการใช้งาน Projector สำหรับชมภาพยนตร์ร่วมกัน
บรรยากาศของ Clubhouse ในช่วงเวลาทไวไลท์
“𝑶𝒘𝒏 𝒂 𝑳𝒆𝒈𝒂𝒄𝒚 𝒐𝒇 𝑺𝒖𝒑𝒆𝒓 𝑳𝒖𝒙𝒖𝒓𝒚 𝑹𝒆𝒔𝒊𝒅𝒆𝒏𝒄𝒆𝒔” นี่เป็นครั้งแรกของกานต์ ที่ได้มาชมบ้านอิสสระ บางนา ต้องยอมรับว่าผมประทับใจมาก ทั้งในเรื่องแนวคิดการออกแบบและพัฒนาโครงการที่ลงรายละเอียดได้ดี มีหลักการของความเป็นธรรมชาติและประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบอิสระที่ถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น มาพร้อมกับการเลือกใช้วัสดุระดับ World Class ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี เพื่อประกอบสร้างเป็นบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury หนึ่งหลัง
ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย หากแต่เป็นเพราะประสบการณ์และชื่อเสียงที่สั่งสมมานานจนทำให้แบรนด์ “บ้านอิสสระ” เป็นตัวแทนของคำว่า “คุณภาพ” และควรค่าต่อการส่งต่อมรดกอันมีคุณค่าเหล่านี้ให้กับคนรุ่นต่อไป
____________________
โครงการจะมี Exclusive Event Day ในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ กับกิจกรรม Open the new Legacy เปิดให้ชมบ้านดีไซน์ใหม่แบบที่กานต์พามาชมนี่แหละครับ
พิเศษสุดในงาน จองบ้านภายในงาน รับโปรโมชั่นสุดพิเศษ
*ซื้อบ้านพร้อมรับรถ Bentley รุ่น Sport Sedan – Flying Spur Hybrid มูลค่า 14.4 ล้านบาท*
*รับบัตรกำนัลแพกเกจที่พักสุดหรู Mama Penthouse ที่ Baba Beach Club Huahin (3 วัน 2 คืน) มูลค่า 200,000 บาท*
*ชม Mini Concert ”โต๋ศักดิ์สิทธิ์”
*สัมผัสประสบการณ์ Test Drive “Bentley” รุ่นล่าสุด
*40 ท่านแรกรับของที่ระลึกพิเศษจาก “Bentley” (สงวนสิทธิ์ให้เฉพาะผู้ที่ RSVP เท่านั้นนะครับ)
สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 095-207-9235-7